{แรกพบสบตา}
อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะว่างแบบคนอื่นๆเขาตอนแรกลาออกจากมหาลัยมาก็เพื่อที่จะมาช่วยงานที่บริษัทเพราะกลัวว่าจะถูกคนอื่นแย่งไปโดยไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเหนื่อยจนหัวหมุนได้แบบนี้ และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันต้องทำงานหนักกว่าทุกวันที่ผ่านมาเพราะวันนี้มันเป็นวันเซ็นสัญญาระหว่าบริษัทของฉันกับโรงพยาบาลอะไรนั้น
“คุณโรสคะเอกสารที่ให้เตรียมเสร็จแล้วนะคะ” เลขาที่อยู่หน้าห้องช่วยเตรียมเอกสารให้ฉันทั้งคืนขอย้ำว่าทั้งคืนเพราะมันมีเยอะมาก
“มาวางให้ฉันที่โต๊ะเลยส่วนเธอวันนี้ไปพักซะไม่ต้องเข้าทำงาน” ฉันบอกเธอก่อนที่ฉันจะหยิบซองสีน้ำตาลที่ใส่เอกสารขึ้นมาถือไว้แล้วเดินออกจากห้องไป
“เดี๋ยวค่ะคุณโรส!!!”
“มีอะไร” ฉันหันไปถามเลขาที่วิ่งตามฉันออกมา
“คุณโรสจะไปยังไงคะ พอดีเมื่อเช้าดิฉันเห็นท่านประทานออกไปแล้วนะคะ”
“ฉันรู้แล้วเดี๋ยวฉันเอารถไปเอง เธอยังไม่ชินอีกหรอที่ฉันไม่ไปรถกับคุณพ่อ” หัวเด็ดตีนขาดยังไงฉันก็จะไม่มีวันไปนั่งรถคันเดียวกับยัย กาฝากนั้นแน่ ฉันเดินตรงมาเอารถลัมโบคู่ใจของฉันขับออกจากบริษัทแล้วมุ่งหน้ามายังโรงพยาบาลคาซานดร้าทันที
[โรงพยาบาลคาซานดร้า]
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าห้องประชุมใหญ่ไปทางไหนหรอคะ” ตอนแรกก็ไม่คิดหรอกว่าโรงพยาบาลนี้มันจะใหญ่อลังแบบนี้พอเข้ามา ก็รู้ได้ทันทีว่าฉันคงหาห้องประชุมไม่เจอ
“คุณโรเซ็ทต้าใช่มั้ยคะ” แล้วจู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักฉันระหว่างที่ฉันรอคำตอบจากประชาสัมพันธ์
“ใช่ค่ะ” ฉันหันหน้าไปตอบผู้หญิงคนนั้นก่อนจะเห็นว่าเธอสวมชุดหมอคงเป็นหมอของที่นี่สินะ
“งั้นตามฉันมาทางนี้ค่ะทุกคนกำลังรออยู่” แล้วฉันก็เดินตามหมอคนนั้นไปจนถึงห้องประชุมที่ว่า พอเปิดประตูไปเท่านั้นแหละรู้เลยว่าฉันมาสาย
“ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้รอพอดีโรสเตรียมเอกสารสัญญาเลยทำให้มาช้า” ฉันรีบกล่าวขอโทษทุกคนทันทีแล้วฉันก็มองหาที่นั่งที่ฉัน สามารถนั่งได้ แต่มันก็ไม่มีเลย
“เชิญคุณโรสมานั่งตรงนี้ได้เลยครับ” ท่านอาวุโสที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเพราะเขานั่งอยู่หัวโต๊ะก็คงจะใช่อยู่แหละ
“เอ้อ…”
“ยัยโรส!!” พ่อส่งสายตาตำหนิมาให้ฉันเพราะฉันไม่ยอมไปนั่งตามที่เขาผู้นั้นบอก ใครมันจะอยากไปนั่งล่ะก็ที่นั่งตรงนั้นนอกจากจะ เป็นที่เดี๋ยวที่เหลืออยู่ยังจะเป็นที่ข้างๆ กับยัยกาฝากนั้นอีก
“ไม่มีความรับผิดชอบ” ทันทีที่ก้นฉันแตะเก้าอี้ยัยเมลินดาก็แขวะฉันทันที
“งั้นเรามาเริ่มคุยกันเกี่ยวกับตัวยาที่ทางเราจะผลิตให้โรงบาลของคุณดีกว่านะคะ” ฉันฉลาดพอที่จะไม่เถียงยัยนั้นเพราะฉันรู้ว่าถ้าฉัน เถียงไปมันก็เข้าตามเกมที่ยัยนั้นสร้างขึ้นมาสู้ฉันไม่เถียงแล้วปล่อยให้เธอนั่งหน้าลิงอยู่แบบนั้นยังจะซะใจกว่าอีก
“ครับเอาเป็นว่าก่อนอื่นผมขอแนะนำหมอแผนศัลยกรรมก่อนนะครับ” แล้วท่านประธานโรงพยาบาลก็ชี้แนะนำหมอแต่ละคนจนมาถึงหมอคนสุดท้าย
“ส่วนนี้คือนายแพทย์คริสเตียน คาซานดร้า” จากที่ฉันไม่สนใจที่จะดูหน้าหมอแต่ละคนที่แนะนำมาจนมาถึงคนสุดท้ายที่ฉันต้องเงยหน้าอันสวยสดงดงามขึ้นมามองสาเหตุที่ทำให้ฉันมองก็คงเป็นเพราะนามสกุลของเขานั้นแหละที่มันเหมือนกับชื่อโรงพยาบาล
“อ่อหมอคริสเขาเป็นลูกชายคนเดียวของผมครับ” ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลงั้นหรอถึงว่าทำไมนามสกุลเหมือนชื่อโรงบาล
“ลูกชาย?? หล่อจัง” ฉันหันหน้าไปมองยัยกาฝากนั้นทันทีพร้อมกับเหลียวมองหมอนั้น
“อย่างเธอมันก็คงได้แค่มอง” ฉันว่าให้ยัยนั้นจนเธอหันมามองฉันตาขวางอย่าคิดว่าครั้งนี้ฉันจะยอมเพราะฉันก็ตะคอกยัยนั้นทาง สายตาเหมือนกันจนฉันได้ยินเสียงคุณพ่อบอกขอบคุณท่านประธาน
“เสร็จแล้วหรอคะ”
“สัญญาน่ะเสร็จแล้วแต่เรายังไม่ได้คุยเรื่องยาที่จะผลิต” พ่อบอกกับฉัน
“อ้าว!! แล้วถ้ายังไม่เสร็จคุณพ่อกับคุณ…เอ้อคุณเจ้าของโรงบาลจะไปไหนกันหรอคะ” ก็ฉันเห็นเขาสองคนลุกออกจากห้องพร้อมกับคณะแพทย์พวกนั้น แต่แทนที่ฉันจะได้คำตอบกลับได้เสียงหัวเราะมาแทน
“หัวเราะอะไรกันคะที่โรสถามมันตลกหรือไงกัน” ฉันเริ่มที่จะไม่สบอารมณ์แล้วนะ
“ป่าวๆ จ๊ะฉันแค่ขำที่หนูโรสเรียกฉันยาวแบบนั้น” คุณเจ้าของโรงบาลว่าให้ฉันว่าเรียกท่านยาวเกินไปฉันหันไปมองหน้าคุณพ่อก่อนที่จะถามออกไป
“แล้วคุณชื่ออะไรหรอคะโรสจะได้เรียกได้”
“เรียกฉันว่าเควินก็ได้ว่าแต่หนูโรสอายุเท่าไหร่แล้วปีนี้” งานฉันมันเกี่ยวกับอายุด้วยหรือไง
“ยี่สิบค่ะ ว่าแต่เรื่องยาว่าไงคะ” ฉันรีบวกกลับมาเรื่องยาที่จะให้ผลิตทันทีก่อนที่จะลามมาเรื่องของฉัน
“เกือบลืมไปเลยเอาเป็นว่าเรื่องยาฉันให้หนูไปถามหมอคริสเพราะเขาจะรู้เรื่องพวกนี้ดี” คุณเควินบอกกับฉันก่อนจะหันหน้าไปทางหมอคนนั้น
“งั้นเมลินขออยู่ช่วยโรสนะคะคุณลุง” ยัยนั้นพูดอะไรออกมาน่ะจะขอช่วยฉันขุนพระร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะมายุ่งวุ่นวายกับฉันแล้ววัน นี้จะมาช่วยฉันทำงานเนี๊ยะนะ
“งั้นหนูเมลินก็อยู่ช่วยโรสนะลุงขอตัวไปธุระก่อน อ่อ เดี๋ยวก็กลับพร้อมกับโรสเลยแล้วกัน” พ่อก็เหมือนกันไม่เคยคิดจะถามความคิด เห็นฉันบางเลยฉันยังไม่ได้ตอบเลยว่าจะให้กาฝากอยู่ช่วยฉัน
“ได้ยินแล้วใช่มั้ยถ้าได้ยินแล้วก็มาทำงานได้แล้ว” หลังจากที่คุณพ่อกับคนนพวกนั้นออกไปยัยกาฝากก็ยิ้มเยาะฉันทันที แล้วก็เดินไป หาหมอคงหมอคริสนั้น
“ฉันชื่อเมลินดานะคะ” ยัยนั้นรีบไปแนะนำตัวทันทีเห็นแล้วมันหมั่นไส้แต่จะว่าไปหมอคนนี้ก็หล่ออย่าที่ยัยเมลินบอกจริงๆนั้นแหละแถม ยังเป็นถึงลูกเจ้าของโรงบาลอีกต่างหากไม่แปลกหรอกที่ยัยนี้จะรีบเสนอหน้าทันทีคงเป็นจุดประสงค์ของเธอสินะที่มาช่วยงานฉัน
“ครับผมคริสเตียนยินดีที่ได้รู้จัก” เขายิ้มพร้อมกับยื่นมือมาทักทายยัยกาฝาก ฉันได้แต่ยืนมองภาพนั้นแล้วก็พึ่งนึกขึ้นได้ที่นิน่ามันบอก ว่าหมอคริสอะไรนั้นก็ทำงานอยู่ที่นี่…
แต่คงไม่ใช่เขาคนนี้แน่นอนถึงจะเหมือนกับลักษณะที่นิน่าบอกก็เถอะแต่หมอคริสคนนั้นคงไม่เป็นลูกเจ้าของโรงบาลหรอกมั้งเพราะถ้าเป็นยัยนิน่าก็ต้องรู้แล้วสิแต่นี้ไม่เห็นบอก ว่าแต่ฉันจะสนใจทำจะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับฉันเลย
“ขอโทษนะที่ต้องรบกวนการทักทายของคุณสองคน” สองคนนั้นหันมามองหน้าฉันประมาณว่าฉันเป็นเด็กไม่มีมารยาทที่มารบกวนคน แก่เขาพูดกัน โดยเฉพาะสายตาของยัยเมลินดาที่กำลังมองฉันเหมือนว่าฉันไปแย่งแฟนนางมาอย่างงั้นแหละ
