พอส.....
"กรี๊ดดดดด" "เห้ยยยย!!!!" "พอสนายทำไมทุเรศอย่านี้ ฮืออออ" ผมนี่ถึงกับพูดไม่ออก อะไรคือการมาว่าผมว่าผมทุเรศวะ "ทุเรศอะไรนี่มันห้องน้ำในห้องนอนผมแล้วพี่เข้ามาทำไมใครอนุญาต!!!" ผมตวาดใส่คนที่ยืนหันหลังปิดตา "ฮือออ ก็ ก็ อาแพรวให้ขึ้นมาตามลงไปกินขนมข้างล่างพี่เคาะห้องตั้งหลายทีแล้วนายก็เงียบพี่ก็เลยเปิดประตูเข้ามาดูแล้วไม่เจอพอเดินมาที่หน้าห้องน้ำพี่ก็เรียกอีกแต่นายก็ไม่หือไม่อือได้ยินแต่เสียงเพลงที่นายเปิดพี่ก็คิดว่านายอาจจะลื่นล้มในห้องน้ำก็เลยเปิดเข้ามาดูแต่....แต่ไม่คิดว่าจะเจอ....เจอ....ฮืออออ เจอหนอนชาเขียวตัวโต" "ห๊ะ หนอนชาเขียวตัวโต!!!!" ผมอึ้งอีกรอบอะไรคือมาพูดว่าน้องชายของผมคือหน่อนชาเขียวตัวโต "อื้อออ มะก่อนตอนนายเด็กๆพี่เคยอาบน้ำให้มันไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ตอนนั้นมันยังเป็นหนอนตัวเล็กๆอยู่เลยอ่ะ แต่ตอนนี้ทำไมมันโตวัยจังเลยล่ะ" ผมแม่งไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดดีแล้วตอนนี้ "เห้ออออ....ผมว่าพี่ออกไปได้ละผมจะได้อาบน้ำต่อ" ผมตัดบทเพราะตอนนี้ตัวผมยังเต็มไปด้วยสบู่โดยที่มีซายน์ยืนหันหลังอยู่ไม่ยอมไปไหน "อื้อ อื้อ" ไม่ต้องให้บอกรอบสองตอนนี้ซายน์วิ่งออกไปจากห้องน้ำแล้ว ผมถอนหายใจโล่งอกก่อนจะก้มมองดูหนอนชาเขียว เอ้ย น้องชายตัวเองที่ไม่เคยมีใครได้เห็นตั้งแต่ผมรู้ความ ซายน์... ฉันวิ่งออกมาจากห้องนอนของพอสด้วยใจที่เต้นแรงเพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจออะไรแบบนี้ ถึงมันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นของพอสเพราะตอนเด็กๆเราเล่นด้วยกันอาบน้ำด้วยกันแต่นั่นมันก็ตั้งสมัยไหนแล้วตอนนั้นของเขามันยังจิ๋วหลิวอยู่เลยแต่ตอนนี้มันเอ่อ...มันทั้งใหญ่ทั้งยาวมันน่ากินเอ้ยน่ากลัวมากๆ...แค่คิดฉันก็รู้สึกร้อนใบหน้าขึ้นมาซะงั้น โอ๊ยจะทำไงดีภาพมันติดตาฉันอยู่เลยสลัดยังไงก็ไม่หลุด "น้องซายน์ตามตาพอสให้อาแล้วใช่ไหม" ฉันเดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นก็เจออาแพรวกำลังนั่งจัดจานขนมจีบกุ้งที่เราเพิ่งช่วยกันทำเสร็จเมื่อครู่นี้ก่อนที่ฉันจะขึ้นไปตามพอส "ค่ะตามแล้วค่ะ เดี๋ยวคงจะลงมาค่ะอาแพรว" ฉันรีบตอบอาแพรวก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแต่... "ทำไมหน้าน้องซายน์แดงแบบนี้ล่ะลูก" "เอ่อ คือว่าซายน์ร้อนน่ะค่ะอาแพรว" ฉันโกหกออกไปเพราะจะให้ฉันตอบตามความจริงว่าที่ฉันเป็นแบบนี้เพราะไปเจอหนอนชาเขียวมาก็คงจะไม่ดี "อ้าวเหรอลูก