แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: ปลายฝนต้นหนาว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-27 22:39:27

พอเข้ามาถึงห้องที่บิดานอนพักรักษาตัวได้กลิ่นสมุนไพรอ่อนโชยมานาง มองหน้าบิดาผู้ที่โดนคนเป็นแม่เอาเปรียบมาตลอดที่นางกับพี่ชายเกิดมาด้วยความสงสารคนน่าตาซื่อๆแววตาที่มองมาที่นางดูอบอุ่นและเป็นห่วงในตัวบุตรสาว 

  "เย่วเอ๋อร์ลูกเป็นอย่างไรบ้างพ่อขอโทษที่ไม่สามารถปกป้องลูกของพ่อจากครอบครัวใหญ่ได้ อีกทั้งพ่อยังตกเขาจนได้รับบาดเจ็บหนักจึงพลอยให้โดนขับไล่ตัดขาดจากย่าของลูกอีก"  เสียงของบิดาเศร้าสร้อยยิ่งนัก

"ข้าหายดีแแล้วเจ้าค่ะท่านพ่ออย่าได้เป็นห่วงต่อจากนี้ถือว่าเราได้กตัญญูต่อพวกเขาจนหมดสิ้นแล้ว คนที่เห็นแก่ตัวขนาดนั้นท่านพ่ออย่าได้ไปใส่ใจห่วงใยพวกเขาอีกเลยเจ้าค่ะ ในเมื่อครอบครัวของเราโดนตัดขาดและไล่ออกมาเหมือนหมูเหมือนหมาแม้แต่ตำลึงยังไม่ให้มารักษาตัวสักอีแปะ ให้แค่ธัญยาพืชหยาบๆมาสามชั่งไม่คิดว่าพวกเราจะอดตายกับผ้าห่มบางๆ เสื้อผ้าติดตัวคนละสามชุดที่มีมาตั้งแต่ข้าโตมาไม่เคยได้มีชุดใหม่เหมือนลูกของครอบครัวของลุงใหญ่ มีปู่ที่ไม่เคยเอ่ยปากห้ามย่าเลยสักครั้งที่พวกเราโดนรังแกจนปางตาย ทั้งที่ครอบครัวของเราทำงานทุกอย่างเยี่ยงทาส ในเมื่อเราหลุดพ้นออกมาแล้วข้าอยากให้ท่านพ่อตรองดูให้ดีว่าที่ข้าพูดมานั้นถูกหรือไม่ จนข้าเกือบจะไม่ได้กลับมาหาพวกท่านเพราะลูกสาวของท่านลุงผลักข้าตกน้ำ ยังหาว่าเป็นความผิดของครอบครัวของพวกเราอีก ทั้งๆที่ท่านพ่อหาเนื้อให้พวกเขากินแทบจะทุกมื้อที่ขึ้นไปล่าสัตว์ พอท่านพ่อตกเขาย่าก็ไล่พวกเราออกจากบ้านและไม่ยอมให้หมอรักษาท่านพ่อ ท่านแม่ต้องไปคุกเข่าอ้อนวอนท่านหมอจนท่านสงสารเราพ่อลูกจึงรอดกลับมาได้เมื่อ คืนนี้ข้าได้ไปเยือนประตูปรโลกมาแล้วแต่ข้าโชคดีที่ท่านเทพเมตาสงสารให้พรให้หายจากการเจ็บป่วย"

นางพูดจบก็มองหน้าบิดากับพี่ชายดูว่าจะรูสึกยังไรเรื่องที่นางเล่าให้ฟัง

เซียวอี้ถังมองบุตรสาวด้วยความเสียใจมันเป็นเหมือนบุตรสาวเขาพูดมาทั้งหมด     

"พ่อขอโทษเย่วเอ๋อร์ที่พ่ออ่อนแอจนทำให้ครอบครัวของเราต้องถูกเอาเปรียบมาโดยตลอด เพราะคำว่ากตัญญูโง่ๆเหมือนที่ลูกบอกพ่อเกือบจะเสียลูกไปอย่างไม่มีวันหวนคืน ต้องขอบคุณท่านเทพเซียนที่เมตาเย่วเอ๋อร์ของ" พ่อเซียวอวี้ถังร้องไห้กอดบุตรสาวด้วยความเสียใจที่เกือบจะสูนเสียบุตรสาวไปไม่มีวันหวนคืน

