บทนำ
ประสบการณ์เสมือนจริง
ร่างกายล่องลอย มองไม่เห็นแม้กระทั่งแสงสว่าง ข้อสงสัยที่คนมักจะถามกันเองอยู่บ่อย ๆ ว่าตายแล้วไปไหน เป็นสิ่งเดียวที่วกวนเข้ามาภายในโสตประสาทขณะนี้
เหมันต์วัยยี่สิบหกปี เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตายอย่างมีเกียรติระหว่างทำภารกิจ
ทว่าเขาไม่ได้โดนลูกปืนฝังหรือโดนมีดแทงจนเกิดแผลสาหัส ไร้หนทางรักษา การตายของเขามันน่าทึ่งกว่านั้นมาก
และนั่นคือ การตกบันไดตายระหว่างวิ่งตามหมาตำรวจ
ว่ากันว่า ก่อนตาย ความทรงจำอันแสนสำคัญในอดีตจะหวนกลับเข้ามาให้นึกถึง เหมันต์เองก็มีความทรงจำแบบนั้นเช่นกัน แต่สิ่งที่เขาปรารถนาอย่างแรงกล้า คือขอให้รุ่นน้องคนสนิททำลายแล็ปท็อปของเขาให้สิ้นซากไปเสีย
ชีวิตนี้ เขาขอเพียงเท่านั้นก็เป็นอันสุขใจแล้ว
หลังจากประสาทสัมผัสทั้งห้าดับสิ้นลง ร่างกายของเขาก็เวิ้งว้างอยู่ในโลกซึ่งไร้แสงสว่าง
ทว่าความทรงจำประหลาดและน้ำเสียงไม่คุ้นหูกลับปรากฏขึ้นมา ทลายบรรยากาศอันน่ามัวหมอง บทสนทนาระหว่างสองฝ่ายชวนให้นึกถึงซีรีส์อังกฤษย้อนยุค ติดป้ายฮิตอันดับหนึ่งในแอปสตรีมมิ่ง หรืออาจเป็นคอมมิคสุดโปรดของพวกเด็กวัยรุ่นเสียมากกว่า
อะไรอย่างเช่น ตัวเอกหลุดเข้าไปอยู่ในร่างของคนอื่น และคนคนนั้นก็อยู่ในต่างโลกอีกที แถมยังต้องไปยุ่งวุ่นวายกับปัญหาล้านแปดซึ่งหากแก้ไขไม่ได้ จุดจบก็คือตายสถานเดียว ถ้าเหมันต์ต้องใช้ชีวิตแบบนั้น แค่คิดก็สยองแล้ว
ภาพจำในหัวของเขา มันก็ชัดเจนมากเสียจนเหมือนได้กลายเป็นคนคนนั้นจริง ๆ ทุกการเคลื่อนไหวของใครบางคน เขาเห็นมันอย่างกับกำลังเล่นเกมสวมบทบาทตัวละครในลักษณะมุมมองที่หนึ่งไม่มีผิดเพี้ยน
อยู่ในภวังค์ของตัวเองไปได้ไม่ทันไร ประสาทสัมผัสของเขาก็กลับมา ทั้งเสียงระเบิดจากอะไรบางอย่าง กลิ่นซากศพและคาวเลือดคละคลุ้ง เศษซากสิ่งก่อสร้างแบบฉบับที่ยุคสมัยของเขาไม่มีอยู่ ปรากฏอยู่ตรงหน้าทั้งหมด
เหมันต์ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทว่าสิ่งเดียวที่เขาเข้าใจในตอนนี้คืออาณาจักรแห่งหนึ่งกำลังล่มสลาย ราชาของประเทศก็ดันติดกับแผนการของศัตรู เขาสับสนงุนงงกับภาพตรงหน้า ทว่าความเจ็บปวดก็แผ่ซ่านเข้ามาทั่วร่างกาย
ทุกการกระทำที่เจ้าของร่างได้รับ เขาเองก็รู้สึกไปด้วย กระทั่งความรู้สึกก็ยังเข้าใจ แม้สมองจะคิดวิเคราะห์อยู่ตลอด แต่กลับไม่สามารถสั่งการได้ ทำได้เพียงลอบมองผ่านดวงตาทั้งสองข้างเพียงเท่านั้น
เสียงหอบแฮกด้วยความเหนื่อยล้าดังกว่าสิ่งใดทั้งหมด เจ้าของร่างพยายามดิ้นรนออกจากเหตุการณ์ความวุ่นวาย แต่มันกลับไม่เป็นผล เขาถูกตามล่าจนกระทั่งถึงทางตัน
ทั้งคนรับใช้และอัศวินคนสนิทต่างถูกฆ่าตายเสียหมด ครั้นจะใช้พลังของตัวเองก็ดันไม่แกร่งกล้าพอจะต่อสู้กับศัตรู ท้ายที่สุดจึงลงเอยด้วยการถูกตรึงอยู่กับพื้นดิน
“ราชินีผู้น่าสงสารของชาวอัชลิง... โนเอล... ใบหน้าของเจ้างดงามไร้ที่ติเสียจริง ข้าชักอยากจะได้เจ้ามาเป็นนายบำเรอเสียแล้วสิ” ชายหนุ่มรูปร่างกำยำว่าพลางใช้ปลายดาบสีเงินเปื้อนเลือดถูวนบริเวณใบหน้าสวยของคนตรงหน้า
“พวกต่ำช้า!... อุก!” คนถูกเหยียดหยามไม่อยู่เฉย เขารีบสบถออกมาด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ต้องเงียบปากลงในทันทีเมื่อถูกเตะเข้าบริเวณหน้าท้องอย่างแรง
‘โอ๊ยเชี่ย! แม่งเอ๊ย โคตรเจ็บ เตะมาได้...’ ไม่ใช่แค่เจ้าของร่างที่รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด กระทั่งเหมันต์ยังพลอยเจ็บไปด้วย
โนเอลก้มหน้าฟุบลงกับพื้นพลางกัดเม้มริมฝีปากด้วยความคับแค้นใจ ยิ่งเงยหน้ามองรอบด้านกลับยิ่งสุมไฟแค้นในใจเข้าไปอีกเป็นเท่าตัว
ส่วนกลางของวังอันเป็นที่ตั้งของบัลลังก์กษัตริย์ ซึ่งในอดีตถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตและด้วยความรักจากช่างฝีมือ มาครานี้กลับเละเทะไม่เป็นท่า กระทั่งรูปปั้นหินหน้าทางเข้ายังถูกทำลายไม่เหลือซาก
แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงส่วนอื่นของวังหลวงแห่งอาณาจักรอัชลิง เพราะปัจจุบันมันได้กลายเป็นเพียงเศษซากแห่งอารยธรรมไปเสียแล้ว
“ไม่เอาน่าไรเกอร์ ทำแบบนั้นเดี๋ยวก็ตายเสียก่อนหรอก ฮ่า ๆ ๆ” เสียงหัวเราะร่าของหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ดังขึ้นจนโนเอลต้องพยายามหันไปมอง
ช่างน่าเสียดาย ตัวเขานั้นบาดเจ็บเกินกว่าจะขยับตัวไปไหนมาไหนได้ ทั้งยังถูกตรึงเอาไว้กับพื้น จึงเป็นเหตุให้ทำได้เพียงมองปลายเท้านั่นเท่านั้น
“แล้วท่านผู้นั้นล่ะ?” หญิงสาวถาม
“คงกำลังวุ่นอยู่กับการต่อสู้ ได้ข่าวว่าองค์ราชาอาณาจักรนี้หนังเหนียวมากนี่” เจ้าของชื่อไรเกอร์ตอบอีกฝ่ายพลางใช้เท้ากดลำตัวของโนเอลให้ตรึงอยู่กับพื้น
‘ทำแบบนี้มันเจ็บนะเว้ย เวรเอ๊ย’ เหมันต์สบถออกมาในใจ ทำไมเขาต้องมาทนรับความเจ็บที่ตัวเองไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย
“อย่างมากก็คงพอทำให้ท่านผู้นั้นสนุกได้ ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของท่านได้หรอก” เธอหัวเราะคิกคัก
“หุบปากอันต่ำช้าของพวกเจ้าเสียเถอะ! ซีโน่สูงส่งเกินกว่าที่พวกเจ้าจะพูดพล่ามอะไรไร้สาระ” โนเอลกัดฟันกรอด รีบเถียงกลับ
‘ซวยแก๊บแก๋ ไอ้เจ้าของร่างผู้ไม่รักตัวกลัวตาย ช่วยหุบปากของนายหน่อยได้ไหม!! ฉันไม่อยากจะตายซ้ำสองแล้วนะเว้ย’ เหมันต์ร้องระงม ถ้าถูกเตะยังส่งผลมาถึงเขา แล้วหากฝั่งนั้นกะจะฆ่าให้ตาย มันจะขนาดไหนกัน
“ช่างเป็นราชินีที่มีใจรักมั่นคงกับพระสวามีของตนเสียจริงนะ” เธอพ่นหัวเราะ ก่อนแววตาใสซื่อจะแปรเปลี่ยนไปเป็นดูถูกเหยียดหยาม
“ข้าทนรอไม่ไหวแล้ว ไรเกอร์ เอาดาบของเจ้ามาให้ข้าเสีย” หญิงสาวกล่าวต่อสหายข้างกาย
“ใจร้อนจริงนะ” เขาว่าพลางยื่นดาบให้อีกฝ่าย เธอรับมันไว้ แล้วเดินมาฝั่งด้านซ้ายของโนเอล
“เอาไว้ข้าจะเหลือหัวของเจ้าไว้ให้พระสวามีที่เจ้ารักดูเป็นของต่างหน้าก็แล้วกัน!!!” ใบดาบคมกริบค่อย ๆ เชือดเฉือนอากาศลงมายังท้ายทอยของโนเอลเข้าทุกที เขาหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
‘ซวยยแล้วโว้ยยย! ประสบการณ์ตายซ้ำตายซ้อน!!! คิดจะให้ฉันหาเรื่องไปอวดภูตผีด้วยกันหรือไง!!’ เหมันต์เองก็ใกล้จะเป็นบ้าตายแล้วเช่นกัน
ทว่ากรีดร้องภายในใจได้ไม่ทันไร จู่ ๆ ก็เกิดเสียงคล้ายระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบแตก คนทั้งหมดภายในห้องโถงต่างหันไปมองตามต้นทางของเสียง
ฝุ่นที่เกิดขึ้นหลังแรงระเบิดอัดแน่นกันจนมองไม่เห็นว่าใครปรากฏกายขึ้น แต่พอเห็นไอเย็นกำลังทยอยไหลเข้ามาในห้องโถง ทำให้คำตอบของคำถามชัดเจนมากขึ้น
“พลังเวทมนตร์น้ำแข็งที่ลือกันว่าแข็งประดุจเพชรบริสุทธิ์แห่งเทือกเขาเลซา เป็นเอกลักษณ์ของราชวงศ์แห่งอาณาจักรอัชลิงซึ่งสืบต่อทางสายเลือดอย่างยาวนานนับร้อยปี... เป็นบุญตามากที่ได้เห็น ยินดีที่ได้พบ ราชาแห่งอัชลิง... ซีโน่ ลัวร์”
“ปล่อยเขา...” คนเหล่านั้นได้สบตากับดวงตาซึ่งเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของเขาได้ไม่ทันไร ซีโน่ก็เข้าประชิดตัวอย่างไว
หญิงสาวผู้นั้นตกใจจนหยุดชะงักไปชั่วขณะ รู้ตัวอีกทีก็ถูกหมัดหนักต่อยเข้าบริเวณท้องจนร่างปลิวไปกระแทกกับผนังห้อง
รอยแตกตามผนังทำเอาเหมันต์แอบหวั่นใจอยู่หน่อย ๆ
‘นี่พวกพี่เป็นตัวอะไรกันวะครับ... แล้วนั่นก็ผู้หญิงด้วยนะเฮ้ย!! แต่... ยายนั่นก็เกือบจะทำให้ฉันตายรอบสองแล้ว เอาเป็นว่าขอบพระคุณคุณพี่ที่ช่วยผมมากคร้าบบบ’
“ลุกขึ้นมา” เสียงของเขาทุ้มต่ำ จนเหมันต์รู้สึกได้ว่าโนเอลก็แอบตื่นกลัวกับน้ำเสียงของเขาอยู่ไม่น้อย ผนวกกับไอเย็นรอบข้างก็ทำให้ดูน่าหวั่นเกรงเข้าไปใหญ่
“ขอบคุณ…” โนเอลพูด แล้วค่อย ๆ ลุกออกขึ้น แต่ร่างกายก็บอบช้ำเกินกว่าทรงตัวไหว
ลุกขึ้นยืนได้ไม่ทันไร โนเอลก็คล้ายกับจะเซและล้มลงกับพื้น แต่ซีโน่ก็รับเอาไว้ได้
“จิ๊จิ๊ ราชากับราชินีอัชลิงยังรักใคร่กลมเกลียวกันอยู่แบบนี้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีเช่นกัน แต่ว่า!! หมดเวลาจะเล่นสนุกแล้ว!!!” ชายหนุ่มฝั่งศัตรูพุ่งเข้าโจมตีซีโน่
ซีโน่ชักดาบมารับการโจมตีได้ทันท่วงที ทว่าก็ต้องรับการโจมตีครั้งต่อไปต่อเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็ต้องคอยพยุงโนเอลให้เดินถอยไปพร้อมกัน
“หนีไหวไหม เจ้านี่มีฝีมือ ข้ารับมือยาก ถ้าเจ้ายังทำตัวเกะกะอยู่แบบนี้”
“ปากเสียตั้งแต่ต้นจนจบ ปล่อยข้าแล้วตั้งใจรับมือไปเสีย” ซีโน่ปล่อยตัวโนเอลให้ออกจากอ้อมอก ก่อนจะเริ่มเป็นฝ่ายโต้กลับเองบ้าง
ฝีมือดาบซึ่งอัดแน่นไปด้วยพลังเวท ผสมกับการควบคุมเวทมนตร์น้ำแข็งทางกาย สร้างพื้นที่ในการต่อสู้ให้ซีโน่เป็นอย่างมาก หากต่อสู้ประชิดตัว อีกฝ่ายคงจะสูสีกับเขา แต่หากเป็นการโจมตีระยะไกล อีกฝ่ายจะเสียเปรียบไปมากโข
การต่อสู้กินเวลาอย่างยาวนาน ฝ่ายที่เสียเปรียบเป็นฝั่งศัตรูตามคาดการณ์ เพราะไรเกอร์ได้รับบาดแผลทั่วตัว ขณะที่ซีโน่มีเพียงแค่รอยถากเท่านั้น
การเข้าฟาดฟันยังคงดำเนินต่อไปไม่มีหยุดพัก ไรเกอร์ยังคงหอบแฮกด้วยความเหนื่อยล้า คิ้วทั้งสองข้างเริ่มขมวดเป็นปม ทั้งยังสบถคำหยาบออกมาไม่หยุดปาก บัดนี้เขารู้แล้วว่าฝีมือของตนยังไม่สามารถเทียบชั้นกับคู่มือได้ หากยังคงต่อสู้ต่อไป เขาคงพ่ายแพ้เป็นแน่
วินาทีที่กำลังวุ่นอยู่กับการต่อสู้ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนร่วมศึกที่กำลังลุกขึ้นตื่นหลังสลบเพราะแรงโจมตีของซีโน่
“แอกเนส!!! รีบลุกขึ้นมาทำหน้าที่ได้แล้ว!!! ไม่งั้นข้าจะเรียกลินคอร์นมาจัดการเจ้าซะ!!!” ทันทีที่ประโยคนั้นได้โพล่งเข้าไปยังโสตประสาท แอกเนสก็ตื่นขึ้นราวกับปาฏิหาริย์
เธอแบกร่างอันไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา ก่อนจะอ้าปาก แล้วร้องเพลงที่ฟังดูไพเราะแต่แฝงไปด้วยความอันตราย หมอกหนาเริ่มเข้าปกคลุมทั่วร่างของโนเอล จวบจนเขาหายตัววับไป ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
“เฟอแนล!!!” ซีโน่ตะโกนเรียกโนเอลสุดเสียง ทว่ากลับไร้การตอบรับ
ซีโน่เริ่มกระวนกระวายอีกครั้ง พอเหลือบตาไปมองหญิงสาว กลับไม่พบเธออีกแล้ว
“มองอะไรอยู่!” ไรเกอร์เข้ามากระชั้นชิดซีโน่ในชั่วพริบตา จัดการแปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายจระเข้เพียงครึ่งท่อน แล้วตวัดหางใส่จนซีโน่ถลาไปชนเข้ากับกำแพงห้องโถง
การโจมตีจากศัตรูโหมกระหน่ำใส่เขามากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงการรับมืออีกฝ่ายจะเป็นเรื่องง่าย แต่หากต้องการช่วยโนเอลด้วย คงต้องเลือดตกยางออกกันบ้าง
นึกไปแล้วซีโน่ก็เจ็บใจ อย่าว่าแต่หัวหน้าของพวกมันเลย... แค่เอาชนะลูกสมุนเพียงสองคนยังไม่อาจทำได้
ตัวเขาในตอนนี้... อ่อนแอ
และเป็นสาเหตุให้อาณาจักรเข้าสู่สภาวะล่มสลาย เหมือนดั่งปัจจุบัน
เพียงไม่นาน หมอกควันที่ปกคลุมร่างของโนเอลก็สลายหายไป จึงปรากฏให้เห็นร่างของเจ้าตัว
โนเอลถูกจับให้คุกเข่าลงกับพื้น แขนถูกตรึงไว้ด้านหลังด้วยเชือกหน้าตาประหลาด
เจ้าของเรือนผมสีขาวโพลนได้แต่อ้ำอึ้ง พอตั้งสติได้ว่าโนเอลกำลังตกอยู่ในอันตรายก็รีบพุ่งตัวเข้าไปจัดการกับไรเกอร์โดยไว จนอีกฝ่ายล้มลง เสียจังหวะในการโจมตี ถึงได้พุ่งเข้าไปหาโนเอลและแอกเนส
ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นไปดั่งใจหวัง
แสงสีทองประหลาด ไร้รูปร่างที่แน่ชัดแต่สัมผัสได้ถึงอานุภาพรุนแรงพุ่งทะลุส่วนเท้า ขา และไหล่ จนซีโน่ต้องหยุดการกระทำของตนลงไว้
ความเจ็บปวดที่ได้รับทำเอาเขาสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ราวกับถูกหนามแหลมทิ่มแทง
“…แสงพิพากษา...”
การปรากฏตัวของบุคคลใหม่ทำเอาซีโน่ต้องกัดฟันกรอด อัศวินคู่กายทั้งสองของเขาถูกส่งไปประกบคนคนนี้เอาไว้ หากแต่ถ้าพวกเขายังโผล่มาที่นี่ ก็หมายความว่าได้เสียท่าให้แล้ว ความเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตรอดต่ำเตี้ยเสียแทบเป็นศูนย์
“…โซ่ตรวนทวยเทพ...” แขนของเขาถูกขยับไปตามคาถาที่ร่าย แสงสีทองขยายขนาด แปรเปลี่ยนกลายเป็นโซ่ มันพุ่งตัวไปหาซีโน่ด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะบีบรัดแล้วตรึงเอาไว้กับพื้นจนไม่อาจขยับตัวได้อีก
‘แม่ง... เกิดเชี่ยอะไรขึ้นครับเนี่ย ช่วยด้วย... แม่เจ้าโว้ย’ เหมันต์ได้แต่กรีดร้องภายในใจ การตายของเขาดูปกติมากเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ตรงหน้า
จู่ ๆ หมอกก็เข้าปกคลุมจนเขามองอะไรแทบไม่เห็น รับรู้เพียงว่าเจ้าของร่างอย่างโนเอลกำลังต่อสู้กับความมืดเพียงลำพัง แต่อีกฝ่ายก็แข็งแกร่งมากเกินไปจนต้องเสียท่า แล้วถูกมัดเอาไว้
พอลืมตามองพ่อหนุ่มหัวขาวที่อุตส่าห์มาช่วยเขา ก็ดันถูกอะไรก็ไม่รู้ตรึงเอาไว้เสียแล้ว
คราวนี้คงจะจบเห่แล้วจริง ๆ
“เล่นสนุกกันมามากพอแล้ว รีบจบเรื่องนี้สักที”
เหมันต์ไม่เห็นแม้กระทั่งเท้าของอีกฝ่ายเสียด้วยน้ำ นอกเหนือจากไรเกอร์และแอกเนส เขาก็ไม่รู้ว่าคนที่มาใหม่เป็นใคร
และดูเหมือนจะมีกันถึงสองคน
คนแรกเป็นคนร่ายเวทที่ทำให้ซีโน่ต้องเสียท่า ส่วนอีกคน ดูเหมือนจะยังไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้ยินน้ำเสียงชัดแจน
“ส่วนเจ้า... ราชินีผู้ซื่อสัตย์ เจ้าคงต้องหลับไปก่อน... หากเจ้ายอมรับข้อเสนอแต่ทีแรก คงไม่จบเช่นนี้” ชายหนุ่มปริศนาที่พูดมาตั้งแต่เมื่อกี้ เริ่มกล่าวขึ้นต่อ
(ข้อเสนอ? อะไรกัน?)