มามานั่งพักก่อนเดินขึ้นเดินลงคงจะเหนื่อยโทษทีนะจ๊ะบันไดบ้านอามันสูงไปหน่อย^^" คืออยากจะบอกว่าบ้านอาแพรวน่ะใหญ่โตพอๆกับบ้านฉันมีด้วยกันสามชั้นชั้นที่พอสอยู่อยู่ชั้นสามอาแพรวคงคิดว่าฉันคงจะเหนื่อยที่ต้องเดินขึ้นเดินลงแต่จริงๆแล้วไม่ใช่สาเหตุนี้หรอกที่ทำให้ฉันหน้าแดง ฉันเดินไปนั่งข้างอาแพรวสักพักพอสก็เดินล้วงกระเป๋ากางเกงลงมาเขาสวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงวอมสีดำเหมือนที่เขาชอบใส่เวลาอยู่บ้านผมของเขาที่ยังเปียกเพราะเพิ่งสระผมมาใบหน้าที่เรียบเฉยไม่ค่อยแสดงอาการหรืออารมณ์ใดๆทำให้เขาดูน่ามองน่าสนใจและน่าค้นหาในสายตาของฉันเขาหล่อมากเลยนะ คือจะบอกว่าพอสน่ะหล่อมาตั้งแต่เด็กเลยก็ว่าได้ ฉันจำสมัยที่เราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันฉันเห็นสาวๆเข้าหาเขาเยอะแต่เขาไม่สนใจใครเลยไม่เคยพูดหรือให้ความหวังกับใครเพราะเขามีคนที่สนใจอยู่แล้วนั่นก็คือตะวันเพื่อนสนิทของเขานั่นเอง ฉันมองเขาตั้งแต่เดินลงมาจนกระทั่งเขาเดินมาในห้องนั่งเล่นที่มีฉันกับอาแพรวนั่งอยู่แล้วสายตาของฉันก็ดันไปจ้องตรงส่วนนั้นโดยไม่รู้ตัว คือมันอยู่ในระดับสายตาของฉันพอดีฉันก็เลยมองอย่างไม่ตั้งใจ "มองอะไร" เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจ "เปล่าไม่ได้มอง" ฉันรีบส่ายหน้าพร้อมปฏิเสธแล้วหันไปหาอาแพรวทันที หลังจากนั้นเราสามคนก็นั่งทานขนมจีบด้วยกันสามคน ฉันลอบมองหน้าพอสตอนที่เขาเผลอแล้วก็แอบยิ้มคนเดียว นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้มองหน้าเขาแบบใกล้ชิดแบบนี้ "น้องซายน์เรียนจบกลับมาคิดจะทำธุรกิจอะไรไหมลูก" อาแพรวที่คงเห็นว่าเราเงียบกันมากก็เลยหันมาถามฉัน "อ่อ ยังไม่รู้เลยค่ะอาแพรว" "แล้วน้องซายน์เรียนด้านไหนมาล่ะลูก" "น้องซายน์เรียนบริหารการจัดการมาน่ะค่ะ" "เหรอลูก ดีจัง ว่าแต่น้องซายน์คิดหรือยังว่าทำอะไร หรืออยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง" "น้องซายน์ไม่เก่งพอที่จะทำอะไรใหญ่โตขนาดนั้นหรอก น้องซายน์อยากหาประสบการณ์อยากลองทำงานบบริษัทดูก่อนลองไปเป็นลูกน้องเค้าก่อนแต่พ่อกับแม่ของซายน์กลัวว่าซายน์จะไปเจอเจ้านายโรคจิตหื่นกามก็เลยยังไม่อยากให้ไปทำงานที่ไหน นี่น้องซาย์ก็เซ็งๆนะคะอยู่แต่บ้าน" นี่คือเรื่องจริงเพราะตั้งแต่ฉันเรียนจบโทกลับมาฉันยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนั่งๆนอนๆอยู่แต่กับบ้านเพราะพ่อกับแม่ไม่อยากให้ฉันไปเป็นลูกจ้างใครบอกว่าไม่ต้องทำอะไรพ่อกับแม่ก็เลี้ยงฉันได้แต่ฉันก็อยากลองทำอะไรดูบ้างไม่ใช่เรียนมาแล้วไม่ได้ใช้ "ที่โรงงานของอาขาดอยู่หนึ่งตำแหน่งพอดีเลยน้องซายน์สนใจมั้ยลูก" "จริงเหรอคะ" ฉันถามอย่างตื่นเต้นแม้จะยังไม่รู้จะไปทำอะไร "จริงสิจ๊ะ ถ้าน้องซายน์สนใจ อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ก็บอกอามาได้เลยนะอายินดีจ่าย^^" "แล้วถ้าน้องซายน์ไปทำน้องซายน์จะไปทำตำแหน่งอะไรคะอาแพรว" เรื่องเงินเดือนฉันไม่สนใจหรอกแต่ฉันอยากรู้ว่าฉันจะได้ทำอะไรเพราะฉันเรียนจบบริหารมาอยากทำงานตามที่ตัวเองเรียนมาก็เท่านั้นเอง "ก็ตำแหน่งผู้ช่วยของตาพอสไง น้องซายน์จบตั้งปริญญาโทอาคิดว่าน้องซายน์น่าจะเป็นผู้ช่วยที่ดีให้กับลูกชายอาได้มีอะไรก็ปรึกษากันอะไรแบบนี้" "คะ??" "ม๊า!!!" "คือม๊าเห็นว่าพี่เค้าเรียนจบโทมาอาจจะช่วยพอสได้" "แต่ผมไม่ต้องการผู้ช่วยผมทำของผมเองได้" "ไม่ได้สิ" "เอ่อ คือถ้าลูกชายของอาแพรวเค้าไม่ต้องการผู้ช่วยน้องซายน์ก็...." "ต้องการสิทำไมจะไม่ต้องการ" เวลาต่อมา... "จริงเหรอจ๊ะน้องแพรว พี่ขอบใจเรามากเลยนะที่ชวนยัยซายน์ไปทำงานด้วยน่ะ ถ้าได้ทำกับตาพอสพี่ก็จะได้สบายใจ" ตอนนี้อาแพรวกำลังนั่งคุยกับแม่ของฉันที่บ้านของฉันเองค่ะเรื่องที่จะให้ฉันไปทำงานเป็นผู้ช่วยของพอสโดยมีพอสนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆไม่พูดไม่จาอะไร "พี่ฝนไม่ต้องเป็นห่วงนะคะแพรวจะช่วยดูแลน้องซายน์อย่างดีเลย ส่วนค่าจ้างอยากเรียกเท่าไหร่ก็ว่ามาเลยค่ะแพรวยินดีจ่ายให้ขอแค่พี่ฝนยอมให้น้องซายน์ไปทำงานที่โรงงานของตาพอส" "ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้น้องแพรว น้องแพรวให้เงินเดือนน้องซายน์ตามเกณฑ์ของบริษัทนั่นแล่ะ ลูกสาวของพี่ก็ถือว่าเป็นพนักงานทั่วไปคนนึงไม่ต้องมีอภิสิทธิ์อะไรทั้งนั้นคนอื่นเค้าจะได้ไม่มาว่าเราทีหลัง" แม่ของฉันพูดถูกต้องทุกอย่างเพราะถ้าฉันต้องทำงานฉันก็ไม่อยากให้ใครมาว่าลับหลังว่าใช้เส้นสายเพื่อเข้าทำงานแถมยังได้เงินเดือนเยอะกว่าคนอื่นๆ "ไม่ได้หรอกค่ะเพราะน้องซายน์จบตั้งปริญญาโทมาจากเมืองนอกยังไงค่าจ้างก็ต้องได้เยอะกว่าคนอื่นๆอยู่ดี เอางี้ดีกว่าแพรวจะให้เงินเดือนน้องซายน์เท่าตาพอสเลยดีมั้ยคะ^^" "ห๊ะ!!!" แม่ฉันเองค่ะที่อุทานออกมาด้วยความตกใจรวมถึงฉันด้วยที่ตกใจไม่น้อยไปกว่าแม่ "อาแพรวคะคือว่า" คือว่าฉันรู้สึกเกรงใจน่ะถึงแม้จะรู้ว่าครอบครัวอาแพรวจะรวยมากๆพอๆกับครอบครัวของฉันก็เถอะแต่มันเยอะเกินไปฉันเป็นแค่ผู้ช่วยแต่ให้เงินเดือนเท่าเจ้าของของพอสมันดูยังไงๆอยู่ ฉันหันไปมองหน้าพอสที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตากดมือถือเล่นไม่ได้หือได้อืออะไรกับคำพูดของแม่ตัวเอง นี่เขาไม่คิดจะมีปฏิกริยาต่อต้านบ้างเหรอที่ฉันจะได้เงินเดือนเท่าเขาน่ะ "ไม่มีแต่จ๊ะน้องซายน์ ถ้างั้นตกลงตามนี้นะคะพี่ฝน^^" คุณแม่เปย์หนักมาก55555พอส...ผมพาซายน์กับเด็กๆมาถึงที่พักหัวหินที่ผมให้พี่นุชจองให้เมื่อหลายวันก่อนซึ่งเป็นพูลวิลล่าขนาดใหญ่เพราะครอบครัวเรามีกันถึงห้าคนจะจองโรงแรมคงไม่ไหวเพราะเด็กๆซนกันมาก ที่ผมพาลูกเมียมาเที่ยวครั้งนี้เพราะผมช่วงที่ผ่านมาผมยุ่งอยู่กับงานไม่ค่อยได้พาพวกเขาไปเที่ยวไหนเลยมากสุดก็แค่พาไปเที่ยวสวนสัตว์ ไปว่ายน้ำแค่นั้น ผมไม่อยากให้ลูกๆอยู่แต่บ้านกลัวเด็กๆจะเหงาและน้อยใจที่ผมไม่พาไปไหนเลย"สวยจังเลยค่ะปะป๊า สระว่ายน้ำมีเป็ดเหลืองด้วย น้องอยากเล่นน้ำค่ะ" น้องพัชชาออกอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มีทั้งลูกโป่ง ทั้งห่วงยางหลากหลายสีสันลอยอยู่เต็มสระน้ำ"ปะป๊าครับผมอยากเล่นน้ำทะเลไม่อยากเล่นน้ำสระน้ำครับ มันเล็กเกินไป""ใช่ครับสระน้ำเค้าเอาไว้ให้เด็กน้อยอย่างพัชชาเล่น ผมกับพี่พัตเตอร์จะเล่นน้ำทะเล" ผมแอบขำกับคำพูดของลูกชายฝาแฝดที่คงจะลืมไปว่าตัวเองเกิดก่อนน้องสาวไม่กี่นาที"เอาไว้พรุ่งนี้ปะป๊าจะพาไปเล่นนะครับแต่ตอนนี้ลูกๆต้องเอากระเป๋าไปเก็บก่อนนะครับ เดี๋ยวปะป๊าจะพาไปทานอาหารทะเลอร่อยๆ""เย้ เย้ เย้ น้องอยากกินกุ้งตัวใหญ่ๆค่ะปะป๊า""ผมอยากกินปลาหมึกย่างครับปะป๊า""ผมอยากกินปูผัดผงกะ
สามปีต่อมา....ซายน์...."เด็กๆตื่นได้แล้วจ้าาา สายแล้วน๊าาาา" ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงกว่าแล้วฉันเดินเข้ามาในห้องของลูกๆเพราะยังไม่มีใครตื่นปกติจะตื่นเช้ากันมาก น่าจะเป็นเพราะเมื่อวานพอสพาลูกๆไปเรียนว่ายน้ำมาคงจะเหนื่อย คือตอนแรกพอสบอกจะสอนลูกๆว่ายน้ำเองแต่ฉันบอกอย่าเลยเพราะลูกตั้งสามคนจะสอนยังไงแต่ละคนซนยังกะลิงไม่ว่าจะหญิงหรือชาย อ่อฉันลืมบอกไปใช่ไหมว่าฉันได้ลูกแฝดเป็นชายสองหญิงหนึ่งค่ะ"พัดเตอร์ พ้ตโตะ พัชชา ตื่นได้แล้วนะคะสายแล้วน๊าาา""ฮืออ หม่ามี๊ขาน้องยังไม่อยากตื่นเลยค่า" น้องพัชชาแฝดคนเล็กอ้อนทันทีเมื่อฉันเดินมาถึงเตียง"ทำไมล่ะคะ""น้องปวดแขนมากเลยค่า""ใช่ค๊าบ ผมก็ปวด""ผมด้วยค๊าบ""ถ้าเป็นแบบนี้สงสัยหม่ามี๊คงต้องบอกปะปําให้เลื่อนวันไปเที่ยวซะแล้ว""ไปเที่ยว!!!/ไปเที่ยว!!!/ไปเที่ยว!!!" เด็กทั้งสามลุกขึ้นจากที่นอนทันทีเมื่อได้ยินคำว่าไปเที่ยว"ใช่ค่ะ ปะป๊าบอกว่าวันนี้จะพาพวกเราไปเที่ยวทะเล""เย้ๆๆๆๆไปทะเล""เย้ๆๆๆ ""ไปทะเล ว๊าววววน้องอยากไปทะเลค่ะ" สามแฝดกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจจนลืมไปว่าเพิ่งบ่นปวดแขน"ค่ะเราจะไปทะเลกันสามวันสองคืน ใครอยากไปมั่งเอ่ย""น้องค่า""ผมครับ""ผมคร
