สตรีชุดครามค่อยๆ เดินก้าวขาอย่างยากลำบาก
ร่างกายของชิงหลินเป็นสตรีนางน้อยที่แสนจะธรรมดา กำลังวังชาอันใดก็ไม่มี ถูกสามีเคี่ยวกรำเมื่อคืนจึงอ่อนปวกเปียกไปหมด ซานซานจึงเดินไปสูดปากไป เจ็บตรงหว่างขาไม่เบา
หลังจากสำรวจภายในห้องและตัวเรือนจนทั่วก็ตัดสินใจเดินออกมาด้านนอก
บ้านหลังนี้ปลูกสร้างด้วยไม้ไผ่ ตั้งอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน ด้านขวาของตัวบ้านติดกับลำธาร ด้านซ้ายติดชายป่า ด้านหน้าเป็นลานกว้าง เต็มไปด้วยต้นหญ้ารกทึบ เว้นทางไว้เดินเล็กน้อย
หญิงสาวออกมาที่ลานหน้าบ้าน เดินเยื้องไปทางขวาอีกหลายก้าว เห็นสามีหมาดๆ กำลังนั่งตกปลาอยู่ริมลำธาร
นางหรี่ตามอง ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปหา
เมื่อซานซานเดินมาถึงร่างโค้งงอที่นั่งตกปลาเงียบเชียบ จึงได้สังเกตเขาชัดเจน
ประสบการณ์อันโชกโชนของนางก่อนตายด้วยฝีมือของอาจารย์ ทำให้สังเกตความผิดปกติบางประการจากสามี
กระดูกที่ผิดรูปของเขา มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!
การที่ซานซานสามารถฝึกวิชามารจนแตกฉานเมื่อชาติที่แล้วได้นั้น ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับทุกส่วนของร่างกายจึงไม่ด้อย
ถึงแม้นางจะมาเข้าสิงร่างของชิงหลินที่ไม่เคยฝึกวิชายุทธ์ใดๆ หากแต่สมองของนางล้วนจดจำเคล็ดวิชาได้ทั้งหมด สายตายังคงมีความเฉียบคมในเรื่องเล็กน้อยเกี่ยวกับโครงสร้างร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์ ในใจจึงคิดอีกว่า
สามีของนางมิได้พิการนี่นาแค่อัปลักษณ์ไปหน่อยเท่านั้นเอง หึหึ!
หญิงสาวหัวเราะในใจ ก่อนจะย่อกายก้มมองชายผู้เป็นสามี เห็นเขาเหลือบสายตามองมาอย่างเย็นชาก็หาได้นำพาไม่ เพียงนั่งลงช้าๆ ที่ข้างกายเขา
สังเกตเห็นสีหน้าของเขาเรียบเฉย ทว่าใบหูกลับแดงก่ำ นัยน์ตายังมีแววละอายเจือจางอยู่ ก็ยิ่งจ้องมองไม่มีเกรงใจ
ซานซานพินิจสามีเพียงครู่ก็ดึงสายตากลับแล้วมองไปทางลำธารอย่างใช้ความคิด
นางควรปลอบใจสามีเสียหน่อย ที่เขาเสียความบริสุทธิ์ให้นางเมื่อคืน
ครู่หนึ่งจึงช้อนตามองชายข้างกาย เห็นสีหน้าคล้ายละอายแก่ใจของเขาเช่นนี้ จึงเอ่ยอย่างผ่าเผยเยี่ยงชาวยุทธ์ว่า
“ท่านอย่าได้กังวลใจ ตัวข้าไม่เป็นอะไรมาก แค่เจ็บตรงหว่างขาเล็กน้อย แต่เลือดออกมากหน่อยก็เท่านั้น”
จ้าวเหว่ยได้ฟังพลันชะงัก สีหน้าตะลึงงันชัดเจน
ซานซานยังเอ่ยต่ออย่างไม่ละอายต่อฟ้าดิน
“ข้าจะบอกอะไรให้ ท่านไม่ควรบังคับขืนใจสตรีเช่นนั้น และยิ่งไม่ควรมีความสุขคนเดียว เรื่องแบบนี้ต้องแบ่งปัน ท่านสุขข้าสุขพร้อมกันถึงจะถูกต้อง ต่อไปหากต้องการร่วมเตียงยังต้องทำอย่างนุ่มนวลเอาใจใส่ แล้วข้าก็จะให้ความร่วมมือท่านเต็มที่ เข้าใจไหม? ไม่ต้องข่มเหงกันเช่นนี้”
คนฟังประโยคนี้ถึงกับสำลักลมหายใจ ก่อนขมวดคิ้วปรายตามองสตรีข้างกายนิ่งๆ รอฟังว่านางจะพูดอะไรกันแน่
ซานซานยกยิ้มแล้วกล่าวอีกครา “ข้าขอให้ท่านรู้เอาไว้ ว่าต่อแต่นี้ไปท่านเป็นคนของข้าแล้ว ข้าย่อมต้องดูแลคนของตัวเองเป็นอย่างดี”
ก่อนตายแล้ววิญญาณมาสิงร่างนี้ นางมีสมุนในอาณัติให้ปกครองมากมาย สมุนของนางล้วนอัปลักษณ์เยี่ยงนี้ การดูแลคนเพียงหนึ่งเดียวทั้งยังเป็นสามี ย่อมง่ายดายยิ่งกว่ามากนัก
ยามเอ่ยวาจาฝ่ามือน้อยๆ ยังยกขึ้นมาตบเบาๆ ที่หน้าอกตนเอง แสดงออกอย่างสง่างามผ่าเผย มั่นใจมาก ซานซานสำทับอีกประโยคว่า “โปรดเชื่อใจข้า”
จ้าวเหว่ยมองสตรีตรงหน้าอึ้งงันด้วยคาดไม่ถึง
เมื่อคืนนางแสดงออกว่ารังเกียจกันมากมายปานนั้น ทว่าวันนี้กลับไม่เหลือเค้าความรู้สึกเดิม สายตาเดียดฉันท์เปลี่ยนเป็นกระจ่างใส ยังมีรอยยิ้มจริงใจเปิดเผย
นอกจากนางจะไม่แสดงออกว่ารังเกียจเขาเยี่ยงเมื่อคืน ยังไม่ถือสาหาความที่ถูกเขาขืนใจ
ดวงตาบุรุษฉายแววประหลาดใจ
ซานซานกล่าวเช่นนี้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทำบุรุษหนุ่มถึงกับเงียบงันกลายเป็นคนใบ้ไปแล้วจริงๆ ทั้งยังไม่รู้ตัวว่าร่างบอบบางของตนที่ถูกห่อหุ้มด้วยอาภรณ์สีคราม เผยผิวพรรณขาวละเอียดนวลเนียนที่พ้นสาบเสื้อตรงบริเวณลำคอมีริ้วรอยฝากรักเป็นจ้ำๆ รอบลำคอยังมีสีม่วงช้ำ แลดูน่าสงสารไม่เบา
ดวงตาบุรุษพลันไหววูบ
เมื่อคืนเขาถึงขั้นบีบคอนางเชียวหรือ?
พริบตานั้น เสมือนสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะ มิคาดว่าฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดจักทำสุภาพชนกลายเป็นปีศาจเช่นนี้
ดินแดนใต้หล้าแบ่งแยกหลากแคว้นหลายชนเผ่า ปกครองด้วยผู้นำของแต่ละพื้นที่ตามแบบวิถีของตนเองแผ่นดินใหญ่ที่มีอำนาจเหนือกว่ามักปกครองโดยบุคคลอันถูกเรียกขานว่าฮ่องเต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นโอรสสวรรค์ ส่วนแผ่นดินผืนเล็กผืนน้อยมักจะปกครองกันเองด้วยหัวหน้าเผ่าหรืออ๋องศักดินา แต่ยังคงขึ้นตรงกับฮ่องเต้ของแผ่นดินใหญ่ที่แข็งแกร่งกว่าทว่านอกเหนือจากดินแดนเหล่านั้นแล้ว ยังมีดินแดนหนึ่งซึ่งอยู่เหนือกว่าอีกขั้น นั่นก็คือดินแดนแห่งการบำเพ็ญเพียรปรมาจารย์เซียนหย่งสือ คือผู้ละแล้วซึ่งเส้นทางนองเลือดทางโลก หลุดพ้นจากเส้นทางสายมาร หันเหไปเลือกหนทางแห่งเซียน บำเพ็ญเพียรตบะสูงส่งจนบรรลุแจ้งเห็นจริงทุกสรรพสิ่งท่านผู้นี้คือภูผาที่แข็งแกร่งผงาดกล้าในใต้หล้า มั่นคงยิ่งกว่าภูเขาไท่ซานและยิ่งโหดร้ายกว่าผู้ใดทั้งหมดเมื่อครั้งที่เซียนหย่งสือลงทัณฑ์สั่งสอนศิษย์เอกนามว่า ซานซาน ยามนั้นเขามิอาจล่วงรู้ว่าพลังทำลายล้างมหาศาลในวิชาดูดวิญญาณได้บังเอิญกระชากดวงจิตของเซียนน้อยตนหนึ่งติดร่างแหไปด้วยเพราะวิชาดูดวิญญาณของเซียนหย่งสือ ดวงจิตอันเปราะบางของเซียนน้อยจึงถูกกระชากออกจากกายที่ปล่อยวาง ได้ยินเพียงประโยคยามปลิดปลิ
โปรดติดตามเซตรักไร้วาจาภาคต่อจากเรื่อง พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจบอกเลยว่า ลูกๆ ของซานซาน แซ่บทุกคน...เหย่หนิวร้อนแรงจริงๆ ลูกดกเหลือเกิน********ภาครุ่นลูกของ ‘พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ’ อันประกอบไปด้วยเรื่องราววุ่นวายสายยุทธภพของพี่หญิงใหญ่อย่างถังลู่หลิ่ง เรื่องราวความรักใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสาผสมผสานความดิบเถื่อนเย็นชาของจอมทัพอย่างองค์ชายรองถังไห่เฉิง และเรื่องราวความรักฉ่ำหวานที่น่าค้นหาและจับตาเฝ้ามองฉบับวังหลวงขององค์ชายใหญ่ผู้เป็นถึงฮ่องเต้องค์ปัจจุบันถังไท่หลินบุตรธิดาทั้งสามคนของซานซานและถังจ้าวเหว่ยจากพยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจสู่รักไร้วาจานี้จะน่ารักกลมกล่อมและลึกซึ้งตรึงใจเพียงใด รอให้ทุกท่านได้พิสูจน์อย่างมีความสุขค่ะด้วยรักและหวังดี**********รุ่นลูกของซานซาน คลิก>>อ๋องทมิฬคำเตือนนิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงทุกตัวอักษรเกิดจากจินตนาการทั้งหมดสื่อถึงความรักของคนในครอบครัวไม่มีการช่วงชิงบัลลังก์ ไม่มีพี่น้องเข่นฆ่ากันเองไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับตำนานที่มีอยู่จริงและไม่อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านขอให้ทุกท่านมีความสุข********คำโปรย อ๋องทมิฬ“ไม่สำคัญว
กระทั่งเข้าปีที่สิบหกแห่งการครองราชย์ของจ้าวเหว่ย ยามที่องค์ชายใหญ่ถังไท่หลินมีอายุสิบห้าปี ถูกเลือกให้เป็น องค์รัชทายาท ตามความเห็นเป็นเอกฉันท์จากพี่น้องชายหญิง โดยมีบิดามารดานั่งฟังตาปริบๆ มิอาจทัดทานหรือออกความเห็นยังมีขุนนางทั้งหลายที่สนับสนุนเต็มที่ ด้วยไม่อาจส่งบุตรีของตนเข้าเป็นสนมของฮ่องเต้ได้ จึงเลือกส่งเข้าวังบูรพาแทนถังไท่หลินไม่เคยปฏิเสธสตรีนางใดเลยสักคน เขารับเอาไว้ทั้งหมดอีกครั้งที่จ้าวเหว่ยกับซานซานต้องมองตาปริบๆกาลเวลาเหมือนน้ำใสไหลริน สามปีต่อมา ...ฮ่องเต้ต้าถังประกาศราชโองการสละราชสมบัติให้รัชทายาท ถังไท่หลินระบบการปกครองรูปแบบดั้งเดิมกลับมาอีกครั้ง วังหลังของฮ่องเต้พระองค์ใหม่เต็มไปด้วยบุปผางดงามตระการตา ทว่าทุกนางกลับอยู่ในโอวาทของจักรพรรดิเป็นอย่างดี ถังไท่หลินเป็นฮ่องเต้ที่มีท่าทางสงบเยือกเย็น แววตาสุขุมนุ่มลึก แต่กลับเด็ดขาดเฉียบคม กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ทั้งยังไร้หัวใจที่สุดในใต้หล้า...หมู่บ้านผิงเหยียนริมธารแห่งเดิม บัดนี้มีเรือนไม้หลังงามสีทองอร่ามตั้งตระหง่านโอ่อ่า ถูกปลูกสร้างขึ้นมาทดแทนเรือนไผ่ริมธารหลังเดิมได้อย่างหรูหราอลังการยิ่งซานซานในชุดสีขาวเร
สามคนพ่อแม่ลูกได้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในพระราชวังหรูหราเป็นครอบครัวสูงศักดิ์ที่รักใคร่กลมเกลียวอย่างที่สุดทว่าไม่นาน...ลู่หลิ่งที่ฝึกวิชาจนเก่งกล้าได้ตัดสินใจออกท่องหล้า จึงเอ่ยปากขออนุญาตกับบิดามารดาด้วยสีหน้าจริงจัง ไม่เปิดโอกาสให้ใครโต้แย้ง ยังไม่ลืมชักชวนจ้าวสุนไปด้วยหลังจากนั้นลู่หลิ่งกับจ้าวสุนก็พากันหายเข้ากลีบเมฆ ซานซานได้แต่มองตามตาปริบๆ โบกผ้าเช็ดหน้าเบาๆ สงสัยอยู่ในใจมิคลายว่าบุตรสาวโตขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดจ้าวเหว่ยโอบกอดภรรยาแนบอกปลอบประโลมพัลวันห้องบรรทมหรูหรา...เตียงกว้างส่งเสียงครืดคราด ผสานเสียงครวญครางและลมหายใจกระชั้นถี่ ม่านมุ้งมิอาจสะกั้นความร้อนเร่าร่านราคะแห่งเพลิงปรารถนา ได้ยินเสียงกระซิบแตกพร่าที่ริมหูว่า“ซานซาน...”“หืม...”“เจ้าหยุดกินยาหรือยัง”พวกแก้มของซานซานแดงปลั่ง ริมฝีปากบวมช้ำถูกฟันขบกัดเล็กน้อย ดวงตาคู่งามหยาดเยิ้มหวานล้ำ เรือนผมคลี่สยาย ลมหายใจหอบกระเส่า นางตอบเสียงเบา “อืม...”“ดีมาก...” น้ำเสียงทุ้มต่ำเปี่ยมเสน่ห์ล้นทะลักดังขึ้น มรสุมพิศวาสพลันโหมกระหน่ำรอบแล้วรอบเล่า“ดีเหลือเกิน...”หลังจากนั้นเพียงเดือนครึ่ง ข่าวการตั้งครรภ์ของฮองเฮ
แท้จริงแล้วหญิงสาวได้ให้หยุนผิงกับจ้าวหมิงตามสืบจนล่วงรู้ตัวตนคนร้ายตัวจริงก่อนหน้านานแล้วทว่ายังไม่เปิดเผยต่อใครนางแค่รอให้พวกมันได้ใจ และก่อเหตุร้ายในที่สุดรอคอยให้บุคคลสำคัญแห่งต้าถังอ่อนแอที่สุดส่วนชาวยุทธ์เหล่านั้นที่ร่วมมือกับกบฏล้วนเป็นคนของหยุนผิง ที่แสร้งร่วมมือไปก่อนตามสถานการณ์รอตลบหลังอย่างชั่วช้า...แน่นอนว่าเรื่องนี้คนดีๆ คงไม่คิดทำ มีแต่นางมารอย่างซานซานเท่านั้นที่คิดได้เดิมทีโซวอ๋องไหนเลยจักเคยพ่ายแพ้ให้แก่ใครง่ายๆ เช่นนี้ ทุกศึกที่ผ่านมาค่อนชีวิตของเขาล้วนกำชัยทว่าเพราะตัวเขาที่ไม่ว่าจักโหดเหี้ยมต่อศัตรูเพียงใดยังไม่เคยคิดร้ายถึงขั้นเอาชีวิตของหลานชายเลยสักคน จ้าวเหวินรู้ถึงข้อนี้ดี จึงทำทีเข้าหาด้วยท่าทางไร้พิษภัย เป็นหลานชายผู้นอบน้อมเหมือนเช่นเคย แสดงตัวว่าต้องการร่วมรบปราบกบฏกับเสด็จอา ซึ่งยามนั้นยังอยู่ในช่วงที่คาดการว่าทรราชเป็นใครกันแน่ เป็นแม่ทัพหรืออำมาตย์คนใดนั่นจึงทำให้ชั่วขณะมื้ออาหารระหว่างอาหลาน โซวอ๋องถูกพิษสลายวิญญาณจากการร่วมจิบชา ส่วนจ้าวเหวินหนีไปได้ทางทิศใดมิอาจทราบช่วงเวลาเจ็บสาหัสเจียนตาย ย่างเท้าใกล้ประตูผีรอมร่อ ท้ายที่สุดโซวอ๋องกลับ
หลังจากจ้าวเหว่ยได้ขึ้นครองราชย์ อดีตฮ่องเต้ก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้น ไม่นานยังหายป่วยเป็นปลิดทิ้งนับเป็นไท่ซ่างหวงที่สมบูรณ์แข็งแรงผู้หนึ่ง จึงออกท่องเที่ยวไปทั่วหล้าประหนึ่งเป็นหนุ่มน้อยไร้เดียงสากระนั้น ยังไม่ลืมพาจ้าวสุนกับลู่หลิ่งออกท่องเที่ยวพร้อมกัน จนหลี่กุ้ยเฟยต้องนั่งกุมขมับ พร่ำบ่นเช้าค่ำถึงความซุกซนของสามีกับหลานสาวการเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจและการสละราชสมบัติ นับเป็นช่วงเวลาอันดีที่ซ้อนเร้นสิ่งเลวร้ายช่วงหนึ่งของทุกราชวงศ์ความวุ่นวายจึงก่อตัวขึ้นช่วงนี้ หรือกล่าวอีกทีก็คือกบฏทรราชฉวยโอกาสก่อเรื่องช่วงที่ฮ่องเต้องค์ใหม่เพิ่งประทับนั่งยังไม่มั่นคงคนผู้นั้นคือองค์ชายสี่ จ้าวเหวินร่วมมือกับองค์ชายรอง จ้าวหยางทั้งสองคือผู้ร้ายตัวจริงที่สวมรอยโซวอ๋องหมายจัดการจ้าวเหว่ย ด้วยพันธะสัญญาว่า หากจ้าวเหวินได้ยึดครองบัลลังก์ กลายเป็นโอรสสวรรค์ผู้มีอำนาจล้นฟ้า จ้าวหยางย่อมได้ยศคืน แล้วกลับมาสูงส่งเป็นอ๋องปกครองดินแดนบูรพาอันสมบูรณ์มั่งคั่งคลื่นใต้น้ำห่าใหญ่กำลังคืบคลานชอนไชรอซัดโหมกระหน่ำโดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ตัวสักคน...ยามที่จ้าวเหว่ยกำลังประชุมท้องพระโรงหลังจากถ่ายทอดคำสั่งเพื่อให้ขุนนางด