แชร์

6 บาปกรรม โอ้ บาปกรรม

ผู้เขียน: บ้านเขมปัณณ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-10 12:45:14

บาปกรรม โอ้ บาปกรรม

ย้อนเวลา (เข้าร่างจางเหยา)

        หญิงสาวไม่แน่ใจว่าเกิดเหตุอันใด แต่เมื่อครู่ริมฝีปากนางถูกใครบางคนฉกชิมความหวานไปอย่างเร้าร้อน ช่างพิลึกและชวนให้ขนลุกโดยแท้ ซึ่งไม่ใช่แค่จูบ แต่ฝ่ายนั้นยังพยายามส่งลิ้นเข้าไปด้านในโพรงปากด้วย

        เหวินซืออี้สะดุ้งเอือก ลืมตาโพลง ในหัวมึนงงชั่วขณะ ภาพต่างๆ ย้อนกลับไปกลับมาให้ได้คิด ตัดสลับกับเรื่องราวตรงหน้า โอ้ นางกำลังปลอมตัวเป็นบุรุษ แม้ดูรูปงาม แต่มองยังไงก็เป็นชายชาตรี ท่าทางไม่เหมือนขันทีสักหน่อย แล้วคนที่จูบนางเล่า เป็นพวกต้วนซิ่วหรืออย่างไร เขาถึงได้กระทำในสิ่งที่ชวนให้กระอักกระอ่วนเช่นนี้ นางหันไปมองอีกร่างที่นอนหลับในท่าผ่อนคลาย เสียงหายใจเขาสม่ำเสมอ

พอนางสำรวจให้ดี พบว่าตนกับคนผู้นี้มีเถาวัลย์ผสานใจรัดที่ข้อมือไว้คนละข้าง นี่คงเป็นเหตุที่ทำให้นางรู้สึกอึดอัดนับแต่เข้ามาอยู่ในร่างผู้อื่น  

         เหวินซืออี้พยายามจับต้นชนปลายสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน นางฟื้นกลับมาจากเหตุการณ์บนกำแพงสูงป้อมสังเกตการณ์เมืองไฉ ยามนี้อยู่เพียงลำพังกับบุรุษแปลกหน้า เป็นชาติภพที่นางได้ย้อนเวลามามีชีวิตอีกครั้ง

        พอนางขยับตัวแรงกว่าเดิม เถาวัลย์จึงรัดข้อมือนางแน่น มันทำให้บุรุษร่างสูงที่นอนหลับลืมตา ฝ่ายเขาแกล้งทำเป็นงัวเงีย ก่อนยกยิ้มตรงมุมปาก และกล่าวด้วยน้ำเสียงอย่างคนยียวน“นักพรตน้อย เมื่อครู่ข้าต้องขออภัย เผลอเป่าลมใส่ปากเจ้าหลายครั้ง ช่วยไม่ได้ที่เรียกอย่างไรก็ไม่ตื่น และคงฝันร้ายมากสินะ จึงทั้งหยิกข่วนข้า กัดหู กัดปากข้าด้วย เฮ้อ...ช่างน่าสงสาร

        ก่อนหน้านั้น เจ้ามีอาการตาเหลือก ตัวเกร็ง ข้าเลยต้องยินยอมพลีกายเติมลมหายใจให้เจ้า ด้วยการเป่าลมใส่ปากไปหลายอึก บุรุษทั้งแท่งเช่นข้า ทำเช่นนี้ เพื่อช่วยชีวิตเจ้า”

        เหวินซืออี้ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ คนผู้นี้พูดจาเหลวไหลที่สุด นางเตรียมสาดคำพูดร้ายๆ ต่อว่าเขา แต่ชายหนุ่มเอ่ยแทรกเสียก่อน “อมิตาพุทธ บาปกรรมๆ ตัวติดกันก็แย่แล้ว นักพรตน้อยยังโมโหร้ายต่อข้าอีก นับเป็นการทำบุญบูชาโทษโดยแท้ ถ้าข้าไม่ช่วยเจ้าให้หลบหนีพวกสุนัขสุยจ้วงที่สุสานโบราณ ตัวเจ้าคงถูกมันเลาะกระดูก และเอาเนื้อหวานๆ ไปกินจดหมด”

        ยามนั้นเหวินซืออี้ พยายามปะติดปะต่อเรื่องราวในหัวเร็วรีบ นับว่าเจ้าของร่างเป็นคนที่ฉลาดมากด้วยไหวพริบ จึงทำให้นางรู้ว่ายามนี้ ตนกลายเป็นจางเหยา อีกฝ่ายคือน้องสาวของบิดานางนั่นเอง และหนีออกจากคฤหาสน์ใหญ่สกุลเหวินตั้งแต่อายุได้สิบห้าปีสิบหกปี นางขึ้นเขาศึกษาความรู้ เพื่อเอาตัวรอดจากผู้อื่น จางเหยาจึงมักปลอมตัวเป็นบุรุษ!

        ดวงตากลมโตมองชายที่อมยิ้มในสีหน้า ท่าทางเขาไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป ทั้งผิวพรรณ และเสื้อผ้าที่สวมแม้ดูออกว่าปลอมตัวมิต่างจากนาง แต่เป็นของมีราคา

        “หึๆ ๆ เรื่องต่อจากนี้ ย่อมเป็นบาปกรรมใหญ่ เพราะข้าจะตัดแขนท่านทิ้งเสีย จากนั้นข้าจะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องตัวติดกับคนฉวยโอกาสที่กล้าล้วงเกินนักพรต!”

        กล่าวจบเหวินซืออี้จึงล้วงเข้าไปในอกเสื้อ และอย่างที่นางคาดไว้ไม่ผิด มีมีดสั้นซ่อนอยู่ มีดดังกล่าวติดตามนางไปทุกที่ มันคือสิ่งย้ำเตือนว่านางเป็นใคร มีลมหายใจเพื่อสะสางความแค้น 

        ด้วยท่าทางนางเอาจริง บุรุษร่างสูงที่ผิวขาวละเอียด ใบหน้าคมคายจึงหุบยิ้มฉุบ “นักพรตน้อย เหตุใดถึงอยากทำบาปเยี่ยงนั้น”

        “ฮึ ผู้ใดบังอาจล่วงเกินข้า ย่อมมิสมควรมีชีวิตรอด แต่เอาเถิด ก่อนวิญญาณท่านหลุดออกจากร่าง ข้าขอทราบชื่อแซ่เสียก่อน อย่างน้อยเผื่อคุณธรรม แล้วตัวข้าจะแกะสลักป้ายเล็กๆ หน้าหลุมศพไว้ให้”

        “เจ้าล้อข้าเล่นหรอกหรือนี่ อีกอย่างชื่อข้าสมควรให้ผู้อื่นล่วงรู้ง่ายๆ ได้เยี่ยงไร”

        เขาว่าและคราวนี้กลับมายิ้มอีกหน ทั้งลักยิ้มข้างแก้ม และดวงตาที่มีน้ำใสหล่อเลี้ยงอยู่ข้างใน ทำให้คนผู้นี้มีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ นอกเหนือจากนั้น นางมีความรู้สึกว่าคุ้นเคย

อีกฝ่ายเป็นอย่างดี ทว่ากลับยังรื้อฟื้นความทรงจำไม่สำเร็จ

        “จงบอกชื่อท่านมา” นางขู่ และน้ำเสียงก็ห้วนกระด้าง

        “ฮ่าๆ ๆ แท้จริงแล้ว คนอย่างข้าไร้นาม และเป็นบุรุษที่ว่างงานที่สุดในใต้หล้า” คำที่เขาเอ่ยทำให้เหวินซืออี้นึกถึงบางสิ่ง และเรื่องราวในชาติก่อน ความคิดดังกล่าวส่งผลให้นางมือเท้าเย็นทันที

        “มีคนผู้หนึ่งเคยพูดเช่นนี้ และข้าเคยได้ยินเมื่อนานมาแล้ว”

        “โอ้ ใครกล้าเลียนแบบข้า คนผู้นั้นไม่สมควรมีลิ้น และฟันไว้พูดอีกต่อไป”

        เหวินซืออี้มองเขาใหม่ พินิจอย่างละเอียด ไม่รู้เหตุใด นางจึงคาดคะเนว่า เขาอาจเป็นบุคคลที่นางควรไว้ชีวิต และสมควรหาประโยชน์จากเขาให้มากที่สุด

        “อย่างไรก็ตามเรื่องที่ท่านล่วงเกินข้า ย่อมต้องเก็บงำไว้เป็นความลับ”

        “แน่นอน อย่างไรก็เปิดเผยไม่ได้” เขายังไม่วายยียวนต่อ พอชายหนุ่มเตรียมลุกขึ้นยืน นางก็รู้ว่าตนกับอีกฝ่ายตกลงมาในหลุมขนาดใหญ่

        “เอ๊ะ... ท่านบาดเจ็บหรอกหรือ” ดวงตากลมโตมองเขา เห็นว่าอีกฝ่ายเคลื่อนตัวลำบาก คาดว่าคงมีแผลอยู่ในร่มผ้า

        คนผู้นั้นพยักหน้า เอ่ยอย่างภูมิใจ “หากข้าไม่เอาตัวปกป้องนักพรตน้อยในตอนที่พลัดตกลงมา เจ้าคงเสียเลือดยิ่งกว่านี้ ส่วนตัวข้าแผลเล็กๆ นั้นไกลหัวใจเหลือเกิน ถึงเจ็บอยู่บ้าง แต่นับว่าทนได้” เขาว่า แต่ท่าทางดูแล้วเจ็บหนัก

        “ให้ข้าดูเถิด เผื่อช่วยเหลือท่านได้”

        “นักพรตน้อย แม้เราทั้งคู่เป็นบุรุษ แต่คงไม่เหมาะที่จะเปลื้องผ้าให้อีกฝ่ายสำรวจเรือนร่าง อีกอย่างมันอยู่ใกล้จุดสำคัญของบุรุษ เจ้าย่อมรู้ดี งูตาเดียว ไม่ว่าอย่างไรก็มีพิษร้าย”

        เขาพูดปกติ ทว่าเหวินซืออี้หน้าแดงระเรื่อ ด้วยเข้าใจแล้วว่า เขาคงมีแผลที่ต้นขานั่นเอง

        จากนั้นไม่นาน มีเสียงฝีเท้าทั้งหนักและเบาดังก็อยู่ด้านบนปากหลุม

        “คุณชาย ท่านอยู่ด้านล่างหรือไม่ บ่าวเชื่องช้า แม้มีสิบหัวก็ไม่พอให้ตัด!”

        เสียงร้องเรียกนั้น สูงกว่าบุรุษทั่วไป อีกทั้งการใช้คำพูดเหมือนพวกอยู่ในรั้วในวัง

        “ท่านเป็นผู้ใดกันแน่ ถึงได้มีผู้อื่นหมายยื่นมือมาช่วยเช่นนี้”

        เขายิ้มให้เหวินซืออี้ และเอ่ยด้วยถ้อยคำเดิมแต่เพิ่มเติมคือน้ำเสียงที่น่าหมั่นไส้

        “คนว่างงาน หากนักพรตน้อยอย่างแกะสลักป้ายชื่อหน้าหลุมศพให้ข้าจริงๆ จงใช้คำว่า เกาหาน ก็แล้วกัน”

        เมื่ออีกฝ่ายบอกนางเช่นนั้น ร่างกายเหวินซืออี้ก็แข็งทื่อชั่วขณะ แน่แล้วคนผู้นี้ภายหน้าก็คือ เหลียงอ๋อง... หรือฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง ชื่อของเขาคือ สวีเกาหาน และยังเป็นบิดาของหนามหัวใจนางเมื่อชาติภพก่อน สตรีแพศยาที่ชื่อเกิงเตียวอิ๋ง หรือองค์หญิงหก !

        และไม่ทันที่นางจะทันได้คิดสิ่งใดต่อ ร่างหนึ่งก็ใช้วิชาตัวเบา ลงมาอยู่ด้านล่าง พลางตวัดสายตามองมายังเหวินซืออี้

        คนผู้นั้นสวมชุดรัดกุมสีดำ ทำให้โทสะเหวินซืออี้พลุ่งพล่านขึ้นอย่างรวดเร็วคือ ผ้าแพรสีม่วงที่พันอยู่รอบคอเขา

        หึๆ ๆ สวรรค์เปิดโอกาสให้นางได้พบหน้าศัตรูเร็วเยี่ยงนี้ แต่น่าเสียดาย ที่เหวินซืออี้ยังต้องฝึกฝนตนเองอีกสักหน่อย นางจึงจะจัดการคนพวกนี้ให้สิ้นซากในคราวเดียว

        “คุณชายรอง ยามนี้มีเรื่องที่ท่านต้องตัดสินใจเร่งด่วน” เสียงอีกฝ่ายที่กล่าวกับคนตัวสูงฟังแล้วขัดหูเหวินซืออี้  

        “อาห่าว อย่าเอาแต่เร่งเร้าข้า ยามนี้ก็เห็นอยู่ว่ามีนักพรตน้อยอยู่ด้วย และด้ายแดงนี้ได้ร้อยใจข้ากับเขาได้ด้วยกัน”

        ขันทีหนุ่มแยกเขี้ยวใส่เหวินซืออี้ และแก้คำพูดเจ้านายของตนเสียใหม่ “มันคือเถาวัลย์ผสานใจ เช่นนี้ท่านกับนักพรตน้อยคงยากจะแยกจากกัน ยกเว้นก็แต่ให้ข้าตัดแขนเขาทิ้งเสีย เพียงเท่านั้นทุกอย่างย่อมเรียบร้อย”

        “ฮ่าๆ ๆ มิได้ เป็นเขาต่างหาก ที่คิดตัดแขนข้า” สวีเกาหานกล่าวทีเล่นทีจริง

        ฝ่ายขันทีหนุ่มถลึงตาใส่เหวินซืออี้ และหมายจะจัดการนาง ทว่าเหวินซืออี้กับชี้หน้าเขา และตวาดใส่ว่า

        “ขันทีห่าว นอกจากท่านถูกตอนจนกุดแล้ว ยังต้องการให้ข้าควักหัวใจออกมาด้วย ใช่หรือไม่”

        เสียงของนาง และคำพูดที่แจ้งชัด ทำให้ทั้งห่าวเจีย และสวีเกาหานที่ปลอมตัวเป็นคุณชายเสเพล ต่างหยุดชะงัก มองนางด้วยความฉงน

        “ดูเหมือนนักพรตน้อย จะเป็นสายลับ หรือไม่ก็มือสังหารสินะ ถึงได้ล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงคนของข้า”

        เหวินซืออี้คิดใคร่ครวญไปมา และตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบ “บุรุษที่เสียงสูง ทั้งยังมีผ้าแพรม่วงพันคอ หากไม่ใช่หน่วยแพรม่วงแล้วจะเป็นผู้ใด”

        “ถึงอย่างนั้น หน่วยแพรม่วงก็มีคนมิน้อย เหตุใดนักพรตน้อยจึงเจาะจงว่าเป็นอาห่าวกันเล่า”

        สวีเกาหานถามจี้ แต่เหวินซืออี้ที่ผ่านความตายมาแล้ว ทั้งยังอยู่ในร่างที่มากด้วยไหวพริบ มีหรือนางจะเกรงกลัวสิ่งใดง่ายๆ

        “เพราะท่านคือคนที่ว่างงานที่สุดในใต้หล้า และยังมีขันทีหน่วยพิเศษติดตาม หากผู้ที่พอมีความรู้ในใต้หล้านี้ คงมองออกว่า ท่านคือองค์ชายรอง หานอ๋อง รัชทายาทแคว้นเหลียง!”

         สวีเกาหานหัวเราะเสียงดัง จากนั้นเขาก็ทำในสิ่งที่เหวิน

ซืออี้ไม่ทันตั้งตัว คือการสกัดจุดหญิงสาว และให้ห่าวเจีย และคนของอีกฝ่ายช่วยเขากับนางขึ้นไปยังด้านบน

       

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    7 สิบปีล้างแค้นยังไม่สาย

    สิบปีล้างแค้นยังไม่สาย เหรินซืออี้อยู่ในห้องพักรับรองกับสวีเกาหาน และเถาวัลย์ดังกล่าวรัดข้อมือทั้งคู่ไว้ เพียงแต่มันคลายตัวมาก ดังนั้น นางกับเขาในยามนี้จึงอยู่ห่างกันพอให้เคลื่อนไหวร่างกายสะดวก ถึงอย่างนั้นสายตาของผู้อื่นยามมองนางไม่ค่อยให้เกียรติ ฝ่ายสวีเกาหานทำแผลเรียบร้อยแล้ว มียาสมุนไพรให้เขาดื่มด้วย ตัวนางในร่างนี้มีความรู้เรื่องการปรุงยา ได้แต่ทำเป็นถอนหายใจแสดงออกว่า คนพวกนี้ช่างอ่อนด้อยเรื่องการรักษา “นักพรตน้อย ท่านต้องการสิ่งใดกันแน่ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็สร้างความเดือดร้อน คุณชายของข้าไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเจ้า อีกทั้งท่าทางหยิ่งผยอง อย่าได้ทำให้ผู้อื่นรังเกียจเจ้าไปมากกว่านี้เลย” หญิงสาวหรือจะสนใจคำพูดห่าวเจีย อีกฝ่ายก็แค่ขันที แม้ยามนี้เป็นหน่วยแพรม่วง ทว่ายังไม่ได้ก้าวขึ้นเป็นใต้เท้าพันปี (ตำแหน่งสูงสุดของขันที ซึ่งได้รับการโปรดปราณเป็นอย่างสูงในยุคสมัยนั้น อีกทั้งห่าวเจีย มีเชื้อสายของอดีตฮ่องเต้คนเก่า และนั่นทำให้เขาก้าวหน้ามาในอีกสิบปีต่อจากนี้) “พ่อบ้านท่านนี้ ข้าไม่ได้คิดทำสิ่งใดล่วงเกินคุณชายเกาหานแม้แต่น้อย อีกอย่างเรื่องทั้งหมด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-10
  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    8 กัวซาคะนองรัก

    กัวซาคะนองรัก จือฮวนเป็นเดือนเป็นแค้นมาก นางคือลูกสาวคนเล็กของสกุลจือ หลังจากบิดาสิ้นใจ อำนาจก็ไม่ได้สั่นคลอนลง ด้วยสกุลจืออยู่คู่กับแคว้นเหลียงมานาน คนเก่าแก่จึงมีไม่น้อย อีกทั้งพี่ชายนางตอนนี้เป็นถึงจือหยวนโหว แล้วใครกันจะกล้าขัดใจ ถึงอย่างนั้นสวีเกาหานก็กล้าทำเป็นไม่เห็นนางอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ยามนี้เขาควรดูแลนาง ด้วยออกมาล่าสัตว์ต่างเมือง เดินทางก็เกือบสามร้อยลี้ นางต้องทรมานนั่งๆ นอนในรถม้าด้วยทางคดเคี้ยว พอมาถึงเขาหวงซาน อีกฝ่ายกับหายตัวไป รู้อีกทีก็ผ่านไปสองวันเต็มๆ กระทั่งห่าวเจียไปช่วยกลับมาที่เรือนรับรอง ซ้ำร้ายยังมีนักพรตท่าทางพิลึกอยู่ไม่ห่างกาย ดวงตาหงส์มองไปยังห่าวเจีย พอเห็นเขาเตรียมขยับปากจะพูด นางจึงชิงถามเสียก่อน “สืบได้ความเช่นไรบ้าง จงเล่ามาให้ละเอียด” “มันเป็นแค่นักพรตน้อย ใช้ชีวิตพเนจร ไม่มีหลักแหล่ง พอมีความรู้เรื่องสมุนไพรบ้าง ที่ถูกเถาวัลย์ผสานใจรัดเอาไว้ ก็เพราะเข้าไปขโมยของสำคัญที่สุสานชาวสุยจ้วง ที่ติดอยู่กับชายแดน” “ขโมยสิ่งใด” “เท่าที่ข้าทราบเป็นเกล็ดหิมะพันปี” “มันต้องการนำไปใช้เพื่อการใด” “เท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-10
  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    9 ดวงตาที่สาม

    ดวงตาที่สาม เมื่อเห็นเปลวไฟพุ่งเข้ามาหาตนเอง จือฮวนจึงยกมือทั้งสองข้างเพื่อปกป้องใบหน้างดงาม หากไฟดังกล่าวไม่ได้มีความร้อนเพราะถูกทำขึ้น กระนั้นก็สามารถสร้างความแสบร้อนและเผาไหม้ผิวหนังได้ อีกทั้งเสื้อผ้าที่นางสวมเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เหตุการณ์ต่อจากนั้นจึงชวนให้ตื่นตระหนก จือฮวนดิ้นปัดไปมา ก่อนลงไปนอนกลิ้งบนพื้นดิน ภาพของนางช่างน่าสงสารยิ่งนัก ทว่าการที่กรรมไล่ล่านางอย่างรวดเร็วนั้น เพราะเรื่องนี้มีคนเตรียมการไว้ ยามนั้น เสียงหวีดร้องเสียงขอความช่วยเหลือดังขึ้น คนที่พุ่งเข้าให้ความช่วยเหลือจือฮวนก็คือห่าวเจีย และตามด้วยจือคัง ฝ่ายจือฮวนถูกไฟเผาเสื้อผ้าและหลังมือเป็นบริเวณกว้าง ถึงไฟจะดับลงในเวลารวดเร็ว แต่นางได้แผลหลายแห่ง และนับว่าโชคดีที่ใบหน้าไม่ได้รับอันตราย แต่เส้นผมไหม้ไปไม่น้อย สภาพนางจึงดูแย่ ทั้งมีอาการเสียขวัญ “ห้ามไม่ให้ผู้ใดออกไปจากที่นี่ นางระบำทั้งหมดจับตัวไปไต่สวน เค้นหาความจริงให้ได้ ว่าใครสั่งให้พวกมันทำเรื่องร้ายแรงเช่นนี้” จือคังออกคำสั่ง เขาสงสารน้องสาวจับใจ นางแสบร้อนที่แผล สะอื้นไห้อย่างหนัก น้องสาวเขาถูกตามใจจนเสียนิสัย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-10
  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    10 ดวงตาที่สาม (2)

    เหล่านางรำราวๆ สามสิบกว่าชีวิตถูกต้อนมายังพื้นที่หลังเรือนรับรอง ซึ่งห่างออกมาพอสมควร ยามนั้นสตรีที่รำประทีปอยู่ด้านหลังสุด มีทหารหลายคนมองนางด้วยความสนใจ ทั้งเสื้อผ้าที่สวม กิริยาอ่อนช้อย กลิ่นกายนางก็หอมหวานชวนให้เคลิบเคลิ้ม แน่นอนมันไม่ใช่กลิ่นกายปกติที่สตรีพึงมี หากเป็นนางที่ใช้ความสามารถของตนกลั่นน้ำมันหอมระเหยทั้งจากสมุนไพร และไขมันมนุษย์ “เฮ้ย... น่าเสียดายของสวยของงาม... คำสั่งคือเฉือดพวกนางทั้งหมดเลยหรือ” คำพูดดังกล่าวทำให้นางรำเข้าใจได้ว่า ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตผู้บริสุทธิ์เหล่านี้กำลังจะสิ้นลง ทว่าคนที่เกิดใหม่ในร่างของท่านอาหญิงที่มีนามว่าจางเหยา อีกทั้งมีดวงตาที่สามมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ในภายหน้า มีหรือจะยอมให้ทหารชั่วช้าของจือฮวน ปลิดชีพนางได้ง่ายๆ อย่างเช่นชาติภพก่อน ฝ่ายทหารที่เป็นหัวหน้าหน่วยใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “แบ่งเป็นสองกลุ่มก็แล้วกัน พวกหนึ่งจัดการไม่ให้จดจำสภาพเดิมได้ ส่วนคนงามๆ ข้าจะนำไปขายต่อ ได้เงินสักเล็กน้อย นับว่าไม่เสียแรงเปล่า” เมื่อเขาแจ้งความต้องการเช่นนั้น ทหารอีกหลายคนก็เห็นด้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-10
  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    11 เร้ารักแนบเนื้อ

    เร้ารักแนบเนื้อ เหวินซืออี้ไม่ใช่คนอ่อนหัดเรื่องอุ่นเตียง แม้อายุเดิมในชาติก่อนยังเยาว์วัย แต่นางรักสนุกอยู่สักหน่อย ชอบเรื่องระหว่างชายหญิงเป็นพิเศษ นางจึงปล่อยใจเตลิดไปกับแม่ทัพเซียว ซึ่งหลังจากตกเป็นของเขา ก็เกิดเรื่องราวมากมายต่อจากนั้น กระทั่งตั้งครรภ์ ทว่านางกลับไม่รู้ตัว จวบจนใกล้วันมงคลจึงตระหนักได้ว่าชีวิตน้อยๆ ใกล้ลืมตาขึ้นมาดูโลก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้บอกเซียวหัวเฟิงให้รับรู้ สุดท้ายจึงจากไปพร้อมก้อนเนื้อในครรภ์ โดยผู้เป็นทั้งสามีและบิดา ไม่ทันได้ดูใจนาง ซ้ำร้ายยังหายตัวไปกับอรสพิษอย่างองค์หญิงหก“ซือเหยา เจ้าไม่ใช่แค่งาม หากเป็นสตรีที่ข้าหลงใหล” เสียงทุ้มๆ น่าฟังดังอยู่ข้างหู ซึ่งคนปากหวานย่อมเป็นเช่นสวีเกาหาน อีกทั้งรูปงาม เขางามแล้วยังทำให้นางมีความสุข มองอย่างไรก็ไม่เบื่อ ผิวเขาขาวละเอียดน่าสัมผัส ไรขนตามร่างกายถูกเล็มไว้อย่างงดงาม ยิ่งกว่านั้นคือขนาดแก่นกายเขา มังกรยักษ์คล้ำกว่าผิวกาย หัวบานหยักแดงเข้ม และเห็นเส้นเลือดปูนตลอดลำยาวเมื่อแข็งตัว ซึ่งทำให้หัวใจนางพองโตยามได้สัมผัส และปลุกปล้ำให้มันพ่นลาวาขาวขุ่นออกมา “เมื่อครู่หานอ๋อง ก็ขึ้นสวรรค์แล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    12 เร้ารักแนบเนื้อ (ต่อ)

    สวีเกาหานรับรู้ได้ถึงความตึงเครียดเหวินซืออี้ จึงกระตุ้นนางทางด้านหน้า นิ้วมือเริ่มบี้ติ่งเนื้อสีชมพูสวย และมันสั่นระริกอย่างร่านสวาท หัวใจของเหวินซืออี้เต้นในจังหวะที่เร่งเร้า และนางได้ยินเสียงหัวใจสวีเกาหานเช่นกัน “แนบเนื้อผสานใจ นี่คือทางเดียวที่จะทำให้เถาวัลย์คลายตัว... ซือเหยา เจ้ายอมให้ข้ามอบความสุขหรือไม่” เขาถามเสียงแหบพร่า ฝ่ายเหวินซืออี้ไม่กล้ามองหน้าคนรูปงาม นางยิ้มน้อยๆ ริมฝีปากขยับเพียงนิด “ให้ ขะ ข้ากลืนน้ำให้ท่านอ๋องอีกสักรอบสองรอบก็ยังไหว แต่ข้ายังไม่พร้อมให้ท่านพาความใหญ่โตเข้าไปสำรวจด้านใน จนกว่าจะได้สวมชุดเจ้าสาว และเราต้องดื่มเหล้ามงคลด้วยกัน รวมถึงการผูกผมให้สัญญารักมั่น” นางบอกเขา น้ำเสียงคล้ายเป็นการร้องขอ ทั้งที่ความจริงแล้ว ยังมีบางสิ่งที่เหวินซืออี้ไม่รู้ ร่างกายนี้สวีเกาหาน และคนอีกผู้หนึ่ง ได้ทำการตกลงกันไว้ หากพวกเขาอยู่ลำพังกับนาง การอุ่นเตียงจะทำได้เพียงภายนอก หรืออย่างมากที่สุด หากเหวินซืออี้ยินยอม ก็ให้เข้าด้านหลัง มิใช่กลีบสวาทที่มีเกรสด้านหน้า “เรื่องเหล่านั้น ข้าย่อมทำให้ถูกต้อง ทว่าตอนนี้เจ้าไม่ต้องกลืนสิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    13 เร้ารักแนบเนื้้อ (ต่อ 2)

    เหวินซืออี้สลัดความคิดต่างๆ ทิ้งไป และผิงจงถามนางด้วยก่อนถูกต้อนขึ้นรถม้า “ตัวเจ้าล่ะ... ช่วยข้าไว้ด้วยการใช้กลิ่นกระตุ้นราคะ ทั้งยังฉีกเสื้อผ้าให้ขาด เพื่อเผยความงามหลอกล่อบุรุษ คิดอยากให้ข้าเป็นพวก หรือจงใจจะล้วงความลับใดกันแน่” “ข้าแค่ไม่อยากตาย หากมีเจี่ยเจียเป็นพวก เราย่อมมีโอกาสรอด” “จือหยวนโหว มีหูตากว้างไกล อีกอย่างเจ้าทำให้คุณหนูสามจือบาดเจ็บ เช่นนี้คิดหรือว่า ยังจะมีลมหายใจสืบต่อไปได้” “หากพวกเขาอยากตัดหัวข้า ป่านนี้ข้าคงสิ้นใจนานแล้ว แต่... เป็นเพราะอยากรู้สถานะที่แท้จริงของข้า จึงปล่อยให้มีชีวิตต่อไป อีกอย่างหนึ่งในนางรำที่เหลือหากคาดการณ์ไม่ผิด ย่อมมีคนของขันทีห่าวปะปนอยู่ ” ผิงจงพยักหน้าน้อยๆ และเอ่ยขึ้น“สิ่งใดที่เจ้าต้องการทำให้สำเร็จ ข้าจะเอาใจช่วย และหวังว่า เมื่อสลัดคนพวกนี้ทิ้งได้ เราจะไม่มีเรื่องติดค้างกัน” เหวินซืออี้ไม่ได้กล่าวคำใดอีก เนื่องจากรถม้าออกเดินทาง โดยจุดหมายคือสถานที่ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นดั่งขุมนรกของสตรีและบุรุษที่มีรูปโฉมงดงามการเดินทางมาที่ซ่องในเขตเขาหวงซาน ใช้เวลาเกือบสองชั่วยาม นางรำต่างอ่อนแรง และก่อนหน้าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    14 เร้ารักแนบเนื้อ (จบ)

    “เจ้าและคนอื่นๆ ทั้งหมด ไปกับข้าด้านใน” เฉิงเซ่าเทียนสั่งการ แต่มีผู้คุมซ่อง และทหารบางส่วนไม่เห็นด้วย กระนั้นก็ไม่มีใครกล้าขัด “นายท่าน แต่สินค้ายังไม่ได้รับการตรวจสอบ อีกอย่างพวกนางพึ่งถูกส่งมาจากที่อื่น อาจเป็นสายลับ หรือมือสังหาร หากปะปนเข้าไปด้านใน เกรงว่าจะเป็นภัยได้” เสียงหนึ่งดังขึ้น คนของเฉิงเซ่าเทียนที่ติดตามเขาแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะมีดาบยาวๆ จี้ไปที่ลำคอของผู้ที่เอ่ยเมื่อครู่ “ข้าต้องการพวกนาง มีใครคิดขวางทางอีกหรือไม่” เสียงดังกล่าวเข้ม ฟังอย่างไรก็ไม่ควรรั้งเขากับเหล่านางรำพวกนี้ไว้ ฝ่ายเหวินซืออี้มองชายหนุ่มร่างสูง นางประหลาดใจ แม้เขาสวมหน้ากาก ปกปิดใบหน้าที่แท้จริง แต่ดวงตาเขา อย่างไรก็เป็นอาจารย์ของนาง ถึงอย่างนั้นความเย็นชาที่แผ่ขยายออกร่างเรือนกายสูงใหญ่ ส่งผลให้นางค่อนข้างครั่นคร้ามใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับบุรุษที่คุ้นเคยไม่ได้อยู่ในร่างกายนี้ ฝ่ายเฮ่อชวีหังผู้เป็นศิษย์ของเฉิงเซ่าเทียนปรากฏตัวในชุดของนายโลม เขาวาดหน้างดงาม ริมฝีปากก็โดดเด่นด้วยสีแดงงดงาม ภาพลักษณ์ดังกล่าวไม่ใช่แค่เหวินซืออี้อึ้ง แต่ผิงจงก็ตกตะลึงทั้งนางต้องกลั้นขำอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11

บทล่าสุด

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    68 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    ร่างงดงามเข้าไปมาอยู่ในห้องนอนที่ข้าวของทุกอย่างล้วนเป็นสีแดง มีกลิ่นหอมของดอกไม้แห้ง เทียนไขถูกจุดให้ความสว่าง เนื้อตัวของอวี้เพ่ยเอ๋อร์ได้รับการดูแลอย่างดี สะอาดหมดจด กลีบอวบอิ่มถูกชโลมด้วยน้ำมันกับขี้ผึ้ง ยอดหน้าอกทาด้วยน้ำมันหอมซึ่งจะเป็นพื้นที่ให้บุรุษใช้ปาก ลิ้น และฟันเล่นสนุกด้วย อวี้เพ่ยเอ๋อร์เคลิ้มอย่างหนัก และร้อนรุ่มในร่มผ้า กระทั่งไม่มีผู้ใดวุ่นวายกับนาง ซึ่งแม้สติจะดับๆ ติดๆ แต่นางมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่ต้องการช่วยให้ตนดับตัณหาที่ลุกโชนในร่างกาย มือของนางค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของตน ยามนี้ไม่ละอายสิ่งใด นางแค่ต้องการคลายความอึดอัด นิ้วเรียวสวยไล้ไปตามสัดส่วนงดงาม สัมผัสผิวกายที่นุ่มเนียนละเอียด บางครานางครางเสียงแปลกๆ บางครานางส่งเสียงหวีดสูงต่ำ เมื่อคลึงยอดหน้าอกตนแรงขึ้น สลับการบีบบี้ อวี้เพ่ยเอ๋อร์ก็ฉ่ำเยิ้มอย่างพึงใจ “ชะ ช่วยข้าด้วย” อวี้เพ่ยเอ๋อร์คงบ้าไปแล้ว แต่นางปรารถนาบุรุษสักคน ที่พอจะทำให้นางหลุดพ้นจากพิษร้ายที่อยู่ในร่างกาย ถึงจะมีบาดแผลที่เหนือหัวไหล่ข้างขวา แต่เล็กน้อยมาก อีกทั้งได้รับการใส่ยาอย่างดี ดังนั้นอวี้เพ่ยเอ๋

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    67 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    พวกเขาเลยต้องหาเจ้าสาวสักคนแต่งไปเป็นฮูหยินใต้เท้าเซี่ย ซึ่งแม้ชิงถงจะหวงหาและพิศวาสอวี้เพ่ยเอ๋อร์มากอย่างไร ทว่าเขารักตัวกลัวตายยิ่งกว่า ดังนั้นที่ทำได้ตอนนี้คือวางยานางให้สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ แล้วย้อมแมวให้ปลอมตัวเป็นเจ้าสาวที่มีชื่อว่า จ้าวรั่วรั่ว เสียงบ้านแม่เหลียวดังขึ้นก่อนใคร ตามด้วยสาวใช้ฉีหนวนกับบ่าวชายที่อยู่ด้านหลัง “แม่บ้านเหลียว มั่นใจหรือว่า นี่คือเจ้าสาวที่จะพาไปส่งใต้เท้าเซี่ย!” บ่าวชายถาม แม้เขาอยู่ห่างออกไป แต่เหมือนจะพบพิรุธหลายอย่าง “ใช่หรือไม่ ข้าย่อมล่วงรู้กว่าผู้ใด อีกอย่าง มิเห็นหรือว่านางมีเสื้อคลุมเจ้าสาว ผ้าคลุมหน้าก็ใช่ มิหนำซ้ำยังได้รับบาดเจ็บ หากข้าคาดการณ์ไม่ผิดคงหนีตายมา แล้วหลบซ่อนตัวในบ้านร้างหลังนี้” เหลียวจูเอ่ย พลางสำรวจรูปร่างของอวี้เพ่ยเอ๋อร์ และนางชอบใจเป็นอย่างมาก สตรีผู้นี้ผิวขาวอมชมพู เอวคอด หน้าอกที่อยู่ในเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น เห็นได้ชัดว่าอวบสวย นางเหมาะเป็นแม่พันธุ์โดยแท้ ฝ่ายอวี้เพ่ยเอ๋อร์ ที่ถูกมีดแทงเข้าหัวไหล่ ทั้งยังมีพิษเคลือบอยู่ทำให้นางอ่อนเพลีย มิหนำซ้ำมันให้สตินางหลงลืมชั่วขณะ นอกจากนั้นเหลีย

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    66 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อออก และส่งให้นาง “เสื้อตัวนี้ มีกลิ่นเล็กน้อย แต่รับรองสะอาด เจ้าใส่ไปก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ พี่จะแก้ปัญหาให้เอง” อวี้เพ่ยเอ๋อร์ยื่นมือไปรับเสื้อจากอีกฝ่าย และกลับกลายเป็นว่าชิงถง ดึงมือนางไว้ ก่อนออกแรงมากกว่าเดิม จนนางถูกรั้งเข้ามาหาอกเปลือยเปล่าของเขา “พี่ถง ทะ ท่านต้องการทำสิ่งใด” “อยากสูดกลิ่นหอมๆ ของเจ้า อยากมอบจูบที่เจ้าคู่ควรได้รับ มิใช่การถูกขบ ดูดเม้ม หรือกัดอย่างป่าเถื่อน เยี่ยงสุนัขบ้า” เขาว่าแล้วก็ฉีกเสื้อที่ขาดของอวี้เพ่ยเอ๋อร์ ในตอนนั้น ผิวขาวอมชมพูเผยให้เขาเห็นมากกว่าเดิม “โอ้ใช่แล้ว กลิ่นกายนี้ ความงาม เนื้อนุ่มนิ่มอ่อนหวาน คือสิ่งที่ข้าฝันถึงมานาน” อวี้เพ่ยเอ๋อร์ตัวสั่น นางตกเป็นของเหวินมู่ถังแล้ว และไม่ปรารถนาเป็นของชายใดอีก เพียงแค่นี้ก็ผิดต่อป้ายวิญญาณสามีที่ตายจาก “พี่ถง ข้าชอบความเปิดเผย และความมีน้ำใจของท่าน แต่สตรีผู้นี้ เหมาะสมที่จะเป็นคนที่ท่านอยากให้อยู่เคียงข้างจริงๆ หรือ” ชิงถงไม่เสียเวลาคิด เขาตอบว่า “ให้ฟ้าดินเป็นพยาน ขอให้ข้ากับเจ้าได้เป็นสามีภรรยา ร่วมทุกข์และสุข ด้วยกันตลอดไป” อว

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    65 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวี้เพ่ยเอ๋อร์ ยังปวดศีรษะด้านหลัง ทั้งถูกยากล่อมประสาททำให้ มึนงงอยู่มิน้อย กระนั้นการถูกตบอย่างแรง ก็ทำให้นางฟื้นคืนสติ “ลงนามเดี๋ยวนี้!” อวี้เพ่ยเอ๋อร์ไม่ยอมจับปากกา ดังนั้นจึงถูกจับทั้งฝ่ามือ และหัวนิ้วโป้งลงไปในตลับหมึกสีแดงๆ “ไม่... ข้าไม่ยอมให้ทรัพย์สินใด กับคนช่วยอย่างพวกเจ้า” อวี้เพ่ยเอ๋อร์ร้องประท้วง แต่มือนางถูกซ่งหลันบีบเอาไว้ และสุดท้ายก็วางลงในกระดาษแผ่นดังกล่าว “ฮิๆ ๆ ยอมหรือไม่ เรื่องนี้เจ้าไม่สิทธิ์ขัดขืนหรอก” เมื่อได้หนังสือมอบอำนาจของอวี้เพ่ยเอ๋อร์ สิ่งที่ซ่งหลันกระทำก็นับว่าสำเร็จ ยามนั้นนางเกิดความคิดหนึ่งขึ้น มันฉายวาบในหัว จะดีเท่าใด หากให้เหตุการณ์ต่อจากนี้คือ อวี้เพ่ยเอ๋อร์ มีความสัมพันธุ์กับน้องสามี และเพื่อปกปิดความลับ จึงพยายามจะฆ่าอนุผู้ที่กำลังตั้งท้องอย่างซ่งหลัน! ในตอนนั้น ไฟเริ่มลุกลามเข้ามาทีละนิด ความร้อนทำให้ซ่งหลันไม่อาจอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้อีกต่อไป ซึ่งด้านนอกเริ่มมีเสียงเอะอะ โวยวายดังอึงอล “ฮูหยินหม้าย แซ่อวี้ เจ้าอยู่ข้างในหรือไม่!” “แม่นางอวี้... ป้าเจี้ยนมาหา เจ้ารีบออกมาจากเรือนก

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    64 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวี้เพ่ยเอ๋อร์เคลิ้มไปกับการนวด และการจูบหนักหน่วง ทั้งลิ้นเรียวเล็กที่เลื่อนไปตามจุดที่ไวต่อการปลุกเร้า แม้นางจะฟื้นจากยาสลบแล้ว หากยามนี้สิ่งที่ได้รับเข้าไปใหม่ คือยากล่อมประสาท และถุงหอมราคะ ซึ่งกระตุ้นให้หญิงสาวร้อนอบอ้าวในกลีบบุปผางาม และนางจะไวต่อสัมผัสของบุรุษเช่นนี้ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นเวลาเกือบสามวันสามคืน! ทั้งหมดนี้คือการกลั่นแกล้งของซ่งหลัน ด้วยต้องการให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์ถูกย่ำยี และไม่เหลือความภาคภูมิใจต่อตนเองอีกต่อไป ซ่งหลันอยากให้อีกฝ่าย มีชีวิตอยู่ก็เหมือนตาย และกลายเป็นโสเภณี ที่มีตราบาปไปชั่วชีวิต! “นางมิใช่สตรีบริสุทธิ์ อีกทั้งยามที่ข้า ใช้กัวซาไล้วนที่กลีบฉ่ำแฉะนั้น คุณชายเจี่ยง ก็เห็นและได้ยินนางครางเสียงหวานเช่นไร” ซ่งหลันพยายามเหลือเกินที่จะทำให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์กหลุดครางเสียงกระเส่าอย่างสตรีไร้ยางอาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็ทำให้เจียงเซียนแถบจะโผเข้าไปย่ำยีอวี้เพ่ยเอ๋อร์ เจี่ยงเซียนมองร่างที่นอนบนเตียง และไล้เลียริมฝีปากตน ส่วนมือเขาก็จับเป้า และลูบไปมา เพราะส่วนที่แข็งขันกำลังสู้มือ อยากออกมาสูดอากาศนอกกางเกงเหลือเกิน “ให้ข้าส่ง

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    63 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    ยามเช้าวันนี้อวี้เพ่ยเอ๋อร์แปลกใจอยู่สักหน่อย นั่นเป็นเพราะตั้งแต่เมื่อคืน นางรีบปิดประตูห้องก่อนผล็อยหลับไป รู้สึกตัวก็ฟ้าสว่างแล้ว หญิงสาวสำรวจเนื้อตัว และโล่งใจที่ไม่ถูกข่มเหง กระนั้นก็อดครั่นคร้ามใจมิได้ ด้วยนางคาดว่าตนถูกวางยา! หญิงสาวออกจากห้องนอน ไม่เห็นทั้งซ่งหลัน หรือเจี่ยงเซียน จึงเดินตรวจสอบข้าวของคนทั้งคู่ พบว่าห่อผ้า ทั้งของใช้จุกจิกยังอยู่ครบ นั่นอาจหมายความว่าพวกเขา อาจออกไปข้างนอก จากนั้น อวี้เพ่ยเอ๋อร์ก็แอบไปดูเหวินมู่ถัง ซึ่งเป็นรอบที่สามแล้วแม้ไม่พบเขา อีกฝ่ายหายตัวไปและทำให้นางน้อยใจมาก ด้วยเหวินมู่ถัง ไม่บอกกล่าวสิ่งใด แม้จะเขียนจดหมายแจ้งข่าวคราวก็ยังไม่มี เมื่อมั่นใจว่า เหวินมู่ถึงไม่ได้อยู่ในห้องเก็บฟืน ใจก็เคว้งเหลือเกิน กระนั้นกลิ่นกายของเขาจางๆ ยังลอยอ้อยอิ่งอยู่ในโรงเก็บฟืนนี้ อวี้เพ่ยเอ๋อร์กำซาบถึงความรู้สึก ระหว่างเขากับนาง มือเรียวสวยเผลอลูบไล้ตัวตน ทั้งภายในร่มผ้าร้อนเร่าขึ้น นางยอมรับว่าเมื่อใกล้ชิดเหวินมู่ถัง ความปรารถนาอยากตกเป็นของอีกฝ่ายรุนแรงเหลือเกิน ยามเขาซุกไซ้เรือนกาย ขบเม้มไปจุดที่ไวต่อความรู้สึก ก็ประหนึ่งว่านางได้ขึ้

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    62 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    “เสี่ยวเอ๋อร์... พี่ถง จะทำให้เจ้า ลืมผู้ชายทุกคน เชื่อเถิด น้ำของพี่จะอาบทั้งกลีบเนื้อนี้ และเรือนกายเจ้าจนเปียกชุ่ม” แม้ประหลาดใจที่อีกฝ่ายเรียกตนว่า ‘พี่ถง’ แต่ซ่งหลันก็มิอาจหยุดความต้องการได้แล้ว นางต้องปล่อยให้ศึกรักดุเดือดนี้เดินหน้าต่อไป “บีบรัดกว่าสิ เจ้าเคยทำได้ดีกว่านี้ ข้าเห็นชัดด้วยสองตาของตน!” ซ่งหลันได้ยินอย่างนั้น นางก็อยากเอาใจชิงถง ด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยามร่วมรักกับเจี่ยงเซียน คนใจทราม และหยาบคาย เขาหาได้เล้าโลมนางไม่ ก็เพียงแค่กระแทกกระทั้น ถ้อยคำหวานใดๆ ก็ไม่เคยปริปากบอก มิหนำซ้ำยังเสร็จคนเดียว ปล่อยให้นางจมอยู่กับความรู้สึกน้อยใจเพียงลำพัง “ข้าทำได้ เชื่อข้าหรือไม่ ข้าทำให้ท่านได้” หญิงสาวว่าแล้ว ก็ร้องเสียงครางหวานจัด และบีบรัดแกนกายของชิงถง ยามนั้นเขาส่งแรงจากสะโพกเข้าไปลึก ทั้งคู่จึงแทบจะปล่อยความสุขออกมาพร้อมกัน “เสี่ยวเอ๋อร์... เจ้าช่างเอาใจเก่ง” ชิงถงเอ่ยจบก็สับสะโพกรัวแรงกว่าเดิม และยามนั้น ร่างหนึ่งที่ไร้อาภรณ์สืบเท้าเข้ามา “ฮ่าๆ ๆ พี่สะใภ้ ออกมากลางค่ำ กลางคืนให้ ผู้อื่นเย่อ ราวกับหมาตัวเมียเช่นนี้

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    61 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    หลังอาหารมื้อค่ำที่ดึกอยู่สักหน่อย เจี่ยงเซียนขอดื่มสุราในห้องโถง อันที่จริงอวี้เพ่ยเอ๋อร์ปฏิเสธแล้ว และบอกว่านางหาได้มีสุราในเรือนหลังนี้แม้แต่ป้านเดียว ทว่าอีกฝ่ายยิ้มร่า บอกว่าเตรียมมาด้วย นอกจากนั้นยังมีกัญชา และฝิ่นใช้สำหรับสูบ ได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวรใจคอไม่สู้ดี นางอยากออกปากไล่เขาไปให้พ้นๆ หน้า ซึ่งยามนี้ฝนหยุดตกแล้ว ทว่าเจี่ยงเซียนหาเหตุผลยกมาอ้างว่าเดินทางเข้าเมืองฮุ่ยลำบากมิน้อย ส่วนซ่งหลันก็เข้านอนไปแล้ว กระทั่งปลายยามห้าย (21.00-22.59น.) ร่างหนึ่งในชุดเสื้อผ้าสตรีทำงานครัวก็ก้าวออกจากเรือนหลังเล็ก ลัดเลาะไปตามกำแพง ก่อนสืบเท้าพ้นประตูด้านหลัง จุดหมายคือบริเวณลำธารสายเล็กๆ ที่ทอดตัวมาจากภูเขาสูง เมื่อนั่งที่หินก้อนใหญ่อย่างผ่อนคลาย สตรีนางนั้นก็แกะชุดด้านในออก มือข้างหนึ่งเอื้อมไปหยิบหินจากลำธาร ก่อนนำมาถูไถร่างกาย คืนนี้แสงจันทร์มืดอยู่มาก อีกทั้งบริเวณนั้นมีต้นไม้หนาทึบแผ่กิ่งก้านบดบังแสงจันทร์เอาไว้ ผู้ที่แอบซุ่มดูอยู่จึงได้แต่จินตนาการว่า หญิงสาวกำลังทำสิ่งใดกันแน่! อีกทั้งเสียงครวญครางนาง ก็ช่างหวานล้ำ ชวนให้บุรุษเกิดความกระสัน! ชิงถ

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    60 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    เอาเข้าจริงๆ อวี้เพ่ยเอ๋อร์ไม่อยากต้อนรับเจี่ยงเซียน และสตรีอีกคนที่ชื่อซ่งหลัน ฝ่ายนั้นประกาศตัวชัดเจนว่าตนคือ อนุของเจี่ยงซาน โดยเรื่องนี้หญิงสาวไม่ล่วงรู้มาก่อน ที่สำคัญคนทั้งคู่มากับรถม้าคันหนึ่ง เห็นว่ามีสาวใช้รุ่นใหญ่ติดตามมาด้วย แต่แยกตัวออกไป อ้างว่าจะไปพบญาติที่อยู่ใกล้ๆ เมืองนี้ ถึงอย่างนั้นอวี้เพ่ยเอ๋อร์ก็คลางแคลงใจ หนึ่งคือน้องชายสามี อีกหนึ่งเป็นอนุผู้ที่ตายไปแล้ว พิจารณาอย่างละเอียด อย่างไรพวกเขาก็ไม่ควรเดินทางมาด้วยกัน ภายในเรือนหลังเล็ก เมื่อต้องต้อนรับคนแปลกหน้า ยิ่งทำให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์เกิดความเครียด ทั้งยังกังวลใจว่า ทั้งคู่อาจเดินทางมาด้วยความประสงค์ร้ายแอบแฝง เจี่ยงเซียนมองสำรวจทุกอย่างในเรือน แม้ไม่ได้กว้างขวาง แต่สะอาดสะอ้าน และเห็นได้ชัดว่า อวี้เพ่ยเอ๋อร์ ไม่ใช่แค่หญิงสาวทั่วไป นางมีฝีมือด้านการปักผ้า ซ้ำยังอ่านหนังสือ และเขียนตัวอักษรได้ดี สตรีเช่นนี้สมแล้วที่พี่ใหญ่ให้แม่สื่อสู่ขอมาเป็นภรรยา ทว่าผิดแต่ครอบครัวนางละโมบ โดยเฉพาะพี่ชายของอวี้เพ่ยเอ๋อร์ที่ ถูกจำคุกในข้อหาหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี ซ้ำยังทำร้ายเจ้าขุนนางของศาล จนเป็นเหตุให้อีกฝ่ายเสียชีวิต

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status