Share

บทที่ 2 ภัยร้ายกำลังคืบคลาน

Author: Yushelfoxy
last update Last Updated: 2025-07-06 11:54:06

บทที่ 2

ภัยร้ายกำลังคืบคลาน

เหมันต์ซึ่งปัจจุบันอยู่ในร่างของโนเอล หลังจากออกมาจากคฤหาสน์ เขายังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ ไปตามทางเดินที่สาวใช้กำหนดไว้ให้ ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงเมื่ออยู่ต่อหน้าหน้าใครบางคน

เขาโค้งคำนับ แล้วเริ่มกล่าว

“ข้ามีนามว่าเดวิ เป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์ชาย ยินดีที่ได้พบขอรับ” ทางฝ่ายนั้นเริ่มแนะนำตัวก่อน ทางด้านหลังของเขามีรถม้าแกะสลัก สีขาวเงาวับอยู่สองถึงสามคัน มาพร้อมกับเหล่าทหารของราชวงศ์อีกราว ๆ ห้าสิบคน

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเปรียบดั่งเมล็ดกาแฟค่อย ๆ คุกเข่าลง ก่อนจะประทับริมฝีปากที่หลังมือของโนเอลเพื่อแสดงถึงการให้เกียรติและยกย่อง

โนเอลไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมของที่นี่จนเผลอทำหน้าเหยเกออกมาอย่างไม่ตั้งใจ พอรู้ตัวก็รีบเก็บสีหน้าทันที

พอเดวิลุกขึ้น ก็รับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายมีขนาดตัวแตกต่างจากเขามากเพียงใด รูปร่างสูงโปร่งพร้อมกับร่างกายกำยำ ยิ่งเทียบกับทหารคนอื่น ๆ แล้วก็ดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ต่อให้เจ้าตัวจะไม่แนะนำว่าตนเป็นใคร โนเอลก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนคนนี้ไม่มีทางเป็นเพียงลิ่วล้ออย่างแน่นอน

“ผมทราบแล้วขอรับ... เอ้ย ข้าทราบแล้ว แล้วก็อยากรู้เรื่องอะไรนิดหน่อย ช่วยรบกวนตอบข้าอย่างตรงไปตรงมาด้วยนะขอรับ” โนเอลพูดตอบไปเสียงเรียบพร้อมเลียนแบบวิธีการพูดแบบคนในโลกนี้ ก่อนจะเดินเข้าห้องโดยสารไป

เดวิเลิกคิ้วด้วยความสงสัยแต่ก็รีบสลัดความคิดในใจ และเร่งทหารคุ้มกันให้เริ่มออกเดินทางทันทีที่สัมภาระชิ้นสุดท้ายถูกเก็บไว้

เสียงย่ำเท้าของม้าดังลั่นสนั่นถนนหนทาง แม้ว่าการหมั้นหมายครั้งนี้จะไม่ได้ถูกประกาศอย่างเอิกเกริกในอาณาจักรมากนัก แต่เพราะเป็นระดับลูกชายของหัวหน้าอัศวิน ข่าวลือจึงถูกเผยแพร่ไปทั่วเมือง

ระยะห่างของรถม้าและสถานที่ที่เคยถูกเรียกว่าบ้านค่อย ๆ ห่างกันออกไปทีละนิด นายน้อยของพวกเขาไม่อยู่ให้ได้รับใช้แล้ว เหลือไว้เพียงน้ำตาและเสียงร้องร่ำไห้ของคนเหล่านั้น

เดิมทีแล้วตัวเขาไม่มีความผูกพันอะไรกับที่นี่ เว้นเสียแต่เจ้าของร่าง เขารับรู้ได้ว่าภายในใจลึก ๆ คนคนนี้รู้สึกเสียใจมากเพียงใดที่ต้องจากบ้านเกิด

โนเอลพยายามละความสนใจจากภาพตรงหน้า แต่ร่างกายกลับสั่งการให้ชะโงกหน้าออกไป พร้อมกับโบกมือลาก่อนจะพูดพึมพำคำบางคำที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่

“ขอบคุณขอรับ... ลาก่อน”

ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า เหล่าทหารเหนื่อยหอบเมื่อผ่านไปได้มากกว่าครึ่งทาง ก่อนจะถึงจุดมุ่งหมายลำดับแรก

“ท่านโนเอล เราจะหยุดพักกันก่อนนะขอรับ หากเดินทางต่อในตอนกลางคืนคงไม่ใช่เรื่องดีนัก” หลังพูดจบ เดวิก็เริ่มตระเตรียมกองฟืนและลงมือก่อไฟ เพื่อไม่ให้ร่างกายรู้สึกหนาวเย็น

แม้ว่าเขาจะไม่ชินเส้นทางมากนัก แต่จากความทรงจำของโนเอลในชาติก่อน จุดนี้คงใกล้กับอาณาจักรอัชลิงมากแล้ว เหลือเพียงต้องข้ามภูเขาลูกโตให้ได้เสียก่อน

คงเพราะอยู่ใกล้เขตเทือกเขาเลซา อากาศจึงหนาวเหน็บมากกว่าในเมือง

“ทำไมล่ะ” เสียงจากคนตัวเล็กดังโพล่งมาจากในห้องโดยสาร จากนั้นสองขาเรียวยาวจึงค่อย ๆ ก้าวออกมาสูดอากาศ

เขารู้ว่าจุดวาร์ปมีมอนสเตอร์อยู่ เพียงแค่อยากถามให้ดูแนบเนียน

“มอนสเตอร์ที่อยู่ช่วงจุดประตูวาร์ปขอรับ พวกมันฉลาดกันมากกว่าเมื่อก่อนโดยเฉพาะช่วงจุดวาร์ปของอัชลิง”

“มอนสเตอร์? มากขนาดนั้นเชียว?” ใช่ว่ามอนสเตอร์จะเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับโนเอลและคนในอาณาจักรดาเลีย

หากจำไม่ผิด สาเหตุในการหมั้นหมายระหว่างองค์ชายรัชทายาทและลูกชายของอัศวิน ก็เพราะการทำข้อตกลงเรื่องกำลังรบที่อาณาจักรดาเลียต้องการจากอัชลิง นอกจากจะรู้ว่าจำนวนของ

มอนสเตอร์เพิ่มขึ้นมากจากเมื่อก่อน เขาก็ไม่รู้อะไรอีก

พ่อของเขาอย่างเลวิกอาจจะทราบสถานการณ์ทั้งหมด แต่ถึงอย่างไร เจ้าตัวก็ไม่เคยบอกโนเอลเลย แน่นอนว่าไม่แปลกใจเสียเท่าไรก็โนเอลคนเดิม ดันเป็นเด็กที่ไม่เก่งเรื่องพลังเวทมนตร์ แถมต่อสู้ก็ไม่ได้เรื่อง ร่างกายปวกเปียก แค่เล่าว่ามีเด็กเช่นนี้อยู่ในบ้านของหัวหน้าอัศวินก็อับอายจะยา

เดวิหยุดเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อ

“บางทีท่านคงยังไม่รู้ เดิมทีนี่ไม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกอาณาจักรจะรู้กันสักเท่าไร แต่ถึงยังไงท่านโนเอลก็จะเป็นคนของเราแล้ว ย่อมต้องรู้ไว้ เอาไว้ฟังตอนทานไปด้วยเถอะขอรับ” เดวิยังคงงุ่นอยู่กับหน้าที่ของตน เสบียงและเครื่องเทศบางส่วนที่เอามาด้วยในกรณีต้องค้างแรมถูกยกออกมาเพื่อปรุงอาหารให้พระคู่หมั้น

เพราะที่นี่มีลำธารตัดทางขึ้นภูเขา ทำให้ปลาบางส่วนถูกจับมาโดยเหล่าทหาร คละปนมากับกระต่ายป่า ทว่าปริมาณกลับดูน้อยผิดกับจำนวนคน

เดวิปรุงอาหารที่ดีที่สุดในขณะนั้นให้แก่โนเอล ใช้เวลาสักพักใหญ่เนื้อก็เริ่มสุกดี กลิ่นหอมกรุ่นจากซุปเนื้อทำเอาโนเอลน้ำลายไหลด้วยความหิวโหย ตั้งแต่รู้สึกตัวก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ไม่รู้ว่าพวกสาวใช้จะรีบอะไรกันนัก

“เรียบร้อยแล้วขอรับ” เดวิยื่นถ้วยซุปร้อนให้โนเอล

“แล้วของเจ้าล่ะ?”

“เอาไว้ทีหลังขอรับ” เดวิอธิบายว่าเดิมทีแล้วลูกน้องอย่างเขาไม่กินร่วมกับผู้เป็นนาย แม้ว่าโนเอลบอกไปว่าไม่ได้ถือสาอะไร แต่ก็ยังถูกคัดค้านกลับมา จึงไม่ได้เถียงอะไรกลับไปอีก

สองมือรับถ้วยอาหารมาไว้กับตัว แล้วบรรจงตักซุปเนื้อเข้าปาก พลางเป่าให้หายร้อนและฟังเรื่องราวจากชายหนุ่มไปพลาง โนเอลฟังอย่างตั้งใจพร้อมกับขบคิดอย่างหนัก

ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีข่าวลือหนาหูถึงเรื่องในอดีต อัชลิงซึ่งรุ่งโรจน์จนเกือบได้ขึ้นเป็นจักรวรรดิได้ประกาศปิดอาณาจักรอย่างกะทันหัน ไม่ติดต่อค้าขายหรือหารือกับอาณาจักรอื่นไปพักใหญ่ อำนาจทางการเมืองจึงลดลงไปมาก เรียกขานกันปากต่อปากว่าช่วงเวลาอาทิตย์อัศดง

แท้จริงแล้วก็เป็นเพราะการรุกรานของมอนสเตอร์ ในปีนั้นมีการระดมพลทหารและชาวบ้านบางส่วนออกไปต้านการรุกรานอย่างหนักจนเกิดภาวะสูญเสียทรัพยากรทั้งทางด้านกำลังคนและเสบียง องค์ชายรัชทายาทอย่างซีโน่ ลัวร์ ซึ่งในตอนนั้นอายุได้สิบหกก็ต้องเร่งรัดออกไปทำสงครามปราบปรามกันครั้งใหญ่

ลังเวลาล่วงเลยมาหนึ่งเดือนเต็ม รัชทายาทเยาว์วัยมากฝีมือ สามารถคุมกองพลทหารม้านับครึ่งแสนรวมถึงนักเวทและนักผจญภัยบางส่วนเอาชนะวิกฤตครั้งนั้นได้สำเร็จ ถึงขนาดได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้โหดเหี้ยม

ทว่าท้ายที่สุดก็ไม่อาจหยุดมันได้อย่างถาวร ในปัจจุบันจึงทำได้เพียงยับยั้งเท่านั้น

ปัจจุบันจึงมีการนำทหารและจ้างนักเวทผจญภัยบางส่วนไปควบคุมและเฝ้าจับตาดูมอนสเตอร์ตามจุดต่าง ๆ เช่นท่าเรือ ป่าไม้ เมืองบางจุด และทางลงเขา

อีกทั้งเมืองแทบทุกเมืองยังได้รับความเสียหายรุนแรงทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนชั่วขณะ แต่ความลับในการฟื้นฟูเมืองครั้งใหญ่นั้นกลับมีเรื่องพิศวงอยู่หลายส่วน ถึงขนาดที่ตัวเดวิเองก็ไม่รู้ว่าทำไมภายในสามวันบ้านเรือนถึงได้กลับคืนสภาพสมบูรณ์ก่อนแตกหัก

คนทั้งเมืองที่ถูกย้ายไปพื้นที่ลี้ภัยเมื่อตื่นขึ้นมาก็ต่างคนต่างอยู่ในบ้านตัวเองอย่างกับเมื่อก่อนหน้านั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ราชาอีธานซึ่งได้ทรงทราบเรื่องนี้ก็ยังตกตะลึงไม่หาย ครั้นจะหาเหตุผลมาอธิบายก็ไม่มีประโยชน์จึงได้ปล่อยผ่านไป ตราบใดที่เป็นเรื่องดีต่อฝ่ายตน

หลังสงครามจบ ความเสียหายยังคงกระจายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนนี้ถือว่าดีขึ้นมาก แต่ก็ไม่ได้รุ่งเรืองฟูเฟื่องไปด้วยอำนาจบารมีเหมือนดั่งเมื่อก่อน

พื้นที่ใกล้เคียงคงไม่ได้มีที่ใดอยากให้ความช่วยเหลือสักเท่าไร ช่วยเหลือไปก็รั้งแต่จะทำให้ฝ่ายตนย่ำแย่ ในเมื่ออาทิตย์ไม่อาจหวนคืนสู่ฟากฟ้าก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องประจบประแจง ให้การช่วยเหลืออีก

เดิมทีแล้วมอนสเตอร์จะไม่อยู่ใกล้กับเมืองเพราะเวทที่แต่ละอาณาจักรกางเอาไว้ป้องกันพวกมันแต่ด้วยกลลวงบางอย่างทำให้เวทไม่มีผลในบางพื้นที่

ทางป่าก็มีสัตว์อสูรออกมาเพ่นพ่าน มหาสมุทรกว้างขวางก็ถูกจองจำด้วยไซเรนและมนุษย์เงือก เมื่อตกกลางดึกเหล่าอันเดดมากมายก็จะลุกขึ้นมาจากแผ่นดิน

เพราะพ่อค้าแม่ค้าโดนสั่งให้ปิดปากเงียบหมดทำให้ผู้คนภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องไม่รู้สาเหตุของการปิดอาณาจักรนี้ไป

กว่าจะฟื้นกลับมาได้ก็หนักพอควร แต่ถึงอย่างนั้นอาณาจักรดาเลียกลับส่งคำขอขอกำลังทหารมา เพราะฝั่งนั้นก็สถานการณ์ไม่ต่างกับอัชลิงเสียเท่าไร นั่นคือไม่มีใครสนใจอยากจะช่วยเหลือ

สุดท้ายจึงได้ทำข้อตกลงด้วยการให้โนเอลมาหมั้นหมายกับองค์รัชทายาท

“การตัดสินใจให้กองกำลังทหารของอัชลิงมาช่วยดาเลีย แบบนั้นมันจะไม่แย่หนักกว่าเก่าเหรอ? แค่ดูแลประเทศก็ตึงมือจะแย่แล้วนี่” โนเอลเอ่ยถาม

“เป็นคำสั่งของราชินีครับ... ไม่อาจขัดได้ องค์รัชทายาทเองก็คัดค้าน แต่การตัดสินใจของราชินีถือเป็นอำนาจสูงสุดในขณะนี้”

“แล้วองค์ราชาเขาไม่พูดอะไรบ้างเลยหรือไง”

“เรื่องนั้น... องค์ราชาท่านป่วย ไม่อาจโต้ตอบหรือแสดงความเห็นอะไรได้ อำนาจจึงตกเป็นขององค์ราชินี”

เมื่อได้รับรู้สาเหตุ เขาถึงกับคิ้วขมวด สถานการณ์ปัจจุบันยังยุ่งยากขนาดนี้ แล้วศัตรูในอนาคตข้างหน้าจะขนาดไหนกันล่ะ?

ในการเดินทางครั้งนี้เรียกว่าเสี่ยงอันตรายอย่างมาก แต่เพราะก่อนหน้านี้ได้ทหารอีกหน่วยมาช่วยเคลียร์ทางไว้สักระยะ ผนวกกับบาเรียเวทที่สามารถใช้กันได้ชั่วคราว การติดตั้งประตูวาร์ปจึงผ่านไปได้ด้วยดี

แน่นอนว่าถ้าไม่รีบเดินทางโดยไว ประตูวาร์ปก็จะหายไปและจะต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น

เดวิบอกกับเขาว่าเรื่องเบื้องต้นก็มีเท่านี้ส่วนเรื่องอื่นนั้นส่วนหนึ่งเป็นข่าวลือ และอีกส่วนเป็นเรื่องที่ตัวเขาเองก็ไม่สามารถพูดได้

ดูท่าชีวิตที่เขาคาดหวังเอาไว้คงจะไม่ราบรื่นเท่าไร

ดวงตาสีฟ้าอความารีน เหม่อมองไปยังผืนฟ้าซึ่งเต็มด้วยดวงดาวระยิบระยับ ห้วงเวลานี้ช่างแสนเงียบสงบจนกังวลใจ คงเป็นลางสังหรณ์ที่ได้มาจากชาติก่อน ทำให้แอบนึกคิดว่าบรรยากาศดูแปลกพิลึก

สายตาของโนเอลลอบมองไปยังคู่สนทนาเมื่อสักครู่ ดูท่าแล้วอีกคนคงคิดอย่างเดียวกับเขา

มันไม่ปกติ

“น่าแปลกใจนัก แต่เดิมแล้วต่อให้ใช้บาเรียกั้นขนาดนี้ก็ไม่น่าเงียบขนาดนี้นะขอรับ”

“บรรยากาศแปลกไปจริง ๆ สินะ” โนเอลเดินตรงไปยังห้องโดยสาร เพื่อหยิบดาบคู่กายของตัวเองออกมาคอยระแวดระวังภัย

ตัวเขาถนัดใช้ปืนเสียมากกว่า แต่ดาบก็เป็นสิ่งเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้ และหวังว่าการฝึกซ้อมการต่อสู้แปลก ๆ ของเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นจะช่วยเขาไว้ได้ไม่มากก็น้อย

เขากวัดแกว่งดาบอยู่สองสามที หวังจะให้ร่างกายเคยชินกับการรับน้ำหนักดาบ ก่อนจะชะงักงันเพราะเสียงของอะไรบางอย่าง

โนเอลถอยหลังย่นระยะกับพงหญ้าซึ่งเป็นที่มาของเสียง จนถึงระยะปลอดภัยพอให้เดวิสามารถมองเห็นได้

“ท่านโนเอล ระวังตัวด้วยขอรับ” เดวิค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้

โนเอลมากขึ้น

กึก กึก

ตู้มมมม

เสียงระเบิดปริศนาดังสนั่นลั่นป่าทำให้ทั้งคู่รีบถือดาบขึ้นมาพร้อมฟาดฟันภัยอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา ฝุ่นหนาคละคลุ้งไปทั่วจนไม่เห็นทิศทางรอบด้าน หมอกจาง ๆ มาพร้อมกับกลิ่นเน่าเหม็นโชยของซากศพ พื้นดินเริ่มร้อนระอุราวกับนรกอเวจี

ผ่านไปได้ไม่นานหลังจากเสียงระเบิด เหล่าทหารที่ออกไปดูสถานการณ์เมื่อครู่ก็กลับมาด้วยสีหน้าหวาดผวา

“เกิดอะไรขึ้น!!”

