Share

บทที่ 3 อาณาจักรไม่รู้ร้อน

Author: Yushelfoxy
last update Last Updated: 2025-07-06 11:54:09

บทที่ 3

อาณาจักรไม่รู้ร้อน

เถาวัลย์พาดตามไม้สูงระโยงระยาง พืชมากสี พรรณไม้ต่างพันธ์ุมองดูชวนรู้สึกแปลกตา ทั่วทั้งผืนป่าถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา

ภูมิอากาศหนาวเหน็บจนทั่วตัวสั่นไหว แม้กระทั่งน้ำจากทะเลหากได้ไหลผ่านที่นี่แล้วต่างก็กลายเป็นทะเลน้ำแข็งไปเสียหมด สภาพแวดล้อมช่างดูปั่นป่วนน่าประหลาด

นี่คือป่าแถวล่างเขา อันเป็นจุดหมายหลังวาร์ปจากดาเลียมายังอัชลิง

อัชลิงถูกเล่าขานกันโดยทั่วถึงเรื่องความเย็นยะเยือก ครั้นเมื่อสมัยราชินีวิโอล่ายังคงอยู่ สภาพอากาศสามารถแปรเปลี่ยนไปตามการควบคุมด้วยพลังของพระองค์เอง แต่หลังสิ้นพระชนม์ ชาวอัชลิงก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงความอบอุ่นอีกเลย

กระทั่งถนนหนทางบางสายก็ยังมีน้ำแข็งประดับ หรือถูกใช้แทนไม้กั้นเนื่องด้วยความพิเศษบางประการ หากน้ำแข็งถูกปั้นแต่งโดยนักเวทของทางราชวงศ์ ก็จะไม่มีทางละลายได้โดยง่าย และสะพานของที่นี่เองก็ยังถูกปั้นแต่งโดยนักเวท

‘มันจะแตกไหมเนี่ย?’ โนเอลหวาดหวั่นในใจ ขบวนรถม้ามีน้ำหนักไม่น้อย เกรงว่าผ่านไปไม่ถึงครึ่ง มันจะแตกเอาเสียก่อน

ขบวนรถม้าขนาดเล็กค่อย ๆ ข้ามผ่านสะพานเคลือบเงากลางป่าใหญ่ เสียงล้อรถดังเอี๊ยดอ๊าดทำเอาสัตว์น้อยใหญ่ต่างพากันคอยเฝ้ามองผู้มาเยือนในครานี้

ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอัลมอนด์ เอื้อมมือไปเปิดหน้าต่างในห้องโดยสารแต่ลมหนาวกลับทำให้เขาต้องปิดมันในทันที ถึงในตอนนี้จะไม่ได้ทรมานตัวเท่าก่อนหน้า แต่อุณหภูมิของทั้งสองอาณาจักรก็ต่างกันมากอยู่ดี

‘ก็ดีใจที่มันไม่แตกนะ... แต่หนาวชะมัด’

ประตูวาร์ประหว่างเมืองอัชลิงและดาเลีย ถูกตั้งตระหง่านไว้ตรงหน้าปากทางขึ้นภูเขาน้ำแข็งสูงชันนามว่าเลซา ซึ่งต่อให้เงยหน้าขึ้นมองก็ไม่มีทางรู้เลยว่าแท้จริงแล้วมันสูงถึงเท่าไหร่กันแน่

สาเหตุหลักคือเขาทุกลูกต่างถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาพร้อมทั้งไอเย็น ทำให้มองไม่เห็นยอดเขา และไม่มีใครใจกล้าขึ้นไปพิสูจน์

เพราะนอกจากจะเป็นเขตมานาเจือจาง ส่งผลให้ควบคุมพลังเวทได้ยากแล้ว บนนั้นก็ยังเต็มไปด้วยมอนสเตอร์และสัตว์ร้ายปริศนาที่ทรงพลังมากพอจะทำลายเมืองใหญ่ได้ทั้งเมือง

โนเอลมีความสงสัยถึงเทือกเขานั้นเป็นอย่างมาก แต่เดวิกลับพูดมาเพียงว่า ไม่รู้เสียจะดีกว่า

แม้ว่าจะมีนักผจญภัยและกิลด์นักเวทบางส่วน อยากท้าทายและพิชิตยอดเขา แต่ท้ายที่สุดมันก็ยากเกินกว่าจะสำเร็จ

เรื่องน่าแปลกอีกอย่างหนึ่งคือ ทั้งที่เป็นพื้นที่ใกล้เคียง แต่อัชลิงกับดาเลียกลับมีอุณหภูมิต่างกันโดยสิ้นเชิง

เดินทางมาได้สักพักใหญ่ โนเอลที่พิงหัวไว้ข้างหน้าต่าง ก็ได้ยินเสียงจอแจออกมาจากด้านนอก ทำให้รู้ว่ากำลังเข้าสู่เขตตัวเมือง

“ดูนั่นสิ รถม้าของทางราชวงศ์!”

“ราชวงศ์งั้นเหรอ? ทำไมถึงมาแถวนี้ได้ล่ะ”

“เจ้านี่ไม่รู้อะไรเลย ได้อ่านประกาศที่ติดอยู่บนแผ่นไม้บ้างไหมนั่น”

“ก็เห็นมีแต่รับสมัครคนเข้ากิลด์นี่หว่า”

เสียงของชาวเมืองรอบข้างดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรถม้าเริ่มเหยียบย่ำถนนคอนกรีต

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นสถานที่แรกที่จะพบเจอเมื่อผ่านทางสะพานน้ำแข็งมา

คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถใช้พลังเวทได้ หากไม่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างลำบาก หรือเป็นพวกดัชนีทองคำ โดยเฉพาะเวทน้ำแข็งที่เป็นสัญลักษณ์ประจำอาณาจักร

