Share

ตอนที่8สกปรกซกมก

last update Huling Na-update: 2025-07-03 20:35:29

หลังจากที่ปัญหาเรื่องปากท้องได้รับการแก้ไข เมื่อท้องอิ่มความหิวที่บดบังสติก็คลายลง สายตาของจื่ออิงก็ดูจะกระจ่างชัดมากขึ้น ไม่เพียงแค่การมองเห็นเท่านั้น แต่ประสาทสัมผัสอื่น ๆ ก็เริ่มทำงานได้ดีขึ้นเช่นกัน นั่นทำให้เธอเริ่มสังเกตเห็นและรับรู้ถึงสภาพของตัวเอง

เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ทั้งเก่าและขาดรุ่ย เนื้อผ้าแห้งกระด้าง หลวมโพรกทั้งยังเกรอะกรัง เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสกปรก นอกจากสภาพเสื้อผ้าที่ไม่น่ามองแล้ว มือและเท้าของเธอก็ไม่ต่างกัน เล็บมือเล็บเท้ายาวเฟี้ยว ซอกเล็บดำปี๋ ฝ่ามือและฝ่าเท้าเต็มไปด้วยคราบสกปรกที่เกาะติดแน่น ราวกับไม่ได้ถูกล้างและแตะต้องน้ำมาเป็นเวลานาน และยังมีความรู้สึกเหนียวเหนอะจากเหงื่อที่เกาะอยู่ตามผิวหนัง

ก่อนหน้านี้จื่ออิงแทบไม่มีแรงคิดถึงสิ่งเหล่านี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างค่อย ๆ ประจักษ์ชัดขึ้น เมื่อกลิ่นอับชื้นบางอย่างลอยขึ้นแตะจมูก จื่ออิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะลองขยับตัวอีกครั้ง และทันทีที่ขยับตัว กลิ่นนั้นก็ตีจมูกขึ้นมาแรงกว่าเดิม

“อี๋… นี่มัน… กลิ่นของฉันเหรอ”

จื่ออิงเบิกตากว้าง ก่อนจะร้องอี๋ออกมาเบา ๆ ด้วยความตกใจทั้งรังเกียจ เหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผมและลำคอ ไหลรวมเข้ากับคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะติดตามร่างกายจนกลายเป็นเม็ดเหงื่อสีน้ำตาลหม่นดูซกมก ชวนให้ขนลุกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

จื่ออิงกะพริบตาปริบ ๆ มองสภาพของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะยกแขนขึ้นดมใต้รักแร้ แล้วก็แทบจะอาเจียน ถอยหนีจากซอกแขนตัวเอง

"ไม่ไหวแล้ว… ฉันคงต้องอาบน้ำเดี๋ยวนี้"

จื่ออิงเม้มปากแน่น เพิ่งรู้สึกตัวว่าร่างกายของตัวเองสกปรกและเหนียวเหนอะหนะขนาดไหน ฝุ่นสีคล้ำจับตัวเป็นคราบอยู่ตามข้อพับ ซอกแขน ซอกขา และข้อมือ ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างนี้ไม่ได้อาบน้ำมากี่ชาติแล้วกันแน่ ต่อให้เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าเจ้าของร่างเป็นคนสติไม่ดี แต่นี่มันเกินจะรับไหว

และที่แย่ที่สุดคือกลิ่นเหงื่อที่ผสมกับสิ่งสกปรกที่หมักหมมมานาน กลิ่นนี่มัน...

"โอ๊ย นี่มันสกปรกเกินไปแล้ว"

จื่ออิงรีบลุกขึ้นแล้วเดินกลับห้องนอนที่คาดว่าคงจะเป็นห้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว เธอจะต้องอาบน้ำเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีแรงจะทำอะไรต่อแน่ๆ

หญิงสาวหอบเสื้อผ้าชุดใหม่ที่คิดว่าสภาพดีที่สุดออกมาจากห้อง ก้าวตรงไปยังห้องอาบน้ำขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ติดกับลานซักล้าง ซึ่งเป็นเพียงพื้นที่ที่ก่อด้วยอิฐง่ายๆ ไม่มีอะไรหรูหราหรือสะดวกสบายเหมือนห้องอาบน้ำในยุคที่เธอจากมา มีถังไม้ขนาดกลางใบหนึ่งวางอยู่ตรงมุมห้อง ข้างๆ กันเป็นกะละมังใบเก่ากับกระบวยไม้สำหรับตักน้ำ เยื้องออกไปประมาณสองเมตรห่างออกไปจากตัวบ้านเป็นห้องขนาดเล็กกว่า ห้องนั้นคงจะเป็นห้องส้วม

จื่ออิงเดินไปเปิดฝาโอ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ไอเย็นของน้ำกระทบผิวจนขนลุกซู่ แม้จะดูใสสะอาดพอใช้ได้ แต่ก็เย็นเฉียบจนชวนให้ลังเล

แต่ความสกปรกในตอนนี้ทำให้ไม่มีทางเลือกมากนัก จึงค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าที่ยังคงเปียกชื้นและเต็มไปด้วยคราบสกปรกออก กลิ่นอับหมักหมมทำให้เธอนิ่วหน้า พอเห็นเนื้อตัวของตัวเองที่เต็มไปด้วยคราบไคลก็ถึงกับถอนหายใจ

“ซกมกจริงๆ”

หญิงสาวบ่นกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจใช้กระบวยตักน้ำขึ้นมาราดใส่ตัวทันที

ซ่า!

ความเย็นจัดของน้ำทำให้หญิงสาวสะดุ้งเฮือก สองแขนโอบกอดตัวเองโดยอัตโนมัติ มือทั้งสองข้างลูบแขนอย่างช่วยไม่ได้ ขนอ่อนลุกชันไปทั่วร่าง นี่ขนาดเป็นช่วงใกล้เที่ยงน้ำยังเย็นขนาดนี้ ถ้าเป็นตอนกลางคืนเธอคงแข็งตายแน่ๆ

จื่ออิงสูดหายใจลึก พยายามตั้งสติแล้วใช้มือวักน้ำขึ้นมาลูบไล้ใบหน้า ล้างคราบเหงื่อที่เหนียวเหนอะออกไป จากนั้นก็เริ่มใช้สบู่ก้อน อืม ที่เหลือก้อนขี้ปะติ๋ว ขัดถูตามตัว กลิ่นสบู่จางๆ ลอยเข้าจมูก เป็นกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย คงจะเป็นสบู่ที่ทำมาจากไขมันสัตว์หรือพืช ผสมกับด่างอย่างโซดาไฟ เพราะมันไม่ได้มีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนที่เธอเคยใช้ ตอนถูจะรู้สึกถึงความฝืดเล็กน้อยแต่กลับให้ความรู้สึกสะอาดอย่างเป็นธรรมชาติ

คราบฝุ่นและเหงื่อไคลถูกล้างออกไปตามสายน้ำที่ไหลลงสู่พื้น แม้จะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองสกปรกมากแค่ไหน แต่พอเห็นคราบสีคล้ำๆ ไหลลงไปกับน้ำที่ราดผ่านตัวเอง เธอถึงกับขนลุกขนพอง

หญิงสาวใช้สบู่ถูแขนและขาแรงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณซอกคอและข้อพับที่มีคราบหมักหมม ฝ่ามือขัดไปจนผิวเริ่มขึ้นสีแดงจางๆ ถึงแม้จะรู้สึกแสบเล็กน้อย แต่ก็อยากให้ร่างกายสะอาด

เมื่อมั่นใจว่าคราบสกปรกถูกชะล้างออกหมดแล้ว หญิงสาวก็รีบตักน้ำขึ้นมาราดตัวซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นปล่อยให้น้ำเย็นไหลผ่านผิวกาย ความเหนียวเหนอะที่เคยเกาะติดอยู่ก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยความสะอาดสดชื่น สบู่ที่เหลือก้อนเล็กๆ ถูกเธอนำมาใช้สระผมจนตอนนี้อันตรธานหายไปหมดแล้ว

จื่ออิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ รู้สึกสบายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากได้ชำระล้างคราบสกปรกที่เกาะติดมานาน ก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้รับชีวิตใหม่ ความอ่อนล้าที่สะสมถูกชะล้างออกไปพร้อมกับสายน้ำ ตอนนี้ผิวของเธอดูสะอาดขึ้นมาก จากที่เคยเต็มไปด้วยคราบฝุ่นและเหงื่อเหนียวเหนอะ ผิวพรรณที่เคยกระดำกระด่างตอนนี้เรียบเนียนขึ้น แม้จะยังไม่ได้ขาวผ่องเป็นยองใย แต่ก็ดูขาวใสขึ้นจนสังเกตได้

เธอยกแขนขึ้นพลิกดูผิวของตัวเองอย่างพิจารณา แม้ยังมีร่องรอยของความแห้งกร้านอยู่บ้าง แต่หากได้รับการดูแลที่ดีอย่างต่อเนื่อง เธอเชื่อว่าผิวของเธอคงจะเนียนนุ่มและเปล่งปลั่งกว่านี้แน่นอน เพราะสังเกตดูแล้วเมื่อก่อนร่างนี้คงเป็นคนที่สุขภาพผิวดีและขาวมาก

เธอหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ปล่อยให้ไอเย็นของน้ำที่ยังหลงเหลืออยู่บนผิวมอบความสดชื่นให้ ก่อนจะลืมตาขึ้นพร้อมกับความรู้สึกมั่นใจขึ้นกว่าเดิม

หลังจากเช็ดตัวจนแห้งสนิท จื่ออิงก็หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ขึ้นมาสวม เนื้อผ้าฝ้ายหยาบกระด้างให้สัมผัสที่แตกต่างจากเสื้อผ้าอ่อนนุ่มเบาสบายที่เธอเคยสวมใส่ในชีวิตก่อน แม้ว่ามันจะไม่ได้นุ่มสบาย แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด 

จื่ออิงรวบผมขึ้นเป็นมวยสูง ปอยผมบางส่วนตกลงมาคลอเคลียต้นคอ เส้นผมที่ยังเปียกชื้นทำให้มีหยดน้ำไหลรินลงมาตามลำคอเย็นวูบ เธอใช้มือปัดมันออกลวก ๆ ก่อนจะยืดแขนขึ้นสูดหายใจเข้าลึก ๆ

“อ่า… รู้สึกสบายตัวจริง ๆ”

หญิงสาวพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง เดินออกจากห้องอาบน้ำไปด้วยความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย ทุกย่างก้าวรู้สึกเบาสบายขึ้น ราวกับว่าตอนนี้เธอพร้อมจะเผชิญหน้ากับชีวิตใหม่อย่างเต็มที่

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่52 บทส่งท้าย

    ฤดูใบไม้ผลิวนเวียนกลับมาอีกครั้ง ต้นไผ่ข้างบ้านผลิหน่อใหม่สูงเรียงราย ลู่ลมเบาๆ เหมือนกำลังเต้นรำตามเสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่วิ่งเล่นอยู่หน้าบ้านเหยียนเหยียนโตขึ้นมากแล้ว วันนี้เธอสวมชุดนักเรียนชั้นประถมหนึ่ง ใบหน้าที่เคยกลมป้อมตอนเล็กๆ เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสาวน้อยท่าทางฉลาด ช่างคิด ช่างฝันและข้างกายเธอ คือเจ้าตัวเล็กที่เพิ่งหัดเดิน เด็กชายตัวกลมอารมณ์ดีที่กำลังยิ้มแฉ่ง ส่งเสียงอ้อแอ้อยู่ในอ้อมแขนของมารดาหลี่ซื่อหาน เด็กชายวัยขวบกว่า ผู้เป็นที่รักของทุกคน เจ้าซาลาเปาน้อยของบ้าน หรือเสี่ยวหานหาน ของพี่สาวเหยียนเหยียนภาพของทั้งสองพี่น้องที่อยู่เคียงกันท่ามกลางแสงแดดอ่อนของยามบ่าย ราวกับภาพวาดแสนอบอุ่นที่ไม่มีคำบรรยายใดจะเทียบได้จื่ออิงเข้าสู่บทบาทภรรยาและคุณแม่อย่างเต็มตัว เธอกลายเป็นหัวใจหลักของบ้าน เป็นคนที่ดูแลทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ภายในบ้าน ตอนเช้า เธอจะลุกขึ้นก่อนใคร เตรียมอาหารเช้าให้สามีและลูกๆ พร้อมเสียงปลุกอ่อนโยนที่ทำให้บ้านทั้งหลังเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใสช่วงกลางวัน เธอมักใช้เวลาอยู่กับเจ้าตัวเล็ก เสี่ยวหานหาน ที่กำลังอยู่ในวัยซน ชอบยิ้ม ชอบหัวเราะ และชอบเกาะเธอไม่ห่

