บ้านเทพารัตน์
“ไปไหนมาล่ะพ่อตัวดี พึ่งจะกลับมาเองน่ะ ก็หัดอยู่ให้ติดบ้านหน่อย” เสียงแม่ของเขาต่อว่าขึ้นมาทันที เมื่อเห็นลูกชายตัวดีพึ่งเดินเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็นของวัน เพราะตั้งแต่ที่ลูกชายกลับมาจากต่างประเทศก็ยังไม่เห็นว่าวันไหนที่ลูกชายจะอยู่ติดบ้านเลยสักวัน วันนี้ก็เช่นกัน
ปราณี ซึ่งเป็นแม่ของ ปฐพี และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันกับนิษฐานั้นเอง แต่ทั้งคู่ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ที่ต่างคนต่างมีครอบครัว ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้า หรือไปมาหาสู่กันเลย เพราะต่างก็ทำธุรกิจเดียวกัน
“ไปบ้านเพื่อนแม่มายังไงครับ” ปฐพีตอบแม่ของเขาออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร และทิ้งตัวลงบนโซฟาทันที
“เพื่อนแม่...” ปราณีถามลูกชายออกไปทันที เพราะไม่รู้ว่าลูกชายหมายถึงเพื่อนคนไหนกันแน่ เพราะเพื่อนก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว
“ครับ”
“เพื่อนคนไหน!?” ปราณีถามลูกชายขึ้นมาทันที ว่าลูกชายหมายถึงใคร
“ก็...อานิษยังไงละครับ”
“นิษฐา!” ปราณีถามย้ำลูกชาย เพราะเพื่อนที่ชื่อนี้ ก็มีอยู่คนเดียวเท่าเดียวเท่านั้นแหล่ะในรุ่น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนิษฐาคนนั้นคนเดียว
“ครับ...แต่น่าเสียดาย ที่วันนี้พวกท่านไม่อยู่บ้าน แถมไอ้เพชรก็ไม่อยู่ด้วย อยู่แต่น้องสาวมันคนเดียว น้องชายมันก็ไม่ทราบข่าวว่าอยู่ไหนเลย” ปฐพีพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“หนูแพทนั่นนะเหรอ” ปราณีถามลูกชายกลับ เพราะเคยเจอกันก็นานมากแล้ว
“ครับ ตอนนี้สวยมากด้วย ผมจำน้องเกือบไม่ได้แหน่ะ” เขาพยักหน้ารับกลับกับแม่ และเอ่ยชมหญิงสาวที่พึ่งไปเจอมาให้ผู้เป็นแม่ฟังทันทีอย่างไม่ปิดบัง
“แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงห่ะตาพี อย่าบอกน่ะ! ว่าแกชอบลูกสาวบ้านนั้นเข้า...” ปราณีที่จับสังเกตลูกชายได้ เอ่ยขึ้นมาอย่างจับผิดทันที
“ก็เห็นว่าเธอสวยดีครับแม่” เขาบอกแม่ออกไปตามตรง
“ตาพี แกจะชอบใคร แม่ไม่เคยห้ามน่ะ แต่ขอร้องเถอะ! อย่าไปยุ่งกับลูกสาวเพื่อนแม่เลย แม่ไม่อยากเสียเพื่อนไป แล้วมันจะมองหน้ากันไม่ติด หากแกยังทำตัวเปลี่ยนคู่นอนไม่เลือกแบบนี้” ปราณีต่อว่าลูกชายขึ้นมาอีกครั้งทันที เมื่อรู้ความคิดว่าลูกจะทำอะไร เพราะรู้ถึงความเจ้าชู้เปลี่ยนคู่นอนไม่เลือกของลูกชายดี
“โธ่แม่! คนนี้อาจจะเป็นรักแท้ หรือว่าคู่ครองของผมก็ได้น่ะ” เขาใส่ลูกอ้อนออกมาต่อหน้าของแม่เขาทันที
“กี่คนแล้วที่แกพูดแบบนี้ แม่ไม่เห็นว่าแกจะจริงจังกับใครเลยสักคน มีแต่ฟันเขาแล้วก็ทิ้ง” ปราณียังคงยืนยัน เพราะรู้จักนิสัยลูกตัวเองดีว่าเป็นเช่นไร
“เขาเรียกว่า One Night Stand ครับแม่ ไม่มีใครฟันใคร มีแต่ได้กับได้กันทั้งคู่” ปฐพีกล่าวขึ้นมาอย่างมีเหตุผล
“จะวันไนท์ ทูไนท์ หรือกี่ไนท์มันก็เรื่องของแก แต่แค่ให้รู้จักป้องกันก็พอ อย่าให้มีอุ้มท้อง หอบลูกมาตามหาพ่อที่นี่ก็แล้วกัน” ปราณีไม่รู้จะสันหาคำพูดไหนมาด่าลูกชายคนนี้ เพราะตลอดที่ผ่านมาก็ได้แค่ตักเตือนเท่านั้น เพราะลูกก็โตมากพอแล้ว
“ไม่มีแน่นอนครับ แต่น้องแพทอาจไม่แน่น่ะ” ปฐพียืนยันทันที เพราะถึงเขาจะเป็นคนรักสนุก แต่ทุกครั้งที่ผ่านเขาป้องกันอย่างดี เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ว่าเป็นเช่นไรกับคู่นอน
“จริงจังหรือไง?” เสียงทุ้มของพ่อเขาถามขึ้นมาทันที เมื่อทนฟังสองแม่ลูกเถียงกันไม่ไหว
ปราโมทย์ เทพารัตน์ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ แถมเขายังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทของพัฒน์พงษ์อีกด้วย แต่ไม่มากเท่ากับครอบครัวของพัฒน์พงษ์
“พ่อ!” ปฐพีหันไปทางต้นเสียงเมื่อสักครู่ทันที
“ไปช่วยงานที่บริษัทก่อนสิ ถ้าภายในหนึ่งเดือนงานไม่มีปัญหาอะไร และแกสามารถบริหารงานได้ พ่อกับแม่จะไปคุยให้...” เขายื่นข้อเสนอให้ลูกชายขึ้นมาทันที เพราะอยากได้หุ้นส่วนของบริษัททั้งหมดที่ครอบครัวของพัฒน์พงษ?ถือ อาจจะเป็นผลดีหากว่าเขาไปผูกดองกัน
“พ่อพูดจริงน่ะ” ปฐพีหันไปถามพ่ออย่างดีใจขึ้นมาทันที
“แกเคยเห็นพ่อพูดโกหกไหม พรุ่งนี้เริ่มงานได้ ภายในเวลาหนึ่งเดือนต่อจากนี้ ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามสาย” ปราโมทย์ยื่นคำขาดแก่ลูกชายขึ้นมาทันที
“ครับ”
บ้านเรืองพาณิชยากุล
“นี่พี่ไม่คิดจะให้ฉันได้เป็นอิสระบ้างเลยหรือยังไง มานั่งเฝ้าอยู่ได้” พจีกานต์พูดขึ้นมาทันที เพราะตั้งแต่ที่ปฐพีกลับไป แทนที่เขาจะกลับบ้าน แต่กลับมานั่งเฝ้าเธออยู่จนถึงเย็น
“ทำตามคำสั่งคุณพงษ์ครับ” เขาเอ่ยตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง โดยไม่ได้สนใจคนที่ได้ยินเลย ว่าจะมีปฏิกิริยาเช่นไรในตอนนี้
“พ่อพูดอะไรกับพี่อีก พี่ทิศ” เธอถามเขาออกมาอย่างอยากรู้ทันที เพราะเขาจะเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของพ่อเขาเป็นอย่างดี
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณพงษ์ท่านไม่เอาลูกสาวที่ไม่เอาการเอางานมาขายให้ผมหรอก คุณหนูแพทสบายใจได้เลย” เขาเอ่ยบอกเธอออกไป
“พี่ทิศ!” หญิงสาวตวาดเสียงขึ้นมาทันที
“จะตะโกนทำไมครับ”
