แชร์

อดีตคู่หมั้น 2

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-10 16:00:15

ชั่วจังหวะที่จางฉวนกำลังตกอยู่ในภวังค์อันเนิ่นนาน  เสียงของชิงลี่ก็ดังแทรก

“ข้าเข้าใจแล้ว พี่หลินกำลังปรับปรุงตัวเองอยู่ใช่หรือไม่ เพราะได้แต่งงานกับสามียาจกอัปลักษณ์ พี่จึงต้องพัฒนาตนเองเพื่อสามี ผู้อื่นจะได้ไม่ดูถูกไปมากกว่านี้ ช่างดียิ่ง พี่หลิน ข้ารู้สึกภูมิใจในตัวพี่มากเลย พี่คงรักกงหนิวมากสินะ”

กล่าวจบยังยกยิ้มน่ารัก ตอกย้ำเด่นชัดว่าชิงหลินตกต่ำ  มีสามีต่ำตม ต้องเร่งพัฒนาตนเองให้ผุดขึ้นจากดินโคลน

ซานซานตอบรับเสียงเย็น “เรื่องของข้ากับสามีไม่ต้องให้ใครมาบอก ข้าย่อมรักและถนอมเขายิ่งกว่าผู้ใดอยู่แล้ว”

เรียวคิ้วคมจึงขมวดวูบ จางฉวนพลันรู้สึกไม่ชอบใจ

แต่ชิงลี่ได้ฟังยิ่งแช่มชื่น นางหันไปส่งยิ้มให้จางฉวนอย่างไร้เดียงสา เพื่อเป็นการดึงสติชายข้างกายกลับมา ก่อนหันไปมองชิงหลินอีกครั้ง ส่งเสียงสดใสอย่างต่อเนื่องอีกว่า

“พี่หลินทำเช่นนี้นับว่าดีแล้วเจ้าค่ะ เดิมทีข้าเองก็เป็นห่วงพี่อยู่มาก ก่อนหน้านี้พี่ทำผิดกับพี่ฉวนเอาไว้ ต่อไปพี่ต้องทำดีกับกงหนิวให้มาก จะได้เป็นการชดเชย”

กล่าวจบก็ส่งยิ้มสว่างไสว ดวงหน้าเรียวเล็กมีแต่ความจริงใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย แต่ความหมายล้วนชัดเจน ว่าชิงหลินทำผิดกับจางฉวนแต่กลับทำเพื่อกงหนิว ช่างไร้ยางอาย

เป้าหมายของชิงลี่คือให้จางฉวนตระหนักในข้อนี้

สตรีตรงหน้ามีสามีแล้ว ชิงหลินถูกกงหนิวกลืนกินไปแล้ว

ยามนี้จางฉวนพลันมีแววตาดำคล้ำ สีหน้าบึ้งตึงทันใด นึกเสียดายอดีตคู่หมั้นขึ้นมาทันที  

ชิงลี่หาได้ล่วงรู้หัวใจบุรุษไม่ ยังเอ่ยต่ออย่างย่ามใจว่า

“พี่หลินต้องรักกงหนิวให้มากๆ นะเจ้าคะ อย่าได้ทำผิดต่อสามีเชียว”

ประโยคนี้ยิ่งทำให้หางคิ้วของจางฉวนกระตุกไม่หยุด

ซานซานหาใช่สตรีผู้ชมชอบภาษาดอกไม้ นางคร้านจะฟังคำไร้สาระตรงหน้าจึงตอกกลับตรงๆ ว่า “เจ้าจะยุ่งกับข้าไปไย ในเมื่อข้าก็แต่งกับกงหนิวตามแผนการของพวกเจ้าแล้ว”

สิ้นประโยคนั้น ทุกสิ่งคล้ายหยุดชะงักไร้สรรพสำเนียง

ชิงลี่กับจางฉวนพลันนิ่งเงียบไป

ชิงลี่เป็นฝ่ายดึงสติกลับมาได้ก่อน จึงไม่คิดเชื่อหูตัวเอง  นางไม่เชื่อหรอกว่าพี่สาวผู้โง่เขลาจะรู้อันใดมากไปกว่าที่ตนหลอกลวงเอาไว้ ท่าทางที่เปลี่ยนไปเช่นนี้คงถูกสามีอัปลักษณ์ทรมานจนสติหลุดกระมัง นางจึงยิ้มหยอกเย้าซ่อนนัยเยาะเย้ยว่า

“พี่สาวคงล้อเล่นแล้ว พี่อย่าได้พูดจาโป้ปดโทษฟ้าดิน  สร้างเรื่องให้น้องเสียหายเช่นนี้เลย ชีวิตที่ลำบากยากเข็ญเป็นพี่สาวที่เลือกเอง จักโทษใครไม่ได้ ขอเพียงทำตัวให้ดี บางทีมลทินที่มีอาจลบล้างได้ ข้าย่อมช่วยลบคำสบประมาทนั้น ขอแค่พี่อย่าพูดจาเลอะเทอะเชียว”

นับได้ว่าเป็นการกำราบพี่สาวได้อย่างเหลือร้ายอยู่หมัด ชิงลี่บอกว่าสิ่งที่ชิงหลินพูดก่อนหน้าไม่มีทั้งพยานและหลักฐาน

ซานซานหรี่ตามองหน้าชิงลี่นิ่งๆ ก่อนเลื่อนสายตาลงต่ำ มองตรงลำคอที่พ้นสาบเสื้อของอีกฝ่าย ซึ่งมีรอยแดงรำไร

เห็นได้ชัดว่าชายหญิงตรงหน้าคงเพิ่งเสร็จกิจมา

หลักฐานเต็มสองตายังกล้าตลบตะแลงสะบัดลิ้นไปเรื่อย

หญิงสาวนึกรำคาญการต่อคำอันไร้สาระกับสตรี เห็นทีคุยกับบุรุษน่าจะดีกว่า จึงเบนสายตาไปสนใจอดีตคู่หมั้นแทน

“พี่ฉวนไยไม่รีบแต่งงานกับน้องสาวข้าเสีย ท่านเพียรอุตส่าห์ลอบคบหากันเนิ่นนาน บัดนี้มิใช่สมควรพลอดรักได้เปิดเผยหรอกหรือ” นางเว้นจังหวะเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อทีละคำอย่างไม่ไว้หน้า

“อ้อ...ข้าต้องขออภัยที่กล่าวผิดไป เห็นอยู่เต็มสองตาว่าพวกท่านกำลังเดินพลอดรักกันไปทั่วหมู่บ้าน ทั้งยังสง่าผ่าเผยยิ่ง อา...แล้วเหตุใดไม่แต่งน้องสาวข้าเสียทีเล่า แล้วเยี่ยงนี้คำครหาทั้งหลาย จักลบล้างได้เยี่ยงไร ในเมื่อพี่สาวก็ทำชื่อเสียงของสกุลด่างพร้อยไปแล้วคนหนึ่ง น้องสาวข้าไฉนยังปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้บุรุษเชยชมผิดประเพณี”

ซานซานกล่าวยาวเหยียดทำเอาจางฉวนได้ฟังพลันชะงัก ส่วนชิงลี่เบิกตาโพลง

เดิมทีซานซานก็มิได้คิดจะเสวนากับอสรพิษทั้งสองนานเยี่ยงนี้  แต่น้องสาวแสนดีเริ่มก่อนจึงช่วยไม่ได้

แม้ว่าใบหน้ายังคงราบเรียบไร้คลื่นอารมณ์ แต่ซานซานกลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้าอย่างกดดันต่อเนื่องว่า

“อันที่จริง ตัวข้าเองก็รู้ถึงความจำเป็นของพวกเจ้าดี เพราะหมู่บ้านของเรา น้องสาวไม่อาจแต่งก่อนพี่สาวได้ ถึงแม้พวกเจ้าจักรักกันลึกซึ้งถึงขั้นได้เสียแต่ยังต้องรอพี่คนนี้แต่งก่อน ทว่าท้ายที่สุดเมื่อแผนการผลักไสข้าได้เสร็จสิ้นอย่างสวยงามเช่นนี้แล้ว เหตุใดพวกเจ้ายังไม่รีบตบแต่งเสียเล่า”

นางหรี่ตาส่งเสียงเหยียด “หรือบุรุษชอบกินเล่นไปเรื่อยๆ  ส่วนสตรียิ่งชอบเผื่อแผ่ไปอย่างนี้ อืม...เน่าเมื่อใดค่อยว่ากัน”