“เพื่อเป็นการเคารพแก่อาณาจักรอัชลิง ข้าจะให้เจ้าได้เห็นหน้าของพระสวามีเป็นครั้งสุดท้าย” ชายหนุ่มกล่าว แล้วจิกผมของโนเอล ให้สายตาของเขามองไปยังซีโน่ได้อย่างชัดเจน หลังก้มหน้าลง คอตก ไร้เรี่ยวแรง
ภาพเบื้องหน้าเผยให้เห็นแววตาโกรธแค้นที่มีต่อศัตรูและความโกรธแค้นที่มีต่อตน
ท่านคงโทษตัวเองที่ไม่อาจแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถปกป้องคนทั้งอาณาจักรได้... ข้ารู้ว่าท่านเป็นเช่นนั้น... อ่า แม้กระทั่งช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตข้า ท่านก็ยังไม่แม้แต่จะยิ้มให้ข้าเลย... หาได้มีใจให้ข้า... แม้แต่น้อย
เสียงในหัวของโนเอล ดังขึ้นมาในโสตประสาทของเหมันต์ ทำเอาหัวใจเขารู้สึกเต้นผิดจังหวะ ความโศกเศร้าและภาพจำสุดท้ายในชีวิตโนเอลเริ่มไหลเข้ามาทีละเล็กทีละน้อย
ดาบประจำตัวของไรเกอร์ถูกส่งต่อไปถึงมือชายหนุ่มผู้มาใหม่ความเงาวับของมัน ส่องแสงสะท้อนกับแสงไฟจากภายนอกห้องโถง
เพียงไม่นาน ใบหน้าอันแสนเกรี้ยวกราดของซีโน่ก็แปรเปลี่ยนไป เขาเริ่มตื่นตกใจแล้วอ้าปากค้างคล้ายกับกำลังจะสูญเสียสิ่งสำคัญไปอีกอย่าง
นั่นเป็นภาพจำสุดท้ายที่โนเอลและเหมันต์ได้เห็น
ก่อนที่ดาบเงินจะถูกลงแรงเข้าท้ายทอย สะบั้นส่วนหัวและตัวออกจากกัน
ได้โปรด ช่วยแก้ไขทุกอย่าง ที่ข้าไม่อาจทำได้เองในอดีตชาติ
ได้โปรด ช่วยให้ซีโน่ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ
ได้โปรด ช่วยทำให้อัชลิงกลับมารุ่งโรจน์ดังเดิม
และได้โปรด... จัดการตัวอันตรายต่อทวีปเอวาเนียร์
บทที่ 4สนามฝึกซ้อมของเหล่าพลทหาร“ท่านโนเอล! พยายามเข้า!!”“อึก... สี่สิบห้า... สี่สิบหก... สี่สิบเก้า”“สี่สิบเจ็ดต่างหากเพคะ”“อืม... สี่สิบเจ็ด... สี่สิบแปด... สี่สิบเก้า…”“สี่สิบ!!”“สี่สิบ... ส... สี่สิบเอ็ด... เดี๋ยวนะ... โอ๊ย” โนเอลนอนแผ่อยู่กับพื้น ขณะที่ร่างกายส่วนบนเปลือยเปล่า ไร้สิ่งใดคลุม“เธอแกล้งฉันเหรอ?” โนเอลถามด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก“เปล่านะเพคะ หม่อมฉันเพียงบอกกล่าวจำนวนตามจริง”“เฮ้อ...” โนเอลถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เลวี่ชอบแกล้งเขาอยู่เป็นประจำนับจากเหตุการณ์ที่เขาเสียชีวิตจากชาติก่อน แล้วมาเกิดใหม่ในร่างของโนเอล มันก็ผ่านมาราว ๆ หนึ่งเดือนเต็มโชคยังดีที่ระหว่างนั้นไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นแน่นอนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ชายหนุ่มไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เขาใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการเรียนรู้วัฒนธรรม เรียนรู้ศาสตร์เวท และการต่อสู้โดยมีเลวี่เป็นคู่มือคราแรกเขาคิดว่าเธอจะเป็นสาวใช้ธรรมดา แต่ฝีมือที่แท้จริงกลับแข็งแกร่งมาก แม้จะน้อยกว่าเดวิก็ตามเธอคอยเป็นอาจารย์สอนและคู่ประลองให้ จนเริ่มปรับตัวเข้ากับโลกใหม่ได้อย่างราบรื่น กระทั่งหลังออกกำลังกายเสร็จ โนเอลก็ยังต้อง
บทที่ 3อาณาจักรไม่รู้ร้อนเถาวัลย์พาดตามไม้สูงระโยงระยาง พืชมากสี พรรณไม้ต่างพันธ์ุมองดูชวนรู้สึกแปลกตา ทั่วทั้งผืนป่าถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาภูมิอากาศหนาวเหน็บจนทั่วตัวสั่นไหว แม้กระทั่งน้ำจากทะเลหากได้ไหลผ่านที่นี่แล้วต่างก็กลายเป็นทะเลน้ำแข็งไปเสียหมด สภาพแวดล้อมช่างดูปั่นป่วนน่าประหลาดนี่คือป่าแถวล่างเขา อันเป็นจุดหมายหลังวาร์ปจากดาเลียมายังอัชลิงอัชลิงถูกเล่าขานกันโดยทั่วถึงเรื่องความเย็นยะเยือก ครั้นเมื่อสมัยราชินีวิโอล่ายังคงอยู่ สภาพอากาศสามารถแปรเปลี่ยนไปตามการควบคุมด้วยพลังของพระองค์เอง แต่หลังสิ้นพระชนม์ ชาวอัชลิงก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงความอบอุ่นอีกเลยกระทั่งถนนหนทางบางสายก็ยังมีน้ำแข็งประดับ หรือถูกใช้แทนไม้กั้นเนื่องด้วยความพิเศษบางประการ หากน้ำแข็งถูกปั้นแต่งโดยนักเวทของทางราชวงศ์ ก็จะไม่มีทางละลายได้โดยง่าย และสะพานของที่นี่เองก็ยังถูกปั้นแต่งโดยนักเวท‘มันจะแตกไหมเนี่ย?’ โนเอลหวาดหวั่นในใจ ขบวนรถม้ามีน้ำหนักไม่น้อย เกรงว่าผ่านไปไม่ถึงครึ่ง มันจะแตกเอาเสียก่อนขบวนรถม้าขนาดเล็กค่อย ๆ ข้ามผ่านสะพานเคลือบเงากลางป่าใหญ่ เสียงล้อรถดังเอี๊ยดอ๊าดทำเอาสัตว์น้อยใหญ่ต่างพากันคอย
บทที่ 2ภัยร้ายกำลังคืบคลานเหมันต์ซึ่งปัจจุบันอยู่ในร่างของโนเอล หลังจากออกมาจากคฤหาสน์ เขายังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ ไปตามทางเดินที่สาวใช้กำหนดไว้ให้ ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงเมื่ออยู่ต่อหน้าหน้าใครบางคนเขาโค้งคำนับ แล้วเริ่มกล่าว“ข้ามีนามว่าเดวิ เป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์ชาย ยินดีที่ได้พบขอรับ” ทางฝ่ายนั้นเริ่มแนะนำตัวก่อน ทางด้านหลังของเขามีรถม้าแกะสลัก สีขาวเงาวับอยู่สองถึงสามคัน มาพร้อมกับเหล่าทหารของราชวงศ์อีกราว ๆ ห้าสิบคนชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเปรียบดั่งเมล็ดกาแฟค่อย ๆ คุกเข่าลง ก่อนจะประทับริมฝีปากที่หลังมือของโนเอลเพื่อแสดงถึงการให้เกียรติและยกย่องโนเอลไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมของที่นี่จนเผลอทำหน้าเหยเกออกมาอย่างไม่ตั้งใจ พอรู้ตัวก็รีบเก็บสีหน้าทันทีพอเดวิลุกขึ้น ก็รับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายมีขนาดตัวแตกต่างจากเขามากเพียงใด รูปร่างสูงโปร่งพร้อมกับร่างกายกำยำ ยิ่งเทียบกับทหารคนอื่น ๆ แล้วก็ดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงต่อให้เจ้าตัวจะไม่แนะนำว่าตนเป็นใคร โนเอลก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนคนนี้ไม่มีทางเป็นเพียงลิ่วล้ออย่างแน่นอน“ผมทราบแล้วขอรับ... เอ้ย ข้าทราบแล้ว แล้วก็อยากรู้เรื่องอะไรนิดหน่อย ช่วยรบก
บทที่ 1ใครอีกคนราวกับความเจ็บปวดหายเป็นปลิดทิ้ง สองตาเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะเริ่มใช้มือลูบไปยังท้ายทอย แม้ส่วนหัวควรจะขาดออกจากร่างไปแล้ว ทว่าตอนนี้กลับไม่มีรอยแผลหรือแม้แต่เลือดสักหยดเหมันต์เริ่มสังเกตรอบกายตนด้วยความว้าวุ่นใจ ก่อนจะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่สมองราวกับถูกไฟฟ้าช็อตภาพความทรงจำประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มไหลเข้ามาในหัว ใบหน้าของผู้คนซึ่งดูไม่คุ้นหน้ามากมายถูกบันทึกไว้ภายในสมอง รวมถึงเรื่องราว เหตุการณ์ หรือแม้กระทั่งหนังสือและอักขระแปลกตาทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตัวเขารับรู้ถึงมัน เสมือนกับได้เกิดขึ้นจริงกับตนเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวัง เสียใจ ปวดร้าว ทุกสิ่งถาโถมเข้ามาภายในตัวเขาจนแทบชา ก่อนทุกอย่างจะจบลงด้วยภาพที่เขาเคยเห็นก่อนหน้า ชายที่ถูกใครบางคนเรียกว่าโนเอล ถูกศัตรูปลิดชีพด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียวทั้งที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับถูกดูดไปยังอีกโลกหนึ่ง เวลาในความทรงจำช่างแสนยาวนาน ราวกับได้สัมผัสชีวิตใหม่แต่นาฬิกาทรายข้างเตียงยังคงไหลลงอีกด้านได้เพียงน้อยนิด ทำให้ทราบว่าเวลาแห่งโลกความเป็นจริงกลับผ่านไปไม่กี่นาที“อะไรกัน... เนี่ย... แล้วฉันอยู่ที่ไหนกัน” เหมันต์กวาดสายตาไป
บทนำประสบการณ์เสมือนจริงร่างกายล่องลอย มองไม่เห็นแม้กระทั่งแสงสว่าง ข้อสงสัยที่คนมักจะถามกันเองอยู่บ่อย ๆ ว่าตายแล้วไปไหน เป็นสิ่งเดียวที่วกวนเข้ามาภายในโสตประสาทขณะนี้เหมันต์วัยยี่สิบหกปี เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตายอย่างมีเกียรติระหว่างทำภารกิจทว่าเขาไม่ได้โดนลูกปืนฝังหรือโดนมีดแทงจนเกิดแผลสาหัส ไร้หนทางรักษา การตายของเขามันน่าทึ่งกว่านั้นมากและนั่นคือ การตกบันไดตายระหว่างวิ่งตามหมาตำรวจว่ากันว่า ก่อนตาย ความทรงจำอันแสนสำคัญในอดีตจะหวนกลับเข้ามาให้นึกถึง เหมันต์เองก็มีความทรงจำแบบนั้นเช่นกัน แต่สิ่งที่เขาปรารถนาอย่างแรงกล้า คือขอให้รุ่นน้องคนสนิททำลายแล็ปท็อปของเขาให้สิ้นซากไปเสียชีวิตนี้ เขาขอเพียงเท่านั้นก็เป็นอันสุขใจแล้วหลังจากประสาทสัมผัสทั้งห้าดับสิ้นลง ร่างกายของเขาก็เวิ้งว้างอยู่ในโลกซึ่งไร้แสงสว่างทว่าความทรงจำประหลาดและน้ำเสียงไม่คุ้นหูกลับปรากฏขึ้นมา ทลายบรรยากาศอันน่ามัวหมอง บทสนทนาระหว่างสองฝ่ายชวนให้นึกถึงซีรีส์อังกฤษย้อนยุค ติดป้ายฮิตอันดับหนึ่งในแอปสตรีมมิ่ง หรืออาจเป็นคอมมิคสุดโปรดของพวกเด็กวัยรุ่นเสียมากกว่าอะไรอย่างเช่น ตัวเอกหลุดเข้าไปอยู่