แชร์

บทที่ 219

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
ห้าวันต่อมา ณ หอจุ้ยเซียง

เฉียวเนี่ยนทำตามที่หลินเย่ว์ มาถึงเมื่อยามเซิน

วันนี้หอจุ้ยเซียงถูกเหมา คนงานประจำหอจำรถม้าจวนโหวได้ เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนลงจากรถก็รู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นใคร จึงรีบเข้ามารับในทันใด

"คุณหนูใหญ่ขอรับ ท่านโหวน้อยสั่งการไว้แล้ว ให้ข้าน้อยพาคุณหนูใหญ่ไปที่ชั้นสอง" คนงานต้อนรับด้วยไมตรี เดินนำเฉียวเนี่ยนขึ้นไปยังห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดบนชั้นสอง

คือห้องที่หลินเย่ว์และเซียวเหิงจองเอาไว้ตลอดปี

เฉียวเนี่ยนเอ่ยขอบคุณ คนงานจึงถอยออกไป

นางผลักประตูแล้วเข้าไปข้างใน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าข้างในห้องจะมีคนอยู่ก่อนแล้ว

เซียวเหิงนั่งอยู่หัวโต๊ะ บนโต๊ะไม่มีอาหาร มีแต่เหล้า

เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเขามาทำอะไร ขณะที่กำลังสองจิตสองใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงของเซียวเหิงเอ่ยขึ้น "คุณหนูเฉียว นั่งสิ"

ยามนั้นหากเฉียวเนี่ยนไม่เข้าไป ก็คงเหมือนหลบหน้าเขา

หลังจากสูดหายใจลึก เฉียวเนี่ยนถึงได้ก้าวเข้าไปในห้อง นั่งลงตรงหน้าเซียวเหิง

เหยือกเหล้าสองสามเหยือกบนโต๊ะนั้นว่างเปล่า กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงนั้นดื่มไปไม่น้อยแล้ว

เมื่อเห็นท่าทางการดื่มของเขาก็
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Skyred Dimongost
เบื่อเซียวเหิง เบื่อตะกูลท่านโหว เหมือนพวกฌรคจิต
goodnovel comment avatar
Meerada Sunny
สู้ๆนะนางเอกไม่จำเป็นคิดถึงรักแรก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 948

    พระพุทธรูปหยก!เฉียวเนี่ยนรู้จักดีเมื่อคราวนั้นฮูหยินหลินยังเคยมาขอร้องนางเพื่อหลินยวน ขอพระพุทธรูปหยกหนึ่งองค์ไปเป็นสินเดิมให้หลินยวนเมื่อมู่คังเซิ่งพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัยว่า “พระพุทธรูปหยกมีอะไรหรือเจ้าคะ?”มู่คังเซิ่งสูดหายใจลึก สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ในพระพุทธรูปหยกนั้น ซ่อนเศษแผนที่สมบัติไว้สองชิ้น ซึ่งสามารถช่วยพวกเราตามหาขุมสมบัติที่บรรพชนของตระกูลมู่ทิ้งไว้ และช่วยให้ตระกูลมู่รอดพ้นจากวิกฤตในตอนนี้ได้”เมื่อได้ยินคำว่า ‘แผนที่สมบัติ’ หลินเย่ว์ก็โกรธขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ “ข้าว่าพวกเจ้าจะเล่นละครมากเกินไปแล้วล่ะ! แผนที่สมบัติรึ! หากมีแผนที่สมบัติจริง เหตุใดต้องซ่อนอยู่ในพระพุทธรูปหยก? แล้วเหตุใดในปีนั้นถึงกลายเป็นสินสมรสของท่านย่าเราตอนแต่งงานที่แคว้นจิ้ง? หากมีแผนที่สมบัติจริง แต่ละปีที่ผ่านมา ด้วยกำลังของพวกตระกูลมู่ เจ้าก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหาท่านย่าแล้วสิ ไยต้องรอจนกว่าน้องสาวข้าจะเอาเครื่องรางหยกออกมาให้เห็น เจ้าถึงจะรู้ว่าท่านย่าแต่งเข้ามาอยู่ที่แคว้นจิ้ง?”แม้หลินเย่ว์จะมุทะลุไปหน่อย แต่คำถามเหล่านี้ ก็ล้วนเป็นส