ชายหญิงตรงหน้ายิ่งอึ้งตะลึงค้าง

ซานซานยังไม่หยุด นางว่าต่อ “ในเมื่อข้าเปิดทางให้แล้ว พวกเจ้าย่อมพร้อมแต่งได้ทุกเมื่ออย่างไม่ต้องรู้สึกผิดอันใด แต่อย่าลืมเสียเล่า ต่อให้ผู้คนทั้งหลายมีดวงตามืดบอด ทว่าฟ้ารู้ดินรู้ ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นไร พวกเจ้าย่อมรู้ดีกว่าใคร ละอายใจบ้างก็ดี ยามตายเป็นผีจะได้ไม่ถูกนรกสูบ”

จบคำก็แสยะยิ้มมุมปาก แววตาคมกริบ

ได้เป็นสตรีบ้านป่าเมืองเถื่อนช่างดีกว่าสตรีชั้นสูงจริงๆ

ไม่ต้องรักษาจริต ระวังวาจา สะใจยิ่ง!

ชิงลี่ได้ฟังยิ่งหน้าเขียวคล้ำ โทสะลุกโชนในแววตา ไม่คิดว่าพี่สาวผู้ขลาดเขลาไร้ปากเสียงมาตลอด กลับมีวาจาร้ายกาจเยี่ยงนี้ นางจึงหันไปทางจางฉวน เห็นเขาเพียงยืนเงียบงัน ไม่เอ่ยวาจาสักคำ สองตายังมองชิงหลินอย่างตื่นตะลึง คล้ายกับได้เจอสิ่งอันน่าประทับใจ

แววตาของชิงลี่ยิ่งฉายแววชิงชังต่อชิงหลิน

ส่วนจางฉวนนั้น ยามนี้กำลังอึ้งงัน เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าถ้อยคำที่ได้ฟัง จักเกิดจากสตรีตรงหน้า ซึ่งเป็นอดีตคู่หมั้นผู้โง่งมของเขา นางเผ็ดร้อนเยี่ยงนี้ตั้งแต่เมื่อใด

อา...ช่างถูกใจ

คนเราเมื่ออ่อนแอจนถึงระดับหนึ่ง พอเจอกับเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างที่สุด ก็สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และหลุดพ้นจากความขลาดเขลาได้ภายในคืนเดียว

เมื่อทำความเข้าใจได้ จางฉวนจึงผ่านพ้นภาวะตกตะลึง มุมปากผุดรอยยิ้มบางเบา นำพาความหล่อเหลาเพิ่มหลายส่วน เขาคลี่ยิ้มอบอุ่นส่งให้สตรีตรงหน้าอย่างจงใจ ด้วยรู้ดีกว่าใคร ว่ามันได้ผลเสมอ

ชิงหลินมักมองเหม่อเขาไม่วางตา…

ทว่าทุกสิ่งพลันเปลี่ยนไป เมื่อสตรีตรงหน้าแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง ก่อนยกยิ้มเยียบเย็น แล้วเอ่ยเนิบช้าอย่างเย็นชา  “เก็บรอยยิ้มหลอกลวงของท่านเอาไว้ใช้กับสตรีโง่งมคนอื่นเถิด ข้าเห็นแล้วอยากอาเจียนยิ่ง”

จบคำก็จากไป ปล่อยให้คู่ชายหญิงทำหน้าราวกับเห็นผี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่7 เพียรศึกษา2