ซึ่งส่วนมากคนในราชวงศ์ล้วนมีพลังสายน้ำแข็งกันเสียหมด ข้อแตกต่างเพียงอย่างคือ ความเข้มข้นและแข็งแกร่งของเวทจะขึ้นอยู่กับผู้ฝึกทักษะและสายเลือด

หากพูดให้เข้าใจโดยง่ายคือ มีคนประเภทที่เก่งโดยสายเลือด และเก่งเพราะพยายามอย่างหนัก ซึ่งสถานที่ที่รวมคนสองประเภทนั้นไว้ในที่เดียวกันคือกิลด์นักเวท หากได้กวาดสายตามองไปรอบเมือง ไม่ว่าจะจุดไหนก็ล้วนแต่มีป้ายกิลด์ติดเอาไว้

สรุปแล้ว เมืองเอเลลันซึ่งเป็นประตูด่านหน้าของอัชลิงคือเมืองศูนย์รวมนักเวทนั่นเอง

“ท่านซีโน่!!” เสียงร้องตะโกนของใครบางคนดังออกมาจากนอกคันรถ ทันใดนั้นเจ้าของชื่อก็เปิดประตูออกไป

โนเอลที่ยังไม่แน่ใจสถานการณ์จึงชะโงกหน้าออกไปมอง

จู่ ๆ เขาก็เริ่มทำสีหน้าเหยเกอีกครั้ง เมื่อพบว่าชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ส่วนสูงโดดเด่น ทั้งสามคนกำลังยืนล้อมวงพูดคุย หารือกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

นอกจากสองในสามที่เขารู้จักก็มีใครอื่นเพิ่มมาอีกคน ผมสีไวน์แดง ดูเด่นดึงดูดสายตาและยิ้มสดใสดูคล้ายลูกหมาไร้พิษสง ภายหลังโนเอลได้รู้ คนผู้นั้นมีนามว่าลูคัสด้วยคำบอกเล่าของเดวิ

องค์รัชทายาทซีโน่มีองรักษ์ส่วนตัวที่สนิทสนมด้วยถึงสองคน หากเปรียบเปรยก็คงจะเหมือนดาบและโล่

แม้ในสายตาของโนเอลแล้ว เดวิจะมีทักษะดาบอันยอดเยี่ยมเหนือผู้อื่น แต่ความจริงกลับเทียบไม่ได้เลยเมื่อพูดถึงลูคัส ลาเมล

สงครามใหญ่เมื่อครั้งก่อน หากกล่าวถึงรายชื่อของผู้เข้าร่วมการรบ และทำประโยชน์ได้มากที่สุด ชื่อของเขาก็คงอยู่ในลำดับต้น ๆ รองลงมาจากองค์รัชทายาท ส่วนเดวิเองก็มีเรื่องที่ตนเก่งแต่ลูคัสไม่เก่งอยู่เช่นกัน

ในสงครามส่วนมากนอกจากซีโน่จะเป็นผู้สั่งการและนำทัพด้วยตัวเองแล้ว แผนการรบทั้งหมดล้วนเป็นความเห็นที่ถูกเสนอและจำลองโดยเดวิ เมื่อทั้งสามอยู่รวมกันย่อมไม่มีอะไรต้องหวั่นเกรง

หลังจากที่ซีโน่ออกไปข้างนอก คุยกันได้ไม่นานก็เดินกลับมานั่งที่ห้องโดยสารเหมือนเดิม ก่อนที่โนเอลจะรู้สึกวูบวาบในอก พื้นไม้รอบด้านเริ่มสั่นไหวโคลงเคลงจนอยากอาเจียน เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเริ่มผ่อนคลายไม่ให้ตื่นตระหนก

ใช้เวลาพักหนึ่งม้าที่หยุดนิ่งไปก็กลับมาเดินไปตามทางเหมือนดั่งเดิม บรรยากาศที่หนาวเหน็บเริ่มเบาบางลงเมื่ออยู่ที่นี่ บ้านเรือนอาคารก่อนหน้าหายจนลับตาทั้งยังเต็มไปด้วยพรรณไม้ดูแปลกตากว่าป่าที่เคยผ่านมาก่อนหน้านี้

สายธารไหลลงมาจากภูผาน้ำแข็งยักษ์ รุกข์ลำต้นหนาทั้งยังสูงลิ่ว บุปผาเหมันต์งามหยดราวกับถูกแกะสลักประดับประดาอยู่มากมายตามพุ่มไม้

กลิ่นหอมอ่อนละมุนล่องลอยอยู่คละคลุ้ง หิ่งห้อยส่องแสงสว่างแม้จะมีแสงอรุณสาดส่อง บรรยากาศภายนอกตอนนี้ช่างแตกต่างกับป่าทางเข้าโดยสิ้นเชิง

โนเอลเผลอหลับไปครู่หนึ่งเพราะกลิ่นหอมที่ชวนเคลิ้มหลับ เมื่อรู้สึกตัวก็ถึงจุดหมายพอดี เขาสะลึมสะลือแล้วยีตาตัวเอง ก่อนจะรู้สึกตัวว่าเผลอซบแขนคนข้างกายไป ซีโน่เงียบงันไม่กล่าวคำใดแล้วลงจากรถม้าไปก่อน

ถึงก่อนหน้านี้ซีโน่จะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาพอจะรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคงจะรู้สึกรังเกียจไม่มากก็น้อย ถึงขนาดรีบก้าวเดินแบบไม่รีรอ ไม่ทันที่เขาจะเดินออกมาจากห้องโดยสาร เจ้าตัวก็ไปถึงยังหน้าประตูเสียแล้ว

เบื้องหน้ามีปราสาทสูงตระหง่านถูกเปิดประตูเอาไว้กว้าง รอต้อนรับผู้ที่จะกลายเป็นราชินีในอนาคต

ภายในถูกปูด้วยพรมแดงเป็นทางเดินลาดยาวสุดสายตาและเมื่อเปิดประตูอีกชั้นเข้าไปก็พบกับหญิงสูงศักดิ์ใส่อาภรณ์สีน้ำเงินโคบอลต์ดูสะดุดตา

ส่วนล่างของชุดถูกปักเลื่อมบางส่วน เครื่องประดับสีม่วงคละฟ้า ถูกจัดวางอย่างประณีตลงบนผมสีเงินเฉกเช่นเดียวกับซีโน่ และพี่สาวของนางผู้เป็นราชินีองค์ก่อน

ข้างบัลลังก์มีหญิงสาววัยราว ๆ สิบหกยืนคู่เคียง เธอดูท่าทางสง่าผ่าเผยและเฉยชา อีกทั้งรูปร่างหน้าตาล้วนเหมือนผู้เป็นคู่หมั้นของเขาไม่มีผิดเพี้ยน คงเป็นน้องสาวหรือใครในครอบครัวที่เดวิไม่เคยกล่าวถึง

เหล่าผู้คนซึ่งหากได้ปราดตามองเพียงครั้งเดียว ก็รับรู้ได้ถึงความสูงส่ง ทั้งชายและหญิงต่างยืนแยกกันเป็นสองฝั่ง

แต่ละคนต่างแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามและเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้นบางคนก็ยังคงเก็บสีหน้า แสร้งทำเป็นนิ่งเฉย

เจ้าหน้าที่พิเศษและพวกรัฐบาลต่างก็มีคนประเภทนี้อยู่เช่นกัน เขาถึงได้รู้สึกนิ่งเฉย ไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย

“โนเอล เฟอแนล ข้ายินดีมากที่พบเจ้า ชายหนุ่มผู้มาจากอาณาจักรอันแสนห่างไกล เพื่อมาเป็นคู่หมั้นขององค์รัชทายาท ซีโน่ ลัวร์” เธอแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย ดวงตาเฉี่ยวคมที่แม้ว่าจะกำลังยิ้มอยู่แต่กลับทำให้คนทั่วไปรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย

“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ องค์ราชินีไวโอเล็ตต้าผู้สูงส่ง” เขาแสดงความเคารพเหมือนดั่งที่โนเอลในอดีตเคยทำ เมื่อครั้งพบคนของราชวงศ์ตามโอกาส

“หึหึ ตายจริง ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจ้าพร้อมกับองค์รัชทายาท เหตุใดองค์รัชทายาทจึงปรากฏตัวพร้อมองครักษ์ทั้งสองเลยล่ะ?”

“ระหว่างทางได้รับข่าวแจ้งมาว่ามีเหตุร้ายเกิดกับคู่หมั้น ข้าและลูคัสจึงไปรับตัวและคอยดูแลให้แคล้วคลาดปลอดภัย องค์ราชินีคงไม่สงสัยว่าข้าจะกระทำการใดที่ผิดต่อราชวงศ์หรอกกระมั้ง?” ซีโน่ตอบเสียงเรียบ

“เหตุใดเจ้าจึงคิดเยี่ยงนั้น ข้าไม่สงสัยเจ้าหรอก ในเมื่อเจ้าเป็นลูกของข้า ไยต้องแคลงใจในตัวเจ้าด้วยเล่า?” นางส่งเสียงหัวเราะด้วยความชอบใจ ยากจะคาดเดาเจตนา

“เลวี่ พาพระคู่หมั้นไปยังห้อง ส่วนองค์รัชทายาท เดวิ เรวาเลียและลูคัส ลาเมล พวกเจ้าอยู่นี่ก่อน เรามีเรื่องต้องหารือกันเล็กน้อย”

สาวใช้ผู้ถูกเรียกว่าเลวี่ รับคำสั่งราชินีก่อนจะพาตัวโนเอลไปยังห้องที่ถูกจัดเตรียมไว้ การทักทายครั้งนี้สั้นกว่าที่เขาคาดคะเนเอาไว้ ดูแล้วราชินีผู้แสนยากจะคาดเดา คงไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยว่าเขาจะเป็นตัวอันตรายต่ออำนาจของนางสักเท่าไหร่

หากนางไม่คำนวณผิดพลาดก็คงเป็นหนึ่งในแผนการซึ่งตัวเขาก็คงต้องระวังไว้สักหน่อย

ห้องส่วนตัวของเขาถูกตั้งอยู่ไม่ห่างกับห้องทำงานขององค์รัชทายาท ภายในถูกต้องแต่งราบเรียบไม่หวือหวาแต่ก็ดูดี

“ท่านโนเอล หม่อมฉันมีนามว่าเลวี่ ฟาเรโซ ต่อจากนี้จะคอยดูแลท่านโนเอลในฐานะสาวใช้ส่วนตัวเพคะ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลคาราเมลเฉกเช่นเดียวกับเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงสดใสหน้าตายิ้มแย้ม

จากรูปร่างอย่างหูที่ยาวมากผิดปกติ เธอคงไม่ใช่มนุษย์

“ไม่ต้องมากพิธีหรอก เป็นกันเองเถอะ เอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน” เขาว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้

“ไม่ได้เพคะ หากหม่อมฉันหลุดพูดด้วยความเคยชิน ผู้อื่นคงได้หาว่าท่านโนเอลคุมคนใช้ได้ไม่ดีอย่างแน่นอนเพคะ! พวกสาวใช้และทุกคนในวังต่างไว้ใจไม่ได้ ท่านโนเอลอย่าได้เผลอวางใจแม้เพียงครู่เดียวนะเพคะ อีกอย่าง พวกขุนนางมักจะชอบหาเรื่องคนของท่านซีโน่อยู่เป็นประจำ ท่านโนเอลระมัดระวังตัวไว้ให้มาก ๆ นะเพคะ”

เลวี่พูดจาเจื้อยแจ้ว แล้วเริ่มสาธยายถึงเรื่องราวของวังนี้ เธอย้อนความหลังทั้งยังลงรายละเอียดเกี่ยวกับขุนนางต่างๆ ในวัง คนที่ควรผูกมิตรและไม่ผูกมิตร เขารับฟังสิ่งที่เธอพูดออกมาทั้งหมด ตราบใดที่ตัวเขามียศฐาเป็นคู่หมั้น ในอนาคตหากอำนาจไม่สั่นคลอนย่อมต้องกลายเป็นราชินี