"ท่านพ่ออย่าได้ร้องให้เสียใจอีกเลยนะเจ้าคะ ข้าขอโทษที่พูดกับท่านพ่ออย่างนั้นการที่เรากตัญญูไม่ใช้สิ่งที่ผิดแต่เราต้องกตัญญูให้ถูกคนด้วย กับคนที่ไม่เห็นค่าของเราเลยไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนเขาก็ไม่เห็นค่า เราก็ไม่ต้องกตัญญูโง่ๆต่อพวกเขาอีกที่ผ่านมาถือว่าเป็นบทเรียนให้พวกเราได้รู้ซึ่งถึงจิตใจของคน ที่แม้แต่คนในครอบครัวที่เราทุ่มเทให้ทั้งชีวิตก็ฆ่าเราในตายทั้งเป็นด้วยเช่นเดียวกันแต่สิ่งที่ลูกจะพาพวกท่านพาดูของวิเศษของลูกที่ท่านตาเทพให้ลูกในช่วงเวลาที่วิญญาณของลูกไปเห็นและเรียนรู้มาเจ้าค่ะ ลูกขอให้ทุกคนปิดเป็นความลับไปทั้งชีวิตของทุกคนได้ไหมเจ้าคะ" นางบอกกับทุกคนในครอบครัว

"ได้ลูกพ่อรับปาก"

"แม่ก็รับปากลูกเหมือนกัน" 

"พี่ใหญ่ก็รับปากน้องเล็กพี่ดีใจที่น้องสาวของพี่กลับมาหาครอบครัวของเรา" พี่ชายเอามือลูบผมน้องสาวด้วยความรักใคร่

"ท่านพ่อท่านแม่พี่ใหญ่หลับตาเจ้าค่ะ" นางเอามือจับทุกคน

พรึบ!!!!

"ลืมตาได้แล้วเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่พี่ใหญ่"     เย่วเย่วบอกทั้งสามคนให้ลืมตาพอเข้ามาในมิติเรียบร้อยแล้ว  นี้คือบ้านของนางที่ไร่ในภพเดิมในบ้านสามห้องนอนรวมห้องในคอนโดที่เพิ่มอีกหนึ่งเป็นสี่ห้อง สองห้องโถงแต่คนละส่วนกันด้านหลังเป็นสวนผลไม้ส้ม แอปเปิ้ล ลูกพลับต้นกาแฟ เรียกได้ว่านางมีครบแทบจะทุกอย่าง ลำใย ลิ้นจี้พืชผักทุกอย่างที่กินและขายได้ผลจากที่แต่ก่อนมีคนงานประจำที่ดูแลให้เป็นอย่างดีและมันเกิดใหม่ก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่มีวันหมด ด้านหลังที่มองยาวไปคือภูเขาหลายลูกเรียงรายไปอย่างสวยงามพอทุกคนลืมตาขึ้้นถึงกับอึ้งและตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า

"มันไม่ใช่ความฝันจริงๆใช่ไหมเย่วเอ๋อร์" เสียงมารดาถามอย่างไม่มั่นใจ

"มันคือเรื่องจริงเจ้าค่ะท่านแม่นี้คือสิ่งที่ตาเทพมอบให้กับข้ามาและสอนการทำงานการเรียนจนข้าเก่งกาจ ในที่นี้เวลาต่างกันมากข้าเรียนตั้งหกปีเลยนะเจ้าคะ ตั้งแต่ที่วิญญาณของข้าลอยออกจากร่างที่ตกน้ำนอนไม่ได้สติเจ้าค่ะท่านแม่"

"เอาละตอนนี้ไม่ต้องตกใจแล้วเจ้าค่ะ" ท่านพ่อนั่งที่โต๊ะแล้วด้วยการพยุงของพี่ใหญ่กับท่านแม่