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่51จบบริบูรณ์

    วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีตามปฏิทินจันทรคติ หอร้อยรส ปิดให้บริการเป็นเวลาสามวัน เพื่อให้ทุกคนได้เฉลิมฉลองและใช้เวลาร่วมกับครอบครัว จื่ออิงยืนอยู่หน้าบ้าน มือประคองถ้วยน้ำเต้าหู้อุ่นๆ เอาไว้ ใบหน้าของเธอรับแสงแดดยามเย็นที่นุ่มนวล ลมหนาวต้นปีพัดแผ่วเบาผ่านปลายผม พาเอากลิ่นหอมของขนมปีใหม่ลอยโชยมาแตะจมูก ปีนี้ นับว่าเป็นปีใหม่ปีแรกที่เธอได้ฉลองกับครอบครัวของตัวเองในชีวิตนี้บ้านเรือนทั่วหมู่บ้านต่างตกแต่งด้วยสีแดงสดใส โคมแดงถูกแขวนเรียงรายไหวแกว่งตามแรงลม ผ้าสีแดงผืนยาวห้อยประดับอยู่เหนือประตู ข้างฝาผนังมีคำอวยพรปีใหม่เขียนด้วยพู่กันจีนสีดำอย่างประณีตบนกระดาษแดงสดคำว่า "ซินเหนียนไคว่เล่อ" และ "เจ้าไฉจิ้นเป้า" แขวนไว้เป็นสิริมงคล สื่อถึงความหวังและความมั่งมีในปีที่กำลังเริ่มต้นกลิ่นธูปหอมจากโต๊ะบูชาประจำบ้านและกลิ่นขนมหวานแบบดั้งเดิมลอยคลุ้งในอากาศ เสียงประทัดดังเปรี้ยงปร้างเป็นระยะ สร้างความคึกคักไปทั่วทั้งหมู่บ้าน แทรกด้วยเสียงหัวเราะสดใสของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ตามท้องถนน พวกเขาวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน มือเล็กๆ ถือซองแดงคนละใบ ดวงตาเป็นประกายด้วยความสุขและตื่นเต้นบรรยากาศในวันนี้อบอวลไปด

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่50คำตอบเดียว

    เช้าวันถัดมา ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอก ลมยามเช้าเย็นสบายพัดเอื่อยเข้ามาในลานหน้าร้าน กลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้จากกระถางริมทางลอยปะปนมากับสายลม เสียงใบไม้เสียดสีกันแผ่วเบา ช่วยกลบความเงียบที่ก่อตัวขึ้นเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่เจียงซินหยาแต่งกายงดงามอย่างที่เคยเป็นยืนอยู่ใต้เงาไม้ ใบหน้าแต่งแต้มอย่างประณีต ท่าทางน่ารักสดใสสมกับภาพลักษณ์ของเธอเสมอมา ใบหน้าดูบริสุทธิ์ผ่องใส แต่แววตากลับซ่อนความหวังเอาไว้อย่างชัดเจน เธอยืนรออยู่เพียงไม่กี่อึดใจ หลี่เฉินก็เดินออกมาจากด้านในร้านชายหนุ่มหยุดยืนตรงหน้าเธอ สีหน้าสงบ ดวงตาแน่วแน่"ซินหยา"หลี่เฉินเอ่ยเรียกขึ้นก่อน น้ำเสียงราบเรียบแต่ชัดเจน"ฉันมาเอาคำตอบจากพี่ค่ะ"เจียงซินหยาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ดวงตาจับจ้องอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาไม่วางตา"พี่จะเข้าสอบเกาเข่าใช่ไหมคะ ตอนนี้ยังทัน ถ้าพี่รีบตัดสินใจ"เสียงของเธอนุ่มนวล ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความคาดหวังที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนหลี่เฉินเงียบไปเพียงครู่หนึ่ง สายตาเขานิ่งสงบก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ"ฉันตัดสินใจแล้ว"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่มั่นคง"ฉันจะไม่เข้าสอบ"เจียงซินหยาเลิกคิ้วเล็กน้อย ความประหลาดใจแฝงอย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่49เขาได้เลือกแล้ว

    นับจากวันนั้น จื่ออิงก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องสอบเกาเข่าอีกเลย เธอเลือกที่จะเงียบ ไม่ใช่เพราะไม่สนใจ แต่เพราะอยากให้หลี่เฉินได้คิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยไม่มีแรงกดดันจากเธอแม้ในใจจะมีความห่วงใยอยู่ลึกๆ แต่เธอก็ซ่อนมันไว้ เธอเชื่อว่า การให้เขาได้ใช้หัวใจตัวเองเลือกทางเดิน คือสิ่งที่ดีที่สุดจื่ออิงยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม ตื่นแต่เช้า เตรียมอาหารให้ลูกและสามี ดูแลร้าน ดูแลบ้าน ทำหน้าที่ของภรรยา แม่ และเจ้าของกิจการเล็กๆ อย่างดีที่สุดแต่หากมองให้ลึกลงไปในแววตาของเธอ จะเห็นความอ่อนโยนแบบใหม่ ความอ่อนโยนที่มาจากการยอมรับ และพร้อมจะเคียงข้างสามี ไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหนก็ตามยามเย็นวันหนึ่ง หลังจากวันอันแสนวุ่นวายและเหนื่อยล้าจบลง แสงสุดท้ายของวันทอดยาวผ่านช่องหน้าต่าง เงาของต้นไผ่ข้างหลังบ้านไหวไกวตามลมหลี่เฉินยืนอยู่หลังบ้านเพียงลำพัง มองภาพท้องฟ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีทองอมส้ม ดวงตาของเขานิ่งสงบ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยเสียงของความคิดมากมายที่กำลังประดังประเดเข้ามาการสอบเกาเข่ากำลังใกล้เข้ามาทุกทีเรื่องนี้วนเวียนอยู่ในใจเขาตลอดหลายวันมานี้ เขาเคยฝันอยากจะเป็นอาจารย์ อยากเรียนต่อ อยากรู้ว่า