“ฉันไม่คุยกับพี่แล้ว ไปหาฟอร์ยูดีกว่า” เธอไม่รู้จะทำเช่นไรดีกับคนตีมึนแบบเขา จึงเดินออกไปหน้าบ้านทันที ที่ได้ยินเสียงรถ เพราะหลานชายสุดที่รัก น่าจะกลับมาจากโรงเรียนแล้ว
“อ้าวทิศ! ยังอยู่ที่นี่อีกเหรอ!?” พัฒน์พงษ์ถามขึ้นมาทันที ที่เดินเข้ามาภายในบ้าน แล้วเห็นเขายังอยู่ที่บ้าน
“ครับ พอดีผมเห็นว่าที่บ้านมีแต่ผู้หญิงกับเด็ก เลยมาอยู่เป็นเพื่อนครับ” สิบทิศตอบออกมาตามตรง
“มาจับผิดกันมากกว่า” พจีกานต์สวนขึ้นมาทันที เมื่ออุ้มหลานชายวัย 2 ขวบเศษ เดินเข้ามาภายในบ้าน ที่พึ่งจะกลับมาจากโรงเรียน
เด็กชายพีรพัฒน์ เรืองพาณิชยากุล หรือ ฟอร์ยู ลูกชายวัย 2 ขวบเศษ ของพจีพัฒน์(พีท) และ พีรดา(หรีดหริ่ง) ที่ตอนนี้ศึกษาอยู่ปีที่ 3 แล้ว เด็กน้อยที่เติบโตมาจากครอบครัวที่แสนอบอุ่น และการเลี้ยงดูของผู้เป็นย่า และทุกคนภายในบ้านมาอย่างดี เพราะเป็นหลานคนแรก และพ่อแม่ที่ยังศึกษาอยู่ ไม่ค่อยได้มีเข้ามาที่บ้านสักเท่าไหร่ นอกเสียจากจะหยุด เพราะพ่อและแม่ของเขาตั้งใจจะเรียนให้จบภายในปีนี้
“พูดอะไรยัยแพท พี่เขาอุตส่าห์มาอยู่เป็นน่ะ” พัฒน์พงษ์ดุลูกสาวขึ้นมาทันที ที่พูดอะไรขึ้นมาโดยไม่ไตร่ตรองก่อน
“แพทก็ไม่ได้อยากให้อยู่นี้คะพ่อ” เธอพูดกับพ่อออกมาตามตรง
“ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวคุณหนูแพทจะนัดผู้ชายมาหาที่บ้านอีก” เขาที่อยากจะแกล้งเธอ จึงพูดเป็นนัย ๆ ตั้งใจพูดให้พัฒน์พงษ์ได้ยินด้วย
“ผู้ชาย! ใครที่ไหนกล้ามาหาลูกถึงที่บ้านเหรอ” พัฒน์พงษ์หันมาถามเอาคำตอบจากทางลูกสาวขึ้นมาทันที เพราะเท่าที่รู้มาก็ไม่เคยมีใครมาหาลูกสาวของเขาอยู่แล้ว
หน้าที่ดูแล“ยัยแพท นี่จะหอบกระเป๋าออกไปไหนมันค่ำแล้วน่ะ” นิษฐาถามลูกสาวขึ้น เมื่อเห็นว่าลูกสาวหอบกระเป๋าใบใหญ่ลงมาบันไดมา ในขณะที่ตัวเองกำลังจะพาหลานชายขึ้นไปนอน“แพทขอไปพักสมองที่ต่างจังหวัดสักพักนะคะ” เธอเอ่ยตอบแม่ออกไปตามตรง แล้วลากกระเป่าเดินตรงไปยังพัฒน์พงษ์ที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก“ถูกพ่อควบคุมความประพฤติแค่นี้ ถึงขั้นต้องเก็บกระเป๋าออกจากบ้านเชียวเหรอ” พัฒน์พงษ์เอ่ยแซวขึ้นมาทันที ที่ลูกสาวเดินมานั่งลงข้าง ๆ กับตัว“แพทขอไปพักสักสองสามวันนะคะพ่อ กลับมาแพทจะเป็นแพทคนใหม่ให้พ่อเห็น” เธอเอ่ยบอกพ่อของเธอออกไป เมื่อนั่งลง“แล้วทำไมไม่รอเดินทางพรุ่งนี้เช้า” พัฒน์พงษ์วางทุกอย่างลง แล้วหันมาสนใจถามลูกสาวขึ้นมา เพราะตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วด้วย“แพทอยากมีเวลาเที่ยวเยอะค่ะ เลยอยากเดินทางตอนนี้” พจีกานต์ตอบพ่อออกไป“ผมขับรถไหวครับคุณพงษ์ แค่นี้สบายมาก คุณพงษ์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลคุณแพทเป็นอย่างดีเลย” สิบทิศที่พึ่งจะเดินเข้ามา เอ่ยขึ้นพร้อมกับรับปากกับพัฒน์พงษ์เป็นอย่างดี เพื่อให้ท่านหายเป็นกังวล“แล้วจะพากันไปที่ไหนล่ะ” ผู้เป็นพ่อถามขึ้นมาทันที เพราะเห็นกระเป๋าใบโตของลูกสาว ที่น