“หยุดมองหน้าฉันได้แล้ว…ฉันขอทำงานของฉันก่อนพอเสร็จแล้วฉันจะไม่รบกวนอีก”
“ครับงั้นคุณก็คุยธุระของคุณมา” ฉันนั่งลงก่อนที่จะถามตัวยาที่เขาจะให้บริษัทฉันผลิตให้ฉันก็จดรายระเอียดทั้งหมดไว้จนเสร็จธุระทั้งหมดของฉัน
“งั้นก็ตามนี้นะคะถ้ายังไงฉันจะให้เลขาฉันติดต่อมาทางโรงพยาบาลอีกทีนะคะ”
“ครับถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวก่อนสิคะคุณหมอ” ยัยกาฝากนั้นเรียกเขาทันทีที่เขาเดินออกไป เหอะ! ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายัยนี้มันอยากได้หมอคนนั้นมากแค่ไหน ก็แน่ละดีกรีลูกเจ้าของโรงบาลแบบนั้นไม่อยากได้ก็แปลก แต่ไม่ใช่ฉันแน่นอน
“ผู้ชายอะไรเย็นชาเป็นบ้า” ฉันพูดออกมาทันทีที่เขาออกไปจากห้องก็ดูเขาสิไม่เห็นจะสนใจอะไรเลยนี้ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเขาคงมองฉันตาเป็นมันแล้ว
“เธออย่ามาว่าพี่หมอคริสของฉันนะ” ยัยกาฝากว่าให้ฉันทันที
“ของเธองั้นหรอ เหอะ! อย่าฝันไปไกลอย่างเธอก็คงเป็นได้แค่เมียน้อยแบบแม่เธอ”
“นี้แก!!!” เธอกำลังง้างมือขึ้นมาตบหน้าฉันแต่ดีที่ฉันจับไว้ก่อน
“ทำไมยอมรับความจริงไม่ได้หรอ” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าเมลิน
“ทำปากดีไปเถอะ ถ้าฉันได้หมอคริสมาเมื่อไหร่แกจะหัวเราะไม่ออก” ดูความมั่นหน้าของยัยเมลินดาสิ
“อย่าฝันสูงไปหน่อยเลยแค่เขาจับมือก็ไม่ใช่ว่าเขาจะชอบเธอมันเป็นแค่มารยาทเท่านั้น!!” ฉันเน้นคำว่ามารยาทใส่หน้าเมลินดา
“งั้นหรอ!!! แต่ก็ยังดีกว่าใครบางคนขนาดชื่อเขายังไม่ถามเลยอย่างว่าแหละเนาะคนมันไม่สำคัญขนาดพ่อตัวเองแท้ๆ ยังไม่สนใจเลย อ่อ ไม่ต้องไปส่งฉันนะเดี๋ยวฉันให้รถที่บ้านมารับ…บาย” พอเธอพูดเสร็จก็สบัดมือออกจากมือฉันแล้วเดินออกไปทันที ฉันอยากกรี๊ดออกมาดังๆ แต่ก็ได้แค่บีบมือตัวเองไว้เพื่อระงับอารมณ์ก่อนที่มันจะระเบิดออกมาไม่มีชิ้นดี
“อย่าหวังเลยว่าจะได้ผู้ชายคนนั้นฉันจะทำทุกวิถึทางเพื่อเอาชนะเธอให้ได้ยัยเมลินดาอีลูกกาฝาก!!!!”