    ลี่เซียนยามนี้มองบุรุษแก้ผ้าสลับกับอ่านตำราเล่มหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย สีหน้าประหนึ่งจะไปสอบจอหงวนทว่ายังไม่ทันพินิจระหว่างภาพวาดกับ ‘ของจริง’ ตรงหน้าให้ละเอียด แสงเทียนพลันดับพึ่บ เสี้ยวเวลานั้นหางตาทันได้เห็นบุรุษสะบัดชุดคลุมปิดร่างกำยำและแท่งหยกประหลาดจนมิด ก่อนที่กายแกร่งจะพุ่งประชิดกายนาง“อ๊ะ!”แม่นางน้อยอุทานเสียงหนึ่งเพราะหลบไม่ทันชายผู้นี้ว่องไวปราดเปรียว พริบตาเดียวฝ่ามือของเขาพลันบีบคอนางแน่น กระแทกแผ่นหลังบางกับกำแพงห้องดังอึกลี่เซียนรู้สึกหน้ามืด งุนงง วูบๆ วาบๆ และจุกแน่นตรงลำคอจนหายใจไม่ออก ลำตัวอ่อนยวบอย่างช่วยมิได้ทว่ายังไม่ทันทรุดฮวบล้มลงพลันนั้นรู้สึกถึงแรงกระชากจากฝ่ามือหนาให้ลุกขึ้นแล้วผลักไปชิดกำแพงอีกฝั่งในชั่วพริบตาลี่เซียนเจ็บแปลบตรงกลางแผ่นหลัง ลมหายใจติดขัดจนน้ำตาหยาดริน เรือนร่างอ่อนระทวยคล้ายเรี่ยวแรงถูกสูบออกไปจนสิ้น ประหนึ่งใกล้แหลกเหลวคามือเขากระนั้นหญิงสาวรับรู้ถึงลมร้อนผะผ่าวเจือรอยเหี้ยมเกรียมจากปลายจมูกโด่งสันที่รินรดไรผม เมื่อแหงนหน้ามองสบตากับชายตัวโตยิ่งรู้สึกได้ถึงรังสีคุกคามข่มขวัญ นางเบิกตากลมโตกระจ่างใส จ้องมองประสานกับเนตรมังกรดำจัดที

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่7 เพียรศึกษา1

    ชั่วจังหวะเผลอไผล จมูกโด่งสันพลันได้กลิ่นหอมรวยริน หูยังได้ยินเสียงลมหายใจสะดุดเฮือกของคนผู้หนึ่งชายหนุ่มขมวดคิ้วทันใด จับกระแสผู้บุกรุกได้ทันทีใบหน้าหล่อเหลาเบนไปยังทิศทางตามสัญชาตญาณ สายตาคมปลาบพลันประสบกับสตรีผู้หนึ่งนางมาพร้อมกลิ่นกายหอมกรุ่น มีดวงหน้าพิลาสล้ำ เรือนร่างอรชรอยู่ในอาภรณ์ยั่วยวนเต็มที่นางยืนตะลึงจ้องถลึงมาที่เรือนร่างเปลือยเปล่าของเขา นางมองบั้นท้ายแล้วกวาดตาเพ่งตรึงตรงเส้นขนดำขลับใต้หน้าท้องหนั่นแน่นของเขาอย่างเปิดเผยด้วยสายตาแน่วนิ่งจริงจังเป็นพิเศษ“...”****ด้วยพลังเร้นลับดีเยี่ยม ลมปราณเหนือชั้น พลังวัตรเต็มเปี่ยม ลี่เซียนจึงเคลื่อนกายได้เงียบเชียบ กระทั่งเปลวเทียนยังไม่ขยับแม้แต่น้อยเรือนพักกว้างใหญ่ รอบด้านสลัวราง แสงเทียนอ่อนจางนิ่งสนิท ไร้กระแสลมวูบไหว แม่นางน้อยเดินเข้ามาในเรือนแห่งนี้อย่างไร้ทิศทางลี่เซียนเพียรสังเกตอย่างใคร่ศึกษา เห็นด้านข้างฝั่งซ้ายคือห้องหนังสือ ถัดจากลานโล่งกลางห้องมองตรงไปคือห้องนอนขนาดใหญ่ ส่วนทางด้านขวานางสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมรวยรินของธาตุน้ำและกลิ่นอายอันทรงพลังน่าเกรงขามหญิงสาวจรดปลายเท้ามาเรื่อย ๆ จนเจอห้องหนึ่ง จึงเดิน

