LOGINยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้
“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”
“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”
เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว
“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน
“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”
“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตาเฉยได้ไง ถึงคราวพี่แล้ว” ไม่เพียงแค่พูด แต่ยังทำท่าจะยกแขนขึ้นมาโอบหัวไหล่เชอเอม เตรียมพาเดินไปโรงแรมเพื่อแกล้งเซนนิก้าให้หายแค้นใจ แต่แล้วมือที่กำลังจะวางลงบนไหล่เล็กไร้อาภรณ์คลุมชะงัก ด้วยเพราะสาวเจ้าสวมเพียงเดรสยาวสายเดี่ยวสีฟ้าอ่อน จึงทำให้เซนนิก้าเกิดอาการหึงหวงขึ้นมาจนต้องรีบก้าวเดินเปิดประตูวิลลาออกมาขัดจังหวะทั้งที่ร่างกายท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูพันเอวไว้ผืนเดียว
“ทำอะไร!”
ทั้งสองคนแอบยิ้มขันให้กันก่อนจะหันกลับไปมองเซนนิก้าที่ยืนอยู่หน้าประตูเมื่อถูกเสียงเข้มจากด้านหลังขัดจังหวะอย่างหงุดหงิดใจ จึงทำให้เห็นสายตาของเจ้าของน้ำเสียงอย่างไม่เป็นมิตรแข็งกร้าวขึ้นมาจนดูน่ากลัว และทำให้เธอรู้ตัวว่าเซนนิก้าเดินออกมาจากด้านในวิลลาทั้งที่พันผ้าขนหนูผืนเดียวอย่างหมิ่นเหม่เปลือยท่อนบน มีหยดน้ำพร่างพรายตามเรือนร่างให้รู้ว่ากำลังจะอาบน้ำ แต่ถูกขัดจังหวัดให้ต้องรีบร้อนออกมาเสียก่อน
แม้จะเคยชิน ทั้งเห็นและทั้งสัมผัสมาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เคยได้มองสำรวจชัด ๆ เท่าครั้งนี้มาก่อนว่าร่างกายของเขาแน่นไปด้วยมัดกล้ามและกล้ามเนื้อแน่น ๆ มากแค่ไหน
แต่...ทำไมเขาช่างกล้าเดินออกมาแบบนี้กันนะ ดีเท่าไรที่บริเวณนี้อนุญาตให้เฉพาะบุคคลเข้ามา หากเป็นชายหาดหน้าโรงแรม คงถูกสาว ๆ มองตาเป็นมัน หรือไม่ก็คงพากันมารุมเป็นแน่ ทว่าสายตาของเธอก็ช่างซุกซนเสียจริง วาดสายตาไปตามแผงอกที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลงมายังหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเคร่งครัดเป็นลอนสวยที่เรียกว่าซิกซ์แพ็ก ก่อนจะจบลงที่เส้นวีไลน์ลากต่ำหายลงสู่ขอบผ้าขนหนู
พอได้สำรวจร่างกายของเขาอย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้วก็ทำให้เลือดในร่างกายสาวเจ้าสูบฉีดไหลเวียนดีเสียเหลือเกิน หัวใจเต้นรัวราวกับมีคนมานั่งตีกลองอยู่ข้างใน รู้สึกถึงความร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าจนถึงใบหู
“เอม! เลือดกำเดาไหล”
“จะ จริงเหรอคะ”
เลือดในกายสาวช่างไหลเวียนดีจนเซนโซก้าร้องทักด้วยความตกใจ สายตาหวานที่ซุกซนจึงกะพริบตาถี่เรียกสติเงยหน้าขึ้น รีบยกมือขึ้นมาปิดจมูกไว้ ทว่าก็ถูกมือใหญ่ของเซนนิก้าดึงรั้งเอาไว้แล้วช้อนตัวอุ้มเดินกลับเข้ามาภายในวิลลาทันที
“ไม่ต้องตามมา ไม่ใช่เรื่องของนาย”
ทว่าเสียงเข้มดุกล่าวขึ้น โทนเสียงมีน้ำโหเล็กน้อยพูดกับฟ้าครามที่คิดจะก้าวเดินตามมาด้วย และเมื่อถูกห้ามเอาไว้ฟ้าครามก็เลือกที่จะไม่ตามไปให้เกิดเรื่องทะเลาะกับคนที่ตัดสินคนอื่นจากภายนอก ดูไม่ออกว่าตนกำลังแกล้งเย้าด้วยความหมั่นไส้ แต่แล้วก็เข้าใจเซนนิก้าเพราะตนก็เคยอยู่ในจุดนี้มาก่อน
จุดที่หึงหวงจนหน้ามืด ไม่มีสติ
เพราะความหวงสาวเจ้าทำให้เซนนิก้าไม่มีสติมองให้ละเอียดกว่านี้ว่าตนกำลังถูกแกล้งจากคนสองคน จนมีท่าทีไม่เหมาะสมหรือไม่ นอกจากความรู้สึกที่ไม่ชอบให้ผู้ชายคนอื่นมาพูดคุยกับเธอเพียงสองต่อสอง หรือแม้แต่ทำตัวสนิทสนมจนเกินไป ตอนนี้เชอเอมคือผู้หญิงของเขา ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าใกล้เธอมากกว่าสองเมตร!
เซนนิก้าใช้กระดาษทิชชูช่วยเช็ดเลือดกำเดาให้เชอเอมทั้งที่ยังพันผ้าขนหนูปิดช่วงล่าง นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น บนตักของหญิงสาวยังคงมีชุดไปรเวตของชายหนุ่มที่ถือเอาไว้ เพราะทันทีที่เดินเข้ามาภายในวิลลาเธอก็ถูกเขาพามานั่งลง และหาทิชชูมาเช็ดให้อย่างเบามือจนเธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อได้เห็นมุมอ่อนโยนใส่ใจเช่นนี้จากเขาเป็นครั้งแรก
“ยิ้มอะไร” เขาถามเมื่อเห็นว่าเธอกำลังมองมาด้วยรอยยิ้ม ทั้งที่จมูกยังมีทิชชูอุดเอาไว้
“ยิ้มไม่ได้เหรอคะ ครั้งแรกเลยนะที่พี่เซนอ่อนโยนกับเอม” เธอตอบทั้งที่ยังยิ้ม มองเขาไม่วางตา
“งั้นก็อย่ายิ้มให้คนอื่นนอกจากพี่” พูดออกไปด้วยโทนเสียงไม่สบอารมณ์ก่อนจะค่อย ๆ เผยรอยยิ้มเต็มหน้าครั้งแรกให้กับสาวเจ้า นับตั้งแต่เมื่อวานที่แสดงสีหน้าตึงไม่พอใจฟ้าคราม
“ถ้าเอมยิ้มแล้วทำให้พี่เซนยิ้มแบบนี้ได้ ก็โอเคค่ะ จะยิ้มให้พี่คนเดียว” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจด้วยรอยยิ้มมีความสุข และตอบตกลงไปด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ทว่าคำตอบของเธอไม่ได้พูดเล่นเหมือนน้ำเสียง
“เด็กดื้อ” เขายื่นมือไปวางลงบนศีรษะของสาวเจ้าแล้วขยี้เบา ๆ ด้วยความเอ็นดู
“เออ ใช่ พี่บอกว่าเพราะเอมเลยเสียเงินไปเยอะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” เชอเอมหัวเราะออกไปก่อนจะถามเมื่อนึกขึ้นได้ถึงคำพูดของเขา เมื่อนึกขึ้นได้ก็อยากถามเลย หากเก็บเอาไว้ก่อนมีหวังลืมเป็นแน่
ด้วยความสงสัยและมีคำถามมากมายเธอจึงเลือกที่จะใช้ช่วงเวลานี้ถามให้รู้เรื่องทุกอย่าง แม้แต่อากัปกิริยาที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงของเขาที่มีต่อเธอ เพราะการเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ทำให้เธอไม่อยากเชื่อและยังไม่อยากเปิดใจยอมรับมากเกินไป แม้ก่อนหน้านี้จะคบกันเป็นคู่รักก็จริง แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ได้มีท่าทีปิดบังเธออยู่ แม้จะแสดงความปรารถนาความคะนึงหายามที่เธอกลับไปนอนบ้านก็จริง แต่เอาเข้าจริง ๆ เขาก็ยังเฉยเมยและทำตัวตามปกติยามห่างกาย
แม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกโหยหาเธอยามห่างกายก็ตาม แต่ลึก ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงความห่างเหินน้อย ๆ แต่หากลองคิดให้กว้างขึ้น ชายหนุ่มอาจรู้สึกว่าเหมือนกำลังเสียสิ่งของบางที่กำลังเล่นสนุกด้วย เพราะยังอยากสนุกต่อ เขาถึงได้มาทำดีด้วยเช่นนี้
มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที
หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล
สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่
บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต
เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา
ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา







