แชร์

7 สิบปีล้างแค้นยังไม่สาย

ผู้เขียน: บ้านเขมปัณณ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-10 12:45:19

สิบปีล้างแค้นยังไม่สาย

        เหรินซืออี้อยู่ในห้องพักรับรองกับสวีเกาหาน และเถาวัลย์ดังกล่าวรัดข้อมือทั้งคู่ไว้ เพียงแต่มันคลายตัวมาก ดังนั้น นางกับเขาในยามนี้จึงอยู่ห่างกันพอให้เคลื่อนไหวร่างกายสะดวก

        ถึงอย่างนั้นสายตาของผู้อื่นยามมองนางไม่ค่อยให้เกียรติ ฝ่ายสวีเกาหานทำแผลเรียบร้อยแล้ว มียาสมุนไพรให้เขาดื่มด้วย ตัวนางในร่างนี้มีความรู้เรื่องการปรุงยา ได้แต่ทำเป็นถอนหายใจแสดงออกว่า คนพวกนี้ช่างอ่อนด้อยเรื่องการรักษา

        “นักพรตน้อย ท่านต้องการสิ่งใดกันแน่ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็สร้างความเดือดร้อน คุณชายของข้าไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเจ้า อีกทั้งท่าทางหยิ่งผยอง อย่าได้ทำให้ผู้อื่นรังเกียจเจ้าไปมากกว่านี้เลย”

        หญิงสาวหรือจะสนใจคำพูดห่าวเจีย อีกฝ่ายก็แค่ขันที แม้ยามนี้เป็นหน่วยแพรม่วง ทว่ายังไม่ได้ก้าวขึ้นเป็นใต้เท้าพันปี (ตำแหน่งสูงสุดของขันที ซึ่งได้รับการโปรดปราณเป็นอย่างสูงในยุคสมัยนั้น อีกทั้งห่าวเจีย มีเชื้อสายของอดีตฮ่องเต้คนเก่า และนั่นทำให้เขาก้าวหน้ามาในอีกสิบปีต่อจากนี้)

        “พ่อบ้านท่านนี้ ข้าไม่ได้คิดทำสิ่งใดล่วงเกินคุณชายเกาหานแม้แต่น้อย อีกอย่างเรื่องทั้งหมดก็เป็น เขาที่...เสนอตัวช่วยเหลือข้าเองจนได้รับบาดเจ็บ”

        สิ้นคำพูดหญิงสาว จู่ๆ ร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาและไม่ทันให้เหวินซืออี้ตั้งตัว ฝ่ามือสตรีนางนั้นตบลงไปที่ใบหน้าหญิงสาวทันที แรงตบรุนแรง เพราะมันทำให้เหวินซืออี้มึนงง ทั้งมีเลือดซึมที่มุมปาก เจ็บ ยิ่งเจ็บก็ยิ่งเตือนความจำให้แก่เหวินซืออี้ว่าคนพวกนี้ สร้างบาปอันเลวร้ายแก่นางเช่นไร

        “เสี่ยวฮวน... นั่นคือนักพรตน้อย เหตุใดเจ้าถึงไร้เหตุผล”

        “ฮึ นักพรตบ้าบออะไร ถึงได้ต่อปากต่อคำให้ข้าระคายหู อีกอย่างท่านปล่อยให้ข้ารออยู่นาน และคังต้าเกอต้องการให้ร่วมงานเลี้ยงคืนนี้” จือฮวนกล่าวถึงพี่ชายนางซึ่งก็คือ จือคัง ยามนี้เขามีตำแหน่งจือหยวนโหว เรียกได้ว่าได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมาก

        แน่นอนว่าการกระทำที่ต่ำช้าของจือฮวนเมื่อครู่ ได้ถูกบันทึกไว้ในบัญชีแค้นของเหวินซืออี้เรียบร้อย คนผู้นี้คือสตรีที่ชาติก่อน สร้างความแค้นต่อนางไม่ต่างจากเกิงเตียวอิ๋งผู้เป็นลูกสาว  

        ยามนี้ใบหน้าเหวินซืออี้เป็นรอยแดงปื้นใหญ่ เจ็บและอับอาย แต่นางไม่ใช่สตรีคนเดิม การแก้แค้นนั้น ให้ดีที่สุดต้องต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งนางจะถอนรากถอนโคนทุกคน ไม่ให้พวกมันได้ตายดี!

        สวีเกาหานถอนหายใจแรงๆ และบอกว่า “เสี่ยวฮวน หากให้ข้าไปงานเลี้ยง เกรงว่าไม่เหมาะสม ในเมื่อนักพรตน้อยก็ต้องไปด้วย”

        ได้ยินอย่างนั้น จือฮวนเลยถลึงตาใส่เหวินซืออี้ และอยากเข้ามาตบตี หรือทำร้ายอีกฝ่ายให้ตายๆ ไปเสียได้คงดี

        “ข้าจะยังไม่ทำบาปในวันนี้ ให้มันเข้าร่วมงานด้วยก็ได้ แต่คลุมหน้ามันไว้เสีย เท่านี้คงสิ้นเรื่อง”

        เหวินซืออี้หัวเราะขึ้นคราหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า

        “บาปกรรมๆ โลกมนุษย์นี้ ช่างแปดเปื้อนไปด้วยสิ่งโสมม ให้นักพรตเข้าร่วมงานเลี้ยงที่มีทั้งดนตรี สุรา และนางบำเรอ คงไม่เหมาะสม”

        หญิงสาวว่าแล้วก็เตรียมเอ่ยต่อ แต่สวีเกาหานรีบขยับตัวอย่างว่องไว เอามือมาปิดนางไว้ ภาพที่ดูสนิทสนมกัน และท่าทางที่ไม่ห่วงแผลของตนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นเหตุให้ จือฮวนคลั่งจัด จนเผลอเรียกอีกฝ่ายด้วยตำแหน่งที่แท้จริง

        “รัชทายาท! ท่านเหลวไหลเช่นนี้ ตั้งแต่เมื่อใด”

        สิ่งที่จือฮวนเอ่ยทำให้เหวินซืออี้ยิ้มอย่างพึงใจ มารดาของอดีตหนามหัวใจนาง ยามที่ยังอายุน้อย ช่างเป็นสตรีที่แผดเสียงดัง มีกิริยาราวกับพวกแม่ค้า

        “โอ้ เกิดชาตินี้นับว่าคุ้มค่าที่ทำให้คุณชายเกาหาน เอ่อ... รัชทายาทยอมเจ็บตัวแทนข้า ทั้งยังได้มีโอกาสทำตัวติดกันอย่างแนบเนื้ออยู่หลายชั่วยาม”

        คำพูดและการแสดงออกของเหวินซืออี้ ทำให้จือฮวนไม่อาจทนอยู่ในห้องดังกล่าวได้อีก ด้วยกลัวตนพุ่งเข้าไปตบตี และบีบคอเหวินซืออี้จนตายคามือ ดังนั้นจึงกระทืบเท้าแล้วเดินจากไป

         

        กระทั่งได้อยู่กันตามลำพัง สวีเกาหานก็ยื่นมือมาจับคางของเหวินซืออี้ แล้วพลิกไปมา ก่อนถอนหายใจแรงๆ

        “เจ้ายั่วโทสะ เสี่ยวฮวนเผื่อการใด”

        เหวินซืออี้ไม่ต้องการแสแสร้ง นางเบ้บิดมุมปากลง ท่าทางบอกให้รู้ว่าไม่สนใจ “ข้ากล่าวทุกอย่างตามจริง รัชทายาทช่วยข้าจากชาวสุยจ้วง นับว่าประเสริฐ ส่วนขันทีห่าว ปรุงยาไม่ได้เรื่องก็ต้องบอกกล่าว และแผลท่านอาจเน่า... ส่วนสตรีผู้นั้น... ข้าไม่ให้ราคา”

