Home / โรแมนติก / พี่ชายเพื่อน / บทที่ 5 ความลับที่ไม่ลับ (1)

Share

บทที่ 5 ความลับที่ไม่ลับ (1)

last update Last Updated: 2025-11-09 18:55:01

บทที่ 5

ความลับที่ไม่ลับ

แสงแฟลชรัวไม่หยุดเมื่อพรีเซนเตอร์กิตติมศักดิ์โพสท่าอย่างชำนาญโดยไม่ต้องฟังคำสั่งจากช่างภาพมือทองของประเทศที่ได้รับหน้าที่มาถ่ายรูปคอลเลกชันใหม่ของชุดเครื่องเพชรของพีเอสกรุ๊ปที่ถูกออกแบบโดยดีไซเนอร์เครื่องประดับชื่อดัง และพรีเซนเตอร์ที่มีฝีมือไม่ต่างจากนางแบบมืออาชีพที่นาน ๆ ทีจะยอมรับงานถ่ายแบบให้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน และเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...

“เริ่ดสะแมนแตนมากค่ะคุณเอม แหม เจ๊ล่ะเสียดาย ทำไมไม่ผันตัวมาเป็นนางแบบเต็มตัวล่ะคะ” เมนี่ ผู้ช่วยช่างภาพมือทองสาวประเภทสองพูดขึ้น ขณะที่ช่างทำผมและช่างแต่งหน้ากำลังรุมล้อมจัดความเรียบร้อยใหม่หลังถอดชุดเครื่องเพชรออก และรอชุดใหม่มาแทน

“แค่ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดยังไม่ยอมเป็นเลย คนอย่างคุณหนูเชอเอมที่เอาแต่ใจรึจะยอมมาเป็นนางแบบเต็มตัว” ก้องภพ ช่างภาพมือทองที่สนิทสนมกับเชอเอมด้วย เพราะได้ร่วมงานกันบ่อยหยุดถ่ายนางแบบคนอื่น แล้วหันมาตอบคำถามแทนเจ้าตัว

“พี่ภพ! เอมมีบาร์กับโรงแรมต้องดูแลนะคะ ทางนี้ก็ปล่อยพวกผู้ใหญ่เขาดูแลกันไปสิคะ อีกอย่างอาอัฐรับช่วงต่อแล้วด้วย” เชอเอมหันขวับมาตอบด้วยน้ำเสียงโทนปกติอย่างไม่ยี่หระ

“เห็นมั้ยล่ะครับ” ก้องภพพูดเสียงกลั้วหัวเราะ หันไปมองผู้ช่วยของตัวเองแล้วกลับมาถ่ายรูปนางแบบอีกชุดต่อทันที

“คุณเอมก็ เอางี้มั้ยคะ งานนางแบบเป็นอาชีพเสริม ทำเล่น ๆ ไป เงินก็ได้ด้วยนะคะ” เมนี่คว่ำปาก กลอกตามองบนใส่เพื่อนอย่างก้องภพ ก่อนจะหันมายิ้มกว้างคะยั้นคะยอลูกเจ้าของบริษัทชื่อดังที่ทำงานมาด้วยหลายปีอย่างมีความหวัง

“เจ๊เมนี่ เอมไม่เอาด้วยหรอกค่ะ เหนื่อยจะแย่ ที่ยอมมาเป็น

พรีเซนเตอร์ให้คุณพ่อก็เพราะมีผลประโยชน์ที่จะได้จากคุณพ่อต่างหากล่ะคะ” เชอเอมส่ายหัวพรืด ปฏิเสธอย่างชัดเจนทันที

“น่าเสียดายมากเลย คุณเอมรู้จังหวะรู้มุมกล้องดีกว่านางแบบตั้งหลายคน ไอ้ภพมันจะได้ไม่เหนื่อยมากด้วย” เมนี่ทำสีหน้าเสียดายอย่างมีจริตจะก้าน ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากเชอเอมและก้องภพได้เป็นอย่างดี ทว่าเสียงหัวเราะก็ต้องหยุดลงเมื่อมีพนักงานจากบริษัทที่ได้รับหน้าที่มาดูแลชุดเครื่องเพชรเอ่ยชื่อว่าที่ท่านประธานบริหารสูงสุดของพีเอสกรุ๊ป ทุกคนจึงหันขวับไปมองทันทีก่อนจะรีบวิ่งออกไปต้อนรับ

“ท่านรองประธาน”

“ไม่ต้องพิธี ทำงานกันต่อเถอะ วันนี้ผมพาซัปพลายเออร์คนใหม่อีกคนมาแนะนำ แล้วพามาดูงานด้วย” อัฐพลกล่าวพลางโบกมือเชิงไล่ให้กลับไปทำงาน แล้วเดินหลบให้ซัปพลายเออร์คนใหม่เดินเข้ามายังสตูดิโอถ่ายสินค้าที่ทางบริษัทก่อสร้างขึ้นไว้สำหรับถ่ายสินค้าของบริษัทโดยเฉพาะ

“ไฮ ฉันเอเรียน่า ซัปพลายเออร์คนใหม่ที่จะเข้ามาร่วมงานด้วย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะทุกคน” เสียงแหลมเอ่ยขึ้นอย่างมีจริตตามฉบับชาวตะวันตกด้วยสำเนียงอิตาเลียน

“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับกับการมาเป็นครอบครัวของพีเอสกรุ๊ปนะคะ” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระบายยิ้มกว้างออกไปอย่างมีมารยาท ยื่นมือออกไปเพื่อทำความรู้จัก

“คุณมานี ผมฝากคุณเอเรียน่าด้วยนะครับ อ้อ เรื่องยายเอม ฝากคุมด้วยนะครับ” อัฐพลฝากฝังกับผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดที่วันนี้ลงมาดูงานด้วยตัวเอง ไม่วายลืมกำชับเรื่องของหลานสาว

“ได้ค่ะท่านรอง เอ่อ แล้ว...” มานีรับคำด้วยรอยยิ้มแล้วมองเลย พลางชี้นิ้วไปทางด้านหลังของว่าที่ท่านประธานคนใหม่

เมื่ออัฐพลและเอเรียน่าหันไปมองตามเรียวนิ้วของมานี ก็พบกับ

เซนนิก้าที่เดินมาพร้อมกับถุงกระดาษที่บรรจุกล่องอาหารจากภัตตาคารชื่อดัง เขามาด้วยสีหน้าราบเรียบ ไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ ก่อนจะยิ้มบางรับกับคำทักทายของอัฐพล ผู้เป็นอาของแฟนสาวอย่างเชอเอม หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาได้สองเดือนแล้วที่ชายหนุ่มและหญิงสาวแอบคบหากัน ไม่สิ เฉพาะเธอมากกว่าที่แอบคบกับเขา ส่วนเขาน่ะหรือ ไม่ปิด แต่ก็ไม่ได้เปิดด้วยการเปล่าประกาศแต่อย่างใด ก็แค่คนที่ไนต์คลับรู้เรื่อง และคนที่บาร์ของสาวเจ้าทราบก็เท่านั้น ในคราแรกเซนนิก้าไม่ได้คิดจะมีความรักอีกครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้เอ่ยปากขอคบหาดูใจกับเจ้าตัวไปเช่นนั้นจนเวลาล่วงเลยมาได้สองเดือน เขายังจำความเจ็บปวดในอดีตไม่มีวันลืม โดยเฉพาะวันนี้ที่เขาจำมันได้อย่างชัดเจน เอเรียน่า...สายตาคมชำเลืองมองอดีตคนรักที่ทิ้งเขาไปแต่งงานกับเศรษฐีแก่คราวพ่อ แล้วดึงสายตามาที่อัฐพลเพื่อทักทายกลับไปตามมารยาทที่ควรจะเคารพต่ออีกฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่กว่า แม้อายุจะไม่ได้ห่างกันมากก็ตาม

“สวัสดีครับคุณเซนนิก้า มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ ผมคิดว่ากำลังคุยเรื่องเครื่องเพชรที่จะลงใหม่กับพี่กรอยู่ที่ห้องประชุม”

“สวัสดีครับคุณอัฐ คุยเรียบร้อยแล้วครับ เลยมาดูงานที่นี่ก่อนกลับ”

“ตามสบายนะครับ ผมขอตัวก่อน ต้องพาหนูนิดไปหาหมอตามนัด”

“เดี๋ยวครับ เจอคุณอัฐก็ดี พ่อของเอมคุยยากกว่า...เย็นนี้ผมขอพาเอมไปภูเก็ตนะครับ” เซนนิก้ารั้งอัฐพล พลางมองเลยไปที่เชอเอมซึ่งกำลังถ่ายแบบชุดเครื่องเพชรชุดใหม่ต่อ รอยยิ้มมุมปากยกขึ้นตอบรับรอยยิ้มของสาวเจ้าที่ส่งมา แม้คนอื่นจะมองว่าเป็นการยิ้มให้กับกล้อง ทว่าทั้งสองคนกำลังส่งยิ้มให้กันอย่างลับ ๆ โดยที่ใครก็มองไม่ออกแม้แต่อัฐพล แต่คำขอของ

เซนนิก้าทำให้อัฐพลหันขวับไปมองหลานสาวตัวเอง ก่อนจะหันมามองคู่ค้าด้วยความตกใจ ไม่ต่างไปจากเอเรียน่าที่มองลูกสาวเจ้าของบริษัทแล้วหันมามองเซนนิก้าที่ไม่คิดว่าจะพุดออกมาโต้ง ๆ เช่นนี้

“คุณกับเอม...” อัฐพลพูดไม่ออกด้วยอาการมึนงง เพราะเพิ่งรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสองอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ผมเห็นว่าคุณเป็นผู้ใหญ่...ผมคบกับเอมมาได้สองเดือนแล้ว หวังว่าคุณอัฐจะไม่ขัดขวางพวกเรานะครับ” เซนนิก้าเหยียดยิ้มบางแล้วตอบออกไป ไม่วายพูดให้ไปถึงหูของเอเรียน่าให้รู้อย่างชัดเจน

“...ขอบคุณที่บอก ผมไม่ว่าอะไรหรอก โต ๆ กันแล้ว ขอแค่อย่าทำอะไรที่ไม่ควรทำจนเอมต้องเสียใจก็พอ” อัฐพลนิ่งคิดถึงความหมายของอีกฝ่าย แม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการที่ชายหนุ่มคบหากับหลานสาวของเขา ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องความรักของคนสองคน ทั้งยังโตกันมากพอที่จะรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเองได้เป็นอย่างดีแล้ว เมื่อให้คำอนุญาตออกไปด้วยคำพูดเช่นนั้นก็ขอตัวออกไปทันที เพื่อพาภรรยาไปตามที่แพทย์นัดตรวจครรภ์

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (4)

    มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (3)

    หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (2)

    สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (1)

    บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (4)

    เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (3)

    ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status