เนื่องจากเรือนนอนส่วนตัวมีเหตุสะเทือนขวัญเกิดขึ้นก่อนหน้าทั้งคราบเลือดยังเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด ถังไห่เฉิงจึงสั่งให้พลทหารทำความสะอาดซ่อมแซมทั้งราตรีส่วนรัตติกาลที่เหลือย่อมจำเป็นต้องอาศัยพักผ่อนในเรือนบัญชาการเท่านั้น และเนื่องจากเป็นเรือนสำหรับสั่งงาน เสียงแห่งความโกลาหลวุ่นวายจึงดังระงมโดยรอบบริเวณของเรือนแห่งนี้ไม่ขาดสายทหารหลายนายเดินเข้าเดินออกบริเวณห้องโถงส่วนหน้า เพื่อขอพบรุ่ยอ๋อง หมายรายงานสถานการณ์ไม่มีว่างเว้นแต่กระนั้นเจ้าตัวปัญหาเช่นสตรีปริศนายิ่งไม่ควรปล่อยให้ไกลตา ถังไห่เฉิงจึงให้ทหารทุกนายรออยู่ที่โถงด้านนอก ส่วนตัวเขายังต้องสะสางบางอย่างในห้องพักด้านในบนเตียงอบอุ่น เสียงบุรุษเข้มเครียด“นอนนิ่งๆ”ลี่เซียนขดตัวเป็นก้อนกลมอยู่ในผ้าห่ม เรือนผมแผ่สยายเต็มหมอน กลีบปากเม้มแน่น พวงแก้มแดงเรื่อ ดวงตากลมโตมองดูคล้ายกระต่ายน้อยกำลังพองขนข่มขู่แต่กลับหลบอยู่หลังพงหญ้า มิกล้าสู้หน้านายพรานถังไห่เฉิงเพ่งพิศพินิจคนงามเงียบเชียบ สีหน้าราบเรียบไม่แปรเปลี่ยน ทว่าเรียวคิ้วคมเข้มกลับขมวดเป็นปมจนแน่น ดวงตาคมกริบอันแสนจะเย็นชายิ่งนานยิ่งเครียดขรึมถมึงทึง เห็นนางอยู่ในสภาพเช่นนั้นตัวเ
“มันคิดจะรังแกเจ้า...”ลี่เซียนส่ายหน้าปฏิเสธ “เขาบอกจะมอบความสุขให้ข้า แต่ว่าสิ่งที่เขางัดออกมา มันน่าเกลียดปานนั้น ไม่เห็นจะสุภาพและสง่างามเหมือนของท่านเลย”“...”รองแม่ทัพกับกลุ่มทหารประมาณสี่คนวิ่งเข้ามาทันได้ยินวาจาล่อแหลมพอดิบพอดี ทุกคนพากันสะดุดเท้าเกือบหัวทิ่มเบื้องหน้าของพวกเขาคือรุ่ยอ๋องกำลังประคองกอดนักโทษหญิงนามลี่เซียน เห็นได้ชัดถึงความสำคัญต่อบุรุษสูงศักดิ์โดยมิต้องอธิบายนางกำลังฟ้องร้องสะอึกสะอื้นงอแง ส่วนคนฟังกลับมีสีหน้าแดงก่ำย่ำแย่แล้วทหารทุกคนมองหน้ากันอย่างลนลาน ไม่รู้ควรทำฉันใด จึงพากันล่าถอยออกไปราววิญญาณสลายกลายเป็นหมอกควันก่อนถูกสายลมพัดพาไม่เหลือร่องรอยห้องขังด้านในปราศจากผู้ใดอีกครา มีเพียงถังไห่เฉิงยืนกอดลี่เซียน และชายกักขฬะนอนบิดตัวเร่าๆ ด้วยความทรมานท่ามกลางเสียงครวญครางโหยหวนของผู้คุมที่ถูกตัดเอ็นสะบั้นความเป็นชาย ถังไห่เฉิงยังคงใจเย็น เขาเอื้อมมือขึ้นจับศีรษะของลี่เซียนให้ฝังเข้าไปในกล้ามเนื้อหน้าอก หมายให้นางหยุดปาก พลางพึมพำเสียงเครียดว่า “เจ้าช่างเปรียบเปรย...”หญิงสาวสะอื้น ตอบกลับว่า “ข้าใคร่ศึกษาเพียงของท่าน ไม่ปรารถนาเห็นของใครทั้งนั้น”บุรุ