        สวีเกาหานได้ยินแล้วเลยระเบิดเสียงหัวเราะลั่น

        “นางเป็นน้องสาวของจือหยวนโหว นักพรตน้อยอย่าได้ล้อเล่นเชียว”

        “ฮึ เป็นท่านโหว แล้วใหญ่กว่ารัชทายาทหรือ”

        “มิได้ คนผู้นั้นแค่มีอำนาจ บิดาฟังเขามากไปหน่อย ส่วนข้าคือคนว่างงาน นำไปเปรียบเทียบกันไม่ได้”

        “ท่านถ่อมตนเกินไป วันหนึ่งท่านก็ได้เป็นมังกรนั่งบัลลังก์ เช่นนี้ไม่สมควรให้ผู้อื่นข่มได้”

        ดวงตาเรียวมองที่หญิงสาว มองแล้วส่งประกายบางอย่างออกมา เป็นช่วงเวลาดังกล่าวที่เหวินซืออี้สะเทิ้นอายอย่างไม่อาจเก็บอาการได้

        “อืม นอกจากเป็นนักพรตน้อย เจ้าเป็นพระชายาของข้าได้หรือไม่”

        เหวินซืออี้หูอื้อไปหมด ดวงตาจ้องเขาตาโต คนผู้นี้กลายเป็นต้วนซิ่วจริงๆ แล้วหรือ

        “ขะ ข้าถือศีล อีกอย่างเพศเดิมคือบุรุษ”

        เขาอมยิ้มทั้งสีหน้า สิ่งที่ทำต่อจากนั้นคือจู่โจมเหวินซืออี้ด้วยริมฝีปากที่ชื้นๆ แสนเร่าร้อน

         มือทั้งสองข้างของเขาวางที่หน้าอกนาง วางแล้วพยายามแกะผ้าที่นางพันเอาไว้เพื่อปกปิดสองถันที่งดงามนั้น

        ส่วนลิ้นเรียวสากร้อนทะลวงผ่านเข้าไปในโพรงปาก พอนางร้องอื้ออ้าต้องการประท้วง เขายิ่งจู่โจมหนักกว่าเดิม

        ยามนี้เสื้อผ้านักพรตหลุดออกจากร่างทีละชิ้น

        โอ้ จากนี้ เหวินซืออี้ยังจะกล้าเล่นละครปลอมเป็นผู้ใด เพื่อตบตาสวีเกาหาน!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    75 ชู้รักฮูหยินหม้าย (จบ)

    และฝ่ายนางกลั่นแกล้งเขาคืน เรื่องนี้คงกล่าวได้เช่นนั้น “น้องหญิง... เจ้ากำลังท้าทายข้า” เขาบอกอย่างนั้น แล้วร่วมมือกับเหวินมู่ถังพานางลงไปแช่น้ำพุร้อน ที่อุ่นกำลังดี ยามนี้นางถูกอุ้มและหันหน้าเผชิญกับเซี่ยสิงหาวโดยที่ความแข็งขันอยู่ในกลีบสวาท ด้านหลังเป็นเหวินมู่ถังที่อุ้มนางเอาไว้ เขาสอดแขนไว้ใต้ข้อพับขาทั้งสองข้างของนาง ดังนั้นเนินเนื้อสาวจึงประจักษ์ตรงหน้าเซี่ยเหวินถัง และเขากำลังเสือกแก่นกายเข้าออกด้วยความสำราญใจ ส่วนทางด้านหลัง จมูกกับปากของเหวินมู่ถังก็ไม่หยุดที่จะเล่นสนุกกับผิวกายนาง ดังนั้นอวี้เพ่ยเอ๋อร์จึงเดี๋ยวครางเดี๋ยวส่งคำสบถอย่างลืมตัว “หาวต้าเกอ ทะ ท่าน... อยากพ่นน้ำใส่ข้าหรือไม่ ทั้งข้างในนั้น ที่ใบหน้า แล้วก็แตกล้นปาก” เซี่ยสิงหาวไม่ตอบ หากเป็นเหวินมู่ถังที่ตำหนินางว่า “คนมักมาก... ยามที่ข้าทิ่มแทงเพ่ยเอ๋อร์ ไฉนถึงสำออย และร้องเจ็บอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเป็นเขา ใต้เท้าเซี่ย เจ้ากับครวญครางร้องขอให้เขาทำสิ่งต่างๆ ไม่หยุดปาก” อวี้เพ่ยเอ๋อร์อับอาย และต้องยอมรับแต่โดยดีว่า ของลับเหวินมู่ถังใหญ่เกินไป อีกทั้งเขาใช้แรงราวกับม้