“ท... ท... ท่านเดวิขอรับ!!! ที่ตรงนั้น! มีคนใช้เวทพาลาลิเซียขอรับ!!!” ทหารหนุ่มร้องเสียงหลง ใบหน้าซีดเผือด

“เวทมนตร์สำหรับใช้เรียกอันเดด?” เมื่อทหารคนอื่นได้ยินก็พลันขวัญผวา เดวิครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มออกคำสั่งให้นักเวทใช้เวทบาเรียโดยด่วน

แต่ช่างน่าเสียดายที่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว

นิ้วแห้งกร้าน ผิวหนังเปื่อยยุ่ยราวกับถูกหลอมละลายจนเห็นกระดูก จับอยู่ที่ข้อเท้าของทหารนายหนึ่ง ก่อนตัวเขาจะตกใจเข่าอ่อนจนเผลอทิ้งดาบข้างกายไป

นานเข้าก็เริ่มมีมือมาจับมากกว่าหนึ่ง จนตัวชายผู้เคราะห์ร้ายเริ่มสู้แรงไม่ไหวและถูกกระชากไป เสียงร้องโหยหวนดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาท กลิ่นสาบศพตลบอบอวล ทำเอาบรรยากาศชวนอึดอัดยิ่งกว่าเก่า

“เจ้าโง่เอ๊ย” เดวิสบถคำหยาบออกมา เขาต้องจดจ่อกับการปกป้องโนเอล ทำให้พลาดโอกาสในการช่วยพลทหารคนนั้น

การเล่นแง่ของพวกขุนนางโง่เง่า ทำให้ได้พวกลูกสมุนบ้องตื้นไม่ได้ความของพวกมันมาคอยลอบหาผลประโยชน์อีกเป็นเบือ เดวิรู้สึกตึงเครียดอยู่ไม่น้อย ครั้นจะสั่งการให้ป้องกัน คนพวกนี้ก็ไร้ความสามารถเกินกว่าจะทำอะไรได้ตามที่เขาต้องการ

“พวกมันมีจุดอ่อนไหม” โนเอลเอ่ยถาม

“หากหลอมรวมพลังเวทไว้ที่ดาบ และตัดคอในครั้งเดียว พวกมันจะหยุดขยับไป... แต่ก็ได้แค่พักหนึ่งเท่านั้น ถ้าจะได้ผลดีควรเป็นเวทศักดิ์สิทธิ์ของนักบวช น่าเสียดายที่พวกเราพาเขามาด้วยไม่ได้” เดวิตอบกลับ

“มารับคู่หมั้นขององค์รัชทายาทแต่หละหลวมเสียจริงนะ”

“ขออภัยด้วยขอรับ แต่สถานการณ์ในราชวงศ์ก็ไม่ได้ดีเสียเท่าไร... ท่านโนเอล ระวังขอรับ!” เดวิใจกระตุกเพราะโนเอลถูกโจมตีโดยไม่ทันได้ตั้งตัว อีกทั้งยังติดพันกับศัตรูอีกสองสามตัว ทำให้ไม่สามารถช่วยโนเอลได้ทันท่วงที

แต่ผลลัพธ์กลับทำให้เขารู้สึกอึ้งหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นฝีมือของอีกฝ่าย แม้ในปัจจุบันจะไม่มีการใช้ดาบอย่างสมัยก่อนแต่โนเอลก็มีพื้นฐานในการใช้อาวุธที่หลากหลายพอควร

เจ้าหน้าที่พิเศษมีเจ้าหน้าที่จากหลากหลายเชื้อชาติมารวมกัน แต่ละคนก็ไม่ใช่ระดับธรรมดา เขาเองก็มีเพื่อนซึ่งสามารถใช้การต่อสู้ได้หลากหลายแบบ ทำให้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ

‘เอย์ตะ... รู้ว่าคงไม่มีโอกาสได้บอก แต่ขอบใจนะเพื่อน!’ 

โนเอลซาบซึ้งที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นสอนเขาใช้ดาบ ถึงจะสอนเล่น ๆ แต่กลับถูกนำมาใช้ในสถานการณ์จริงแบบนี้ ก็เป็นเรื่องน่ายินดี

อีกทั้งเวทมนตร์สุดแสนอัศจรรย์ใจ ก็ไหลออกมาจากตัวแล้วหลอมรวมไปกระจุกอยู่ปลายดาบ โดยที่ตัวเขายังไม่ทันได้ทำอะไรนอกจากนึกคิด เพียงแค่แกว่งดาบไปไม่กี่ทีก็เข้ามือ แน่นอนว่าเดิมทีเขาก็นับเป็นบุคคลที่ทางรัฐบาล เรียกว่าอัจฉริยะอยู่แล้ว

โนเอลหรี่ตาลงโฟกัสรอบด้าน คนมากมายเริ่มถูกกำจัดเพราะต้านจำนวนของพวกมันไม่ไหว เหล่านักเวทที่ทำได้เพียงกั้นบาเรียไว้ต่างร้องไห้ พูดพึมพำจนไม่ได้ความ

“ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก ดูแลคนของนายเถอะ” เดวิหลุดขำออกมาด้วยความตื่นเต้น ตัวเขาเหวี่ยงดาบไปมาหวังฟาดฟันหัวของศัตรู

ความน่ากลัวของอันเดดไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแกร่งล้นฟ้าหรือรูปร่างที่น่าสะพรึงแต่เป็นเพราะ แกนพลังของมันไม่มีที่สิ้นสุด

อันเดดเป็นมอนสเตอร์ที่เกิดจากซากศพ โดยปกติตามธรรมชาติแล้วพวกมันมักจะเกิดขึ้นได้เองช่วงพลบค่ำในจุดที่ห่างไกลแสงไฟ เว้นเสียแต่ว่าจะมีใครบางคนใช้เวทเพื่อปลุกมันขึ้นมา

