Home / รักโบราณ / พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ / เรียกข้าว่าซานซาน 1

Share

เรียกข้าว่าซานซาน 1

Author: LiHong
last update Huling Na-update: 2025-02-02 16:27:59

สตรีชุดครามค่อยๆ เดินก้าวขาอย่างยากลำบาก

ร่างกายของชิงหลินเป็นสตรีนางน้อยที่แสนจะธรรมดา กำลังวังชาอันใดก็ไม่มี ถูกสามีเคี่ยวกรำเมื่อคืนจึงอ่อนปวกเปียกไปหมด ซานซานจึงเดินไปสูดปากไป เจ็บตรงหว่างขาไม่เบา

หลังจากสำรวจภายในห้องและตัวเรือนจนทั่วก็ตัดสินใจเดินออกมาด้านนอก

บ้านหลังนี้ปลูกสร้างด้วยไม้ไผ่ ตั้งอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน ด้านขวาของตัวบ้านติดกับลำธาร ด้านซ้ายติดชายป่า ด้านหน้าเป็นลานกว้าง เต็มไปด้วยต้นหญ้ารกทึบ เว้นทางไว้เดินเล็กน้อย

หญิงสาวออกมาที่ลานหน้าบ้าน เดินเยื้องไปทางขวาอีกหลายก้าว เห็นสามีหมาดๆ กำลังนั่งตกปลาอยู่ริมลำธาร

นางหรี่ตามอง ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปหา

เมื่อซานซานเดินมาถึงร่างโค้งงอที่นั่งตกปลาเงียบเชียบ จึงได้สังเกตเขาชัดเจน

ประสบการณ์อันโชกโชนของนางก่อนตายด้วยฝีมือของอาจารย์ ทำให้สังเกตความผิดปกติบางประการจากสามี

กระดูกที่ผิดรูปของเขา มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!

การที่ซานซานสามารถฝึกวิชามารจนแตกฉานเมื่อชาติที่แล้วได้นั้น ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับทุกส่วนของร่างกายจึงไม่ด้อย

ถึงแม้นางจะมาเข้าสิงร่างของชิงหลินที่ไม่เคยฝึกวิชายุทธ์ใดๆ หากแต่สมองของนางล้วนจดจำเคล็ดวิชาได้ทั้งหมด สายตายังคงมีความเฉียบคมในเรื่องเล็กน้อยเกี่ยวกับโครงสร้างร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์ ในใจจึงคิดอีกว่า

สามีของนางมิได้พิการนี่นาแค่อัปลักษณ์ไปหน่อยเท่านั้นเอง หึหึ!

หญิงสาวหัวเราะในใจ ก่อนจะย่อกายก้มมองชายผู้เป็นสามี เห็นเขาเหลือบสายตามองมาอย่างเย็นชาก็หาได้นำพาไม่ เพียงนั่งลงช้าๆ ที่ข้างกายเขา

สังเกตเห็นสีหน้าของเขาเรียบเฉย ทว่าใบหูกลับแดงก่ำ นัยน์ตายังมีแววละอายเจือจางอยู่ ก็ยิ่งจ้องมองไม่มีเกรงใจ

ซานซานพินิจสามีเพียงครู่ก็ดึงสายตากลับแล้วมองไปทางลำธารอย่างใช้ความคิด

นางควรปลอบใจสามีเสียหน่อย ที่เขาเสียความบริสุทธิ์ให้นางเมื่อคืน

ครู่หนึ่งจึงช้อนตามองชายข้างกาย เห็นสีหน้าคล้ายละอายแก่ใจของเขาเช่นนี้ จึงเอ่ยอย่างผ่าเผยเยี่ยงชาวยุทธ์ว่า

“ท่านอย่าได้กังวลใจ ตัวข้าไม่เป็นอะไรมาก แค่เจ็บตรงหว่างขาเล็กน้อย แต่เลือดออกมากหน่อยก็เท่านั้น”

จ้าวเหว่ยได้ฟังพลันชะงัก สีหน้าตะลึงงันชัดเจน

ซานซานยังเอ่ยต่ออย่างไม่ละอายต่อฟ้าดิน

“ข้าจะบอกอะไรให้ ท่านไม่ควรบังคับขืนใจสตรีเช่นนั้น และยิ่งไม่ควรมีความสุขคนเดียว เรื่องแบบนี้ต้องแบ่งปัน ท่านสุขข้าสุขพร้อมกันถึงจะถูกต้อง ต่อไปหากต้องการร่วมเตียงยังต้องทำอย่างนุ่มนวลเอาใจใส่ แล้วข้าก็จะให้ความร่วมมือท่านเต็มที่ เข้าใจไหม? ไม่ต้องข่มเหงกันเช่นนี้”

คนฟังประโยคนี้ถึงกับสำลักลมหายใจ ก่อนขมวดคิ้วปรายตามองสตรีข้างกายนิ่งๆ รอฟังว่านางจะพูดอะไรกันแน่

ซานซานยกยิ้มแล้วกล่าวอีกครา “ข้าขอให้ท่านรู้เอาไว้ ว่าต่อแต่นี้ไปท่านเป็นคนของข้าแล้ว ข้าย่อมต้องดูแลคนของตัวเองเป็นอย่างดี”

ก่อนตายแล้ววิญญาณมาสิงร่างนี้ นางมีสมุนในอาณัติให้ปกครองมากมาย สมุนของนางล้วนอัปลักษณ์เยี่ยงนี้ การดูแลคนเพียงหนึ่งเดียวทั้งยังเป็นสามี ย่อมง่ายดายยิ่งกว่ามากนัก

ยามเอ่ยวาจาฝ่ามือน้อยๆ ยังยกขึ้นมาตบเบาๆ ที่หน้าอกตนเอง แสดงออกอย่างสง่างามผ่าเผย มั่นใจมาก ซานซานสำทับอีกประโยคว่า “โปรดเชื่อใจข้า”

จ้าวเหว่ยมองสตรีตรงหน้าอึ้งงันด้วยคาดไม่ถึง

เมื่อคืนนางแสดงออกว่ารังเกียจกันมากมายปานนั้น ทว่าวันนี้กลับไม่เหลือเค้าความรู้สึกเดิม สายตาเดียดฉันท์เปลี่ยนเป็นกระจ่างใส ยังมีรอยยิ้มจริงใจเปิดเผย

นอกจากนางจะไม่แสดงออกว่ารังเกียจเขาเยี่ยงเมื่อคืน ยังไม่ถือสาหาความที่ถูกเขาขืนใจ

ดวงตาบุรุษฉายแววประหลาดใจ

ซานซานกล่าวเช่นนี้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทำบุรุษหนุ่มถึงกับเงียบงันกลายเป็นคนใบ้ไปแล้วจริงๆ ทั้งยังไม่รู้ตัวว่าร่างบอบบางของตนที่ถูกห่อหุ้มด้วยอาภรณ์สีคราม เผยผิวพรรณขาวละเอียดนวลเนียนที่พ้นสาบเสื้อตรงบริเวณลำคอมีริ้วรอยฝากรักเป็นจ้ำๆ รอบลำคอยังมีสีม่วงช้ำ แลดูน่าสงสารไม่เบา

ดวงตาบุรุษพลันไหววูบ

เมื่อคืนเขาถึงขั้นบีบคอนางเชียวหรือ?

พริบตานั้น เสมือนสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะ มิคาดว่าฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดจักทำสุภาพชนกลายเป็นปีศาจเช่นนี้   

