หลายอาทิตย์ผ่านไป ชีวิตของพลอยใสดูเหมือนว่าปกติสุขมาก เพราะเขาคนนั้นหายไป ได้ข่าวว่าเขาไปดูแลคาสิโนแห่งใหม่ในปอยเปต ซึ่งเธอได้ยินข่าวมาว่าหุ้นกันกับเพื่อนเปิดคาสิโนแห่งใหม่ใหญ่โตเลยทีเดียว คนรวยก็อย่างนี้แหละ เขาไม่มีเวลาใส่ใจเธอนักหรอก แต่มันก็ดีเหมือนกัน รู้สึกหายใจลื่นขึ้นมาบ้าง ไม่งั้นต้องนั่งเกร็งตลอดเวลา กลัวเขาจะรู้ความลับ ขนาดโทรศัพท์เธอยังไม่กล้าคุยในห้องนี้เลย และแล้วเธอก็รู้สึกถึงแรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของตัวเอง 'แม่โทรมาอีกทำไม' หญิงสาวมองโทรศัพท์แล้วนึกแปลกใจ เพราะก่อนออกจากห้อง เธอก็โทรไปหาแม่กับลูกแล้ว หญิงสาวเหลียวหน้าแลหลัง เมื่อเห็นว่าไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องนั้น จึงกดรับทันที "ฮัลโล ว่าไงจ้ะแม่" "ก็ไอ้เพชรน่ะ มันงอแงไม่ยอมนอน มันบอกว่าอยากจะคุยกับเอ็ง" "ฮัลโหลเพชร ว่าไงครับลูก ทำไมยังไม่นอน" เธอกรอกเสียงหวานผ่านโทรศัพ์พูดคุยกับลูกชาย ทั้งๆที่พึ่งวางสายไปไม่ถึงชั่วโมง แต่เพชรกล้าก็รบเร้าคนเป็นยาย ให้โทรหาพลอยใสอีกครั้ง เพื่อที่เขาจะบอกแม่ว่า "เพชรคิดถึงแม่นะครับ เมื่อไหร่แม่จะกลับมา" "ปีใหม่ไงครับ แม่บอกเพชรแล้วไง อีกไม่กี่อาทิตย์เอง นอนซะเถอะนะลูก อีกไม่กี่อาทิตย์เราก็จะได้เจอกันแล้ว แม่จะไปฉลองปีใหม่กับเพชรไง จะเอาชุดสไปรเดอร์แมนไปฝาก เพชรจำไม่ได้เหรอครับ" พลอยใสพูดคุยกับลูกชายอย่างร่าเริง อีกไม่กี่อาทิตย์แล้ว เธอก็จะหยุดงาน และกลับบ้านไปหาลูกเสียที "แต่เพชรอยากให้แม่กลับมาตอนนี้ เพชรคิดถึงแม่" "เป็นอะไรครับลูก ทำไมวันนี้สุดหล่อของแม่งอแงจัง" "เพชรคิดถึงแม่ครับ เพชรอยากให้แม่กลับมาไวๆ" เด็กชายเริ่มร้องไห้งอแง เพราะยายพิมพ์ใจดูแลเขาไม่ดี หลังรับกลับมาจากโรงเรียนอนุบาล ก็ปล่อยให้เพชรกล้า เล่นของเล่นอยู่คนเดียว ส่วนตัวเองก็มานั่งก๊งเหล้าตามประสา ถึงเวลาค่อยหาข้าวหาปลาให้กิน แต่ถ้าวันไหนเมามากก็ลืม พลอยใสรู้เรื่องนี้จากป้าลำไยมาตลอด แต่เธอก็ต้องทำงาน และคิดว่าต้องหาเงินให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ย้ายลูก มาอยู่ด้วยกัน "เพชรรอแม่หน่อยนะลูก ปีใหม่แม่ก็จะกลับบ้านแล้ว ถ้าหาบ้านเช่าได้ แม่จะพาเพชรกับยายมาอยู่ด้วยกันเลยดีไหมครับ" เธอปลอบลูกชายอีกครั้ง เด็กชายตัวน้อยจึงบอกว่า "แม่มารับเพชรเร็วๆนะครับ เพชรจะรอ" เพราะไม่อยากจะอยู่กับยายในสภาพนี้อีกแล้ว เพชรกล้าจึงเร่งเร้าคนเป็นแม่ พลอยใสพยักหน้า ก่อนจะบอกกับลูกอีกว่า "แน่นอน ตอนนี้แม่ได้เงินเดือนเยอะแล้ว อีกไม่นาน เราจะได้มาอยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน" หญิงสาวเอามือลูบใบหน้าลูกชายผ่านมือถืออย่างแสนรัก เพชรกล้าเป็นเด็กว่าง่าย ถึงบางครั้งจะงอแงไปบ้าง แต่พอแม่พูด เขาก็เข้าใจ " ถ้าอย่างนั้นเพชรนอนเถอะนะลูก นี่มันจวนจะสามทุ่มแล้ว แม่ก็จะทำงานเหมือนกัน" เธอบอกลูกชายก่อนจะทำปากจุ๊บๆผ่านทางโทรศัพท์ และวางสายไป แต่ไม่รู้หรอกว่า มีคนคนหนึ่งนั่งมองเธอคุยโทรศัพท์ ผ่านหน้าจอมือถือของตัวเองเหมือนกัน คริสเตียนโน่สั่งคนให้ติดกล้องวงจรปิด ซ่อนไว้ในกรอบรูปข้างฝาผนัง มันเนียนมาก เนียนเสียจนพลอยใสไม่รู้ตัว หลังวางโทรศัพท์จากลูก หญิงสาวนั่งเช็ดน้ำตา พอเห็นลูกร้องไห้ เธอก็ร้องตามทุกที พักนี้เพชรกล้าถามบ่อย ว่าเมื่อไหร่เธอจะกลับบ้าน เมื่อไหร่จะกลับมาอยู่ด้วยกันเสียที เดือนที่แล้วคริสเตียนโน่จ่ายเงินให้เธอวันละห้าพันซึ่งมันก็มากพอสมควร พลอยใสคิดว่าพรุ่งนี้ต้องตระเวนหาบ้านเช่า และคงต้องย้ายลูกมาอยู่ที่กรุงเทพด้วยกันเสียที ส่วนคนที่นั่งมองเธอผ่านหน้าจอมือถือในตอนนี้ หัวใจของเขามันเต้นกระตุกอย่างบอกไม่ถูก พลอยใสกำลังร้องไห้ เขาได้ยินเธอคุยโทรศัพท์ทุกประโยค พลอยใสไม่ได้เอาลูกออก เด็กคนนั้นยังอยู่ และอีกไม่นานเขาจะต้องได้เจอ 'ปีใหม่แม่จะกลับบ้าน' คริสเตียนโน่ทวนคำพูดของพลอยใส ก่อนจะกดโทรศัพท์ ไปหาลูกน้องคนสนิทของเขาทันที "ติดตามดูพลอยใสให้ดี เด็กคนนั้นยังอยู่ อีกไม่นาน เราจะได้ตัว" เขาโทรไปสั่งการกับมาโนช ก่อนจะนั่งวางแผน ถ้าหากได้เจอกับเด็กคนนั้นแล้ว เขาจะทำยังไงต่อไป วันต่อมา พลอยใสมีงานโชว์เงือกที่ห้างแต่เช้า แต่วันนี้หญิงสาวทำงานไม่มีความสุขเลย ลางสังหรณ์มันบอกว่าเธอต้องรีบกลับบ้านไปหาลูก รู้สึกเป็นห่วงเขาแปลกๆ และหางตาข้างขวา มันกระตุกไม่ยอมหยุด หรือเธอจะกลับบ้านก่อนปีใหม่เลย พลอยใสกำลังคิดทบทวน ผู้จัดงานอีเวนท์ ก็เดินเข้ามาหาและบอกเธอว่า "พลอยใสลงไปดำน้ำรอบนี้ก็เลิกงานได้แล้วนะ" พี่อ๊อดเดินมาบอกเธอ หญิงสาวจึงเดินลงไปดำน้ำเพื่อโชว์การแสดงนางเงือกเป็นรอบสุดท้าย ซึ่งก็ใช้เวลานานเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว ก่อนที่จะวายน้ำกลับขึ้นมา แต่ทว่าหางตาข้างขวามันกระตุกไม่ยอมหยุด หญิงสาวรู้สึกใจหาย เหมือนมีลางร้ายยังไงยังงั้น พลอยใสเริ่มใจคอไม่ดี อยากจะกลับไปหาลูกเสียตั้งแต่วันนี้เลย "นี่ค่าจ้าง อีกสองอาทิตย์นะ ถึงจะมีงานอีกครั้ง" พี่อ๊อดบอกกับหญิงสาวขณะที่จ่ายเงินค่าแสดงเงือกให้เธอ "หากมีโชว์ที่อื่นบอกพลอยด้วยนะคะ คือถ้าเกิดมีงานแค่เดือนละสองครั้งมันน้อยไปค่ะ" พลอยใสต่อรอง เพราะเมื่อก่อนมีงานทุกเสาร์อาทิตย์ตอนนี้มีแค่เดือนละสองครั้งเท่านั้นเอง "พี่จะพยายามหางานให้ แต่พลอยก็รู้ว่าตอนนี้มันเศรษฐกิจไม่ดี" "พลอยเข้าใจค่ะ แต่ถ้าหากมีเจ้าอื่นจ้างงานเสริม หรือหานักแสดงเพิ่ม พี่อ๊อดบอกพลอยด้วยนะคะ" เธอยกมือไหว้อ้อนวอนอีกครั้ง อยากมีงานเยอะๆจะได้พาลูกมาอยู่ด้วยกัน พี่อ๊อดจึงพยักหน้าให้ ก่อนที่หญิงสาวจะเดินเข้าห้องแต่งตัว และขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา "ว่าไงจ้ะ ป้าลำไย" พลอยใสกรอกเสียงตามสายเมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามา "รีบกลับมาบ้านเลยพลอย น้องเพชรโดนรถชน" "อะไรนะคะ ป้าว่าอะไรนะ" หญิงสาวแทบจะสิ้นสติ เมื่อได้ยินเสียงปลายสายพูดว่าลูกชายของเธอโดนรถชน "ก็ยายพิมพ์น่ะสิ เมาหลับตั้งแต่ตอนบ่าย เพชรกล้าเดินออกไปนอกบ้าน จนโดนรถชน" "แล้วตอนนี้ลูกพลอยอยู่ที่ไหน เพชรเป็นยังไงบ้าง" พลอยใสกำโทรศัพท์ในมือเอาไว้แน่น เธอกำลังภาวนาขออย่าให้ลูกเป็นอะไรเลย "มีพลเมืองดีพาไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ป้ากำลังจะตามไป" ป้าลำไยบอกเธออย่างนั้น ทำให้พลอยใสรีบใส่เสื้อผ้า ก่อนจะวิ่งไปที่ลานจอดรถ และขับออกไปทันที
ร่างสูงของคริสเตียนโน่ เดินตามกลิ่นหอมของอาหารเข้ามาในครัว เขามองเห็นร่างบางของพลอยใส กำลังยืนทำอาหารอยู่ตรงนั้น ข้างๆกันมีเพชรกล้ายืนอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ มองดูแม่ ทำอาหารอย่างสนใจ และได้ยินเสียงหวานของพลอยใสถามลูกว่า "น้องเพชรจะเอาไข่กี่ใบครับ" " เอา 2 ใบครับ" เด็กชายตัวน้อยตอบคุณแม่ทันควัน "อู้ กินไข่ตั้งสองใบ ลูกแม่ต้องแข็งแรงแน่ๆ" " ถ้าเพชรหายแล้ว แม่พาเพชรไปดูหมูเด้งนะครับ" ตอนนี้เด็กๆคนไหนก็อยากจะดูหมูเด้งกันทั้งนั้น แม้แต่น้องเพชรกล้าที่อยู่ต่างจังหวัด ก็อยากจะไปดูหมูเด้งเหมือนกัน " แน่นอนถ้าเพชรหายแล้ว แม่จะพาไปดูหมูเด้ง แล้วก็พาไปเที่ยวทะเลด้วยนะครับ" เธออยากพาลูกไปเที่ยวทะเล เพราะพัทยากับเขาเขียวมันอยู่ทางเดียวกัน " เย้ เพชรรักแม่ที่สุดเลยครับ" เพชรกล้าโผเข้ากอดคนเป็นแม่อย่างดีใจ เด็กชายตัวเล็ก ไม่เคยไปเที่ยวทะเลเลยสักครั้ง เพราะตั้งแต่ลูกอายุ 1-4 ขวบ พลอยใสก็เลี้ยงลูกอยู่ ให้แต่ในโคราชตลอด ไม่เคยพาไปเที่ยวที่ไหนเลย จนกระทั่ง ขายของในตลาดไม่ดี เธอเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ และยังไม่มีโอกาสพาลูกไปเที่ยวทะเลเลย คริสเตียนโน่ยืนมองภาพนั้นอยู่เงียบๆ เห็นแม่ลูกคุยกันอย่
หลังจากเดินออกจากห้องของจรรยาแล้ว คริสเตียนโน่เรียกเดือนหยาด ให้เข้าไปหาในห้องทำงาน เพื่อที่จะสอบถามในเรื่องที่ค้างคาใจมานานแสนนาน เรื่องในอดีตที่ยังไม่ได้คำตอบ เขาพยายาม สอบถามพลอยใสแล้ว แต่หญิงสาวบอกแต่เพียงว่า ถ้าหากไม่คิดที่จะเชื่อใจกัน ก็ไม่ต้องมาคุยเรื่องนี้กันอีก แล้วจะให้เขาเชื่อใจเธอได้ยังไงล่ะ ถ้าหากว่าเธอไม่ยอมอธิบาย เพราะภาพที่เห็นวันนั้น มันชัดแจ้งว่า พลอยใสมีผู้ชายคนอื่นจริงๆ ถึงจะเป็นเรื่องในอดีตก็เถอะ แต่มันเป็นเพราะเรื่องนี้ เขาไม่สามารถสนิทใจกับเธอได้เลย มันเป็นเพราะเรื่องนี้ที่เขายังระแวงต่อเธอ 'ความรู้สึกเหมือนโดนสวมเขา มันเกิดขึ้นมาตลอด ถึงแม้จะพิสูจน์แล้วว่า เพชรกล้าคือลูกของเขาก็ตาม' " คุณคริสมีอะไรจะให้เดือนรับใช้หรอคะ" เดือนหยาดถามชายหนุ่มเสียงเรียบ พยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่จริงแล้ว เธอกำลังลุ้น ว่าเขาจะถามอะไร " ฉันอยากจะให้เธอเล่าอย่างละเอียด ว่าเหตุการณ์วันนั้น เธอเห็นอะไรบ้าง เล่ามาให้หมด" ชายหนุ่มยังติดใจรูปภาพพวกนั้น ที่เดือนหยาดเคยเอามาให้เขาดู " เดือนเห็นแค่นั้นล่ะค่ะคุณคริส ตอนนั้นเดือนจำได้ว่า เดือนไปเดินห้าง แล้วออกมาเรียกแท็กซี
"เดือนไปส่งคุณหนูที่เรือนหลังเล็กเรียบร้อยแล้วนะคะ" หลังเดินกลับมาจากเรือนหลังเล็ก เดือนหยาดเข้ามารายงานคริสเตียนโน่ ภายในห้องทำงานของเขา และยังใส่ไฟพลอยใสต่อไปอีกว่า"เดือนบอกไปแล้วนะคะว่าจะพาคุณหนูขึ้นมาเลี้ยงบนตึกใหญ่ แต่คุณพลอยเธอไม่ยอม เธอบอกว่าลูกของเธอ เธอจะเลี้ยงเอง""อวดดี ทำไมถึงเรื่องมากจังนะ" มาเฟียหนุ่มสบถเบาๆ เขาไม่ชอบความดื้อรั้นของพลอยใสเลย ตอนที่ตกลงกันเขาบอกเธอแล้วว่า ให้ขึ้นมาอยู่บนตึกใหญ่ พาลูกมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน แต่พลอยใสบอกว่า อยากจะอยู่แบบเป็นส่วนตัวกับคุณแม่ เขาเลยสั่งให้เดือนหยาดเตรียมเรือนรับรองไว้ให้ แต่เขาไม่อยากจะทิ้งเพชรกล้าให้อยู่กับพิมพ์ใจตามลำพังเลย เขาไม่ไว้ใจ กลัวว่าถ้าหากพลอยใสไม่อยู่ พิมพ์ใจจะดูแลหลานไม่ดี "งั้นก็สั่งพี่เลี้ยง ให้ไปดูแลเพชรกล้าที่เรือนหลังเล็ก และก็ดูแลอาหารการกินอย่าให้ขาดตกบกพร่อง" เขาจึงสั่งให้หาพี่เลี้ยง และแม่ครัวไปดูแลลูกชาย ไม่ได้อยากให้ดูแลคนอื่นเลยนะ อยากให้ดูแลแค่ลูกชายของเขาจริงๆ " คุณคริสเหนื่อยมาทั้งวัน ขึ้นไปนอนแช่น้ำอุ่นๆไหมคะ เดี๋ยวเดือนจัดการเปิดน้ำอุ่นไว้ให้" เดือนหยาดพยายามเอาใจคริสเตียนโน่ อยากดูแลเกินหน้าที่
วันต่อมา รถตู้คันหรูของคริสเตียนโน ขับพาทุกคนออกจากโคราชและมาถึงคฤหาสน์ของเขาในตอนเย็นๆ พิมพ์ใจมองคฤหาสน์หลังใหญ่ สไตล์ยุโรปอย่างคาดไม่ถึง"ทำไมมันหลังใหญ่ขนาดนี้วะ นี่มันบ้านคน หรือว่าพระราชวังวะนังพลอยใส ทำไมผัวเอ็งมันถึงรวยขนาดนี้" เธอพูดไปตามประสา แต่พลอยใสกระทุ้งศอกเข้าที่สีข้าง บอกให้แม่หยุดพูดเสียที เพราะดูเหมือนว่ามีหลายอย่างที่พิมพ์ใจ ยังไม่รู้ความจริง"เบาๆ แม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น" เธอพยายามบอกให้แม่หยุด แต่พิมพ์ใจยังพูดต่อว่า"ไม่ใช่อย่างนั้น แล้วมันยังไงวะ ถ้าไม่ใช่ผัว แล้วพ่อคริสเขาเป็นอะไรกับเอ็ง"พลอยใสชะโงกไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างหน้า กลัวว่าเขาจะได้ยิน อันที่จริงเรื่องที่เธอมาเป็นเมียเก็บของเขา พลอยใสไม่เคยเล่าให้แม่ฟัง พิมพ์ใจรับรู้แค่ว่า เธอมาทำงานที่กรุงเทพ และส่งเสียตัวเองเรียนแค่นั้น ถึงพิมพ์ใจจะเป็นแม่ที่แย่แค่ไหน แต่พลอยใสก็ไม่อยากจะให้แม่รับรู้ ในเรื่องแย่ๆ ของตัวเอง "ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่แม่คิดหรอก เอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้แม่อย่าพึ่งถามอะไรเลย"เธอบอกอย่างตัดบท ไม่อยากจะพูดมากไป เพราะคริสเตียนโน่นั่งอยู่ทางด้านหน้า กลัวว่าเขาจะได้ยิน แต่อันที่จริงแล
" อะไรกันน่ะแม่ คนพวกนี้เป็นใคร" หญิงสาวตกตะลึงเมื่อเห็นชายฉกรรจ์อยู่ในบ้านกันหลายคน และแต่ละคนน่ากลัวกันทั้งนั้น จะว่าเป็นคนของคริสเตียนโน่ ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะคนพวกนั้นยังเฝ้าเพชรกล้าอยู่เลย แล้วแต่งตัวเป็นนักเลงบ้านนอกขนาดนี้มันไม่ใช่อย่างแน่นอน"ข้ามาทวงเงิน แม่เอ็งติดหนี้ข้า ถ้าหากไม่มีเงินใช้ เอ็งย้ายของออกจากบ้านไปเลย บ้านหลังนี้ข้าจะยึด" เสี่ยเจ๋งพูดเรื่องหนี้สินทันที"แม่ แม่ไปติดหนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพลอยไม่เห็นรู้เรื่องเลย" พลอยใสก็รู้ว่าแม่ใช้เงินเก่ง แต่พักหลังๆเธอก็ส่งให้มากแล้วนะ"นานแล้วหละลูก มันทบต้นทบดอกมาเรื่อยๆ" พิมพ์ใจพูดขมุบขมิบเสียงอ่อย ก่อนจะค่อยๆหลบสายตา อันที่จริงมันก็เปฺนเพราะเรื่องนี้แหละ ที่เธอกลุ้มอกกลุ้มใจ จนเมาหัวราน้ำแทบจะทุกวัน"ทบต้นทบดอก? แล้วมันเท่าไหร่ล่ะแม่" พลอยใสถาม อยากจะรู้จำนวนเงินที่แท้จริง อันที่จริงเธอก็ไม่มีเงินมาจ่ายเขาหรอก เพราะแค่ค่าผ่าตัดเพชรกล้าก็หมดไปหลายตังค์ ยังดีที่ผู้ชายคนนั้นมาจ่ายค่าห้องพักพิเศษ และค่ายาอื่นๆที่จำเป็น ถ้าไม่อย่างนั้น ลำบากกว่านี้แน่นอน"เงินต้นสามแสน ดอกร้อยละยี่สิบคูณหนึ่งปี เอ็งว่ามันเท่าไหร่กันล่ะ" ย
หญิงสาวจึงก้าวขึ้นรถของเขาอย่างเสียมิได้ ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะก้าวขึ้นตาม พลอยใสนั่งมองออกนอกหน้าต่าง รอว่าคนตัวโตอยากจะคุยอะไรกับเธอ และแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า"พี่ขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม" " มีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ" พลอยใสนั่งเกร็งแทบจะเป็นหุ่นยนต์ มือเล็กกำกระโปรงตัวเองเอาไว้แน่น รอฟังว่าเขาจะพูดอะไรออกมา "ถ้าลูกหายดีแล้ว พี่จะพาไปอยู่ที่บ้าน" ใจเธอหายวาบ เมื่อได้ยินเขาพูดคำนั้น มันไม่ผิดไปจากที่เธอคิดเท่าไหร่นัก แต่ทว่า หญิงสาวก็ยังไม่เข้าใจ'ทำไมเขาถึงต้องการลูกชายของเธอ'"ทำไมคุณถึงต้องการเด็กคนนี้ล่ะคะ ครั้งหนึ่งคุณเคยบอกให้ฉันไปเอาออกไม่ใช่เหรอ" เธอตอกย้ำคำพูดเดิม ทำให้มาเฟียหนุ่มถึงกับหน้าชา แต่แล้วเขาก็หาเหตุผล มาพูดกับเธอจนได้"ใช่!พี่เคยพูดอย่างนั้น พี่ขอโทษ แต่หลายปีมานี้ พี่ตามหาพลอยมาตลอดเลยนะ""ตามหาทำไมคะ ในเมื่อตอนที่ฉันเดินออกมา คุณไม่เคยรั้งเอาไว้เลย ตรงกันข้ามคุณกำลังเตรียมจัดงานแต่งกับผู้หญิงที่คู่ควร" พอคิดถึงเรื่องในอดีต หัวใจมันเจ็บจนจุก ผู้หญิงอย่างเธอต้องหอบท้องมาคลอดที่บ้านอย่างไร้ราคา ตรงกันข้ามกับผู้หญิงคนนั้นที่เขาเทิดทูล ให้เกียรติกันทุกอย่าง แต่พลอยใสก็เข้าใ
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเพชรกล้า" หญิงสาวเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่วเบา "ไม่เป็นไร พี่บอกแล้วว่าเขาก็เป็นลูกของพี่เหมือนกัน" คำพูดนั้น ทำให้พลอยใสแหงนมองผู้ชายตรงหน้า ดูเขาจะมั่นใจว่าเพชรกล้าคือลูกของตัวเองแบบร้อยเปอร์เซ็น แล้วถ้าหากผู้ชายคนนี้อยากจะแย่งลูกเธอขึ้นมา พลอยใสจะทำยังไง แววตาของหญิงสาว กำลังสั่นระริกด้วยความสับสนห่วงลูกก็ห่วง กลัวว่าผู้ชายคนนี้จะมาแย่งลูกไปก็กลัว แต่ในระหว่างที่พลอยใสกำลังคิดมากอยู่นั้น หมอที่ทำการผ่าตัดเดินออกมาบอกเธอว่า" หมอได้ทำการผ่าตัดเพื่อระบายลมและเลือดที่ปอดออกให้แล้วนะครับ ส่วนที่ขา หมอได้ทำการใส่เผือกแข็งให้แล้ว ตอนนี้อาการของเด็กอยู่ในขั้นปลอดภัย"ขอบคุณค่ะคุณหมอ" พลอยใสยกมือไหว้เขาทันที"ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว คุณแม่เชิญกลับไปก่อนก็ได้นะครับ พรุ่งนี้ค่อยกลับมาเยี่ยมใหม่ หากมีอะไรรุนแรง หมอจะโทรตามทันที" คุณหมอบอกอย่างนี้ เพราะเห็นว่าพลอยใสนั่งเฝ้าอยู่ตรงหน้าห้องผ่าตัดมาหลายชั่วโมง เธอควรได้กลับไปพักผ่อนเสียที"ฉันจะเฝ้าลูกอยู่ตรงนี้ค่ะ" เธอบอกคุณหมอ พร้อมมองเข้าไปที่ห้องไอซียู เพชรกล้านอนรักษาตัวอยู่ในนั้น มีสายระโยงระยังเต็มไปห
และในขณะเดียวกันนั้น มาเฟียหนุ่มกำลังนั่งดูเวลาที่มือถือ อีกสองชั่วโมงพลอยใสก็จะเข้างาน ถึงเวลานั้นเขาจะเปิดกล้องวงจรปิดดูว่า เธอจะโทรหาลูกชายอีกหรือเปล่า หรือว่าเธอกำลังทำอะไร เขาไม่ใช่พวกโรคจิตที่ชอบถ้ำมองนะ แต่ทว่าตั้งแต่มาทำงานที่ปอยเปต เขาเปิดกล้องวงจรปิด เพื่อสอดส่องพลอยใสแทบจะทุกวัน แต่วันนี้ผ่านไปสิบห้านาที พลอยใสยังไม่เข้ามาทำงาน เธอหายไปไหน ชายหนุ่มเริ่มกระวนกระวาย หรือเธอนัดใครเอาไว้ ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์หาลูกน้องคนสนิททันที"พลอยใสหายไปไหน ทำไมไม่เข้ามาทำงาน""ผมกำลังขับรถตามเธออยู่ครับเจ้านาย รู้สึกเธอจะมาที่โรงพยาบาล" มาโนชขับตาม GPS มาจนกระทั่งรู้ว่าเส้นทางที่พลอยใสไปนั้นมันคือโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในโคราช และตอนนี้เขากำลังเดินตามห่างๆ ไม่ให้หญิงสาวรู้ตัว "โรงพยาบาลที่ไหน ใครเป็นอะไร" คริสเตียนโน่เอ่ยถามอย่างร้อนรน"ผมก็ยังไม่ทราบครับ ถ้าได้เรื่องแล้ว ผมจะโทรรายงานเจ้านายทันที" มาโนชบอกกับเขา ก่อนจะวางสายไป เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มาโนชก็โทรรายงานเขาว่า"ได้เรื่องแล้วครับเจ้านาย ลูกชายของพลอยใสถูกรถชนครับ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน หมอยังไม่ออกมาเล
หลายอาทิตย์ผ่านไป ชีวิตของพลอยใสดูเหมือนว่าปกติสุขมาก เพราะเขาคนนั้นหายไป ได้ข่าวว่าเขาไปดูแลคาสิโนแห่งใหม่ในปอยเปต ซึ่งเธอได้ยินข่าวมาว่าหุ้นกันกับเพื่อนเปิดคาสิโนแห่งใหม่ใหญ่โตเลยทีเดียว คนรวยก็อย่างนี้แหละ เขาไม่มีเวลาใส่ใจเธอนักหรอก แต่มันก็ดีเหมือนกัน รู้สึกหายใจลื่นขึ้นมาบ้าง ไม่งั้นต้องนั่งเกร็งตลอดเวลา กลัวเขาจะรู้ความลับ ขนาดโทรศัพท์เธอยังไม่กล้าคุยในห้องนี้เลย และแล้วเธอก็รู้สึกถึงแรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของตัวเอง 'แม่โทรมาอีกทำไม' หญิงสาวมองโทรศัพท์แล้วนึกแปลกใจ เพราะก่อนออกจากห้อง เธอก็โทรไปหาแม่กับลูกแล้ว หญิงสาวเหลียวหน้าแลหลัง เมื่อเห็นว่าไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องนั้น จึงกดรับทันที"ฮัลโล ว่าไงจ้ะแม่""ก็ไอ้เพชรน่ะ มันงอแงไม่ยอมนอน มันบอกว่าอยากจะคุยกับเอ็ง""ฮัลโหลเพชร ว่าไงครับลูก ทำไมยังไม่นอน" เธอกรอกเสียงหวานผ่านโทรศัพ์พูดคุยกับลูกชาย ทั้งๆที่พึ่งวางสายไปไม่ถึงชั่วโมง แต่เพชรกล้าก็รบเร้าคนเป็นยาย ให้โทรหาพลอยใสอีกครั้ง เพื่อที่เขาจะบอกแม่ว่า "เพชรคิดถึงแม่นะครับ เมื่อไหร่แม่จะกลับมา""ปีใหม่ไงครับ แม่บอกเพชรแล้วไง อีกไม่กี่อาทิตย์เอง นอนซะเถอะนะลูก