Home / โรแมนติก / พาล Blaming Her Sin / ตอน 6 คืนเดียวพอ

Share

ตอน 6 คืนเดียวพอ

last update Last Updated: 2025-06-16 01:36:36

ยลดามองไปตามสายตาพี่ชาย แล้วก็นิ่งอึ้ง

ไกลขนาดนี้ก็ยังมองเห็นผู้ชายตัวสูงผมยาวย้อมสีทองโดดเด่นแต่ไกล

แต่อะไรก็ไม่เท่ากับเสื้อกีฬายี่ห้อดังสีเขียวสะท้อนแสง กางเกงสีส้ม รองเท้าสีเหลือง...

บพิตรยิ้มกว้างเห็นฟันขาวทุกซี่มาแต่ไกล ก่อนจะกึ่งกระโดดกึ่งก้าวยาว ๆ ขึ้นมาหายศกรแล้วกระโดดกอดกันอย่างรักใคร่

อธิปที่เดินตามหลังมาส่ายหน้า ไม่รู้ทำไมไอ้เพื่อนคนนี้มันดีดนัก

ถ้าไม่รู้จักกันคงคิดว่าบพิตรเป็นพวกเล่นยาเพราะพลังล้นเหลือเหลือเกิน

"โหพี่บอม โคตรคิดถึงเลย ไหนว่าจะยังไม่กลับไทยง่าย ๆ ไง"

"ไม่กลับไม่ได้ แม่กูยึดบัตรเครดิตไปหมดแล้ว อยู่ต่อก็เหี่ยวแห้งหัวโต"

บพิตรตอบตามตรงตามประสาคนจริงใจก่อนหันมาแนะนำเพื่อนที่มาด้วย

"ไอ้ยอช นี่เพื่อนพี่ชื่ออาร์ต เพื่อนรักเพื่อนสนิทเลย...ไอ้อาร์ตนี่น้องกู รู้จักกันที่ลอนดอน ชื่อไอ้ยอช"

ยศกรยกมือไหว้อย่างนอบน้อมผิดกับลูกหลานไฮโซทั่วไปที่เห็นในละครคุณธรรม

"หวัดดีครับพี่อาร์ต ผมชื่อยศครับพี่ แต่ตอนอยู่ลอนดอนเพื่อนฝรั่งเรียกยอช พี่จะเรียกผมว่ายอชอีกคนก็ได้ครับ..."

อธิพยักหน้าทักทายเพื่อนรุ่นน้องคนใหม่ ไม่แปลกใจทำไมยศหรือยอชถึงสนิทกับบพิตรได้...ท่าทางคงเป็นพวกไฮเปอร์เหมือนกัน

ระหว่างที่สามหนุ่มยืนทักทายกันอยู่นั้น โชติรสนั่งหันข้างให้

เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักนอกจากเครื่องดื่มในมือและจังหวะดนตรีที่ทำให้โยกตัวเบา ๆ

จนเมื่อเห็นยลดาสีหน้าขัดเขินและมองข้ามไหล่เธอไปด้านหลัง หญิงสาวจึงเอียงหน้าไปมองบ้างแล้วก็ใจเต้นแรงขึ้นมาทันที

คุณอาร์ต!

แม้อธิป รชต จะเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้แค่สามเดือน แต่ในโซเชี่ยลมีเดีย "อาร์ต รชต" หรือ "อาร์ต อธิป" เป็นหนุ่มฮอตที่อยู่ในความสนใจของชาวเน็ตไทยในเวลาอันรวดเร็ว

ยิ่งอธิปไม่มีแอคเคาต์โซเชี่ยลมีเดียส่วนตัว แต่ขยันปรากฏในไอจีของนางเอกคนนั้น สักพักก็โผล่มาในไอจีนางงามคนนี้... แค่นี้ก็ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มฮอตที่คนอยากรู้จักมากที่สุดไปได้

โชติรสที่เคยค้นหาโปรไฟล์เขาอยู่บ่อย ๆ เพราะถูกตาต้องใจในความคมเข้มกับซิกแพ็ก ยังเคยแอบหวังว่าเขาอาจจะมาโผล่มาบนเที่ยวบินที่เธอให้บริการอยู่ หญิงสาวอุตส่าห์ได้ทำงานต้อนรับบนสายการบินไซแอมเจ็ท แต่ยังไม่เคยได้เห็นตัวจริงของลูกชายประธานบริหาร...มันน่าเสียดายใช่ไหมล่ะ

"อีแยม! นั่นคุณอาร์ต!"

โชติรสรีบหันขวับไปกระซิบกับเพื่อนสาวอย่างตื่นเต้น

ยลดาที่กำลังจ้องบพิตรแบบเอาเป็นเอาตายส่ายหน้า

"ไม่ใช่ พี่เขาชื่อบอม"

"อีบ้า ไม่ใช่ตาผมทอง ฉันหมายถึงคนที่อยู่ด้านหลังไปอีก คนที่หน้าฝรั่ง ๆ คนนั้นน่ะ..."

ยลดามองตามไป แล้วก็อ้าปากค้างไปอีกรอบ

"โอ้แม่เจ้า วันนี้มันวันรวมหนุ่มฮอตหรือไงกันยะ น่ากินมากแม่..."

"แกเอาคนผมทองไป คุณอาร์ตของฉัน"

โชติรสกระซิบเสียงต่ำกว่าเดิม แต่แววตาเอาจริง

"คนนี้คือลูกชายแชร์แมนของไซแอมเจ็ต..."

"อ้าว! บริษัทแกนี่"

"ใช่ คนผมทองแกเอาไป แต่คุณอาร์ต...ฉันจอง!"

"โอเค ดีล"

สองสาวส่งยิ้มให้กันตาเป็นประกาย มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ายังไงคืนนี้ต้องมีผู้ชายตกถึงท้องอย่างแน่นอน

* * * * *

ที่คฤหาสน์รชต

สามทุ่มกว่าแล้วตอนที่ลินดาเคาะประตูห้องนอนลูกสาว ก่อนจะเปิดเข้าไปเบา ๆ เมื่อเห็นว่าประตูไม่ได้ล็อก

"ลูกอม เป็นยังไงบ้างลูก"

ลลิตราที่ยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมกับที่ออกจากบ้านไปเมื่อเช้า ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง เธอนอนไปทั้งอย่างนั้นไม่ดึงผ้าคลุมเตียงออกด้วยซ้ำ ลลิตรากลับถึงบ้านตั้งแต่บ่าย หญิงสาวโกหกว่าอธิปไปส่งเธอหาหมอจริง ๆ และเมื่อเธอได้ยามาแล้วเขาก็ไปทำธุระของตัวเองต่อ ส่วนเธอก็กลับบ้าน

เธอบอกว่าขอกินยาแล้วก็พักผ่อน มื้่อเย็นก็ยังง่วงจนไม่ได้ลงไปกินข้าวร่วมโต๊ะกับอรรถและลินดา

ไม่คิดว่าจะนอนยาวมาจนถึงสามทุ่ม

"สีหน้าไม่ดีเลย อาการไม่ดีขึ้นเลยหรือลูก"

ลินดาเป็นกังวล แตะดูแผลที่โหนกแก้มกับตามเนื้อตัวของลูกสาว ก็เหมือนจะหายดีแล้ว แต่ทำไมตอนนี้อาการของลูกกลับดูหนักลงไปอีก

"หนูคงนอนมากไปน่ะค่ะแม่"

หญิงสาวตอบเสียงอู้อี้

"ให้แม่หาอะไรอุ่น ๆ ให้ไหม เด็กรับใช้ที่ชื่อน้ำตาลเขายังไม่นอน เขารอเผื่อว่าลูกอมจะหิวหรืออยากกินอะไร"

"ตายจริง ให้เขาไปพักเถอะค่ะแม่ หนูสบายดี"

ลลิตรารีบฉีกยิ้มตาหยีพร้อมกับจับมือลินดามาบีบ

"ให้แม่นอนเป็นเพื่อนไหม"

"อะไรกัน" คนเป็นลูกหัวเราะเบา ๆ "ลุงอรรถไม่ยอมหรอกค่ะ"

"เราแม่ลูกไม่เคยนอนห่างกันเลย แม่รู้สึกผิดกับลูกอมจัง"

ลินดาเอ่ยด้วยแววตากึ่งปวดร้าวกึ่งเลื่อนลอย ลลิตรารีบดึงมือมารดามาแนบแก้ม

ก่อนแต่งงาน ลลิตราได้พูดคุยกับอรรถเป็นการส่วนตัวแล้ว และอรรถก็ได้พบจิตแพทย์ประจำตัวของลินดาด้วย เขาจึงเข้าใจอาการของภรรยาคนใหม่ของเขาทุกอย่างรวมถึงเรื่องที่ลินดาต้องกินยาไม่ให้ขาดแม้แต่วันเดียวเพราะไม่เช่่นนั้นกระบวนการที่ยาจะเข้าไปซ่อมแซมสื่อประสาทในสมองก็ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด

"คืนนี้แม่กินยาหรือยังคะ"

"กำลังไปกินจ้ะ ต้องกินตอนจะเข้านอนนี่ แม่มาดูลูกก่อน"

"ถ้าอย่างนั้นแม่ก็กลับห้องได้แล้วนะคะ และแม่ต้องกินยาทันทีนะ..."

"นอนคนเดียวได้จริง ๆ ใช่ไหมลูกอม"

"โถ่ ได้สิคะ หนูโตแล้วนะคะแม่"

หญิงสาวตอบก่อนจะขยับเข้าไปกอดแม่จนแน่น กัดริมฝีปากไว้กลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้ามันไม่ทำให้แม่มีความสุข เธอก็จะไม่มีวันให้แม่รู้อย่างเด็ดขาด

เมื่อลินดากลับห้องนอนของตัวเองไปแล้ว ลลิตราก็โผเผลงจากเตียงมารินน้ำให้ตัวเองดื่ม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อตอนกลางวัน เอากำลังใจจากไหนพาตัวเองกลับบ้าน

กิตติทัศน์ยังคงโทรหา คงห่วงว่าเธออาจทำอะไรโง่ ๆ แล้วกลับไม่ถึงบ้าน หญิงสาวจึงปิดเครื่อง ไม่ขอรับรู้หรือรับการติดต่อจากใครทั้งนั้น

เมื่อมาถึงเตียงนอนก็ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นกับหมอนจนหมอนเปียกชุ่มและหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

แม้แต่ตอนนี้ก็ทำท่าเหมือนอยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีก

ลลิตราคิดว่าตัวเองรักกิตติทัศน์ แต่ที่มากกว่าความรัก คือความผูกพันและเคยชิน ตั้งแต่อายุ 18 จนกระทั่งวันนี้ในวัย 24 ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ลลิตราใกล้ชิดมาตลอดก็มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น

แม้เธอยังไม่เคยจินตนาการไปไกลถึงภาพวันแต่งงาน แต่มันจะเป็นใครไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่เขา

"พี่ติ...ไอ้คนทรยศ...ไอ้คนนอกใจ!"

หญิงสาวปล่อยโฮออกมาอีก รีบหยิบหมอนขึ้นมาแล้วซุกหน้าลงไป ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่กลัวเจ็บป่วย

ลลิตราจะยอมเสียน้ำตาให้ผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น เมื่อพ้นคืนนี้ไป ชื่อกิตติทัศน์จะไม่มีความหมายอะไรต่อเธออีกแม้แต่นิดเดียว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 101 ขีดจำกัดของความอดกลั้น

    "แต่ถ้ารวมหุ้นของพี่ชลกับแม่เข้ามาด้วยกัน...""ก็ยังไม่พออยู่ดี"ชลธิชาบอก สีหน้าเคร่งเครียด เธอไม่ได้หวงหุ้นในส่วนของตัวเองอีกแล้ว นาทีนี้การรักษาอำนาจในบริษัทไว้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด"อาชัชคงคิดดักเอาไว้แล้วทุกทางนั่นแหละ เผลอๆ ที่พ่อล้มไป จะเกี่ยวอะไรกับเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้""คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่ชล"โชติรสพยายามเรียกสติ"อาชัชอาจจะขี้อิจฉาก็จริง แต่คงไม่ถึงกับลงมือทำอะไรแบบนั้น...เอาไว้ฉันขอเวลาคิดสักนิด ว่าเราจะทำยังไงกันต่อไปดี"สองพี่น้องสบตากัน น่าจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่ชลธิชากับโชติรสเพิ่งจะดูเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมาจริงๆ* * * * * "ปิ่นโตค่ะ"เสียงมะนาวไม่มีน้ำดังขึ้นข้างหลัง ลลิตราที่กำลังตัดแต่งไม้แขวนหน้าเรือนจึงหันกลับมาแล้วก็พบว่าน้ำค้างเป็นคนนำอาหารกลางวันมาให้วันนี้ เด็กสาววางเถาลงบนม้านั่งหน้าเรือนอย่างไม่ใส่ใจ"หนูวางตรงนี้นะ""ขอบใจจ้ะ วันนี้น้ำตาลไปไหนล่ะ"ลลิตราก็ทักถามไปอย่างนั้นเอง ใครจะเป็นคนเอาข้าวมาส่งก็ไม่มีปัญหา ให้เธอเดินไปยกสำรับกับข้าวมาเองยังได้เลยถ้าป้าเดือนไม่ห้ามไว้เสียก่อนแต่เหมือนน้ำค้างรอคำถามนั้นอยู่แล้ว มุมปากเด็กสาวยกยิ้มเล็กน้อ

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 100 งูพิษ

    "ว่ายังไงนะ"ชัชวาลถามย้ำแต่เอาเข้าจริงเขาก็ไม่ค่อยแปลกใจนักหรอกแม้โชติรสจะไม่ได้แสดงความต้องการจะเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารบริษัท เธอถึงกับออกไปทำงานเป็นลูกจ้างคนอื่นด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ หญิงสาวอาจนึกขึ้นมาได้เอง หรือมีใครมากระซิบบอก ว่าควรจะต้องปกป้องอำนาจของบิดาไว้ปลายสายที่โทรหาชัชวาลย้ำถึงประโยคที่ตัวเองได้ยินที่โต๊ะอาหารกรรมการบริษัทวัยห้าสิบฟังครู่หนึ่งแล้วก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะถามกลับ"แล้วทำไมนายถึงกล้าเอาเรื่องนี้มาบอกฉัน""ไม่มีอะไรมากไปกว่าผมต้องการเห็นความอยู่รอดของบริษัทครับ ถ้าบริษัทรอดผมก็รอดไปด้วย"ที่แท้คนที่โทรมาคือกิตติทัศน์ เขาพูดอย่างลื่นไหลสมกับที่เคยเป็นพนักงานขายระดับท้อปเซลล์ชัชวาลที่อยู่อีกฟากหนึ่งยิ้มเหยียดเล็กน้อย แต่ก็ยังถามกลับไปอย่างอารมณ์ดี"แล้วนายคิดว่าใครล่ะที่จะพาบริษัทรอด""ถ้าให้เรียนตามตรง เมื่อก่อนก็ต้องเป็นท่านประธานชาญนั่นแหละครับ แต่ตอนนี้พ่อตาของผมท่านก็ล้มป่วยกะทันหันเสียด้วยไม่ทันได้ฝากฝังอะไรกับใครกว่าจะฟื้นมาเป็นปกติได้ก็คงอีกนานเป็นปีผมเองก็เป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆ ในเมื่อพ่อตาของผมอยู่ในสภาพแบบนี้ตอนนี้ผมก็ไม่เห็นใครจะเหมาะสมเท่ากับท่า