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    74 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวี้เพ่ยเอ๋อร์กำลังหัวหมุน เมื่อนางลงจากม้าตัวโตได้ก็ถูกจับจูงมือมายังบ่อน้ำพุร้อน คราแรกเซี่ยสิงหาวจะอุ้มนาง แต่หญิงสาวอยากเดินชมบรรยากาศไปด้วย และยามนี้เป็นเวลาเท่าใด ฟ้ามืดแล้วแต่มีแสงสว่างจากดวงจันทร์นำทาง และนางภาวนาว่า ขอไม่ให้มีผู้ใดมาพบเห็นนาง ด้วยกำลังถูกคนตัวสูงที่แสนหล่อเหลาเอาอกเอาใจสารพัด มือเขาสัมผัสเรือนร่างนางอย่างสิเน่หา จมูกก็ซุกไซ้ซอกคอ ติ่งหู ก้าวไปได้อีกเล็กน้อย ก็รั้งเอวนางไว้แล้วบดเบียดริมฝีปาก พร้อมกับสิ่งลิ้นสากร้อนเข้าไปกวาดข้างใน อวี้เพ่ยเอ๋อร์ร้อนฉ่า นางครางเสียงหวาน และบีบท่อนแขนกำยำของเขาบอกให้รู้ว่า นางก็ปรารถนาจะปรนนิบัติเขาเช่นกัน ซึ่งปกติเขาไม่ได้หวานกับนางเช่นนี้ ไม่มีการเล้าโลมที่ชวนให้สั่นสะท้าน หากยามนี้เซี่ยสิงหาวเปลี่ยนไป เขาดูเหมือนเด็กหนุ่มที่พบหญิงสาวถูกใจ และกำลังจะมีครั้งแรกกับนาง บุรุษรูปงามตังสูง ใบหน้าอ่อนกว่าวัยมาก ยามนี้หากนางบอกว่ากำลังคลั่งเขา ก็คงไม่เกินเลยสักนิด โอ้ มือเขา ปากนุ่มนิ่ม แล้วก็ท่อนลำที่ผงาดล้ำนั้น ทำให้นางสะท้านไปทั้งร่าง เซี่ยสิงหาวไม่สนใจเสื้อผ้าของตน เขาถอดมันออก และ

