หน้าหลัก / รักโบราณ / พลิกชะตารักหญิงบ้า / ตอนที่17ทำความรู้จักกับนางเอกในนิยาย

แชร์

ตอนที่17ทำความรู้จักกับนางเอกในนิยาย

ผู้เขียน: ฉู่เฉียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-07 19:28:06

เจียงซินหยาที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลี่เฉิน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่ม แล้วต้องชะงักไป

เธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่กับหลี่เฉินเพียงลำพัง

รอยยิ้มอ่อนหวานที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าค่อย ๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ภายในบ้านของเขา

ผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นใครกัน

และดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เธอสงสัยนาน เพราะในตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ

หลินจื่ออิงรู้ตัวดีว่าตัวเองกลายเป็นจุดสนใจของผู้มาเยือน และในฐานะเจ้าของบ้าน การเมินเฉยต่อแขกคงไม่ใช่เรื่องสมควรและเป็นการเสียมารยาท เธอจึงหันไปจูงมือบุตรสาวตัวน้อยที่กำลังหันมองคนนั้นที คนนี้ทีด้วยดวงตาใสแจ๋ว พาเดินเข้าไปหาทั้งสองคน

ฝีเท้าของจื่ออิงก้าวเป็นจังหวะมั่นคง ขณะที่เธอเดินตรงไปหาหลี่เฉินและเจียงซินหยา มือเล็ก ๆ ของบุตรสาวก็กระชับมือของเธอแน่นขึ้น ราวกับกำลังหาที่พึ่งพา ดวงตากลมใสช้อนมองเธออย่างลังเล ก่อนจะหันไปจ้องหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่

จื่ออิงขมวดคิ้วเล็กน้อยกับปฏิกิริยานั้น ก้มลงมองสบตาบุตรสาว ดวงตาคู่น้อยสะท้อนความลังเลและอึดอัดอย่างชัดเจน จู่ ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็ก่อตัวขึ้นในใจเธอ ไม่ใช่ว่าเหยียนเหยียนชื่นชอบอีกฝ่ายมากหรอกหรือ เหตุใดจึงดูห่างเหินและอึดอัดถึงเพียงนี้ 

เธอจำได้ว่ามีเนื้อหาตอนหนึ่งบรรยายไว้ว่า เด็กน้อยเหยียนเหยียนวิ่งเข้าหาเจียงซินหยาอย่างไร้เดียงสา ยิ้มแย้มเวลาถูกอีกฝ่ายอุ้ม แต่ที่เธอเห็นตอนนี้ เหยียนเหยียนกลับยืนนิ่ง ไม่ยิ้ม ไม่มีความยินดีเลยแม้แต่น้อย

หรือที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะตัวประกอบอย่างหลินจื่ออิงยังไม่ตาย

ช่างเถอะ จะเป็นเพราะอะไรก็ช่าง แต่ตอนนี้เธอคือมารดาของเหยียนเหยียน เป็นภรรยาที่ถูกต้องของหลี่เฉิน ไม่ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นนางเอก นางร้าย หรือนางอิจฉา เธอไม่สนใจ และไม่สนเนื้อหาในนิยายด้วย ขอแค่เอามาเป็นแนวทางบ้างก็พอ

จื่ออิงกระชับมือเล็กๆ ของบุตรสาว และส่งยิ้มให้ ก้มลงไปหาแม่หนูน้อยแล้วกระซิบบอกเสียงเบา

"ไม่เป็นไร มีแม่อยู่ทั้งคน"

หลี่ซูเหยียนยิ้มกว้างให้มารดา ก่อนจะเดินตามการจับจูงของมารดาอย่างว่าง่าย

เจียงซินหยาสูดหายใจลึก พยายามระงับอาการไม่มั่นคงของตัวเอง เมื่อหญิงคนนั้นมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า

บรรยากาศรอบตัวเงียบลงอย่างประหลาด ขณะที่หญิงสาวทั้งสองยืนประจันหน้ากัน

หลี่เฉินรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นซึ่งกำลังก่อตัวขึ้น เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างแปลกใจ ไม่ใช่เพราะเจียงซินหยา เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับอีกฝ่าย แต่เป็นเพราะหลินจื่ออิงผู้เป็นภรรยาต่างหาก

หากเป็นเมื่อก่อน ภรรยาของเขาคงไม่มีวันยืนเผชิญหน้ากับใครด้วยท่าทีมั่นคงเช่นนี้ หลินจื่ออิงที่เขาเคยรู้จักเป็นหญิงสาวหัวอ่อน มักหลบสายตาผู้อื่นเสมอ ไม่เคยแสดงความมั่นใจในตัวเองออกมาให้เห็น

แต่ตอนนี้หญิงสาวดูเปลี่ยนไปมากจริงๆ ตั้งแต่หายป่วย จื่ออิงทำให้เขาประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับเธอได้ละทิ้งบางสิ่งไว้ในอดีต และเลือกที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยตัวเอง

ความเจ็บป่วยสามารถเปลี่ยนคนได้มากถึงเพียงนี้เชียวหรือ

หลี่เฉินสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามทำให้บรรยากาศกลับมาเป็นปกติที่สุด แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมภรรยาของเขาถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่เขายังไม่อยากมีปัญหากับภรรยาตอนนี้หรอกนะ

"ซินหยา นี่จื่ออิง ภรรยาของพี่"

หลี่เฉินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่หนักแน่น 

เสียงของเขาดึงสติของทั้งสองคนกลับมา ดวงตาของจื่ออิงสงบนิ่ง ขณะที่เจียงซินหยากะพริบตาเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาวชะงักลงไปชั่วขณะ ริมฝีปากของเธอขยับเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เงียบไป

คำว่า ‘ภรรยา’ ที่ถูกเปล่งออกมาอย่างชัดเจน ทำให้เจียงซินหยาเผลอกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเธอไหววูบไปเสี้ยววินาที แต่ก็รีบเก็บซ่อนมันไว้ เธอรู้ดีว่าหลี่เฉินแต่งงานแล้ว เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา แต่การได้ยินเขาเอ่ยคำนี้ออกมาด้วยตัวเองต่อหน้าต่อตา กลับทำให้หัวใจเธอรู้สึกหนักอึ้งกว่าที่คิด

จื่ออิงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ 

"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"

"อาอิง นี่เจียงซินหยา"

เสียงของหลี่เฉินดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนอึดอัด เขาหันไปมองภรรยาที่มองเขาตาโต เมื่อเขาเอ่ยเรียกเธออย่างสนิทสนมทั้งที่ไม่เคยเรียกมาก่อน ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

"เธอเป็นหลานของผู้นำหมู่บ้าน และเป็นคนช่วยดูแลเหยียนเหยียนตอนที่คุณป่วย"

เจียงซินหยากำมือแน่นเล็กน้อย ก่อนจะคลายออกอย่างรวดเร็ว เธอเม้มริมฝีปาก พลางบังคับตัวเองให้สงบเสงี่ยม แม้ภายนอกจะยังดูสงบ แต่ภายในใจกลับปั่นป่วนไม่หยุด

ตั้งแต่วันที่ได้พบหลี่เฉิน เธอรู้ดีว่าตัวเองตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ชายหนุ่มที่หล่อเหลาและโดดเด่น เงียบขรึมแต่แข็งแกร่ง สุขุมและน่าเชื่อถือ เขาคือคนที่เธอเฝ้าฝันอยากครอบครอง

และเมื่อรู้ว่าภรรยาของเขาป่วย กลายเป็นคนบ้าเสียสติ หลินจื่ออิงแทบไม่ต่างอะไรกับคนที่ไร้ตัวตนในบ้านหลังนี้ ผู้ชายดีๆ ที่ไหนจะทนอยู่กับคนบ้าไปตลอดชีวิต

เธอจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อได้อยู่เคียงข้างเขา คอยดูแลเหยียนเหยียน คอยช่วยเหลือในทุกเรื่อง หวังว่าสักวันเขาจะมองเห็นเธอ ไม่ใช่แค่ในฐานะน้องสาว หรือหลานสาวของเจ้านาย

ทุกอย่างกำลังไปได้ดี

แต่วันนี้ ภรรยาของเขากลับมายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ และเธอเป็นได้แค่คนรู้จักเท่านั้น

เจียงซินหยาสูดหายใจลึกรวบรวมสติ ก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ เธอยกยิ้มบาง ๆ อย่างมีมารยาท ไม่ให้ความรู้สึกใดๆ ในใจเผยออกมาทางสีหน้า

"พี่สาว ยินดีที่ได้พบกันนะคะ ฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้พบกันเสียที"

น้ำเสียงของเจียงซินหยานุ่มนวล แสดงถึงความสนิทสนม เอ่ยประโยคเรียบง่ายที่ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรแอบแฝง ทว่ากลับทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบลงเล็กน้อย

จื่ออิงกำลังอึ้งงันกับคำเรียกขานของคนเป็นสามี รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปาก นับว่าอีกฝ่ายยังคงรู้ความอยู่บ้าง เธอมองหญิงสาวตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองไปยังหลี่เฉิน