ตอนที่12… [ชัดเจนพอมั้ย]“ไม่อยากรู้หรอเมลินว่าเมื่อวานฉันกับพี่หมอของเธอ…ทำอะไรกัน”ฉันเดินลงบันไดมาเจอเข้ากับยัยนี้พอดีฉันก็เลยอดไม่ได้ที่จะยั่วโมโหเธอแต่เช้า หึ! ถือซะว่าวันนี้เป็นวันดีของฉันแต่วันซวย! สำหรับเธอก็แล้วกัน ฉันมองหน้าเธออย่างผู้ชนะและเหนือกว่าแน่นอนว่าฉันต้องอยู่เหนือกว่ายัยนี้ทุกเรื่อง! ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องหัวใจ“เธอมันไม่แฟร์”“ไม่แฟร์ยังไง ไหนลองบอกฉันมาสิยัยกาฝาก!” ฉันเดินเข้าไปใกล้เธอเพื่อเรียกความกลัวให้กับคนปากดีแบบนั้น“เธอก็รู้ว่าฉันชอบพี่หมอ แต่เธอก็ยังมาแย่ง…”“แย่งงั้นหรอเขาไปเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!” ฉันพูดสวนยัยนี้ไปทันที คนอย่างฉันไม่เคยคิดแย่งของใครให้เสียศักดิ์ศรีหรอก อีกอย่างถึงยัยนี้จะชอบเขาก่อนแต่เขาก็ไม่ได้สนใจเธอแบบนี้เรียกว่าแยกได้หรอ คนที่แยกของคนอื่นคือเธอกับแม่ของเธอต่างหากที่แยกของฉันไปทุกอย่าง!“โรส เธอทำแบบนี้เพื่อต้องการเอาชนะฉันใช่มั้ย!” เธอมองฉันเหมือนกับว่ากำลังจะฆ่าฉันทางสายตา ฉันเชื่อเลยว่าถ้ายัยนี้ไปมีเรื่องกับฉันข้างนอกที่ไม่ใช่บ้านฟังธงได้เลยว่าเธอไม่เก็บอาการเหมือนตอนนี้แน่นอน“ฉลาดนี้แต่ก็คงฉลาดน้อยกว่าฉัน เหอะ! แย่จัง”
ตอนที่11… [ทางเลือก]หลังจากวันที่เขาและฉันปรับความเข้าใจ เอ๊ะ! ไม่สิ ต้องบอกว่าทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการจนมาถึงตอนนี้ถ้าลองนับดูแล้วก็ครบหนึ่งเดือนพอดีที่เราสองคนต่างก็ได้รู้จักกันมากขึ้น และฉันยังได้ใกล้ชิดเขามากกว่าเดิม ...มากจนฉันเริ่มกลัวว่าสักวันฉันอาจจะต้องเป็นคนแพ้ในเกมที่ตัวเองสร้างขึ้นมา และถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ฉันคงต้องยอมรับกรรมที่ตัวเองก่อRrrrrrrrrrก่อนจะได้คิดอะไรที่มันไปไกลกว่านี้เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เวลานี้อีกแล้วหรอ?12.00 น.เที่ยงตรงเป๊ะ! นี้อาจจะเป็นเวลาพักเที่ยงของใครหลายคนแต่กับฉันทุกวันไม่เว้นเสาร์อาทิตย์มันคือเวลารับสายจากคุณหมอสุดหล่อ ฉันเองพอรู้มาบ้างว่าคริสเตียนเขาเป็นตรงต่อเวลาแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะตรงดิ่งขนาดนี้“ว่า…”“พูดยาวไปมั้ย ฟังแทบไม่ทัน” ประชดแหละ“มีอะไร ว่างหรือไง แล้วทำไมต้องโทรมาเวลานี้ตลอด"“พอได้พูดก็พูดซะจนตอบไม่ทันเลย”“จะตอบไม่ตอบ ถ้าไม่ตอบฉันจะว่างละนะ" นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในนิสัยเสียของฉัน ฉันไม่ชอบให้ใครมาว่าแต่ถ้ากลับกันฉันไม่สนหรอก“ถ้าถามว่าว่างมั้ยก็ว่าง…แล้วถ้าถามว่าทำไมต้องโทรมาเวลานี้ตอบได้เลยว่าเป็นห่วง” เป็นห่วงฉัน???“ห่วง