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    73 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวี้เพ่ยเอ๋อร์ถูกส่งตัวออกจากพิธีบรวงสรวงโดยเป็นคำสั่งของม่านกุ้ยหนิง ไม่มีคนของนางติดตามมา อันที่จริงหญิงสาวห่วงเหลียวจูและฉีหนวน อย่างไรพวกนางก็ให้ความช่วยเหลืออวี้เพ่ยเอ๋อร์ในช่วงที่อยู่จวนเซี่ยเป็นอย่างดี ในช่วงที่กำลังจะถูกคลุมศีรษะและจับขึ้นรถม้า นางได้เห็นเหลียวจูพอดี ฝ่ายนั้นได้ส่งสัญญาณบางอย่างมา ซึ่งแปลความหมายได้ว่า แม่บ้านกับสาวใช้จะปลอดภัยแน่นอน รถม้าเคลื่อนออกมาไกล ด้วยถูกผ้าคลุมศีรษะเอาไว้ อวี้เพ่ยเอ๋อร์จึงยากคาดเดาได้ว่าตนอยู่ที่ใด เวลาก็ไม่แน่ชัด หากประเมินว่าตะวันคงตกดินแล้ว กระทั่งนางถูกพาตัวลงจากรถม้า สถานที่แห่งนั้นวังเวง เงียบ ทั้งมีอากาศเย็นชื้น ฝ่ายนางไม่อาจคาดเดาสิ่งใด จิตใจหวั่นวิตก นางเมื่อยทั้งตัว และยังหิว เรื่องที่เกิดขึ้นมันช่วยไม่ได้ที่จะทำให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์ปลงต่อชีวิต “แม่นาง มีสิ่งใดต้องการสั่งเสียหรือไม่” เสียงที่ดังขึ้น แม้จะชวนให้ขวัญเสีย แต่อวี้เพ่ยเอ๋อร์ผ่านหลายสิ่งมาในเวลาจำกัด เรียกได้ว่าหากต้องสิ้นลมหายใจตอนนี้ก็คงไม่เสียดาย อีกอย่างชายพวกนี้ มองอย่างไรก็ประเมินได้ว่า เป็นเพียงลูกน้องชั้นปลายแถว คงทำได้แค่ขู่เท่า

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    72 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวี้เพ่ยเอ๋อร์ไม่รู้จักอ๋องเสอ คนผู้นี้คือม่านเสอ และจู่ๆ ก็ก้าวตามติดนาง นับแต่หญิงสาวแยกตัวมาหามุมสงบๆ พักใจ พอจะกลับเข้าไปพื้นที่งาน เขากางมือทั้งสองข้างแสดงท่าทางอยากขัดขวางนางเอาไว้ “เป็นเจ้านั่นเอง นึกไม่ถึงว่าจะงดงามเช่นนี้” “ขออภัยด้วย ข้าต้องเข้าไปรอสามีด้านใน ไม่สะดวกคุยกับผู้ใดทั้งสิ้น” “เหลวไหล ข้าคนนี้ กำลังจะเป็นสามีใหม่ให้เจ้า เยี่ยงนี้ยังจะเสนอหน้าไปที่อื่นได้หรือ” ม่านเสอกล่าวอย่างนั้น และพออวี้เพ่ยเอ๋อร์มองไปเบื้องหลังต้น เห็นว่าแม่บ้านเหลียวถูกจับตัวไว้ อีกทั้งใบหน้านางมีรอยแดงปื้นใหญ่ คนพวกนี้ใช้กำลังทำร้ายคนของนาง แสดงความป่าเถื่อนยิ่งนัก “อย่าทำเรื่องให้ใหญ่โตเลย ข้ามาพิธีบรวงสรวงในนามของสามี และไม่คิดก่อเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น” “หึๆ ๆ เจ้าคงเป็นคนเมืองอื่น ถึงไม่รู้ว่างานนี้ มีการจับคู่ สร้างกระโจมไว้ให้พลอดรัก และต่อขาเติมแขนให้เด็กๆ เกิดมาไวๆ แคว้นซีฉางนิยมให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง ดังนั้นการจัดงานขึ้นก็เพื่อส่งเสริมเรื่องนี้” อวี้เพ่ยเอ๋อร์ไม่ได้ศึกษาพิธีบรวงสรวงให้ละเอียด แต่นางพอจะคาดเดาได้ว่า การมีกระโจมใหญ่น้