"ซินหยามักจะมารับเหยียนเหยียนไปเล่นกับน้องสาวเธอบ่อยๆ"

หลี่เฉินรับรู้ถึงประกายบางอย่างในแววตาของจื่ออิง น้ำเสียงของเขาเรียบเฉยเอ่ยอธิบายสั้น ๆ ราวกับต้องการขจัดความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำ

เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด

แต่สายตาของภรรยาทำให้เขารู้สึกแปลกๆ และอยากอธิบาย

เจียงซินหยาคลี่รอยยิ้มสดใส มองดูคนทั้งสองด้วยท่าทางใสซื่อ ก่อนจะหันไปเอ่ยทักทายหลี่ซูเหยียนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างมารดา

"สวัสดีจ้ะ เหยียนเหยียน วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลย"

เธอพยายามส่งยิ้มให้เด็กหญิง ทว่าหลี่ซูเหยียนเพียงแค่กะพริบตามองมา ดวงตากลมโตจ้องเธอเขม็ง ก่อนจะซุกตัวเข้าหามารดา ท่าทางนั้นทำให้เจียงซินหยารู้สึกขัดใจเล็กน้อย แต่ก็ต้องรีบเก็บอารมณ์ไว้

จื่ออิงระบายรอยยิ้มบาง ๆ ดวงตาคมกริบจับจ้องหญิงสาวตรงหน้าไม่วางตา คล้ายกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง ก่อนจะโน้มตัวลงไปหาบุตรสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ลูบแก้มขาวนุ่มเบา ๆ แล้วหันไปสบตากับเจียงซินหยาอีกครั้งพร้อมเอ่ยเสียงหวาน

"ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลเหยียนเหยียนให้ตอนที่ฉันป่วย ตอนนี้ฉันหายดีแล้ว ต่อไปคงไม่ต้องรบกวนคุณเจียงอีก"

แม้คำพูดจะสุภาพและฟังดูเป็นมิตร ทว่าแววตาของจื่ออิงกลับฉายชัดถึงบางสิ่งที่ทำให้เจียงซินหยาต้องกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว

จื่ออิงคลี่ยิ้มอ่อนโยน แต่ในใจของเธอ คำว่า เสี่ยวซาน แปะอยู่บนหน้าผากของเจียงซินหยาตัวโตเบ้อเริ่ม ซึ่งแปลตรงตัวว่า เลขสาม หมายถึง มือที่สาม หรือผู้หญิงที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างคู่รักหรือคู่สามีภรรยา ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม มักถูกใช้ในเชิงลบ หมายถึงผู้หญิงที่แอบมาพัวพันกับผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว

แม้เจียงซินหยาจะไม่ได้พูดหรือแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง แต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อหลี่เฉินมันชัดเจนเสียจน แม้แต่คนโง่ยังดูออก

และหลินจื่ออิงไม่ใช่คนโง่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่19ปรับความเข้าใจ

    ท่ามความบรรยากาศที่สงบเงียบ รอบกายเต็มไปด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย เสียงทุ้มของหลี่เฉินก็ดังขึ้นแผ่วเบา ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน"อาอิง คุณรู้ตัวหรือเปล่า ว่าคุณดูเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน"จื่ออิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง ๆ ดวงตาคู่งามละสายตาจากภาพทิวทัศน์สองข้างทาง ทอดมองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้า หัวใจของเธอเต้นแรงกับคำพูดนั้น เธอรู้ดีว่าเธอเปลี่ยนไปจริง ๆ เพราะเธอไม่ใช่ ‘หลินจื่ออิง’ คนนั้นเธอคิดว่า ในเมื่อตอนนี้เธอคือหลินจื่ออิงแล้ว เธอก็ควรทำให้ทุกอย่างมันถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น ในเมื่อเขาเปิดใจมาเช่นนี้แล้ว เธอเองก็ควรเปิดใจกับเขาอย่างตรงไปตรงมา และหลังจากนี้ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร เธอก็จะขอน้อมรับทุกประการ ถือว่าเคลียร์ใจกันไปเลย"ฉันไม่ได้เปลี่ยนไปหรอกค่ะ"จื่ออิงตอบเสียงเบา ทว่าหนักแน่น"ฉันแค่คิดได้ คิดได้ว่าต่อจากนี้ ฉันจะไม่เดินซ้ำรอยเดิม จะไม่เป็นผู้หญิงที่ยึดติด ฉันควรจะเข้มแข็งด้วยตัวเอง และไม่บีบบังคับใจใครอีก ฉัน รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำก็เท่านั้น"เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง"ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อคุณ ฉันขอโทษนะคะ"