ตอนที่10… [สรรพนามของเราสองคน]ถ้านับรวมแล้ววันนี้ก็ปาเข้ามาเกือบสองเดือนที่ฉันนั่งตาม ยืนตาม เดินตามเขาจนกลายเป็นกิจวัตรอีกอย่างในชีวิตไปแล้วถ้าวันไหนที่ไม่ได้เจอชีวิตฉันในวันนั้นก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ทว่าจะสองเดือนแล้วเถอะมีแค่ฉันที่รู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปแต่กับเขาฉันยังมองไม่ออกเลยว่าความพยายามของฉันมันไปตกผลึกอะไรในใจเขาบ้างหรือยังแต่ก็ดีกว่าครั้งแรกที่เจอหน่อยอย่างน้อยคริสเตียนก็ยังเห็นฉันมีตัวตนขึ้นมาบ้าง“นี้!!!วันนี้นายไม่ไปทำงานหรือไงห๊ะ”วันนี้กิจวัตรประจำวันฉันก็เหมือนเดิมคือไปรอเขาที่โรงพยาบาลแต่ทว่าวันนี้กลับเป็นเขาที่ชิงโทรมาหาฉันซะก่อนพร้อมกับเอาหน้าหล่อ ๆ มายืนฉีกยิ้มที่บริษัทฉันถ้าจำไม่ผิดฉันเองก็ไม่เคยให้เบอร์เขาแล้วทำไมคริสเตียนถึงมีเบอร์ส่วนตัวฉันได้ละ“ไม่ไป…วันนี้ผมว่าง” ดูเหมือนเขาจะเป็นหมอที่ว่างที่สุดในสายอาชีพนี่แล้วละ“แล้วจะพาฉันไปไหน หรือว่าไป…” ฉันแกล้วเอานิ้วชี้มาชนกันพร้อมส่งสายตาที่ผู้หญิงคนอื่นชอบทำใส่เขา“ไปกินข้าวไม่ต้องคิดไปไกล”"ดับฝันที่สุด!"[ร้านอาหาร]ไม่อยากเชื่อสายตาว่าคุณหมอที่รักสุขภาพอย่างเขาจะสั่งอาหารที่คอเลสเตอรอลสูงแบบนี้เป็นกับเขา
ตอนที่9… [ไม่เนียน]วันนี้ถือเป็นการขึ้นต้นเดือนใหม่ที่ดีเลยทีเดียวเพราะตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพนักงานทุกคนในบริษัทจะไม่มีใครมาว่ารองผู้บริหารแบบฉันว่ามาสายได้อีกแล้วเพราะหลังจากนี้เป็นต้นไป ฉัน! โรเซ็ทต้า ลีโอน่า จะไม่ไปเสียเวลาตามตื้อ ตามจีบ ตามรังขวานไอ้หมอบ้านั้นอีกพอกันทีเสียทั้งงาน เสียทั้งสุขภาพจิตนอกจากไม่ได้อะไรกลับมาแล้วฉันยังถูกมองเป็นผู้หญิงไร้ยางอายเพราะฉะนั้นนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเรื่องเดียวที่จะไม่แย่งชินกับกาฝากนั้นก็คือหมอนี่แหละ"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณโรส” ตายยากตายเย็นจริง ๆ อุส่าคิดว่าเป็นวันที่ดีพอมาเจอสองคนแม่ลูกในห้องทำงานของฉันวันดี ๆ วันนี้หมดไปโดยไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง“ใครให้เธอสองคนแม่ลูกเข้ามาในห้องฉันห๊ะ!!!”“ไม่มีใครใช้หรอกค่ะเราสองคนแม่ลูกเข้ามาเอง” ยัยแม่เลี้ยงนั้นยืนขึ้นก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่“ไม่มีใครอยากมาเข้ามาในห้องคนใจแคบแบบเธอหรอก” เมลินพูดใส่หน้าฉัน“ถึงเธออยากฉันก็คงไม่ให้กาฝากอย่างพวกเธอเข้ามาหรอกเดี๋ยวห้องฉันมันจะหมองไปด้วยความหน้าด้านไร้ยางอายของพวกเธอ!!!” คิดหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมให้ว่าฝ่ายเดียว"หน้าด้าน!!!ไร้ยางอาย หือ ว่า
