เข้าสู่ระบบเคร้ง เคร้ง เสียงดาบฟันกันดึงความสนใจของสตรีที่กำลังจะสัปหงกให้ตื่นขึ้น
“นั่นเสียงอะไรหรือเจ้าคะพี่รอง”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน หรือจะมีโจรป่ามาโจมตีรถม้าเรา” พี่รองเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“พี่ใหญ่เจ้าขา ข้างนอกเกิดอันใดขึ้นเจ้าคะ”
“ด้านหน้ามีรถม้ากำลังถูกโจรป่าโจมตี พวกเจ้าหลบอยู่ในรถม้าอย่าได้ออกมา” เสียงเข้มของหยางเฟยฉีกล่าวบอก
“แล้วพี่ลู่หมิงล่ะเจ้าคะ เขาไป...” นางกล่าวยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงพี่ชายกล่าวแทรกขึ้น
“พวกเจ้าหลบอยู่ในรถม้าอย่าได้ลงมา” หากโจรพวกนั้นรู้ว่าในขบวนของเขามีสตรีมิแคล้วจะกลายเป็นเป้าหมาย
“เช่นนั้นข้าขอให้พวกท่านไปช่วยคนที่อยู่ในรถม้าคันนั้นได้หรือไม่เจ้าคะ”
“ซีเยว่ ทำเช่นนั้นพวกเราจะเกิดอันตรายไปด้วยหรือไม่”
“เราต้องเสี่ยงเจ้าค่ะ เกิดคนที่กำลังเดือดร้อนเป็นบุรุษรูปงามเราจะกลายเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม ชายผู้นั้นจะได้ประทับใจพี่รอง และการผูกวาสนาด้ายแดงของข้าก็จะสำเร็จ”
“นี่เจ้าเอาจริงหรือ เรื่องหาบุรุษให้พี่” อวี้ลู่เสียนไม่คิดว่าน้องเล็กจะจริงจังกับเรื่องนี้
“จริงสิเจ้าคะ พี่ใหญ่เจ้าขา ท่านรีบไปช่วยพวกเขาเถิดเจ้าค่ะ ชักช้าประเดี๋ยวจะไม่ทันการ”
“ได้ พี่จะจัดการให้ ลู่หมิงเจ้าอยู่คุ้มครองน้องสาวทั้งสองเถิด ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง” หยางเฟยฉีตอบรับคุณหนูอวี้คนเล็กแล้วสั่งการสหายเสร็จสรรพ
“อืม” ไม่คิดเลยว่าสหายของเขาจะเป็นคนดีเช่นนี้ ห่วงใยน้องๆ ของเขาราวกับเป็นพี่ชายเสียเอง
เนื่องจากกำลังคนที่มากกว่าและผู้คุ้มกันของจวนเจ้ากรมพิธีการฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่ามือปราบของทางการ จึงใช้เวลาเพียงชั่วจิบชาก็สามารถจัดการโจรป่าทั้งหมดได้ แม้จะจับเป็นได้สองสามคนเพื่อนำส่งทางการ แต่โจรพวกนั้นก็กัดยาพิษที่ซ่อนอยู่ในปากทำให้ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว ส่วนเจ้าของรถม้าโชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงทีจึงบาดเจ็บไม่มาก มีเพียงรอยโดนดาบฟันเข้าที่แขนกับอาการอ่อนแรงจากการต่อสู้
“ขอบคุณพวกท่านมากนะขอรับที่ช่วยเหลือข้า”
“มิเป็นไร พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของคุณหนู” หยางเฟยฉีเป็นคนออกหน้ากล่าว
“คุณหนูของพวกท่าน ข้าขอทราบนามของผู้มีพระคุณได้หรือไม่”
“คุณหนูที่สั่งให้พวกข้าช่วยเจ้าก็คือคุณหนูรองแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ”
“ที่แท้คือคุณหนูอวี้ผู้นั้น” สตรีที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นสตรีร้ายกาจ ชอบตบตีผู้อื่นหากพูดจาไม่เข้าหู ทั้งยังมากมารยาชอบหลอกล่อบุรุษให้ซื้อของให้
“ท่านจะไม่แนะนำตัวบ้างหรือ”
“ขออภัย ข้าเสียมารยาทแล้ว ข้าแซ่โจว นามเลี่ยงรุ่ย”
“ท่านคือผู้ตรวจการหนุ่มอนาคตไกลผู้นั้น” อวี้ซีเยว่ที่เดินเข้ามาใกล้รีบวิ่งเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกขอรับ ข้าก็แค่โชคดีที่ได้รับโอกาส”
“ไม่เลยๆ ความเก่งกาจของท่าน ข้าได้ยินชาวบ้านร้านตลาดเล่าลือกันไปทั่ว”
“คุณหนูกล่าวชมข้าเกินไปแล้ว ไม่ทราบว่าท่านคือ...”
“ข้าคืออวี้ซีเยว่ น้องสาวของคุณหนูอวี้ลู่เสียนที่มีเมตตาสั่งให้คนมาช่วยเหลือท่านเมื่อสักครู่”
“เจ้า!” พี่รองของนางกำลังจะเอ่ยปากพูด
“พี่รองเจ้าขา ท่านผู้ตรวจการโจวดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ อย่างไรท่านช่วยทำแผลให้เขาหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ หากจะรอท่านหมอ เกรงว่าเลือดของเขาคงไหลหมดตัวก่อนเป็นแน่”
“พี่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้”
“ข้าเชื่อเจ้าค่ะว่าท่านทำได้ เมื่อก่อนท่านทำแผลเก่งจะตาย มิเช่นนั้นพี่ใหญ่จะมีแผลกลับมาให้ท่านทำแผลให้บ่อยๆ หรือเจ้าคะ” อวี้ซีเยว่แสร้งเอ่ยถึงเรื่องในอดีต และที่พี่ใหญ่ของนางมักจะไปท้าต่อยตีกับคนที่ชอบว่าพี่รองเป็นลูกฮูหยินรองที่ไม่ควรได้รับเกียรติเช่นบุตรฮูหยินเอก
“เจ้ากล่าวถึงขนาดนี้หากพี่ไม่ตอบรับ เจ้าก็คงกล่าวหาว่าพี่ใจร้าย เจียวซินเจ้าไปเอากล่องยาในรถม้ามาให้ข้า” ผู้เป็นพี่ยิ้มอย่างจนใจ
“เจ้าค่ะ” สาวใช้คนสนิทรีบไปทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว
“ท่านพกกล่องยามาวัดด้วยหรือเจ้าคะ”
“อืม เจ้าน่ะชอบซุกซนจนต้องเจ็บตัวบ่อยๆ พี่จึงเตรียมมาด้วย”
“พี่สาวของใครกันเนี่ย เหตุใดถึงได้น่ารักเช่นนี้”
“ไม่ต้องมาเยินยอพี่ ไปช่วยพี่ทำแผลให้ท่านผู้ตรวจการเถิด”
“ข้าว่าให้เจียวซินช่วยพี่รองดีกว่าเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจะไปยืนรอทางนู้น” กล่าวจบสตรีซุกซนก็รีบสาวเท้าก้าวเดินเร็วไปยังต้นไม้ที่หักโค่นลงบนพื้นดินซึ่งสามารถนั่งรอได้สบาย
“หากแม่นางไม่สะดวก ข้า...”
“จะเป็นการดีมาก หากท่านจะอดทนสักนิด”
“นี่เจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้ที่เดินกลับมาพร้อมกล่องยากล่าวกับเจ้านายของตน
“เจียวซินเดี๋ยวเจ้าช่วยจัดการอาภรณ์ของท่านผู้ตรวจการด้วย” นางออกคำสั่งอย่างคล่องแคล่ว
ก่อนที่โจวเลี่ยงรุ่ยจะเข้าใจในเวลาต่อมาถึงคำของนางที่บอกให้เขาอดทน ที่แท้คุณหนูผู้มีใบหน้างดงามก็มือหนักเช่นนี้
“ครั้งต่อไปค่อยไปต่อที่เตียงเจ้าค่ะ” กล่าวจบนางที่ถูไถจุดสงวนกับแท่งหยกร้อนที่แข็งขึงจนมีน้ำหวานลื่นใสก็จัดแจงขยับตัวเพื่อให้แท่งหยกสามารถบุกรุกเข้าโพรงนุ่มอย่างง่ายดาย “อ่า...” “เจ้ายังคับแน่นเช่นนี้ พี่จะทนไม่ไหวเอา” แม้จะผ่านการคลอดลูกมาแล้วแต่โพรงนุ่มของนางยังรัดรึงแท่งหยกของเขาแน่น “ทนไม่ไหวก็ปลดปล่อยออกมาสิเจ้าคะ ข้าพร้อมรับ” “อ่า...มันดีมาก ฮูหยินพี่ช่างเก่งกาจ” เขาถึงกับร้องครวญครางออกมายามที่นางโยกตัวขยับขึ้นลง อกอวบอิ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าทำให้เขาทนไม่ได้จึงอ้าปากงับยอดอกนาง ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนปัดป่ายไปมาสลับกับดูดกลืนเพื่อกระตุ้น “ข้าก็เป็นเช่นนี้เพียงกับท่า