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่18เส้นทางไปตลาด

    "เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว เราคงต้องขอตัวก่อน ต้องขอโทษด้วยนะซินหยา วันนี้พี่ต้องพาภรรยาไปซื้อของ"หลี่เฉินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น คล้ายต้องการยุติการสนทนาไว้เพียงเท่านี้ และเขาก็ได้รับรอยยิ้มหวานเชื่อมจากภรรยาทันทีที่เอ่ยจบ รอยยิ้มนั้นงดงามราวกับดอกไม้ผลิบานยามเช้า ดึงดูดสายตาจนเขาเผลอจ้องมองอยู่ชั่วขณะ ราวกับเพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มนี้เป็นครั้งแรกความอ่อนหวานที่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจและพึงพอใจบนใบหน้า ทำให้เขาอดตกตะลึงไม่ได้เจียงซินหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เธอคลี่ยิ้มบางๆ เก็บซ่อนความผิดหวังและไม่พอใจเอาไว้มิดชิด"อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันผิดเองที่ไม่ได้ถามพี่ก่อน คิดว่า... จะเหมือนกับทุกที"ประโยคสุดท้ายของเจียงซินหยาแผ่วเบา ราวกับเป็นเพียงคำพึมพำที่ไม่ได้คาดหวังให้ใครได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้น จื่ออิงก็ได้ยินมันอย่างชัดเจนเธอเพียงแค่ยืนเงียบ ๆ มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสุขุม ราวกับเข้าใจความหมายของคำพูดนั้นดี แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไปแม่นางเอกของนักเขียนคนนี้มีครบจบในที่เดียวจริงๆ เพราะนอกจากจะเป็นแม่ดอกบัวขาว เป็นเสี่ยวซานแล้ว ยังเป็นแม่ชาเขียว หรือที่มักเรีย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่17ทำความรู้จักกับนางเอกในนิยาย

    เจียงซินหยาที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลี่เฉิน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่ม แล้วต้องชะงักไปเธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่กับหลี่เฉินเพียงลำพังรอยยิ้มอ่อนหวานที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าค่อย ๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ภายในบ้านของเขาผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นใครกันและดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เธอสงสัยนาน เพราะในตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอหลินจื่ออิงรู้ตัวดีว่าตัวเองกลายเป็นจุดสนใจของผู้มาเยือน และในฐานะเจ้าของบ้าน การเมินเฉยต่อแขกคงไม่ใช่เรื่องสมควรและเป็นการเสียมารยาท เธอจึงหันไปจูงมือบุตรสาวตัวน้อยที่กำลังหันมองคนนั้นที คนนี้ทีด้วยดวงตาใสแจ๋ว พาเดินเข้าไปหาทั้งสองคนฝีเท้าของจื่ออิงก้าวเป็นจังหวะมั่นคง ขณะที่เธอเดินตรงไปหาหลี่เฉินและเจียงซินหยา มือเล็ก ๆ ของบุตรสาวก็กระชับมือของเธอแน่นขึ้น ราวกับกำลังหาที่พึ่งพา ดวงตากลมใสช้อนมองเธออย่างลังเล ก่อนจะหันไปจ้องหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่จื่ออิงขมวดคิ้วเล็กน้อยกับปฏิกิริยานั้น ก้มลงมองสบตาบุตรสาว ดวงตาคู่น้อยสะท้อนความลังเลและอึดอัดอย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่16หญิงสาวผู้มาเยือน

    หลังจากกินมื้อเช้ากันเรียบร้อย ทั้งสามก็เตรียมพร้อมจะออกจากบ้าน ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น ทว่า..."พี่เฉิน พี่เฉินคะ"เสียงเรียกหวานใสของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตูรั้ว ก่อนที่ร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งจะก้าวเข้ามาในลานหน้าบ้านจื่ออิงที่กำลังสวมรองเท้าให้บุตรสาว หันไปมองต้นเสียง เห็นหญิงสาวเรือนร่างระหงในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายสีชมพูหวาน เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ใบหน้าหวานสะอาดสะอ้านดูอ่อนโยน หากแต่แววตากลับเปล่งประกายแฝงความมุ่งหวังบางอย่างเธอคือใครกันจื่ออิงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ขณะมองดูหญิงสาวที่เดินตรงเข้าไปหาหลี่เฉินที่กำลังนำตะกร้าหวายสำหรับใส่ของผูกไว้ด้านหน้าจักรยาน ดวงตาหวานซึ้งคู่นั้นจับจ้องมองตรงไปยังหลี่เฉินเพียงคนเดียว โดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองรอบตัวเลยด้วยซ้ำ ท่าทางของเธอราวกับมีเพียงเขาเท่านั้นในสายตา และท่าทีคุ้นเคยของคนทั้งสองทำให้จื่ออิงอดสงสัยไม่ได้"ดีจังที่พี่ยังไม่ออกไป"เสียงหวานเอ่ยขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความยินดีไม่ปิดบัง"ซินหยา มีอะไรหรือเปล่า ถึงได้มาหาพี่แต่เช้า"หลี่เฉินหยุดมือที่กำลังผูกตะกร้า หันมาถามหญิงสาวผู้มาใหม่ น้

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่15เตรียมตัวไปตลาด

    เมื่อเช้าวันใหม่มาเยือน...แสงแรกของวันยังไม่ทันส่องพ้นขอบฟ้า จื่ออิงก็ลืมตาตื่นขึ้นมา ดวงตากลมโตยังคงมีประกายง่วงงุนเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนมัวแต่คิดวุ่นวายจนดึกดื่น แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น วันนี้เป็นวันที่เธอจะได้ออกไปตลาดในอำเภอ และยังเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ก้าวออกจากบ้าน ออกไปสัมผัสโลกภายนอกที่ไม่คุ้นเคย ไปสัมผัสโลกใบใหม่ที่เธอเพิ่งเข้ามาอยู่ มันไม่ใช่แค่ฉากในซีรีส์ ไม่ใช่แค่ภาพจากสารคดี หรือเรื่องราวที่อ่านผ่านตัวหนังสือ แต่เป็นสถานที่จริง ผู้คนจริง ๆ และบรรยากาศของประเทศจีนในปี 1980 จริง ๆ ที่เธอกำลังจะได้เห็นกับตา จื่ออิงพลิกตัวหันไปมองเหยียนเหยียนที่ยังคงนอนหลับปุ๋ย ใบหน้าเล็ก ๆ ซุกอยู่ในผ้าห่ม หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ก่อนจะค่อย ๆ ลุกจากเตียง เพื่อไม่ให้รบกวนหนูน้อยจื่ออิงเดินออกจากห้องอย่างกระฉับกระเฉง และพบว่าหลี่เฉินตื่นก่อนแล้ว ชายหนุ่มเหมือนกำลังยุ่งอยู่กับการทำอะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะไม้กลางห้องโถง "อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ"เสียงหวานใสที่เอ่ยทักทายขึ้นอย่างอารมณ์ดี ทำให้หลี่เฉินที่กำลังง่วนอยู่กับการซ่อมตะกร้าหวายตรงหน้าชะงักไปเล็กน้อย เขาเงยหน้

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่14เงินก้อนโตกับการลงทุน

    จื่ออิงมองคนตัวโตที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างตกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะมายืนอยู่หน้าห้องของเธอในเวลานี้แสงไฟสลัวจากตะเกียงน้ำมันส่องกระทบใบหน้าคมเข้มของหลี่เฉิน ทำให้เธอเห็นแววตาที่อ่านไม่ออกของเขา จื่ออิงกะพริบตาปริบ ๆ มองเขาอย่างฉงน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมายืนอยู่ที่นี่เพราะเหตุใด"มีอะไรหรือคะ" หญิงสาวเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง เสียงของเธอแผ่วเบาเพราะไม่อยากรบกวนเหยียนเหยียนที่เพิ่งหลับไป"คือฉัน...จะออกไปดื่มน้ำ"เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะขยับหลีกทาง หรือเอ่ยสิ่งใดออกมา จื่ออิงจึงบอกจุดประสงค์ของเธอไป เพราะตอนนี้เธอรู้สึกคอแห้งและกระหายน้ำเป็นอย่างมาก หลี่เฉินยังคงยืนเงียบ ไม่ได้ขยับหลีกทางให้เธอในทันที ดวงตาคมกริบทอดมองใบหน้าหญิงสาวด้วยแววตาซับซ้อนราวกับกำลังพิจารณาบางอย่างจื่ออิงรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกประหลาดที่แผ่ออกมาจากตัวเขา เธอขยับตัวเล็กน้อยอย่างอึดอัด ก่อนจะเม้มริมฝีปากแล้วเอ่ยย้ำอีกครั้ง"ฉันจะไปดื่มน้ำค่ะ"เสียงหวานเอ่ยขึ้นแผ่วเบาทว่าชัดเจนในทุกถ้อยคำ หลี่เฉินกะพริบตาเล็กน้อยเหมือนเพิ่งดึงตัวเองกลับมาจากภวังค์ เขาหลุบตาลงมองกล่องเหล็กในมือ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ"ขอโทษที ผมเอานี่มาให้ค

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status