LOGINแสงแดดรุ่งอรุณสาดส่อง ส่งความสว่างลอดผ่านลำไม้ไผ่ ทะลุทะลวงไปทั่วห้องนอน
เรือนร่างสูงใหญ่ของจ้าวเหว่ยนอนคว่ำหน้ายาวเหยียดอยู่บนเตียงนอนราวกับปลาตาย ไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย ความปวดร้าวแผ่ซ่านไปทั่วร่างหนา ความระบมแทรกซึมลึกล้ำถึงไขกระดูก ทรมานเจียนตาย
ทว่าจากที่ต้องนอนงอตัวเพราะกระดูกผิดรูปมาเนิ่นนาน บัดนี้ชายหนุ่มกลับนอนได้ตัวตรงนัก เห็นได้ชัดว่ากระดูกของเขาเริ่มจะเข้าที่ดีแล้ว รอเพียงฟื้นตัวเท่านั้น
อันที่จริง ตัวเขาสามารถหาหมอที่เก่งที่สุดมารักษาให้ได้ ทว่ากลับมิอาจทำ เพราะมันเสี่ยงเกินไป หากมีข่าวเล็ดลอดออกไปเกี่ยวกับการพาท่านหมอฝีมือสูงส่งมารักษาชายหลังค่อมที่ผิงเหยียน คนอื่นย่อมล่วงรู้ที่ซ่อนตัวของเขา อาจนำมาซึ่งอันตราย มิสู้รอจนเรื่องวุ่นวายเงียบสงบ ตัวเขาค่อยกลับไปรักษาที่วังหลวงก็ยังไม่สาย
แต่ใครจักคาดคิดว่าเขาจะได้แต่งงานกับสตรีประหลาด
ยามนี้สตรีประหลาดของจ้าวเหว่ยมิได้อยู่ในห้อง นางออกจากเรือนเพื่อเดินทางขึ้นเขาไปตั้งนานแล้ว
ซานซานเคยฝึกวิชาหมื่นพิษ รู้จักสมุนไพรหลายชนิด ทั้งที่มีคุณและโทษนางล้วนจำได้ จึงคิดจะนำมาเคี่ยวทำยารักษาสามีอย่างต่อเนื่อง
อุตส่าห์ได้สามีเป็นของตนเองทั้งทีต้องดูแลให้ดีสักหน่อย
หญิงสาวใช้เวลาหาสมุนไพรที่ต้องการอยู่เป็นนาน เมื่อได้ตามที่ต้องการก็ลงเขากลับเรือน นั่งต้มแล้วเคี่ยวอีกครู่ใหญ่ ระหว่างนั้นเห็นเนื้อตัวตนเองสกปรกมอมแมมมาก จึงคิดจะอาบน้ำ
ทว่าเรือนก็เล็กเท่านี้ มิได้มีห้องอาบน้ำแยกออกไปจากห้องนอน การจะลงไปแช่น้ำในลำธารยามกลางวันก็ออกจะโจ่งแจ้งเกินไป
ซานซานจึงลากถังไม้เปล่ามาไว้ในห้องนอน ก่อนจะยกน้ำมาใส่ค่อนถัง แล้วอาบต่อหน้าคนตัวโตที่นอนยาวเหยียดบนเตียงเสียเลย
เดิมทีชาวบ้านธรรมดาไม่ค่อยนิยมอาบน้ำทุกวัน มีเพียงสองสามีภรรยาคู่นี้เท่านั้นที่อาบน้ำบ่อยโดยมิได้นัดหมาย เป็นความชอบที่เหมือนกันโดยไม่รู้ตัว
เพียงแต่ก่อนหน้านั้น ทั้งสองแยกกันอาบน้ำในยามค่ำคืนที่ท้องฟ้ารอบทิศมืดมิดหมดแล้ว ทั้งยังมิได้เข้าหอกันอีกเลยนับตั้งแต่วันแต่ง
เพราะชายหนุ่มเว้นระยะห่างจากหญิงสาวชัดเจน เมื่อไม่มียาปลุกกำหนัดมากระตุ้นเร้า เขาจึงไม่คิดแตะต้องนางอีก
ส่วนซานซานที่มัวแต่วุ่นวายกับงานค่ายกลตลอดวัน จึงใช้พลังงานไปมากโข ค่ำมาก็หมดเรี่ยวหมดแรงหลับเป็นตาย
