Home / รักโบราณ / พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน / บทที่ 1 จู่ๆ ก็ได้เป็นพี่น้องกับตัวร้าย (3/4)

Share

บทที่ 1 จู่ๆ ก็ได้เป็นพี่น้องกับตัวร้าย (3/4)

last update Last Updated: 2025-08-18 23:09:12

         สิ่งที่นางยินดีที่สุดก็เห็นจะเป็นน้องสาวต่างมารดาคนนี้ไม่มีท่าทีโกรธเคืองนางที่เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้ตกน้ำจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

            สามวันที่เด็กคนนี้นอนนิ่งอยู่บนเตียง เป็นเวลาที่นางรู้สึกโศกเศร้าเสียใจ ได้แต่สวดมนต์ขอพรให้น้องเล็กปลอดภัย

            หลายวันมานี้นางเพิ่งเข้าใจว่าแท้จริงตนเองรักและห่วงใยน้องสาวคนนี้มากเพียงใด ไม่ใช่แค่รู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้น้องเล็กตกน้ำ แต่นางไม่อยากสูญเสียคนที่ตนรักไป ที่ผ่านมาแม้จะมีโกรธเคืองบ้างที่น้องเล็กมักจะไม่ระวังจนเจ็บตัวบ่อยๆ ทำให้นางโดนลงโทษ แต่บทลงโทษพวกนั้นก็ไม่ได้รุนแรงมากไปกว่าการคุกเข่าในศาลบรรพชนหรือกักบริเวณ

            ‘ต่อจากนี้พี่สัญญาว่าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี ซีเยว่’ และจะทำให้น้องสาวคนนี้มีแต่รอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้า

            “จริงเจ้าค่ะ ท่านแม่ฝากข้านำเงินมาให้ท่านด้วย แบ่งกันคนละถุงให้ใช้ตามใจปรารถนา” อวี้ซีเยว่กล่าวพลางส่งถุงเงินที่เก็บไว้ในอกเสื้อจนพองให้พี่สาว

            “ขอบคุณน้องเล็ก”

            “เช่นนั้นเรารีบไปกันเถิดเจ้าค่ะ ท่านแม่บอกว่ายิ่งออกจากจวนช้า เราจะมีเวลาเที่ยวเล่นน้อย”

            “ได้ๆ พี่ขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อน”

            “ข้าจะรอเจ้าค่ะ” อวี้ซีเยว่โบกมือพลางยิ้มสดใสให้พี่สาว

            ‘รอยยิ้มของเจ้าทำให้พี่ใจอ่อนยอมตามใจอีกแล้ว’

            อวี้ลู่เสียนหายไปเพียงไม่นานก็เดินกลับมาในชุดพร้อมออกนอกจวน

           

            ผ่านไปราวๆ สองเค่อรถม้าจวนอวี้ก็จอดนิ่งสนิทในบริเวณวัดเฟิงกวาง สตรีสองคนที่เพิ่งลงจากรถม้ามองป่าใบเฟิง[1]ที่อยู่รอบๆ วัดด้วยสายตาเป็นประกาย

            “พี่รอง ก่อนกลับเราไปเดินเล่นที่ลานใบเฟิงตรงนั้นดีหรือไม่เจ้าคะ”

            “ได้สิ เรารีบเข้าไปไหว้พระขอพรกันเถิด”

            “เจ้าค่ะ” นางยิ้มรับสดใสก่อนจะกอดแขนพี่สาวให้เดินไปพร้อมกัน

            “เดินดีๆ หน่อยน้องเล็ก” แม้จะได้ยินเสียงเตือนแต่ทว่านางไม่สนใจหรอก

            เรื่องไร้ยางอายนั้นหากนางกล่าวว่าตนเป็นอันดับสอง คงไม่กล้ามีใครอ้างตนเป็นอันดับหนึ่ง หรือกล่าวให้เข้าใจง่ายๆ คือนางไม่สนใจมารยาทใดๆ หรอก นางจะทำในสิ่งที่ตนอยากทำเท่านั้น

            สองพี่น้องต่างมารดาก้มกราบพระตรงหน้าเสร็จก็พากันหยิบถุงเงินเพื่อบริจาคตำลึงให้กับทางวัด ซึ่งนางเห็นแก่วัดที่งดงามดั่งภาพวาดจึงตั้งใจจะหยิบเงินไว้เพียงก้อนเดียวก่อนจะใส่เงินทั้งถุงลงไปในกล่องบริจาค

            “อมิตาพุทธ อาตมาต้องขอบคุณโยมทั้งสองที่บริจาคเงินให้กับทางวัด” เสียงและการปรากฏตัวของหลวงจีนรูปหนึ่งทำให้สองสาวที่เพิ่งโยนถุงเงินลงไปในกล่องบริจาคตกใจ

            “คารวะไต้ซือเจ้าค่ะ” สตรีทั้งสองแสดงความเคารพ

            “เคราะห์กรรมผันผ่าน ชะตาหวนคืน จากนี้จะทำอันใดให้มีสติ คิดไตร่ตรอง สิ่งที่ต้องการจึงจะประสบผล” หลวงจีนชรากล่าวจบก็ก้าวเท้าเดินจากไป

            “ไต้ซือเจ้าคะ อย่าเพิ่งไปเจ้าค่ะ” คำกล่าวนั่นช่างสะกิดใจนางเหลือเกิน หรือหลวงจีนผู้นี้จะรู้ว่านางไม่ใช่คนของโลกนี้

            ใช่แล้ว! ต้องเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดินเหมือนในนิยายหลายเรื่องที่เคยอ่าน

            “ซีเยว่อย่าเสียมารยาท”

            “ไต้ซือเจ้าคะ ได้โปรดหยุดสนทนากับข้าก่อน”

            ‘ลิขิตฟ้ามิอาจแพร่งพราย รู้เท่าที่สวรรค์ให้รู้พอแล้ว’ เสียงของไต้ซือผู้นั้นดังขึ้น

            “ข้าอยากรู้เพิ่มไม่ได้หรือเจ้าคะ”

            “ซีเยว่เจ้าอยากรู้อันใด”

            “ก็ที่ไต้ซือบอกว่ารู้เท่าที่ควรรู้”

            “เจ้าหูแว่วแล้ว ไต้ซือไม่ได้กล่าวอันใดเลย”

            “พี่รองไม่ได้ยินหรือเจ้าคะ”

            “ไม่นะ”

            “ข้าอยากสนทนาธรรมกับไต้ซือเพิ่ม พี่รองรออยู่ตรงนี้นะเจ้าคะ” อวี้ซีเยว่ดึงข้อมือตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมของพี่สาว ก่อนจะสาวเท้าเดินตามหลวงจีนชราออกมาด้านนอก

            ว่างเปล่า! ด้านนอกไม่มีใครอยู่เลยสักคน บริเวณรอบๆ มีแต่ป่าเฟิง ไม่มีกระท่อมหรือเรือนให้คนเข้าไปได้

            หลวงจีนคนเมื่อครู่เป็นใครกันแน่ หรือจะเป็นเทพเซียนสักองค์ที่มักจะมาล้อเล่นกับโชคชะตาของมนุษย์เหมือนที่เคยได้อ่านในนิยายหลายเรื่อง

            ‘เคราะห์กรรมผันผ่าน ชะตาหวนคืน จากนี้จะทำอันใดให้มีสติ คิดไตร่ตรอง สิ่งที่ต้องการจึงจะประสบผล’ หมายความว่าอย่างไรกัน หรือที่นางต้องโผล่มาอยู่ในร่างนี้ มันคือชะตาของนางที่ควรเป็น

            ‘ลิขิตฟ้ามิอาจแพร่งพราย รู้เท่าที่สวรรค์ให้รู้พอแล้ว’ หากไม่บอกนางก็ไม่สงสัย แล้วเหตุใดท่านถึงได้ทิ้งปริศนาทำให้ผู้น้อยอยากรู้กันเล่า

            สุดท้ายแล้วอวี้ซีเยว่ได้แต่เก็บความรู้สึกค้างคาเอาไว้ในใจ

[1] ใบเมเปิ้ล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 18 ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร (2/4)

    ที่แท้บุรุษผู้นี้ก็ดีดลูกคิดรางแก้วเอาไว้แล้ว ร้ายกาจ หยางเฟยฉีผู้นี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว มิคาดคิดว่านางมัวแต่ระแวงสตรีดอกบัวขาวเจ้ามารยา แต่กลับลืมระแวงบุรุษดอกบัวขาวผู้นี้ บุรุษดอกบัวขาวที่มักทำตัวเป็นโจรบุปผาผู้นี้ ทั้งร้ายกาจ มากเล่ห์ รู้ตัวอีกทีนางก็ถูกกินเต้าหู้จนหมดตัว ทั้งยังถูกล่อลวงจนหลีกก็ไม่ได้ เลี่ยงเขาก็คงไม่ยอม “ดีๆ เช่นนี้ค่อยน่ารับเป็นบุตรเขยหน่อย” อวี้ผิงกล่าวอย่างดีใจ ในเมื่อรักและเอาใจบุตรสาวเขามากถึงเพียงนี้ “ลู่หมิง เฟยฉี ท่านผู้ตรวจการโจว ลู่เสียน และซีเยว่ พวกเจ้าออกไปเดินเล่นพูดคุยกันข้างนอกเถิด เรื่องหลังจากนี้ ให้เป็นการสนทนาของผู้ใหญ่” “ขอรับ/เจ้าค่ะ” ทั้งห้าคนตอบรับก่อนจะพากันเดินออกจากห้องโถ

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 18 ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร (1/4)

    18 ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร “ข้า...” อวี้ซีเยว่เอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะหลุบตาลงมองพื้นราวกับกำลังลำบากใจ ท่าทางเช่นนั้นยิ่งทำให้ผู้เป็นบิดาได้ใจ “หากเจ้าไม่ได้มีใจให้เฟยฉี ก็ไม่ต้องฝืน บิดามารดาเจ้าไม่ว่าอันใดหรอก พวกเราทุกคนยินดียอมรับการตัดสิน

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 17 ในที่สุดพี่สาวข้าก็มีสามี (4/4)

    “ไม่ต้องเป็นห่วง...ประเดี๋ยวนะ เมื่อครู่ท่านกล่าวว่าใครจะแต่งเข้าจวนข้านะขอรับ” เจ้ากรมพิธีการเอ่ยย้ำ “ก็หยางเฟยฉีบุตรชายของพวกเรา เขาส่งจดหมายมาแจ้งว่าจวนอวี้มีกฎไว้ว่าหากอยากแต่งสตรีจวนอวี้เป็นฮูหยิน จะต้องแต่งเข้าเท่านั้น” หยางฮูหยินกล่าวซึ่งพวกตนก็พร้อมจะตามใจบุตรชายที่ไม่อยากสืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อจากบิดา “เรื่องนั้นพวกเราแค่กล่าวล้อเล่นกัน มิได้จริงจังอันใดมากหรอกเจ้าค่ะหยางฮูหยิน” “แต่หากเขาอยากแต่งเข้าจวนอวี้พวกข้าก็ยินยอมเจ้าค่ะ” “กล่าวถึงเรื่องแต่งเข้าจวนอวี้ เฟยฉีเจ้าพึงใจบุตรสาวของน้าคนใดหรือ” แม้คนเอ่ยถามจะเป็นอวี้ฮูหยินแต่คนที่นิ่งฟังกลับเป็นผู้เป็นใหญ่ในจวนอย่างอวี้ผิง&n

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 17 ในที่สุดพี่สาวข้าก็มีสามี (3/4)

    คล้อยหลังที่บุรุษรูปงามเดินเข้าจวนไปแล้ว สามพี่น้องตระกูลอวี้และคุณชายหยางก็พากันเดินทางกลับจวน ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงพระจันทร์เงาสองสายกระโดดตามกันไปทางสวนร้างนอกเมือง ก่อนที่ความมืดจะพรางตาจนไม่มีใครเห็นว่าทั้งสองคนหายเข้าไปที่จุดใด “คารวะองค์รัชทายาท” บุรุษชุดดำสองคนคุกเข่าลงตรงหน้าบุรุษที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว “ลุกขึ้นๆ ยามอยู่นอกวังเราเป็นแค่คุณชายหนิง อย่าได้มากพิธีจนเป็นที่สังเกต” “นี่คืออวี้ลู่หมิงสหายของข้า” “ขอบคุณเจ้าที่ยื่นมือช่วยเหลือเฟยฉี หากไม่มีพวกเจ้าข้าคงขยับตั

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 17 ในที่สุดพี่สาวข้าก็มีสามี (2/4)

    “เช่นนั้นพี่ซ่างกวนป๋อก็ไม่ได้เดินทางกลับกับเราใช่หรือไม่...” นางยังกล่าวไม่ทันจบ บุรุษผู้ชอบซดไหน้ำส้มก็ใช้มือสองข้างที่ยังประคองใบหน้านางไว้ให้อยู่นิ่งแล้วทาบทับริมฝีปากลงบนปากนาง ลิ้นร้อนบุกรุกอย่างดุดันแฝงโทสะ แล้วปิดท้ายด้วยการดูดดึงริมฝีปากอย่างแรงเป็นการลงโทษ “อย่าได้เอ่ยชื่อบุรุษอื่นให้พี่ได้ยิน” โดยเฉพาะบุรุษที่นางเคยเอ่ยชมว่ารูปงาม “ข้าเพียงแค่ถามเพราะอยากรู้ว่าใครจะเดินทางกลับเมืองหลวงกับเราบ้าง ท่านซดน้ำส้มให้น้อยลงได้หรือไม่” มือเรียวพยายามแกะมือเขาที่ยังคงเกาะกุมดวงหน้าหวานของตนอยู่ “พี่รักเจ้า หวงแหนเจ้าถึงเพียงนี้ พี่ย่อมไม่อยากให้สตรีในดวงใจตนเอ่ยถึงบุรุษใด” “ก่อนท่านจะซดน้ำส้ม ท่านก็ควรจะดูที่เจตนาขอ

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 17 ในที่สุดพี่สาวข้าก็มีสามี (1/4)

    17 ในที่สุดพี่สาวข้าก็มีสามี และก็เป็นอย่างที่อวี้ลู่หมิงคิด เมื่อในเช้าวันต่อมาคนของสหายที่ซุ่มดูเหตุการณ์ในจวนเจ้าเมืองได้มารายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาจวนเจ้าเมืองหนานโจวได้ถูกคนร้ายบุกเข้าจวนแล้วสังหารคนทั้งจวนไม่เว้นแม้แต่บุตรชายของเจ้าเมืองกับอนุภรรยาคนใหม่ที่อายุเพียงหกเดือน&n

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status