เสียงสะอื้นไห้ยังคงดังเป็นระลอกอย่างต่อเนื่องน้ำเสียงเช่นนั้นถังไห่เฉิงล้วนจำได้ ทั้งยังจับทิศทางได้แม่นยำ ไม่รอให้ใครนำทาง ชายหนุ่มก็พุ่งกายเข้าไปแล้วจังหวะเดียวกันพลันได้ยินเสียงแหบต่ำของบุรุษครางลั่น“อ๊าก!”ตามด้วยเสียงดรุณีพร่ำคำละล่ำละลัก “ข้าขอโทษ...”“เจ้า...เจ้า...”“ข้ามิได้ตั้งใจนะ”“อั่ก”เสียงตุ้บดังขึ้นคราหนึ่งแม้ไม่ดังมาก แต่ก็พอฟังออกว่าเป็นเสียงของคนตัวใหญ่ล้มลงกระแทกพื้นด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสกำแพงหินของห้องขังปริแตกจนช่องลมขยายใหญ่ขึ้น ยังผลให้แสงจากโคมไฟด้านนอกอีกฝั่งสาดส่องเข้ามากระทั่งแปรเปลี่ยนความสลัวรางภายในให้กลายเป็นสว่างจ้าถังไห่เฉิงพุ่งกายปราดเปรียว พริบตาเดียวก็เข้ามาถึงหน้าห้องขังที่เป็นกรงเหล็กด้านในสุด ทันได้เห็นผู้คุมร่างกำยำกำลังนอนดิ้นพล่าน สองตาแดงก่ำดุจโลหิต ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด สองมือกุมท้องน้อยไว้แน่น เลือดไหลนองเต็มเป้ากางเกงชั้นในข้างกายเขาคือท่อนเอ็นสีแดงฉาน ความเป็นชายถูกสะบั้นตัดขาดจนสิ้นส่วนสตรีนามลี่เซียนผู้ถูกพันธนการด้วยเชือกรอบลำตัวและโซ่เหล็กรัดข้อมือไพล่หลังกลับลอยอยู่กลางอากาศเรือนผมดำขลับยุ่งเหยิงแผ่สยาย ปลายเท้าคู
“ข้าน้อมรับความผิดทุกประการ”เส้นเสียงสั่นพร่าดุจดั่งแก้วเจียระไนถูกเคาะจนปริแตก กอปรกับใบหน้าพริ้มเพราราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเกิดรอยร้าว ทำคนฟังปวดใจไม่น้อยรองแม่ทัพคนเดิมได้แต่มองอย่างฉงน ทำใจลงโทษมิได้อีกต่อไป เห็นทีว่าควรรอคำสั่งจากเบื้องบนน่าจะดีกว่า จึงตวัดมือส่งสัญญาณให้ผู้คุมเดินเข้ามาผู้คุมร่างใหญ่ลอบมองนักโทษหญิงผู้นี้อยู่แล้วเป็นนาน นางงดงามราวเทพธิดา วงหน้าดวงตาประดุจตุ๊กตาหยกชั้นยอดเนื้อนางขาวเนียนผุดผ่องที่ถูกรัดเชือกจนนูนเด่นเผยความนุ่มนิ่มน่าสัมผัสเน้นชัดปานนั้นทำเขามิอาจละสายตาเนื้อผ้าเบาบางวาบหวิวที่ห่อหุ้มร่างระหงยิ่งไม่อาจสะกดความร้อนรุ่มที่กำลังปะทุพลุ่งพล่านใต้ขอบกางเกงตัวหนาผู้คุมลอบเลียริมฝีปาก ลำคอแห้งผาก รู้สึกอยากดื่มด่ำกลืนกินอะไรบางอย่างเพื่อดับความหื่นกระหายในจิตใจรองแม่ทัพมิได้สังเกตอันใดในตัวลูกน้อง เพียงสั่งการแบบตัดรำคาญโดยไม่เงยหน้า ให้นำตัวลี่เซียนไปขังในคุกอีกฝั่ง“พาตัวนางไปขังไว้ก่อนเถอะ”เมื่อได้รับคำสั่งให้พาคนไป เขาถึงกับสูดลมหายใจเฮือก แอบกลืนน้ำลายลงคอ หิวกระหายมาก มุมปากแสยะยิ้มปริศนา ดวงตาที่ชำเลืองมองยังฉ่ำเยิ้มสื่อความนัยบางประการ