ทั้งคู่นับว่าเป็นสามีภรรยาที่มีความสัมพันธ์แปลกประหลาดสักหน่อย จะว่าใกล้ชิดก็มิใช่ ห่างเหินก็ไม่เชิง
ยามนี้ซานซานกำลังเปลือยร่างขาวผ่องเนียนนุ่มอาบน้ำอยู่ในอ่างไม้ภายในห้องเดียวกับจ้าวเหว่ยที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
หญิงสาวนึกชมชอบร่างนี้มากนัก เนื้อเนียนละเอียดนุ่มนวลผุดผาด สัมผัสเรียบลื่น ริ้วรอยแผลเป็นสักนิดก็ไม่มี งดงามเหลือเกิน
ชาติก่อนผิวของซานซานทั้งแห้งและหยาบกร้าน ผิวสีน้ำตาลมิได้ขาวดุจหยกเสลาเยี่ยงนี้ ใบหน้าหรือก็อัปลักษณ์ ทั่วตัวมีแต่รอยแผลเป็นขรุขระ เมื่อเทียบกับชาตินี้ช่างห่างกันราวฟ้ากับเหว
นางจึงลูบไล้แขนขาเรียวยาวอย่างเชื่องช้า กรีดนิ้วลากยาวขึ้นมาคลึงเนินเนื้อกลมนูนนุ่มนิ่ม ไล้วนอย่างหลงใหลได้ปลื้มในรูปโฉมของตนเอง
ดวงหน้าประดับรอยยิ้มพริ้มเพรา พวงแก้มอมชมพูระเรื่อ ปากแดงฉ่ำชื้น
แลดูยั่วยวนยิ่งนัก
จ้าวเหว่ยได้แต่นอนมองซานซานจนลำตัวแข็งเกร็ง เลือดลมพลุ่งพล่าน ปวดหนึบไปหมด ในใจนึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน คิดว่านางกำลังกลั่นแกล้งเขาแน่นอน
หลังจากคำนวณเวลาคิดว่ายาที่เคี่ยวทิ้งไว้คงได้ที่แล้ว ซานซานจึงค่อยๆ ลุกขึ้นจากถังไม้ เผยเรือนร่างเย้ายวนทั้งตัวต่อสายตาใครบางคน ปล่อยหยาดน้ำกลิ้งไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง แลดูพร่างพราวราวดาราระยับตา แล้วเดินกรีดกรายไปทางชั้นผ้า จากนั้นก็แต่งตัวด้วยกิริยาเรียบเรื่อย ท่าทางปกติเนิบนาบล้อสายตา เห็นได้ชัดว่ามิได้ยั่วยวนใครทั้งสิ้น คนผู้นั้นล้วนคิดไปเอง
จ้าวเหว่ยขบกรามแน่น
อ๋องทมิฬผู้นี้กำลังได้ค้นพบตนเองอีกด้านอย่างคาดไม่ถึงทว่าความกลัวของถังไห่เฉิงพลันสลายหายไปจนสิ้น เพราะลี่เซียนถึงขั้นเก็บเรื่องในสวนบุปผาไปฝันร้ายนางละเมอออกมาคล้ายเด็กหญิงตัวน้อยว่าเขากลับไปหาหญิงอื่นที่เป็นคนรักเก่า ในฝันของนาง หญิงผู้นั้นเป็นหลิงเจิน นางพูดออกมายามหลับฝันว่าต่อให้หลิงเจินเป็นคนดีสักปานใด และเขากับหลิงเจินจักรักกันมากแค่ไหน นางก็ยังไม่อาจวางใจนางพร้อมจะหลีกทางให้จริงๆ เพียงแต่กลับมิอาจตัดใจจากเขาได้เลย จึงคิดเอาไว้แบบไม่บอกใครว่าจะใช้พลังเร้นกายลอบติดตามปกป้องเขาเงียบๆ ไม่ต้องเป็นพระชายาก็ได้หลิงเจินคงไม่รู้ใช่ไหม? ว่านางมีความคิดชั่วร้ายเช่นนี้!