LOGIN“ตัวเบาขนาดนี้พี่อุ้มได้ ไม่มีปัญหา แค่เอม ‘ทน’ ของพี่ก็พอแล้ว”
ริมฝีปากร้อนขยับพูดหยอดเสียงทุ้มนุ่มฉับพลัน ใบหน้าสวยเฉี่ยวเห่อร้อนด้วยความเขินจนแดงไปถึงใบหู ก้มหน้าซุกกับแผงอกแกร่งอย่างลืมตัวเพื่อหลบไม่ให้เขาเห็นว่ากำลังเขิน ทว่าอากัปกิริยาของเธอมันแสดงออกอย่างชัดเจนจนเจ้าของร่างสูงหัวเราะอยู่ในลำคอด้วยความขบขันกับความน่ารักน่าฟัดของเธอ
ลิฟต์เคลื่อนตัวมาถึงยังชั้นที่ต้องการ เรียวขายาวก้าวออกจากลิฟต์ ตรงไปยังห้องของตัวเองจนสุดทางเดิน เซนนิก้าพาเชอเอมเดินเข้ามาในห้อง ตรงไปยังส่วนห้องนั่งเล่นแล้ววางเธอนั่งลงบนโซฟา
“นั่งรอก่อน” เขาสั่งแค่นี้ หมุนตัวเดินตรงไปยังส่วนที่เป็นห้องครัวเพื่อหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่ทางคอนโดมีไว้ให้กับห้องราคาแพงเป็นสิบล้าน
ไม่นานชายหนุ่มก็กลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล นั่งลงบนพื้นอยู่ข้างหน้าหญิงสาวจนเจ้าตัวตกใจ ขยับหลบเล็กน้อยแล้วพูดออกไป
“ไม่เป็นไรค่ะ เอมทำเองได้ พี่เซนลุกขึ้นมานั่งเถอะ ยังไงเท้าของเอมก็อยู่ต่ำ” เธอพูดออกไปตามตรงที่คิด
“สำหรับเอม…พี่ไม่ถือว่ามันอยู่ต่ำ” เขาพูดพลางช้อนสายตาขึ้นมามองขณะที่จับข้อเท้าของเธอมาวางพาดลงบนตัก
ไม่ไหว ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ทำไมยิ่งอยู่กับเขานานขึ้นยิ่งหวั่นไหวมากขึ้นแบบนี้ เขาก็ปะไร ขยันหยอดขยันทำให้หัวใจของเธอทำงานหนักขึ้นทุกนาทีที่จะทำได้เลยสิคะผู้ชายคนนี้ แม้เธอจะถูกจีบมาแล้วหลายคน จีบติดบ้างจนได้เป็นแฟน แต่ไม่เคยมีใครทำให้หัวใจเธอเต้นแรงเช่นนี้มาก่อน เขาทำให้เธอต้องเหนื่อยทุกครั้งที่มันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
เมื่อปฏิเสธไม่ได้ก็ได้แต่นั่งก้มมองมือหนาที่กำลังใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดแล้วทาด้วยทายา ไม่นานเท้าที่สกปรก เต็มไปด้วยเศษต่าง ๆ ก็หายไป มีเพียงยาสีน้ำตาลแดงถูกทาและปิดด้วย
พลาสเตอร์ตามจุดที่เป็นแผลมากหน่อย“ขอบคุณนะคะ เอ่อ…รองเท้าเอมอยู่ที่ไนต์คลับ รบกวนพี่เซนพากลับไปเอาหน่อยนะ กระเป๋าเอมก็อยู่ที่นั่นหมดเลย” เธอกล่าวขอบคุณก่อนจะขยับเกือบสุดโซฟาเพื่อให้ชายหนุ่มได้มานั่งลงหลังเก็บทุกอย่างไปไว้ที่เดิม
“เดี๋ยวพี่พาไปซื้อใหม่” เขาตอบพลางมองสาวเจ้าที่ขยับออกห่าง
“ไม่ค่ะ…พี่เซน เราต้องคุยกันค่ะ” เธอปฏิเสธแล้วเงียบลง ก่อนพูดขึ้นอีกครั้งหลังรวบรวมความกล้าออกไป
“เรา…ได้สิ” เขาทวนคำยิ้ม ๆ ก่อนตอบตกลง
“…เรื่องเมื่อคืน เอมคิดว่าไม่ควรบอกใคร ไม่สิ พี่เซนก็คงไม่บอกใครอยู่แล้ว” เธอนิ่งไปครู่ก่อนจะพูดออกไป แล้วกลับคำเมื่อคิดทวนแล้วว่า ยังไงอีกฝ่ายก็คงไม่ไปบอกใครด้วยนิสัย
ทว่าไม่เป็นอย่างที่เธอคิด
“ซิกรู้เรื่องแล้ว” ประโยคสั้น ๆ ตอบไปด้วยท่าทีไม่ยี่หระพร้อมรอยยิ้มกริ่ม
“รู้ได้ไง พี่บอกเหรอ คนฮอต ๆ แบบนี้มีนิสัยปากกว้างด้วยเหรอเนี่ย” เชอเอมโพล่งออกไปด้วยความตกใจที่คิดว่าเรื่องนี้จะเก็บเป็นความลับไม่บอกใคร
เพราะเธอไม่รู้ว่าจะมีผลดีหรือผลเสียมากน้อยแค่ไหนตามมา ชื่อเสียงของเขา เธอก็ได้ยินมาบ่อยครั้ง ไม่ต่างจากข่าวซุบซิบดาราชื่อดัง ชายหนุ่มน่ะฮอตยิ่งกว่าดาราชายอันดับต้น ๆ ของประเทศเสียอีก ขนาดที่บาร์ของเธอยังมีคนพูดถึงเลย โดยเฉพาะผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยสาวใหญ่ พูดถึงวันเว้นวันจนเธออดไม่ได้ที่จะตั้งใจฟังเวลาเข้าบาร์ แม้จะรู้จักเขาจากคนอื่น หรือจากซิกก้ามาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายฮอตขนาดนี้ หนำซ้ำยังเป็นผู้ชายเหลือร้าย
แน่นอน ผู้ชายแบบนี้เธอรับมือไม่ไหวจริง ๆ เธอน่ะเหยื่อของแท้เลย
“เปล่า ซิกมาเจอพี่เพิ่งตื่น หมอนั่นมองก็รู้แล้ว” เขาตอบพลางยิ้มขันน้อย ๆ ที่เห็นสีหน้าตกใจแกมกังวลเล็กน้อย
“เอมจะไปคุยกับเขาทีหลังค่ะ แต่กับคนอื่นเอมขอให้พี่ไม่ต้องบอกใครนะคะ” เธอครุ่นคิดว่าควรจะทำอย่างไรดีแล้วจึงพูดออกไปเมื่อตัดสินใจได้ในที่สุด
“ได้สิ” เซนนิก้าตอบรับด้วยรอยยิ้มปกติ ทว่าทำไมเขาจะต้องทำตามที่เธอบอกด้วยเล่า เธออยากเก็บเป็นความลับก็เก็บไป แต่เขาจะไม่มีทางทำตามที่เธอต้องการเป็นแน่ ได้เขาจนเกือบฟ้าสว่างแล้วจะมาปิดเป็นความลับน่ะหรือ ไม่มีทาง นั่นไม่ใช่นิสัยของเขา
นิสัยน่ะ ชอบเปิด เปิดให้รู้ในแบบฉบับของเขา ทว่าดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ได้แค่เก็บเป็นความลับเท่านั้น แต่กำลังจะจบมันตั้งแต่ตอนนี้ไป ซึ่งเขาไม่มีทางให้เป็นเช่นนั้นแน่ ผู้หญิงที่เขาสนใจไม่เคยหลุดมือไปง่าย ๆ และไม่มีทางที่จะไปจากเขาได้ง่าย ๆ เช่นกัน
“แล้วก็ระหว่างเราคงจบหลังจากที่แยกย้าย...อะไรคะ” เชอเอมหยุดพูดกะทันหัน ก้มมองของที่อยู่ในมือหนาที่ยื่นมาตรงหน้าของเธอ แล้วถามออกไปด้วยความฉงนที่เห็นบัตรสีดำที่ดูก็รู้ได้ทันทีว่าวงเงินในบัตรใบนี้คงมีไม่ต่ำกว่าสิบล้าน
อะไรของเขา คิดจะซื้อกันหรือยังไงนะ
เมื่อคิดว่าเขากำลังมองเธอเป็นผู้หญิงที่ใช้ร่างกายแลกเงินก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที มิหนำซ้ำยังรู้สึกแปลก ๆ ที่คิดว่าเขาไม่ได้มองเธอพิเศษกว่าใครถึงได้คิดจะซื้อเธอแบบนี้ หัวใจก็กระตุกวูบโหวงเหวงอย่างไรบอกไม่ถูก
“พี่ให้เอาไปใช้ ในนี้มีอยู่ยี่สิบล้าน เอมจะทำอะไร ซื้ออะไรก็ได้ แต่พี่ไม่มีทางจบเรื่องของเราอย่างที่เอมต้องการ” เขาให้คำตอบพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของสาวเจ้า คล้ายกำลังร่ายมนตร์ให้เธอโอนอ่อนให้กับเขา
“บ้านเอมก็รวย เอมเองก็มีเงินใช้ พี่เซนไม่...” เธอปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับในสิ่งที่เขายื่นมาให้
แต่ทว่าเหมือนการปฏิเสธของเธอจะไม่ได้ผลอย่างรุนแรง เพราะเขาไม่คิดจะฟังที่เธอพูดเลยแม้แต่นิด
“แลกกับการที่จะเก็บเป็นความลับ พี่จะไม่บอกกับใครว่าเราข้ามขั้นไปไกลแค่ไหน ตกลงไหม” เขาพูดตัดบทสาวเจ้าพลางขยับเข้าไปใกล้ ในขณะเดียวกันเธอก็ขยับถอยออกห่าง
“แต่เรา...” เธอกำลังบอกว่าระหว่างเธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ก็ถูกเขาแย่งพูดอีกตามเคย
มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที
หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล
สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่
บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต
เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา
ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา







