Share

7

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-12 18:23:53

อคิราห์เถียงกลับด้วยความไม่พอใจ ศศินาถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าปลงๆเพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

“คุณไม่เชื่อก็ถูกแล้วแต่มันคือเรื่องจริง ไม่งั้นฉันคงไม่หายกลัวตั้งแต่ที่รู้ชื่อแล้วก็เมืองที่คุณอยู่หรอก เพราะรู้ว่าคุณมาจากในนั้นเลยวางใจไง แต่เราก็ต้องหาวิธีที่จะทำให้คุณกลับไปไม่งั้นจะคุณจะทำยังไงคะถ้ากลับบ้านไม่ได้จริงๆ”

“ข้า…แต่ข้าเป็นคนนะไม่ใช่ผีสางที่ไหน”

“ฉันรู้ค่ะ คุณเป็นคนแน่ๆแต่แค่อยู่ในโลกนั้น ยังไงคุณก็ต้องหาทางกลับไป”

“ข้าอยากกลับอยู่แล้ว แต่ข้าจะเชื่อเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน”

“ถ้าคุณอ่านมันทั้งหมดคุณจะเข้าใจเองค่ะ เอาเป็นว่าคุณอ่านก่อนระหว่างนี้ฉันจะออกไปหาของที่จำเป็นมาให้คุณเพราะไม่รู้ว่าจะใช้เวลากี่วันถึงจะกลับไปได้”

“ของจำเป็นหรือ ข้าไม่ต้องการสิ่งใดหรอกแม่หญิงขอบใจเจ้ามาก”

“แต่ฉันว่าจำเป็นมาก คุณจะใส่ชุดแบบนี้ตลอดไม่ได้”

ศศินามองชุดโจงกระเบนเต็มยศอย่างหนักใจ นี่ถ้าไม่รู้จักก็คงคิดได้แค่เป็นผีสางจริงๆนั่นแหละ ใครที่ไหนจะมาใส่ชุดไทยโบราณแบบนี้กัน ถึงจะสวยงามมากๆก็เถอะนะ

“ชุดข้ามันทำไมรึ”

“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าคุณอ่านหนังสือนี่ให้หมดรอฉันกลับมา ได้มั้ยคะ”

ศศินาตัดบทเพราะไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้ ตอนนี้ฝนหยุดลงแล้วไม่แน่ว่าช่วงเย็นอาจจะตกลงมาอีกรอบเพราะเป็นหน้าฝน หากรถติดมากเธอคงกลับมาถึงคอนโดดึกแน่คืนนี้ จะปล่อยอคิราห์ไว้คนเดียวนานๆก็ไม่ดีแน่

“ได้สิ เจ้าจะไปนานหรือไม่”

“ไม่นานค่ะ แต่คุณห้ามแตะต้องอะไรก็ตามที่ไม่รู้จัก นอกจากสิ่งที่ฉันบอกไปแล้วตกลงมั้ยคะ”

“ได้สิ ข้าหาใช่เด็กน้อยไม่รู้ความเสียหน่อย ไม่ไปยุ่งกับข้าวของเจ้าหรอกวางใจได้”

ศศินาแอบเบ้ปากเมื่อได้ยินพ่อพระเอกร้อนตัว กว่าจะบอกเรื่องทีวีกับพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆในห้องจนเข้าใจได้ก็แทบตาย คนที่สงสัยทุกอย่างตลอดเวลาขนาดนั้นเอาอะไรมาวางใจได้ก่อน

“งั้นก็ดีค่ะ ฉันจะรีบกลับมา”

นิยายเรื่อง หากอาทิตย์ไร้ดาว

ณ เมืองพยับหมอก พ.ศ. 1890

หัวเมืองใหญ่ทางตอนเหนือ มีเจ้าเมืองคือ ท่านเจ้าเมืองศิงขร ชาวเมือง

เรียกท่านเจ้าเมืองสิงห์ และภรรยาคือ ท่านหญิงอรุณ มีลูกชายคนโตชื่อ อคิราห์ หรือ แสง และคนเล็กชื่อ อนาคิน หรือ แสน เป็นครอบครัวที่ปกครองเมืองมานาน ชาวเมืองต่างเคารพนับถือเจ้าเมืองและอยู่กันอย่างสงบร่มเย็นมาโดยตลอด การค้าขายเจริญรุ่งเรือง พืชผลทางการเกษตรก็ไม่เคยขาด ชาวเมืองมีพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจเข้าวัดทำบุญและถือศีลกันถ้วนหน้า เรียกว่าเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์และสงบสุขจนใครๆก็อยากย้ายเข้ามาอาศัยทั้งสิ้น

   ตั้งแต่สงครามสงบลง หัวเมืองใหญ่ต่างๆก็ปรองดองกันมากขึ้น ส่งตัวแทนเยี่ยมเยียนผูกมิตรกันเป็นประจำทุกปี แลกเปลี่ยนค้าขายกันไม่เคยขาด เมืองไหนส่งลูกหลานหมั้นหมายตกแต่งกันได้ก็ยิ่งมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น ไม่ต่างอะไรกับรุ่นลูกอย่างอคิราห์ ที่พ่อแม่เตรียมให้หมั้นหมายกับ ดุจดารา ลูกสาวเจ้าเมืองทางใต้ที่เป็นมิตรกันมานาน เพราะท่านหญิงอรุณเองก็เป็นลูกสาวเจ้าเมืองจากเมืองทางตะวันออก การได้ผูกมิตรกับหัวเมืองใหญ่ทางใต้เพิ่มอีกเมืองนับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง เพราะหมายความว่าจะขยายอำนาจได้มากขึ้น โอกาสในการเกิดสงครามยิ่งน้อยลงเพราะเป็นเมืองญาติมิตรกัน อคิราห์เองก็ไม่ได้ขัดใจเพราะไม่ได้มีแม่หญิงที่ไหนที่ชอบพอกันอยู่ 

ตั้งแต่เด็กจนโตอคิราห์ก็ตั้งใจเรียนและสอบจนได้ตำแหน่งใหญ่โตในเวลาไม่นาน ความสามารถทั้งการต่อสู้และฟันดาบก็เป็นที่ยอมรับจนใครๆต่างก็คิดเหมือนกัน ว่าอคิราห์จะต้องได้เป็นเจ้าเมืองคนต่อไปที่มีศักยภาพมากที่สุดเป็นแน่ ไหนจะรูปร่างหน้าตาที่เป็นที่เลื่องลือไปทั่วอีก ไม่ว่าจะเป็นแม่หญิงจากหัวเมืองไหนต่างก็ไฝ่ฝันจะได้ตบแต่งเข้าเรือนของพ่ออคิราห์ทั้งสิ้น แต่ก็ทำได้เพียงเสียดายและยอมรับว่าไม่มีวาสนา เพราะพ่อรูปงามนั้นมีแม่หญิงที่เพียบพร้อมไม่แพ้กันเป็นว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว ก็คือแม่หญิงดุจดารา….

“นี่ข้า…ข้าเป็นตัวละครในนิยายจริงๆหรือนี่”

อคิราห์พึมพำกับตัวเอง มือหนาที่ถือหนังสือนั้นสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้ ไม่ว่าจะคิดยังไงนี่มันก็เหลือเชื่อเกินไปจนทำใจเชื่อไม่ลง อคิราห์อ่านเรื่องราวในนิยายเพียงแรกๆเท่านั้นข้ามช่วงกลางไปจนถึงตอนจบที่ตัวพระเอกนางเอกครองรักกันตามแบบฉบับนิยายสุขนิยมทั่วไป หนังสือมีความยาวที่น่าจะต้องใช้เวลาอ่านทั้งวันทั้งคืนเห็นจะได้ อคิราห์เลยอ่านเพียงเพื่อหาบทสรุปแค่ที่อยากรู้เท่านั้น

แต่ไม่ว่าจะอ่านทวนให้แน่ใจเท่าไร ทุกตัวละครและสถานที่ในนั้น ก็คือสิ่งที่อคิราห์รู้จักทั้งหมดไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย มันคือชีวิตที่ผ่านมาของอคิราห์แน่ๆ แม้จะยังไม่ได้ดำเนินชีวิตไปถึงตอนจบอย่างในนิยาย แต่ก็คือเรื่องจริงที่ผ่านมาแล้วจนถึงปัจจุบัน จะเป็นไปได้อย่างไรที่ใครจะเอาเรื่องของอคิราห์ไปเขียนเป็นนิยายแบบนี้ อีกอย่างในเมืองที่อคิราห์อยู่ก็ไม่มีทางที่จะมีหนังสือแบบนี้เป็นแน่ แล้วเรื่องราวของเค้า มาอยู่ในหนังสือที่ศศินาเป็นคนอ่านในโลกนี้ได้อย่างไร

แกร๊ก

เสียงเปิดประตูหยุดความคิดที่วิ่งวนในหัวของอคิราห์ลงอีกครั้ง เจ้าตัววางหนังสือในมือลงบนโต๊ะและรอให้ศศินาเดินเข้ามาหา จนถึงตอนนี้อคิราห์ยังไม่ได้ย้ายตัวเองออกไปจากหน้าทีวีเลยด้วยซ้ำ เรียกว่าทำตามคำสั่งของศศินาอย่างเคร่งครัดเพราะมัวแต่อ่านหนังสือและนั่งสับสนอยู่ตรงนี้มาตลอด

“อ่านจบแล้วเหรอคะ”

ศศินาถามพลางมองหนังสือที่วางอยู่ด้วยความสงสัย อ่านเร็วขนาดนี้มันก็จะเกินไปหน่อย ขนาดเธอรีบอ่านยังใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมงเลย

“ข้าอ่านไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น เจ้าถือสิ่งใดมามากมายนัก”

อคิราห์ตอบพลางมองบรรดาถุงข้าวของที่ศศินาถือกลับมาแล้ววางกองอยู่ตรงพื้นข้างโซฟาด้วยความสงสัย

“ก็ของจำเป็นทั้งนั้นแหละ ไม่รู้ว่าคุณต้องอยู่กี่วันนี่นา”

“ข้าจะอยู่นานได้อย่างไร เจ้าเป็นแม่หญิงข้าไม่ควรมาอยู่ลำพังกับเจ้าเช่นนี้”

“ก็ไม่ได้อยากให้อยู่นานหรอก แต่เรายังหาวิธีที่คุณจะกลับไปไม่ได้เลยนี่นา”

ศศินาบอกพลางรื้อถุงหาเสื้อผ้าออกมา เธอซื้อชุดอยู่บ้านที่คิดว่าน่าจะใส่สบายให้อีกคน ไหนจะชุดนอนและชุดชั้นที่แทบจะกลั้นหายใจตอนไปเลือก เกิดมายังไม่เคยไปซื้อชุดผู้ชายมาก่อนเลยแถมยังเป็นชุดชั้นในอีกต่างหาก เธออายพนักงานจนหน้าแดงไปหมดดีที่ไม่มีใครสนใจ

“อ่ะนี่ ฉันซื้อไซส์ที่คิดว่าคุณน่าจะใส่ได้นะ”

“เจ้าจะให้ข้าใส่ชุดประหลาดพวกนี้งั้นรึ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พระเอกหลงยุค   97 ตอนพิเศษ

