เข้าสู่ระบบ“อดๆ อยากๆ ไม่ค่อยกิน แล้วเอาเงินไปทำอะไร” พันกรถามอย่างสงสัย
“บัวเค้ามีความจำเป็นต้องใช้เงินนะเฮีย”
“มีความจำเป็นจนต้องยืมเราด้วยใช่ไหม”
“เฮียรู้เหรอ!” ถามอย่างตกใจ
“รู้สิ ก็เราน่ะขอเงินใครใช้อยู่ล่ะ เรื่องแค่นี้ทำไมเฮียจะไม่รู้”
“บัวไม่ได้ขอนะ พิมพ์ให้บัวเอง บัวมีความจำเป็น”
“จำเป็นๆๆๆ จำเป็นอะไรนักหนา อ้อ... ต้องทันสมัย ซื้อเสื้อผ้าแพงๆ ใส่ใช่ไหม เผื่อลูกผู้ดีมีเงินจะได้สนใจขอไปเป็นเมีย”
“เฮีย! มันจะมากไปแล้วนะ อย่าตัดสินคนอื่นแค่ภายนอกสิ”
บัวบูชาแต่งตัวธรรมดามากๆ เน้นความสะอาดสะอ้านเท่านั้น เธออยู่กับบัวบูชาตลอด อยู่ด้วยกันทุกวัน ทำไมจะไม่รู้ว่าเพื่อนเป็นคนประหยัดแค่ไหน แต่เพราะเหตุจำเป็นนั่นแหละ
“เฮียเชื่อในสิ่งที่เฮียเห็น ที่เฮียทนให้เราคบเพื่อนคนนี้อยู่ก็เพราะว่าเรารั้น”
“เฮียจะให้พิมพ์เลิกคบบัวงั้นเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก” พิมพ์นาราแทบเต้น เพราะไม่ชอบให้ใครขัดใจ
“ก็นั่นไง เลยต้องจำใจให้คบ”
เขากลัวน้องจะเอาอย่าง ใครจะทำอะไรก็ทำไป แต่ถ้าให้น้องสาวไปถ่ายแบบชุดวาบหวิวแบบนั้น เขาไม่ยอมจริงๆ ด้วย พอคิดมาถึงตรงนี้ ใจเขาก็กระหวัดไปถึงคนที่อยู่ในหัวข้อสนทนา
..เอาเข้าจริงๆ เขาก็ไม่ชอบให้เพื่อนน้องสาวไปใส่ชุดแบบนั้นถ่ายแบบเหมือนกัน
“เฮียไม่มีเหตุผล”
“เฮียโตแล้ว มีไม่มีเฮียก็ตัดสินใจเองได้”
“ชิ! ไม่ว่ายังไงพิมพ์ก็ไม่เลิกคบกับบัวหรอก”
แกรบ... เสียงเหยียบใบไม้ที่ดังขึ้นทำให้สองพี่น้องหันไปมอง
“บัว!!!” พิมพ์นารารีบพุ่งเข้าใส่เพื่อน เห็นหน้าถอดสีของอีกฝ่ายก็นึกโกรธพี่ชายตัวเองนัก
“บัวแค่จะเดินมาเอาของที่ลืมไว้ ไม่ได้ตั้งใจฟังนะจ๊ะ” บัวบูชารีบบอกเพื่อน ใบหน้าซีดเผือดลงถนัดใจ
พิมพ์นารารู้ได้ทันทีว่าเพื่อนต้องได้ยินบทสนทนาแน่ๆ จึงนึกเคืองพี่ชายเหลือเกิน
“บัวได้ยินที่...”
“บัวไม่ได้ยินอะไรเลยจ้ะ เพิ่งมาเอง ไม่ได้ตั้งใจมาฟังใครพูดอะไรนะ” บัวบูชารีบบอกเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน
“บัวโกหก เพราะเฮียนั่นแหละพูดจาไม่ดี”
“พิมพ์ไม่เอานะ” บัวบูชารีบหยิบบทที่เหลือขึ้นมาถือเอาไว้
“บัวจะไปไหน”
“จะไปท่องบทจ้ะ บัวขอตัวก่อนนะ”
“เดี๋ยวสิบัว”
“ไปเซ้าซี้เค้าอยู่ได้ เค้าไม่อยากให้ตามไปไม่ใช่เหรอ”
“เพราะเฮียนั่นแหละพูดจาร้ายๆ ว่าบัวตลอด บัวก็แสนดีไม่เคยโต้ตอบเลย”
“คนที่ไม่เคยโต้ตอบคือคนแสนดีเหรอไง ไม่เคยได้ยิน” แม้ในใจจะรู้สึกไม่ปกติเมื่อได้สบตาและเห็นสีหน้าของเพื่อนน้องสาว แต่เขาพยายามปัดมันออกไป
..เขารู้สึกผิด!!!
พันกรบอกตัวเองอย่างตกใจ
“ทั้งแสนดีและจิตใจดีด้วย ไม่ถือสาหาความคนปากร้ายๆ แถวนี้ น่าแช่งไม่ให้มีเมียซะเลย” พิมพ์นาราไม่ยอมลดราวาศอก
..ก็พี่ชายเธอพูดเกินไปจริงๆ นี่นา ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไรเพื่อนเธอหนักหนา
“ไม่มีก็ดีแล้ว ไม่อยากมีพันธะอยู่แล้วไง”
“ชิ!” พิมพ์นาราสะบัดหน้าใส่พี่ชาย ก่อนจะเดินจากไป
พันกรมองตามร่างน้องสาวไปจนลับตา ก่อนจะมองไปยังเส้นทางที่บัวบูชาเดินไป เขาตัดสินใจเดินตามไป
.. แม้เขาจะไม่ได้มองเธอในแง่ดีขึ้น แต่บางทีเขาก็อาจจะมองเธอในแง่ร้ายไปหรือเปล่า
ชายหนุ่มคิดได้ดังนั้นก็เดินตามไปทันที
“น้องบัวให้พี่ช่วยไหมครับ”
ธีรกรพระเอกคนดังที่หาทางปลีกตัวมาหาดาราน้องใหม่รีบนั่งลงใกล้ๆ จนบัวบูชาต้องขยับหนี แต่เขาก็ยังตามมา
ความน่ารักสวยหวานจับตาจับใจของบัวบูชาทำให้เขาอยากสานสัมพันธ์กับหญิงสาวเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณธี บัวเกรงใจ”
“เกรงใจทำไม ถ้าพี่ฝึกให้รับรองว่าตอนเข้าฉากบัวจะหายเกร็ง เราจะส่งบทกันได้ดีขึ้น แล้วก็เลิกเรียกคุณเสียที เรียกพี่น่ะดีแล้ว”
“เอ่อ... ก็ได้ค่ะ” บัวบูชาเองก็อยากหาคนช่วยเหมือนกัน เพราะฉากต่อไปเธอต้องเข้าฉากกับธีรกร ถ้าทำไม่ได้ก็จะโดนคนอื่นว่าเอาอีก
ฉากต่อไปเป็นฉากที่เธอต้องกลับมาที่ไร่องุ่น หลังจากไปเรียนหนังสือ และพบว่าพระเอกของเรื่อง รักผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือนางเอกของเรื่องนั่นเอง เธอเป็นแค่นักแสดงตัวประกอบที่เจ้มิ้นต์พยายามให้ร่วมงานกับกันต์ ซึ่งเป็นผู้กำกับและสนิทกัน เพื่อจะได้ดันเธอให้เป็นนางเอกในอนาคต พอได้ยินแบบนั้นเธอก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะไปเป็นนางเอกอะไรกับเขาหรอก แต่เจ้มิ้นต์ยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่าเธอจะต้องดังเป็นพลุแตกแน่นอน เพราะเธอมีรูปเป็นทรัพย์
“งั้นมาเลยครับ” ธีรกรดึงมือบัวบูชามากุมเอาไว้
“อุ๊ย!” เธอสะดุ้งตกใจรีบดึงมือหนี
“ดึงมือหนีพี่ทำไมครับ เดี๋ยวเข้าฉากพี่ก็ต้องจับมือน้องบัวนะครับ”
ธีรกรรีบบอก เขาหมายตานักแสดงหน้าใหม่คนนี้เอาไว้แล้ว ทั้งสวย ทั้งน่ารักและดูหัวอ่อน ถ้าเขาได้ชิมสักทีสองทีก็คงเลิกสนใจไปเอง
“บัวแค่ตกใจน่ะค่ะ”
“พี่ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ งั้นเอาใหม่นะ” ธีรกรดึงมือหญิงสาวมากุมเอาไว้ ก่อนจะพูดตามบท
เขาบอกว่าผู้ชายชอบให้ผู้หญิงแต่งตัวน่าค้นหา วับๆ แวมๆ ก็อยากมอง ถ้าเปิดหมดมองทีเดียวก็ไม่ดึงดูด แต่จริงๆ มันก็ไม่เสมอไปหรอก เพราะถ้าบัวบูชาแก้ผ้า เขาก็คึกขึ้นมาทันที“ค่อยขอบคุณยัยพิมพ์แล้วกัน แต่เฮียขี้เกียจใส่เพราะยังไงก็ต้องถอด” เขาดึงปมผ้าเช็ดตัวจนหลุดลุ่ย เผยทรวงอกเคร่งครัดอิ่มสวยให้เชยชม“อุ๊ย!” เธอตะครุบมือเขาเอาไว้ มองสบตาเขาอย่างขัดเขิน“เรียนจบเมื่อไหร่มีลูกกันนะ”“ค่ะ แต่ขอให้บัวกิน...” เธอพูดยังไม่ทันจบเขาก็ใช้นิ้วปิดปากเธอเอาไว้ ก่อนจุ๊ปากเบาๆ“ไม่ให้กิน”“เฮียรู้เหรอคะว่าบัวจะกินอะไร”“รู้สิ เฮียทิ้งไปแล้ว”บัวบูชาถึงกับเบิกตากว้าง“เกิดบัวท้องขึ้นมาล่ะคะ”เพราะครั้งแรกที่มีอะไรกับเขา โชคดีที่เป็นระยะปลอดภัย ไม่อย่างนั้นคงต้องหยุดเรียนเลี้ยงลูกเสียก่อนแน่นอน“ไม่ท้องหรอก เฮียป้องกันเอง”“เอ่อ... เฮียจะป้องกันเองเหรอคะ” เธอถามอย่างแปลกใจ เพราะผู้ชายน้อยคนนักจะมาสนใจเรื่องนี้ เอาความสะดวกเข้าว่า ให้ผู้หญิงเป็นคนคุมเอง“ก็ไม่อยากให้กินยา เฮียเป็นผู้ชายนะ เฮียเสียสละป้องกันเอง”เธอลูบใบหน้าหล่อเหลาคมสันของเขา มองอย่างขอบคุณ“ถ้าลืมล่ะคะ”“ไม่ลืมหรอก วันก่อนเค้ามีโปรโมชั่น ซ
ของขวัญล้ำค่าที่พันกรมอบให้เธอคือการที่มารดาของเธอกลับเนื้อกลับตัวได้เหมือนหน้ามือกับหลังมือ เธออยากรู้ว่าเขาทำอย่างไร มารดาก็เล่าให้ฟัง ท่านโดนสิทธิชัยทำร้าย เขาเอาเงินไปหมด การได้เห็นธาตุแท้ของสามีเด็ก ทำให้เธอเริ่มตาสว่าง ซึ่งบุษบาไม่รู้ว่านั่นเป็นแผนของลูกเขย ซึ่งเป็นคนกระตุ้นกิเลสของมนุษย์ให้ผุดขึ้นมาและเปิดเผยธาตุแท้ออกมาให้ตาสว่างพันกรมอบของขวัญให้เธอเป็นเครื่องเพชรชุดใหญ่ของตระกูล ที่จะมอบให้สะใภ้คนโต พร้อมกับคำสัญญาว่าเขาจะดูแลเธอให้ดีที่สุดในทุกๆ วันหลายคนมักบอกว่าอย่าสัญญา แต่คำสัญญามันก็มีความหมายกินใจนัก เธอเองก็ได้ยินเขาพูดแบบนั้นต่อหน้าญาติผู้ใหญ่และเพื่อนๆ สนิทที่มาร่วมงานเพื่อเป็นสักขีพยาน หัวใจก็พองโต ไม่อยากคิดหรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าเรามานั่งคิดว่าอนาคตต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ คงเครียดตาย บางทีบางสิ่งบางอย่างก็ต้องปล่อยวางมันเสียบ้าง ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว อนาคตมันจะดีเองนั่นแหละ เธอเชื่อแบบนั้นก็เหมือนวันนี้เราปลูกต้นไม้ต้นหนึ่ง ดูแลอย่างดี อนาคตก็ต้องเป็นต้นไม้ที่ให้ร่มเงาและอุดมไปด้วยผลให้เราเก็บกิน ได้ แต่ถ้าเราไม่ดูแลเอาใจใส่ อนาคตต้นไม้อาจ
“ถ้าทำให้เสียใจจะพาหนี”“เฮ้ย! เอาแบบนั้นเลยเหรอ” พันกรสะดุ้ง“ใช่น่ะสิคะ”พิมพ์นาราพูดแล้วหันมายิ้มกับเพื่อน ก่อนจะเดินจากไป รู้ดีว่าพี่ชายอยากอยู่ตามลำพังกับเพื่อนรักของเธอ หรืออีกนัยหนึ่งคือพี่สะใภ้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะพันกรพาบัวบูชาไปจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้วเขาใจร้อนและอยากให้มั่นใจว่าหญิงสาวคือคนของเขา และหากจะทำอะไรก็จะได้สะดวก เรื่องการเรียนไม่มีปัญหาอะไร เพราะเรียนระดับปริญญาตรีจะแต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมานั่งสนใจ เนื่องจากโตๆ กันแล้ว บัวบูชาเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เพราะแค่พันกรบอกว่ารัก เพื่อนของเธอก็คาดไม่ถึงแล้ว แถมยังรับผิดชอบโดยการแต่งงานอีกพันกรคิดว่าจะจัดงานเล็กๆ เชิญแขกผู้ใหญ่มาเป็นสักขีพยานในเดือนหน้า ซึ่งยังอยู่ในช่วงปิดเทอม หลังจากนั้นก็จะให้ภรรยากลับไปเรียนตามปกติ ซึ่งก็อยู่กับน้องสาวคนเดียวของเขา ปิดเทอมก็ค่อยไปรับมาอยู่ที่ไร่ หรือช่วงเสาร์อาทิตย์ก็ลงไปหาที่กรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้การเดินทางสะดวก นั่งเครื่องบินแป๊บเดียวก็ถึงที่หมาย ไม่ต้องนั่งรถให้เมื่อยหรือเสียเวลาไปกับการติดแหงกอยู่ในรถ ทั้งเพลียทั้งง่วงแบบนั้น“น้องสาวเฮียนี่ดุจริงๆ ส
“แล้วรักไหมล่ะ”“ก็รักตั้งนานแล้ว” เธออุบอิบตอบ“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” เขาหูผึ่งทันที“ได้ยินว่าอะไรล่ะคะ”“บัวพูดจริงๆ เหรอ รักเฮียนานแล้วเหรอ ทำไมเฮียไม่เห็นรู้”“เรื่องแบบนี้เค้าพูดเล่นกันด้วยเหรอคะ แต่ไม่รู้ทำไมบัวถึงไปหลงรักคนใจร้ายได้” เธอค้อนเขา“อดีตเฮียอาจจะเคยใจร้าย แต่ต่อจากนี้ไป เฮียจะรักบัว ดูแลบัวให้ดีที่สุด เฮียสัญญา” เขาดึงเธอมากอด“ไม่ต้องสัญญาหรอกค่ะ แต่บัวจะคอยดู”เธอพูดแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข“ถึงเฮียจะไม่ใช่คนดีนัก แต่ถ้ารักแล้ว หัวใจดวงนี้ยกให้ทั้งดวง และเฮียจะดีกับคนที่เฮียรักที่สุด”เขารู้ตัวดีว่าไม่ใช่คนดีนัก แต่ถ้ารัก เขาก็จะดูแลรักของเขาให้ดีที่สุด“ดีใจจังเลยที่ได้บัวมาเป็นพี่สะใภ้จริงๆ” พิมพ์นาราดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อได้รับข่าวดีจากพี่ชาย เธอก็คอยอธิษฐาน คอยลุ้นให้เพื่อนไม่โกรธพี่ชายของตัวเอง เพราะปกติเพื่อนรักอย่างบัวบูชาไม่เคยโกรธใครง่ายๆ แต่ถ้าลองให้โกรธ ชาตินี้คงไม่ได้คุยกันอีกแล้ว เพราะถ้าโกรธแสดงว่าถึงที่สุดจริงๆ เธอได้รับคำตอบว่าที่เพื่อนหนีไปก็เพราะน้อยใจพันกรเท่านั้นได้ยินเพื่อนเล่าก็อยากจะหยิกพี่ชายให้เนื้อเขียวนัก ดูถูกเพื่อนเธอขนาดนี้ แต่ก็อย่าง
“ค่ะ”“ดีมาก บอกแล้วไงว่าจะดูแลและปกป้อง เมื่อก่อนเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เฮียอาจจะพอทนได้ แต่ตอนนี้บัวเป็นเมีย เป็นผู้หญิงที่เฮียยอมรับโดยดุษณีว่ารักหมดหัวใจ ดังนั้นปัญหาของบัวก็คือปัญหาของเฮีย”บัวบูชาน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคแบบนี้จากปากของเขา ผู้ชายหลายคนไม่ชอบปัญหารกหัว หรือเข้ามายุ่งวุ่นวาย อีกทั้งเรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน“บัวจะเชื่อเฮีย บัวเชื่อว่าเฮียต้องทำมันให้ดีที่สุด” บัวบูชากุมมือเขาตอบกลับ กระชับเพื่อยืนยันว่าเธอมั่นใจในตัวเขาแค่ไหนบัวบูชาไม่คิดว่าพันกรจะยื่นข้อเสนอแบบนี้กับบิดามารดาของเธอ เงินไม่ใช่ทางออกของปัญหาทุกอย่าง แต่มันก็แก้ปัญหาได้หลายปัญหาพอได้ยินว่าจะให้เงินก้อนใหญ่แลกกับการไม่มายุ่งกับเธอ พร้อมทั้งเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร คราแรกเหมือนมารดาจะลังเล แต่บิดาปฏิเสธ สุดท้ายมารดาก็ยอมตกลง ซึ่งเงินที่เรียกร้องไปนั้นมากจนเธอตกใจอ้าปากค้าง แต่พันกรยอมจ่ายบัวบูชาอยากจะปรามหรือห้ามเขา แต่สุดท้ายเธอก็ได้แต่นั่งอึ้ง รู้สึกว่าตัวเองเป็นสินค้าและมีคนกำลังเจรจาต่อรองซื้อขายกันอยู่เขาบีบมือเธออยู่ตลอดเวลา หลังจากที่เขาเซ็นเช็คให้มารดาของเธอเป็นที่เรีย
“บัวอยากทำงาน”“ถ้าอยากทำงานจริงๆ ก็ไปช่วยงานที่ไร่ตอนปิดเทอมก็ได้ แต่เวลาเรียนให้ตั้งใจเรียน ไม่เอาแล้วนะ ทำงานกลับดึกๆ ดื่นๆ”“นี่เฮียพันจริงๆ ใช่ไหมคะ” เธอลูบใบหน้าหล่อเหลาของเขา รู้สึกว่าหัวใจอ่อนยวบอย่างประหลาด“จริงๆ ไม่เชื่อลองจูบดูสิ” เขายื่นหน้าเข้าไปหาเธอรีบดันคางเขาออกห่าง“ไปห่างๆ เลยค่ะ” เธอบอกอย่างเขินอาย“ถ้ายัยพิมพ์รู้ว่าเพื่อนรักของเค้าจะมาเป็นพี่สะใภ้คงดีใจมากๆ”“ตายแล้ว พูดถึงพิมพ์ ป่านนี้คงโกรธบัวมากแน่ๆ เลยค่ะ ที่บัวหนีมาแบบนี้” พูดแล้วบัวบูชาก็หน้าเสีย“พิมพ์เค้าโกรธมากๆ เลยนะ” พันกรแกล้งว่าสีหน้าเครียดขรึม“จริงเหรอคะ” บัวบูชาหน้าเสีย ก่อนจะก้มหน้างุด“จริง... ซะเมื่อไหร่”เขามองหน้าคนที่รู้สึกผิดแล้วนึกเห็นใจ เมื่อก่อนเขาเอาแต่ไม่ชอบที่เธอทำงานแบบนี้ เลยไม่ได้มองนิสัยใจคอกันอย่างถ่องแท้ แต่พอเห็นก็เห็นกันจะๆ ว่าเธอเป็นคนยังไง รักเพื่อนและขี้เกรงใจขนาดไหน“เฮียหลอกบัวเหรอคะ” เธอเงยหน้าขึ้น ก่อนจะค้อนเขา“พิมพ์น่ะเป็นห่วงบัวมากนะ เรื่องโกรธลืมไปเลย ยัยพิมพ์กลัวบัวจะโกรธเค้ามากกว่า”“บัวจะโกรธพิมพ์เรื่องอะไรเหรอคะ” บัวบูชาถามอย่างสงสัย เพราะเธอเองต่างหากที่ผิดสัญ







