แชร์

13.อยากคุย

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-05 15:22:03

ในมือของณิรินยังคงถือที่ตรวจครรภ์เอาไว้ เธอหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะเริ่มจัดระเบียบความคิดของตัวเอง

ข้อแรกวันนี้เธอหยุดและณิรินจัดการปิดโหมดการบินเอาไว้แล้ว เธอไม่ต้องการรับข่าวสารใดๆ ในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือว่าเรื่องอะไรก็ตามที

และข้อสองเธอน่าจะต้องเตรียมตัวในเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะเกิดมา

ณิรินล้มตัวนอนลงบนเตียง เธอหลับตาลงช้าๆ แน่นอนว่านี่มันคือเรื่องที่หนักหนาแต่นี่ช่างน่าแปลกที่เธอไม่ได้รู้สึกกลัวกับการเผชิญหน้ากับความจริงเลย

ฝ่ามือเล็กๆ ของณิรินกำลังลูบลงไปเบาๆ บนหน้าท้องที่แบนราบของตัวเอง..หากเป็นเรื่องเงินเธอไม่ได้ติดขัดอะไรเลย ที่ผ่านมาเธอทำงานแบบไม่มีเวลาให้ได้ใช้เงิน ด้วยเหตุนั้นเงินเก็บในธนาคารที่ณิรินมีมันเพียงพอที่จะใช้เลี้ยงดูเธอและลูกไปอีกนานหลายปี เพราะอย่างนั้นสิ่งที่เธอต้องคิดในตอนนี้คือ..เธอควรวางแผนที่จะใช้ชีวิตระยะยาวของตัวเอง

และเธอคงไม่อาจทำงานในตำแหน่งที่กำลังยืนอยู่ได้อีกต่อไป..มันคงน่าอึดอัดพิลึก หากเขารู้ว่าเธอท้องและเธอจะทำยังไงดีล่ะในช่วงเวลาที่เขาเอ่ยถามออกมาว่าเด็กในท้องคือลูกใคร

ณิรินไม่ได้คาดหวังให้ท่านประธานมารับผิดชอบเพราะในวันนั้นเธอเองก็มีส่วนที่ปล่อยตัวปล่อยใจละเลยเรื่องการคุมกำเนิด..เพราะอย่างนั้นเธอยินดีที่จะยอมรับเรื่องของเด็กคนนี้ด้วยตัวเอง โดยไม่คิดโทษเขา..และไม่คิดเรียกร้องสิ่งใดจากเขาด้วย

คนอย่างเธอจะไปมีหน้าเรียกร้องอะไรกับเขากันล่ะ เรายืนกันคนละจุด และตัวเธอไม่มีทางยืนเคียงข้างเขาได้ด้วยฐานะอื่นนอกจากฐานะของเลขาหรอก

เอาตามนี้แหละ ไหนๆ วันนี้ก็ลางานแล้ว ไปฝากครรภ์เลยดีไหมนะ..เพราะหลังจากนี้ไปเธอคงหาวันหยุดยากแล้วล่ะ

เมื่อคิดได้ดังนั้นณิรินจึงลุกขึ้นพร้อมกับพาตัวเองไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอเดินลงมาจากคอนโดแล้วตรงไปที่รถยนต์ที่จอดเอาไว้

รถคันนี้เองก็เหมือนกัน มันเป็นหนึ่งในรถของท่านประธาน..เธอไม่ควรอย่างยิ่งที่จะขับรถของเขาไปที่โรงพยาบาล

เช่นนั้นเรียกรถไปดีไหมนะ..ในขณะที่ณิรินกำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา รถเอสยูวีสีดำก็มาจอดด้านหน้าของเธอ

“ให้ตายสิ! ผมโทรมาเป็นร้อยสายแล้วมั้ง นอกจากจะโทรไม่ติดแล้วยังไม่คิดโทรกลับอีกงั้นเหรอ?”

ทันทีที่เธอกดเปิดโทรศัพท์เสียงข้อความมากมายก็เด้งเข้ามาไม่หยุดหย่อนและนี่คือหลักฐานว่าความโกรธของท่านประธานที่กำลังระบายใส่เธอนั้นมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น..เพียงแต่ที่ณิรินสงสัยคือเธอลาหยุดในวันนี้แล้วเขาจะมาที่นี่ทำไมกัน

“วันนี้ณิรินลาหยุดค่ะ..ไม่ทราบว่าท่านมีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่า”

เรื่องด่วนเดียวในตอนนี้ของธีรักษ์คือณิรินลางานนี่แหละ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานด้วยกันมาหลายปี ณิรินไม่เคยลาหยุดเลย แต่ทว่าวันนี้เธอกลับลาหยุด แถมยังติดต่อไม่ได้อีกต่างหาก เขาเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงรีบมาที่นี่เพื่อมาดูเธอ..

“ก็..ไม่ได้มีเรื่องด่วนอะไร ว่าแต่นั้นคุณกำลังจะไปไหน ขึ้นมาสิผมจะไปส่ง”

ณิรินแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองในตอนที่เขาบอกว่าเขาจะไปส่งเธอน่ะ จะให้เธอบอกเขาได้อย่างไรว่าเธอกำลังจะไปฝากครรภ์

“ณิรินว่าจะไปทานข้าวค่ะ ไม่ขอรบกวนท่านประธานดีกว่า ขอบคุณนะคะที่ท่านสละเวลามาหาณิริน..”

เขาจอดรถก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ

“ขึ้นไป..พอดีเลยผมกำลังหิวข้าวอยู่พอดี ไปกินข้าวด้วยกันเถอะ”

เธอยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวก็ถูกเขายัดใส่รถพร้อมกับปิดประตูให้เธอ..

จะว่าไปแล้วนี่คือครั้งแรกเลยไหมที่เรานั่งรถด้วยกันแล้วเขาคือคนขับน่ะ เพราะปกติที่เรานั่งรถด้วยกันส่วนใหญ่แล้วคนขับจะเป็นเธอ..

“ให้ณิรินขับดีไหมคะ?”

“นั่งเฉยๆ ไปเถอะน่า”

เธอก็อยากจะนั่งเฉยๆ แบบที่ไม่คิดอะไร เพียงแต่ในวันนี้หรือว่าตอนนี้สถานการณ์มันช่าง..ราวกับว่าสวรรค์กำลังเล่นตลกนี่แหละ

ทุกครั้งที่มองหน้าของเขาหัวใจเธอจะเต้นไม่เป็นจังหวะ ณิรินไม่รู้ว่าอาการแบบนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทว่าเธอคิดว่าตัวเองยิ่งเป็นหนักขึ้น..หนักขึ้นมากเรื่อยๆ ในตอนที่อยู่ใกล้เขามากขึ้น

“วันนี้เป็นวันแรกนะคะที่ท่านได้ออกจากโรงพยาบาล ท่านไม่เข้าไปที่บริษัทก่อนเหรอคะ”

เรื่องการออกมาทำงานนั่นมันคือเรื่องรอง..สาเหตุหลักที่เขาอยากออกมาจากโรงพยาบาลก็คือเขาต้องการออกมาเพื่อพูดคุยเรื่องของเรา เพื่อให้อะไรๆ มันชัดเจนขึ้น เพราะหลังจากวันนั้น..ไม่มีจังหวะดีๆ ที่เขาจะได้พูดถึงเรื่องราวแสนหวานในวันนั้นเลย ตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลคนของแม่ก็เดินเข้าเดินออกห้องของเขาเป็นว่าเล่น เขาไม่อยากให้แม่รู้เรื่องของเขากับณิริน ถึงแม้ว่าแม่จะบอกว่าแม่รับได้แต่เขากลับไม่เชื่อว่าแม่จะรับได้จริงๆ

“ยังก่อน ไปหาอะไรกินก่อนน่าจะดี..”

รอยยิ้มที่กำลังฉายชัดอยู่บนใบหน้านั้นของเขา มันทำให้ณิรินยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่เป็นตัวของตัวเองเลย เธอพยายามลบลืมและไม่สนใจเรื่องของเขา แต่ทว่าเขาก็พยายามอย่างยิ่งในการเข้ามาให้เธอเห็น

หรือว่าหนทางสุดท้ายในชีวิตเธอคือเธอต้องลาออกมาจากที่นั่นเร็วมากกว่าที่คิดเอาไว้กันนะ

แต่การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินเยอะมาก และเธอไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับไปทำงานได้อีกเมื่อไหร่ เพราะอย่างนั้นการลาออกในทันทีอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป

แต่การทำใจให้ได้ตอนที่อยู่ข้างๆ เขามันก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเหมือนกัน

“ยินดีต้อนรับค่ะท่าน..ไม่ทราบว่าท่านมีนัดใครเอาไว้อีกรึเปล่าคะ”

นี่คือร้านอาหารที่ท่านประธานมาเป็นประจำ

“ไม่มี..”

“รับทราบค่ะ ช่วยเตรียมห้องรับรองสำหรับหนึ่งที่ด้วยนะคะ”

ณิรินหลุบตาลงเล็กน้อยเธอกำลังยกยิ้มขึ้นมาราวกับกำลังก้มหน้าลงเพื่อยอมรับในสิ่งที่คนอื่นมองเห็น

“สองที่..วันนี้ผมมากับณิริน ตาบอดรึไงถึงให้จัดโต๊ะสำหรับหนึ่งที่น่ะ”

ณิรินรีบเดินเข้าไปเพื่อห้ามปรามท่านประธานที่กำลังโกรธ

“ขะ..ขอโทษค่ะท่าน ดิฉันไม่มองให้ดีเองค่ะ”

ไม่ใช่ว่าพนักงานคนนี้มองไม่ดีหรอก แต่ว่าเพราะใครๆ ก็รู้ว่าเธอคือเลขาของเขายังไงล่ะ เพราะอย่างนั้นทุกสถานที่ที่เราไปด้วยกัน เธอจะถูกมองว่าเป็นเลขาของเขาที่มันคงแปลก มากๆ หากว่าเราทั้งสองคนจะมาทานอาหารร่วมโต๊ะเดียวกันน่ะ

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ เราเข้าไปด้านในกันเถอะค่ะท่าน”

ธีรักษ์จับมือของณิรินเอาไว้แน่น

“ไม่..วันนี้ผมไม่อยากกินที่นี่แล้ว เราเปลี่ยนร้านกันเถอะ”

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   15.ขอร้อง

    หากจะนับกันจริงๆ เขาไม่ได้รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะมุมมองที่เขาเห็น นั้นมันเป็นมุมมองของเจ้านายที่มองดูลูกน้อง และเธอที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา แถมยังไม่เคยทำสีหน้าไม่พอใจเลยสักครั้งไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาแบบไหนเธอก็ยังคงยิ้มราวกับว่าตัวเองไม่เป็นไร แต่ทว่าที่มันเป็นเช่นนั้นเพราะเธอคือเลขาของเขายังไงล่ะ และเขาคือเจ้านายของเธอ..ณิรินไม่สามารถทำตัวเป็นเลขาผู้สมบูรณ์แบบของเขาไปได้ตลอดหรอก หากว่าเราอยู่ด้วยกันขึ้นมาจริงๆ แล้วเธอแสดงนิสัยที่แท้จริงของตัวเองออกไป เขาจะรับได้อย่างงั้นเหรอ?“แบบนั้นก็ลองดูสิ ผมเองก็มั่นใจไม่แพ้กันว่าคุณเองก็ยังไม่รู้จักผมดีพออย่างแน่นอน เราต่างมองกันและทำความรู้จักกันในนิสัยที่ไม่ใช่ตัวตนของเรา เพราะอย่างนั้นก็มาลองดูสิ มาลองทำความรู้จักกันดู แล้วหากว่าเราไปด้วยกันไม่ได้จริง..เราค่อยมาคุยเรื่องลูกกันอีกทีก็ได้”เขากำลังร้องขอสิ่งที่เรียกว่าโอกาส และณิรินเกลียดตัวเองมากเหลือเกินที่ตัวเธอเป็นพวกคนใจอ่อนน่ะหากจะมองในมุมของเขานั้น ตัวของท่านประธานเองก็ไม่ได้ผิดตรงไหนเลย ตรงกันข้ามเขาแสดงตัวและมีท่าทีที่ชัดเจนในการพยายามอย่างยิ่งที่จะรับผิดชอบเธอ“ได้โปรดนะณิริน คุณจะไม

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   14.จะรักกันได้อย่างไร

    เป็นเขาที่คิดน้อยมากเกินไป เพราะเราเดินเคียงข้างกันมานานในฐานะของเจ้านายและลูกน้อง เพราะอย่างนั้นสายตาของผู้คนเวลาที่มองมาที่เธอก็จะเกิดภาพจำว่าเธอคือเลขาของเขา..ด้วยเหตุนั้นธีร์จึงเปลี่ยนไปทานมื้อเช้าในร้านอาหารที่เราไม่เคยมาด้วยกัน“ร้านนี้ก็น่ากินเหมือนกันนะ จากนี้ไปเราลองเปลี่ยนบรรยากาศไปร้านใหม่ๆ กันบ้างดีกว่านะณิริน”เธอมองหน้าเขา ก่อนจะมองอาหารมากมายที่วางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ วันนี้ท่านประธานแตกต่างไปจากทุกวันจริงๆ นั่นแหละ หรือว่าเขามีเรื่องอะไรที่จะพูดคุยกับเธอรึเปล่า“ค่ะ ไม่ทราบว่าวันนี้ท่านประธานมีอะไรอยากจะพูดกับณิรินไหมคะ”เธอมีเรื่องให้คิดมากพออยู่แล้ว มีเรื่องมากมายให้ต้องใช้ความคิดไตร่ตรองให้ดีเพราะอย่างนั้นเธอไม่มีเวลาที่จะมาคาดเดาความคิดของเขาอีกหรอกธีร์วางช้อนเอาไว้ในจาน เขาประสานนิ้วมือเข้าหากันราวกับว่าเขากำลังเข้าโหมดจริงจัง“แล้วณิรินไม่คิดว่าเรามีเรื่องจะต้องคุยกันงั้นเหรอ?”เธอกะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา“ไม่นี่คะ หากเป็นเรื่องงานณิรินมั่นใจว่าณิรินทำงานได้อย่างดีและไม่มีผิดพลาดอย่างแน่นอน ไม่มีเรื่องอะไรที่ท่านจะต้องมาตำหนิณิรินหรอกค่ะ”ธีร์พ่นลมหายใจอ

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   13.อยากคุย

    ในมือของณิรินยังคงถือที่ตรวจครรภ์เอาไว้ เธอหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะเริ่มจัดระเบียบความคิดของตัวเองข้อแรกวันนี้เธอหยุดและณิรินจัดการปิดโหมดการบินเอาไว้แล้ว เธอไม่ต้องการรับข่าวสารใดๆ ในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือว่าเรื่องอะไรก็ตามทีและข้อสองเธอน่าจะต้องเตรียมตัวในเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะเกิดมาณิรินล้มตัวนอนลงบนเตียง เธอหลับตาลงช้าๆ แน่นอนว่านี่มันคือเรื่องที่หนักหนาแต่นี่ช่างน่าแปลกที่เธอไม่ได้รู้สึกกลัวกับการเผชิญหน้ากับความจริงเลยฝ่ามือเล็กๆ ของณิรินกำลังลูบลงไปเบาๆ บนหน้าท้องที่แบนราบของตัวเอง..หากเป็นเรื่องเงินเธอไม่ได้ติดขัดอะไรเลย ที่ผ่านมาเธอทำงานแบบไม่มีเวลาให้ได้ใช้เงิน ด้วยเหตุนั้นเงินเก็บในธนาคารที่ณิรินมีมันเพียงพอที่จะใช้เลี้ยงดูเธอและลูกไปอีกนานหลายปี เพราะอย่างนั้นสิ่งที่เธอต้องคิดในตอนนี้คือ..เธอควรวางแผนที่จะใช้ชีวิตระยะยาวของตัวเองและเธอคงไม่อาจทำงานในตำแหน่งที่กำลังยืนอยู่ได้อีกต่อไป..มันคงน่าอึดอัดพิลึก หากเขารู้ว่าเธอท้องและเธอจะทำยังไงดีล่ะในช่วงเวลาที่เขาเอ่ยถามออกมาว่าเด็กในท้องคือลูกใครณิรินไม่ได้คาดหวังให้ท่านประธานมารับผิดชอบเพราะในวันนั้นเธอเองก็

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   12.ได้ยินไหม

    เมื่อเหลือเราสองคนที่อยู่ในห้องนี้ ณิรินหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาเพื่อสั่งอาหารให้เขา“..สั่งของคุณมาด้วยสิ วันนี้ผมไม่อยากกินข้าวคนเดียว”อันที่จริงไม่ใช่แค่วันนี้เท่านั้น แต่ที่ผ่านมาเขาก็ชอบให้เธอสั่งอาหารมาเผื่อตัวเธอด้วย ความใส่ใจที่แสนเล็กน้อยนี่แหละที่ณิรินมองว่ามันช่างแสนอันตรายมากเหลือเกิน..ที่ผ่านมาต่อให้เธอจะทำงานหนักมากแค่ไหน นอกจากค่าตอบแทนที่สุดแสนจะคุ้มค่าแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่เธอได้รับจากเขามันคือความเอาใจใส่ที่ถึงแม้ว่ามันจะเล็กน้อย แต่เธอกลับได้มันมาอย่างสม่ำเสมอ“ค่ะ..หมอฉลามอนุญาตให้ท่านออกจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ”และนั่นคงเป็นข่าวดีที่สุดในรอบสองเดือนสำหรับธีรักษ์เลยก็ว่าได้ เพราะมันหมายความว่าเขาจะได้ออกไปจากที่นี่ กลับไปทำงานและได้มองเห็นณิรินในสายตาตลอดเวลาแล้วแผลผ่าตัดที่เคยปริแตกของเขามันหายดีไปจนหมดแล้ว..หากแม่ไม่สั่งให้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ เขาคงจะไปจากที่นี่ตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว“นั่นเป็นข่าวที่ดีมากจริงๆ ในที่สุดผมก็จะได้ออกไปจากที่นี่สักที..”เขาพูดถ้อยคำเหล่านั้นออกมาด้วยรอยยิ้ม ส่วนสายตาของธีร์รักนั้นกลับไม่ละไปจากใบหน้าของณิรินเลยแม้แต่น้อยและสิ่งที่มาขั

