Share

ตอนที่8สกปรกซกมก

last update Last Updated: 2025-07-03 20:35:29

หลังจากที่ปัญหาเรื่องปากท้องได้รับการแก้ไข เมื่อท้องอิ่มความหิวที่บดบังสติก็คลายลง สายตาของจื่ออิงก็ดูจะกระจ่างชัดมากขึ้น ไม่เพียงแค่การมองเห็นเท่านั้น แต่ประสาทสัมผัสอื่น ๆ ก็เริ่มทำงานได้ดีขึ้นเช่นกัน นั่นทำให้เธอเริ่มสังเกตเห็นและรับรู้ถึงสภาพของตัวเอง

เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ทั้งเก่าและขาดรุ่ย เนื้อผ้าแห้งกระด้าง หลวมโพรกทั้งยังเกรอะกรัง เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสกปรก นอกจากสภาพเสื้อผ้าที่ไม่น่ามองแล้ว มือและเท้าของเธอก็ไม่ต่างกัน เล็บมือเล็บเท้ายาวเฟี้ยว ซอกเล็บดำปี๋ ฝ่ามือและฝ่าเท้าเต็มไปด้วยคราบสกปรกที่เกาะติดแน่น ราวกับไม่ได้ถูกล้างและแตะต้องน้ำมาเป็นเวลานาน และยังมีความรู้สึกเหนียวเหนอะจากเหงื่อที่เกาะอยู่ตามผิวหนัง

ก่อนหน้านี้จื่ออิงแทบไม่มีแรงคิดถึงสิ่งเหล่านี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างค่อย ๆ ประจักษ์ชัดขึ้น เมื่อกลิ่นอับชื้นบางอย่างลอยขึ้นแตะจมูก จื่ออิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะลองขยับตัวอีกครั้ง และทันทีที่ขยับตัว กลิ่นนั้นก็ตีจมูกขึ้นมาแรงกว่าเดิม

“อี๋… นี่มัน… กลิ่นของฉันเหรอ”

จื่ออิงเบิกตากว้าง ก่อนจะร้องอี๋ออกมาเบา ๆ ด้วยความตกใจทั้งรังเกียจ เหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผมและลำคอ ไหลรวมเข้ากับคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะติดตามร่างกายจนกลายเป็นเม็ดเหงื่อสีน้ำตาลหม่นดูซกมก ชวนให้ขนลุกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

จื่ออิงกะพริบตาปริบ ๆ มองสภาพของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะยกแขนขึ้นดมใต้รักแร้ แล้วก็แทบจะอาเจียน ถอยหนีจากซอกแขนตัวเอง

"ไม่ไหวแล้ว… ฉันคงต้องอาบน้ำเดี๋ยวนี้"

จื่ออิงเม้มปากแน่น เพิ่งรู้สึกตัวว่าร่างกายของตัวเองสกปรกและเหนียวเหนอะหนะขนาดไหน ฝุ่นสีคล้ำจับตัวเป็นคราบอยู่ตามข้อพับ ซอกแขน ซอกขา และข้อมือ ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างนี้ไม่ได้อาบน้ำมากี่ชาติแล้วกันแน่ ต่อให้เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าเจ้าของร่างเป็นคนสติไม่ดี แต่นี่มันเกินจะรับไหว

และที่แย่ที่สุดคือกลิ่นเหงื่อที่ผสมกับสิ่งสกปรกที่หมักหมมมานาน กลิ่นนี่มัน...

"โอ๊ย นี่มันสกปรกเกินไปแล้ว"

จื่ออิงรีบลุกขึ้นแล้วเดินกลับห้องนอนที่คาดว่าคงจะเป็นห้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว เธอจะต้องอาบน้ำเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีแรงจะทำอะไรต่อแน่ๆ

หญิงสาวหอบเสื้อผ้าชุดใหม่ที่คิดว่าสภาพดีที่สุดออกมาจากห้อง ก้าวตรงไปยังห้องอาบน้ำขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ติดกับลานซักล้าง ซึ่งเป็นเพียงพื้นที่ที่ก่อด้วยอิฐง่ายๆ ไม่มีอะไรหรูหราหรือสะดวกสบายเหมือนห้องอาบน้ำในยุคที่เธอจากมา มีถังไม้ขนาดกลางใบหนึ่งวางอยู่ตรงมุมห้อง ข้างๆ กันเป็นกะละมังใบเก่ากับกระบวยไม้สำหรับตักน้ำ เยื้องออกไปประมาณสองเมตรห่างออกไปจากตัวบ้านเป็นห้องขนาดเล็กกว่า ห้องนั้นคงจะเป็นห้องส้วม