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เทพโอสถ3

    เซียงซิ่นร่ายเวทเสกผลไม้รสเลิศหลายชนิดวางลงบนจานหยกขาวส่งให้ถังไห่เฉิงแล้วกล่าวต่อ “แต่สิ่งที่เหนือคาดการณ์คือครั้งที่ปรมาจารย์เซียนหย่งสือดึงวิญญาณของศิษย์พี่ซานซาน ยามนั้นกลับมีวิญญาณของสตรีนางน้อยติดร่างแหถูกดึงไปด้วย นางจึงต้องถูกขังอยู่ในกำไลหยกลายครามนานหลายร้อยปี ท้ายที่สุดยามนี้นางได้กลายเป็นเหรินเซียนผู้สูงส่งบนแดนมนุษย์ และพรหมจรรย์ของนางยังเป็นที่ต้องการของนักพรตนอกรีต”ถ้อยวาจาช่วงท้ายของชายชราชุดขาวทำถังไห่เฉิงรู้สึกร้อนรุ่มอย่างมิอาจควบคุม หัวใจดิ่งวูบทันใดเขาชะงักเล็กน้อยก่อนพยายามสงบสติอารมณ์ของตนลงแล้วเลื่อนป้านชาไปรินน้ำชาส่งให้ท่านผู้เฒ่าอีกครั้ง ก่อนนั่งฟังด้วยท่าทางนิ่งสงบดุจเดิม หากแต่แววตากลับสั่นไหวไม่หยุดแล้วเซียงซิ่นกล่าวต่อ “ใต้หล้าทั่วแดนย่อมมีคนดีคนชั่วปะปน นักพรตก็คน ยามฝึกฝนย่อมมีเลวร้ายแอบแฝงมิอาจข้ามผ่านได้ เช่นนั้นเพื่อความปลอดภัยแห่งเหรินเซียน ข้าจึงมีหน้าที่มารับนางกลับไปยังที่ที่นางจากมา”ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววดุดัน ถังไห่เฉิงขบกรามกรอด ริมฝีปากบางเม้มแน่นเป็นเส้นตรงนี่ล่ะ! ลางสังหรณ์ที่เขากำลังกลัวเซียงซิ่นยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่มด้วยท่าทางสำรวมเยือก

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เทพโอสถ2

    ถังไห่เฉิงไม่อยากเสียเวลาจึงคิดเอ่ยคำโดยไม่อ้อมค้อม ทว่ายังไม่ทันเปิดปาก กลับได้ยินถ้อยวาจาทุ้มนุ่มประดุจเสียงสวดมนต์ที่แฝงความปราณีดังขึ้นก่อน“ข้ารอเจ้าอยู่เป็นนาน”อ๋องหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย นึกแปลกใจนัก “ท่านรอข้า?” เขาหรี่ตา “คงมิใช่รอจับข้าไปเป็นนักบวชเพื่อล้างบาปชำระจิตใจ”บางคราบุตรชายมักพลั้งเผลอแสดงนิสัยเฉกเช่นมารดา ถังไห่เฉิงไม่เคยมีความคิดละทางโลกทิ้งครอบครัว“แน่นอนว่ามิใช่เช่นนั้น” ภายใต้กิริยาสำรวมเยือกเย็น เซียงซิ่นค่อยๆ ลืมตาช้าๆ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งแต่กังวานนุ่มนวล “ข้าแค่ทำตามคำสั่งของอาจารย์เซียนหย่งสือ”การได้พบผู้สูงส่งเหนือเมฆเป็นเรื่องยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร หากแต่การได้พบโดยง่ายย่อมมีนัยลึกลับซับซ้อนถังไห่เฉิงขมวดคิ้วงุนงง ยังไม่เข้าใจ ได้ยินชายชราชุดขาวกล่าวต่อด้วยกระแสเสียงดุจเดิม“เจ้ามีหน้าที่ของเจ้า ส่วนข้าย่อมมีหน้าที่ของข้า”เรียวคิ้วยิ่งผูกปม อ๋องหนุ่มยังคงคาใจอยู่ดี“หน้าที่เราสอง มิน่าเกี่ยวข้องกันกระมัง”ชายชราไม่ตอบ เพียงขยับนิ้วเบาๆ หนึ่งคราชั่ววูบต่อมาพลันเกิดลำแสงสีขาวสบายตาโอบล้อมรอบกายแกร่งของอ๋องหนุ่ม ลี่เซียนค่อยๆ ลอยขึ้นสูงออกจ

