หน้าหลัก / โรแมนติก / พันธะเมียชั่วคืน / ตอนที่ 4 อีกหนึ่งชีวิต01

แชร์

ตอนที่ 4 อีกหนึ่งชีวิต01

ผู้เขียน: อินทุภา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-09 21:02:45

ตลอดเกือบสามเดือนที่ผ่านมา วาสิตาใช้ชีวิตไปตามแบบของตัวเอง เรียบง่าย เงียบเหงา แต่ก็ทำใจเรื่องของอิชย์ได้มากแล้ว อย่างน้อยก่อนนอนเธอก็เลิกร้องไห้ให้กับเขาได้เสียที

หลังจากสมัครเข้ามาทำงานที่ภัตตาคารอาหารจีนชื่อดังตามคำแนะนำของเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอย่างเปรมิกา วาสิตาก็ขยันขันแข็ง เรียนรู้งานและหมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จนกลายเป็นที่รักของทุกคนในที่ทำงานใหม่ได้ระยะเวลาอันสั้น ซ้ำยังทำให้ผู้จัดการเกิดความเมตตาเอ็นดูอีกด้วย

แต่หลายวันให้หลังมานี้ วาสิตารู้สึกไม่ค่อยสบายนัก คล้ายกับว่าร่างกายมีบางอย่างผิดปกติไปจากเดิม คิดไม่ทันไร เธอก็ยกมือขึ้นปิดปากฉับ แล้ววิ่งเข้าไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำจนหมดไส้หมดพุง

เธอมีอาการแบบนี้มาหลายสัปดาห์แล้ว ยิ่งงานใหม่คือพนักงานเสิร์ฟที่ต้องได้กลิ่นอาหารไม่ซ้ำเมนูอยู่ตลอด ยิ่งทำให้มวนท้องและนึกอยากอาเจียนอยู่เรื่อยๆ จนแทบเสียงาน โชคดีที่ผู้จัดการสาวเข้าใจดีว่าความเจ็บป่วยนั้นห้ามกันไม่ได้ จึงไม่ได้คิดจะตำหนิต่อว่าอะไร

“หน้าซีดเชียววา ลางานกลับบ้านไปพักก่อนไหม”

เพื่อนวัยเดียวกันที่ชื่อเปรมิกาตามเข้ามาดูอาการ หวังจะช่วยลูบไหล่ลูบหลังให้ แต่วาสิตาอาเจียนจนหมดตัวไปเรียบร้อยแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอกปู เราไหว สงสัยจะนอนน้อยน่ะ”

คนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ยืนอิงสะโพกไว้กับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า แล้วหยิบยาดมจากกระเป๋าเสื้อออกมาจ่อตรงจมูก ใบหน้างามยามนี้ซีดเผือดไร้สีสันของเลือดฝาด ริมฝีปากแห้งผากและหายใจแรงจนทรวงอกสะท้อนขึ้นลงหนักหน่วง

“ไหวแน่เหรอ ดูเหมือนจะยืนไม่อยู่แล้วนะนั่น...ว้าย!”

เปรมิกาทักท้วงยังไม่ทันจบประโยคดี ร่างของวาสิตาก็โงนเงนไม่มั่นคง คงล้มลงฟาดพื้นไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะเพื่อนสาวรีบปรี่เข้าไปช่วยประคองได้ทัน

เปรมิกาตะโกนดังลั่นเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ข้างนอก โชคดีที่เสียงดังเล็ดลอดออกไปถึงหูพนักงานชายคนหนึ่ง ทำให้เขารีบรุดเข้ามาในห้องน้ำหญิงทันที

“ช่วยด้วยเอก! ช่วยวาที วาเป็นลม!”

“ได้ครับ พี่ปู!” เอกภพพยักหน้า รีบปราดเข้าไปช้อนร่างไร้สติของวาสิตาขึ้นสู่อ้อมแขนโดยไม่รีรอ “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ทำไมพี่วาถึงได้เป็นลมแบบนี้ล่ะพี่ปู หน้าซีดมากเลยด้วย”

“น่าจะไม่สบายน่ะ เห็นดูไม่ดีมาหลายวันแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอะไรมากไหม เดี๋ยวเอกพาวาไปที่ห้องพักพนักงานก่อนนะ พี่จะรีบไปบอกพี่หยกก่อน”

เปรมิกาหมายถึงยาตราหรือหยก ผู้จัดการสาวของภัตตาคารอาหารจีนแห่งนี้ เมื่อเอกภพพาร่างของวาสิตาออกไปจากห้องน้ำแล้ว เธอก็รีบวิ่งไปรายงานให้ยาตรารู้ทันที

แน่นอนว่ามีคำสั่งให้นำตัววาสิตาส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เนื่องจากเห็นว่าอีกฝ่ายมีอาการไม่สู้ดีมาหลายวันแล้ว เกรงว่าหากให้นอนพักจนกว่าจะได้สติขึ้นมาเอง อาจจะเกิดอันตรายเอาได้

“ปูไปกับวาเลยนะ ทางนี้ไม่ต้องห่วงหรอก พี่จะให้คนอื่นจัดการแทนก่อน” ผู้จัดการสาวว่า

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่หยก” เปรมิกายกมือไหว้

“จ้ะ ไปเถอะ ได้เรื่องยังไงก็โทร. มาบอกพี่ด้วยนะ พี่เองก็ห่วงวา เห็นดูไม่ค่อยสบายมาหลายวันแล้ว บอกให้หยุดพักอยู่บ้านสักวันก็ไม่ยอม ขยันจนได้เรื่อง เฮ้อ”

สิ้นคำพูดของยาตรา เปรมิกาก็พยักหน้ารับคำ ก่อนจะรีบรุดเข้าไปหาเอกภพเพื่อขอให้ช่วยนำตัววาสิตาออกไปทางประตูหลัง โดยมีคนขับรถของภัตตาคารช่วยพาไปส่งให้ยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

เมื่อถึงปลายทาง ร่างของวาสิตาก็ถูกนำหายเข้าไปได้อึดใจหนึ่งแล้ว เปรมิกาเป็นคนบอกอาการโดยรวมที่สังเกตเห็นมาตลอดหลายวันกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะแยกตัวออกไปแจ้งประวัติคนไข้ตรงเคาน์เตอร์ โดยไม่ลืมโทรศัพท์ไปแจ้งให้ป้าบุหลันทราบเรื่องก่อนด้วย ซึ่งผู้เป็นป้าก็รอจนลูกค้ากลุ่มสุดท้ายออกจากร้านข้าวมันไก่จนหมด ถึงได้รีบปิดร้านแล้วมุ่งหน้าตามไปที่โรงพยาบาลทันที

เมื่อบุหลันมาถึงโรงพยาบาลก็พบว่าวาสิตาถูกย้ายตัวขึ้นไป แอดมิตบนตึกเรียบร้อยแล้ว ได้ห้องพักผู้ป่วยพิเศษซึ่งเป็นหนึ่งในสวัสดิการของการทำงานด้วย เปรมิกาผุดลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อประตูเปิดออก เธอยกมือไหว้ป้าบุหลันอย่างนอบน้อม แล้วตรงเข้าไปช่วยรับตะกร้าผลไม้ที่ท่านซื้อมาเยี่ยมหลานสาว

“หมอว่ายังไงบ้างจ๊ะ หนูปู” คำถามแรกเต็มไปด้วยความร้อนใจ

“เอ่อ...” เปรมิกาไม่กล้าตอบ ได้แต่อึกอัก สีหน้าดูอึดอัดใจ

“ว่ายังไงลูก หรือวาเป็นอะไรร้ายแรง หนูถึงไม่กล้าบอกป้า”

“เปล่าหรอกค่ะ คุณป้า จะว่าร้ายแรงไหมก็คงไม่ แต่มัน...ไม่รู้สิคะ ปูไม่รู้ว่าควรพูดหรือเปล่า”

“บอกป้ามาเถอะ ป้าสังหรณ์ใจแปลกๆ เพราะอาการของวา มันเหมือนคน...” บุหลันนิ่งเงียบไป ไม่ยอมพูดต่อ สายตาทอดมองเพื่อนสนิทของหลานสาวอย่างต้องการความจริง

“คือวา...วาท้องค่ะ คุณป้า”

เมื่อทนสายตารบเร้าไม่ไหว เปรมิกาจึงยอมพูดออกมา

“วาท้องงั้นเหรอ...”

บุหลันตกใจจนหน้าซีด แม้จะทำใจไว้ก่อนแล้วก็ตาม เพราะคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมมองออกว่าอาการคลื่นไส้อาเจียน ได้กลิ่นอาหารแล้วเหม็นไปหมดอย่างนั้น มันบ่งบอกถึงอาการของอะไร

“ใช่ค่ะ คุณหมอบอกว่าตอนนี้วากำลังตั้งท้องอ่อนๆ แล้วร่างกายก็อ่อนเพลียมากจากการแพ้ท้อง เลยต้องให้วาแอดมิตดูอาการไปก่อนค่ะ ไม่งั้นกลัวว่าอาจจะกระทบกระเทือนถึงเด็กในท้องเอาได้”

เปรมิกายืนยันซ้ำอีก สีหน้าท่าทางดูลำบากใจเป็นที่สุด

เธอรู้จักกับวาสิตามาตลอดสี่ปีตอนเรียนมหาวิทยาลัย เพิ่งจะแยกย้ายกันไปทำงานคนละที่หลังเรียนจบ แทบไม่ได้ติดต่อกันเลยในระยะเวลาสองปี จนกระทั่งบังเอิญเจอกันที่ร้านข้าวมันไก่ของป้าบุหลัน ถึงได้พูดคุยกันและชวนให้วาสิตาที่กำลังว่างงานมาสมัครงานที่เดียวกันดู

เปรมิกาเพิ่งจะได้กลับมาคลุกคลีกับเพื่อนเพียงแค่สามเดือน ดังนั้นจึงไม่รู้จริงๆ ว่าวาสิตาจะท้องกับใครได้ ในเมื่อเธอไม่เคยเห็นอีกฝ่ายพูดถึงคนรักเลยสักครั้ง วาสิตาเคยบอกด้วยซ้ำว่าตัวเองยังโสด เพราะแบบนี้เองเธอจึงลังเลไม่กล้าบอกป้าบุหลัน

แต่ก็ทนต่อการรบเร้าไม่ได้จึงต้องพูดออกมา

เมื่อได้ยินแบบนั้นชัดเจน ป้าบุหลันก็ถึงกับทรุดฮวบลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง ได้แต่ตั้งคำถามอยู่ในหัวว่าหลานสาวกำลังตั้งท้องกับใคร ในเมื่อไม่เคยเห็นวาสิตาคบหากับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย หรือจะเป็นใครสักคนในที่ทำงานเดิม

คนที่อาจเป็นต้นเหตุทำให้วาสิตาเลือกลาออก

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พันธะเมียชั่วคืน   ตอนพิเศษ 3

    นับตั้งแต่มะปรางจากไปพร้อมกับลูกในท้อง เขาก็ไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนอีกเลย เพราะไม่เคยมีความคิดที่จะให้ใครมาแทนที่ภรรยาสุดที่รักอัญรสเองก็บริสุทธิ์ใจเสียจนคิดน้อย ลืมไปแล้วว่าคนข้างตัวเป็นผู้ชายที่มีเลือดเนื้อและกำลังมึนเมาเสียด้วย เธอพาเขาเข้าไปในห้อง นึกโล่งใจที่ตอนนี้มารดาไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นท่านคงดุด่าว่ากล่าวอย่างหนักแน่ ที่เธอให้ความช่วยเหลือคนที่ท่านเกลียดชังเข้าไส้“เดี๋ยวค่ะ ไปห้องน้ำสิคะ อย่าอ้วกใส่เตียงนะพี่ชิน!”เธอร้องบอก เมื่อเขาไม่ยอมให้ประคองไปทางห้องน้ำ แต่กลับโซซัดโซเซไปที่เตียงนอน แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่อยู่บนนั้นแทน เจ้าของห้องมองแล้วถอนหายใจพรืด โล่งอกไปที่เห็นเขาหลับตาลง ไม่ได้อาเจียนพุ่งอย่างที่เธอนึกกังวลไปเองอัญรสยืนเคว้งอยู่กลางห้อง หัวใจเต้นรัวในตอนที่ก้าวช้าๆ ไปยืนมองชยุตม์ พี่ชายข้างบ้านที่เธอเคยปลื้ม แต่ตอนนี้กลายเป็นหลงรักจนหัวปักหัวปำไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่าอนวัตผู้เป็นพี่ชายเกิดความหมางใจกับเพื่อนสนิทคนนี้เข้า เธอก็คงได้วนเวียนใกล้ชิดเขาไม่ห่างเหมือนเมื่อก่อนอัญรสยิ้ม เมื่อนึกถึงตอนที่ให้ชยุตม์ช่วยสอนทำการบ้านบ้าง ช่วยประดิษฐ์งานส่งอาจารย์บ้าง แล้วยังช่วยติ

  • พันธะเมียชั่วคืน   ตอนพิเศษ 2

    แน่นอนว่าเมื่อเหล้าเข้าปาก ใครเล่าจะหยุดยั้งได้...ดื่มไป คุยไป ได้อรรถรสจนเผลอรินเพิ่มอีกไม่รู้กี่แก้ว งานเลี้ยงเลิกราแล้ว คู่บ่าวสาวเพิ่งถูกส่งตัวเข้าห้องหอ ซึ่งเป็นห้องสวีตสุดหรู ชั้นบนสุดของโรงแรม หลังคุณปู่อรรคกับป้าบุหลัน รวมทั้งคนสนิทอื่นๆ อีกไม่กี่คน ขึ้นไปร่วมอวยพรและส่งตัวบ่าวสาวแล้ว บรรดาเพื่อนสนิทของวาสิตาก็ยังไม่ยอมแยกย้ายกันกลับ แต่ลงมานั่งดื่มและคุยกันต่อ เพราะไหนๆ ก็ได้มารวมตัวกันทั้งที จึงอยากสนุกกันเต็มที่ไปเสียเลย“ชิน พอเถอะลูก ขึ้นข้างบนไปพักผ่อนเถอะ” บุหลันเห็นลูกชายลืมตัวดื่มไปมากก็นึกห่วง เดินมาชักชวนให้ขึ้นไปพักผ่อนบนห้องที่เปิดไว้ เพราะตอนนี้ก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว“อีกแป๊บนะครับแม่ กำลังคุยกับเจ้าโปรดสนุกๆ เลย” ชยุตม์ บอกเสียงอ้อแอ้“แต่ถ้าดื่มต่อ แม่กลัวชินจะกลับขึ้นห้องไม่ไหวน่ะสิ”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวปูให้โปรดพาขึ้นไปส่งก็ได้ค่ะ” เปรมิกาเสนอ“ใช่ครับ คุณป้า เดี๋ยวโปรดพาพี่ชินขึ้นไปส่งให้ก็ได้ครับ วันนี้โปรดกับปูก็เปิดห้องที่นี่ไว้แล้วเหมือนกัน รู้สึกจะอยู่ชั้นเดียวกันกับคุณป้าด้วยครับ”“ก็ได้ลูก ถ้างั้นป้าฝากพี่ชินเขาด้วยนะจ๊ะ”เมื่อปรีชาวัฒน์กับเปรมิกาอาสาว่าจ

  • พันธะเมียชั่วคืน   ตอนพิเศษ 1

    หนึ่งเดือนต่อมาพิธีแต่งงานใหญ่โตผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น อิชย์ควงภรรยาเดินอวดไปทั่วงาน แสดงความรักด้วยการจูงมือและหอมแก้มวาสิตาอวดคนอื่นอยู่บ่อยๆ เขาโง่มากที่ก่อนนี้มองไม่เห็นความงดงามทั้งภายในและภายนอกของเธอ แต่ช่างเถอะ นับจากวันนี้ไปเขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอหลุดมือไปไหนแน่...คุณปู่อรรค เปรมิกา ปรีชาวัฒน์ ยาตรา รวมทั้งคนอื่นๆ ทั้งทางฝ่ายวาสิตาและอิชย์ ต่างก็ยิ้มแย้มยินดีกับคู่บ่าวสาว พยานรักตัวน้อยในวัยเก้าเดือนเป็นที่รักและเอ็นดูของทุกคน ไม่ร้องไห้โยเยกวนใจใครเลย ราวกับเป็นใจให้พ่อและแม่ได้มีคืนวันที่ดีร่วมกัน“วันนี้เมียผมสวยจัง” เจ้าบ่าวดื่มเข้าไปไม่น้อยจึงปากหวานนัก“อย่าดื่มมากนักนะคะ เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา...”“กลัวผมไม่ไหวเอา หรือกลัวผมเอาไม่ไหวกันแน่” เขาหัวเราะร่วน“คุณอิชย์! พูดเบาๆ หน่อยสิคะ เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินเข้าหรอก”เจ้าสาวที่สง่างามและโดดเด่นน่ามองที่สุดในค่ำคืนนี้ ตีเบาๆ ตรงอกสามี ห้ามปรามไม่ให้เขาทำตัวก๋ากั่นนักต่อหน้าผู้คน โชคดีที่ผ่านช่วงที่ต้องขึ้นไปกล่าวอะไรเล็กๆ น้อยๆ บนเวทีไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงพูดอะไรเรื่อยเปื่อย จนเธออายม้วนทำตัวไม่ถูกแน่ๆ“ไม่เห็นต้องอายใครเลย

  • พันธะเมียชั่วคืน   ตอนที่ 31 ยอมแลกทุกอย่าง 06

    “เพราะความรักและการสำนึกผิดล้วนๆ เลยน่ะสิที่ทำให้ผมยอมแลกได้ทุกอย่าง ต่อให้ต้องอยู่ต่อไปอีกสักสิบปี ผมก็ยอมนะวา ผมมีความสุขดีกับชีวิตที่เรียบง่าย ขอแค่ได้เห็นหน้าลูกทุกวันก็พอ ผมรักลูก ผมอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีบ้าง ถ้าคุณยอมให้โอกาสผม...”ดวงตาของคนพูดทอประกายอ่อนลง เมื่อเอ่ยถึงแก้วตาดวงใจ วาสิตาถึงกับคอแข็ง เพราะถ้อยคำที่ตัวเองรอฟังยังคงไม่หลุดออกมาจากปากของเขา“ค่ะ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคุณรักลูก แล้วคุณมีแผนยังไงต่อเหรอคะ ถ้าฉันยอมให้โอกาสคุณ คุณจะเอายังไงกับลูก แต่ฉันบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันคงทนไม่ได้แน่ ถ้าคุณจะพาลูกกลับไปอยู่ด้วยที่กรุงเทพ ถึงจะแค่วันเดียวฉันก็คงทนไม่ได้ ฉันยอมรับค่ะว่าติดลูกมาก เพราะแทบไม่เคยปล่อยให้แกห่างอกเลย” หญิงสาวบอกความรู้สึกออกไปตามตรง“ผมก็ไม่ได้บอกว่าอยากจะพาลูกกลับไปกับผมแค่คนเดียวนี่วา ผมอยากให้คุณกลับไปกับผมด้วย”“จะดีเหรอคะ ถ้าวันนึงคุณเกิดอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใคร...”“เดี๋ยวนะ! นี่คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”อิชย์รีบขัด ยกมือห้ามไว้ไม่ให้เธอพูดต่อ“ที่คุณยอมทำทุกอย่างก็เพื่อลูกไม่ใช่เหรอคะ คุณรักลูกมาก แล้วฉันก็จะเลิกขัดขวางคุณ เพียงแต่ฉันกำลังบอกคุณไปตา

  • พันธะเมียชั่วคืน   ตอนที่ 31 ยอมแลกทุกอย่าง 05

    อิชย์ขยับตัวเบาๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมองเพดานสีขาว กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อของโรงพยาบาลพุ่งเข้ามาปะทะจมูกเป็นสิ่งแรก ตามด้วยความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ทำให้เขาขนลุกด้วยความเหน็บหนาวราวกับคนที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ มองออก เพราะทันใดนั้นเจ้าตัวก็หยิบรีโมตขึ้นมากดปิดการทำงานของมันทันที ชายหนุ่มอยากขยับหันไปมองว่าใครกันที่สละเวลามาเฝ้าดูแลเขา แต่อาการปวดหนึบบริเวณศีรษะที่ถูกเย็บมากกว่าสิบเข็ม ทำให้เขาจำเป็นต้องนอนนิ่งๆ ไปก่อน“เป็นยังไงบ้างคะ”เสียงหวานคุ้นหูทำให้อิชย์ลืมตัว รีบหันไปมองทันที“โอ๊ย!” คนเจ็บร้องลั่น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด“ระวังหน่อยสิคะ! คุณหัวแตกนะ ไม่ได้เป็นไข้หวัด”วาสิตาลุกพรวดจากเก้าอี้ ยืนอยู่ข้างเตียงในจุดที่มองสบตากับคนบนเตียงได้อย่างถนัดถนี่อิชย์หน้าซีดเผือดเหมือนไข่ปอก คุณหมอบอกว่าเขาเสียเลือดไปมาก แต่โชคดีที่ปฐมพยาบาลห้ามเลือดได้ทันและตามรถพยาบาลได้เร็วทันใจ เขาจึงไม่ช็อกเสียชีวิตไปเสียก่อนรู้แบบนั้นวาสิตาก็ใจหายมาก ตัดสินใจให้ป้าบุหลันกับชยุตม์กลับไปช่วยกันดูแลลูกชาย ส่วนเธออาสาเฝ้าดูแลอิชย์เสียเอง หวังจะไถ่โทษที่ทำให้เขาเจ็บตัวอย่างนี้“นี่ผมหลับไปนานมาก

  • พันธะเมียชั่วคืน   ตอนที่ 31 ยอมแลกทุกอย่าง 04

    ยิ่งเมื่อภาพเลือดแดงฉานวกเข้ามาในหัว หญิงสาวก็ยิ่งกลัวจนตัวสั่น มองมือของตัวเองแล้วน้ำตาไหล...เธอโทษว่าเขาเลว แต่ตัวเองกำลังเดินตามรอยเดียวกันตอนนั้นเองที่คำพูดของชยุตม์ดังขึ้นในความคิด...‘วารู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่เคยเข้าข้างใครไปมากกว่าวา พี่เจ็บแค้นแทนวามาตลอดที่วาถูกอิชย์มันรังแก แต่พี่ก็ไม่ใช่พวกหูเบาหัวอ่อนนะ พี่มองออกว่าสิ่งที่มันอดทนทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่การเสแสร้ง มันเข้าใจว่าพี่กับวาเป็นผัวเมียกัน มันก็ไม่เคยยอมแพ้ มันบอกไอ้เชิดว่าต่อให้วามีใครสักร้อยคน มันก็จะอดทนสู้ต่อไป ถ้ามันยังสันดานเหมือนเดิมล่ะก็นะ ป่านนี้มันคงฉุดวาแล้วก็แย่งลูกคืนไปนานแล้ว มันทำได้ แต่มันก็ไม่ทำ วาจะเกลียดมัน พี่ไม่ว่า แต่มันเจ็บปางตายแบบนี้ วาจะใจดำได้ลงคอเหรอ!’สิ่งที่พี่ชายของเธอพูด ถูกต้องที่สุดแล้ว หากอิชย์ต้องการตัวลูกจริง เขามีอำนาจมากพอที่จะแย่งชิงยอดดวงใจไปจากเธอได้ตั้งแต่แรก ไม่มีความจำเป็นต้องอดทนรอหรือพิสูจน์ตัวเองด้วยความยากลำบากมาจนถึงทุกวันนี้แม้อิชย์จะไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลเหมือนจามร แต่ตระกูลของเขาก็สามารถสั่งการทุกอย่างได้ในชั่วพริบตาเช่นกัน แต่เขากลับไม่ทำ เพราะอยากแสดงให้เห็นว่าเขารักลูกม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status