หากเป็นสถานการณ์ทั่วไปที่พวกมันไม่ได้ถูกควบคุมอย่างน้อยหากทำลายวงเวทอัญเชิญก็คงควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ในครั้งนี้ดันมีผู้ควบคุมพวกมันอยู่อีก

แม้จะตัดคอพวกมันได้ แต่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็จะยังคงขยับได้อยู่ดี และต่อให้ใช้พลังเวทช่วยเสริมดาบอย่างมากก็ทำให้ไม่สามารถขยับได้เป็นเวลาห้านาทีเท่านั้น

การใช้พลังเวทศักดิ์สิทธิ์ในการจัดการ ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกหนึ่งทาง เพราะสามารถตัดการควบคุมกับผู้อัญเชิญได้ แต่หากบริเวณที่อัญเชิญมีซากศพอยู่มาก ก็ทำได้แค่ยับยั้งชั่วคราวอยู่ดี

วิธีเดียวที่จะจัดการได้อย่างเด็ดขาดคือการฆ่าผู้ใช้เวทนี้เท่านั้น

เดวิเหงื่อตกไม่พัก เพราะด้วยสถานการณ์ที่ต้องปกป้องว่า

โนเอลพร้อมทั้งสู้กับเจ้าพวกนี้ก็นับว่าเต็มกลืนแล้ว หากจะต้องตามหาผู้ใช้เวทอีก ยิ่งเป็นไปไม่ได้

“ติดต่อขอกำลังเสริมจากทางวังเดี๋ยวนี้!” เดวิหันไปสั่งนักเวทพวกเขารับคำสั่งแล้วหันไปทำมันอย่างร้อนรน

“เวรเอ๊ย” โนเอลสบถออกมาเบา ๆ ตัวเขาโจมตีอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยความไม่คุ้นชินกับดาบ ทำให้ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก จนเริ่มมีพวกมันบางตัวเข้าประชิดเขาแล้ว

‘อย่างน้อยถ้ามีปืนก็คงดี แต่ในโลกนี้คงต้องปืนอัดพลังเวทละมั้ง’ เขาคิดพลางหัวเราะในใจ เหมือนความตายครั้งที่สามกำลังจะมาเยือนอีกครั้ง มานึกย้อนดูแล้ว สถานการณ์แบบนี้ไม่ยักจะเกิดกับโนเอลในชาติก่อน

มีอะไรผิดแปลกไปกัน...?

“ท่านโนเอล!” เดวิตะโกนตกใจ มือขวาตวัดลงมาตัดช่วงแขนของศัตรู

“บ้าชะมัด ข้าทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเรื่องนั้นแท้ ๆ” เดวิขบฟันระงับความโกรธเคือง

ในตอนนี้กำลังทหารที่พามาด้วยมากกว่าห้าสิบคนบาดเจ็บไปมากกว่าครึ่ง ซ้ำพวกมันยังคงกรูเข้ามาไม่หยุดหย่อน หากยังยื้อไปมากกว่านี้ คงถึงคราวเข้าตาจนจริง ๆ เสียแล้ว

ตู้มมม

เสียงระเบิดยังคงดังเป็นระลอกแต่คราวนี้มันกลับเป็นเสียงที่ดูผิดจากคราวก่อน ไอเย็นแผ่ซ่านไปทั่ว อีกทั้งภูมิทัศน์รอบข้างกลับเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์

ก้อนน้ำแข็งยังคงบังเกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ บางก้อนก็ถูกทิ้งไว้ ส่วนบางก้อนก็ถูกนำมาใช้เป็นแท่นยืนให้แก่ร่างผู้ใช้

“เวทนี่มัน? ... ท่านซีโน่?” เดวิเริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มเริ่มใช้แรงทั้งหมดเข้าปะทะกับฝูงอันเดด ก่อนจะตั้งท่ายืนแนบนิ่งอยู่กับที่ ทำเอาโนเอลงุนงง

“ทำไมถึงหยุดนิ่งล่ะ!!!” เขาเริ่มกังวลอีกครั้ง นึกไม่ถึงว่าแม้แต่อัศวินคู่กายองค์รัชทายาท จะมายอมแพ้ไปอีกคน

เดวิไม่ตอบอะไรกลับไปเพียงแต่ ดาบคมกริบสีเงินด้ามจับแกะลายราชสีห์แวววับถูกปักลงกับพื้น ฝ่ามือข้างขวากำปลายด้ามเอาไว้แน่น

ชายหนุ่มผู้แนะนำตนว่าเป็นอัศวินคู่กายองค์ชาย เริ่มพึมพำประโยคที่ฟังไม่ได้ความออกมา

หลังจากการกระทำนั้น ลมหนาวก็ถูกพัดมาอย่างบ้าระห่ำ พื้นดินที่ก่อนหน้านี้เคยมีหญ้ารกสีเขียวสด เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเหมันต์ รอบตัวเขามีวงแหวนเรืองแสง พร้อมด้วยอักขระไม่คุ้นตา มือข้างเดิมดึงดาบออกมาระนาบกับใบหน้าก่อนจะเหวี่ยงเป็นแนวยาว

“ทรากัส” ชั่วพริบตาทั่วทั้งป่าก็เต็มไปด้วยน้ำแข็งเย็นยะเยือก พายุพัดโหมกระหน่ำไปตามแนวดาบ รุนแรงราวกับเชือดเฉือนอากาศรอบข้าง

เหล่าอันเดดส่วนมากถูกแช่อยู่กับที่ มีเพียงบางตัวที่ทนแรงลมเมื่อกี้ไม่ไหวจนหักครึ่งไป

สิ่งมหัศจรรย์ที่โนเอลไม่คุ้นเคยในโลกใบนี้ สร้างความตกตะลึงให้เขาไม่น้อย สิ่งที่ไม่ว่าจะวิวัฒนาการใดในโลกเก่าของเขาก็ไม่อาจทรงอานุภาพเทียบเคียงกับมันได้

เวทมนตร์

“ทำไมถึงไม่ทำแบบนี้แต่แรก ทำเอาใจสั่นเลย” โนเอลถามด้วยน้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย

“ข้าติดพันธะบางอย่างเข้าน่ะขอรับ ถ้าใช้พลังโดยไม่มีคนในราชวงศ์อยู่ใกล้เคียง จะถูกคำสาปกัดกินหัวใจ เพราะงั้นถึงใช้มันไม่ได้ แม้แต่นิดเดียว”

“แล้วในตอนนี้? หรือว่า...”