    “พูดเรื่องจริงไงครับ ผมอยากมีลูกเยอะๆเคยบอกแล้วนี่นา”อคิราห์บอกพลางทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กขัดใจ ศศินาเลยบีบแก้มอีกคนอย่างหมั่นไส้แล้วบ่นออกมาไม่จริงจังนัก“เลี้ยงคนแรกให้รอดก่อนเถอะค่ะพ่อคนขี้เห่อ”“คุณแม่ดุมากต้องจัดการซะแล้ว”อคิราห์บอกด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ในแบบที่ศศินารู้ทันทีว่าจะโดนเอาเปรียบแต่ก็ไม่เคยทันเพราะอีกคนก้มลงมาปล้นลมหายใจเธอไปด้วยจูบที่หวานล้ำอีกแล้ว“อื้อ…”—-------“ลูกพ่อ ฮึก…”“แสง นี่คุณร้องไห้เหรอคะ”ศศินาเลิกคิ้วถามอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อเห็นสามีตัวเองเช็ดน้ำตาป้อยๆจนป้ากชที่ยืนอยู่ห่างๆยังแอบขำออกมา“เปล่าสักหน่อย ผมแค่ดีใจที่ลูกออกมาแล้ว ดูสิครับลูกหน้าเหมือนผมเลยใช่มั้ยที่รัก”อคิราห์ปฏิเสธทั้งที่ตายังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส ทำเอาศศินาขำออกมาเบาๆอย่างอดไม่ได้ น่าเอ็นดูซะเหลือเกินคุณพ่อที่เพิ่งได้เห็นหน้าลูกเนี่ย แถมยังเป็นลูกแฝดชายหญิงที่หาได้ยากซะด้วย ไม่รู้เธอโชคดีหรืออคิราห์ร้องขอจากพระจันทร์ทุกคืนกันแน่ คนที่เลือกไม่ได้เพราะอยากได้ทั้งลูกชายลูกสาว ผลสุดท้ายเลยได้มาทั้งคู่อย่างน่าอัศจรรย์แบบนี้“แค่กี่วันเองจะดูออกเลยเหรอคะ คนอะไรขี้เห่อมาก”“ลูกน่ารักตั้งสอง

  • พระเอกหลงยุค   96 ตอนพิเศษ

    “อื้อ…”ศศินาที่ไม่ทันได้ทักท้วงถูกอีกคนปล้นจูบไปจนได้ มือเล็กขยุ้มอกเสื้ออีกคน ใบหน้าสวยถูกจับให้เงยรับจูบที่แสนหวาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดูดดื่มและเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆจนต้องทุบอกแกร่งแรงๆหลายที อคิราห์เพียงละออกมาให้ภรรยาหอบหายใจแล้วก็ประกบลงไปกลืนกินความหวานจากปากเล็กครั้งแล้วครั้งเล่าเท่าที่คิดถึงมาหลายวัน จนกระทั่งศศินาตัวอ่อนเปลี้ยในอ้อมแขนอีกคน และอคิราห์เองก็เริ่มจะหักห้ามใจไม่ไหวจนกลัวจะเลยเถิดถึงได้หยุดจูบที่ยาวนานนั้นได้“ทำอะไรคะเนี่ย เดี๋ยวป้ากชก็มาเห็นหรอก”ศศินาฟาดไปที่แขนแกร่งแรงๆพลางบ่นออกมาทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ อคิราห์ยิ้มพลางลูบแก้มเนียนที่ขึ้นสีแผ่วเบาแล้วบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าเพราะกำลังปรับอารมณ์อยู่ การห้ามใจไม่ให้เกินเลยกับภรรยาตัวเองนี่มันทำร้ายกันชัดๆอคิราห์ไม่ชอบเลย“ป้าเค้าไม่ว่างหรอกครับ กำลังทำมื้อเย็นอยู่ในครัวนู่น ว่าแต่คุณแม่ของลูกผมหิวรึยังครับ”“หิวค่ะ”“งั้นก็ไปทานข้าวเย็นกันดีกว่า ผมซื้อของมาฝากเยอะเลยที่รักต้องชอบแน่ๆ”อคิราห์ชวนพลางจับคนตัวเล็กให้ค่อยๆลุกขึ้นมาจากที่นั่งด้วยความระมัดระวัง “น่ารักจังเลยคนนี้”“สามีคุณเองครับ รักผมให้มากๆด้วย”คนต

  • พระเอกหลงยุค   95 ตอนพิเศษ

    กล่องดนตรีไม้ถูกจับมาหมุน เสียงดนตรีแสนไพเราะดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางลมหนาวของเดือนธันวาคม เส้นผมยาวสีดำขลับพริ้วไหวคลอเคลียใบหน้าหวาน ดวงตาคู่สวยเหม่อมองไปยังภูเขาที่อยู่ไกลลับตา ราวกับจะมองไปให้ถึงคนที่อยู่ไกลแสนไกล คนที่ทำให้เธอเฝ้าคิดถึงมาหลายวันจนมองอะไรก็น่าเบื่อไปหมด ไม่รู้ว่าป่านนี้จะคิดถึงเธอเหมือนกันหรือเปล่า เพราะกิจการคาเฟ่ของอคิราห์ไปได้ดีกว่าที่คิด เลยมีคนติดต่อขอให้ไปเปิดอีกสาขาที่กรุงเทพ เนื่องจากมีลูกค้าหลายคนติดใจขนมและเครื่องดื่มที่มีขายเฉพาะที่นี่ อคิราห์เองก็ไม่อยากขายสูตรที่คิดขึ้นมาให้คนอื่นไปทำเพราะกลัวว่าจะผิดเพี้ยนไปจากเดิม เลยปรึกษากับศศินามาสักพักจนได้ข้อสรุปว่าเราจะไปเปิดอีกสาขาที่นั่น โดยจ้างคนดูแลและไปตรวจทานด้วยตัวเองบ่อยๆแทน พอได้พื้นที่ที่ต้องการอคิราห์เลยต้องไปดูแลการรีโนเวทร้านขึ้นมาให้เหมือนกับสาขานี้มากที่สุด ถึงแม้จะยกธรรมชาติที่เขาใหญ่ไปนู่นไม่ได้ก็ตาม อย่างน้อยก็สร้างพอให้ได้บรรยากาศเพื่อลูกค้าที่โหยหาธรรมชาติสักนิดก็ยังดี ส่วนเหตุผลที่ศศินามานั่งเหม่อคิดถึงสามีสุดหล่ออยู่ตรงนี้ ก็เพราะอคิราห์ไม่ยอมให้ไปด้วยเพราะกลัวว่าภรรยาจะเหนื่อยเกินไปที่ต

  • พระเอกหลงยุค   94 ตอนพิเศษ

    “รู้แล้วครับ ผมจะค่อยๆนึกนะ อืม เรื่องของที่ข้ามมาที่นี่ได้ท่านบอกไว้ว่าเพราะการที่ของโลกนู้นมาโผล่ที่นี่มันไม่แปลกเพราะเป็นของสมัยเก่าที่เคยมีมาแล้ว แต่การที่ของโลกนี้ไปที่นู่นไม่ได้เพราะยังไม่เคยมีสิ่งของพวกนี้มาก่อนครับ”“อย่างนี้นี่เอง ถ้าข้ามไปได้มันจะผิดจากยุคสมัยที่ควรเป็นสินะ”ศศินาพยักหน้าเข้าใจ ถ้าคนเรานำสิ่งของข้ามเวลาไปอดีตได้จริงคงได้วุ่นวายน่าดู เพราะหากใครย้อนเวลาหรือข้ามมิติได้ก็คงอยากเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างจนโลกวุ่นวายไปหมดแน่ๆ “ส่วนตัวตนของคุณ เพราะโลกนั้นเป็นโลกที่ท่านสร้างขึ้นเองเลยมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงต้นฉบับทุกอย่าง แต่กับโลกปัจจุบันนี้ท่านไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักนอกจากโชคชะตาจะกำหนดไว้แล้วครับ”“อ้อ นักเขียนคือพระเจ้านี่เองศิก็ลืมไป”“ครับ ท่านบอกผมอย่างนั้นเหมือนกัน ตอนแรกผมก็โมโหมากที่ท่านมาล้อเล่นกับชีวิตคนอื่นแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องขอบคุณอยู่ดีไม่งั้นผมคงไม่ได้มาพบคุณ”“งั้นสุดท้าย ทำไมเราสองคนถึงได้ถูกกำหนดให้มาเจอกันทั้งที่อยู่คนละโลกแบบนี้คะ”ศศินาถามอย่างสุดท้ายที่สำคัญมากๆ ถึงจะรู้สึกขอบคุณแต่ก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดีว่าอะไรที่ทำให้เกิดเรื่องรา

  • พระเอกหลงยุค    93 ตอนพิเศษ

    บ่ายวันนึงของหน้าร้อนที่คู่แต่งงานใหม่พากันไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังบ้าน มองดูสวนผลไม้หลากชนิดและยอดเขาที่เห็นไกลๆ กลิ่นหอมจากดอกไม้รอบบริเวณลอยมากับลมเย็นๆจากธรรมชาติ สร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับช่วงเวลาที่พระอาทิตย์สว่างจ้าจนแสบตาแบบนี้ได้ไม่น้อย ศศินาเอนตัวลงนอนบนตักของสามีพลางหลับตาพริ้มอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อคิราห์ทอดสายตาที่เต็มไปด้วยความรักมองภรรยาคนสวยแล้วลูบผมอีกคนแผ่วเบา ศศินาคว้าเอามือหนาไปกุมไว้แนบแก้มก่อนจะถามเรื่องที่เคยสงสัยมานานตั้งแต่ที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ถึงจะเคยคุยกันไปแล้วบ้างแต่ด้วยตอนนั้นเกิดเรื่องขึ้นมากมายจนไม่ได้ถามรายละเอียดมากนัก “แสงคะ” “ครับ” “ยังจำตอนที่คุณกลับไปครั้งสุดท้ายได้มั้ย” “ได้ครับ ทำไมเหรอ” “ตอนนั้นคุณบอกว่าไปเจอคุณนักเขียนที่เขียนหนังสือเรื่องนั้นมาใช่มั้ยคะ” “ครับ คนที่คุณตานักปราชญ์เคยบอก แต่มันเหมือนความฝันมากกว่าถึงตอนที่คุยกันจะเป็นจริงก็เถอะ” อคิราห์บอกยิ้มๆ พอนึกถึงภาพตอนนั้นก็รู้สึกเลือนลางขึ้นมาแม้จะจำได้ทุกอย่างแล้วก็ตาม ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ หากไม่มีเสื้อผ้ากับของที่มาจากโลกนู้นอยู่

  • พระเอกหลงยุค   92 ตอนพิเศษ

    “อ๊าาา อะ อย่า อื้อ”บั้นท้ายงอนงามยกขึ้นอย่างเสียดเสียวเมื่อถูกลิ้นสากละเลงลงไปบนกลีบบอบบาง ติ่งเสียวที่ไวต่อความรู้สึกถูกดูดดุนจนตัวกระตุกสั่นไปหมด วันนี้อคิราห์ร้อนแรงเป็นพิเศษแบบที่ไม่เคยทำแบบนี้กันมาก่อนเลย ถึงจะเคยทำในห้องน้ำแต่ก็แค่ในอ่างแบบเมื่อกี้หรือยืนอยู่บนพื้นในท่าหันหลังเท่านั้น ไม่เคยถูกพามานั่งบนนี้สักครั้งและศศินาก็เพิ่งรู้ว่าการเปลี่ยนที่มันก็เปลี่ยนความรู้สึกไปด้วยเช่นกัน เหมือนตอนนี้ที่เธอหูอื้อตาลายไปหมด สติเริ่มถูกพรากไปกับความกระสันเสียวที่อีกคนมอบให้ไม่รู้จบ อคิราห์กำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า ด้วยปากและลิ้นที่ละเลงใส่เธอไม่หยุด แม้แต่เสียงครางตอนนี้ศศินายังไม่อยากเชื่อว่ามันออกมาจากปากของเธอ มันดูร่านร้อนและยั่วยวนจนน่าอาย แต่เธอควบคุมหรือต่อต้านอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อร่างกายมันซ่านเสียวจนโอนอ่อนตามอีกคนไปหมดแบบนี้“ฮึก แสง อ๊าา”ร่างบางกระตุกสั่น ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย อคิราห์ปาดเลียน้ำรักกลืนกินก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วกดกระแทกตัวตนที่แข็งขืนเข้าไปทันทีจนศศินาครางเสียงหลง“อ๊ะ อ๊าา”แขนเล็กกอดคอหนาเอาไว้แน่น อคิราห์ไม่ได้เว้นให้เธอที่กำลังเสร็จแม้แต่น้อย ร่าง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status