จื่ออิงเดินไปเปิดฝาโอ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ไอเย็นของน้ำกระทบผิวจนขนลุกซู่ แม้จะดูใสสะอาดพอใช้ได้ แต่ก็เย็นเฉียบจนชวนให้ลังเล

แต่ความสกปรกในตอนนี้ทำให้ไม่มีทางเลือกมากนัก จึงค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าที่ยังคงเปียกชื้นและเต็มไปด้วยคราบสกปรกออก กลิ่นอับหมักหมมทำให้เธอนิ่วหน้า พอเห็นเนื้อตัวของตัวเองที่เต็มไปด้วยคราบไคลก็ถึงกับถอนหายใจ

“ซกมกจริงๆ”

หญิงสาวบ่นกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจใช้กระบวยตักน้ำขึ้นมาราดใส่ตัวทันที

ซ่า!

ความเย็นจัดของน้ำทำให้หญิงสาวสะดุ้งเฮือก สองแขนโอบกอดตัวเองโดยอัตโนมัติ มือทั้งสองข้างลูบแขนอย่างช่วยไม่ได้ ขนอ่อนลุกชันไปทั่วร่าง นี่ขนาดเป็นช่วงใกล้เที่ยงน้ำยังเย็นขนาดนี้ ถ้าเป็นตอนกลางคืนเธอคงแข็งตายแน่ๆ

จื่ออิงสูดหายใจลึก พยายามตั้งสติแล้วใช้มือวักน้ำขึ้นมาลูบไล้ใบหน้า ล้างคราบเหงื่อที่เหนียวเหนอะออกไป จากนั้นก็เริ่มใช้สบู่ก้อน อืม ที่เหลือก้อนขี้ปะติ๋ว ขัดถูตามตัว กลิ่นสบู่จางๆ ลอยเข้าจมูก เป็นกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย คงจะเป็นสบู่ที่ทำมาจากไขมันสัตว์หรือพืช ผสมกับด่างอย่างโซดาไฟ เพราะมันไม่ได้มีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนที่เธอเคยใช้ ตอนถูจะรู้สึกถึงความฝืดเล็กน้อยแต่กลับให้ความรู้สึกสะอาดอย่างเป็นธรรมชาติ

คราบฝุ่นและเหงื่อไคลถูกล้างออกไปตามสายน้ำที่ไหลลงสู่พื้น แม้จะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองสกปรกมากแค่ไหน แต่พอเห็นคราบสีคล้ำๆ ไหลลงไปกับน้ำที่ราดผ่านตัวเอง เธอถึงกับขนลุกขนพอง

หญิงสาวใช้สบู่ถูแขนและขาแรงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณซอกคอและข้อพับที่มีคราบหมักหมม ฝ่ามือขัดไปจนผิวเริ่มขึ้นสีแดงจางๆ ถึงแม้จะรู้สึกแสบเล็กน้อย แต่ก็อยากให้ร่างกายสะอาด

เมื่อมั่นใจว่าคราบสกปรกถูกชะล้างออกหมดแล้ว หญิงสาวก็รีบตักน้ำขึ้นมาราดตัวซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นปล่อยให้น้ำเย็นไหลผ่านผิวกาย ความเหนียวเหนอะที่เคยเกาะติดอยู่ก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยความสะอาดสดชื่น สบู่ที่เหลือก้อนเล็กๆ ถูกเธอนำมาใช้สระผมจนตอนนี้อันตรธานหายไปหมดแล้ว

จื่ออิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ รู้สึกสบายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากได้ชำระล้างคราบสกปรกที่เกาะติดมานาน ก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้รับชีวิตใหม่ ความอ่อนล้าที่สะสมถูกชะล้างออกไปพร้อมกับสายน้ำ ตอนนี้ผิวของเธอดูสะอาดขึ้นมาก จากที่เคยเต็มไปด้วยคราบฝุ่นและเหงื่อเหนียวเหนอะ ผิวพรรณที่เคยกระดำกระด่างตอนนี้เรียบเนียนขึ้น แม้จะยังไม่ได้ขาวผ่องเป็นยองใย แต่ก็ดูขาวใสขึ้นจนสังเกตได้

