LOGINเชอเอมนั่งมองซิกก้าที่กำลังยืนจ้องเธอกับเซนนิก้าที่นั่งไขว่ห้างพาดแขนไปกับพนักโซฟา มองน้องชายอย่างไม่ยี่หระ ต่างจากเธอที่มองเพื่อนด้วยความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ยังไม่ได้บอก ในวันนั้นเธอปฏิเสธชายหนุ่มไป แต่เพราะความจริงบางอย่างที่เขาเลือกที่จะบอกกับเธอเพราะคิดว่าเธอกำลังมีเรื่องค้างคาใจ ใช่ เซนนิก้าดูออกว่าเธอมีเรื่องของเซนโซก้าอยู่ในใจที่ได้พูดออกมาในที่สุด และทำให้เธอรู้ว่าระหว่างพวกเขาเป็นญาติกันห่าง ๆ ที่ห่างมากจนคิดว่าจริง ๆ แล้วอาจจะไม่ใช่ญาติกันแล้วก็ได้
เธอถึงยอมเปิดใจลองคบกับเขา และเพราะเขาคือรักแรกพบที่เธอยังไม่ได้บอกออกไป ทั้งที่ก็เพื่อที่จะรอโอกาสที่เหมาะและดี มิหนำซ้ำเธอก็ยังไม่รู้ว่าระหว่างเธอกับเขาจะไปได้นานแค่ไหน
ผู้ชายอย่างเขาที่ปกปิดตัวตน กับเธอที่ก้ำกึ่งกับการคบหาในครั้งนี้
“มีใครรู้เรื่องเธอกับพี่เซนบ้างนอกจากฉัน” ซิกก้าถามออกไปทันที ก็เพราะว่าตนบังเอิญไปได้ยินพนักงานแอบเมาธ์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายกับเพื่อนเข้าให้
“ฉันไม่ได้บอกใครเลย ส่วนนายซิก พี่เซนบอกว่าแกรู้แล้ว ก็เลยไม่บอก” เธอตอบออกไปตามตรง
“ทำไมไม่บอก ถ้าคนอื่นรู้จะเป็นเรื่องใหญ่นะ” ซิกก้าเอ็ดเพื่อนก่อนจะหันไปมองพี่ชายด้วยความตกตะลึง
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่เอม แกไม่ใช่พ่อของเอม ถ้าเอมอยากเก็บเป็นความลับก็ตามนั้น ส่วนฉันไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่ได้เปิด” เขาพูดก่อนจะตอบออกไปให้น้องชายได้รู้
ไม่เปิดอะไรกัน คนทั้งไนต์คลับรู้กันหมดแล้ว
ซิกก้าบ่นพี่ชายในใจ ก่อนจะดึงสายตามาที่เพื่อนที่ได้แต่ส่งยิ้มแห้งกลับมาให้ด้วยท่าทีเขินอายกับอากัปกิริยาที่พี่ชายของตนมีให้ด้วยความ...
คลั่งรักและหลงใหล
“ถ้าจะสปอยล์กันขนาดนี้ เอาเถอะ ฉันจะไม่ก้าวก่ายเรื่องของทั้งสองคนก็แล้วกัน แลกกับการที่พี่ก็ห้ามมาก้าวก่ายเหมือนกัน” ซิกก้าดักคอพี่ชายทันที
เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนก่อน ทางอิตาลีส่งข่าวมาให้ตนกับน้องสาวอีกคนกลับไปเพื่อดูตัว ถึงอย่างไรเขาจะต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างประเทศไทยกับอิตาลีไม่ต่างจากพี่ชายคนนี้ที่ได้รับอิสระมากกว่า ด้วยเพราะเป็นคนโปรดของบรรดาผู้ใหญ่หลาย ๆ คน ต่างจากพวกเขาที่ต้องใช้การทำธุรกิจที่นี่มาเป็นข้ออ้างในการไม่กลับไป
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะยื้อเวลาได้นานแค่ไหน
“ฉันไม่รับปาก ก็รู้ว่าฉันขัดใจพวกผู้ใหญ่ไม่ได้” เขาตอบกลับด้วยการกวนประสาทแทน
“ขนาดซิกหนีมาที่นี่ ทางครอบครัวพี่เซนยังจะตามตื๊ออีกเหรอคะ” เชอเอมหันไปถามเซนนิก้าด้วยความสงสัย
หญิงสาวรู้เรื่องที่ซิกก้าหนีมาประเทศไทยก็เพราะถูกบรรดาผู้ใหญ่จับคลุมถุงชน และเธอเองที่ให้ความช่วยเหลือเป็นคนแรกตอนที่ซิกก้าเดินทางมาถึงประเทศไทย
“ก็ไม่มีใครยอมแต่งงานเพื่อธุรกิจสักคน เลยต้องมาทางซิกก้าที่ไม่ใช่คนหัวดื้อ อ้อ พี่ได้รับการยกเว้นนะ” เขาตอบพลางยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมทัดหูให้สาวเจ้า
“พอ ๆ อย่าหวานให้มาก เอาเป็นว่าจะช่วยเก็บเป็นความลับไปก่อนก็แล้วกัน จะเปิดเมื่อไรก็บอก ยังไงฉันก็อยู่ข้างเธอกับพี่ตัวเองอยู่แล้ว” ซิกก้าพูดออกไปตามความจริง
เรื่องก่อนหน้านี้และตอนนี้ซิกก้าก็ยังไม่ได้ปริปากบอกใคร แม้แต่
วิเวียนที่มักต่อสายทางไกลมาถามบ่อยครั้ง และเขาก็บ่ายเบี่ยงทุกครั้ง ก็เพราะยังไม่รู้อะไรแน่ชัด จึงยังไม่อยากพูดออกไป ไม่ใช่เขาไม่อยากให้พี่ชายมีความรักอีกครั้ง เพียงแต่สถานะในตอนนี้ของพี่ชายก็ยังไม่แน่นอน ที่มาอยู่ที่นี่ก็เพราะแค่มาพักใจเท่านั้น เขาเป็นห่วงทั้งเพื่อนและพี่ชาย แต่มันก็มีเรื่องที่ทำให้เขาคิดไม่ตกจริง ๆ กับการคบหาดูใจของคนทั้งสอง เรื่องบางเรื่องที่เขากลัวว่ามันจะเกิดขึ้นในไม่ช้าถึงสถานะของพี่ชายหากมันเกิดขึ้น เขาคงต้องปวดหัวหาทางออกให้เพื่อนและพี่ชายเป็นแน่
“ขอบคุณนะ เอาตรง ๆ ฉันแค่ไม่รู้ว่าระหว่างฉันกับพี่เซนจะไปได้สวยแค่ไหน” เธอตอบออกไปอย่างที่เคยพูดกับเซนนิก้าให้รู้เหตุผลที่เธอเลือกจะปิดเป็นความลับ ซึ่งชายหนุ่มก็ยินยอมตกลงตามที่เธอขออย่างเข้าใจ เพราะเขาก็เคยผ่านความรักด้วยหัวใจมาก่อน
“ฉันเข้าใจ ผู้แต่ละคนของแกในอดีตดี ๆ ทั้งนั้น” ซิกก้าประชดกลับไป ทว่าทำให้เซนนิก้าหันขวับไปมองเชอเอม
“อย่าเข้าใจผิดค่ะ มันเป็นอดีตไปแล้ว” เธอรีบห้ามภูเขาไฟไม่ให้ระเบิดทันที เชอเอมรู้ว่าเซนนิก้าขี้หวงแค่ไหนจากการที่มีผู้ชายคนอื่นแวะเวียนมาขายขนมจีบทั้งที่บาร์ของเธอและที่ไนต์คลับของเขา ในยามที่เธออยู่ตัวคนเดียว ไร้ชายหนุ่มอยู่ข้างกาย ไม่ไล่ตะเพิดก็สั่งให้การ์ดหิ้วปีกออกไปโดยไม่สนว่าจะเจอผลกระทบทางลบตามมาแม้แต่น้อย บางคนก็ถูกเขาหักมือไปเลยที่กล้ามาลวนลามเธออย่างผู้ชายที่เคยลวนลามเธอบริเวณทางไปห้องน้ำ เชอเอมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเซนนิก้าส่งคนไปสั่งสอนจนนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน
ขี้หวงขนาดนี้เริ่มทำเธอเสียนิสัยแล้วสิ
เธอเริ่มที่จะชอบ และชินกับการที่เขาตามหวงตามดูแลแบบนี้เสียแล้ว
มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที
หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล
สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่
บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต
เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา
ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา







