ท่านโหวหลินจงใจใช้ถ้อยคำรุนแรง เขาคิดว่าอย่างน้อยก็ทำให้นางได้รู้ว่าเขาเองเป็นคนที่คิดจะตัดขาดพ่อลูกคิดไปเองว่าบางทีนางอาจจะกังวลหรือหวาดกลัวขึ้นมาก็เป็นได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนกลับค้อมกายคำนับให้เขา "หวังว่าท่านโหวจะทำได้อย่างที่พูด"ประโยคนั้นราวกับมีดแทงลึกลงกลางใจท่านโหวหลินทว่าเฉียวเนี่ยนกลับกวาดมองทุกคนด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยขึ้น "หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน" ว่าจบก็หันหลังเดินจากไปจนกระทั่งเดินออกจากประตูห้องของหลินยวนไป เฉียวเนี่ยนถึงได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของฮูหยินหลินดังลอยออกมาหัวใจพลันรัดรึงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความเจ็บปวดแล่นริ้ว ทำเอานางขมวดคิ้วแน่น แต่สุดท้ายก็นางก็บังคับตัวเองให้ปล่อยผ่านมันไปกระนั้นแล้วนางยังเหลียวกลับไปมองอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเห็นฮูหยินหลินซบไหล่หลินเย่ว์ร้องไห้สะอื้น ในใจก็พลันสงสัยขึ้นมานางรู้ว่าฮูหยินหลินนั้นเจ้าน้ำตามาแต่ไหนแต่ไร ทว่าในอดีตฮูหยินหลินก็เหมือนพวกท่านโหวหลิน เอาแต่ปกป้องหลินยวนวันนี้ฮูหยินหลินกลับเข้าข้างนางเกิดอะไรขึ้น?เฉียวเนี่ยนไม่เข้าใจ แต่ก็สะบัดความคิดออกจากหัว ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ห้าวันต่อมา ณ หอจุ้ยเซียงเฉียวเนี่ยนทำตามที่หลินเย่ว์ มาถึงเมื่อยามเซินวันนี้หอจุ้ยเซียงถูกเหมา คนงานประจำหอจำรถม้าจวนโหวได้ เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนลงจากรถก็รู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นใคร จึงรีบเข้ามารับในทันใด"คุณหนูใหญ่ขอรับ ท่านโหวน้อยสั่งการไว้แล้ว ให้ข้าน้อยพาคุณหนูใหญ่ไปที่ชั้นสอง" คนงานต้อนรับด้วยไมตรี เดินนำเฉียวเนี่ยนขึ้นไปยังห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดบนชั้นสองคือห้องที่หลินเย่ว์และเซียวเหิงจองเอาไว้ตลอดปีเฉียวเนี่ยนเอ่ยขอบคุณ คนงานจึงถอยออกไปนางผลักประตูแล้วเข้าไปข้างใน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าข้างในห้องจะมีคนอยู่ก่อนแล้วเซียวเหิงนั่งอยู่หัวโต๊ะ บนโต๊ะไม่มีอาหาร มีแต่เหล้าเฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเขามาทำอะไร ขณะที่กำลังสองจิตสองใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงของเซียวเหิงเอ่ยขึ้น "คุณหนูเฉียว นั่งสิ"ยามนั้นหากเฉียวเนี่ยนไม่เข้าไป ก็คงเหมือนหลบหน้าเขาหลังจากสูดหายใจลึก เฉียวเนี่ยนถึงได้ก้าวเข้าไปในห้อง นั่งลงตรงหน้าเซียวเหิงเหยือกเหล้าสองสามเหยือกบนโต๊ะนั้นว่างเปล่า กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงนั้นดื่มไปไม่น้อยแล้วเมื่อเห็นท่าทางการดื่มของเขาก็
ใช่ เขาบอกงว่านางทำเกินกว่าเหตุบางทีความทรงจำในอดีตอก็โหดร้ายเกินทน เฉียวเนี่ยนติดแล้วคิดอีกก็นั่งไม่ติดทีนางไม่อยากอยู่กับเซียวเหิงเพียงลำพัง โดยเฉพาะอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำเช่นนี้ขณะกำลังจะหาข้ออ้างปลีกตัวออกไป คิดไม่ถึงเลยว่าเซียวเหิงจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน "คุณหนูเฉียวมีคนที่ถูกใจแล้วหรือไม่?""..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจู่ๆ เซียวเหิงถึงได้ถามเช่นนี้เมาแล้วอย่างนั้นหรือ?นางไม่ตอบ แต่เซียวเหิงกลับไม่คิดจะปล่อยนางไป ยังคงถามต่อ "ข้ามีรองแม่ทัพผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งนามว่าจิ่งเหยียน คุณหนูเฉียวไม่ถูกใจหรือ?"จนกระทั่งเขาเอ่ยถึงจิ่งเหยียน เฉียวเนี่ยนถึงได้เข้าใจเป้าหมายของเซียวเหิงคงจะมาระบายอารมณ์แทนจิ่งเหยียนสินะ?ในเมื่อก่อนหน้านี้คำที่นางฝากหนิงซวงไปบอกจิ่งเหยียนนั้นช่างแสนเย็นชาไร้หัวใจเซียวเหิงจงใจเน้นย้ำว่าจิ่งเหยียนคือผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา หากเขาจะมาระบายอารมณ์แทนจิ่งเหยียนย่อมสมเหตุสมผลทว่าเฉียวเนี่ยนนั้นไม่ใช่คนเดิมเมื่อสามปีก่อนแล้ว นางไม่มีทางแบกรับในสิ่งที่นางไม่ได้ก่อด้วยเหตุนั้นจึงเลิกคิ้วเอ่ย "เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะทำตามใ
น้ำเสียงตื่นตระหนกที่แทรกขึ้นขัดจังหวะการกระทำของเซียวเหิงทว่าเขายังไม่ยอมคลายฝ่ามือ ไม่แม้แต่จะขยับศีรษะมีเพียงดวงตาดำขลับคู่นั้นที่ค่อยเหลือบไปมองทางประตู แววตานั้นแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง ราวกำลังตำหนิที่หลินยวนขัดจังหวะเข้าไ้ด้เข้าเข็มของเขาเป็นครั้งแรกที่หลินยวนเห็นแววตาเช่นนั้นของเซียวเหิง น้ำตาก็พลันไหลพรากในทันทีในตอนนั้นหลินเย่ว์ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังหลินยวน ถามอย่างสงสัย "เหตุใดถึงไม่เข้าไปเล่า?"เมื่อเงยหน้ามองก็เห็นภาพในห้องส่วนตัวนั้นภาพของทั้งสองที่ใกล้ชิดกันทำเอาหลินเย่ว์เดือดพล่านในทันใดเขาแทบจะพุ่งตัวเข้าไปในห้องทันที ส่งหมัดเข้าใส่เซียวเหิง "ไอ้สารเลว!"เซียวเหิงยอมปล่อยมือเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของหลินเย่ว์แต่เฉียวเนี่ยนไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเซียวเหิงจะปล่อยมือ ร่างทั้งร่างจึงล้มเอนไปด้านหลังท้ายทอยกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง เจ็บชะมัดทว่าตอนนั้นไม่มีใครสนใจนางแม้แต่นิดหลินเย่ว์ตะลุมบอนเซียวเหิง ส่วนหลินยวนก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แต่ก็ไม่ก้าวเข้ามา เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้นโชคดีที่เฉียวเนี่ยนไม่ใช่คุณหนูบอบบางปานนั้นนางตะเกีย
เฉียวเนี่ยนพลันขมวดคิ้วน้อยๆ มองหลินเย่ว์อย่างเบื่อหน่ายเรื่องเมื่อครู่ หากมีลูกตาสักหน่อยย่อมมองออกว่านางเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่เห็นได้ชัดว่า สองพี่น้องตระกูลหลินไม่มีตาทั้งคู่ขณะกำลังจะเอ่ยปากเถียงนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเซียวเหิงจะชิงพูดขึ้นก่อน "เป็นความผิดของข้าเอง ไม่เกี่ยวกับคุณหนูเฉียว"เขาถึงขั้นรับผิดเองหลินยวนร้องไห้สะอื้นหนักกว่าเดิม "ท่าน ท่านพี่เหิง..."เมื่อครู่นางเอาแต่กล่อมตัวเองว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนผิด เฉียวเนี่ยนเป็นคนยั่วยวนเซียวเหิง นางถึงได้โมโหเฉียวเนี่ยนปานนั้นแต่ยามนี้เซียวเหิงกลับพูดว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขาเองหัวใจเหมือนถูกมีดนับพันเล่มทิ่มแทง หลินยวนสะอื้นไม่หยุด "หากท่านพี่เหิงชอบท่านพี่ ก็...ก็แค่พูดออกมา เดิมการหมั้นหมายนี่ก็เป็นของท่านพี่อยู่แล้ว ข้าเป็นคนแย่งของของท่านพี่ไป ข้าจะคืนให้นางก็ได้! พวกท่านแค่พูดมาตามตรง เหตุใดถึง เหตุใดถึงต้อง... ฮือออ..."พูดถึงประโยคสุดท้ายหลินยวนก็สะอื้นจนไม่เป็นภาษาหลินเย่ว์ปวดใจเหลือทน รีบเข้าไปเช็ดน้ำตาให้หลินยวน "จะเป็นของนางไปได้อย่างไร? นางต่างหากที่แย่งของตัวตนของเจ้าไป! หากไม่ใช่เพราะแม่ของนางใจดำอำมหิต
จำคนผิดอย่างนั้นหรือ?หลินเย่ว์ปลอบหลินยวนอยู่นานสองนานก็ยังไม่ดีขึ้น แต่พอได้ยินประโยคนั้น น้ำตาก็พลันหยุดไหลนางเหลียวมามองเซียวเหิงตาละห้อย "ท่านพี่เหิงคิดว่าท่านพี่...เป็นใคร?"หัวใจของเซียวเหิงพลันหนักอึ้งเขาคิดว่าตัวเองพูดอย่างชัดเจนแล้ว หลินยวนไม่ควรถามอีกแต่สำหรับหลินยวนนั้น หลังจากได้เห็นภาพแนบชิดของเซียวเหิงและเฉียวเนี่ยน สิ่งเดียวที่น้องต้องการน้ันคือคำตอบที่ชัดเจนเพียงแต่เซียวเหิงไม่กล้าพูดมันออกมาอากาศราวกับหยุดนิ่งหลินเย่ว์เอ่ยขึ้นในทันใด "ก็ต้องคิดว่าเป็นเจ้าอยู่แล้ว! เป็นไปได้ว่าเซียวเหิงดื่มจนเมามาย คนงานดันมาบอกว่าคุณหนูจวนโหวมาแล้ว เซียวเหิงถึงได้เห็นเฉียวเนี่ยนเป็นเจ้าน่ะสิ"เมื่อพูดถึงเพียงเท่านั้น หลินเย่ว์ก็สะกิดเท้าถีบเซียวเหิงใต้โต๊ะอย่างอดไม่ได้ ทั้งยังพยายามส่งสายตาให้เซียวเหิงสุดชีวิต "ใช่ไหม เซียวเหิง?"เซียวเหิงเหลือบตามองหลินเย่ว์ ก่อนจะส่งเสียง "อืม" ตอบกลับทว่าคนเป็นแม่ทัพ เขามักจะดื่มกับเหล่าทหารเสมอ คอแข็งกว่าหลินเย่ว์นัก วันนี้เหล้าเหยือกเล็กเพียงไม่กี่เหยือก กลับทำเขาเมามายจนตาฟ่าฟาง แต่ก็คงไม่ถึงขั้นจำคนผิดหรอกกระมัง!เว้นเสียแต่เ
นั่นแปลว่าเขาไม่ได้จำคนผิดแม้แต่นิดเมื่อเห็นสองตาของหลินยวนเบิกโพลงก่อนจะร้องไห้อีกครั้ง ในใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยนางเบ้ปาก ส่งยิ้มให้หลินยวน "ข้าอยู่ในวังมาสามปี เพิ่งออกมาได้ไม่นานฮูหยินหลินก็เร่งเร้าให้ข้าจัดงานแต่งงานเสียที ท่านโหวน้อยเองก็ 'ยินดี' นั่นก็ถูกแล้ว เพราะสิบแปด ก็ไม่ใช่อายุน้อยๆ แล้ว คุณหนูหลินเล่า? หมั้นหมายกับแม่ทัพเซียวมาตั้งนาน เหตุใดถึงยังไม่แต่งเสียที? สามปีที่ผ่านมาไม่มีฤกษ์ดีเลยหรือ? "แทงอะไรก็ไม่เท่าแทงใจดำที่พวกนางไม่ได้แต่งงานกันเสียที่เพราะฮูหยินเฒ่ายืนกรานว่าจะรอเฉียวเนี่ยนกลับมา ถามให้แน่ชัดว่าเฉียวเนี่ยนยินยอมหรือไม่แต่หลินยวนนั้นรู้ดี หากเซียวเหิงตั้งใจจะแต่งงานกับนางจริงๆ ต่อให้มีฮูหยินเฒ่าอีกสิบคนก็ห้ามไม่ได้ที่พวกเขาไม่ไ้ด้แต่งงานกันเสียที จะเป็นเพราะเหตุใดไปได้นอกเสียจากเซียวเหิงไม่อยากแต่ง!ริมฝีปากของหลินยวนสั่นเครือ น้ำตาไหลริน แต่ภาพอันแสนน่าสงสารนี้ ทั้งหลินเย่ว์และเซียวเหิงไม่ได้เห็นนางจ้องหน้าเฉียวเนี่ยน ราวกับสัตว์ป่าตัวน้อยที่พยายามต่อสู้ "ท่านพี่หมายความว่าอย่างไร? ท่านจะบอกว่าในใจของท่านพี่เหิงยังมีท่าน
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม หลินเย่ว์กับเซียวเหิงถึงได้กลับที่ห้องมาพร้อมกันเมื่อเห็นว่าในห้องมีเหลือเพียงเฉียวเนี่ยน หลินเย่ว์ก็อดตกใจไม่ได้ "ยวนเอ๋อร์เล่า?"เฉียวเนี่ยนรินชาให้ตัวเองอย่างอ้อยอิ่ง "ไปแล้ว""ไปไหน?" หลินเย่ว์ถามในทันใดแต่เฉียวเนี่ยนกลับยักไหล่ "ข้าไม่ใช่หนอนในท้องคุณหนูหลิน จะรู้ได้อย่างไรว่านางไปที่ไหน?""เจ้า!" เฉียวเนี่ยนทำหลินเย่ว์โมโหจนหัวใจเต้นระรัว แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป้าหมายของวันนี้คือหาคู่ให้เฉียวเนี่ยน จึงจำยอมปล่อยผ่าน "ช่างเถิด แขกมากันครบแล้ว งานใกล้จะเริ่มแล้ว หากไม่มีอะไร เจ้าลองมาดูสักหน่อย"ว่าจนก็หันหลังเดินนำออกไปก่อนเฉียวเนี่ยนดื่มชาในมือของตัวเอง ก่อนจะลุกยืนขึ้นแล้วเดินตามออกไปอย่างไม่รีบร้อนแต่คิดไม่ถึงเลยว่ายามเดินผ่านเซียวเหิง เขาจะรั้งนางเอาไว้"เจ้าพูดอะไรกับนาง?"น้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นแฝงไปด้วยความร้อนรน แตกต่างจากยามซักไซ้นางเพราะฤทธิ์เหล้ามือครู่อย่างชัดเจนเฉียวเนี่ยนตกใจอย่างอดไม่ได้เขาพอเดาออกว่านางพูดอะไรออกไปเซียวเหิงอ่านนางออกอย่างทะลุปรุโปร่ง หรือว่าเข้าใจหลินยวนเป็นอย่างดีกันแน่?แต่เฉียวเนี่ยนไม่มีกะจิตกะใจจะคิดเรื่องเห
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด