ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกก่อนจะหันไปมองศศินาที่นั่งอยู่ห่างไปด้วยความระแวง ไม่เคยมีแม่หญิงที่ไหนแข็งกระด้างใส่แบบนี้มาก่อนเช่นกัน แต่พอเห็นว่าศศินากินเหมือนอร่อยนักหนาก็รู้สึกหิวขึ้นมาจนต้องก้มลงไปจัดการอย่างจำใจ
ศศินาลอบมองคนเรื่องมากด้วยความหมั่นไส้ แต่พอเห็นท่าทางตาโตตอนกินเข้าไปคำแรกก็แอบยิ้มสะใจ คงคิดว่ามันจะไม่อร่อยสินะแต่เรื่องทำอาหารศศินามั่นใจมากว่าเธอทำอร่อยแน่นอน เธอฝึกกับแม่มาตั้งแต่เด็กจนโตเรื่องอะไรจะไม่อร่อย อาจไม่เท่ามืออาชีพแต่ก็มั่นใจได้ว่าไม่มีทางออกมาแย่แน่นอน
“อร่อยมาก นี่มันเรียกว่าอะไรหรือแม่หญิง”
“ข้าวผัดหมูธรรมดานี่แหละค่ะ มันอร่อยมากจริงๆเหรอ”
ศศินาแปลกใจไม่น้อยที่อคิราห์ชมออกมาตรงๆแบบนี้ นึกว่าจะวางท่าเหมือนเมื่อกี้ซะอีก แต่พอนึกถึงนิสัยของตัวละครในนิยายแล้วก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ถ้าน่าหมั่นไส้มากเกินไป จะเป็นพระเอกที่หล่อแสนดีจนแม่หญิงทั้งเมืองอยากแย่งกันได้ยังไงล่ะ
“ถึงข้าจะไม่เคยกินมาก่อน แต่เจ้าทำอร่อยมากจนข้าอยากให้ท่านพ่อท่านแม่ข้าได้ชิมนัก”
“ขอบคุณค่ะ”
ศศินาตอบเบาๆอย่างทำตัวไม่ถูก พอเห็นอีกคนยิ้มให้แบบนั้นถึงได้เข้าใจ ว่าออร่าตัวเอกมันเจิดจ้าซะจนแทบไม่กล้ามองนานจริงๆ เธอรีบหันมาก้มหน้ากินต่อโดยไม่คิดจะพูดอะไรอีก ตอนนี้เรื่องแปลกๆนี่กวนใจมากพอจนไม่อยากคิดเรื่องอื่นแล้ว อคิราห์เองพอเห็นว่าศศินาไม่พูดอะไรอีกก็ไม่กล้าจะชวนคุยต่อ ไม่ว่ายังไงการอยู่ลำพังกับแม่หญิงแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างมาก แต่ถ้ายังหาที่มาที่ไปไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
—--
“เจ้าหมายความว่า ที่นี่คืออีกโลกนึงงั้นหรือ”
“ใช่ค่ะ เราอยู่คนละโลกกันและคุณหลุดเข้ามาในโลกนี้ แต่มาได้ยังไงเรื่องนี้ฉันก็บอกคุณไม่ได้เหมือนกัน”
ศศินาอธิบายเสริม หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จก็มานั่งคุยกับอคิราห์จริงจังเพราะอยากรีบแก้ไขเรื่องราวที่แปลกประหลาดนี่ให้เร็วที่สุด แต่เหมือนยิ่งอธิบายอคิราห์ยิ่งรู้สึกต่อต้านอย่างชัดเจน ก็นั่นสิใครจะเชื่อว่าตัวหลงหลุดมาอีกโลกได้ ขนาดเธอเป็นคนเข้าใจก่อนยังไม่อยากจะเชื่อเลย หากไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมาก่อนละก็นะ
“เจ้าสติไม่ดีรึแม่หญิง เรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้อย่างไร”
“งั้นคุณมีคำตอบที่ดีกว่านี้มั้ยคะ อะไรที่เป็นไปได้ลองบอกมาสิ”
ศศินาสวนกลับด้วยความหงุดหงิด ใช่ว่าเธออยากพูดเรื่องไร้สาระน่าเหลือเชื่อนี่สักหน่อย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจะไม่เชื่อได้ยังไง
“ข้าก็ไม่รู้หรอก แต่มันเหลือเชื่อเกินไป”
อคิราห์ก้มหน้า รู้สึกผิดที่ไปว่าศศินาแบบนั้น แต่ในหัวกลับครุ่นคิดวุ่นวายไปหมด ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ดูจะนำมาอธิบายไม่ได้สักอย่างว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่ไม่ใช่เมืองแบบที่เคยอยู่อคิราห์รู้ดี ทุกอย่างแปลกไปหมด ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน แต่คนทั้งคนจะหลุดไปโลกอื่นได้อย่างไรกัน
“ฉันก็ไม่อยากเชื่อเหมือนคุณนั่นแหละ แต่คุณมาอยู่ตรงนี้แล้วจะไม่เชื่อได้ยังไงอีก เฮ้อ…รอแป้บนึงนะ”
ศศินาถอนหายใจก่อนจะลุกเดินไปที่ห้องนอน มองหาหนังสือที่เมื่อคืนอ่านแล้ววางไว้ก่อนจะรีบหยิบมาให้อคิราห์ดู
“อ่ะนี่ ถ้าเห็นอันนี้คุณน่าจะเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้นนะ”
“หนังสือหรือ”
“ใช่ค่ะ หนังสือนิยายที่ฉันอ่านจบไปเมื่อคืน คุณอ่านหนังสือได้ใช่มั้ยคะ”
ศศินาถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอคิราห์ต้องอ่านได้ มือหนารับมาก่อนจะพลิกหนังสือดูด้วยความไม่เข้าใจ
“ข้าอ่านได้อยู่แล้ว ว่าแต่เจ้าเอามาให้ข้าอ่านทำไมรึ”
“มันคือเรื่องราวของคุณทั้งหมด โลกที่คุณออกมาก็คือในหนังสือนี้ค่ะ”
“เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอะไรอีกแล้วแม่หญิง ข้าเป็นคนจะอยู่ในหนังสือได้อย่างไรกัน”
“พูดเรื่องจริงไงครับ ผมอยากมีลูกเยอะๆเคยบอกแล้วนี่นา”อคิราห์บอกพลางทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กขัดใจ ศศินาเลยบีบแก้มอีกคนอย่างหมั่นไส้แล้วบ่นออกมาไม่จริงจังนัก“เลี้ยงคนแรกให้รอดก่อนเถอะค่ะพ่อคนขี้เห่อ”“คุณแม่ดุมากต้องจัดการซะแล้ว”อคิราห์บอกด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ในแบบที่ศศินารู้ทันทีว่าจะโดนเอาเปรียบแต่ก็ไม่เคยทันเพราะอีกคนก้มลงมาปล้นลมหายใจเธอไปด้วยจูบที่หวานล้ำอีกแล้ว“อื้อ…”—-------“ลูกพ่อ ฮึก…”“แสง นี่คุณร้องไห้เหรอคะ”ศศินาเลิกคิ้วถามอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อเห็นสามีตัวเองเช็ดน้ำตาป้อยๆจนป้ากชที่ยืนอยู่ห่างๆยังแอบขำออกมา“เปล่าสักหน่อย ผมแค่ดีใจที่ลูกออกมาแล้ว ดูสิครับลูกหน้าเหมือนผมเลยใช่มั้ยที่รัก”อคิราห์ปฏิเสธทั้งที่ตายังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส ทำเอาศศินาขำออกมาเบาๆอย่างอดไม่ได้ น่าเอ็นดูซะเหลือเกินคุณพ่อที่เพิ่งได้เห็นหน้าลูกเนี่ย แถมยังเป็นลูกแฝดชายหญิงที่หาได้ยากซะด้วย ไม่รู้เธอโชคดีหรืออคิราห์ร้องขอจากพระจันทร์ทุกคืนกันแน่ คนที่เลือกไม่ได้เพราะอยากได้ทั้งลูกชายลูกสาว ผลสุดท้ายเลยได้มาทั้งคู่อย่างน่าอัศจรรย์แบบนี้“แค่กี่วันเองจะดูออกเลยเหรอคะ คนอะไรขี้เห่อมาก”“ลูกน่ารักตั้งสอง
“อื้อ…”ศศินาที่ไม่ทันได้ทักท้วงถูกอีกคนปล้นจูบไปจนได้ มือเล็กขยุ้มอกเสื้ออีกคน ใบหน้าสวยถูกจับให้เงยรับจูบที่แสนหวาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดูดดื่มและเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆจนต้องทุบอกแกร่งแรงๆหลายที อคิราห์เพียงละออกมาให้ภรรยาหอบหายใจแล้วก็ประกบลงไปกลืนกินความหวานจากปากเล็กครั้งแล้วครั้งเล่าเท่าที่คิดถึงมาหลายวัน จนกระทั่งศศินาตัวอ่อนเปลี้ยในอ้อมแขนอีกคน และอคิราห์เองก็เริ่มจะหักห้ามใจไม่ไหวจนกลัวจะเลยเถิดถึงได้หยุดจูบที่ยาวนานนั้นได้“ทำอะไรคะเนี่ย เดี๋ยวป้ากชก็มาเห็นหรอก”ศศินาฟาดไปที่แขนแกร่งแรงๆพลางบ่นออกมาทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ อคิราห์ยิ้มพลางลูบแก้มเนียนที่ขึ้นสีแผ่วเบาแล้วบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าเพราะกำลังปรับอารมณ์อยู่ การห้ามใจไม่ให้เกินเลยกับภรรยาตัวเองนี่มันทำร้ายกันชัดๆอคิราห์ไม่ชอบเลย“ป้าเค้าไม่ว่างหรอกครับ กำลังทำมื้อเย็นอยู่ในครัวนู่น ว่าแต่คุณแม่ของลูกผมหิวรึยังครับ”“หิวค่ะ”“งั้นก็ไปทานข้าวเย็นกันดีกว่า ผมซื้อของมาฝากเยอะเลยที่รักต้องชอบแน่ๆ”อคิราห์ชวนพลางจับคนตัวเล็กให้ค่อยๆลุกขึ้นมาจากที่นั่งด้วยความระมัดระวัง “น่ารักจังเลยคนนี้”“สามีคุณเองครับ รักผมให้มากๆด้วย”คนต
กล่องดนตรีไม้ถูกจับมาหมุน เสียงดนตรีแสนไพเราะดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางลมหนาวของเดือนธันวาคม เส้นผมยาวสีดำขลับพริ้วไหวคลอเคลียใบหน้าหวาน ดวงตาคู่สวยเหม่อมองไปยังภูเขาที่อยู่ไกลลับตา ราวกับจะมองไปให้ถึงคนที่อยู่ไกลแสนไกล คนที่ทำให้เธอเฝ้าคิดถึงมาหลายวันจนมองอะไรก็น่าเบื่อไปหมด ไม่รู้ว่าป่านนี้จะคิดถึงเธอเหมือนกันหรือเปล่า เพราะกิจการคาเฟ่ของอคิราห์ไปได้ดีกว่าที่คิด เลยมีคนติดต่อขอให้ไปเปิดอีกสาขาที่กรุงเทพ เนื่องจากมีลูกค้าหลายคนติดใจขนมและเครื่องดื่มที่มีขายเฉพาะที่นี่ อคิราห์เองก็ไม่อยากขายสูตรที่คิดขึ้นมาให้คนอื่นไปทำเพราะกลัวว่าจะผิดเพี้ยนไปจากเดิม เลยปรึกษากับศศินามาสักพักจนได้ข้อสรุปว่าเราจะไปเปิดอีกสาขาที่นั่น โดยจ้างคนดูแลและไปตรวจทานด้วยตัวเองบ่อยๆแทน พอได้พื้นที่ที่ต้องการอคิราห์เลยต้องไปดูแลการรีโนเวทร้านขึ้นมาให้เหมือนกับสาขานี้มากที่สุด ถึงแม้จะยกธรรมชาติที่เขาใหญ่ไปนู่นไม่ได้ก็ตาม อย่างน้อยก็สร้างพอให้ได้บรรยากาศเพื่อลูกค้าที่โหยหาธรรมชาติสักนิดก็ยังดี ส่วนเหตุผลที่ศศินามานั่งเหม่อคิดถึงสามีสุดหล่ออยู่ตรงนี้ ก็เพราะอคิราห์ไม่ยอมให้ไปด้วยเพราะกลัวว่าภรรยาจะเหนื่อยเกินไปที่ต
“รู้แล้วครับ ผมจะค่อยๆนึกนะ อืม เรื่องของที่ข้ามมาที่นี่ได้ท่านบอกไว้ว่าเพราะการที่ของโลกนู้นมาโผล่ที่นี่มันไม่แปลกเพราะเป็นของสมัยเก่าที่เคยมีมาแล้ว แต่การที่ของโลกนี้ไปที่นู่นไม่ได้เพราะยังไม่เคยมีสิ่งของพวกนี้มาก่อนครับ”“อย่างนี้นี่เอง ถ้าข้ามไปได้มันจะผิดจากยุคสมัยที่ควรเป็นสินะ”ศศินาพยักหน้าเข้าใจ ถ้าคนเรานำสิ่งของข้ามเวลาไปอดีตได้จริงคงได้วุ่นวายน่าดู เพราะหากใครย้อนเวลาหรือข้ามมิติได้ก็คงอยากเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างจนโลกวุ่นวายไปหมดแน่ๆ “ส่วนตัวตนของคุณ เพราะโลกนั้นเป็นโลกที่ท่านสร้างขึ้นเองเลยมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงต้นฉบับทุกอย่าง แต่กับโลกปัจจุบันนี้ท่านไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักนอกจากโชคชะตาจะกำหนดไว้แล้วครับ”“อ้อ นักเขียนคือพระเจ้านี่เองศิก็ลืมไป”“ครับ ท่านบอกผมอย่างนั้นเหมือนกัน ตอนแรกผมก็โมโหมากที่ท่านมาล้อเล่นกับชีวิตคนอื่นแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องขอบคุณอยู่ดีไม่งั้นผมคงไม่ได้มาพบคุณ”“งั้นสุดท้าย ทำไมเราสองคนถึงได้ถูกกำหนดให้มาเจอกันทั้งที่อยู่คนละโลกแบบนี้คะ”ศศินาถามอย่างสุดท้ายที่สำคัญมากๆ ถึงจะรู้สึกขอบคุณแต่ก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดีว่าอะไรที่ทำให้เกิดเรื่องรา
บ่ายวันนึงของหน้าร้อนที่คู่แต่งงานใหม่พากันไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังบ้าน มองดูสวนผลไม้หลากชนิดและยอดเขาที่เห็นไกลๆ กลิ่นหอมจากดอกไม้รอบบริเวณลอยมากับลมเย็นๆจากธรรมชาติ สร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับช่วงเวลาที่พระอาทิตย์สว่างจ้าจนแสบตาแบบนี้ได้ไม่น้อย ศศินาเอนตัวลงนอนบนตักของสามีพลางหลับตาพริ้มอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อคิราห์ทอดสายตาที่เต็มไปด้วยความรักมองภรรยาคนสวยแล้วลูบผมอีกคนแผ่วเบา ศศินาคว้าเอามือหนาไปกุมไว้แนบแก้มก่อนจะถามเรื่องที่เคยสงสัยมานานตั้งแต่ที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ถึงจะเคยคุยกันไปแล้วบ้างแต่ด้วยตอนนั้นเกิดเรื่องขึ้นมากมายจนไม่ได้ถามรายละเอียดมากนัก “แสงคะ” “ครับ” “ยังจำตอนที่คุณกลับไปครั้งสุดท้ายได้มั้ย” “ได้ครับ ทำไมเหรอ” “ตอนนั้นคุณบอกว่าไปเจอคุณนักเขียนที่เขียนหนังสือเรื่องนั้นมาใช่มั้ยคะ” “ครับ คนที่คุณตานักปราชญ์เคยบอก แต่มันเหมือนความฝันมากกว่าถึงตอนที่คุยกันจะเป็นจริงก็เถอะ” อคิราห์บอกยิ้มๆ พอนึกถึงภาพตอนนั้นก็รู้สึกเลือนลางขึ้นมาแม้จะจำได้ทุกอย่างแล้วก็ตาม ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ หากไม่มีเสื้อผ้ากับของที่มาจากโลกนู้นอยู่
“อ๊าาา อะ อย่า อื้อ”บั้นท้ายงอนงามยกขึ้นอย่างเสียดเสียวเมื่อถูกลิ้นสากละเลงลงไปบนกลีบบอบบาง ติ่งเสียวที่ไวต่อความรู้สึกถูกดูดดุนจนตัวกระตุกสั่นไปหมด วันนี้อคิราห์ร้อนแรงเป็นพิเศษแบบที่ไม่เคยทำแบบนี้กันมาก่อนเลย ถึงจะเคยทำในห้องน้ำแต่ก็แค่ในอ่างแบบเมื่อกี้หรือยืนอยู่บนพื้นในท่าหันหลังเท่านั้น ไม่เคยถูกพามานั่งบนนี้สักครั้งและศศินาก็เพิ่งรู้ว่าการเปลี่ยนที่มันก็เปลี่ยนความรู้สึกไปด้วยเช่นกัน เหมือนตอนนี้ที่เธอหูอื้อตาลายไปหมด สติเริ่มถูกพรากไปกับความกระสันเสียวที่อีกคนมอบให้ไม่รู้จบ อคิราห์กำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า ด้วยปากและลิ้นที่ละเลงใส่เธอไม่หยุด แม้แต่เสียงครางตอนนี้ศศินายังไม่อยากเชื่อว่ามันออกมาจากปากของเธอ มันดูร่านร้อนและยั่วยวนจนน่าอาย แต่เธอควบคุมหรือต่อต้านอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อร่างกายมันซ่านเสียวจนโอนอ่อนตามอีกคนไปหมดแบบนี้“ฮึก แสง อ๊าา”ร่างบางกระตุกสั่น ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย อคิราห์ปาดเลียน้ำรักกลืนกินก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วกดกระแทกตัวตนที่แข็งขืนเข้าไปทันทีจนศศินาครางเสียงหลง“อ๊ะ อ๊าา”แขนเล็กกอดคอหนาเอาไว้แน่น อคิราห์ไม่ได้เว้นให้เธอที่กำลังเสร็จแม้แต่น้อย ร่าง