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เทพโอสถ1

    เจ้าม้าศึกมีกำลังวังชาเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะไอเซียนที่สัตว์เดรัจฉานสัมผัสได้โดยแท้ถังไห่เฉิงจึงควบม้าคู่ใจพุ่งทะยานปราดเปรียวยิ่งกว่าเดิม ทั้งรวดเร็วราวฟ้าผ่าไม่มีเสียเวลาแม้พักผ่อนเส้นทางแม้คดเคี้ยวและยาวไกลจึงมิใช่อุปสรรคอันใดส่วนปรมาจารย์เซียงซิ่นก็มิใช่ว่าคนเช่นรุ่ยอ๋องจะไม่รู้จักท่านผู้นี้มุ่งบำเพ็ญเพียรสูงส่ง ละทางโลก ใฝ่ทางธรรม ไม่ประสงค์วุ่นวายกับมนุษย์คนใดทั้งนั้น ผู้คนใต้หล้าล้วนรู้กันดีถังไห่เฉิงไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเขาที่ฝักใฝ่ด้านมืดใช้ชีวิตกับการเข่นฆ่าล่าสังหารจักต้องเดินทางไปหาปรมาจารย์เซียงซิ่น ผู้ที่มีฉายาเทพโอสถสูงส่งเหนือเมฆาเช่นนี้คนผู้นั้นเปรียบประดุจสีขาวพิสุทธิ์ไร้มลทินอย่างสิ้นเชิง ส่วนตัวเขาคือสีดำอย่างแท้จริง ทั้งแปดเปื้อนความชั่วร้ายขั้นสุด อีกอย่าง...ปรมาจารย์ผู้สูงส่งใช่ว่าอยากพบก็ได้พบเสียเมื่อไหร่อ๋องหนุ่มครุ่นคิดพลางก้มลงมองร่างนุ่มซีดขาวตรงหน้า เรือนกายของนางทอดนิ่งอยู่ในอ้อมแขนเพื่อลี่เซียนแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดเขาย่อมพร้อมเสี่ยง ขอเพียงนางฟื้นขึ้นมา มิใช่หลับใหลคล้ายตายจากไปเช่นนี้หลายวันที่เร่งรุดเดินทางไกลทำให้เหนื่อยล้าเป็นธรรมดา ทั้

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   สมบัติล้ำค่า2

    ชั่วครู่ต่อมา...ศิษย์พี่ใหญ่ของกลุ่มจึงถูกศิษย์น้องรองและศิษย์น้องเล็กส่งสายตากดดันประหนึ่งเอามีดมาจ่อลำคอว่าเชิญท่านพูดก่อน...ศิษย์พี่ใหญ่จึงกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกแล้วเริ่มเอ่ยคำ“ทูลท่านอ๋อง สถานที่แห่งนี้นับว่าศักดิ์สิทธิ์อย่างที่สุด เหมาะแก่การฝึกฌานเร่งพลังวัตรเสริมการโคจรลมปราณเพื่อบำเพ็ญตบะ เพียงแต่ยังต้องใช้ระยะเวลาเนิ่นนาน เป็นไปได้ว่าอาจารย์ซุนยวี่ หวังฝึกทางลัดโดยใช้วิชาต้องห้าม”อ๋องหนุ่มแค่นถามเสียงเย็น “วิชาอะไร?”เห็นศิษย์พี่ใหญ่ตัวสั่นปานนั้น ศิษย์น้องเล็กจึงลอบหยิกแขนศิษย์พี่รองพร้อมส่งสายตาสื่อความนัยว่าเชิญท่านพูดต่อศิษย์คนรองผู้นี้ย่อมไม่ทำให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องต้องผิดหวัง เขานึกถึงภาพบัดสีก่อนหน้านี้ จึงรีบตอบความจริงโดยพลัน“หนึ่งในวิชาต้องห้ามคือวิชาในคัมภีร์เสพสังวาสพ่ะย่ะค่ะ เพราะต้องใช้หญิงสาวบริสุทธิ์เท่านั้น พรหมจรรย์ช่วยทำให้นักพรตมีอายุยืนนาน ทั้งรูปโฉมหล่อเหลางดงามตลอดกาล หากว่าเป็นหญิงสาวทั่วไปจักเสพสมที่ใดก็ได้ ทว่าอาจารย์กลับเลือกที่นี่กับหญิงงามผู้นี้...”เขากวาดสายตามองไปทางเปลวเพลิงแล้วรีบกล่าวต่อ “ทั้งยังใช้ศาสตราวุธเหนือชั้น มนตราม่านพลัง ค