หน้าที่ใหม่“สรุปว่าเป็นใครกัน ที่กล้ามาหาลูกถึงที่บ้านที่พ่อกับแม่ไม่อยู่” พัฒน์พงษ์เค้นถามเอาความจริงกับลูกสาวขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินสิบทิศเอ่ยเช่นนั้นพจีกานต์จึงส่งหลานชายที่อุ้มอยู่ในตอนนี้ ให้แก่พิมพาพาออกไปจากตรงนี้ทันที เพราะเห็นว่าพ่อของเธอต้องการที่คุยกับเธอ“ก็เพื่อนรุ่นเดียวกับพี่เพชร พี่พีลูกป้าณียังไงละพ่อ เขาไม่ได้มาหาแพทสักหน่อย น่าจะมาหาพี่เพชรหรือละมั้งคะ แพทก็ไม่ได้ถาม” เธอจึงบอกพ่อออกไปตามตรง เพราะเธอก็ไม่ได้ที่คิดจะปิดบังพ่อของเธออยู่แล้ว“อยู่ให้ห่าง ๆ ลูกชายบ้านนั้นเลยน่ะ” พัฒน์พงษ์สั่งห้ามขึ้นมาทันที ที่ทราบว่าคนที่มาบ้านตอนที่เขาไม่อยู่นั้นคือใคร“อะไรกันค่ะคุณพี่ เด็ก ๆ เขาก็ไปมาหาสู่กันตามประสาคนที่เคยเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ” นิษฐาพูดขัดขึ้นมาทันที ที่พึ่งจะเดินเข้ามาภายในบ้าน“ก็ตอนนี้ทุกคนไม่ใช่เด็กกันแล้ว คุณก็รู้ว่าลูกชายเพื่อนคุณ เจ้าชู้ยังกับอะไรดี ผมไม่ยอมให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเรา ไปเป็นหนึ่งในคู่นอนหรือตัวเลือกของลูกชายบ้านนั้นหรอกน่ะ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด“แพทก็ไม่ได้คิดที่สนใจอยู่แล้วนี้ค่ะพ่อ” พจีกานต์จึงพูดขึ้นมา เมื่อเริ่มเห็นว่าพ
จริงจังบ้านเทพารัตน์“ไปไหนมาล่ะพ่อตัวดี พึ่งจะกลับมาเองน่ะ ก็หัดอยู่ให้ติดบ้านหน่อย” เสียงแม่ของเขาต่อว่าขึ้นมาทันที เมื่อเห็นลูกชายตัวดีพึ่งเดินเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็นของวัน เพราะตั้งแต่ที่ลูกชายกลับมาจากต่างประเทศก็ยังไม่เห็นว่าวันไหนที่ลูกชายจะอยู่ติดบ้านเลยสักวัน วันนี้ก็เช่นกันปราณี ซึ่งเป็นแม่ของ ปฐพี และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันกับนิษฐานั้นเอง แต่ทั้งคู่ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ที่ต่างคนต่างมีครอบครัว ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้า หรือไปมาหาสู่กันเลย เพราะต่างก็ทำธุรกิจเดียวกัน“ไปบ้านเพื่อนแม่มายังไงครับ” ปฐพีตอบแม่ของเขาออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร และทิ้งตัวลงบนโซฟาทันที“เพื่อนแม่...” ปราณีถามลูกชายออกไปทันที เพราะไม่รู้ว่าลูกชายหมายถึงเพื่อนคนไหนกันแน่ เพราะเพื่อนก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว“ครับ”“เพื่อนคนไหน!?” ปราณีถามลูกชายขึ้นมาทันที ว่าลูกชายหมายถึงใคร“ก็...