“เพราะมีท่านผู้นั้นอยู่ใกล้ ๆ ยังไงล่ะขอรับ ตัวข้าถึงสามารถใช้มันได้... ท่านผู้นั้น...ว่าที่พระสวามีของท่าน”

พลั่ก—

ร่างปริศนาของใครบางคนถูกเหวี่ยงมากระแทกกับต้นไม้ใหญ่ บริเวณที่พวกเขาอยู่กันอย่างจัง สภาพร่างกายไร้วิญญาณซึ่งถูกอัดจนกระดูกร้าวไปหลายจุด และรูโหว่กลางลำตัวขนาดใหญ่ ลักษณะเหมือนถูกแทงด้วยก้อนน้ำแข็งหนาเรียวยาว

หากดูจากสภาพที่อันเดดหมดฤทธิ์ไปพร้อมกันกับช่วงเวลาที่คนคนนี้ถูกซัดมา เขาก็คงเป็นผู้ใช้เวทควบคุมอย่างแน่นอน

และคนที่จัดการ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก

“องค์รัชทายาทเสด็จ!!” สิ้นสุดเสียงของเดวิ ไอเย็นรุนแรงที่มากกว่าพลังของเดวิ ก็คืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ จนรู้สึกหนาวสั่นไปยันกระดูก

ผมสีเงินกับเสื้อผ้าสีขาวถูกละเลงไปด้วยเลือด สีหน้าเย็นยะเยือกไม่ต่างอะไรกับพลังของคนตรงหน้า ดวงตาสีครามชวนหลงใหล แต่กลับทำให้รู้สึกจมดิ่งจนน่าหวาดกลัว เมื่อได้จ้องมองหรือสบตา ใบหน้าเดียวกับที่เขาเคยเห็นในภาพจำ เพียงแต่ดูอ่อนเยาว์กว่าครั้งนั้นมาก

เรียวขายาวก้าวออกมาจากทางเดียวกันกับคนก่อนหน้า ต้นไม้ที่ถูกเขาสัมผัสโดยบังเอิญนั้นถูกทำให้เป็นน้ำแข็งในทันที

องค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรอัชลิง

ซีโน่ ลัวร์

สัญชาตญาณของโนเอลจากชาติเก่ายังคงอยู่ เขาถอยห่างจากอีกคนด้วยท่าทีหวาดระแวง

“เกะกะ” เจ้าของเรือนผมสีขาวโพลนกลับไม่ชายตามามองแม้แต่วินาทีเดียว ดวงตาของเขาจดจ้องอยู่กับร่างไร้วิญญาณไม่วางตา น้ำเสียงเย็นเรียบไม่ต่างจากพลังของตน

“องค์ชาย ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ขอรับ”

“สืบมาถึงนี่” เขาเดินเข้าไปใกล้กับร่างของศัตรู

“ตรวจสอบ” ไม่รีรอคำสั่งจากอีกคน เดวิก็สั่งให้ทหารตรวจสอบร่างกายพร้อมกับค้นหาสิ่งผิดปกติเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการเสาะหาเรื่องราว โดยมีโนเอลมองตามไม่ละสายตา

“หยุดก่อน” เสียงของโนเอล ทำให้คนอื่น ๆ ละความสนใจจากการกระทำตรงหน้า แล้วหันมาสนใจกับเขาแทน

“ที่ตรงนั้น ตรงแขน มีรอยอะไรอยู่” เขาสังเกตเห็นว่าเหล่าทหารไม่ได้ใส่ใจกับรอยตรงแขน จึงเอ่ยปากพูด

“รอยอะไรกัน ข้าไม่เห็นเจอเลยขอรับ” พลทหารซึ่งกำลังค้นตัว ปรับระดับสายตาให้มองในจุดเดียวกันกับโนเอลแต่กลับไม่พบรอยดังกล่าว ซีโน่เดินเข้าไปหาอย่างเชื่องช้า โนเอลที่ถูกเข้าประชิดโดยไม่ทันตั้งตัวก็สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

“เจ้ามองเห็นอะไร” สายตาคมกริบพร้อมกับความเย็นชามองมายังโนเอล แต่สักพักเจ้าตัวก็ต้องขมวดคิ้ว

“กลิ่นดอกคาโมมายล์?” ซีโน่พูดเสียงแผ่ว

“รอยสักพระจันทร์คว่ำลง” โนเอลพูดก่อนจะเดินเข้าไปพลิกแขนร่างไร้วิญญาณ

เดวิหันมามองซีโน่ทันที ราวกับมีอะไรเก็บซ่อนเอาไว้ในใจ

“เอามันไปด้วย” เหล่าทหารพยักหน้าหงึกก่อนจะรีบขนร่างไร้วิญญาณไปไว้บนรถม้าอีกคัน

“จริง ๆ แล้วข้าวางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางต่อวันพรุ่งนี้ แต่สถานการณ์คงไม่สู้ดีนัก เรื่องที่เกิดขึ้นในคราวนี้ คงเป็นฝีมือเจ้าพวกนั้นแน่นอนขอรับ” เดวิหันไปพูดคุยกับซีโน่

“อย่าด่วนสรุปไป พวกมันไม่ได้ฉลาดกันขนาดนั้น คงมีใครบางคนอยู่เบื้องหลัง” ซีโน่พูดพลางดึงเสื้อขาดของตน ๆ มาเช็ดคราบเลือดที่มือ

“ทางที่ดีกลับกันตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า รีบเก็บของกันได้แล้ว เราต้องเดินทางต่อ” ร่างสูงพูดสั่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินเข้าป่าอีกฟากเพื่อไปสำรวจอะไรบางอย่าง

“พวกนั้นที่ว่าหมายถึงอะไรกันแน่” โนเอลเอ่ยถาม

“ก่อนหน้านี้อย่างที่ข้าได้เคยเล่าไป สถานการณ์ในราชวังค่อนข้างตึงเครียดเพราะมีกบฏในหมู่เรา องค์ชายและข้าคอยตามสืบเรื่องนี้กันอยู่ แม้ในตอนนี้พอจะรู้ตัวแล้ว แต่เพราะ... อำนาจการจัดการตกไปอยู่กับราชินีหมด”

แค่คำคำเดียวตัวเขาก็รู้สึกถึงบรรยากาศในวังได้ทันที

เดวิเล่าต่อ เมื่อแปดปีก่อนผู้เป็นแม่ขององค์ชายได้สิ้นพระชนม์ไปทำให้มีการแต่งตั้งราชินีองค์ใหม่ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวฝาแฝด อย่างราชินีองค์ปัจจุบัน ไวโอเล็ตต้าขึ้นมาทันที

แม้แต่ตัวเดวิเองที่เป็นคนสนิท ใกล้ชิดองค์ชายก็ยังไม่รู้ความสัมพันธ์ของแม่เลี้ยงและเจ้าตัว แต่ถึงอย่างไร เมื่อราชาล้มป่วยไม่สามารถทำอะไรได้ ผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนอย่างเท่าเทียมคือราชินี

ราชินีไม่ได้ถูกฝึกสอนมาเพื่อปกครองประเทศ ทำให้ถูกชักจูงได้โดยง่าย การประจบประแจงของบรรดาขุนนางแสนโลภมาก เป็นภาพที่เดวิเองก็เห็นอยู่บ่อย ๆ

ตราบใดที่ตัวของเจ้าชายซีโน่เองยังคงไม่ได้ขึ้นครองราชย์ เรื่องกบฏนั้นจะไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างโจ่งแจ้ง และไม่สามารถตัดสินโทษได้ เพราะถือเป็นการผิดกฎราชวงศ์อย่างแท้จริง

มาคราวนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มีคนวางแผนลอบปลิดชีพคนของราชวงศ์ และคนคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบรรดาขุนนาง หรือคนใน

การตามหาความจริง กำลังจะเริ่มขึ้นนับจากนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทที่ 4 สนามฝึกซ้อมของเหล่าพลทหาร

    บทที่ 4สนามฝึกซ้อมของเหล่าพลทหาร“ท่านโนเอล! พยายามเข้า!!”“อึก... สี่สิบห้า... สี่สิบหก... สี่สิบเก้า”“สี่สิบเจ็ดต่างหากเพคะ”“อืม... สี่สิบเจ็ด... สี่สิบแปด... สี่สิบเก้า…”“สี่สิบ!!”“สี่สิบ... ส... สี่สิบเอ็ด... เดี๋ยวนะ... โอ๊ย” โนเอลนอนแผ่อยู่กับพื้น ขณะที่ร่างกายส่วนบนเปลือยเปล่า ไร้สิ่งใดคลุม“เธอแกล้งฉันเหรอ?” โนเอลถามด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก“เปล่านะเพคะ หม่อมฉันเพียงบอกกล่าวจำนวนตามจริง”“เฮ้อ...” โนเอลถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เลวี่ชอบแกล้งเขาอยู่เป็นประจำนับจากเหตุการณ์ที่เขาเสียชีวิตจากชาติก่อน แล้วมาเกิดใหม่ในร่างของโนเอล มันก็ผ่านมาราว ๆ หนึ่งเดือนเต็มโชคยังดีที่ระหว่างนั้นไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นแน่นอนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ชายหนุ่มไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เขาใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการเรียนรู้วัฒนธรรม เรียนรู้ศาสตร์เวท และการต่อสู้โดยมีเลวี่เป็นคู่มือคราแรกเขาคิดว่าเธอจะเป็นสาวใช้ธรรมดา แต่ฝีมือที่แท้จริงกลับแข็งแกร่งมาก แม้จะน้อยกว่าเดวิก็ตามเธอคอยเป็นอาจารย์สอนและคู่ประลองให้ จนเริ่มปรับตัวเข้ากับโลกใหม่ได้อย่างราบรื่น กระทั่งหลังออกกำลังกายเสร็จ โนเอลก็ยังต้อง

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทที่ 3 อาณาจักรไม่รู้ร้อน

    บทที่ 3อาณาจักรไม่รู้ร้อนเถาวัลย์พาดตามไม้สูงระโยงระยาง พืชมากสี พรรณไม้ต่างพันธ์ุมองดูชวนรู้สึกแปลกตา ทั่วทั้งผืนป่าถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาภูมิอากาศหนาวเหน็บจนทั่วตัวสั่นไหว แม้กระทั่งน้ำจากทะเลหากได้ไหลผ่านที่นี่แล้วต่างก็กลายเป็นทะเลน้ำแข็งไปเสียหมด สภาพแวดล้อมช่างดูปั่นป่วนน่าประหลาดนี่คือป่าแถวล่างเขา อันเป็นจุดหมายหลังวาร์ปจากดาเลียมายังอัชลิงอัชลิงถูกเล่าขานกันโดยทั่วถึงเรื่องความเย็นยะเยือก ครั้นเมื่อสมัยราชินีวิโอล่ายังคงอยู่ สภาพอากาศสามารถแปรเปลี่ยนไปตามการควบคุมด้วยพลังของพระองค์เอง แต่หลังสิ้นพระชนม์ ชาวอัชลิงก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงความอบอุ่นอีกเลยกระทั่งถนนหนทางบางสายก็ยังมีน้ำแข็งประดับ หรือถูกใช้แทนไม้กั้นเนื่องด้วยความพิเศษบางประการ หากน้ำแข็งถูกปั้นแต่งโดยนักเวทของทางราชวงศ์ ก็จะไม่มีทางละลายได้โดยง่าย และสะพานของที่นี่เองก็ยังถูกปั้นแต่งโดยนักเวท‘มันจะแตกไหมเนี่ย?’ โนเอลหวาดหวั่นในใจ ขบวนรถม้ามีน้ำหนักไม่น้อย เกรงว่าผ่านไปไม่ถึงครึ่ง มันจะแตกเอาเสียก่อนขบวนรถม้าขนาดเล็กค่อย ๆ ข้ามผ่านสะพานเคลือบเงากลางป่าใหญ่ เสียงล้อรถดังเอี๊ยดอ๊าดทำเอาสัตว์น้อยใหญ่ต่างพากันคอย