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 99 ประชุมบอร์ด

    การล้มป่วยของนายชาญ วรเศรษฐกุลเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเคยคาดคิด แม้แต่เจ้าตัวเองก็เช่นกัน แม้อายุจะเกือบเข้าเลขหกแล้วแต่ชาญเป็นคนสุขภาพแข็งแรง ดูแลตัวเองอย่างดีตลอดเวลาทั้งรูปร่างหน้าตาและสุขภาพภายใน ทุกหกเดือนที่ตรวจร่างกายไม่เคยมีสัญญาณความป่วยไข้ใดๆ แม้แต่น้อย เผลอๆ เขายังจะแข็งแรงกว่าวิภาที่เป็นเมียด้วยซ้ำเมื่อเส้นเลือดในหัวใจของเขาแตกและต้องพักฟื้นยาวๆ แบบนี้ ทั้งเมียและลูกก็ถึงกับช็อกกันไปหมด สภาพที่อ่อนแอลงภายในข้ามคืนของสามีทำให้วิภาต้องกลั้นน้ำตาอยู่บ่อยครั้ง หล่อนสงสารผัวหล่อนเหลือเกิน โชคดีที่หล่อนเป็นคนแข็ง จึงตั้งสติได้ไวโชติรสก็เหมือนจะได้เลือดแม่ด้วยเพราะแม้หวาดกลัวแค่ไหนแต่เธอก็ไม่แสดงออกมากนัก...ไม่เหมือนชลธิชา รายนั้นทำท่าเหมือนชาญอาการเพียบหนักไปเสียแล้ว"พ่อฟื้นก็จริง แต่ก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาไม่ใช่หรือไง..."ชลธิชาทุ่มเถียงกับน้องสาวตอนที่อยู่กันตามลำพัง ท่าทางคนเป็นพี่ทั้งกังวล เครียด และใจเสีย อาจเพราะบิดาคือคนที่ตามใจและเหมือนจะเข้าใจเธอทุกอย่างมาตลอด เป็นไปได้ว่าชลธิชาอาจจะผูกพันและรักพ่อมากกว่าที่ทุกคนเห็น"ก็แค่ช่วยพักฟื้น การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีนะพี

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 98 เมื่อโชคชะตากำหนดเอาไว้แบบนี้

    หากเป็นคู่อื่นที่รักกัน ยิ่งหมั้นหมายกันแล้วก็คงจะยิ่งใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น หวานซึ้งมากขึ้น หรือพูดคุยกันมากขึ้นถึงแผนการในอนาคต...อย่างน้อยๆ ก็อนาคตอันใกล้เช่นเรื่องการแต่งงานแต่นี่เหมือนจะเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือนที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวออกมากินข้าวด้วยกันอธิปเลือกภัตตาคารในโรงแรมที่หรูหราและเชฟเลื่องชื่อ อย่างน้อยเขาก็อยากให้บรรยากาศช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างกันเพราะถึงตอนนี้แล้วต่างก็รู้กันดีว่าที่หมั้นหมายอยู่นั้นเป็นเรื่องของหน้าตาทางสังคมล้วนๆแม้อธิปจะคิดถึงตัวเองเป็นใหญ่แต่เขาก็ไม่ใจร้ายจนเกินไป ชายหนุ่มถามไถ่ถึงเรื่องราวของเธอระหว่างที่ไม่ได้เจอกันเกือบเดือน "โชไม่เป็นอะไรแล้วล่ะค่ะคุณอาร์ต ร่างกายฟื้นตัวดีแล้ว ผู้หญิงเรามีร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่าที่คุณคิดนะคะ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่ได้เป็นเพศแม่แล้วก็คลอดลูกกันได้หลายๆ คนในชั่วชีวิตหนึ่งหรอกค่ะ"โชติรสพูดโดยไม่ได้คิดอะไรมากแต่อธิปสีหน้ารู้สึกผิดเรื่องที่เขาเตรียมจะมาพูดกับเธอจึงยังพูดไม่ออกแต่โชติรสเป็นคนฉลาด เธอฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย"กินข้าวกันก่อนนะคะ แล้วมีอะไรค่อยคุยกันก็ได้ เราไม่ได้รีบไปไหนใช่ไหม"เธอพูดถู