เธอยกแขนขึ้นพลิกดูผิวของตัวเองอย่างพิจารณา แม้ยังมีร่องรอยของความแห้งกร้านอยู่บ้าง แต่หากได้รับการดูแลที่ดีอย่างต่อเนื่อง เธอเชื่อว่าผิวของเธอคงจะเนียนนุ่มและเปล่งปลั่งกว่านี้แน่นอน เพราะสังเกตดูแล้วเมื่อก่อนร่างนี้คงเป็นคนที่สุขภาพผิวดีและขาวมาก

เธอหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ปล่อยให้ไอเย็นของน้ำที่ยังหลงเหลืออยู่บนผิวมอบความสดชื่นให้ ก่อนจะลืมตาขึ้นพร้อมกับความรู้สึกมั่นใจขึ้นกว่าเดิม

หลังจากเช็ดตัวจนแห้งสนิท จื่ออิงก็หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ขึ้นมาสวม เนื้อผ้าฝ้ายหยาบกระด้างให้สัมผัสที่แตกต่างจากเสื้อผ้าอ่อนนุ่มเบาสบายที่เธอเคยสวมใส่ในชีวิตก่อน แม้ว่ามันจะไม่ได้นุ่มสบาย แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด 

จื่ออิงรวบผมขึ้นเป็นมวยสูง ปอยผมบางส่วนตกลงมาคลอเคลียต้นคอ เส้นผมที่ยังเปียกชื้นทำให้มีหยดน้ำไหลรินลงมาตามลำคอเย็นวูบ เธอใช้มือปัดมันออกลวก ๆ ก่อนจะยืดแขนขึ้นสูดหายใจเข้าลึก ๆ

“อ่า… รู้สึกสบายตัวจริง ๆ”

หญิงสาวพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง เดินออกจากห้องอาบน้ำไปด้วยความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย ทุกย่างก้าวรู้สึกเบาสบายขึ้น ราวกับว่าตอนนี้เธอพร้อมจะเผชิญหน้ากับชีวิตใหม่อย่างเต็มที่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่21สำรวจตลาด

    หลังจากจัดของเรียบร้อย หลี่เฉินก็อุ้มเหยียนเหยียนขึ้นนั่งที่เบาะหน้าของจักรยาน ก่อนจะหันมาสวมหมวกให้จื่ออิงอย่างใส่ใจ "สวมเอาไว้"แม้ว่าจะเลยเวลาเที่ยงไปมากแล้ว แต่แดดก็ยังแรงอยู่ เขาใช้มือปรับมุมหมวกของเธอให้อยู่ในตำแหน่งที่ช่วยบังแดดได้ดีขึ้น"ขอบคุณค่ะ"จื่ออิงเงยหน้ามองเขา ก่อนจะเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มเธอก้าวขึ้นซ้อนท้ายจักรยาน พลางจับเอวเขาเอาไว้หลวม ๆ"เราจะไปห้างกันเลยไหมคะ" จื่ออิงเอ่ยถามเสียงใสหลี่เฉินยิ้มให้เธอ ก่อนจะพยักหน้ารับ"อืม ไปกันเถอะ"จากนั้นจักรยานคันโตจึงเคลื่อนตัวออกจากตลาด มุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้า ระหว่างทางไปห้างสรรพสินค้า จื่ออิงมองซ้ายมองขวาอย่างสนอกสนใจ เพราะเธออยากจะสำรวจตลาดคร่าวๆ สำหรับกิจการที่คิดจะทำในอนาคตเขตอำเภอแห่งนี้แม้จะไม่ได้ใหญ่โตหรูหราแบบเมืองหลวง แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคสมัย อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นตึกเตี้ย ๆ สีสันเรียบง่าย ร้านค้าบางร้านตกแต่งด้วยป้ายไม้เก่าที่มีตัวอักษรจีนพู่กันเขียนกำกับไว้ ดูขลังและคลาสสิก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ที่กำลังค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปสู่ความทันสมัยสองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่าง