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทที่ 2 ภัยร้ายกำลังคืบคลาน

    บทที่ 2ภัยร้ายกำลังคืบคลานเหมันต์ซึ่งปัจจุบันอยู่ในร่างของโนเอล หลังจากออกมาจากคฤหาสน์ เขายังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ ไปตามทางเดินที่สาวใช้กำหนดไว้ให้ ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงเมื่ออยู่ต่อหน้าหน้าใครบางคนเขาโค้งคำนับ แล้วเริ่มกล่าว“ข้ามีนามว่าเดวิ เป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์ชาย ยินดีที่ได้พบขอรับ” ทางฝ่ายนั้นเริ่มแนะนำตัวก่อน ทางด้านหลังของเขามีรถม้าแกะสลัก สีขาวเงาวับอยู่สองถึงสามคัน มาพร้อมกับเหล่าทหารของราชวงศ์อีกราว ๆ ห้าสิบคนชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเปรียบดั่งเมล็ดกาแฟค่อย ๆ คุกเข่าลง ก่อนจะประทับริมฝีปากที่หลังมือของโนเอลเพื่อแสดงถึงการให้เกียรติและยกย่องโนเอลไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมของที่นี่จนเผลอทำหน้าเหยเกออกมาอย่างไม่ตั้งใจ พอรู้ตัวก็รีบเก็บสีหน้าทันทีพอเดวิลุกขึ้น ก็รับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายมีขนาดตัวแตกต่างจากเขามากเพียงใด รูปร่างสูงโปร่งพร้อมกับร่างกายกำยำ ยิ่งเทียบกับทหารคนอื่น ๆ แล้วก็ดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงต่อให้เจ้าตัวจะไม่แนะนำว่าตนเป็นใคร โนเอลก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนคนนี้ไม่มีทางเป็นเพียงลิ่วล้ออย่างแน่นอน“ผมทราบแล้วขอรับ... เอ้ย ข้าทราบแล้ว แล้วก็อยากรู้เรื่องอะไรนิดหน่อย ช่วยรบก

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทที่ 1 ใครอีกคน

    บทที่ 1ใครอีกคนราวกับความเจ็บปวดหายเป็นปลิดทิ้ง สองตาเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะเริ่มใช้มือลูบไปยังท้ายทอย แม้ส่วนหัวควรจะขาดออกจากร่างไปแล้ว ทว่าตอนนี้กลับไม่มีรอยแผลหรือแม้แต่เลือดสักหยดเหมันต์เริ่มสังเกตรอบกายตนด้วยความว้าวุ่นใจ ก่อนจะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่สมองราวกับถูกไฟฟ้าช็อตภาพความทรงจำประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มไหลเข้ามาในหัว ใบหน้าของผู้คนซึ่งดูไม่คุ้นหน้ามากมายถูกบันทึกไว้ภายในสมอง รวมถึงเรื่องราว เหตุการณ์ หรือแม้กระทั่งหนังสือและอักขระแปลกตาทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตัวเขารับรู้ถึงมัน เสมือนกับได้เกิดขึ้นจริงกับตนเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวัง เสียใจ ปวดร้าว ทุกสิ่งถาโถมเข้ามาภายในตัวเขาจนแทบชา ก่อนทุกอย่างจะจบลงด้วยภาพที่เขาเคยเห็นก่อนหน้า ชายที่ถูกใครบางคนเรียกว่าโนเอล ถูกศัตรูปลิดชีพด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียวทั้งที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับถูกดูดไปยังอีกโลกหนึ่ง เวลาในความทรงจำช่างแสนยาวนาน ราวกับได้สัมผัสชีวิตใหม่แต่นาฬิกาทรายข้างเตียงยังคงไหลลงอีกด้านได้เพียงน้อยนิด ทำให้ทราบว่าเวลาแห่งโลกความเป็นจริงกลับผ่านไปไม่กี่นาที“อะไรกัน... เนี่ย... แล้วฉันอยู่ที่ไหนกัน” เหมันต์กวาดสายตาไป

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทนำ

    บทนำประสบการณ์เสมือนจริงร่างกายล่องลอย มองไม่เห็นแม้กระทั่งแสงสว่าง ข้อสงสัยที่คนมักจะถามกันเองอยู่บ่อย ๆ ว่าตายแล้วไปไหน เป็นสิ่งเดียวที่วกวนเข้ามาภายในโสตประสาทขณะนี้เหมันต์วัยยี่สิบหกปี เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตายอย่างมีเกียรติระหว่างทำภารกิจทว่าเขาไม่ได้โดนลูกปืนฝังหรือโดนมีดแทงจนเกิดแผลสาหัส ไร้หนทางรักษา การตายของเขามันน่าทึ่งกว่านั้นมากและนั่นคือ การตกบันไดตายระหว่างวิ่งตามหมาตำรวจว่ากันว่า ก่อนตาย ความทรงจำอันแสนสำคัญในอดีตจะหวนกลับเข้ามาให้นึกถึง เหมันต์เองก็มีความทรงจำแบบนั้นเช่นกัน แต่สิ่งที่เขาปรารถนาอย่างแรงกล้า คือขอให้รุ่นน้องคนสนิททำลายแล็ปท็อปของเขาให้สิ้นซากไปเสียชีวิตนี้ เขาขอเพียงเท่านั้นก็เป็นอันสุขใจแล้วหลังจากประสาทสัมผัสทั้งห้าดับสิ้นลง ร่างกายของเขาก็เวิ้งว้างอยู่ในโลกซึ่งไร้แสงสว่างทว่าความทรงจำประหลาดและน้ำเสียงไม่คุ้นหูกลับปรากฏขึ้นมา ทลายบรรยากาศอันน่ามัวหมอง บทสนทนาระหว่างสองฝ่ายชวนให้นึกถึงซีรีส์อังกฤษย้อนยุค ติดป้ายฮิตอันดับหนึ่งในแอปสตรีมมิ่ง หรืออาจเป็นคอมมิคสุดโปรดของพวกเด็กวัยรุ่นเสียมากกว่าอะไรอย่างเช่น ตัวเอกหลุดเข้าไปอยู่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status