Home / โรแมนติก / พี่ชายเพื่อน / บทที่ 4 เก็บเป็นความลับ (1)

Share

บทที่ 4 เก็บเป็นความลับ (1)

last update Last Updated: 2025-11-09 18:47:45

บทที่ 4

เก็บเป็นความลับ

เชอเอมมองตรงไปข้างหน้าขณะที่เซนนิก้าดับเครื่องยนตร์รถเมื่อจอดในที่ประจำเรียบร้อย หญิงสาวมองชื่อคอนโดมิเนียมสุดหรูของเพื่อนผู้เป็นอาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อรถเลี้ยวตรงเข้ามายังชั้นใต้ดิน มือเรียวบางยังคงกุมถือถุงยาและขวดน้ำ ไม่คิดขยับกายจนชายหนุ่มหันมามองพลางถามออกไปอย่างไม่ต้องการคำตอบ

“อยากให้พี่ปลดเบลต์ให้เหรอครับ”

สาวเจ้าหันขวับไปมองด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ที่ถูกเขาหยอกเย้าอยู่เรื่อย ทั้งที่ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นทำตัวสบายอารมณ์เช่นนี้ แต่แล้วก็ต้องปรับให้กลับมาเป็นปกติ เมื่อคิดได้ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ในเมื่อมันเป็นความบังเอิญที่ไม่รู้ว่าคอนโดของเขาคือที่เดียวกับของขนิษฐาและอัฐพล

แต่ทำไมเขาต้องพาเธอมาที่นี่ แทนที่จะพากลับไปไนต์คลับ อย่างน้อยรถและรองเท้าของเธออยู่ที่นั่น จริงสิ เธอเกือบลืมไปเลยว่าทิ้งรถและของใช้ส่วนตัวอยู่ที่นั่นหมดเลย

โอย...เชอเอมนะเชอเอม ตกใจจนเบลอไปหมด แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน

สาวเจ้าบ่นตัวเองภายในใจพลางถอดถอนลมหายใจออกมาอย่างเอือมระอาตัวเอง ก้มมองเท้าที่เป็นแผลถลอกด้วยความอยากจะหยุมหัวตัวเองที่เป็นคนไม่มีสติเช่นนี้ ใช้ได้ที่ไหน ตื่นมาพบตัวเองนอนกับพี่ชายเพื่อนไม่พอ ยังวิ่งออกมาเหมือนคนบ้าอย่างไรอย่างนั้น เขาก็ช่างปะไร มีเสน่ห์เหลือล้นจนเธอหักห้ามใจไม่ได้ เผลอไผลไปกับสัมผัสร้อนที่ลุ่มลึกน่าค้นหา

เธอเหมือนโดนมนตร์สะกด

ใช่แล้ว เขาให้ความรู้สึกเช่นนั้น เหมือนคราแรกที่พบเขา แต่ครั้งนี้มันมากกว่า มากจนเธอจำได้ทุกสัมผัส ไม่ว่าริมฝีปากร้อน มือหนาที่ซุกซน และกึ่งกลางกายที่ร้อนแรง

ไม่ได้ ๆ จะมานั่งคิดอะไรแบบนี้ไม่ได้

ไวเท่าความคิด หญิงสาวส่ายหัวไปมาเล็กน้อยเพื่อสลัดความคิดที่ฟุ้งซ่านออกไปจากหัว ทว่าการกระทำของเธอที่กำลังครุ่นคิดส่ายศีรษะไปมาอยู่ในสายตาของเขาเช่นเคย จนหลุดหัวเราะออกมา พลางยื่นมือไปวางลงบนศีรษะ ออกแรงดันให้สาวเจ้าหันหน้ามาเผชิญ

“คิดอะไรอยู่ครับ” ถามด้วยรอยยิ้มละมุน

ให้ตายเถอะ ดูเขาสิ ไหนจะยิ้มไหนจะน้ำเสียงนุ่มทุ้ม กะจะให้เธอใจเต้นแรงจนหลุดออกมาเลยหรือไงกันนะ ผู้ชายอะไร หน้าดุเหมือนเข้าถึงยาก ไม่คิดเลยว่าจะเข้าถึงได้ง่ายเช่นนี้ หนำซ้ำยังขยันหยอดด้วยน้ำเสียงและแววตาละมุนนั่นอีก ไม่ว่าจะเป็นสายตาหรือน้ำเสียงส่งผลต่อหัวใจของเธอได้เป็นอย่างดีจนเกิดความคิดที่ว่าเขาจะใช้มันกับเธอเพียงคนเดียวไหมนะ เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายอย่างไรมาก่อน จะเหมือนกับที่เคยเจอมาหรือไม่

แต่ตอนนี้เธอแค่รู้สึกดีที่มีเขาอยู่ที่นี่ ตรงนี้

ไม่รู้ว่าความรู้สึกเช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร แม้เขาจะเป็นรักแรกพบของเธอ ทว่ามันก็นานมาแล้วหลายปีตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ที่โตขึ้น หากถามว่าดีใจไหมที่ได้เจอกับเขาอีก ตอบได้เลยว่าดีใจ เพียงแต่ไม่รู้ว่าชอบมากน้อยแค่ไหนก็เท่านั้น

มากพอที่ว่าเธอจะยอมเสี่ยงก้าวเดินไปข้างหน้าหรือเปลี่ยนเส้นทาง

เพราะอย่างไรก็ยังมีเรื่องของเซนโซก้าที่เธอไม่เคยเคลียร์มานานเป็นปี ด้วยเพราะอะไรหลายอย่างทำให้ไม่เคยได้กลับมาเจอกันอีกเลยตั้งแต่จบงานแต่งงานของผู้เป็นอาและเพื่อนไป เขาเองก็มีงานที่ต้องกลับไปทำที่อิตาลี ส่วนเธอเองก็กำลังทำธุรกิจของตัวเองที่นี่เช่นกัน กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาที่เธอได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเซนนิก้าด้วยความเต็มใจ เธอรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร เพียงแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้น

ใช่ หากจำไม่ได้คงไม่เอาแต่นึกถึงสัมผัสของเขาอยู่เช่นนี้

“ว่ายังไงครับ คิดอะไรอยู่” ถามเสียงนุ่มทุ้มขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสาวเจ้ายังคงเงียบ จ้องมองมาอย่างครุ่นคิดบางอย่าง

“จะบอกว่าไม่ได้คิดก็คงจะโกหก เราขึ้นไปคุยกันบนห้องดีกว่าค่ะ” เชอเอมตัดสินใจพูดออกไปในที่สุด

ในเมื่อตอนนี้เรื่องก็เกิดขึ้นและมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ก็แค่อยู่กับปัจจุบัน ส่วนจะเดินหน้าหรือไม่ก็คงต้องขึ้นอยู่กับหัวข้อที่จะคุยกับเขา เชอเอมไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบเก็บอะไรมาคิดแล้วไม่พูดออกไป หญิงสาวเป็นคนตรงไปตรงมา และไม่ชอบที่จะเก็บเงียบ และไม่ต้องถามอะไรให้มากความว่าที่นี่ที่ไหน ทำไมพามาที่นี่ แค่คิดทบทวนความน่าจะเป็นเพียงแค่นี้ สาวเจ้าก็พอจะเดาออกได้แล้วไม่ยาก

ใช่ เธอเป็นคนเช่นนี้

แม้ในช่วงแรกที่เธอไม่มีสติ วิ่งออกมาเช่นนั้นก็เพราะกำลังสับสนกับสิ่งที่เห็นและสิ่งที่เกิดขึ้น ในตอนนั้นที่เธอไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรหรือควรจะรับมือกับสถานการณ์อย่างไร

“ได้ครับ…ยังไม่ต้องลงจากรถนะ แค่นี้เท้าสวย ๆ ของเอมก็เป็นแผลหมดแล้ว” เขายกยิ้มตอบเรียบ พลางบอกให้เธอนั่งรออยู่ในรถ ไม่วายแอบชำเลืองตามองไปยังด้านหลังรถที่มีรองเท้าส้นแหลมของสาวเจ้านอนอยู่ พลันลอบยิ้ม

เซนนิก้าตั้งใจที่จะไม่บอกว่าตนได้หยิบรองเท้าของเธอมาด้วย เพราะเขาจะอุ้มเธอขึ้นไปข้างบนห้องด้วยตัวเขาเอง ยิ่งเห็นท่าทางที่คิดไม่ตกและอาการหวั่นไหวในเวลาเดียวกัน ก็อดทำให้เขาอยากแกล้งเธอไม่ได้ เพื่อให้ได้เห็นมุมน่ารักของสาวเจ้า เขาชอบมองยามที่เธอทำท่ากำลังคิดบางอย่างอยู่ในใจ ทำให้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะปล่อยผ่านกับเรื่องที่เกิดขึ้นไปอย่างผู้หญิงคนอื่นที่มองว่ามันก็แค่เซ็กซ์เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้

ร่างสูงของเซนนิก้าก้าวเดินอ้อมมาทางด้านหลังรถ ตรงมาฝั่งข้างคนขับ ก่อนจะเปิดประตูโน้มตัวลงไปช้อนอุ้มเชอเอมออกมาจากรถแล้วขอให้เธอช่วยปิดประตูที่เขาวางลงบนมือเรียวบาง ก่อนพาตรงไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปบนห้องของตัวเองที่อยู่ชั้นเดียวกับญาติผู้น้อง ซึ่งตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่กับสามีเป็นที่เรียบร้อย และยังได้ข่าวมาว่าอัฐพลกำลังหาซื้อที่เพื่อสร้างบ้านให้กับครอบครัวของตัวเอง ทั้งที่พี่ชายอย่างพ่อของเชอเอมไม่ได้อยากให้พากันออกไปอยู่ข้างนอกแม้แต่น้อย

“พี่เซน…” หญิงสาวเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว

“หืม” ชายหนุ่มก้มมอง ครางถามในลำคอ

“ปล่อยให้เอมยืนเองก็ได้นะคะ พื้นลิฟต์คงไม่ทำให้เท้าเอมเป็นแผลหรอกค่ะ” เธอพูดออกไปด้วยความเขินที่ยังถูกเขาอุ้มไม่ยอมปล่อยทั้งที่อยู่ในลิฟต์แล้วก็ตาม

“ไม่…พี่อยากอุ้มเอม” เขาตอบกลับมาหน้าตาเฉย

“แต่…”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (4)

    มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (3)

    หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (2)

    สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (1)

    บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (4)

    เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (3)

    ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status