แม้ไม่สามารถกดกอดคลอเคลียร่วมรักกันได้เหมือนเก่า แต่นางขอตามปกป้องเงียบๆ แบบหญิงแพศยาลอบมีความรู้สึกอันดีกับเขาได้หรือไม่เขาที่กำลังกล่อมนางนอนถึงกับกลั้นยิ้มจนปวดกราม ลี่เซียนมีความคิดเถรตรงเหมือนมารดาของเขามากเลยทีเดียวอ๋องหนุ่มคิดไปคิดมาก็สรุปได้ว่าสตรีที่เขารักสองคนนี้เหมือนกันจริงๆกาลก่อนเสด็จแม่ก็ลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเสด็จพ่อแม้มิใช่ความคิดที่ดีเท่าใด หากแต่เสด็จแม่เป็นนางมารที่ต้องกลับใจมิให้ทำเรื่องชั
อ๋องหนุ่มเดินตรงเข้ามาทางหญิงสาวที่เก้าอี้หินอย่างเร็ว สีหน้าของเขาเย็นชา สายตายิ่งดุดัน กระนั้นเขากลับไม่พูดไม่จาต่อจากนั้น เพียงโน้มตัวลงและยื่นมือเรียวยาวให้ลี่เซียนเพราะหากชักช้า ภรรยาของเขาคงได้นอนหลับตรงนี้แน่ทุกครั้งที่นางฟังนิทาน พลังมหาศาลคล้ายถูกสูบจนสิ้น และนางย่อมต้องได้นอนกลางวันหลังกินอาหารอิ่มก่อนเท่านั้นอ๋องทมิฬผู้เคร่งขรึมเหี้ยมโหดโฉดทุกสมรภูมิผู้นี้เป็นสามีที่ดูแลเอาใจใส่และทะนุถนอมภรรยาหนึ่งเดียวของเขามากเมื่อแม่นางน้อยเหลือบตาเห็นถังไห่เฉิง สองแขนเรียวเล็กก็กางออกโดยสัญชาตญาณชายหนุ่มโอบร่างนุ่มด้วยอ้อมแขนอย่างรักใคร่หวงแหน ให้นางได้ซุกซบแผงอกอุ่นของเขา มองนางถูใบหน้านวลเนียนคลอเคลียไปมาเบาๆ เพื่อหามุมสบาย ฟังเสียงครางหวิวอย่างผ่อนคลายคล้ายลูกแมวน้อยอยู่ครู่หนึ่งจึงปรายตามองหลิงเจินอย่างอำมหิตคาดโทษ แม้อีกฝ่ายจักเป็นสหายตั้งแต่เด็ก เป็นถึงศิษย์รักของพี่หญิงใหญ่ เขาก็ไม่ละเว้นรุ่ยชินอ๋องอุ้มพระชายาเดินจากไปอย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยทุกสายตาโดยรอบบริเวณให้มองอย่างคาดไม่ถึงอยู่เช่นนั้น หลิงเจินถึงกับอ้าปากตาค้างนั่นใช่ถังไห่เฉิงที่นางรู้จักหรือไม่?อิงอิงยิ่งตก
ภายใต้ต้นไม้กฤษณาหอมกรุ่นร่มรื่นเย็นสบายลี่เซียนเห็นอีกฝ่ายจู่ๆ เงียบงัน ก็มิได้เอ่ยคำทำลายความเงียบนั้น เพียงพินิจอีกฝ่ายนิ่งๆ สังเกตจากรูปร่างหน้าตางดงามและผิวพรรณเนียนละเอียดขาวผ่องเปล่งประกาย ดูก็รู้ว่าเชื้อสายคงเป็นสตรีชั้นสูง นางจึงคาดเดาได้ไม่ยาก พลางถามเสียงเนือย“เจ้าเป็นลูกของภรรยาเอกผู้แทรกกลางนางนั้นหรือ?”หลิงเจินยังคงทอดมองเบื้องหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า หาได้เปล่งวาจาใด แต่นั่นย่อมเพียงพอแล้วสำหรับลี่เซียนหมอหญิงแค่นยิ้มเย็นชา แต่ในใจกลับรู้สึกเป็นมิตรต่อพระชายามากยิ่งขึ้นนางจึงกล่าวต่ออย่างเถรตรงเฉกเช่นสหายที่ดีที่พึงกระทำต่อกัน ไร้ฐานันดรของอีกฝ่ายกางกั้น ปราศจากความห่างเหินแบ่งแยกชนชั้นเหมือนเช่นคราแรก สรรพนามที่เรียกขานยังเปลี่ยนไปเล็กน้อย“สามีมากภรรยานับเป็นเรื่องธรรมดาของชายหญิงทั่วไป ทว่าบุตรของพวกเขามิได้คิดเช่นนั้นกันทุกคน ข้าหนีออกจากบ้านด้วยเงินทองที่แอบเก็บออมเอาไว้ รวมกับที่แอบขโมยท่านแม่มา”“...”ลี่เซียนชะงักพลางมุ่นคิ้ว ขโมย?หลิงเจินปรายตามองลี่เซียนนิ่งๆ ไม่สะทกสะท้านต่อสายตาที่หรี่แคบพร้อมคำถามคาดคั้นกับคำว่า ‘ขโมย’นางเหยียดยิ้มหยันแล้วเล่าต่อ “เงิน
หลิงเจินไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่านางกำลังจะกลายเป็นสหายที่รู้ใจที่สุดผู้หนึ่งของลี่เซียนหมอหญิงจับประคองพระชายาเดินไปนั่งลงยังเก้าอี้หิน ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่แมกไม้กฤษณากลิ่นหอมกรุ่นจรรโลงจิตใจ ส่งผลให้รู้สึกถึงบรรยากาศที่หนักอึ้งเมื่อครู่ได้ผ่อนคลายเมื่อนั่งเคียงกันแล้ว สองตาหลิงเจินเพียงมองไปยังท้องฟ้ากว้างใหญ่อันไกลโพ้น พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยว่า“หมู่บ้านห่างไกลความเจริญมีบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเป็นเพียงหมอชาวบ้านธรรมดา ทว่ากลับมีรูปร่างหน้าตาสง่างามโดดเด่น พื้นเพของเขาเป็นเพียงสามัญชนไร้สกุลยิ่งใหญ่ บิดามารดาล้วนตายจากไป ญาติมิตรอพยพย้ายถิ่นฐานจนหมดสิ้น เนื่องจากไม่เคร่งครัดธรรมเนียมปฏิบัติจึงอยู่กินกับภรรยาตั้งแต่อายุยังน้อยโดยมิได้ผ่านการแต่งงานอันใด ยามนั้นพวกเขายังไม่มีฐานะอะไร ต่อมา...ฝ่ายชายมีโอกาสสร้างผลงานความดีความชอบเพราะสามีภรรยาเดินทางเข้าเมืองหลวงและได้รักษาอาการเจ็บป่วยปางตายให้ขุนนางใหญ่ผู้หนึ่งจนขุนนางผู้นั้นหายดีเป็นปลิดทิ้ง จากนั้น...หมอหนุ่มซึ่งเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจึงเริ่มมีชื่อเสียง เงินทองไหลมาเทมา กระทั่งมีหน้ามีตาและมีฐานะที่ดี ผู้คนนับถือ มีเกียรติย
ทางฝั่งลี่เซียน…หญิงสาวยังคงมองหลิงเจินด้วยสองตากระจ่างใส นางเอ่ยต่ออย่างจริงใจว่า “ข้าเลือกถามเจ้า ทว่า...เจ้าเองก็ควรเอ่ยปากกับข้าตามตรงเช่นกัน มิใช่ลอบโพทะนากล่าวหาท่านอ๋องว่าเป็นบุรุษชั่วร้ายหลายใจ ร้างเยื่อใยจากสตรีอีกคนโดยการลอบมีสัมพันธ์กับสตรีอีกคน ถึงขั้นพาข้ามาหยามเกียรติเจ้าถึงที่นี่ เรื่องเยี่ยงนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ต่อให้ท่านอ๋องเป็นคนไม่ดีอย่างไร ทำเรื่องโหดเหี้ยมแค่ไหน เขาก็ยังเป็นผู้มีพระคุณของข้า และเจ้าไม่มีสิทธิ์คิดทำร้ายเขา ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม”ลี่เซียนยังคงเป็นเหรินเซียนนางน้อยที่มีความคิดสัตย์ซื่อแต่กระจ่างแจ้งทุกเรื่องราว นางมีความคิดเป็นสีขาวบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ทั้งยังแยกแยะความรักและบุญคุณความแค้นชัดเจนประโยคยาวเหยียดนั้นทำถังไห่เฉิงชะงักงันไปชั่วขณะ หัวใจในอกแกร่งวูบไหวอ่อนยวบสองตาคู่คมจ้องมองลี่เซียนอย่างลึกซึ้งสุดจะหยั่ง มีความรักใคร่ท่วมท้นอยู่ในนั้นอย่างไม่ปิดบังในขณะที่หลิงเจินถึงกับก้าวเท้าถอยหลังอย่างตระหนกนี่...นางเคยพูดอะไรไปตอนเมาเหล้าหรือไม่? แย่แล้ว...ลี่เซียนถอนหายใจอย่างคนปลงตก เอ่ยอีกครา “หากเจ้าจะต่อว่าย่อมเป็นข้าที่สมควรถูกกระทำ เพราะ
เมิ่งหรูให้รู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก นางจึงหยิกเอวของหวังหย่งไปหนึ่งทีแบบแรงมากแม่ทัพหนุ่มสะดุ้งตัวโยน เจ็บบั้นเอวจนต้องขบกราม สูดปากร้องออกมาคำหนึ่ง จากนั้นจึงรับรู้ได้ถึงโทสะของภรรยาหลังจากหาจังหวะเอ่ยแทรกบทสนทนาระหว่างถังไห่เฉิงกับอู๋จวินได้ หวังหย่งก็เริ่มเข้าเรื่องทันทีแบบไม่มีอ้อมค้อมว่า“ทูลท่านอ๋อง เมื่อวานอิงอิงเข้ามาประกาศต่อหน้าทุกคนว่าพระองค์ทรงขอหลิงเจินแต่งงาน พวกท่านทั้งสองเป็นคนรักกัน และยามนี้พระชายาคงรู้เรื่องนั้นแล้ว จึงได้พาอิงอิงกับหลิงเจินแยกตัวออกไป กระหม่อมเกรงว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”สิ้นเสียงหวังหย่ง ถ้วยชาพลันหลุดมือจากบุรุษสูงศักดิ์“อะไรกัน?" ถังไห่เฉิงขมวดคิ้ว “เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?”อู๋จวินเพียงเลิกคิ้วนิ่งฟังเงียบๆ ตามวิสัยเว่ยฉีรีบเอ่ยบ้าง “เมื่อวานกระหม่อมก็อยู่ด้วยพ่ะย่ะค่ะ รวมถึงแม่ทัพซุนและแม่ทัพกู้ ทุกคนล้วนได้ยินวาจาของอิงอิง ทว่ามิได้เชื่อถือแม้แต่น้อย เกรงก็แต่พระชายาจะไม่สบายพระทัย มิสู้พวกเราควรตามกลุ่มสตรีไปพ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสายตาอำมหิตและกลิ่นอายมรณะแผ่ซ่านคาดโทษชนิดไม่เห็นหัวใครพลันปรากฏ ถังไห่เฉิงฟาดฝ่ามือใส่โต๊ะไม้สลักเสียงดัง