หากอยากใช้ชีวิตอยู่รอด ย่อมต้องเลือกคนให้ เขาคงไม่บ้าพอที่จะหัวรั้นไม่เลือกข้างหวังพึ่งแต่ตัวเอง ทั้งที่ไม่มีอำนาจทั้งยังไร้ซึ่งคนสนิท เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม นี่คือสิ่งที่เขายึดมั่นมาโดยตลอด

“ท้ายที่สุดขอท่านโนเอลอย่าไว้วางใจดยุกต์ร็อกโก้เป็นอันขาด คนผู้นั้นหม่อมฉันเห็นมาตั้งแต่หม่อมฉันยังเป็นพี่เลี้ยงให้ท่านซีโน่ กล่าวได้ว่าเป็นตัวอันตรายเพคะ”

“พี่เลี้ยง? เจ้าอายุเท่าไหร่กันแน่” โนเอลถามก่อนที่เธอจะท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ยี่สิบเจ็ดเพคะ”

โนเอลเหลือบมองเลวี่ด้วยความรู้สึกสนอกสนใจ เพียงแต่ความสนใจนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่เป็นเรื่องที่เลวี่ดูมีไหวพริบดี เพียงเห็นหนังสือที่อยู่ในกระเป๋าสัมภาระก็ทักถาม ทั้งยังรู้จักใช้คำพูด อีกทั้งเป็นรู้จักพื้นเพของคนในวังเป็นอย่างดี

หากเขาได้สาวใช้คนนี้มาข้างกายจริงๆ คงจะดีไม่น้อยเว้นเสียว่าเธออาจเป็นคนที่ราชินีส่งมาจับตาดูและคอยรายงานการกระทำเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในแผนการของนางก็เป็นไปได้

แต่ถึงยังไงเขาก็จะดึงผู้หญิงคนนี้มาเข้าข้างตนให้ได้อย่างแน่นอน

“ไม่ต้องห่วงนะเพคะ นอกจากพวกชนชั้นสูงแล้วก็ยังเหลือผู้ที่ไว้ใจได้อย่างท่านหมอเลนนี่อยู่ ถ้าท่านโนเอลเป็นแผล ไม่สิ ข้าจะไม่มีวันให้ท่านเป็นอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างงั้นหม่อมฉันก็มีพลังรักษาอยู่นะเพคะ” เลวี่พูดจาเจื้อยแจ้วผิดกับเขาถนัด

เธอแบมือเค้นพลังอยู่พักหนึ่งก็มีแสงสีเขียวอ่อนออกมา ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอเปล่งประกายขึ้นระหว่างนั้น ใบหน้ายิ้มแย้มพลันเปลี่ยนไปนิ่งสงบดูสุขุมสมวัย

“เดิมทีแล้วหม่อมฉันเป็นลูกครึ่งเอลฟ์ผู้มีความสามารถในการรักษา อดีตเคยเป็นสาวรับใช้ข้างกายราชินีวิโอล่าอีก ทั้งยังเป็นพี่เลี้ยงให้องค์รัชทายาทเมื่อครั้งยังเด็ก แต่หลังจากราชินีผู้จิตใจได้ล่วงลับไป หม่อมฉันก็ถูกส่งกลับบ้านเกิด ซึ่งตอนนี้หม่อมฉันถูกส่งตัวกลับมาอีกครั้งเพื่อรับใช้ท่านโนเอลโดยเฉพาะ”

เขาสงสัยในเรื่องที่เธอพูดถึงแต่ก็สลัดความคิดนั้นไป ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงไม่เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของราชินีไวโอเล็ตต้าอยู่ดี

โนเอลสะบัดความคิดในหัวออกทั้งหมด แล้วมานั่งทบทวนสถานการณ์อีกครั้ง

เรื่องที่เขาพอรู้จากภาพจำที่ผ่านมา

ข้อแรก ความทรงจำของโนเอลทั้งหมดถูกส่งมาต่อที่เขา ตั้งแต่จำความได้จนถึงบั้นปลายสุดท้ายของชีวิต คล้ายกับการย้อนเวลามาแก้ไขสิ่งผิดพลาด แต่คนที่ต้องแก้ไขคือเหมันต์ ไม่ใช่โนเอล

ทว่ากลับมีข้อสงสัยหลายจุด

อย่างเรื่องล่าสุด คือสถานการณ์ที่ใครไม่รู้ดันเข้ามาลอบโจมตีขบวนเดินทางของเขา แต่ถ้าคำนึงถึงความสัมพันธ์ภายใน ก็คงไม่พ้นเหล่าขุนนาง

ในชาติก่อน โนเอลไม่รู้อะไรเลย เขาถูกผู้คนในวังรวมถึงซีโน่หมางเมิน ราวกับเป็นเพียงตุ๊กตาประดับ ความบันเทิงเดียวที่จะหาได้คือการพูดคุยกับเลวี่

กว่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ปราสาทก็พังทลายลงเสียแล้ว

อย่างน้อยโนเอลก็ให้ความเคารพกับซีโน่ แม้คราแรกจะดูไม่ชอบหน้าเฉกเช่นเดียวกับเขาในตอนนี้

เหมันต์ในร่างโนเอลครุ่นคิดอยู่นานสองนาน เหตุใดตัวเขาต้องประสบพบเจอกับการลอบโจมตี แต่โนเอลผู้เป็นเจ้าของร่างในชาติก่อนดันไม่ สิ่งเดียวที่พอจะเป็นคำตอบได้ คือทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก

และข้อสองที่ต้องคิดวิเคราะห์อย่างหนัก จุดจบของทั้งหมดคือการที่อาณาจักรนี้ล่มสลาย หากคิดไปถึงช่วงเวลาแล้ว ก็คงราว ๆ สองถึงสามปีข้างหน้า

แอกเนสและไรเกอร์เป็นใคร แล้วอีกสามคนที่เขามองไม่เห็นหน้านั่นอีก แล้วคนทั้งหมดนั่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับขุนนางในวังหรือไม่ มีแต่เรื่องให้น่าคิดเต็มไปหมด

โนเอลถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย จนเลวี่ที่ยืนอยู่ข้างกายก็ผล็อยตกใจไปด้วย

“เป็นอะไรไปหรือเพคะ?” เธอกล่าวถาม

“ไม่หรอก แค่รู้ตัวปวดเมื่อยนิดหน่อย...” เขาว่าพลางบิดตัวไปมา โนเอลไม่ได้พูดพอให้เธอหายสงสัย เขารู้สึกปวดเมื่อยอยู่จริง ๆ หลังถูกลอบโจมตีก็เดินทางต่อจนแทบไม่ได้พัก

อยากจะใช้เวลางีบในรถโดยสารก็ดันมีชายหนุ่มสีหน้าไม่รับแขกอยู่ด้วยตลอดเวลา เป็นเช่นนี้แล้ว จะหลับลงได้อย่างไรกัน

“หม่อมฉันมีความคิดดี ๆ อยู่นะเพคะ น้ำตกด้านหลังปราสาท มีฤทธิ์ช่วยชำระล้างอาการปวดเมื่อย”

“อากาศที่นี่เย็นขนาดนี้ น้ำตกจะไม่กลายเป็นน้ำแข็งเอาเหรอ?”

“เอาไว้ท่านโนเอลไปถึงที่นั่นก็จะรู้เองเพคะ” เธอตอบกลับมาเพียงแค่นั้น ทิ้งไว้เพียงความงุนงงแก่โนเอล

เลวี่ใช้เวลาสักพักสำหรับการจัดเตรียมเสื้อผ้า ก่อนที่ตัวเธอจะนำพาโนเอลไปยังน้ำตกดังกล่าว

น้ำตกอยู่ในป่าหลังปราสาท เดินเท้าเพียงไม่นานก็ถึงที่หมาย

เลวี่พาเขาเดินเข้าไปลึกพอควร ถึงได้เจอเข้ากับสถานที่ชวนทึ่ง ทั้งที่อัชลิงมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอด แต่ที่นี่กลับอบอุ่น พืชพันธุ์ก็ดูธรรมดา ไม่ได้ชวนประหลาดใจเหมือนก่อนหน้า

กลิ่นหอมน่าหลงใหลจากธรรมชาติชวนให้เขารู้สึกดีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะสีเขียวจากใบไม้

โนเอลเดินตามเลวี่ต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเสียงน้ำกระทบกันเริ่มดังขึ้น และสายตาของเขาเริ่มมองเห็นไอน้ำจาง ๆ

อุณหภูมิของที่นี่สูงกว่าปกติ หากแช่น้ำแล้วตรงกลับไปยังปราสาท ร่างกายคงช็อกเพราะปรับตัวไม่ทันอย่างแน่นอน

“ถึงแล้วเพคะ ท่านโนเอลเปลื้องผ้าแล้วลงแช่ได้เลยนะเพคะ ที่นี่มีเพียงคนในราชวงศ์เท่านั้นที่รู้ แถมไม่ได้หาเจอกันง่าย ๆ ด้วยเพคะ” เลวี่ว่า พลางยืนยิ้มหน้าตาเฉย

โนเอลมองหน้าเธอนิ่ง คล้ายกับอยากให้เธอเดินออกไปมากกว่ายืนอยู่ตรงนี้ ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงทำหน้าเบิกบาน ไม่รู้สึกรู้สาอะไร

ต่างฝ่ายต่างยืนมองหน้ากัน ไม่ขยับเขยื้อนหรือเอื้อนเอ่ยคำใด จนเลวี่ต้องเปิดปากพูดก่อน

“เหตุใดจึงไม่เปลื้องผ้าเหรอเพคะ”

‘ก็มีเธออยู่ไง!!” เขาได้แต่โอดครวญในใจ ก่อนจะตอบกลับเสียงแผ่ว

“เธอก็ออกไปก่อนสิ...”

“หากหม่อมฉันออกไป แล้วจะมีหญิงใช้คนใดคอยรับใช้ท่านละเพคะ”

“แต่ฉันไม่สบายใจถ้าเธอจะยืนอยู่ตรงนี้นะ...”

“ทำไมล่ะเพคะ หม่อมฉันดูแลท่านโนเอลไม่ดีเท่าที่ควรหรือว่าอย่างไรเพคะ” เธอแสดงสีหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด รอบดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำสีใสปริ่มออกมา

“ไม่ใช่อย่างงั้น แต่ว่า...”

“แต่ว่าทำไมหรือเพคะ...” ยังไม่ทันที่โนเอลจะได้ตอบกลับ หูเอลฟ์ของเธอก็กระดิกราวกับสัตว์ยามเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

“งั้นหม่อมฉันขอตัว หากท่านโนเอลต้องการอะไร ก็เรียกได้เลยนะเพคะ หม่อมฉันจะรีบมาทันที” เลวี่กล่าวพลางหัวเราะคิกคัก แล้วเดินจากไป

“นี่... เดี๋ยวสิ... อะไรเนี่ย บทจะไปก็ดันไปง่าย ๆ แบบนี้อะนะ โอ้ย จะบ้าตาย มีแต่คนเข้าใจยากเต็มไปหมด”

โนเอลไม่รีรออีกต่อไป หากน้ำตกสามารถชำระล้างความเจ็บปวดได้จริง ก็จะขอรีบโดดลงไปเดี๋ยวนี้

