مشاركة

เจ้าซ่อนอาหารไว้รึ

مؤلف: l3oonm@
last update آخر تحديث: 2025-05-14 05:21:37

หลินเยว่เพ่งจิตเข้าไปในมิติ ตามคำแนะนำของเทพชะตา เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ได้เป็นห้องเล็กๆ เช่นที่นางอยู่ในตอนแรก

แต่ด้านหน้าของนาง นอกจากทุ่งหญ้าที่กว้างแล้ว ยังมีทิวเขาที่งดงาม ลำธารที่ไหลผ่านตัดกับทุ่งหญ้า ดอกไม้นานาชนิดที่เบ่งบานส่งกลิ่นหอม แต่สิ่งที่ทำให้นางต้องกรีดร้องออกมาอย่างยินดีเห็นจะเป็นโกดังเก็บวัตถุดิบที่นางไว้ใช้ทำสินค้า และบ้านของนางที่เหมือนกับของเดิมไม่มีผิดเพี้ยน

“สวรรค์ ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ เทพชะตา” นางคุกเข่าลง พร้อมทั้งตะโกนขึ้นไปบนฟ้า

อย่างน้อยนางก็พอจะมองหาหนทางรอดที่จะใช้ชีวิตในภพนี้ได้แล้ว นับว่านางโชคดีไม่น้อยที่ขั้นตอนการผลิตทั้งหมดนางเรียนรู้ด้วยตนเองมาโดยตลอด

ต่อให้ต้องเริ่มทำขึ้นมาตามวิธีแบบโบราณนางก็ไม่กลัวแล้ว เพราะมีวัตถุดิบที่มากมายใช้ได้ไม่หมด นางไม่ต้องไปแสวงหาจากที่อื่นให้ยุ่งยาก

หลินเยว่วิ่งเข้าไปในบ้านของนางด้วยความดีใจ ข้าวของด้านในล้วนแต่มีเช่นเดียวกับที่ภพเดิม ไหนจะอาหารแห้งอาหารสดที่นางมักจะซื้อตุนไว้ตลอด และเมื่อออกไปดูวัตถุดิบนอกเมืองนางยังซื้อของชาวบ้านกลับมาเก็บไว้ไม่น้อย

ต่อให้ที่เรือนตระกูลจางไม่ให้นางกินข้าว นางก็สามารถเข้ามากินด้านในได้ หลินเยว่รีบขึ้นไปที่ห้องนอนของนางทันที พร้อมทั้งล้มตัวลงนอนกลิ้งไปมา

“คิดว่าจะไม่ได้นอนที่นอนนิ่มๆ อีกแล้ว” นางกอดหมอนไว้แน่นอย่างดีใจ

แต่นางก็ไม่ได้อยู่ภายในบ้านนาน เพราะกลัวว่ามีผู้อื่นมาหานางที่ห้องหอแล้วจะไม่พบนางเข้า นางจึงได้ออกไปด้านนอกทันที ถึงอย่างไรนางจะเข้ามาสำรวจเมื่อใดก็ได้

พอฟ้ามืด จางเลี่ยงรุ่ยก็กลับมาที่ห้องหอด้วยสภาพที่เหนื่อยล้า จนหลินเยว่นางอดที่จะเห็นใจเขาไม่ได้

“เหนื่อยมากหรือไม่” นางถามออกมา

“ไม่ ข้าจะไปล้างตัวก่อน เจ้าจะนอนเลยก็ได้”

“เดี๋ยว แล้วท่านกินอันใดหรือยัง” ขนาดนางยังได้กินเพียงน้ำข้าวต้ม แล้วเขาเล่าจะได้กินอันใด

“กินแล้ว” จางเลี่ยงรุ่ยบอกปัดนางไป ก่อนจะหยิบของแล้วเดินไปอาบน้ำที่หลังเรือน

หลินเยว่นางไม่เชื่อเขาอยู่แล้ว ว่าเขาจะได้กินอะไรก่อนจะกลับเข้ามานอน นางเข้าไปในมิติอีกครั้งเพื่อนำของกินออกมาให้เขา

ของกินทุกอย่างที่อยู่ในบ้านของนางล้วนแต่เป็นอาหารแช่แข็ง เพียงแค่นำมาอุ่นก็กินได้ทันที มันง่ายและสะดวกสำหรับนางที่ทำงานหนักเกือบทุกวัน

พอจางเลี่ยงรุ่ยเข้ามาในห้อง เขาก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร ที่เขาไม่เคยได้กลิ่นเช่นนี้มาก่อน

“นั่งลงเร็วเข้า” หลินเยว่ กวักมือเรียกเขาให้รีบมานั่งลงตรงหน้าของนาง

นางนำอาหารที่แอบไว้ข้างเตียงออกมาวางตรงหน้าของเลี่ยงรุ่ย พร้อมทั้งยิ้มมองเขาว่าเขาจะตกใจมากเพียงใดที่ได้เห็นของทั้งหมดที่นางนำออกมา

“เจ้าเอามาจากที่ใด” เขามองนางอย่างสงสัย

“เจ้าลืมไปแล้วหรือไงว่าท่านเทพชะตาให้สิ่งใดข้า อย่าเพิ่งถามรีบกินเสียก่อน ก่อนที่ผู้ใดจะเข้ามาเห็น”

นางส่งตะเกียบให้เขา และพยักหน้าให้เขารีบกินเร็วๆ จางเลี่ยงรุ่ยก็เห็นด้วยกับนาง หากมีผู้ใดมาเห็นเขาก็คงจะตอบคำถามไม่ได้เช่นกัน

อาหารที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนตรงหน้าผู้ใดเล่าจะอดใจไหว ทั้งวันจางเลี่ยงรุ่ยก็ยังมิได้กินอันใด เขาจึงลงมือกินอย่างรวดเร็ว หลินเยว่เท้าคางนั่งมองเขากินอย่างยินดี

ทั้งสองไม่รู้เลยว่ากลิ่นของอาหารส่งกลิ่นหอมออกไปถึงด้านนอก จางเฉิงบุตรชายของท่านอารองที่คิดจะเข้ามาแอบดูบ่าวสาวเข้าหอ ก็ได้กลิ่นอาหารเข้าเสียแล้ว

เขารีบวิ่งกลับไปที่เรือนหลักเพื่อฟ้องท่านย่าเรื่องที่จางเลี่ยงรุ่ยแอบเก็บอาหารไว้กินในห้องทันที

เลี่ยงรุ่ยเขาได้ยินเสียงของคนที่วิ่งออกจากหน้าห้องของเขาไปแล้ว จึงส่งสายตาให้หลินเยว่ นางเก็บอาหารเข้าไปในมิติเสีย

แล้วเขารีบเดินไปที่หน้าต่างเพื่อเปิดออกระบายกลิ่นอาหารที่อยู่ในห้องทันที พอได้ยินเสียงที่เดินมาอย่างเร่งรีบของกลุ่มคนเลี่ยงรุ่ยก็ปิดหน้าต่างลง

เขาผลักตัวหลินเยว่ให้นอนลงบนเตียง ก่อนจะปลดสาบเสื้อของนางออก แล้วใช้ผ้าห่มคลุมตัวของนางไว้ เหลือเพียงไหล่มนที่โผล่ออกมาให้เห็นเท่านั้น

“ท่าน” แต่ก่อนที่หลินเยว่จะร้องถามว่ากำลังคิดจะทำสิ่งใดก็ถูกเขาปิดปากนางไว้เสียก่อน พร้อมทั้งชี้ไปทางประตู นางจึงได้เข้าใจทันที เมื่อได้ยินเสียงคนเดินมาและยังมีเสียงด่าทอตามมาอีกด้วย

หลินเยว่นางจึงถอดเสื้อออกแล้วโยนไปที่ปลายเตียง ในตอนนี้ส่วนบนของนางจึงไม่มีสิ่งใดปกปิด นอกเสียจากผ้าห่มที่คลุมตัว

“เจ้า” เลี่ยงรุ่ยเบิกตากว้าง เมื่อเห็นหลินเยว่นางถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด

“จะได้สมจริงอย่างไรเล่า ท่านก็รีบถอดเสื้อนอกออกเร็ว” นางร้องสั่งเขา

เสียงเคาะประตูพร้อมทั้งตะโกนเรียกอยู่หน้าห้องดังขึ้น ทั้งสองก็จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว

“เปิดประตูเดี๋ยวนี้ไอ้ตัวซวย” นางฮั่วซื่อทุบประตูห้องเสียจนมันแทบจะพังลงมา

เลี่ยงรุ่ยที่ถอดเสื้อออกเหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว ก็เดินไปเปิดประตูทันที

“มีเรื่องอันใดหรือขอรับ”

คนด้านนอกมองเข้ามาด้านในก็ต้องตกตะลึง เมื่อทั้งสองแทบจะเปลือยเปล่า ทั้งยังข้าวของที่ระเกะระกะไปทั่วห้อง แต่เมื่อลองสูดดมกลิ่นอาหารก็ไม่เห็นจะมีเช่นที่ จางเฉิงวิ่งไปบอกสักนิด

“เจ้าแอบซ่อนอาหารไว้ใช่หรือไม่” แต่เพราะไม่อยากจะเสียหน้า นางฮั่วซื่อจึงได้ร้องถามออกมา พร้อมทั้งหันไปมองตำหนิหลานชายสุดที่รักของตน ว่าไม่ดูให้ดีเสียก่อน

“จะมีได้อย่างไรขอรับ ท่านย่าก็เห็นว่าข้ามิได้ถือสิ่งใดกลับมาที่ห้อง” เลี่ยงรุ่ยเอ่ยตอบด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“พวกท่านจะมองอีกนานหรือไม่ วันนี้วันเข้าหอของข้า หรือพวกท่านอยากถูกชาวบ้านนินทา แม้แต่หลานชายจะเข้าหอก็ยังคิดจะขัดขวาง” หลินเยว่เอ่ยถามออกมาอย่างไม่ไว้หน้า

ผ้าห่มที่เลื่อนหล่นลงมาเผยให้เห็นไหล่มนที่ขาวผ่องจนน่ายื่นมือไปลูบไล้ จางเฉิงที่เห็นเช่นนั้นก็เผลอกลืนน้ำลายลงคอ จนเลี่ยงรุ่ยต้องขยับเพื่อบังไม่ให้เขามองเข้ามาด้านในห้อง

“เหอะ ไม่คิดว่าคุณหนูเกาจะเอ่ยเรื่องน่าอายเช่นนี้ออกมาได้” นางหงซื่อเอ่ยตำหนิหลินเยว่

“อ้อ หรือท่านอาสะใภ้มิทำเรื่องเช่นนี้เจ้าคะ” นางเอ่ยถามด้วยใบหน้าใสซื่อ

“ดู ท่านแม่ หลานสะใภ้ที่ท่านเลือกปากร้ายยิ่งนัก” แม้แต่นางฮั่วซื่อก็ดูเหมือนจะแปลกใจไม่น้อย เพราะตอนที่ถูกนางเจินซื่อเรียกไปคุยนางรู้มาว่าคุณหนูใหญ่เกา มิใช่สตรีปากมาก ทั้งยังหัวอ่อน หรือว่านางจะถูกหลอกเสียแล้ว

“ไป กลับเรือน” นางฮั่วซื่อร้องสั่งให้ทุกคนกลับเรือน เพราะไม่อาจจะจับพวกเขาได้คาหนังคาเขา ทั้งยังเสียหน้าอยู่ไม่น้อยที่ถูกหลินเยว่ตอกหน้าเข้าให้

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนจบ

    ผ่านเหตุการณ์วุ่นวายทั้งหมดมาได้สิบวัน หลินเยว่ก็เดินทางกลับจวนของตนเอง เซี่ยเหลี่ยงและไป๋ซื่อที่ติดเหลนชายตัวน้อยเข้าเสียแล้วก็มิอาจจะทนห่างเหลนได้ จึงได้พักอยู่ที่จวนตระกูลฟู่ตลอดไปอวี่หรันการค้าของนางนับวันก็เริ่มจะดีขึ้น หลังจากที่ผู้คนทั่วเมืองหลวงรู้ว่าซูเซียวและหลินเยว่ตัดผ้าที่ร้านของนางก็เริ่มเข้ามาสั่งจองวัดตัวกันมากมายความจริงมิใช่ว่าชื่อเสียงของหลินเยว่และซูเซียวโด่งดังอันใดมากนัก แต่เป็นเพราะแบบร่างของนางมากกว่า ที่มีลวดลายแปลกใหม่และแบบเสื้อผ้าที่ไม่เหมือนของผู้อื่นหลินเยว่ยังแนะนำให้นางทำตราประทับร้านซ่อนลายไว้ที่ตัวผ้าของนางด้วย เมื่อทำเช่นนี้หากมีสินค้าที่ลอกเลียนแบบก็รู้ได้ทันทีนับว่าวิธีนี้ของนางสร้างชื่อเสียงให้ร้านของอวี่หรันอยู่ไม่น้อยเซี่ยหมิ่นที่เดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้ว และได้เข้าพักที่จวนหลังใหม่ เขาก็หันมาทำการค้าให้หลินเยว่อย่างเต็มตัว เรื่องเรียนของเขาตอนที่อยู่เมืองหานตงก็มิได้ทิ้งขว้าง นับว่าตอนนี้เขามีตำแหน่งซิ่วไฉไว้อวดอ้างก็เพียงพอแล้วสินค้าของหลินเยว่ที่ทั้งส่งให้เหมยฮวาและที่ในร้านเหม่ยเซียง ต่างสร้างชื่อให้กับนางอย่างมากมาย จนพ่อค้าต่างแคว้นเ

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   เรื่องแปลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    คนทั้งห้องโถงตระกูลเซี่ยล้วนแต่ตกตะลึงกับสิ่งที่อวี่หรันนางพูดออกมา“จะ เจ้า พูดสิ่งใดออกมา เรื่องที่นางพูดไม่เป็นความจริงนะขอรับ” เซี่ยเหว่ยตวาดอวี่หรันเสียงดัง พร้อมกับหันไปบอกผู้อาวุโสคนอื่นอย่างร้อนรน“อาเหว่ย เจ้าทำจริงรึ” เซี่ยเหลี่ยงเอ่ยถามน้องชายเสียงสั่น แม้จะสงสัยในตัวของเซี่ยเหว่ยอยู่ไม่น้อย แต่พอมารับฟังเรื่องราวจริงๆ เช่นนี้ เขาก็ไม่อาจจะทำใจได้เช่นกัน“มะ ไม่ ไม่จริง พี่ใหญ่ นางพูดปด ทะ ท่านอย่าได้เชื่อนาง”นางจงซื่อที่ได้สติกลับมาก็กรีดร้องออกมาอย่างไม่ยินยอม“ใครให้เจ้าพูดเรื่องในปีนั้นออกมา ผู้ใดเป็นคนบอกเจ้า”นางจงซื่อพุ่งเข้าไปทุบตีอวี่หรัน แต่ก็ถูกจินห่าวบังตัวของนางไว้ นางจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ คนอื่นก็เข้ามาดึงนางจงซื่อออกไปสงบสติอารมณ์ท่าทางเช่นนี้ของนางจงซื่อราวกับตอกย้ำว่าเรื่องที่อวี่หรันนางพูดออกมาเป็นความจริงทั้งหมด“พอ!!! พอกันที วันนี้ข้าจะตัดพวกเจ้าออกจากตระกูลเซี่ยเสีย หากผู้ใดที่ไม่เห็นด้วยกับข้าก็จงรอรับผลได้เลย” เซี่ยเหลี่ยงหมดความอดทนทันที ดวงตาที่แดงก่ำของเขาไล่มองไปที่ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงเสียงร้องคร่ำครวญราวกับจะขาดใจของไป๋ซื่อยิ่งทำให้เซี่ยเหลี่ย