"ตอนนี้ข้าจะไปนำอาหารมาให้ทุกคนได้กินก่อนแล้วนะเจ้าคะเราค่อยปรึกษากันอีกทีว่าจะทำอะไรต่อไปดีนะเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่  ไปกันเจ้าค่ะพี่ใหญ่ไปช่วยข้านำอาหารมาทาน ให้ท่านพ่อกับท่านแม่นั่งรอลูกที่นี้นะเจ้าคะวันนี้ลูกจะให้ทุกคนกินอิ่นนอนหลับในมิติของลูกเราออกไปเมื่อไรก็ได้ถ้ามีคนมาเรียกลูกจะรับรู้ทันที่พวกท่านอย่าได้กังวล"

เย่วเย่วบอกเอาไว้ก่อนเพราะมองหน้าของท่านแม่กลัวว่าจะมีคนมาที่บ้านของท่านยายตอนนี้นั้นเองและ

"ในนี้มันคนละเวลากันเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่ในนี้ทั้งวันข้างนอกพึ่งจะหนึ่งชั่วยามเองเจ้าค่ะท่านแม่"

นางบอกแล้วก็เดินนำหน้าพี่ชายเข้าไปที่ครัวนำของกินในตู้เย็น เลือกเอาข้าวต้มหมูเด้งออกมาให้บิดาถ้วยใหญ่และอาหารหลายอย่างออกมาให้พอสำหรับทุกคนนางสอนพี่ชายให้อุ่นอาหารรอ

นางนำถ้วยออกมาเอาไว้จนพอนางบอกจะพาบิดามารดาไปล้างหน้าเปลี่ยนชุดใหม่ก่อน ให้พี่ชายอุ่นอาหารตามที่นางสอนไปก่อนหน้าสองอย่าง พี่ใหญ่เข้าใจแล้วนางจึงพาท่านพ่อท่านแม่เข้าห้องนอนที่จะให้พวกท่านนอนพักในบ้านหลังนี้ พาเข้าห้องน้ำสอนการใช้ห้องน้ำและแปรงฟันล้างหน้ารวมทั้งใส่ชุดใหม่ที่นางนำมาให้ใส่ไปก่อน

ส่วนชุดเก่านางนำไปใส่เครื่องปั่นให้ใหม่ สอนการใส่เสื้อผ้าให้ทั้งสองคนแล้ว นางก็แว๊บมาหาพี่ชายและพาไปที่ห้องส่วนตัวสำหรับพี่ใหญ่สอนทั้งหมดแล้วนางก็ออกมาเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะตอนนี้ให้ทุกคน

นางให้พี่ชายไปช่วยมารดาพยุงท่านพ่อออกมาจากในห้องนอนมากินข้าวก่อนนางจะรักษาขาให้บิดา พอนางยกอาหารขึ้นโต๊ะจนเต็มทั้งสามคนก็ออกมาที่โต๊ะทานข้าวพอดี

มารดามองอย่างตกใจกับอาหารบนโต๊ะของเช้านี้

"เย่วเอ๋อร์มันเยอะไปไหมลูก" นางถามบุตรสาว

"ท่านแม่อย่าได้กังวลอาหารของข้านำออกมาจะมีเข้ามาทดแทนทันทีไม่มีวันหมดเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าจะบำรุงพวกท่านให้มีเนื้อมีหนังคืนมาหลังจากทานมื้อเช้าแล้วข้าจะรักษาขาให้ท่านพ่อด้วยนะเจ้าคะ"

นางคีบเนื้อใส่ถ้วยให้พ่อกับแม่รวมทั้งพี่ชาย

  "ทานให้เยอะๆนะเจ้าคะต่อจากนี้ลูกจะพาพวกท่านร่ำรวยจนคนกระอักเลือดตายให้ดู" นางคิดอย่างชั่วร้าย

 

 

 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ອິດ ພັນນະວົງ
เซรั่มเรื่องมากะเปีดเผยหมดทุกอย่างเลยมันจะสนุกยังไงวะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 53

    หลังจากแต่งกันกับท่านอ๋องภายในตำหนักในทุกคืนจะมีเสียงครางหวานของคู่สามีข้าวใหม่ปลามันจนนางกำนัลหน้าแดงไปตามๆกัน ท่านอ๋องช่างรักพระชายาเหลือเกินตามใจนางทุกอย่างตลอดที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ช่วงก่อนจะถึงวันกลับไปเยี่ยมที่บ้านของพระชายาเขาตักตวงความสุขตั้งแต่ก่อนวันแต่งจนผ่านมาหลายคืนแล้วก็ยังคงหื่นเสมอต้นเสมอปลาย เย่วเย่วคิดในตอนนี้นางนั่งผิงอกแกร่งของพระสวามีกลับหมู่บ้านฉีซานเพื่อจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมตามประเพณี กว่าจะได้ออกจากห้องแต่ละวันนางนี้ต้องมีนางกำนัลคอยประคองถ้าไม่มีน้ำพุวิเศษนี้นางไม่อย่างจะคิดเลยว่าจะนอนเป็นผักทั้งวันหรือเปล่า"เย่วเอ๋อร์น้องนอนเถอะนะคนดีพอถึงบ้านของพ่อตาแม่ยายพี่จะปลุกน้องเอง"ท่านอ๋องกระชับอ้อมกอดให้ภรรยานั่งพิงอกได้สะดวกตอนกลางวันต้องให้นางนอนพักเอาแรงไว้มากๆหน่อยช่วงกลางคืนคือเวลาของเขา ว่าจะหยุดสักเดือนก่อนจะเดินทางเข้าเมืองหลวงไปหาพี่ชายที่รอจัดงานให้อีกรอบที่ตำหนักอ๋องที่เมืองหลวง แต่จะให้เขาอดใจไหวไม่รังแกภรรยาได้เช่นไรในเมื่อนางน่ารักน่ากินไปทั้งตัว เขาก็ไม่ใช้ผู้หลุดพ้นเสียหน่อย นี้ก็อดทนรอมาตั้งปีเพื่อจะแต่งนางเข้าตำหนักได้แต่ก็ต้องออกศึกไปเป็นปีที่ไ

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 52

    ท่านอ๋องกว่าจะปลีกตัวจากเหล่าทหารทั้งหลายได้ก็ปาไปเกือบสี่ทุ่มในภพเก่าของนางเย่วเย่วกำลังนั่งหลับพักเอาแรงหลังจากที่มารดามาอวยพรร่ำลากันกลับหมู่บ้านกับบรรดาป้าๆทั้งหลายกลับไปกันจนหมด นางก็อยู่กับนางกำนัลสองคนที่มีอายุสามสิบได้กระมังเย่วเย่วแอบกินนมกับขนมเพราะมีผ้าคลุมหน้านางไม่กลัวนางกำนัลเห็นหรอกนะ คนมันหิวกว่าด้านนอกจะรับแขกและกลับหมดพอดีหิวท้องร้องกันพอดี หยิบของออกมากินจนอิ่มนางก็นั่งหลับไปเลยเอาแรงดีกว่าถ่างตารอไม่ไหวหรอก เพราะเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องของรางวัลทั้งคืนถ้านางไม่หลับก่อนคงสว่างคาตาแน่ๆเลย คนอะไรอึดเป็นบ้าขอให้ปล่อยก็ไม่ยอมหยุดจนนางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วยังโดนลากมาทำพิธีทั้งวันอีกจนค่ำสองที่พักนอนงีบเอาแรงสักนิดก็ยังดีตัดมาที่ท่านอ๋องที่ตอนนี้กำลังโดนเหล่าทหารคนสนิทมอมเหล้าเพื่อกลั้นแกล้งให้เจ้านายเข้อหอไม่ไหวชนแก้วจอกต่อจอก จนเขาต้องใช้อุบายขอเข้าห้องน้ำพอปลีกตัวออกมาได้ก็เดินตัวปลิวไปที่ห้องหอในตำหนักใหญ่เลยป่านนี้เย่วเย่วคงจะรอแย่แล้ว อ๋องหนุ่มคิดไปยิ้มไปกับความน่ารักของภรรยาหมาดๆที่นางให้รางวัลกับเขาเมื่อคืนนี้จนแทบตายคาอกนาง แต่ใครจะอดใจไหวเล่าภรรยาน่ารักเสียขนาดน