มือทั้งสองข้างปลดเปลื้องเสื้อผ้าอย่างเบามือ เหลือไว้เพียงกางเกงชั้นใน กล่าวกันตามตรง การที่ต้องโล่งโจ้งท่ามกลางป่าก็เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ชวนสยิวอยู่ไม่น้อย

หวังว่าเลวี่จะไม่บังเอิญเข้ามาในเวลาแบบนี้ เพราะไม่งั้น เขาคงไม่มีหน้าไปเจอเธออีก

ทันทีที่ได้ก้าวขาข้างหนึ่งลงไป ความปวดเมื่อยก็จางลงอย่างเห็นได้ชัด โนเอลเริ่มลงไปแช่จนตัวจม ความอบอุ่นจากอุณหภูมิน้ำ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายจนโนเอลต้องหลุดเสียงครางออกมา

“อ่า... ไม่อยากไปไหนแล้ว...” เขามุดน้ำจนเหลือไว้เพียงส่วนหัว

ความเงียบสงบบังเกิดจนโนเอลแทบเคลิ้มหลับ ยิ่งมีลมพัดโชยมาเบา ๆ ก็ยิ่งทำให้เขาสบายตัวเข้าไปใหญ่ ชักเริ่มสงสัยแล้วว่าเหตุใดความอบอุ่นจึงมีเพียงบริเวณนี้เท่านั้น

โนเอลไม่แน่ใจว่าความเหน็บหนาวของอัชลิงสร้างผลกระทบต่อบุคคลทั่วไปถึงเพียงใด แต่จากที่ได้ผ่านเมืองด่านหน้ามา พวกเขาต้องสวมเสื้อผ้ามิดชิดอยู่ตลอด

โนเอลทิ้งกายให้ลอยไปตามน้ำ แล้วนึกคิดสิ่งที่ต้องทำไปพลาง ถึงจะรู้เป้าหมายแต่เขาก็นึกวิธีการไม่ออก ความคิดฟุ้งซ่านอัดแน่นอยู่ภายในสมอง จนกระทั่งได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง เขาถึงได้หลุดออกจากภวังค์

โนเอลขมวดคิ้วแน่น เลวี่บอกไว้ว่าที่นี่ไม่มีใครหาเจอได้โดยง่าย แล้วทำไมกลับมีคนอยู่

หากหันไปทางต้นเสียงจะพบกับต้นทางของน้ำตก ทว่ากลับมีโขดหินบังเอาไว้อยู่ โนเอลขึ้นจากแม่น้ำ แล้วสวมเสื้อผ้าพอให้ได้มีอะไรคลุมร่างเอาไว้

ก่อนจะเดินเท้าไปสังเกตการณ์ที่จุดหลังโขดหินนั่น

เขาเพียงอยากรู้ว่าที่ตรงนั้นมีอะไรอยู่ เพียงเท่านั้น หากค้นพบคน ก็จะรีบเดินกลับในทันที

โนเอลเกาะโขดหินแล้วค่อย ๆ ปีนขึ้นไปอย่างเบาแรง เพื่อไม่ให้เกิดเสียงจนอาจทำให้อะไรสักอย่างตรงนั้นรู้ตัว

เขาเพ่งพินิจกับภาพตรงหน้า ก่อนจะเจอเข้ากับแผ่นหลังสีขาวซีด เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แน่นเสียยิ่งกว่าทหารในค่ายฝึก แผ่นหลังนั่นเต็มไปด้วยบาดแผลจากสิ่งที่ไม่อาจบอกได้ว่าคืออะไร และรอยฟันจากคมดาบ

ทว่าความน่าสนใจดันอยู่ที่แขนเสียมากกว่า แขนฝั่งซ้ายของเจ้าตัว มีรอยประหลาดเกินกว่าจะเป็นรอยสักที่สักไว้เพื่อความสวยงาม นอกจากนั้นมันก็ยังแผ่ขยายไปจนถึงส่วนคอ

โนเอลให้ความสนใจกับมันเป็นอย่างมากจนเผลอเหม่ออย่างไม่ตั้งใจ จนกระทั่งแผ่นหลังแปรเปลี่ยนไปเป็นซิกแพ็คส่วนหน้า และกำลังเข้ามาใกล้ เขาก็ยังคงจดจ่ออยู่กับรอยประหลาด

พอรู้ตัวอีกที ปลายดาบก็จ่อเข้าที่ต้นคอเสียแล้ว

“มาทำอะไรที่นี่” ซีโน่กล่าว

“อึก...” โนเอลกลืนน้ำลาย ดูท่าความอยากรู้อยากเห็นของเขาจะสร้างปัญหาอีกแล้ว

“ข้าถามว่ามาทำอะไรที่นี่” สายตาคมกริบเปี่ยมไปด้วยความเย่อหยิ่ง ปรายตามองมายังโนเอล ทำเอาเขาสะท้านไปทั้งร่าง

“เลวี่แค่พามาแช่น้ำ”

“นางอยู่ไหน?”

“ไม่รู้ แค่บอกเธอ- เอ้ย... นางบอกว่าข้าอยากอยู่คนเดียว” โนเอลตอบกลับเสียงเรียบ เขาคอยจ้องอีกฝ่ายตาไม่กะพริบ ขอเพียงชั่ววินาทีที่อีกฝ่ายเผลอ เขาจะรีบวิ่งแจ้นอย่างแน่นอน

“...” ซีโน่มองโนเอลด้วยแววตายากจะคาดเดา

และเวลาซึ่งเขาเฝ้ารอก็มาถึง เพียงซีโน่กะพริบตา เขาก็รีบกลิ้งลงมาจากโขดหิน แล้ววิ่งสับเท้าจนไฟแทบลุก

โนเอลเผ่นจนลับสายตาของซีโน่ ซีโน่มองนิ่ง ก่อนจะกลับไปอุ่นร่างกายของตนต่อ

“น่ารำคาญ”

โนเอลรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้เอาจริง ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่อยู่รอดมาจนถึงตอนนี้ ตราบใดที่ยังไม่ได้ปืนคู่ใจ เขาคงต้องทำตัวสงบเสงี่ยมเสียหน่อย