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   สมบัติล้ำค่า1

    ปราณบริสุทธิ์ที่แผ่ซ่านทั่วกายแกร่งของถังไห่เฉิงเพราะลี่เซียนถ่ายทอดให้เพื่อใช้ปกป้องภยันตรายจากบรรดาภูตผีปีศาจนั้นไม่ผิด ทว่าท้ายที่สุดกลับเป็นการช่วยลี่เซียนให้พ้นภัยในเสี้ยวเวลาเพราะไอเซียนกับปราณบริสุทธิ์ย่อมสื่อถึงกัน ถังไห่เฉิงที่อยู่นอกถ้ำจึงรับรู้ได้ทันทีว่าลี่เซียนกำลังปรากฏกายอยู่ใกล้ๆเสียงกรีดร้องของนางเพียงชั่ววูบเดียวทำเขาเหลียวหลังวิ่งกลับเข้าถ้ำอย่างไม่ต้องคิดอะไร กลไกใดๆ ล้วนมิอาจสกัดกั้นความห่วงหาที่กำลังปะทุเดือดพล่านสัญชาตญาณเป็นสิ่งที่ถังไห่เฉิงเชื่อมั่นเสมอ แม้ไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใด แต่ทันทีที่เห็นนางผลักเจ้าซุนยวี่จนกระเด็นเช่นนั้น เขาย่อมต้องฆ่ามันก่อนค่อยสอบถามทีหลังเปลวเพลิงยังคงลุกโหม มองเห็นเศษชิ้นส่วนร่างกายของซุนยวี่กำลังถูกไฟเผาผลาญจนมอดไหม้ไม่เหลือซากกลิ่นสาบสางคาวคลุ้ง บรรยากาศรอบกายรู้สึกถึงความวังเวงอย่างประหลาด เมื่อหลับตานิ่งฟังยังได้ยินเสียงร่ำร้องโหยหวนดังเล็ดลอดออกมาจากมีดสั้นสีดำอักขระโบราณมีดสั้นเล่มนี้ผ่านการร่ายคาถาอาคมเหนือชั้นมาอย่างดีโดยปรมาจารย์สูงส่งเหนือเมฆผู้หนึ่ง ซึ่งมารดาของอ๋องหนุ่มเป็นผู้มอบให้อีกที อาวุธร้ายทำลายล้างที่ติดกา

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่37 ชั่วช้าสามานย์3

    ทุกคนเบิกตาถลน ถามดังลั่น “อาจารย์ ท่านทำอะไร?”ซุนยวี่ชะงักงันทันใด เสกม่านพลิ้วไหวปกปิดทันที“ออกไป!”คำสั่งนั้นคล้ายสายลมโชยวูบไม่เข้าหูแม้แต่น้อยแม้นม่านคลี่คลุมปิดกั้นจนมิด ทว่าภาพบัดสีที่เห็นเมื่อครู่ทำให้บัดนี้นักพรตน้อยทุกคนขาแข็งไปแล้วก้าวออกไปมิได้สักคน“อาจารย์! ท่าน...”สุ้มเสียงวุ่นวายทำมือที่กำลังปลดกางเกงชะงักงันอีกคราและนั่นคือเสี้ยวเวลาแห่งเหรินเซียนโดยแท้ สตรีผู้มีสติเหลือเพียงน้อยนิดได้มีโอกาสฮึดสู้สุดชีวิตทันทีลี่เซียนปล่อยพลังปราณสายหนึ่งกระแทกซุนยวี่อย่างแรง จนร่างแกร่งของเขาลอยไปกระแทกกับผนังถ้ำดังอั่กนางรู้สึกรังเกียจชายผู้นี้ วงแขนของเขาน่าขยะแขยงสิ้นดีหญิงสาวยกมือสะบัดอีกครา ก่อเกิดม่านพลังพุ่งใส่ซุนยวี่ จนร่างของเขาลอยตัวขึ้นแล้วตกกระแทกพื้นดังอึกหากแต่แค่นี้ไหนเลยจะคณามือนักพรตวิชาแก่กล้าปลายเท้าซุนยวี่ยังคงยืนหยัดมั่นคง สองตาหลุบลงมองพื้นหินที่ถูกพลังปราณครูดเป็นทางยาว เขาเหยียดยิ้มมุมปากอย่างไม่อนาทรร้อนใจ ค่อยๆ เดินกลับไปหาคนงามที่ปล่อยพลังเฮือกสุดท้ายก่อนนอนทอดกายระหงอ่อนนุ่มรอเขาอยู่บนแท่นหินยามนี้ลี่เซียนหมดแรงแล้วจริงๆ เนื่องจากแสงเรืองรองของ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status