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 51

    ตอนนี้หัวสมองของสาวน้อยเย่วเย่วขาวโพลนไปหมดกับริมฝีปากหนาของชายคนรักที่ละเลงน้องสาวจนนางครางกระเส่าอย่างไม่อาย ชายหนุ่มนั้นตอนนี้ดูดดึงกุหลาบงามของสาวคนรักอย่างไม่รังเกียจนางสวยไปหมดจนเขาอดใจไม่ไหวอยากกลืนกินทุกอย่างที่เป็นนาง"เย่วเอ๋อร์คนดีร้องดังๆไปเลยพี่ชอบเห็นน้องมีความสุขที่สุุขเสียวไหมที่รัก" ชายหนุ่มเงยหน้ามาพูดกับนางแต่ก็ยังมีนิ้วแทนที่ปากเขาเขี่ยวนตรงปุ่มเสียวของนาง เย่วเย่วยกสะโพกลอยตามนิ้วร้ายของชายหนุ่มที่ละเลงแล้วแหย่เข้าไปที่ละนิ้ว พอถามนางจบเขาไม่คิดจะฟังคำตอบเพราะดูจากการตอบรับของสาวคนรักก็พอใจมากแล้ว ท่านออ๋องหนุ่มก้มหน้าลงฉกชิมกุหลาบงามตรงหน้าต่อจนร่างบอบบางเกร็งกระตุกสุขสมไปก่อนเพื่อเปิดทางให้มังกรตัวเขี่ยงเข้าไปในกุหลาบงาม ชายหนุ่มแยกขาของคู่หมั้นสาวออกจนกว้างก่อนจะชักรูดมังกรตัวเองถูกไถ่ก่อนจะค่อยๆกดเข้าไปทีละน้อย เยว่เยว่หัวขาวโพลนเพราะพึ่งเสร็จสมไปเพราะลิ้นร้ายของท่านอ๋องต้องสะดุ้งเพราะมีสิ่งใหญ่โตกำลังมุดเข้ากุหลาบของนางมาได้แค่ส่วนหัวนางแทบขาดใจทำไมมันใหญ่ขนาดนี้จะเข้าไปในน้องสาวของนางได้จริงๆหรือ"ท่านอ๋องเพคะ" นางเอามือยันหน้าอกแกร่งเอาไว้ก่อน"ท่านพี่เรียก

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 50

    ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์มีรถม้ามารับเซียวเย่วเย่วทุกวันในตอนเช้าเพื่อฝึกสาวน้อยที่จะแต่งเข้าตำหนักของท่านอ๋องซงตงหยางในอีกไม่นาน รอเพียงท่านอ๋องเดินทางกลับมาถึงที่อำเภอแห่งนี้ ท่านอ๋องปกครองครอบคลุมไปถึงชายแดนฉีเป่ยที่พึ่งรบจบศึกในตอนนี้นั้นเอง ตลอดเวลาเย่วเย่วก็ตั้งใจเรียนการเดินการนั่งการกินการพูดคุยพิธีการต่างๆที่ชนชั้นสูงต้องมีจนครบสิบวัน นางแทบจะรากเลือดกับสิ่งที่ฝืนกับสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดแต่ก็ทำเพื่อหน้าตาของสามีในภายภาคหน้าจะได้ไม่อายใครว่าแต่งชายาบ้านนอกเข้ามาและไม่รู้เรื่องอะไรเลยในตอนค่ำของอีกวันหลังจากที่สามพ่อแม่ลูกกินมื้อค่ำอิ่มแล้วก็เตรียมตัวจะเข้านอนหลังจากที่นั่งย่อยอาหารที่หน้าบ้านเหมือนเช่นทุกวัน จนจะได้เวลาเข้านอนก็ได้ยินเสียงม้าวิ่งมาที่หน้าบ้านพร้อมกับเสียงเคาะประตูหน้าบ้านเสียงดัง"ท่านพ่อท่านแม่ข้ากลับมาแล้วขอรับ" เสียงเรียกที่หน้าบ้านมันเสียงของพี่ชายของนางชัดๆเลย"ท่านพ่อเสียงพี่ใหญ่เจ้าค่ะ" พูดจบนางก็วิ่งลงบ้านไปที่ประตูใหญ่เลยทันที บิดาวิ่งตามลูกสาวไปติดๆหลังจากที่บอกให้ภรรยานั่งรอที่นี้ห้ามวิ่งตามมาสั่งแล้วเขาก็วิ่งตามลูกสาวสาวไปที่หน้าบ้านเหมือนกันเซียวเย่วเย