ล่อลวงสามีเพื่อบุตรคนที่สอง หลังจากที่เลี่ยงไม่ยอมร่วมหลับนอนกับฮูหยินจนนางร้องไห้น้ำตานองเพราะเข้าใจว่าเขาเบื่อหน่ายนางแล้ว หยางเฟยฉีจึงเปลี่ยนเป็นการให้นางกินยาห้ามครรภ์ที่มาในรูปลักษณ์ใหม่ไม่เหมือนเดิมอย่างชารสดี กลิ่นหอม “ท่านพี่เจ้าขาวันนี้ข้าเลี้ยงลูก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเหลือเกิน ตอนอาบน้ำท่านช่วยนวดให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ” กล่าวจบโฉมสะคราญก็รั้งอาภรณ์ลงเผยให้เห็นไหล่ลาดขาวเนียน “อึก...ได้” หยางเฟยฉีลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นความเย้ายวนของฮูหยิน เพราะลูกเกาะติดนางหลายวันเขาจึงไม่มีโอกาสไ
ตอนพิเศษ ว่าด้วยเรื่องราวของต้นหอม หลังจากเสร็จสิ้นพิธีกราบไหว้ฟ้าดินของบุตรชายได้สองเดือนหยางกั๋วกงและฮูหยินก็เตรียมตัวจะออกเดินทางกลับปราสาทโอสถ “ท่านแม่เจ้าขา ท่านว่างอยู่หรือไม่เจ้าคะ คือข้ามีเรื่องที่อยากจะรบกวนท่านเจ้าค่ะ” ท่าทางออดอ้อนน่ารักข
“ขอบคุณขอรับท่านหมอ” หยางเฟยฉีแสดงความเคารพท่านหมอหญิงอย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปดูแลฮูหยินของตนต่อ หลายวันผ่านไปร่างกายของอวี้ซีเยว่ฟื้นตัวดีขึ้น แม้จะทำงานเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่หากยามค่ำคืนนางต้องตื่นขึ้นมาดูลูกน้อย สามีก็จะตื่นขึ้นมาช่วยด้วย เขาไม่เคยปริปากบ่นและยังคงดูแลนางเช่นเดิม “ท่านพี่มีอันใดจะบอกข้าหรือไม่เจ้าคะ” ในยามที่นางเผลอนางมักจะเห็นเขาทำสีหน้าไม่สบายใจ “ไม่มี เจ้าอย่าได้คิดมาก” “ข้าไม่ได้คิดมากเจ้าค่ะ แต่ข้ารู้สึกว่าท่านเปลี่ยนไปตั้งแต่ข้าคลอดลูก หรือว่าเป็นเพราะข้าไม่งดงามเหมือนแต่ก่อน ท่านจึงคิดหมางเมินข้า” 
คุณชายหยางที่ออกไปทำงานถูกตามกลับจวนในทันที หยางกั๋วกงและหยางฮูหยินที่บังเอิญทราบข่าวก็รีบตรงมาที่จวนของบุตรชายทันที ‘ข้าเจ็บเหลือเกินเจ้าค่ะ’ “ซีเยว่” พอได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของฮูหยินตน หยางเฟยฉีแทบจะรีบเข้าไปหานางทันที หากไม่ถูกบิดารั้งตัวไว้ “ใจเย็นๆ เฟยฉี สตรีคลอดลูกก็ต้องเจ็บปวดเช่นนี้อยู่แล้ว” หยางกั๋วกงผู้เคยผ่านเหตุการณ์นี้มาก่อนเอ่ยปากบอก “เพราะเหตุนี้อย่างไรเล่า พ่อกับแม่ถึงมีเจ้าเป็นบุตรเพียงคนเดียว บิดาเจ้าไม่อยากให้แม่เจ็บปวดยามที่ต้องคลอดบุตรเช่นนี้” ‘ฮูหยินน้อยใจเย็นๆ เจ้าค่ะ’ ‘ข้าเ
22 สัญญาที่มอบให้เจ้า อวี้ซีเยวนั่งมองหน้าสามีด้วยสายตากรุ่นโกรธและไม่ยอมเข้าใกล้ เพราะเมื่อวานเขาบอกจะให้นางได้นอนหลับพักผ่อนหนึ่งคืน แต่ยังไม่ทันพ้นยามห้าย (21.00-22.59) โจรบุปผาที่พอแต่งงานก็กลายร่างเป็นปีศาจราคะจับนางกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่าจนนางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้&nbs