ซายน์....ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะอยู่แผนกสูตินรีเวชคืออยู่ดีๆหม่าม๊าแพรวกับพอสก็พาฉันมาที่นี่โดยที่ไม่บอกรายละเอียดอะไรฉันเลยสักอย่างคือจู่ๆก็พาฉันมาพอฉันถามก็ไม่มีใครตอบ ซึ่งตอนแรกฉันคิดว่าพอสไม่สบายเพราะเขาหน้าซีดมากต้องดมยาดมตลอดเวลาที่นั่งรถมาจนกระทั่งคุณหมอเรียกชื่อฉันจากนั้นทั้งหม่าม๊าทั้งพอสก็เดินตามฉันเข้าไปข้างในห้องตรวจ"แสดงความยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณซายน์ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วค่ะ^^""หา?? ตั้งครรภ์ คือหมายถึงฉันท้องเหรอคะคุณหมอ""ใช่ค่ะ^^""นั่นไงม๊าบอกแล้วว่าน้องซายน์ต้องท้องแน่ๆ" หม่าม๊าแพรวพูดด้วยความตื่นเต้น พอหันไปมองหน้าพอสอาการเขาตอนนี้แย่กว่าเดิมเพราะเขาเป็นลมล้มตึงไปแล้วค่ะหลังจากที่รู้จากปากคุณหมอว่าฉันท้อง กลายเป็นว่าทั้งหมอทั้งพยาบาลต้องวุ่นวายพยุงเขาขึ้นเตียงแล้วช่วยกันปฐมพยาบาลให้เขาฟื้นจนฉันอดขำไม่ได้ที่เขาดีใจจนเป็นลมจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองเดือนแล้วค่ะตอนนี้ฉันท้องได้สี่เดือนแล้ว ทุกวันนี้ฉันแทบไม่ได้ไปไหนหรือทำอะไรเลยเพราะคุณหมอสั่งห้ามให้ออกแรงหรือทำงานอะไรที่มันหนัก ทั้งที่ปกติฉันก็ไม่ได้ทำงานอะไรอยู่แล้วอยู่แต่บ้านให้สามีเลี้ยงค่ะ "น้
พอส..."ถ้าเธอจะกลับไทยฉันจะช่วยเธอเอง ส่วนเรื่องหนังสือเดินทางเดี๋ยวจะจัดการให้แต่...""แต่อะไร""แต่เธอห้ามว่ายุ่งวุ่นวายกับฉันแล้วก็เมียของฉันอีก""พอสไม่ใจดำกับแฟนเก่านายไปหน่อยเหรอ""พี่จะให้ผมใจดีกับผู้หญิงคนนี้ที่ปั้นน้ำเป็นตัวสร้างเรื่องจนเกือบทำให้พี่เข้าใจผมผิดเหรอ""แต่พี่ก็ไม่เชื่อนี่นา""ไม่รู้ล่ะ ยังไงผมก็ต้องตัดไฟแต่ต้นลม ว่าไงสายป่านเธอจะเอาไง" ผมหันไปถามสายป่านที่ตอนนี้ยังเอาแต่รก้มหน้าร้องไห้ไม่หยุด "ก็ได้ในเมื่อป่านไม่มีทางเลือกแล้วนี่พอสจะให้ป่านทำอะไรก็บอกมาได้เลย""เธออย่ามาทำน้ำเสียงเหมือนฉันบังคับเธอเหมือนฉันทำผิดกับเธอ ในเมื่อเธอกับฉันเราไม่ได้เป็นอะไรกัน""แต่เราเคยเป็นแฟนกันนะ""แล้วไง ในเมื่อเราเลิกกันแล้วเราไม่เคยมีอะไรกันเลยด้วยซ้ำแต่เธอกลับมาพูดเหมือนฉันกับเธอเคยมีอะไรกัน ฉันไม่ทิ้งเธอไว้ข้างถนนก็ดีแค่ไหนแล้ววะถ้าเมียฉันเป็นคนนิสัยไม่ดีเธออย่าหวังว่าจะได้มาที่นี่นั่งอยู่ตรงนี้""พอสใจเย็นๆนะ" ซายน์เดินมาลูบแทนผมเหมือนต้องการให้ผมใจเย็นแต่สายตาของสายป่านที่มองซายน์คิดว่าผมดูไม่ออกเหรอ"เธออย่ามองเมียฉันด้วยสายตาเกลียดชังแบบนี้สายป่าน""ทำไมพอสถึงเปลี่ยนไ
พอส..."พอส ใช่นายจริงๆ ด้วย อืออพอส" สายป่านก็วิ่งเข้ามากอดผมทำเอาผมทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่ ส่วนซายน์เธอมองผมที่ถูกสายป่านกอดด้วยสีหน้าไม่พอใจ"เธอปล่อยฉันก่อนสายป่าน" ผมผลักสายป่านออกแต่เธอเกาะผมไม่ยอมปล่อย"ไม่ปล่อย ฮือออ ป่านไม่คิดว่าจะมาเจอพอสที่นี่พอสเหมือนพระมาโปรดป่านจริงๆ พอสช่วยป่านด้วยนะ""ช่วยอะไร" ผมถามแต่สายตายังจับจ้องไปที่ซายน์เพราะผมกลัวเธอจะเข้าใจผิดที่จู่ๆก็มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้วิ่งมากอด"ป่านถูกคริสตามน่ะ""คริส??""เอ่อเขาคือแฟนใหม่ของป่านเอป่านคบกับเขาหลังจากที่เลิกกับพอส เขาหลอกให้ป่านมาอยู่กับเขาที่นี่บอกว่าจะพาป่านมาเจอพ่อกับแม่ของเขาแต่สุดท้ายเขาก็หลอกป่าน เขาตั้งใจพาป่านมาขายให้กับเศรษฐีแก่คนนึง พอป่านไม่ยอมเขาก็ซ้อมทั้งที่ป่าน...ท้องอยู่""ท้อง/ท้อง" ผมกับซายน์พูดขึ้นพร้อมกัน"ใช่ป่านท้อง ฮือออ พอสต้องช่วยป่านนะ ช่วยลูกของเรา""ลูกของเราเธอหมายถึงอะไร""ก็ลูกในท้องของป่านไงเขาเป็นลูกของพอส""เธออย่ามาพูดมั่วๆฉันกับเธอเราไม่เคยมีอะไรกันเธอจะท้องกับฉันได้ยังไงและอีกอย่างฉันกับเธอเราเลิกกันมาสามเดือนแล้วนะ""ตอนนี้ป่านท้องได้สามเดือนพอดี คือ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา....พอส... ตอนนี้ผมพาซายน์มาฮันนีมูนที่ประเทศฟินแลนด์ครับ คืนก่อนวันเดินทางซายน์ตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับเพราะประเทศนี้เป็นประเทศที่เธอใฝ่ฝันอยากจะมาเที่ยวนานแล้ว"พอส พี่นอนไม่หลับเลยอ่ะทำไงดี""ตื่นเต้นเหรอ""อื้ออออ""ทำเหมือนไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ""แต่พี่ไม่เคยไปฟินแลนด์นี่นามันคือประเทศในฝันของพี่เลยและที่สำคัญมากไปกว่านั้นพี่ได้ไปกับพอสด้วย ขอบคุณนะคะคนดีที่ทำให้ความฝันของพี่เป็นจริง^^" จุ๊บ จุ๊บ เธอจุ๊บปากผมเบาๆสองทีก่อนจะซบลงที่อกของผม"โอ๊ยทำไงดีอ่ะพี่นอนไม่หลับ" ซายน์ดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาจนผมอดขำไม่ได้เธอไม่ยอมนอนสักทีแล้วผมจะนอนได้ยังไงสงสัยผมต้องหาวิธีทำให้เธอหลับซะแล้วเพราะไม่งั้นพรุ่งนี้ผมคงต้องแบกเธอขึ้นรถไปสนามบินเพราะไม่ยอมตื่น"ผมมีวิธีทำให้พี่หลับสนิทจนถึงเช้าเลย""จริงเหรอวิธีไหนล่ะ""ก็วิธีนี้ไง""ว๊ายยยย" ผมจับซายน์พลิกลงไปนอนราบกับที่นอนจากนั้นก็ถอดชุดนอนของเธอออกอย่างรวดเร็ว"ผมก็นอนไม่หลับถ้าไม่ได้กินนม" จ๊วบ จ๊วบ แผล่บ แผล่บ แผล่บ จ๊วบ จ๊วบ ผมทั้งดูดทั้งเลียเต้าอวบอิ่มของคนใต้ร่างจนเธอคราง"ฮื้ออออ พอส ฮืออออ มันเสียว อื้อออ พอส""เรียกผัวจ๋