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 49

    "เซียวอี้ถังเปิดประตูบ้านเร็วๆเข้า" เสียงลุงผู้ใหญ่บ้านเคาะไม้เรียกเสียงดังลั่นที่ด้านหน้า"ขอรับๆข้ากำลังเปิดอยู่" ส่วนท่านแม่ยืนรอที่หน้าระเบียงบ้านพอเปิดประตูออกก็เห็นคนมากมายเต็มหน้าบ้านของนางไปหมด แม้แต่ท่านนายอำเภอยังมาเลยท่านพ่อกับเย่วเย่วก็ตกใจเหมือนกัน"มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือท่านลุงทำไมคนมาบ้านของข้าเยอะขนาดนี้ละ" เซียวอี้ถังถามด้วยความสงสัยเหมือนกันส่วนเย่วเย่วนั้นนางตั้งสติแล้วรอฟังว่าทุกคนมีอะไรจึงมาหน้าบ้านของนางมากมายขนาดนี้มองคร่าวๆที่ด้านหลังนั้นอีกที่ชาวบ้านเดินตามกันมาจนจะหมดดทั้งหมู่บ้านเลยกระมัง นางคิดและมองดูคนที่แต่งตัวเป็นเหมือนขันทีในวังเหมือนในละครทีวีที่นางดูเป็นประจำทหารอีกเป็นร้อยรวมทั้งรถม้าหลายสิบคันที่จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"มีพระราชโองการจากองค์เหนือหัวถึงคุณหนูเซียวเย่วเย่ว" ทันทีเมื่อคำพูดถึงราชโองการจากผู้เป็นใหญ่เหนือแคว้นเยว่เยว่กับครอบครัวก็รีบคุกเข่ารอรับพระราชโองการทันที ชาวบ้านคนอื่นๆก็รีบยืนสำรวมรอฟัง "เซียวเย่วเย่วรับราชโองการคุณหนูเซียวเย่วเย่วทำความดีส่งเสบียงช่วยเหล่าทหารกล้าที่ไปรบที่ชายแดนกับท่านอ๋องซงตงหยางพระอนุชาของพร

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 48

    สามพ่อแม่ลูกนั่งคุยกันได้สักพักเสียงร้องของเหยี่ยวที่ท่านอ๋องคอยส่งข่าวก็ร้องขึ้นบริเวณท้องฟ้าเหนือบ้านของนางเสียงดังก่อนที่เจ้าตัวจะบินร่อนลงมาที่หน้าระเบียงบ้านเย่วเย่วร้องตะโกนเสียงดังตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงมันร้องตอนยังไม่เห็นตัวลงมาหน้าบ้านด้วยความดีใจ"โอ๊ะเจ้าเหยี่ยวมาแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่" ทุกคนยิ้มด้วยความดีใจกับเสียงนกยักษ์ของท่านอ๋องที่มาส่งข่าวหลังจากหายไปนานมันลงมาถึงก็ยกขาให้เย่วเย่วดึงเอาจดหมายที่ผูกมาด้วยเป็นอย่างดีแล้วรับอาหารของตนกินเงียบๆที่ที่ประจำเย่วเย่วเอาจดหมายพี่ชายให้บิดามารดาของนางต่างหากท่านพ่อรีบรับไปอ่านให้ท่านแม่ฟังทันที่'ถึงท่านพ่อท่านแม่น้องเล็กขอโทษที่หายไปนานคงจะทำให้พวกท่านเป็นห่วงตอนนั้นกำลังสู้รบไม่ค่อยมีเวลาตอนนี้ชนะข้าศึกแล้วอีกไม่นานจะได้เดินทางกลับมาบ้านรักและถึงทุกคนขอรับ เซียวอี้เหอ'ท่านแม่ยิ้มแก้มปริพอได้ยินว่าลูกชายกำลังจะกลับมาในอีกไม่ช้า"ท่านพี่ข้าจะไปหาของกินอร่อยๆเอาไว้รอลูกของเราเจ้าค่ะพาข้าไปในห้องเสบียงหน่อยนะเจ้าคะ" นางรีบหันไปหาสามีเพื่อทำอาหารรอบุตรชายที่จากไปนับปี"น้องหญิงอาหารของเร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status