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่20เที่ยวชมตลาด

    ในที่สุด จักรยานคันโตก็ค่อย ๆ แล่นเข้าสู่เขตอำเภอจากเส้นทางลูกรังอันเงียบสงบ ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นถนนที่เริ่มมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้น เสียงพูดคุยจอแจของผู้คนในตลาดดังแว่วมาแต่ไกล กลิ่นหอมของอาหารลอยมาตามสายลม จื่ออิงเบิกตากว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับเหยียนเหยียนที่นั่งอยู่ด้านหน้า"เหยียนเหยียน ถึงแล้วจ้ะ ดูสิ ตลาดคึกคักมากเลย"แม้ว่าหนูน้อยจะพูดตอบกลับมาไม่ได้ แต่ดวงตากลมใสของเธอก็จับจ้องไปยังผู้คนและสิ่งรอบตัวด้วยความสนใจ ถึงแม้ว่าเธอจะมาตลาดกับคนเป็นพ่อบ้างแต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก ทุกครั้งที่มาก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้หลี่เฉินเหลือบมองจื่ออิงผ่านหางตา เห็นใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้ว เขาก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้จักรยานยังคงเคลื่อนไปข้างหน้า ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของตลาดยามเช้า ผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา และกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา"เราลงไปเดินซื้อของกันเถอะ"หลี่เฉินพูดขึ้น ก่อนจะพาจักรยานเข้าไปจอดยังลานจอดที่จัดไว้สำหรับรถจักรยานโดยเฉพาะ เขาลงจากจักรยานอย่างคล่องแคล่ว แล้วหันไปอุ้มเหยียนเหยียนลงมาจื่ออิงหันไปจัดเสื้อผ้าของหนูน้อยให้เข้าที่

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่19ปรับความเข้าใจ

    ท่ามความบรรยากาศที่สงบเงียบ รอบกายเต็มไปด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย เสียงทุ้มของหลี่เฉินก็ดังขึ้นแผ่วเบา ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน"อาอิง คุณรู้ตัวหรือเปล่า ว่าคุณดูเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน"จื่ออิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง ๆ ดวงตาคู่งามละสายตาจากภาพทิวทัศน์สองข้างทาง ทอดมองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้า หัวใจของเธอเต้นแรงกับคำพูดนั้น เธอรู้ดีว่าเธอเปลี่ยนไปจริง ๆ เพราะเธอไม่ใช่ ‘หลินจื่ออิง’ คนนั้นเธอคิดว่า ในเมื่อตอนนี้เธอคือหลินจื่ออิงแล้ว เธอก็ควรทำให้ทุกอย่างมันถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น ในเมื่อเขาเปิดใจมาเช่นนี้แล้ว เธอเองก็ควรเปิดใจกับเขาอย่างตรงไปตรงมา และหลังจากนี้ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร เธอก็จะขอน้อมรับทุกประการ ถือว่าเคลียร์ใจกันไปเลย"ฉันไม่ได้เปลี่ยนไปหรอกค่ะ"จื่ออิงตอบเสียงเบา ทว่าหนักแน่น"ฉันแค่คิดได้ คิดได้ว่าต่อจากนี้ ฉันจะไม่เดินซ้ำรอยเดิม จะไม่เป็นผู้หญิงที่ยึดติด ฉันควรจะเข้มแข็งด้วยตัวเอง และไม่บีบบังคับใจใครอีก ฉัน รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำก็เท่านั้น"เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง"ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อคุณ ฉันขอโทษนะคะ"

