แชร์

พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย
พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย
ผู้แต่ง: ฉันรัก

1. ย้อนเวลา

ผู้เขียน: ฉันรัก
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-16 17:34:13

“แก้วเอ๊ย ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้” เสียงผู้หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างมาอย่างเวทนา

“ยังอายุน้อยอยู่แท้ ๆ” เสียงชายวัยกลางคนกล่าวเสริมขึ้นมา

“เฮ้อ...ไม่รู้บ้านนี้มีอาถรรพณ์อะไร มีงานขาวดำไม่หยุดหย่อน แล้วใครจะเป็นเจ้าภาพงานศพล่ะทีนี้ แก้วก็ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนแล้ว”

“แม่เดือน ฉันว่าเรามารับเป็นเจ้าภาพเพื่อทำบุญให้แก้วเป็นครั้งสุดท้ายกันเถอะ ค่างานศพคงไม่กี่บาทหรอก”

“ก็ดีเหมือนกันนะพี่ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก้วมัน ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเจอแต่ความทุกข์แบบนี้” วงเดือนเห็นด้วยกับสามี

“เฮือก!”

เสียงสูดหายใจเข้าลึกของหญิงสาวที่ตอนแรกนอนหมดลมหายใจไปแล้ว ทำเอาวงเดือน คำปัน และชายหนุ่มร่างสูงวัยยี่สิบเอ็ดปี รวมไปถึงชาวบ้านอีกสองสามคนที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ต่างอยู่สะดุ้งโหยงไปตาม ๆกัน วงเดือนถึงกับตัวสั่นและขยับตัวเข้าไปชิดสามีและลูกชายด้วยความตกใจ

“ก..ก..แก้ว!” วงเดือนเอ่ยเรียกหญิงสาวปากคอสั่น

หลังจากสูดหายใจเข้าไปอีกเฮือกใหญ่ พิริยาจึงค่อย ๆ ฝืนลืมตาขึ้น ภาพที่ตกกระทบสายตาภาพแรกคือหลังคาใบจากและขื่อไม้สีน้ำตาลที่ดูเก่าและทรุดโทรม ตรงขื่อมีผ้าฝ้ายเส้นหนาสีหมองผูกเป็นรูปบ่วงเอาไว้

นี่เธออยู่ที่ไหนกัน จำได้ว่าเธอขาดสติเผลอขับรถไปขวางทางปืนให้ชายแก่ท่าทางดูดีคนหนึ่งนี่นะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงมานอนอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าได้รับบาดเจ็บแล้วมีคนพามารักษาตัวที่นี่?

“พ..พี่ปัน เข้าไปดูหน่อยสิ” วงเดือนที่ยังไม่หายจากอาการหวาดผวารีบผลักสามีเข้าไปใกล้ร่างหญิงสาว

คำปันเหงื่อแตกพลั่กแต่ไม่ลืมเหล่ค้อนภรรยา เขาค่อย ๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้ร่างหญิงสาวแบบไม่เต็มใจ

“ก..แก้ว ต..ตายแล้วหรือยังเป็น?”

เมื่อได้ยินเสียงคนพูดอยู่ใกล้ ๆ พิริยาจึงค่อย ๆ เบือนหน้าของตัวเองไปยังทิศทางของเสียง และเธอก็ได้เห็นชายวัยเกือบห้าสิบ ผิวสีดำแดง รูปร่างสันทัด กำลังมองเธอด้วยสีหน้าหวาดกลัว

ใคร? แล้วเป็นหรือตายคืออะไร? แล้วแก้วคือใคร? พิริยาส่งสายตาที่ว่างเปล่ามองไปยังชายสูงวัยคนนั้นด้วยความสับสนเป็นอย่างยิ่ง

-----

ได้อยู่คนเดียวแล้ว

พิริยาลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะมองตามหลังผู้คนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินลงจากเรือนไป หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่ชวนอึกทึกและสับสนวุ่นวายมากว่าหนึ่งชั่วโมง เธอจึงเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้ทั้งหมด

เธอได้มาเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาววัยสิบหกปีที่ชื่อปิ่นแก้ว ถึงเธอจะชอบอ่านนิยายแนวย้อนอดีตมากแค่ไหนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปมีชีวิตเหมือนนางเอกในนิยายก็ได้นี่!

แล้วนี่ก็ไม่ใช่การย้อนอดีตแบบธรรมดา เป็นการย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2525!!

ชีวิตของพิริยาเกิดมาบนกองเงินกองทองเรียกว่าใช้ทั้งชาติไม่หมด เธอมีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่รักและทุ่มเททุกอย่างให้เธอ เรียกว่าแค่ขยับปากเบา ๆ ทุกสิ่งที่เธอต้องการก็จะมาตั้งอยู่เบื้องหน้าทันที

แต่การมีชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองของเธอต้องแลกกับความสูญเสียญาติพี่น้องแบบไม่มีที่สิ้นสุด ญาติพี่น้องในครอบครัวเธอต่างอายุสั้นและทยอยจากไปทีละคน สุดท้ายก็ทิ้งเธอให้อยู่เดียวดายเพียงลำพังเท่านั้น

หลังจากนั้น พิริยาก็ได้กลายเป็นคนเก็บตัว เธอไม่ยอมคบหากับใครและไม่ยอมสร้างครอบครัวกับใคร เพราะเธอกลัวความสูญเสีย เธอไม่ชอบความรู้สึกเสียใจที่เกิดจากการสูญเสียคนที่รัก

พิริยามีแต่ความเศร้าผสมกับความเบื่อหน่าย เธอจึงวนเวียน นอน กิน นอน กิน อยู่แบบนั้น จนน้ำหนักตัวร่วมร้อยในที่สุด แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะการกินของอร่อยช่วยให้เธอคลายเศร้าได้ หากเธอต้องตายเพราะกินอาหารเกินขนาดก็ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว

 แต่แล้วความปรารถนาก็ไม่เป็นผล เนื่องจากอาหารในบ้านเริ่มร่อยหรอ เธอจึงขับรถออกจากบ้านเพื่อไปที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล ระหว่างจอดรถรอออกจากซอย เธอก็เห็นภาพการไล่ล่าของรถยนต์สองคัน คันที่โดนไล่ล่าขับโดยชายสูงอายุท่าทางภูมิฐาน ส่วนคันที่ไล่ตามหลังขับโดยชายหนุ่มหน้าเหี้ยมสวมแว่นตาดำ และมีผู้ชายอีกคนที่นั่งคู่กันกำลังถือปืนเตรียมยิงไปที่คันข้างหน้า

ภาพนี้เหมือนกับซีรีส์ที่เธอเพิ่งดูเมื่อคืนตอนมือปืนกำลังไล่ล่าตามฆ่าบุคคลสำคัญอยู่ พิริยาตกตะลึงกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า เหมือนผีจับยัด ความอยากเป็นพลเมืองดีได้จู่โจมเข้ามาในความคิดของเธอแบบกะทันหัน เธออยากช่วยชายสูงอายุคนนั้นให้รอดตาย แต่จะช่วยอย่างไรดี?

เมื่อรถทั้งสองคันขับผ่านเธอไป ชายสูงอายุที่โดนไล่ล่าก็ตัดสินใจยูเทิร์นรถตรงแยกข้างหน้า แล้วย้อนกลับมาทางปากซอยที่พิริยาจอดรถอยู่ เธอจึงเห็นโอกาสและตัดสินใจเหยียบคันเร่งพุ่งออกจากซอย แล้ววิ่งรถตัดขวางถนนตรงไปยังอีกฝั่ง เพื่อนำรถของตัวเองเข้าขวางทางระหว่างรถสองคัน แล้วก็สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ หลังจากนั้นเธอก็ตาย!

พิริยาเคาะหัวและด่าในความโง่เง่าของตนเอง อยู่ดีไม่ว่าดี แทนที่จะไปได้ซื้อของอร่อย ๆ ที่ห้างสรรพสินค้า กลับเลือกที่จะขับรถไปขวางทางรถอีกคันจนตัวเองตายไปแบบนี้ เจ็บใจตัวเองนัก!

พิริยาถอนหายใจดังเฮือกระหว่างเงยหน้ามองไปรอบบ้านหลังใหม่ของเธออย่างอดสูใจ ไม่รู้บุญหรือบาปที่ต้องมาอยู่ในร่างของนางสาวปิ่นแก้วคนนี้

ชีวิตของนางสาวปิ่นแก้วเจ้าของร่างนี้น่าอดสูเป็นอย่างยิ่ง ครอบครัวมีหนี้สินล้นเนื่องจากปู่และย่าสร้างหนี้ไว้แล้วก็ตายจาก พ่อและแม่ของปิ่นแก้วจำต้องทำงานงก ๆ หาเงินใช้หนี้ในทุกเดือน

พ่อและแม่ของปิ่นแก้วมีอาชีพทำนา ทำสวน ปลูกผัก ปลูกข้าวเลี้ยงชีพ รายได้จากการขายข้าวจะได้รับแค่ปีละสองครั้ง ระหว่างรอเงินก้อนจากการขายข้าว พ่อและแม่ก็ปลูกผักสวนครัวไปขายที่ตลาดเพื่อหารายได้ไว้ใช้จ่ายประจำวันและจ่ายหนี้รายเดือนของครอบครัว พวกเขาจึงไม่เหลือเงินเก็บ เรียกว่าจนแบบไม่ได้ผุดได้เกิด พิริยาไม่ถูกใจสิ่งนี้!

แม้จะกระเบียดกระเสียรกันแค่ไหน แต่ทั้งพ่อและแม่ก็ยังคำนึงถึงอนาคตของลูกสาวคนเดียว จึงกัดฟันส่งลูกเรียนเพื่อให้มีความรู้ติดตัว ตอนนี้ ปิ่นแก้วกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ทั้งคู่ตั้งใจจะส่งลูกให้เรียนอย่างน้อยที่สุดคือจบมัธยมศึกษาปีที่หกเพื่อที่เธอจะได้สามารถประกอบอาชีพที่ดี ๆ และสุขสบายในอนาคต

แต่แล้วความตั้งใจของทั้งคู่ก็ไม่ถึงฝั่งฝัน พ่อและแม่ของปิ่นแก้วมีอันต้องจบชีวิตไปพร้อมกันเพราะโดนฟ้าผ่าระหว่างที่กำลังไถนาอยู่กลางทุ่ง

เนื่องจากขาดเสาหลักของครอบครัวไป เจ้าของร่างเดิมถึงกับหัวใจสลาย หลังงานศพของพ่อและแม่ เธอก็จำต้องขายที่นาและที่สวนทั้งหมดเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ให้พ่อกับแม่ ตอนนี้มีเพียงบ้านหลังเล็ก ๆ บนเนื้อที่ไม่ถึงหนึ่งงานหลังนี้เท่านั้นที่เป็นสมบัติติดตัวของเธอ

และเหมือนสวรรค์ยังเห็นว่าเธอใจสลายไม่พอ ยังยัดเยียดอาการอกหักให้เธออีก ปิ่นแก้ววัยสิบหกปีมีคนรักอยู่แล้วชื่อมานะ มานะเป็นหนุ่มรุ่นพี่วัยยี่สิบเอ็ดปี อาศัยในหมู่บ้านเดียวกัน ครอบครัวของมานะถือว่าฐานะดีที่สุดในหมู่บ้าน และตอนนี้ชายหนุ่มก็กำลังเรียนต่อที่วิทยาลัยครูประจำจังหวัด m จังหวัดใหญ่ที่อยู่ติดกัน เรียกได้ว่าถ้าเรียนจบ อนาคตของมานะก็จะมีแต่คำว่าเฟื่องฟูอย่างแน่นอน

เมื่อเล็งเห็นถึงอนาคตอันสดใสของลูก พ่อและแม่ของมานะจึงไม่ชอบปิ่นแก้วแม้แต่น้อย เพราะเธออาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขวางหนทางของลูก ทั้งคู่จึงคัดค้านการคบหานี้มาโดยตลอด ในช่วงที่ผ่านมา มานะไม่เคยสนใจคำคัดค้านของพ่อกับแม่เลย จนกระทั่งเขาได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันและที่สำคัญเพื่อนคนนี้เป็นลูกสาวของครูใหญ่โรงเรียนประจำอำเภอแห่งนี้อีกด้วย มานะจึงเปลี่ยนใจหันไปรักใคร่ชอบพอผู้หญิงคนนี้อย่างง่ายดาย

การสะบั้นรักจากมานะถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายในชีวิตของปิ่นแก้ว เธอไม่ต้องการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปจึงตัดสินแขวนคอตายในวันนี้ ต่อจากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็น พิริยาได้มาสวมร่างและต้องใช้ชีวิตอยู่ในนามของผู้หญิงชื่อปิ่นแก้วตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นไป

พิริยาเป่าปากอย่างไม่สบอารมณ์ โจทย์ชีวิตของเจ้าของร่างเดิมถือว่ายากมาก ถ้าเปรียบเป็นระดับการศึกษา ถือเป็นระดับโพสต์ดอกเตอร์ได้เลย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   104. เข้าไปยุ่งอีกจนได้

    ยุพินและมานพกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างชอบใจเมื่อเห็นเงินห้าหมื่นบาทในมือ ไม่นึกเลยว่าแค่รอบแรกก็ได้มากถึงเพียงนี้ แล้วรอบต่อไปนั้นเป็นกาแฟซึ่งร่ำลือกันว่ารายได้ดีกว่าดอกไม้แห้ง คงได้จับเงินแสนกันก็คราวนี้“แม่ยุพินที่หลักแหลมจริง ๆ” มานพเอ่ยชมภรรยาไม่หยุด“เอาเชียว ที่แรกทำท่าเหมือนไม่เต็มใจ”“ฉันขอโทษ ต่อไปไม่ค้านแล้ว ไม่คิดเลยว่ารายได้จะมากขนาดนี้ แล้วรวมทั้งปีที่เจ้าดินได้มันไม่เหยียบล้านไปแล้วเหรอ”“ก็คงประมาณนั้นแหละพี่ คราวหน้าฉันว่าจะไม่ขายอย่างเดียวแล้ว ฉันจะเอาเมล็ดพันธุ์มาปลูกเองด้วย นี่ก็ไปมอง ๆ ที่เปล่าในหมู่บ้านของพ่อฉันเอาไว้แล้ว ฉันตั้งใจจะเอาไปปลูกตรงโน้น จะได้ไกลหูไกลตาไอ้ดินมันหน่อย”“ดี อีกหน่อยบ้านเราก็จะมีเงินมากมายเหมือนกับมันแล้ว”“ว่าแต่เราเอาเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้ที่ยืมมาก่อนเถอะ ที่เหลือก็พอส่งให้นารีได้อีกสามสี่เดือน รอขายงวดหน้าเราก็สบายกันแล้ว”“เจ้านะตั้งแต่ย้ายไปทำงานในเมืองนี่หายเงียบไม่ยอมกลับมาบ้านเลย” มานพเอ่ยด้วยสุ้มเสียงไม่พอใจ“ลูกสอนพิเศษหลายที่ กำลังช่วยกันเก็บเงินซื้อที่ดินเพื่

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   103. คนโกง

    “นี่บ้านเก่า ๆ โทรม ๆ ที่เธอเคยเล่าจริง ๆ เหรอ” นิสารัตน์หันมาถาม“เมื่อก่อนเคยเก่าและโทรมมาก” ปิ่นแก้วยืนยัน “เพิ่งได้ปรับปรุงใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง”“ไม่พ้นพี่ดินอีกแล้วแน่เลย” อรรณพหรี่ตามองอย่างรู้ทัน ขณะที่แดนดินยืนยิ้มกว้างอยู่ข้าง ๆ“เฮ้อ..พี่ดินไม่ควรมีคนเดียวในโลก” อรรณพยังคงรำพึงรำพันต่อไปคราวนี้พาเอาทุกคนหัวเราะครืนด้วยความชอบใจเพื่อไม่ให้เสียเวลา หลังจากจัดเก็บข้าวของกันแล้วปิ่นแก้วจึงพาทุกคนไปที่สวนผลไม้ของแดนดินที่ตอนนี้ทุเรียนและมังคุดออกลูกแก่จัดรอเก็บเกี่ยวในอีกสองสามวันข้างหน้านี้แล้ว“พวกเรากินได้จริง ๆ หรือคะพี่ดิน” มาลินีหันมาถามชายหนุ่มอีกทีเพื่อความแน่ใจ“กินได้เลย ไม่ใช่แค่ทุเรียนและมังคุดนะ สตรอว์เบอร์รีและเชอร์รีที่ปลูกในสวนข้าง ๆ ก็เข้าไปเด็ดกินได้เหมือนกัน ห้ามเกรงใจพี่เด็ดขาด คิดเสียว่าเป็นสวนบ้านตัวเอง” แดนดินอนุญาตอย่างใจดี“หน้าร้อนแบบนี้สตรอว์เบอร์รีและเชอร์รียังออกผลได้อีกเหรอคะ” นิสารัตน์อดทึ่งไม่ได้“เมล็ดพันธุ์ของเราค่อนข้างพิเศษน่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหันมา

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   102. เป็นที่รู้จัก

    แดนดินขมวดคิ้วเมื่อเห็นปริมาณดอกไม้แห้งที่เก็บเกี่ยวได้จากไร่ของผาด หนึ่งในคนที่เซ็นสัญญาปลูกดอกไม้และกาแฟเมื่อคราวก่อน“ที่ดินตั้งสิบไร่ ทำไมได้ดอกไม้แห้งพอ ๆ กับไร่น้าทาที่มีเพียงห้าไร่”“ม..แหม ความชำนาญมันต่างกันนะดิน น้าทานั่นชาวไร่ดีเด่นประจำหมู่บ้าน แกมีฝีมือในการดูแลต้นไม้อยู่แล้ว ปลูกดอกไม้ได้เยอะก็ไม่แปลก ไอ้ฉันมันมือใหม่ ถึงพื้นที่จะเยอะกว่าแต่ดันไม่มีฝีมืออย่างใครเขา เลยได้มาเท่านี้” ผาดละล่ำละลักอธิบายแดนดินกวาดตามองไปทั่วไร่อย่างสงสัย ในใจไม่คิดเชื่อคำพูดของผาดแม้แต่น้อย เขารู้ดีถึงคุณภาพของเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ ขนาดคนที่ปลูกอะไรไม่เป็นเลยอย่างปิ่นแก้วยังสามารถปลูกจนออกดอกออกผลได้งดงาม แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ทำไร่ทำนาอยู่ทุกวันแบบนี้ล่ะถึงจะไม่เชื่อแต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกมาเรื่องนี้ผิดปกติเกินกว่าจะละเลยได้ เมื่อกลับถึงบ้านเขาเล่าความผิดปกตินี้ให้กับทั้งคำปันและวงเดือนได้รับทราบ ผู้สูงอายุทั้งสองคนต่างมีสีหน้าเครียดลงถนัดตา“ดินคิดว่ามีเรื่องคดโกงเกิดขึ้นแน่ใช่ไหม” คำปันถามเสียงเครียด

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   101. ห้ามดูถูกตัวเอง

    “จินตนานั่งรถประจำทางไปหาน้าที่ต่างอำเภอ แล้วรถเกิดคว่ำทับจินตนาจนแขนขาด”ปิ่นแก้วใจหายวาบเมื่อได้ยิน นึกถึงใบหน้าที่ยิ้มแย้มและบุคลิกที่ไม่คิดอะไรมากของจินตนา ปิ่นแก้วก็ยิ่งใจหาย ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทสนมกันนักแต่ก็มีโอกาสได้ทำงานด้วยกันหลายครั้ง จินตนานับว่าเป็นคนที่ทำงานด้วยง่ายคนหนึ่งแล้วคนที่เคยมีครบทั้งสามสิบสอง จู่ ๆ กลายเป็นคนพิการแบบนี้ ที่สำคัญยังอายุน้อยแค่นี้ จินตนาจะทำใจได้อย่างไรปิ่นแก้วเหลียวมองไปรอบห้อง “แล้วนิสารัตน์?”“เฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน คอยอยู่เป็นเพื่อนรอพ่อกับแม่จินตนาที่กำลังนั่งรถมาหา”“แก้วใจไม่ดีเลย สงสารจินตนา แล้วนี่เราจะไปเยี่ยมกันดีไหม”คราวนี้มาลินีเป็นฝ่ายเล่า “ฉันกับอันนาไปเมื่อเย็นวานแต่ไม่ได้เจอ นิสารัตน์ให้กลับมาก่อนเพราะสภาพจิตใจของจินตนายังไม่สู้ดีนัก ให้รอพ่อกับแม่เค้ามาก่อนสักสองสามวัน ให้สงบลงอีกนิดแล้วค่อยไปเยี่ยมกันตอนนั้น”-----“อย่าตัดอนาคตตัวเองแบบนี้สิจิน”“นั่นสิลูก แค่เสียแขนซ้ายไปเอง แขนขวาก็ยัง

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   100. สัมภาษณ์

    ถ้าพวกเขาได้มีโอกาสมาเห็นปิ่นแก้วในตอนนี้รับรองเลยว่าคงพูดไม่ออกเลยสักคนเดียว ปิ่นแก้วที่นวดแป้ง ปั่นส่วนผสมของขนมอย่างคล่องแคล่ว ปิ่นแก้วที่สามารถสั่งการได้อย่างเฉียบขาดและทุกคนที่อยู่รายรอบพร้อมจะทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่มีข้อแม้ เพราะปิ่นแก้วคนนี้คือเจ้าของร้านขนมรสชาติอร่อยที่สร้างความประทับใจให้กับประธานหอการค้าของจังหวัด m จนได้มาทำขนมจัดเลี้ยงผู้เข้าร่วมสัมมนากว่าสามร้อยคนในครั้งนี้“พวกเธอรู้ไหม รายได้ต่อวันของร้านแก้วสามารถจ่ายค่าเทอมทั้งปีได้อย่างสบาย” อรรณพเล่าด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มคล้ายกับว่าทั้งสองร้านนี้เป็นของเขาก็ไม่ปาน“ทำไมปิ่นแก้วถึงไม่คิดพูดแก้ต่างเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ ในคณะล่ะ ปล่อยให้พวกเรามองเขาเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ตั้งนาน” จินตนาบ่นงึมงำ“เค้ามองว่าเสียเวลาไง ถ้าเค้าพูดแก้ต่างพวกเธอคิดว่าจะมีใครยอมเชื่อไหม คนเราลองมีอคติต่อกันแล้ว ถึงจะแก้ตัวหรือทำดีให้ตายยังไงก็ไม่มีใครเปลี่ยนมุมมองหรอก พวกเขาเลือกที่จะเชื่อมุมที่พวกเขาคิดเสมอ สู้เอาเวลาที่เสียไปตรงนี้มาหาความสุขให้ตัวเองและมาใส่ใจคนที่รักและเข้าใจตัวเองดีกว่

  • พุทธศักราช 2525 โปรดอ่อนโยนกับฉันหน่อย   99. ปิดกิจการ

    “ก็ไปพูดไม่ไว้หน้าเขาแบบนั้น ใครเขาจะไปทนไหว มานี่ฉันช่วยเอง” นิสารัตน์นั่งลงยอง ๆ อยู่ด้านข้างและคว้ากรรไกรมาช่วยตัด ขณะที่จินตนาลูกคู่ของเธอก็มานั่งช่วยพับกระดาษเป็นรูปดอกไม้ให้ด้วย“ขอบใจนะ” ปิ่นแก้วหันไปยิ้มให้“ไม่เป็นไร งานจะได้เสร็จไว ๆ”นิสารัตน์เงยหน้ามองปิ่นแก้วก่อนพูดออกมา “อันที่จริงการุณเขาก็พูดถูกนะ คนที่มีแววอนาคตจะสดใสแบบเธอน่าจะหันกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแบบเพื่อน ๆ ได้แล้ว”หลังจากเหตุการณ์เย็นวันนั้น บรรดานักศึกษาและผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างเอาเรื่องนี้ไปพูดคุยกันอย่างสนุกปาก การุณรู้สึกอับอายอย่างที่สุด และมักจะทำหน้าบูดบึ้ง ส่งตาขวางให้ทุกครั้งที่เห็นปิ่นแก้ว ซึ่งปิ่นแก้วทำเพียงแค่ยักไหล่และใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองไปวัน ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและใบหน้าการุณยิ่งบูดบึ้งมากขึ้นเมื่อได้ยินข่าวว่าปิ่นแก้วย้ายออกจากหอในไปอยู่กับผู้ชาย และยิ่งใบหน้าการุณบูดบึ้งเท่าไหร่ ใบหน้าของสกุณาก็ยิ่งสดชื่นมากขึ้นเท่านั้น-----“แก้ว ร้าน Best Bake ปิดกิจการไปแล้วนะ”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status