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    71 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    อวิ๋นเพ่ยเอ๋อร์นึกว่าตนฝันไป ภาพเสียง เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ระคนเสียวซ่าน และนางทำลงไปอย่างเต็มใจ ทั้งยังส่งเสียงหวานๆ เรียกสามีบ้าง สลับมือปราบเหวินบ้าง ซึ่งทั้งสองคนต่างมอบความสุขให้นางอย่างล้นทะลัก ทั้งหมดเรียกได้ว่าเป็นเพียงการสุขสมภายนอก ไม่มีการสอดใส่ ด้วยนางยังไม่พร้อมที่จะกระทำเรื่องซึ่งดูเกินเลยไปสักหน่อย ถึงอย่างนั้นนางก็กลืนน้ำของบุรุษทั้งสองคนที่ไหลทะลักราวกับเขื่อนแตกด้วยความเร่าร้อน ซึ่งคนทั้งคู่ต่างพึงใจที่นางยอมปรนนิบัติพวกเขาแบบพร้อมกัน โดยไร้ความลำเอียง ตอนนี้นางตรวจสอบตนเองทั้งเรื่องเสื้อผ้า และสิ่งของที่จะใช้มอบให้คนสำคัญสำหรับงานบรวงสรวงประจำปีที่อยู่นอกเมืองเรียบร้อยแล้ว แต่จู่ๆ รู้สึกว่าตนกลัวหลายสิ่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น คงเพราะการที่เซี่ยสิงหาวบอกว่า นางกำลังตกเป็นเป้าของคนไม่หวังดี และหวังยืมมือทำลายชื่อเสียงเขา พวกนั้นก็คือคนสกุลม่าน “ผู้น้อยตกอยู่ในอันตรายอีกแล้วเยี่ยงนั้นหรือ” นางถาม ใจคอเหมือนจะหล่นหายไปในตอนนั้น “อย่าได้กังวล ข้ารู้ว่าเจ้าคือใคร และจ้าวรั่วรั่วตัวจริง ได้จากไปแล้ว ส่วนคร

  • พ่อสามีและตัวร้ายข้าหมายครองรักทั้งคู่    70 ชู้รักฮูหยินหม้าย

    เหวินมู่ถังได้พบเรื่องที่เป็นเบาะแสให้เขาต้องตามสืบ คนผู้นั้นเขาเคยพบหน้า และอีกฝ่ายแสดงท่าทางมีพิรุธ กระทั่งตามไปอย่างใกล้ชิด จึงเห็นว่าเป็นชิงถง ชายที่ใช้ฉากหน้าปิดบังว่าเป็นชาวบ้านธรรมดา หากแท้จริงคือโจรชั่ว และมือสังหารที่รับจ้างงานทั่วไป ฝ่ายชิงถงไม่รู้ว่าตนถูกติดตาม เขารออยู่ประตูด้านข้างเรือนนอกสกุลเซี่ย ก่อนหน้านั้นให้คนที่เป็นหูเป็นตาในจวนเซี่ย กระทั่งรู้ว่า อวี้เพ่ยเอ๋อร์ออกมาเยี่ยมแม่เล็กของเซี่ยสิงหาว ตามคำสั่งอีกฝ่าย เขารออยู่สักพักใหญ่ ก็เตรียมเข้าไปข้างใน ด้วยการปลอมตัวเป็นคนงาน กระทั่งได้พบอวี้เพ่ยเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ห้องรับรองเพียงลำพัง “เสี่ยวเอ๋อร์!” น้ำเสียงชิงถงทำให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์หัวใจหล่นหาย นางไม่อาจทราบความต้องการอีกฝ่าย และตั้งแต่เขาใช้มีดแทงเข้าที่หัวไหล่นาง ความเชื่อใจได้หายไป “พี่ถง... ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร แล้วเหตุใดถึงสร้างความลำบากแก่ข้าถึงเพียงนี้” “หลายวันที่ผ่านมา เจ้ามีเรื่องใดแจ้งแก่ข้าบ้าง” ชิงถงไม่ได้สนใจนาง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status