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 97 จะแต่งเมื่อไร

    "มันพูดงั้นหรือไง โอ้โห นิสัย..."ยลดาตาโตขึ้นอีกเมื่อเพื่อนเอ่ยออกมาแบบนั้น เดาว่าอธิปคงพูดจาหมาๆ เหมือนผู้ชายเห็นแก่ตัวทั่วไป 'แน่ใจได้ยังไงว่าใช่ลูกผม' อะไรทำนองนั้นแต่โชติรสส่ายหน้า"ไม่ใช่ คุณอาร์ตไม่ถามเลยสักคำว่าใช่ลูกเขาหรือเปล่า เขาแค่แสดงความรับผิดชอบทั้งที่ไม่ต้องทำก็ได้...""อ้าว! แล้วที่เมื่อกี้แกบอกว่าไม่ใช่ลูก..."ยลดาถามไม่จบเพราะสังหรณ์ใจแปลกๆ ขึ้นมาเสียก่อน จ้องหน้าเพื่อนรักอย่างไม่ค่อยแน่ใจ"ยังไงนะโช...""ฉันบอกว่าลูกในท้องที่แท้งไป ไม่ใช่ลูกคุณอาร์ตหรอก"ยลลดาอ้าปากค้างโชติรสพยักหน้าช้าๆ"ฉันกับคุณอาร์ตไม่เคยไม่ป้องกัน หรือต่อให้พลาด...นับวันดูก็ไม่น่าจะใช่"คนพูดยังพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบอาจเพราะครุ่นคิดเรื่องนี้มานานสักพักแล้ว ตรงข้ามกับคนฟังที่พูดอะไรไม่ออก สีหน้าเหมือนเห็นผีในวัดตอนกลางวันแสกๆนิ่งกันไปสักพักยลดาจึงค่อยหาเสียงตัวเองเจอถาม อึกอักถามออกไป"งั้น...เป็นใคร แกบอกฉันได้ไหม""บอกได้ แต่อย่าด่าฉันนะ...""ทำไมฉันต้องด่า หรือว่า...อย่าบอกนะว่าพ่อของเด็กในท้องคือพี่บอม..."ยลดาถามออกไปด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง บอมหรือบพิตรเพื่อนสนิทของอธิป คนที่เธอปิ๊งตั้งแต

  • พาล Blaming Her Sin   ตอน 96 จะคลั่งตายอยู่แล้ว

    "อื้อหือ หอมออกไปถึงข้างนอกเลยค่ะคุณลูกอม"น้ำตาลที่เดินหิ้วปิ่นโตเถาใหญ่มาหาลลิตราที่บ้านฝรั่ง เอ่ยขึ้นเมื่อกลิ่นเทียนอบหอมอบอวลไปทั่วบ้านเล็กๆ"วันนี้ทำอะไรหรือคะ""กลีบลำดวนจ้ะ""งือ หนูกับน้ำค้างชอบกินม้ากมาก""ได้กินแน่นอนจ้า ไม่ต้องห่วง หนนี้ปั้นไว้เยอะเลย""อุ๊ย! หนูไม่ได้ตั้งใจจะขอกินฟรีนะคะคุณลูกอม"น้ำตาลรีบบอก เด็กสาวไม่ได้คิดเรื่องนั้นจริงๆ แต่ลลิตรายิ้มส่ายหน้านิดๆ"ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ก็ตั้งใจจะแบ่งไปในครัวอยู่แล้วล่ะ กลัวแต่ว่าจะบ่นว่ากินแต่ของหวานๆ แล้วจะเบื่อกันเสียก่อน""อุ๊ย! ไม่เบื่อหรอกค่ะ ยิ่งยัยพี่น้ำค้างนะ ทำหน้าบึ้งเหมือนไม่ชอบ แต่หนูเอาอะไรไปก็เห็นกินหมดเกลี้ยงทุกที"น้ำตาลวางปิ่นโตไว้ที่อีกมุมหนึ่ง วันนี้ในครัวใหญ่ทำแกงจืดวุ้นเส้นเต้าหู้หมูสับที่มีเห็ดหอมสดๆ เยอะพอๆ กับหมูเพราะรู้ว่าทั้งคุณลินดาและลลิตราชอบกินเห็ดหอมมากๆน้ำตาลมาส่งข้าวเสร็จก็ขอตัวกลับไปช่วยงานในครัวเพราะวันนี้ลลิตรายังไม่จำเป็นต้องมีลูกมือ ลลิตราเรียงขนมถาดสุดท้ายเข้าตู้อบเสร็จแล้วก็รอเวลาขนมสุก เธอแบ่งส่วนที่ทำเสร็จไปก่อนหน้านั้นแล้วจัดใส่จานแล้วเดินไปที่ห้องทำงานที่เพิ่งจัดใหม่ เห็นแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status