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ความจริงปรากฏ

    ตั้งแต่ที่เลี่ยงรุ่ยฝึกวรยุทธ์ นางก็ไม่อาจทนมองเขายามที่ถอดเสื้อได้เลย หน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อขึ้นมัดอย่างชัดเจน แผงอกก็ดูเหมือนจะกว้างขึ้นหลายชุ่น“อาเยว่...” เลี่ยงรุ่ยเสียงของเขาแหบพร่าไปด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เพียงแค่นางสะกิดเขาก็ติดเสียแล้วหลินเยว่ดันตัวเลี่ยงรุ่ยให้ลุกขึ้น นางปลดเชือกที่มัดอยู่ที่กางเกงเขาออกอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะชักรูดลำทวนของเขาอย่างชำนาญเรียวลิ้นน้อยๆ ของนางเตะลงเพียงแค่ส่วนหัว ร่างกายของเลี่ยงรุ่ยก็สั่นสะท้านเสียแล้ว “อาเยว่ เจ้ากำลังจะทำให้ข้าคลั่งตาย” เขาลูบหัวของนางยามที่ปากน้อยๆ ของนางดูดกลืนลำทวนของเขาเข้าไปจนสุด เลี่ยงสุดก็เผลอกระแทกเข้าออกอย่างลืมตัว จนหลินเยว่นางเกือบจะอาเจียนออกมา แต่จำต้องฝืนเอาไว้ เพราะเป็นนางที่ยั่วยวนเขาก่อนเพียงแค่การมัดจำของนางก็เร่าร้อนจนเขาแทบอยากจะส่งลำทวนเข้าไปในร่างของนางแล้ว ไม่รู้ว่าหากเป็นรางวัลที่นางจะมอบให้ จะเร่าร้อนกว่านี้มากเพียงใดรุ่งเช้าหลินเยว่นางเดินออกไปส่งเลี่ยงรุ่ยที่หน้าจวน นางยังกระซิบบอกเขาว่าให้ทำเต็มที่ เมื่อกลับมานางมีรางวัลจะมอบให้ เลี่ยงรุ่ยก็มิอยากจะเข้าไปอยู่ในสนามสอบเสียแล้วอวี่หรันตั้งแต่

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   วันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจ

    คนงานที่ร้านและบ่าวในจวนต่างได้รับเงินรางวัลกันมากถึงคนละห้าสิบตำลึงเงิน หากคิดว่าไม่มากให้เทียบเงินเดือนที่พวกเขาจะได้หากทำงานที่อื่น พวกเขาจะได้ต่อเดือนอยู่ที่สองถึงห้าตำลึงเงินเท่านั้นต่อให้พวกทาสสามารถเก็บเงินไถ่ตัวเองได้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดคิดจะทำเช่นนั้น สู้อยู่กับหลินเยว่นางอย่างสุขสบายทั้งยังมีเงินเหลือใช้จ่ายและส่งให้ทางบ้านยังดีเสียกว่าอาจจะเป็นเพราะน้ำในลำธารที่หลินเยว่นางให้แม่ครัวใช้ทำอาหารและต้มน้ำชาให้พวกเขาดื่มทุกวันก็เป็นได้ เพราะคนงานของนางทุกคนล้วนแต่ซื่อสัตย์กับนางทั้งสิ้นมีพ่อค้าบางคนที่ต้องการจะขอซื้อสูตรลับของหลินเยว่ ทุกคนต่างไม่มีใครหลุดปากพูดเรื่องในจวนหรือเรื่องการทำสินค้าออกมาสักคนเดียว แม้จะนำเงินมาวางกองตรงหน้าให้ถึงหนึ่งพันตำลึง ก็ไม่มีผู้ใดคิดจะหักหลังหลินเยว่ตอนนี้อายุครรภ์ของหลินเยว่และซูเซียวเข้าเดือนที่ห้าแล้ว จวนตระกูลเซี่ยสายรองก็จัดงานมงคลของอวี่หรันพอดีทั้งสองต่างพากันไปร่วมงานที่จวนตระกูลเซี่ยสายรอง หลินเยว่และซูเซียวต้องไปเติมสินเดิมให้อวี่หรันหลินเยว่นางให้เป็นเงินหนึ่งพันตำลึงเงิน ไม่ว่าสิ่งใดเงินย่อมสำคัญที่สุด ซูเซียวนางให้เครื่องประดับห