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   11.หนักหนา

    พะพายตามมาดูอาการของณิรินด้วยความเป็นห่วง“เราว่าแกไปหาหมอก่อนดีไหม หรือไม่ก็ไปที่ห้องพยาบาลก่อน..”เพราะพะพายรู้ว่างานของณิรินมันยุ่งมาก หากให้ณิรินไปหาหมอที่โรงพยาบาลคงเป็นไปไมได้อย่างแน่นอน คนบ้างานอย่างณิรินไม่มีทางจะยอมทิ้งงานเพื่อพาตัวเองไปหาหมอแน่ๆณิรินพยักหน้า เธอยอมเดินตามพะพายไปที่ห้องพยาบาลของบริษัท“ดูเหมือนว่าเพื่อนหนูจะพักผ่อนน้อยค่ะ มันกินข้าวไม่ได้และก็อาเจียนออกมาด้วย..”หมอที่ประจำเป็นที่ห้องพยาบาลส่งยิ้มให้กับพะพาย มันคือรอยยิ้มที่มากเกินคนรู้จักทั่วไปอย่างแน่นอน และนั่นทำให้ณิรินพอจะคาดเดาความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ได้บ้าง“เดี๋ยวเราไปทำงานก่อนนะ หากแกไม่ไหวก็โทรไปหาเราก็ได้ เดี๋ยวเราไปส่งแกกลับบ้านเอง”พะพายกล่าวออกมาพร้อมกับจับมือของณิรินเอาไว้“อืม ขอบใจแกมาก ไปทำงานเถอะ..”หมอประจำห้องพยาบาลยกมือขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อโบกมือลาพะพาย ก่อนที่เขาจะเบนสายตากลับมาหาณิรินที่กำลังนั่งอยู่“มีอาการอาเจียนมากี่วันแล้วครับ แล้วก็มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยอีกไหม..ยกตัวอย่างเช่นการเวียนศีรษะหรือว่ารู้สึกอย่างอื่น”ณิรินเงียบไปพักหนึ่ง ช่วงนี้เธอพักผ่อนน้อยร่างกายก็เลยรวนไปหมด นั่นจ

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   10.เหลือจะเชื่อ

    “เท่าที่จำได้กูบอกว่าให้ณิรินไปส่ง แล้วมึงเสนอหน้ามาด้วยทำไมวะไอ้ธีร์”บรรยากาศในรถตอนนี้ดูเหมือนว่าจะร้อนระอุมากกว่าบรรยากาศในห้องทำงานเมื่อครู่อีก เธอจำได้ว่าตัวเองกำลังพาคุณสิงหาไปที่รถ และเมื่อเธอกำลังจะเดินถึงรถ ท่านประธานก็ตรงเข้ามาหาเธอพร้อมกับเปิดประตูด้านหลังรถเพื่อยัดคุณสิงหาเข้าไปในนั้นแล้วเขาก็สั่งให้เธอขับรถ ส่วนตัวเองเดินเข้ามาเพื่อนั่งข้างคนขับ นี่มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่จนณิรินไม่รู้ว่าเธอจะรับมือกับความแปลกของท่านประธานอย่างไรดี“กูก็อยากไปหาหมอเหมือนกัน พอดีว่ากูไปต่อยหมามาก็เลยเจ็บมือ ทำไม..มีแต่มึงที่ไปหาหมอได้คนเดียวงั้นเหรอ”ตลอดทางทั้งสองคนก็จิกกัดกันไม่ยอมปล่อย จะว่ายังไงดีล่ะ ถึงแม้ว่าทั้งสองคน ทั้งท่านประธานและคุณสิงหาจะไม่ถูกกันแต่ทว่าในช่วงเวลาที่เขากำลังเถียงกัน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังมองเพื่อนกำลังทะเลาะกันมากกว่าแต่ณิรินไม่อยากจะพูดออกไปแบบนั้นหรอก เธอกลัวว่าท่านประธานจะไม่ชอบใจ ว่าแต่การที่เธอพยายามจะหนีท่านประธานออกมานั้นมันไม่ได้ผลอย่างนั้นสินะ เพราะต่อให้เธอพยายามหลบหนีเขามากแค่ไหน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามตามติดเธอมากแค่นั้น..แต่ช่าง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status