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่18เส้นทางไปตลาด

    "เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว เราคงต้องขอตัวก่อน ต้องขอโทษด้วยนะซินหยา วันนี้พี่ต้องพาภรรยาไปซื้อของ"หลี่เฉินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น คล้ายต้องการยุติการสนทนาไว้เพียงเท่านี้ และเขาก็ได้รับรอยยิ้มหวานเชื่อมจากภรรยาทันทีที่เอ่ยจบ รอยยิ้มนั้นงดงามราวกับดอกไม้ผลิบานยามเช้า ดึงดูดสายตาจนเขาเผลอจ้องมองอยู่ชั่วขณะ ราวกับเพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มนี้เป็นครั้งแรกความอ่อนหวานที่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจและพึงพอใจบนใบหน้า ทำให้เขาอดตกตะลึงไม่ได้เจียงซินหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เธอคลี่ยิ้มบางๆ เก็บซ่อนความผิดหวังและไม่พอใจเอาไว้มิดชิด"อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันผิดเองที่ไม่ได้ถามพี่ก่อน คิดว่า... จะเหมือนกับทุกที"ประโยคสุดท้ายของเจียงซินหยาแผ่วเบา ราวกับเป็นเพียงคำพึมพำที่ไม่ได้คาดหวังให้ใครได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้น จื่ออิงก็ได้ยินมันอย่างชัดเจนเธอเพียงแค่ยืนเงียบ ๆ มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสุขุม ราวกับเข้าใจความหมายของคำพูดนั้นดี แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไปแม่นางเอกของนักเขียนคนนี้มีครบจบในที่เดียวจริงๆ เพราะนอกจากจะเป็นแม่ดอกบัวขาว เป็นเสี่ยวซานแล้ว ยังเป็นแม่ชาเขียว หรือที่มักเรีย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่17ทำความรู้จักกับนางเอกในนิยาย

    เจียงซินหยาที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลี่เฉิน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่ม แล้วต้องชะงักไปเธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่กับหลี่เฉินเพียงลำพังรอยยิ้มอ่อนหวานที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าค่อย ๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ภายในบ้านของเขาผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นใครกันและดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เธอสงสัยนาน เพราะในตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอหลินจื่ออิงรู้ตัวดีว่าตัวเองกลายเป็นจุดสนใจของผู้มาเยือน และในฐานะเจ้าของบ้าน การเมินเฉยต่อแขกคงไม่ใช่เรื่องสมควรและเป็นการเสียมารยาท เธอจึงหันไปจูงมือบุตรสาวตัวน้อยที่กำลังหันมองคนนั้นที คนนี้ทีด้วยดวงตาใสแจ๋ว พาเดินเข้าไปหาทั้งสองคนฝีเท้าของจื่ออิงก้าวเป็นจังหวะมั่นคง ขณะที่เธอเดินตรงไปหาหลี่เฉินและเจียงซินหยา มือเล็ก ๆ ของบุตรสาวก็กระชับมือของเธอแน่นขึ้น ราวกับกำลังหาที่พึ่งพา ดวงตากลมใสช้อนมองเธออย่างลังเล ก่อนจะหันไปจ้องหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่จื่ออิงขมวดคิ้วเล็กน้อยกับปฏิกิริยานั้น ก้มลงมองสบตาบุตรสาว ดวงตาคู่น้อยสะท้อนความลังเลและอึดอัดอย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่16หญิงสาวผู้มาเยือน

    หลังจากกินมื้อเช้ากันเรียบร้อย ทั้งสามก็เตรียมพร้อมจะออกจากบ้าน ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น ทว่า..."พี่เฉิน พี่เฉินคะ"เสียงเรียกหวานใสของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตูรั้ว ก่อนที่ร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งจะก้าวเข้ามาในลานหน้าบ้านจื่ออิงที่กำลังสวมรองเท้าให้บุตรสาว หันไปมองต้นเสียง เห็นหญิงสาวเรือนร่างระหงในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายสีชมพูหวาน เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ใบหน้าหวานสะอาดสะอ้านดูอ่อนโยน หากแต่แววตากลับเปล่งประกายแฝงความมุ่งหวังบางอย่างเธอคือใครกันจื่ออิงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ขณะมองดูหญิงสาวที่เดินตรงเข้าไปหาหลี่เฉินที่กำลังนำตะกร้าหวายสำหรับใส่ของผูกไว้ด้านหน้าจักรยาน ดวงตาหวานซึ้งคู่นั้นจับจ้องมองตรงไปยังหลี่เฉินเพียงคนเดียว โดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองรอบตัวเลยด้วยซ้ำ ท่าทางของเธอราวกับมีเพียงเขาเท่านั้นในสายตา และท่าทีคุ้นเคยของคนทั้งสองทำให้จื่ออิงอดสงสัยไม่ได้"ดีจังที่พี่ยังไม่ออกไป"เสียงหวานเอ่ยขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความยินดีไม่ปิดบัง"ซินหยา มีอะไรหรือเปล่า ถึงได้มาหาพี่แต่เช้า"หลี่เฉินหยุดมือที่กำลังผูกตะกร้า หันมาถามหญิงสาวผู้มาใหม่ น้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status