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ร้านเหม่ยเซียง

    สองวันต่อมาเว่ยอ๋องต้องเดินทางมาที่จวนตระกูลฟู่ เพื่อขอน้ำลำธารในมิติไปให้ซูเซียวนางดื่ม ที่หลินเยว่นางส่งไปให้ก่อนหน้านี้ที่ตำหนัก หมดไปหลายวันแล้วหากซูเซียวนางไม่ได้ดื่มน้ำจากลำธารในมิติของหลินเยว่ นางก็ล้วนแต่ไม่อาจกินอันใดได้เลยทั้งวัน“หากท่านไม่มา ข้าก็จะเดินทางไปหาเซียวเซียวเช่นกัน” หลินเยว่นางไม่ได้เป็นอันใดมาก จึงคิดที่จะไปดูซูเซียวที่ดูท่าอาการจะหนักมากกว่านางเสียอีกเลี่ยงรุ่ยจึงต้องพาหลินเยว่นางไปที่ตำหนักอ๋องด้วยตนเอง เซี่ยเหลี่ยงและไป๋ซื่อก็ติดตามไปด้วย เพราะอยากจะไปเยี่ยมดูอาการของหลานสาวเว่ยอ๋องสั่งให้คนเตรียมโอ่งน้ำไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อหลินเยว่นางไปถึง เว่ยอ๋องสั่งให้คนถอยห่างออกไปตั้งแต่แรกแล้ว นางจึงนำน้ำในลำธารออกมาได้อย่างสะดวก“เป็นเช่นไรบ้าง” หลังจากที่ไปจัดการเรื่องน้ำให้ซูเซียวเสร็จแล้วนางก็เข้ามาหาซูเซียวที่อยู่ในห้องโถง เรือนของนางเอง“หากมีน้ำในลำธารของเจ้าใช้ปรุงอาหาร ต้มน้ำดื่มก็นับว่าข้ากินอาหารได้ง่ายขึ้น แต่หากไม่มีข้าก็อาเจียนเสียทั้งวัน” แค่นึกถึงเรื่องอาเจียนซูเซียวนางก็เข็ดขยาดเรื่องการตั้งครรภ์เสียแล้ว“ดีแล้ว หมดเมื่อได้เจ้าก็ให้คนไปบอกข้าสักคำ

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   เหมือนนัดกันตั้งครรภ์

    เมื่อได้ฟังคำของซูเซียวหลินเยว่นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพียงไม่นานสาวใช้ก็ยกยาบำรุงที่ต้มไว้ให้หลินเยว่เข้ามาด้านใน“หื้อ/หื้อ” ทั้งสองปิดจมูกร้องออกมาพร้อมกันหลินเยว่หันไปมองที่ซูเซียวอย่างสงสัย หากนางจะได้กลิ่นแล้วเหม็นก็ดูจะไม่แปลก แต่ซูเซียวที่นั่งห่างถ้วยยา นางจะได้กลิ่นจนเหม็นถึงเพียงนั้นเชียวรึ“ข้าว่า เจ้าให้หมอตรวจเสียหน่อยเถิด” หลินเยว่เอ่ยออกมา นางบอกสาวใช้ให้รีบไปตามท่านหมอกลับมาอีกรอบ“เจ้าคิดว่าข้าก็ตั้งครรภ์เช่นนั้นรึ” ซูเซียวชี้ที่หน้าของนางอย่างไม่อยากเชื่อ “อ๊ะ” แต่เมื่อนึกถึงรอบเดือนที่ขาดไป นางก็คิดว่าไม่แน่ก็อาจจะเป็นไปได้ท่านหมอที่เพิ่งกลับไปได้ไม่นาน ก็ต้องรีบร้อนวิ่งกลับมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงจวนตระกูลฟู่ เขาก็ต้องนั่งพักอยู่ครู่ เพราะเหนื่อยหอบอยู่ไม่น้อยท่านหมอเดินเข้าไปหาหลินเยว่ เพื่อจะสอบถามว่านางเป็นอันใด ถึงได้ตามเขากลับมาอีกรอบ ก็ถูกนางห้ามไว้เสียก่อน“มิใช่ข้าเจ้าค่ะ แต่เป็นพระชายา” นางชี้ไปที่ซูเซียวเนื่องจากกฎระเบียบของราชวงศ์ที่มีมาก ท่านหมอจำต้องเรียกสาวใช้ของซูเซียวเข้ามากางผ้าม่านปิดกั้นไว้ก่อนที่จะตรวจท่านหมอที่จับชีพจรมาแล้

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status