เข้าสู่ระบบ5
เสื้อคลุมเจ้าปัญหา
เสียงของบ่าวรับใช้ที่เริ่มทำหน้าที่ของตนตั้งแต่เช้าเป็นดั่งเสียงปลุกให้นางตื่นขึ้น ฤดูกาลเริ่มผันผ่านอากาศเย็นลงทำให้นางยังไม่ยอมลุกจากเตียง ดวงตาเมล็ดซิ่งกะพริบปริบๆ ก่อนจะพลิกตัวไปมาด้วยความเกียจคร้าน
การเป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลช่างดีไม่น้อย แม้จะมีมารดาคอยดุด่า แต่ก็ไม่อาจจะทำอันใดได้มากกว่านั้นเพราะบิดา พี่ใหญ่และพี่รองต่างช่วยกันปกป้องและปกปิดการกระทำของนาง
‘อุ่นจัง นอนอีกสักหน่อยดีหรือไม่นะ’
“ตื่นแล้วก็ลุกมาจิบชากับพี่สักหน่อยเถิด” เสียงทุ้มไร้ที่มาที่ไปของใครบางคนทำให้นางรีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
“พี่เฟยฉี ท่านปีนหน้าต่างเรือนข้าอีกแล้วนะเจ้าคะ แล้วนี่ท่านมาทำอันใดแต่เช้า”
“พี่เอามาคืนตามที่รับปากแล้ว เจ้าก็ลุกมาจิบชากับพี่สักหน่อยเถิด”
“ไม่เอาเจ้าค่ะ ข้าหนาว หนังสือท่านวางไว้บนโต๊ะนั่นเถิดเจ้าค่ะ” กล่าวจบนางก็ทำท่าจะล้มตัวลงนอน
“แค่นี้ก็ไม่หนาวแล้ว” เขากล่าวก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งรั้งตัวนางเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ปลดเสื้อคลุมออกจากกายตนแล้วคลุมเสื้อลงบนตัวนาง ก่อนจะก้าวเท้าถอยห่าง
ใบหน้าหวานซับสีระเรื่อพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้น เพราะกลัวใจตนจะหวั่นไหวนางจึงทำท่าจะปลดเสื้อคลุมคืนหากไม่ได้ยินเสียงดุของเขา
“หากปลดเสื้อคลุมพี่ออก พี่จะบอกลู่หมิงว่าเจ้ากำลังจะพยายามผูกด้ายแดงให้กับผู้ตรวจการโจวกับอวี้ลู่เสียน”
‘ข้าอยากกัดคอบุรุษผู้นี้จริงๆ’
“ลุกขึ้นมาจิบชากับพี่เถิด”
“เจ้าค่ะ” ปฏิเสธได้ด้วยหรือ
ร่างเล็กก้าวเท้าลงจากเตียงโดยมีเสื้อคลุมของเขาคลุมอยู่แต่เนื่องจากขนาดตัวที่ต่างกันมากเสื้อตัวนี้จึงแทบจะห่อนางเอาไว้ได้ทั้งตัว
“อ๊ะ!” นางเผลอเหยียบชายเสื้อคลุมที่ยาวเกินตัวนางไปมากจนเกือบจะจุมพิตพื้น โชคดีได้เขาช่วยรั้งตัวเอาไว้
“เอาไว้พี่จะหาเสื้อคลุมที่พอดีตัวมาให้” เสียงที่กล่าวนั้นช่างแผ่วเบาแต่นางที่อยู่ใกล้ชิดถึงเพียงนี้จะไม่ได้ยินได้อย่างไร
“ไม่รบกวนพี่เฟยฉีเจ้าค่ะ จริงๆ ข้ามีเสื้อคลุมมากมายเพียงแต่มันอยู่ในหีบหลังฉากกั้น”
“ไปจิบชากันเถิด” เขาประคองนางไปนั่งก่อนจะปล่อยมือแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างๆ
“เตาอุ่นชา?”
“ที่พี่รับปากจะเอามาให้เจ้าไว้ใช้ ต่อจากนี้เจ้ามีเตาอุ่นชาแล้วหากพี่บังเอิญหลงทางมา หวังว่าจะได้จิบชาคลายหนาวจากเรือนเจ้า”
“พี่เฟยฉี ท่านหลงทางจึงเข้าเรือนผิดหรือแท้จริงแค่อยากมาเที่ยวเล่นเรือนข้ากันเจ้าคะ”
“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า”
‘ก็ไม่รู้ ถึงได้ถาม เหตุใดถึงย้อนถามข้าอีก’ นางคิดพลางยกชาที่เขารินให้ขึ้นจิบ
“ชานี่!” รสชาติดี
“ชอบหรือไม่ นี่เป็นชาที่มารดาพี่เพิ่งส่งมาให้”
ชาที่เหมาะแก่สตรีวัยใกล้ออกเรือน เพราะจะทำให้ผิวพรรณงดงามเปล่งประกาย ทั้งยังช่วยปรับร่างกายให้ส่วนที่ควรจะมีเพิ่มมากขึ้น ค่อยๆ บำรุงไปทีละน้อย จะได้เต็มไม้เต็มมือ
“ชอบเจ้าค่ะ รสชาติดี จิบง่ายกว่าชาที่จวนข้า”
“หากเจ้าชอบเช่นนั้นพี่จะเอามาให้อีก พี่ต้องไปแล้ว วันนี้อากาศเย็นลงมากอย่าได้ออกไปซุกซนข้างนอก”
“เจ้าค่ะ” นางรีบรับคำพลางคิดว่าหากเขากลับไปแล้วนางจะกลับไปนอนอ่านหนังสือซุกตัวอยู่บนที่นอน
“อีกไม่นานแม่ทัพหนุ่มจะสังหารคู่หมั้นที่คอยทำร้ายคุณหนูเมิ่ง เมื่อหมดอุปสรรคทั้งสองก็จะได้ครองคู่ มีบุตรชายหญิง ในเรือนหลังของแม่ทัพหนุ่มมีเพียงคุณหนูเมิ่งเพียงผู้เดียวไร้ฮูหยินรองหรืออนุฯ ให้ฮูหยินของตนต้องเสียใจ” กล่าวจบเขาก็กระโดดหายออกไปทางหน้าต่าง
“หยางเฟยฉี! ท่านกล้าดีอย่างไรถึงเล่าให้ข้าฟังก่อน” นางยังอ่านไม่ถึงตอนนั้น เหตุใดถึงมาเล่าให้ฟังก่อน อยากอ่านก็อ่านไปสิ แต่อย่ามาเล่าให้ข้าฟังจะได้หรือไม่ ข้าอยากอ่านด้วยตัวเอง
แม้จะอยากตะโกนออกไปสุดเสียงแต่ทว่าหากทำเช่นนั้นทั้งจวนคงจะรู้ว่าสหายของพี่ใหญ่ลอบปีนเข้าเรือนนาง นางจึงได้แต่ตะโกนเสียงเบาแล้วเอ่ยเสียงลอดไรฟันอย่างพยายามอดกลั้น
“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นแล้วหรือยังเจ้าคะ” เสียงของสาวใช้คนสนิทดังขึ้นที่หน้าประตู
“อืม”
“วันนี้อากาศเย็นลงมาก เสื้อคลุมที่บ่าวเตรียมไว้...คุณหนูท่านไปเอาเสื้อคลุมนั่นมาจากที่ใดหรือเจ้าคะ”
“มีคนลืมเอาไว้ เจ้าอย่าได้ซักไซ้ข้าเลย เอาไปเก็บเถิดแล้วเอาเสื้อคลุมของข้ามาให้ที” นางตอบพลางปลดเสื้อคลุมให้สาวใช้
“ครั้งต่อไปค่อยไปต่อที่เตียงเจ้าค่ะ” กล่าวจบนางที่ถูไถจุดสงวนกับแท่งหยกร้อนที่แข็งขึงจนมีน้ำหวานลื่นใสก็จัดแจงขยับตัวเพื่อให้แท่งหยกสามารถบุกรุกเข้าโพรงนุ่มอย่างง่ายดาย “อ่า...” “เจ้ายังคับแน่นเช่นนี้ พี่จะทนไม่ไหวเอา” แม้จะผ่านการคลอดลูกมาแล้วแต่โพรงนุ่มของนางยังรัดรึงแท่งหยกของเขาแน่น “ทนไม่ไหวก็ปลดปล่อยออกมาสิเจ้าคะ ข้าพร้อมรับ” “อ่า...มันดีมาก ฮูหยินพี่ช่างเก่งกาจ” เขาถึงกับร้องครวญครางออกมายามที่นางโยกตัวขยับขึ้นลง อกอวบอิ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าทำให้เขาทนไม่ได้จึงอ้าปากงับยอดอกนาง ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนปัดป่ายไปมาสลับกับดูดกลืนเพื่อกระตุ้น “ข้าก็เป็นเช่นนี้เพียงกับท่า
ล่อลวงสามีเพื่อบุตรคนที่สอง หลังจากที่เลี่ยงไม่ยอมร่วมหลับนอนกับฮูหยินจนนางร้องไห้น้ำตานองเพราะเข้าใจว่าเขาเบื่อหน่ายนางแล้ว หยางเฟยฉีจึงเปลี่ยนเป็นการให้นางกินยาห้ามครรภ์ที่มาในรูปลักษณ์ใหม่ไม่เหมือนเดิมอย่างชารสดี กลิ่นหอม “ท่านพี่เจ้าขาวันนี้ข้าเลี้ยงลูก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเหลือเกิน ตอนอาบน้ำท่านช่วยนวดให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ” กล่าวจบโฉมสะคราญก็รั้งอาภรณ์ลงเผยให้เห็นไหล่ลาดขาวเนียน “อึก...ได้” หยางเฟยฉีลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นความเย้ายวนของฮูหยิน เพราะลูกเกาะติดนางหลายวันเขาจึงไม่มีโอกาสไ
ตอนพิเศษ ว่าด้วยเรื่องราวของต้นหอม หลังจากเสร็จสิ้นพิธีกราบไหว้ฟ้าดินของบุตรชายได้สองเดือนหยางกั๋วกงและฮูหยินก็เตรียมตัวจะออกเดินทางกลับปราสาทโอสถ “ท่านแม่เจ้าขา ท่านว่างอยู่หรือไม่เจ้าคะ คือข้ามีเรื่องที่อยากจะรบกวนท่านเจ้าค่ะ” ท่าทางออดอ้อนน่ารักข
“ขอบคุณขอรับท่านหมอ” หยางเฟยฉีแสดงความเคารพท่านหมอหญิงอย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปดูแลฮูหยินของตนต่อ หลายวันผ่านไปร่างกายของอวี้ซีเยว่ฟื้นตัวดีขึ้น แม้จะทำงานเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่หากยามค่ำคืนนางต้องตื่นขึ้นมาดูลูกน้อย สามีก็จะตื่นขึ้นมาช่วยด้วย เขาไม่เคยปริปากบ่นและยังคงดูแลนางเช่นเดิม “ท่านพี่มีอันใดจะบอกข้าหรือไม่เจ้าคะ” ในยามที่นางเผลอนางมักจะเห็นเขาทำสีหน้าไม่สบายใจ “ไม่มี เจ้าอย่าได้คิดมาก” “ข้าไม่ได้คิดมากเจ้าค่ะ แต่ข้ารู้สึกว่าท่านเปลี่ยนไปตั้งแต่ข้าคลอดลูก หรือว่าเป็นเพราะข้าไม่งดงามเหมือนแต่ก่อน ท่านจึงคิดหมางเมินข้า” 
คุณชายหยางที่ออกไปทำงานถูกตามกลับจวนในทันที หยางกั๋วกงและหยางฮูหยินที่บังเอิญทราบข่าวก็รีบตรงมาที่จวนของบุตรชายทันที ‘ข้าเจ็บเหลือเกินเจ้าค่ะ’ “ซีเยว่” พอได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของฮูหยินตน หยางเฟยฉีแทบจะรีบเข้าไปหานางทันที หากไม่ถูกบิดารั้งตัวไว้ “ใจเย็นๆ เฟยฉี สตรีคลอดลูกก็ต้องเจ็บปวดเช่นนี้อยู่แล้ว” หยางกั๋วกงผู้เคยผ่านเหตุการณ์นี้มาก่อนเอ่ยปากบอก “เพราะเหตุนี้อย่างไรเล่า พ่อกับแม่ถึงมีเจ้าเป็นบุตรเพียงคนเดียว บิดาเจ้าไม่อยากให้แม่เจ็บปวดยามที่ต้องคลอดบุตรเช่นนี้” ‘ฮูหยินน้อยใจเย็นๆ เจ้าค่ะ’ ‘ข้าเ
22 สัญญาที่มอบให้เจ้า อวี้ซีเยวนั่งมองหน้าสามีด้วยสายตากรุ่นโกรธและไม่ยอมเข้าใกล้ เพราะเมื่อวานเขาบอกจะให้นางได้นอนหลับพักผ่อนหนึ่งคืน แต่ยังไม่ทันพ้นยามห้าย (21.00-22.59) โจรบุปผาที่พอแต่งงานก็กลายร่างเป็นปีศาจราคะจับนางกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่าจนนางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้&nbs







