LOGINเขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนไหนที่ทำให้แม่ต้องเจ็บปวด แต่ผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตพ่อต้องได้รับผลกรรมนั้น ชายหนุ่มมองตามร่างหญิงสาวที่ถูกลูกน้องแบกเดินออกมาหารถ
ร่างเล็กถูกวางทิ้งไว้หลังรถเหมือนไม่มีค่าอะไรเลย แล้ววัลลภก็เดินอ้อมไปนั่งข้างคนขับโดยมีเจ้านายนั่งอยู่เบาะหลัง ส่วนเธอถูกทิ้งไว้ท้ายกระโปรงรถ
"นายหัวเป็นยังไงบ้างครับ" วัลลภเห็นว่าต้นคอของเจ้านายมีแผล แถมตอนนี้มีเลือดติดเสื้อเชิ้ตสีขาวด้วย
"ยังไกลหัวใจ"
"รีบกลับสิวะ" เห็นว่าคนขับชักช้าวัลลภเลยหันไปสั่ง
"ครับ"
ใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงปางไม้..
"นายหัวครับ" เห็นรถของเจ้านายวิ่งเข้ามาลูกน้องก็รีบก้มหน้าก้มตาวิ่งเข้ามาหา
ตุ๊บ! "อึบ"
ตุ๊บ!! "อึบ" ลูกน้องแต่ละคนที่วิ่งดาหน้าเข้ามาถูกเท้าของภูเบศแทบจะทุกคน แต่ไม่มีใครเลยที่กล้าร้องโอดโอย เพราะถ้ามีเสียงรู้ดีว่าเจอหนักกว่าเดิมแน่
วัลลภลงจากรถได้ก็เดินอ้อมไปหลังรถแล้วเปิดกระโปรงหลัง ลูกน้องที่ถูกถีบเมื่อครู่รีบลุกขึ้นมาแล้วเดินมาดูว่าข้างหลังรถมีอะไร
"เจอตัวอยู่ที่ไหนครับลูกพี่" ลูกพี่ที่พวกเขาเรียกก็คือวัลลภมือขวาคนสนิทของนายหัว
"กระท่อมในป่า" กระท่อมอยู่ไกลจากปางไม้มากทุกคนเลยไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเดินไปถึง
"เอาไปไว้ห้องเดิมไหมครับ"
"พวกมึงซ่อมหรือยังล่ะ" วัลลภต่อว่าลูกน้อง ส่วนนายหัวภูเบศตอนนี้เดินกลับไปทางบ้านหลังใหญ่แล้ว
"ยังไม่ได้ซ่อมเลยครับ พวกเรามัวหาตัวเธออยู่ครับ"
"ถ้าทำให้หนีออกไปได้อีกนะพวกมึงได้แดกลูกตะกั่วแทนตีนแน่"
"พวกเราจะคอยระวังให้ดีครับ" ยังกลัวอยู่เลยว่าจะได้กินลูกปืนไหม โชคดีที่แค่ถูกกระทืบ
"เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ เลยพวกมึงเนี่ย"
จะเอาไปไว้โรงเก็บไม้ที่เดิมก็ไม่ได้แล้ว เพราะยังไม่ได้เช็คดูเลยว่าไม้กระดานแผ่นไหนผุพังบ้าง เลยต้องเอาเธอมาไว้ที่เรือนหลังเล็ก
"ผมว่าล้างแผลหน่อยดีกว่าไหมครับ เดี๋ยวแผลติดเชื้อ" จัดการผู้หญิงเสร็จวัลลภก็ตามผู้เป็นเจ้านายมาดูแผลให้
"จัดการมันเสร็จหรือยัง"
"ผมให้คนเอาไปไว้เรือนหลังเล็กครับ โรงไม้คงต้องซ่อมบำรุงก่อน"
"ไม่ต้องเดี๋ยวกูทำเองมึงออกไปได้" วัลลภกำลังจะเอาแอลกอฮอล์ล้างแผลมาล้างให้ แต่ภูเบศไล่ออกไปก่อน
หลังจากลูกน้องออกไปแล้วเขาก็เอาแอลกอฮอล์นั้นเทราด
"ซี๊ดดด" แสบจริงๆ เลยตัวแค่นี้ ไม่ได้แสบแค่แผลแสบไปถึงเธอ คนอะไรฤทธิ์เดชเยอะชิบหาย เขาก็ไม่ได้คิดจะทรมานอะไรเธอขนาดนี้หรอกแต่เธอรนหาที่เอง อยู่เฉยๆ ก็ไม่เจ็บตัวแล้ว
ในเวลาต่อมาที่เรือนหลังเล็ก เรือนหลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูงขึ้นมาหน่อย เครื่องอำนวยความสะดวกอะไรก็ไม่มีหรอก สร้างเพื่อกันปลวกเจาะไม้ถ้ากองไว้เฉยๆ คงไม่พ้นเป็นอาหารปลวก และเขาก็มีโครงการทำแบบนี้อีกหลายหลัง เพราะมันดูแลไม้สะดวกดีแถมเอาบ้านไว้ใช้งานได้อีก
"ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย" รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง ที่นอนของเธอมีแค่หมอนใบเดียว หญิงสาวลองเดินมาจะเปิดประตูแต่ก็เปิดไม่ได้ คงถูกล็อกจากด้านนอก เธอเลยตรวจเช็คหน้าต่างว่าล็อกเหมือนกันไหม และหน้าต่างทุกบานก็เปิดไม่ได้เช่นกัน
ตอนนี้จะทำอะไรก็ทำไม่ได้เพราะยังรู้สึกเจ็บท้องมาก เธอเลยค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงกับที่ตรงนั้น ถ้าเธอไม่ยอมตกลงรับปากแต่งงานเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับเธอไหม คนที่ลักพาตัวเธอมาเป็นศัตรูของไอ้เสี่ยบ้ากามนั่นหรือเปล่า
คิดแล้วก็สมเพชตัวเอง ทีแรกที่คุยกันว่าจะให้เธอดูตัวกับลูกชายเสี่ยภูริแต่ก็ถูกปฏิเสธ แต่เธอก็สงสัยในเมื่อลูกชายของเสี่ยปฏิเสธการแต่งงานแล้วทำไมงานแต่งถึงยังจะจัดต่ออยู่อีก
ป่านนี้พ่อกับแม่จะรู้ไหมว่าเธอมาตกระกำลำบากแค่ไหน งานแต่งที่ไม่มีเจ้าสาวทุกคนจะรู้ไหมว่าเจ้าสาวถูกลักพาตัวมา หรือพวกเขาคิดว่าเธอหนีไปแล้ว
"นายหัวครับ" ลูกน้องที่ยืนเฝ้าอยู่แถวนั้นเห็นนายหัวเดินมาทางนี้เลยรีบลุกขึ้นมา
"ฟื้นหรือยัง"
"ได้ยินเสียงงัดหน้าต่างประตูอยู่ครับ" ตอนที่เธอมางัดประตูลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างนอกนี่แหละ หลังจากงัดประตูไม่ได้ผลก็ได้ยินเสียงงัดหน้าต่าง
"เปิด"
ได้รับคำสั่งลูกน้องที่เฝ้าอยู่ตรงนั้นก็รีบไปเปิดประตู
พอประตูเปิดออกร่างเล็กที่นั่งจับเข่าอยู่มุมหนึ่งของบ้านก็ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นมา
"คุณจะเอายังไงกับฉัน"
"แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ" ขณะที่ตอบดวงตาเย็นชาก็จับจ้องไปที่ฝ่ายหญิง
"คุณจะจับฉันมาเรียกค่าไถ่หรือจับมาเพื่อต่อรองกับเสี่ย"
"อาจจะไม่ใช่ทั้งสองอย่างก็ได้"
"คุณก็บอกมาสิว่าต้องการเอาตัวฉันมาทำไม"
"ฉันอาจจะมีอารมณ์เปลี่ยวอยากมีที่ระบาย เห็นว่าเธอน่าสนใจเลยจับตัวมา..ก็เป็นได้นะ"
"คนมีฐานะแบบคุณถ้าเกิดอารมณ์เปลี่ยวหาผู้หญิงที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นฉัน"
"แต่ฉันคิดว่ามันจำเป็น ถ้าเธอยอมเป็นของเล่นให้ฉัน สักวันฉันอาจจะปล่อยเธอไปก็ได้"
"ไม่มีทาง ฉันขอตายดีกว่า"
"อยากตายสภาพไหนก็บอกมาเดี๋ยวฉันจัดให้" ชายหนุ่มเดินตรงเข้ามาหาจนเธอรีบถอยแต่ก็ถอยไปได้ไม่ไกลเพราะหลังชนเข้ากับผนังไม้ก่อน
"ถอยไปนะ" หญิงสาวพยายามปัดป้องไม่ให้เขาแตะเนื้อต้องตัวได้ แต่ด้วยสภาพของเธอนี่หรือจะปกป้องตัวเองได้ มือหนายื่นมาบีบคางของเธอให้เชยขึ้น
"ชีวิตเธอเป็นของฉัน ถ้าฉันยังไม่อยากให้เธอตายเธอก็ต้องอยู่"
"โอ๊ย" คางถูกเขาบีบเข้าจนริมฝีปากบางห่อ และคนที่บีบคางเธออยู่ก็โน้มต่ำลงมางับเข้าที่ปากของเธอ "อืมม!!" หญิงสาวพยายามผลักเขาออกแต่เขาไม่ได้ทำแค่นั้นยังดูดริมฝีปากของเธอจนมันแทบจะหลุดติดปากเขาไป
มืออีกข้างของเขาล้วงต่ำลงมาหาเนินอวบเพื่อเช็คความนูนของมัน และใบหน้าของเขาก็ดูจะมีความสุขเมื่อเห็นว่าขนาดความนูนของมันไม่ธรรมดาเลย
"อื้มมม!!" หญิงสาวดิ้นอีกครั้งเพราะมือของเขาไม่ได้อยู่เฉยยังคงบีบน้องสาวเธอจนรู้สึกเจ็บ
นาทีต่อมาเธอก็นึกได้ว่าเคยทำให้เขามีแผล ถ้าทำให้เขาเจ็บตรงแผลได้เธอคงจะหลุดพ้นจากพันธนาการนี้
"อึก" ตอนที่ลิ้นหนากำลังจะแหย่เข้าไปในโพรงปากมือของเธอก็ทุบลงที่หัวไหล่ตรงถูกไม้แทง "ซี๊ดด" และมันก็ได้ผลเขาปล่อยทุกอย่างแล้วก็มาจับมือข้างที่ทุบลงมาเมื่อครู่บิด
"โอ๊ยยเจ็บบ"
"ใครที่ทำให้ฉันเจ็บมันต้องเจ็บกว่าฉันหลายร้อยหลายพันเท่า" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ใช้แรงมากกว่าเดิมจนร่างเล็กค่อยๆ ทรุดตัวลง พร้อมกับเสียงร้องโอดโอยอ้อนวอนให้เขาปล่อย
จังหวะนั้นลูกน้องก็รีบวิ่งเข้ามาดูว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น
พอเข้ามาเห็นว่าเจ้านายกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มลูกน้องก็รีบปิดประตูให้
"เจอไหม" จากที่เมาๆ อยู่พอกลับบ้านมาไม่เห็นเมียตอนนี้รู้สึกสร่างเมาเลย"ไม่เจอเลยครับผมกำลังให้คนเช็คกล้องวงจรปิดอยู่ครับ" พูดจบคนที่เช็คกล้องวงจรปิดก็รีบวิ่งมาหา "เป็นยังไงบ้าง""นายหญิงออกไปตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วครับ""ไปไหน""กล้องจับภาพได้แค่ตอนเดินออกไปแต่ไม่รู้ว่าไปกับใครไปที่ไหน" แล้วลูกน้องคนนั้นก็ยื่นคลิปกล้องวงจรปิดให้ดู เหมือนรถคันที่มารับเธอจะรู้มุมกล้องวงจรปิดดี..จะไม่รู้ได้ยังไงก็คนในบ้านเป็นไส้ศึกเสียเอง"ให้คนไปดูที่สถานีรถ" เขาคิดว่าเธอต้องหนีกลับแน่เลย เพราะเธอเคยหนีแบบนี้มาแล้วหลายครั้งและคนของเหมืองก็รีบไปเช็คที่สถานีรถทั้งรถไฟและรถทัวร์ ส่วนสนามบินอยู่ไกลมากคิดว่าเธอคงไม่ไปหรอก แต่เพื่อความชัวร์เขาให้อีกชุดหนึ่งไปดูที่สนามบินจนถึงตอนเช้าก็ยังไม่ได้ข่าว ไม่ใช่ไม่ได้ข่าวจากลูกน้องหรอกไม่ได้ข่าวของเธอนี่แหละ เพราะลูกน้องก็ส่งข่าวมาอยู่ว่าหาไม่เจอไม่เห็นร่องรอยของเธอเลยเรื่องมันชักจะไม่เข้าท่าแล้วเขาเลยต้องไปที่สถานีตำรวจ ให้ตำรวจช่วยอีกแรง เพราะอยากยืมมือตำรวจประสานงานไปที่สน.อื่นด้วยที่จริงถ้ายังหายไปไม่ครบ 24 ชั่วโมงตำรวจจะยังไม่รับแจ้งความ แต่นี่นายหัวภูเบศมา
ข้าวสวยและจินดาไม่ได้พูดคุยอะไรกันหรอก หลังจากเหตุการณ์นั้นข้าวสวยก็เดินกลับมา"ไปไหนมา" เขากลับมาไม่เห็นเธอกำลังจะใช้คนให้ไปตามหาอยู่พอดีเลยแต่เห็นเธอเดินกลับมาก่อน"ไปเดินเล่น" ข้าวสวยพูดแค่นี้แล้วก็เดินผ่านหน้าของเขาไป"เรื่องห่อหมกเดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ป้าซื้อจากตลาดมาให้ใหม่""ฉันไม่อยากกินแล้ว""ยังโกรธอยู่เหรอ""ทำไมฉันต้องโกรธด้วย""ก็บอกจะซื้อมาให้ใหม่ไง""ฉันอยากจะกลับแล้ว" เธอไม่อยากพูดเรื่องห่อหมกอะไรนั่นแล้ว และขณะที่เธอกำลังยืนคุยกับภูเบศอยู่ จินดาก็เดินกลับมาพอดี สายตาของข้าวสวยมองไปและเป็นจังหวะเดียวกับที่จินดามองมาทั้งสองสบตากัน จินดาเริ่มพะวงแล้วกลัวว่าข้าวสวยจะเอาเรื่องนั้นมาพูดกับนายหัว"แม่ แม่ไปไหนมาหนูนุ้ยหาแม่ไม่เจอ" หนูนุ้ยเห็นแม่มาก็รีบวิ่งเข้าไปกอด"แม่ไปเดินเล่นมา""นายผู้หญิงทานอะไรหรือยัง" เขามองตามหลังเธอที่เดินขึ้นบ้านแล้วหันไปถามจินดาว่าเธอทานข้าวหรือยัง"ทานแล้วค่ะ" จินดาไม่รู้หรอกว่าทานหรือไม่ทาน เพราะตัวเองออกไปก่อนแถมยังกลับเข้ามาทีหลังภูเบศได้ยินว่าเธอทานแล้วเขาเลยบอกให้จินดาเตรียมอาหารมาให้ ทีแรกว่าจะกลับมาทานพร้อมเธอนั่นแหละ แต่ถ้าเธอทานแล้วเขาก็
ดึกๆ คืนนั้น..เธอรู้สึกตัวตื่นเพราะมีคนนอนลงข้างๆ แต่พอนอนลงเขาก็ตะแคงหันหลังให้เขามาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ..ข้าวสวยเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอเลยแกล้งลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ที่จริงก็ไม่ได้แกล้งหรอกปวดจริงๆ นี่แหละออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขามองมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ข้าวสวยเลยเดินไปนอนที่เดิมของเธอ"คุณยังคิดเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าคะ""คิดเหมือนเดิมหมายความว่ายังไง""คิดว่าฉันทำลูกสาวคุณหัวโนไง""เราจะไม่พูดเรื่องนั้นอีก""ฉันต้องพูดค่ะเพราะมันไม่ใช่ฝีมือของฉัน""ผมเชื่อก็ได้""เชื่อก็ได้หมายความว่ายังไง""จะมาชวนทะเลาะอะไรอีก คนเพิ่งกลับมามันเหนื่อยนะเว้ย""ไหนๆ ก็ได้ทะเลาะแล้วให้ฉันพูดตามสิ่งที่ฉันคิดเถอะ""คิดอะไรอีกล่ะ""แม่ลูกคู่นั้นไม่ธรรมดาเลยนะ คุณแน่ใจเหรอว่าผู้หญิงคนนั้นถูกขืนใจจนตั้งท้อง""ข้าวสวย!!" ภูเบศตะเบ็งเสียงออกมาดังมากจนเธอสะดุ้ง ข้าวสวยที่เพิ่งขึ้นไปที่นอนต้องรีบลุกขึ้นมา ถ้าเขาต่อยเธอได้คงจะต่อยไปแล้ว"คุณคิดว่าฉันอกุศลใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณมีตามองสักนิดคุณจะเห็นว่าฉันไม่ได้ทำเด็กคนนั้นหกล้ม""เรื่องนั้นมันจบไปแล้วจะพูดหาพระแสงทำไมอีก""เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของฉันฉันจำเป็นต้องพูด
วันต่อมาภูเบศต้องให้เธออยู่ที่บ้านกับคนรับใช้ ส่วนเขาก็ออกไปจัดการงานที่เหมือง"สวัสดีจ้ะหนูนุ้ย" ข้าวสวยลงมาก็เห็นเด็กกำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ "ทำอะไรอยู่จ๊ะ""มองไม่เห็นหรือไง""?" ทำไมเด็กถึงได้ก้าวร้าวขนาดนี้ ..ได้ยินที่เด็กตอบเมื่อสักครู่ข้าวสวยก็หันไปมองดูแม่ของเด็กที่ทำงานบ้านอยู่แถวนั้น จะว่าแม่ไม่ได้ยินก็คงไม่ใช่แต่ทำไมถึงไม่สั่งสอนลูกหน่อยว่าไม่ให้พูดกับผู้ใหญ่แบบนี้ "เมื่อกี้ฉันฟังไม่ชัดหนูพูดว่าอะไรนะ" ในเมื่อแม่ไม่สั่งสอนเดี๋ยวฉันจะสั่งสอนเอง"หูหนวกเหรอถึงไม่ได้ยินคนพูด""ฉันเป็นภรรยาของผู้ชายที่หนูเรียกว่าพ่อ ถ้างั้นหนูก็ต้องเรียกฉันว่าแม่อีกคน ไหนลองเรียกแม่ซิ""ฉันมีแม่คนเดียว อย่าคิดว่าจะเข้ามาแทนที่แม่ของฉันได้""แทนที่แม่หนูเข้าใจผิดแล้วมั้ง เพราะแม่หนูไม่ได้เป็นอะไรกับสามีฉันสักหน่อย""แม่" หนูนุ้ยหันไปมองหน้าแม่และมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้"ทำไมคุณต้องว่าให้เด็กแบบนี้ด้วยไม่นึกถึงจิตใจของเด็กบ้างหรือคะ""ฉันแค่พูดให้เด็กเข้าใจ""แกยังเด็กโตขึ้นเดี๋ยวแกก็รู้เองค่ะว่าอะไรคืออะไร""ทำไมต้องรอให้โตด้วยล่ะ เราบอกตอนนี้ให้เด็กเข้าใจก็ได้นี่""แม่คะ ผู้หญิงคนนี้จะมาแย่งพ
แปะ! อุตส่าห์ขี้คุยไว้ว่ายุงคงไม่มากวนแค่กระแทกไปได้ไม่กี่ทีก็ถูกยุงกัดก้นแล้ว"อาาา" แต่ภูเบศก็ไม่ย่อท้อเขายังคงซอยถี่ไปตามความปรารถนาแปะ!"อือ.. พอก่อนดีกว่าค่ะกางมุ้งก่อน""ซี๊ดดด มาถึงขนาดนี้แล้วจะพอได้ยังไง""แต่ยุงกัดน่ะสิคะ" มันไม่ได้กัดแค่เขาหรอกมันกัดเธอด้วยภูเบศเลยต้องถอดสิ่งที่มันเชื่อมกันอยู่เมื่อสักครู่ออกแล้วลุกขึ้นดึงหูมุ้งจะเอามามัด"เบาๆ หน่อยสิคะเดี๋ยวมันก็ขาดหรอก""พรุ่งนี้ผมจะให้คนมาทำห้องนะ" ชักจะอารมณ์เสียแล้ว ไม่ให้ดัดแปลงอย่างอื่นพอทนถ้าไม่ให้ทำห้องพอเลยเห็นว่าเขาดูจะอารมณ์เสียเธอเลยไม่พูดอะไรต่อช่วยเขากางมุ้งจนเสร็จ แล้วก็เอาพัดลมเข้ามาเปิดในมุ้งแต่พอจะเริ่มต่ออารมณ์มันก็หมดไปแล้ว เธอเลยกำลังจะนอน..แต่พอเขามุดเข้ามาในมุ้งก็จับเธอหงายขึ้นไอ้เราก็คิดว่าจะไม่ต่อแล้ว แต่พอเขาจะทำต่อเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรภูเบศใช้มือตัวเองชักรูดเพื่อให้มันแข็งอีกที แต่มันก็ขึ้นยากมากเขาเลยเอื้อมไปจับมือของเธอมาช่วยชัก"ซี๊ดดด" ให้เธอช่วยชักไปอีกหน่อยก็นึกอยากลองยัดมันเข้าไปในปากเธอดู เขาเลยเอาช่วงยอดปลายถูกับริมฝีปากของเธอว่าจะยอมให้มันเข้าไปข้างในไหมทีแรกเธอก็เม้มริมฝีปากไว้แต่พ
พันธะ(รัก)เมียบำเรอ บทที่ 55และก็มาถึงวันเผา วันนี้นนท์ออกมาไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือขอให้เจ้าหน้าที่ช่วย Video Call เพื่อให้นนท์ได้ร่วมส่งยายขึ้นสู่สวรรค์เขาขอให้เธออย่าร้องไห้แต่วันนี้เธออดกลั้นไม่ได้จริงๆ ทำไมเธอถึงมีความผูกพันกับคุณยายมากขนาดนี้ เหมือนว่าเธอกำลังเสียญาติผู้ใหญ่ไป ยิ่งตอนเห็นนนท์ร่ำไห้อยู่ในห้องขังมันก็ยิ่งสะเทือนใจเธอหนักมาก"คุณข้าวสวยคะ ยายไปสบายแล้ว" อยู่จังหวัดเดียวกันก็จริง แต่แก้วไม่เคยรู้จักกันกับยายเลย จะมารู้จักก็ตอนที่ยายจากไป และก็รู้จักผ่านข้าวสวยนี่แหละ เด็กคนนี้มีจิตใจโอบอ้อมอารีมาก คิดว่าตัวเองได้มาพบเจอและรู้จักเป็นวาสนาที่ดีมากเลย"ขอบคุณพี่แก้วกับพี่ศักดิ์มากเลยนะคะที่มาช่วยงาน""ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกค่ะ พวกพี่เองต่างหากที่ต้องขอบคุณหนู ที่ช่วยคนในจังหวัดของเรา"งานศพเสร็จทุกคนก็แยกย้ายส่วนเรื่องเก็บงานภูเบศก็มอบหมายให้ลูกน้อง อัฐิของยายเขาเก็บไว้ที่วัดนี้ เผื่อสักวันหลานของยายออกมาจะได้มาไหว้"หลายวันแล้วนะยังจะเศร้าอยู่อีกเหรอ""ไม่ได้เศร้าสักหน่อย" ทำไมจิตใจเธออ่อนไหวแบบนี้เนี่ย หรือเป็นเพราะฮอร์โมนไม่ปกติ เสร็จงานศพยายแล้วเธอยังคงคิดถึง ทั้งๆ ท