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่48เคารพทุกการตัดสินใจ

    แสงแดดยามเช้าค่อยๆ สาดเข้ามาทางหน้าต่าง ลูบไล้ผ่านผ้าม่านบางเบา บนเตียง ผ้าปูเตียงยับย่นจากรอยสัมผัสแห่งความวาบหวามเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา หลี่เฉินลืมตาขึ้นช้าๆ แขนยังโอบภรรยาคนงามเอาไว้แนบอก ร่างเล็กของจื่ออิงซุกตัวอย่างสงบอยู่ในอ้อมกอดของเขา ชายหนุ่มมองดูใบหน้าของภรรยาที่ยังซุกอยู่ตรงอกด้วยแววตาอ่อนโยน พลางยิ้มจางๆ ออกมาอย่างมีความสุขนิ้วมือของเขาเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าผากของภรรยา ก่อนจะก้มลงหอมขมับเธออย่างแผ่วเบา ราวกับไม่อยากให้เธอตื่นจากความสงบสุขนี้จื่ออิงขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตายังคงฉ่ำปรือจากความง่วง ทว่าก็เปล่งประกายอ่อนหวานเมื่อมองเห็นใบหน้าของเขา"ตื่นแล้วเหรอครับ" หลี่เฉินกระซิบถาม น้ำเสียงทุ้มนุ่มเปี่ยมด้วยความอบอุ่นจื่ออิงยิ้มน้อยๆ พลางพยักหน้าเบาๆ เธอช้อนสายตาขึ้นมองเขา ในแววตาของหลี่เฉินเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ลึกซึ้งจนหัวใจเธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกโอบกอดอย่างอ่อนโยนที่สุด"สามีคะ"เธอเรียกเขาเสียงเบาเสียงของเธอเบาและนุ่ม ราวกับกลัวว่าคำพูดจะทำลายความสงบที่รายล้อมอยู่"หืม?" หลี่เฉินขานรับพลางโอบกอดเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย"ขอบคุณนะคะ"เธอพูดแค่น

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่47สัมผัสแห่งรัก

    ค่ำคืนนั้นบรรยากาศในบ้านหลังเล็กเงียบกว่าทุกวัน ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีบทสนทนาเหมือนเคย ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงของความคิดของตัวเอง เต็มไปด้วยความคิดมากมายที่พูดออกมาไม่ได้มีเพียงเสียงหัวเราะของเหยียนเหยียน เมื่อได้ฟังนิทานก่อนนอนดังแว่วมาเป็นระยะจากในห้องนอน เสียงใสๆ นั้นช่วยแต่งแต้มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นขึ้นนิดหน่อย ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงเมื่อเด็กน้อยเข้าสู่นิทราเมื่อส่งบุตรสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้ว จื่ออิงก็ระบายลมหายใจออกมาแผ่วเบา แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความหนักอึ้งที่ไม่อาจระบายออก ได้แต่เดินมานั่งตรงโต๊ะทำงานเล็กๆ หยิบบัญชีของร้านที่ทำค้างเอาไว้ขึ้นมาดูอีกครั้ง ตัวเลขในตารางเดิมๆ ยังอยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เธอก็ไม่อาจจดจ่ออยู่กับมันได้ใจของเธอล่องลอยไปไกล ไปอยู่กับความกังวลที่กำลังถาโถม กับเรื่องที่ไม่มีใครช่วยตอบได้ นอกจากตัวเธอเองหลี่เฉินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกจากห้องน้ำในชุดอยู่บ้านแบบสบายๆ กลิ่นสบู่อ่อนๆ ยังติดอยู่บนผิว เขาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กค่อยๆ ซับเส้นผมที่ยังเปียกน้ำ แต่พอเห็นภรรยานั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน เขาก็หยุดเท้าเอาไว้ยืนมอ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status