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 947

    ความรู้สึกนี้ แปลกประหลาดอยู่บ้างมู่คังเซิ่งถอนหายใจพลางกล่าวว่า “ท่านปู่ของมู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยตอนยังมีชีวิตอยู่ เคยพยายามอย่างหนักเพื่อจะตามหาท่านย่าของเจ้า ไม่คิดว่ากว่าจะหาเจอ ทั้งสองก็... เฮ้อ!”เฉียวเนี่ยนก้มหน้าลง ไม่กล่าวอะไรภายในใจเกิดคลื่นแห่งความโศกเศร้าอ่อนจางบางคนไม่ว่าจะจากไปนานแค่ไหน เพียงหวนระลึกถึงอีกครั้ง ใจก็ยังคงปวดร้าวอยู่ดีพอเห็นเฉียวเนี่ยนมีปฏิกิริยาเช่นนี้ มู่คังเซิ่งก็กล่าวอีกว่า “แต่ว่าโชคดีที่ตอนนี้หาเจ้าพบแล้ว! สวรรค์ช่างไม่ใจร้ายต่อตระกูลมู่เลยจริงๆ!”พอคำพูดนี้สิ้นสุดลง สีหน้าของเฉียวเนี่ยนกับหลินเย่ว์ก็พลันเปลี่ยนไปหลินเย่ว์ก้าวเข้ามา แววตามีความไม่พอใจปนอยู่ แต่ทว่าน้ำเสียงยังคงรักษาความสุภาพขั้นพื้นฐาน “ขอเรียนถามท่านผู้นำตระกูลตระกูลมู่ ว่าคำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร?”มู่คังเซิ่งเงยหน้ามองหลินเย่ว์แวบหนึ่ง แววตาธรรมดาไร้ความรู้สึก แต่กลับให้ความรู้สึกเย้ยหยันอย่างประหลาดเขาไม่ได้หันไปมองหลินเย่ว์ แต่กลับหันไปทางเฉียวเนี่ยนแล้วเอ่ยว่า “เด็กน้อย เจ้าจะกลับไปเยือนตระกูลมู่กับเราสักครั้งเมื่อไรดีล่ะ?”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว “ท่านผู้นำตร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 946

    เฉียวเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่งก็เห็นชายชราผู้หนึ่งยืนอยู่กลางโถงชั้นล่างสวมเสื้อคลุมผ้าไหมสีดำ ปักลายด้วยดิ้นทอง คาดผ้าคาดเอวสีดำเข้มที่ดูเก่าเล็กน้อย บนผ้านั้นห้อยจี้หยกชิ้นหนึ่งบนจี้หยกนั้นแกะสลักไว้ด้วยอักษร ‘มู่’มู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยยืนอยู่คนละข้างของชายชราทั้งที่คนหนึ่งสุขุม อีกคนหนึ่งองอาจเปี่ยมชีวิตชีวา ทว่าเมื่อยืนข้างชายชราผู้นั้น กลับดูราวกับเด็กรับใช้ไปถนัดตาไม่ต้องบอก เฉียวเนี่ยนก็รู้ได้ทันทีว่าชายชราคือผู้นำตระกูลมู่เวลานั้น สายตาของผู้นำตระกูลมู่เปล่งประกายเป็นประกายจ้า จ้องมองเฉียวเนี่ยนแน่นิ่งเหมือนกำลังจ้องมองสมบัติล้ำค่าเฉียวเนี่ยนไม่ชอบสายตาเช่นนี้นักนางรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นสิ่งของอะไรบางอย่างสิ่งของที่สำคัญยิ่งต่อตระกูลมู่มู่ซ่างเสวี่ยกล่าวแนะนำว่า “ท่านอา นางก็คือเนี่ยนเนี่ยน หลานสาวแท้ๆ ของป้าทวด อีกท่านหนึ่งนามว่าหลินเย่ว์ เป็นหลานชายแท้ๆ ของป้าทวดเช่นกันขอรับ”ขณะกล่าว เฉียวเนี่ยนก็ลงบันไดมาแล้ว นางก้าวเข้ามากล่าวคำนับต่อผู้นำตระกูลมู่ “คารวะท่านผู้นำตระกูลเจ้าค่ะ”ผู้นำตระกูลมู่มีนามว่ามู่คังเซิ่ง ปีนี้อายุหกสิบห้า เป็นพี่ใหญ่แท้ๆ ขอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 945

    แต่นางกลับนึกถึงฉู่จืออี้ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยหากวันนี้ฉู่จืออี้อยู่ละก็ ย่อมไม่มีทางปล่อยให้ไอ้หัวหงอกนั่นพาตัวนางไปได้แน่ถึงแม้จะถูกพาตัวไปจริงๆ ก็คงจะหานางเจออย่างรวดเร็วถึงแม้จะไม่รวดเร็ว อย่างน้อยในตอนนี้ เขาก็จะต้องบอกนางว่า อย่าคิดมากคิดถึงตรงนี้ ใจของนางก็สงบลงอย่างไม่มีเหตุผลเฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ หลับตาลง แล้วในที่สุดก็ค่อยๆ หลับไปเช้าวันถัดมา นางก็นอนเต็มอิ่มจริงๆเมื่อลุกออกจากห้องก็ล่วงเลยถึงช่วงสายด้านล่างของโรงแรมมีคนนั่งอยู่ไม่น้อย เฉียวเนี่ยนกวาดตามอง ส่วนมากเป็นคนของตระกูลมู่แต่มู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยกลับไม่อยู่นางก็ไม่ได้ถามมากความ หันไปที่ห้องของพี่ห้าแทนวันนี้พี่ห้าดูดีกว่าเมื่อวานมากพอเห็นเฉียวเนี่ยน เขาก็อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ว่า “เมื่อวานไอ้แก่นั่นได้ทำอะไรให้เจ้าลำบากใจหรือไม่?”เฉียวเนี่ยนเดินไปตรวจชีพจรให้พี่ห้า แล้วจึงพูดว่า “ไม่ เขาบอกว่าอยากรับข้าเป็นศิษย์ ข้าปฏิเสธ เขาก็เลยปล่อยข้าไว้บนดาดฟ้า”พอนึกถึงเรื่องนี้ ใจเฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะเดือดดาลเจ้าเฒ่านั่นเจ้าเล่ห์เสียจริงพี่ห้าก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 944

    โชคดีที่หลังจากนั้นไม่นาน คนตระกูลมู่ก็มาถึง รับตัวคนทั้งสองลงมาได้มู่ซ่างเสวี่ยถอดผ้าคลุมของตนออก คลุมร่างเฉียวเนี่ยนเอาไว้ทั้งตัว พอเห็นใบหน้าซีดเซียวของเฉียวเนี่ยนที่หนาวจนแทบไม่มีสีเลือด ก็คิ้วขมวดแน่น “เร็วเข้า! พาคุณหนูกลับไป! เตรียมน้ำอุ่นกับน้ำขิงไว้!”"เจ้าค่ะ!"สาวใช้ก็เข้ามาพยุงเฉียวเนี่ยนมุ่งหน้าไปยังรถม้าที่จอดอยู่ไม่ไกลในทันทีตลอดทาง เฉียวเนี่ยนไม่ได้หันกลับไปมองเพราะนางรู้ดีว่าหลินเย่ว์อยู่ด้านหลังของนางสายตานั้นร้อนแรง ราวกับจะเจาะทะลุแผ่นหลังของนางให้เป็นรูเพียงแต่ ตอนก้าวขึ้นรถม้า นางก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางหลินเย่ว์ก็เห็นว่าหลินเย่ว์ยังคงยืนจ้องมองนางอยู่ที่เดิม พอเห็นนางหันมา ก็มอบรอยยิ้มให้นางหนึ่งที ประหนึ่งบอกให้นางไม่ต้องเป็นห่วงใจเฉียวเนี่ยนพลันสะดุด ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที สุดท้ายนางก็ขึ้นรถม้าไปสาวใช้ของตระกูลมู่พูดเสียงนุ่มจากนอกรถม้า “คุณหนู มีเตาอุ่นมืออยู่ในรถม้า ท่านถือไว้ให้มืออบอุ่นขึ้นนะเจ้าคะ”เฉียวเนี่ยนเพิ่งเห็นว่าบนโต๊ะเล็กข้างๆ มีเตาอุ่นมือวางอยู่จริงๆนางหยิบเตาอุ่นมือขึ้นมา แล้วกดแนบไว้ตรงอก เพียงหวังว่าไออุ่นจากมันจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 943

    น่าเสียดาย นางกลับไปอดีตไม่ได้อีกแล้วทุกคนไม่มีวันหวนกลับไปยังอดีตได้อีก...“เนี่ยนเนี่ยน! เนี่ยนเนี่ยน!”หลินเย่ว์ยังคงตะโกนเรียก ร่ำร้องด้วยความร้อนใจ“เนี่ยนเนี่ยน เจ้าหาอยู่ที่ไหน! เจ้าอย่าทำให้พี่ใหญ่ตกใจสิ!”“เนี่ยนเนี่ยน! ออกมาเถอะ! พี่ใหญ่มารับเจ้าแล้ว!”“ขอโทษนะเนี่ยนเนี่ยน พี่ใหญ่มาช้าเกินไป พี่ใหญ่ไม่ควรมาช้าอย่างนี้เลย!”“เนี่ยนเนี่ยน เจ้าอย่าทำให้พี่ใหญ่ตกใจ เจ้าอยู่ที่ไหน ตอบพี่ใหญ่มาสักคำเถอะ!”เสียงของหลินเย่ว์เริ่มปนเสียงสะอื้นบางทีอาจเพราะถูกความรู้สึกนั้นส่งผ่านมา เฉียวเนี่ยนที่พยายามกลั้นน้ำตาไว้ก็สุดจะกลั้น สุดท้ายน้ำตาก็ไหลลงมาใช่แล้ว มาช้าเกินไปจริงๆทำไมถึงมาช้าได้เพียงนี้?เจ้ารู้ไหมว่าสามปีนั้น ขอแค่เจ้าปรากฏตัวขึ้นสักครั้ง แค่ครั้งเดียว...ตอนนี้ นางก็ยังจะมีพี่ใหญ่อยู่...“ข้างบนนั่นมีคน!”ไม่รู้ว่าใครร้องขึ้นมาหลินเย่ว์เงยหน้าขึ้นมองในที่สุดท้องฟ้ายามค่ำมืดมิดเกินไปเขามองไม่เห็นใบหน้าของเฉียวเนี่ยน แต่เพียงแวบเดียวก็จำได้ว่าเงาร่างนั้นคือเฉียวเนี่ยนเขาจึงโบกมือให้เฉียวเนี่ยน “เนี่ยนเนี่ยน! เจ้าอย่ากลัว! พี่ใหญ่มาแล้ว! เจ้าอย่าขยับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status