เพราะดูจากขนาดร่างของโนเอลกับซีโน่ ก็พอจะรับรู้แล้วว่าใครจะชนะ

“เลวี่!!” เขาตะโกนเรียกเธอ

“เรียกหม่อมฉันหรือเพคะ” เธอโผล่มาเพียงเสียง แต่กลับไม่พบตัว

“เธออยู่ไหนน่ะ”

“ข้างบนเพคะ” โนเอลเงยหน้ามองตาม ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายอยู่บนต้นไม้จริง ๆ

เธอกระโดดลงมา แล้วหยุดอยู่ตรงหน้าโนเอล

“เหตุใดท่านโนเอลถึงได้ตัวเปียกถึงเพียงนั้นล่ะเพคะ ตายจริง เสื้อผ้าก็เปียกไปด้วยเลย”

“เธอ... เฮ้อ กลับกันเถอะ” โนเอลไม่พูดอะไรต่อ แล้วให้เลวี่นำทางกลับ

เขาเหนื่อยมากเกินกว่าจะพูดอะไรได้อีก

เลวี่หัวเราะคิกคัก ดูท่าสิ่งที่เธอตั้งใจไว้ จะเป็นจริงดั่งคาดหวัง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทที่ 4 สนามฝึกซ้อมของเหล่าพลทหาร

    บทที่ 4สนามฝึกซ้อมของเหล่าพลทหาร“ท่านโนเอล! พยายามเข้า!!”“อึก... สี่สิบห้า... สี่สิบหก... สี่สิบเก้า”“สี่สิบเจ็ดต่างหากเพคะ”“อืม... สี่สิบเจ็ด... สี่สิบแปด... สี่สิบเก้า…”“สี่สิบ!!”“สี่สิบ... ส... สี่สิบเอ็ด... เดี๋ยวนะ... โอ๊ย” โนเอลนอนแผ่อยู่กับพื้น ขณะที่ร่างกายส่วนบนเปลือยเปล่า ไร้สิ่งใดคลุม“เธอแกล้งฉันเหรอ?” โนเอลถามด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก“เปล่านะเพคะ หม่อมฉันเพียงบอกกล่าวจำนวนตามจริง”“เฮ้อ...” โนเอลถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เลวี่ชอบแกล้งเขาอยู่เป็นประจำนับจากเหตุการณ์ที่เขาเสียชีวิตจากชาติก่อน แล้วมาเกิดใหม่ในร่างของโนเอล มันก็ผ่านมาราว ๆ หนึ่งเดือนเต็มโชคยังดีที่ระหว่างนั้นไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นแน่นอนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ชายหนุ่มไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เขาใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการเรียนรู้วัฒนธรรม เรียนรู้ศาสตร์เวท และการต่อสู้โดยมีเลวี่เป็นคู่มือคราแรกเขาคิดว่าเธอจะเป็นสาวใช้ธรรมดา แต่ฝีมือที่แท้จริงกลับแข็งแกร่งมาก แม้จะน้อยกว่าเดวิก็ตามเธอคอยเป็นอาจารย์สอนและคู่ประลองให้ จนเริ่มปรับตัวเข้ากับโลกใหม่ได้อย่างราบรื่น กระทั่งหลังออกกำลังกายเสร็จ โนเอลก็ยังต้อง

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทที่ 3 อาณาจักรไม่รู้ร้อน

    บทที่ 3อาณาจักรไม่รู้ร้อนเถาวัลย์พาดตามไม้สูงระโยงระยาง พืชมากสี พรรณไม้ต่างพันธ์ุมองดูชวนรู้สึกแปลกตา ทั่วทั้งผืนป่าถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาภูมิอากาศหนาวเหน็บจนทั่วตัวสั่นไหว แม้กระทั่งน้ำจากทะเลหากได้ไหลผ่านที่นี่แล้วต่างก็กลายเป็นทะเลน้ำแข็งไปเสียหมด สภาพแวดล้อมช่างดูปั่นป่วนน่าประหลาดนี่คือป่าแถวล่างเขา อันเป็นจุดหมายหลังวาร์ปจากดาเลียมายังอัชลิงอัชลิงถูกเล่าขานกันโดยทั่วถึงเรื่องความเย็นยะเยือก ครั้นเมื่อสมัยราชินีวิโอล่ายังคงอยู่ สภาพอากาศสามารถแปรเปลี่ยนไปตามการควบคุมด้วยพลังของพระองค์เอง แต่หลังสิ้นพระชนม์ ชาวอัชลิงก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงความอบอุ่นอีกเลยกระทั่งถนนหนทางบางสายก็ยังมีน้ำแข็งประดับ หรือถูกใช้แทนไม้กั้นเนื่องด้วยความพิเศษบางประการ หากน้ำแข็งถูกปั้นแต่งโดยนักเวทของทางราชวงศ์ ก็จะไม่มีทางละลายได้โดยง่าย และสะพานของที่นี่เองก็ยังถูกปั้นแต่งโดยนักเวท‘มันจะแตกไหมเนี่ย?’ โนเอลหวาดหวั่นในใจ ขบวนรถม้ามีน้ำหนักไม่น้อย เกรงว่าผ่านไปไม่ถึงครึ่ง มันจะแตกเอาเสียก่อนขบวนรถม้าขนาดเล็กค่อย ๆ ข้ามผ่านสะพานเคลือบเงากลางป่าใหญ่ เสียงล้อรถดังเอี๊ยดอ๊าดทำเอาสัตว์น้อยใหญ่ต่างพากันคอย