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่6 ห้องอาบน้ำ

    สายลมราตรีพัดผ่านหน้าต่างที่ปิดสนิท แสงเทียนแม้มีน้อยนิดกลับนิ่งสนิทมิอาจไหวเอนเพราะแรงลมเรือนพำนักส่วนพระองค์แห่งรุ่ยอ๋องมิได้หรูหรา เพียงเน้นความสะดวกเรียบง่ายภายในห้องรโหฐานขนาดใหญ่ มีเพียงเครื่องเรือนจำเป็น มีห้องโถงรับรอง ห้องหนังสือ ห้องนอนและห้องอาบน้ำทว่าที่มีมากนับไม่ถ้วนกลับเป็นศาสตราวุธชนิดต่าง ๆ หน้าตาแปลกประหลาด ประสิทธิภาพเหนือคาด ทั้งแขวนบนผนังและตั้งตระหง่านเรียงรายบนแท่นไม้สลักพยัคฆ์อันน่าเกรงขามบรรยากาศทั่วห้องเงียบสงบ คละเคล้าแสงเทียนบางเบา กรุ่นกลิ่นอายสูงศักดิ์เจือจาง ปราศจากข้ารับใช้ ไม่มีกระทั่งนางกำนัลติดตามหรือสาวใช้คนสนิทแต่อย่างใดร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่ายืนอยู่หน้าอ่างน้ำ เผยเรือนกายกร้าวแกร่งทรงพลัง กล้ามเนื้อตึงแน่น ไหล่กว้าง แผ่นหลังตั้งตรง แลดูงามสง่าได้รูปสมบูรณ์แบบทุกส่วนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าไม่มีส่วนใดไม่สง่างาม ทั่วกายที่กระทบแสงสีนวลของเพลิงเทียนอาบไล้ไปทั่วร่างหนา ยิ่งส่งให้เห็นถึงความหยิ่งทะนงตน เปี่ยมราศีเหนือหมู่มวลบนเรือนร่างคล้ายรูปสลักนี้ มีริ้วรอยแผลเป็นมากมาย บ่งบอกได้ถึงภาระหน้าที่และความรับผิดชอบซึ่งมีมาแต่ไหนแต่ไรนิ้วเรียวยาวปลด

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่5 รู้ได้อย่างไร 2

    ทหารอีกคนเดินขึ้นหน้ามาเมื่อได้ยินวาจาเช่นนั้น สีหน้าของเขาฉายแววเข้มงวด หัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างไม่เชื่อคำเท่าใด“ท่านอ๋องมีรับสั่งให้หัวหน้าทหารไปเรียกใช้คณิกาหรือ?”“เจ้าค่ะ” ลี่เซียนตอบตามสัตย์ “มีหัวหน้าทหารคนหนึ่งไปแจ้งกับท่านแม่ตั้งแต่ยามอิ่วสี่เค่อ และข้าคือผู้ถูกเลือก”นางกล่าวพร้อมแย้มยิ้มเฉิดฉายวาดไปถึงดวงตา ทั้งพิลาสล้ำและกระจ่างใสดุจดวงดารารัตติกาลเหมันต์ แลดูพราวระยับจับจิตจับใจ งดงามอย่างมากแม่นางน้อยไม่รู้ตัวเลยว่า ตนเองเป็นสาวงามเหนือใคร สามารถละลายหัวใจผู้คนที่พบเห็นได้ปานใด ทหารนายนั้นที่ไม่เชื่อถือกันในคราแรกพลันสติเหม่อลอย สองตาเริ่มเหม่อมอง พลางปลดความระแวดระวังลงหลายส่วน ด้วยเข้าใจว่าคณิกาที่สะคราญโฉมถึงเพียงนี้ ท่านอ๋องคงต้องการปลดปล่อยจริงๆ เป็นแน่บุรุษด้วยกันย่อมเข้าใจทว่าเขายังไม่ทันเอ่ยปากอนุญาตให้สาวงามเดินเข้าไปจังหวะนั้น ...ทหารคนแรกที่บังเกิดรักแรกพบเพราะรอยยิ้มดุจฟ้าประทานของลี่เซียน เริ่มแปรเปลี่ยนสายตาข่มขวัญเป็นสายตากรุ่มกริ่ม เขาเบี่ยงหอกออกจากด้านหน้าของสาวงามมาถือแนบที่ลำตัว เดินประชิดเข้ามา หรี่ตาเล็กน้อย ยกยิ้มยียวนอึดใจชายผู้นี้พลันยื่นปลาย