ด้านหน้าเรือนจำอันเป็นคุกมืดของค่ายทหารเมื่อบุรุษชุดม่วงปรากฏกาย อี๋เป่าที่แอบเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกจึงปรากฏตัวต่อหน้ารุ่ยอ๋องทันที เขารีบประสานมือค้อมศีรษะแล้วกล่าว“ท่านอ๋อง ในที่สุดพระองค์ก็เสด็จมา ได้โปรดช่วยแม่นางลี่เซียนด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เรียวคิ้วยาวขมวดวูบ สีหน้าราบเรียบแปรเปลี่ยนฉับพลัน ถังไห่เฉิงปรายตามองผู้พูดอย่างสนใจทันที“นางถูกพาตัวมาที่นี่ได้อย่างไร?”อี๋เป่าได้ยินเช่นนั้นให้รู้สึกตื่นเต้นลอบแย้มยิ้มอย่างยินดีเขาตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ที่แอบมาเฝ้าแม่นางผู้นั้นเพื่อรอท่านอ๋องเสด็จมาแล้วเสนอหน้าเยี่ยงนี้คิดพลางทำหน้าระรื่นเอ่ยปากขอความดีความชอบต่อไป“ทูลท่านอ๋อง แม่นางของท่านกำลังถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกเดียวกับคนร้าย นางถูกพาตัวมาจากเรือนบัญชาการ กระหม่อมเป็นคนยับยั้งมิให้นางถูกตัดหัว จึงจำเป็นต้องถูกส่งตัวมารอที่ห้องขังก่อนพ่ะย่ะค่ะ”เด็กหนุ่มเงียบอยู่อึดใจแล้วเอ่ยต่อ “พระองค์รีบเสด็จเถิด กระหม่อมได้ยินเสียงโบยตีดังสนั่นหลายทีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”กล่าวจบพลันเห็นถุงเงินลอยมา อี๋เป่ารีบปล่อยมือที่ประสานหมัดอยู่ เอื้อมรับรางวัลทันทีไม่มีชักช้าถังไห่เฉิงรู้จักนิสัยหนุ่มน้อยผู้
เมื่อวาจานี้ถูกเอ่ยออกมา ถังไห่เฉิงจึงแค่นเสียงเย็น “หากนางคิดปิดปากจริง พวกเจ้าย่อมมิได้เปิดปากอันน่ารำคาญถึงเพียงนี้” กล่าวจบพลันลุกขึ้นยืนก่อนสั่งเสียงเรียบไปทางเว่ยฉี “นำตัวทุกคนไปโบยคนละยี่สิบไม้ โทษฐานบกพร่องต่อหน้าที่”เหล่าทหารยามมิอาจเข้าใจความนัยของนายเหนือหัว เพียงค้อมตัวก้มหน้ายอมรับโทษทัณฑ์ตามวินัยแม่ทัพเว่ยค้อมศีรษะน้อมรับคำสั่งอย่างแข็งขัน เดินขึ้นหน้าพลางโบกมือส่งสัญญาณให้พลทหารล่าถอยตามเขาไปคล้อยหลังกลุ่มผู้คน ถังไห่เฉิงหย่อนกายนั่งลงอีกครา ท่าทางเคร่งขรึมดุจเดิม พลางตรึกตรองคำรายงานอันยาวเหยียดเมื่อครู่โดยละเอียด‘จอมยั่วยวนชวนพิสมัย วาจานุ่มหวานละมุนละไม และจงใจเข้าหาเขาเพื่อปรนนิบัติ’เรียวคิ้วคมเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยคล้ายกระหยิ่มลำพองใจ หลังนิ่งคิดจากคำรายงานทั้งหมดครู่หนึ่งก็เห็นจะมีเพียงประโยคแค่เท่านี้ที่เห็นว่าเป็นจริง ให้รู้สึกว่าเชื่อถือได้ภายในห้องปราศจากผู้ใดแล้ว แว่วได้ยินเสียงโบยตีจากลานด้านข้างไม่ห่างจากเรือนแห่งนี้ ถังไห่เฉิงย่อมไม่มีเหตุผลใดต้องรั้งอยู่จึงทำท่าผละจากเพื่อกลับเรือนบัญชาการทว่ายังไม่ทันได้ลุกขึ้นยืน หน้าห้องพลันมีเสียงหนึ่งดังแว่วมา“