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทที่ 2 ภัยร้ายกำลังคืบคลาน

    บทที่ 2ภัยร้ายกำลังคืบคลานเหมันต์ซึ่งปัจจุบันอยู่ในร่างของโนเอล หลังจากออกมาจากคฤหาสน์ เขายังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ ไปตามทางเดินที่สาวใช้กำหนดไว้ให้ ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงเมื่ออยู่ต่อหน้าหน้าใครบางคนเขาโค้งคำนับ แล้วเริ่มกล่าว“ข้ามีนามว่าเดวิ เป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์ชาย ยินดีที่ได้พบขอรับ” ทางฝ่ายนั้นเริ่มแนะนำตัวก่อน ทางด้านหลังของเขามีรถม้าแกะสลัก สีขาวเงาวับอยู่สองถึงสามคัน มาพร้อมกับเหล่าทหารของราชวงศ์อีกราว ๆ ห้าสิบคนชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเปรียบดั่งเมล็ดกาแฟค่อย ๆ คุกเข่าลง ก่อนจะประทับริมฝีปากที่หลังมือของโนเอลเพื่อแสดงถึงการให้เกียรติและยกย่องโนเอลไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมของที่นี่จนเผลอทำหน้าเหยเกออกมาอย่างไม่ตั้งใจ พอรู้ตัวก็รีบเก็บสีหน้าทันทีพอเดวิลุกขึ้น ก็รับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายมีขนาดตัวแตกต่างจากเขามากเพียงใด รูปร่างสูงโปร่งพร้อมกับร่างกายกำยำ ยิ่งเทียบกับทหารคนอื่น ๆ แล้วก็ดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงต่อให้เจ้าตัวจะไม่แนะนำว่าตนเป็นใคร โนเอลก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนคนนี้ไม่มีทางเป็นเพียงลิ่วล้ออย่างแน่นอน“ผมทราบแล้วขอรับ... เอ้ย ข้าทราบแล้ว แล้วก็อยากรู้เรื่องอะไรนิดหน่อย ช่วยรบก

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทที่ 1 ใครอีกคน

    บทที่ 1ใครอีกคนราวกับความเจ็บปวดหายเป็นปลิดทิ้ง สองตาเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะเริ่มใช้มือลูบไปยังท้ายทอย แม้ส่วนหัวควรจะขาดออกจากร่างไปแล้ว ทว่าตอนนี้กลับไม่มีรอยแผลหรือแม้แต่เลือดสักหยดเหมันต์เริ่มสังเกตรอบกายตนด้วยความว้าวุ่นใจ ก่อนจะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่สมองราวกับถูกไฟฟ้าช็อตภาพความทรงจำประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มไหลเข้ามาในหัว ใบหน้าของผู้คนซึ่งดูไม่คุ้นหน้ามากมายถูกบันทึกไว้ภายในสมอง รวมถึงเรื่องราว เหตุการณ์ หรือแม้กระทั่งหนังสือและอักขระแปลกตาทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตัวเขารับรู้ถึงมัน เสมือนกับได้เกิดขึ้นจริงกับตนเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวัง เสียใจ ปวดร้าว ทุกสิ่งถาโถมเข้ามาภายในตัวเขาจนแทบชา ก่อนทุกอย่างจะจบลงด้วยภาพที่เขาเคยเห็นก่อนหน้า ชายที่ถูกใครบางคนเรียกว่าโนเอล ถูกศัตรูปลิดชีพด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียวทั้งที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับถูกดูดไปยังอีกโลกหนึ่ง เวลาในความทรงจำช่างแสนยาวนาน ราวกับได้สัมผัสชีวิตใหม่แต่นาฬิกาทรายข้างเตียงยังคงไหลลงอีกด้านได้เพียงน้อยนิด ทำให้ทราบว่าเวลาแห่งโลกความเป็นจริงกลับผ่านไปไม่กี่นาที“อะไรกัน... เนี่ย... แล้วฉันอยู่ที่ไหนกัน” เหมันต์กวาดสายตาไป

  • พระสวามีของผม ไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ   บทนำ

    บทนำประสบการณ์เสมือนจริงร่างกายล่องลอย มองไม่เห็นแม้กระทั่งแสงสว่าง ข้อสงสัยที่คนมักจะถามกันเองอยู่บ่อย ๆ ว่าตายแล้วไปไหน เป็นสิ่งเดียวที่วกวนเข้ามาภายในโสตประสาทขณะนี้เหมันต์วัยยี่สิบหกปี เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตายอย่างมีเกียรติระหว่างทำภารกิจทว่าเขาไม่ได้โดนลูกปืนฝังหรือโดนมีดแทงจนเกิดแผลสาหัส ไร้หนทางรักษา การตายของเขามันน่าทึ่งกว่านั้นมากและนั่นคือ การตกบันไดตายระหว่างวิ่งตามหมาตำรวจว่ากันว่า ก่อนตาย ความทรงจำอันแสนสำคัญในอดีตจะหวนกลับเข้ามาให้นึกถึง เหมันต์เองก็มีความทรงจำแบบนั้นเช่นกัน แต่สิ่งที่เขาปรารถนาอย่างแรงกล้า คือขอให้รุ่นน้องคนสนิททำลายแล็ปท็อปของเขาให้สิ้นซากไปเสียชีวิตนี้ เขาขอเพียงเท่านั้นก็เป็นอันสุขใจแล้วหลังจากประสาทสัมผัสทั้งห้าดับสิ้นลง ร่างกายของเขาก็เวิ้งว้างอยู่ในโลกซึ่งไร้แสงสว่างทว่าความทรงจำประหลาดและน้ำเสียงไม่คุ้นหูกลับปรากฏขึ้นมา ทลายบรรยากาศอันน่ามัวหมอง บทสนทนาระหว่างสองฝ่ายชวนให้นึกถึงซีรีส์อังกฤษย้อนยุค ติดป้ายฮิตอันดับหนึ่งในแอปสตรีมมิ่ง หรืออาจเป็นคอมมิคสุดโปรดของพวกเด็กวัยรุ่นเสียมากกว่าอะไรอย่างเช่น ตัวเอกหลุดเข้าไปอยู่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status