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่5 รู้ได้อย่างไร 1

    เรือนพักส่วนพระองค์ของรุ่ยอ๋องตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศเหนือของค่ายทหารแม่นางน้อยลี่เซียนถูกผู้ดูแลพาเรือนร่างอรชรในอาภรณ์บางพลิ้วสีชมพูอ่อนหวานมายืนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าประตูเรือนของท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ โดยมีเย่เสียตามห่วงใยไม่ห่าง ก่อนจะถูกผู้ดูแลฉุดกระชากลากตัวออกไปอีกทางก่อนจากกันเย่เสียยังพินิจลี่เซียนโดยละเอียดหัวจรดเท้า ดวงตาทอประกายวาววับแล้วเอ่ยคำด้วยสีหน้าจริงจังอีกว่า“เจ้างดงามถึงเพียงนี้ ท่านอ๋องต้องพึงใจมากเป็นแน่ หากเป็นไปได้จงทำให้พระองค์ลุ่มหลง ต่อไปย่อมมีชีวิตสงบสุข สมปรารถนาทุกประการ”กล่าวจบก็ยื่นน้ำมันหอมชนิดหนึ่งใส่มือให้ลี่เซียนทั้งยังกระซิบคำเสียงเครียดว่ามันคือยาวิเศษใช้เพื่อการณ์นี้หวังว่าจะใช้ได้ผลกับอ๋องปีศาจเช่นเขาผู้นั้นลี่เซียนเพ่งพิศน้ำมันหอมในมืออย่างละเอียด นางเอียงหน้าน้อยๆ ทำความเข้าใจถึงจุดประสงค์ของเย่เสียดวงเนตรกลมโตดำขลับทอประกายพร่างพราวทันใด เมื่อเข้าใจได้กระจ่างแท้จริงมันคือสิ่งที่ใช้สะกดจิตวิญญาณของชายผู้นั้นให้โปรดปรานนางนั่นเอง หากนางทำให้เขาโปรดปรานได้สำเร็จ อาจมีหนทางกลับหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ดั่งใจปรารถนาเมื่อใคร่ครวญเสร็จสรรพ มือขาวอ่อนน

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่4 ผู้มีพระคุณ4

    หลังจากผู้คุมหอได้ครุ่นคิดลึกซึ้งนางรีบเอ่ยไปทางลี่เซียน“เจ้านั่นล่ะไป”กล่าวจบไม่รอช้า รีบชี้นิ้วสั่งให้ผู้ดูแลคนหนึ่งพาลี่เซียนไปแต่งหน้าเติมชาดเพิ่มอีกสักหน่อย เปลี่ยนชุดด้วยจึงจะดีในใจนางคิดว่าอ๋องทมิฬที่ใคร ๆ ต่างหวาดกลัวหวั่นเกรงอาจพึงใจเด็กน้อยนุ่มนิ่มไม่ประสาก็เป็นได้ซวงอี๋มองลี่เซียนด้วยสายตาฉายรอยผิดหวังรุนแรง พริบตาก็รีบเก็บอาการได้แนบเนียน นางนิ่งเงียบ ไม่ต่อความอีกเย่เสียเห็นลี่เซียนเสนอตัวเช่นนั้นก็รีบเดินตามแผ่นหลังบอบบางของแม่นางน้อยเข้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เอ่ยกระซิบว่า“จะดีหรือลี่เซียน ที่ข้าช่วยเหลือเจ้า ให้ข้าวให้น้ำ มิใช่ว่าจะทวงบุญคุณโดยการให้เจ้าไปเสี่ยงตายแทนข้าหรอกนะ”เด็กสาวนิ่งฟังเสียงทัดทานพลางมองตนเองในคันฉ่อง ปล่อยให้ผู้ดูแลที่เป็นหญิงวัยกลางคนจัดแต่งทรงผมและแต่งหน้าเติมชาดอย่างตั้งใจนางเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองชอบแต่งกายงดงามเช่นนี้เหลือเกิน ไม่ต้องใส่แค่เสื้อคลุมตัวยาวสีขาวไร้สีสัน ม้วนผมทรงมวยก้วน[3] ปราศจากเครื่องประดับเหมือนเมื่อก่อนตอนอยู่ผิงอันระหว่างคิดในใจเช่นนั้นยังมองสบตากับเย่เสียในคันฉ่อง พลางคลี่ยิ้มเฉิดฉันที่แสนจะจริงใจส่งให้เย่เสียคือผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status