ตอนที่8... [รู้เมื่อสายไป][คริสเตียน]วันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ผมต้องเข้ามาดูแลคนไข้ตามนัดผมมาทำงานที่โรงพยาบาลตามปกติแต่ที่ไม่ปกติสำหรับผมตั้งแต่เช้าผมยังไม่เห็นหน้าใครบางคนที่มาได้ทุกวันเหมือนคนไม่มีการไม่มีงานทำไม่รู้ว่าตั้งแต้เมื่อไหร่เหมือนกันที่ผมรู้สึกว่าการได้เจอโรเซ็ทต้าทุกเช้ามันคือกิจวัตรประจำวันไปแล้วพอไม่ได้เจอกลับรู้เหมือนมีบางอย่างหายไป แล้วทำไมผมต้องไปสนใจด้วยละจะมา หรือจะไปไม่มันก็เรื่องของเธอ“วันนี้แฟนคุณหมอไม่มาหรอคะ” พยาบาลที่เอากาแฟเข้ามาให้ถามผมขึ้นมาจนผมต้องเงยมองหน้าเธอ“แฟนผม?” ผมชี้นิ้วมาใส่ตัวเองอย่างงงๆ ผมไปมีแฟนตอนไหน“ก็คุณผู้หญิงคนที่สวยๆที่มาหาคุณหมอทุกวันยังไงละคะ”“เธอไม่ใช่แฟนผมครับ”นอกจากโรเซ็ตต้าที่พักนี้จะเข้าออกห้องทำงานผมก็ไม่มีใครแล้วหากไม่นับรวมคนในโรงพยาบาลเธอนี่แหละที่เป็นต้นตอขอคำถามเมื่อกี้ แล้วการที่ผมตอบไปแบบนั้นก็ทำเอาพยาบาลตรงหน้าดูงงไม่น้อยทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่โรเซ็ทต้ากลับทำให้คนอื่นที่มองมาเข้าใจผิดไปไม่น้อย หึ! ผู้หญิงแบบเธอมันน่ากลัวจริงๆ“อ้าวหรอคะพี่ก็นึกว่าเป็นแฟนหมอคริสซะอีกเมื่อวานเห็นร้องไห้ออกไปคิดว่าทะเลาะกัน”“ร้อง
ตอนที่ 7 ความอ่อนแอวันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ฉันต้องมาโรงพยาบาลทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ที่มาก็เพราะคุณหมอที่นี่น่าจับทำสามีฉันเลยต้องมาบ่อย ๆ แม้ว่าเวลาของฉันมันเป็นเงินเป็นทองแต่เผื่อเขาฉันยอมเสียเงินเสียทองไปเลยก็ได้ ฉันล่อเล่นอย่าคิดจริงจังไปได้ที่มาวันนี้มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นต่อให้ฉันจะต้องเสียอะไรไปฉันไม่มีทางในเมลินสมหวังหรอก แต่ที่แน่ๆ วันนี้เขาไม่ว่างมานั่งเล่นกับฉันเพราะเขาต้องรีบไปรักษาคนไข้ที่รอการช่วยเหลือจากเขาอยู่ ฉันก็เลยต้องมานั่งรอเขาในห้องไม่อยากเชื่อเลยว่าการผ่าตัดมันจะนานปานนี้ถ้ารู้จักฉันจริงเขาจะต้องรู้ว่านิสัยของฉันเกลียดการต้องรอโดยเฉพาะรอในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเอง ยกเว้นคุณหมอคนนี้เพราะเขาสามารถทำประโยชน์ให้ฉันได้แม้ว่าจะต้องนั่งรอจนเกือบจะสามชั่วโมงก็เถอะจะว่าไปเขาก็เป็นคนแรกเลยนะที่ทำให้ฉันอดทนตั้งตารอจนแทบจะหลับคาห้องเขาฉันก็เบื่อเป็นเหมือนกันเกิดมาฉันยังไม่เคยต้องมานั่งรอใครนานเท่านี้มาก่อนเขาคนแรก ไหนๆ ก็ไหนๆฉันก็เลยขอถือโอกาสครั้งนี้เดินสำรวจห้องพักเขาสักหน่อยก็ แล้วกันฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายแบบเขาทำไมถึงชอบตกแต่งห้องเป็นโทนสีดำแต่