อานิษยังไงละครับ”“นิษฐา!” ปราณีถามย้ำลูกชาย เพราะเพื่อนที่ชื่อนี้ ก็มีอยู่คนเดียวเท่าเดียวเท่านั้นแหล่ะในรุ่น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนิษฐาคนนั้นคนเดียว“ครับ...แต่น่าเสียดาย ที่วันนี้พวกท่านไม่อยู่บ้าน แถมไอ้เพช
คนมาป่วน“ลุกออกไปได้แล้ว...ฉันจะไปอาบน้ำ ร้อนจะตายอยู่แล้ว” เธอดันอกเขาออกจากเธอทันที ที่เสียงหน้าห้องเงียบลงเขาจึงยอมลุกขึ้น แล้วไปทำงานของตัวเองต่อทันที โดยไม่สนใจเจ้าของห้องที่วิ่งเข้าไปในห้องน้ำเลยแม้แต่น้อยไม่นานเธอก็ออกมาจากห้องน้ำ กลับต้องพบกับความเงียบ และมีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่ เขาน่าจะกลับออกไปแล้ว“ทุกคนหายไปไหนกันหมดค่ะป้าพิมพ์” เธอถามขึ้นมาทันที ที่เดินลงมาชั้นล่างของบ้าน ต้องพบกับความเงียบอีกครั้ง“คุณท่านทั้งสองไปงานค่ะ เพราะคุณเพชรไม่อยู่” พิมพาตอบออกมาตามตรง“พี่เพชรไม่อยู่” เธอถามย้ำขึ้นมาทันที“ค่ะ”“ไปไหนหรือค่ะ ปกติคนอย่างพี่เพชรไม่เคยขาดงานเลยแม้สักครั้ง” เธอถามขึ้นมาอย่างสงสัยทันที เพราะปกติคนที่บ้างานอย่างพี่ชายเธอ แทบจะเอางานมานอนด้วยทุกครั้ง ทำไมถึงยอมขาดงานได้“เห็นว่ามีธุระที่ต่างจังหวัดค่ะ น่าจะหลายวันเลย คุณท่านเลยต้องเข้าไปดูงานที่บริษัทแทนคุณเพชรก่อนในช่วงนี้” พิมพาตอบออกมาเท่าที่ทราบ“อ่อคะ ป้าพิมพ์มีอะไรก็ไปทำเถอะคะ เดี๋ยวที่เหลือแพทจัดการเองคะ” เธอเอ่ยบอกแม่บ้านคนเก่าแก่ของบ้านกลับไปเธอจึงทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง เพรา
หาทางปรับเปลี่ยนรุ่งเช้าบ้านเรืองพาณิชยากุล“ป้าพิมพ์ วันนี้ไม่ต้องเตรียมมื้อกลางวันน่ะ พอดีจะออกไปข้างนอกกัน คงจะกลับมาเย็น ๆ เลย” นิษฐา พูดขึ้นมาทันที ที่เดินลงมาถึงชั้นล่างของบ้าน“แล้วคุณแพทละคะ” พิมพาถามออกมา เพราะว่าวันนี้ลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านอยู่ที่บ้าน“อ้าว! ยัยแพทอยู่หรอกหรือ” นิษฐาถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะปกติลูกสาวจะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่วันนี้กลับแปลกกว่าทุกที ที่กลับมาค้างที่บ้าน“คะ กลับมาเมื่อคืนช่วงดึก” พิมพาตอบกลับไป“ถ้าอย่างนั้น ก็เตรียมเฉพาะของยัยแพทก็พอน่ะ เดี๋ยวนิษกับพี่พงษ์จะไปทานกันข้างนอกเอาเลย” นิษฐาจึงเอ่ยบอกแม่บ้านกลับไป แล้วเดินออกมาข้างนอกมันที วันนี้พัฒน์พงษ์มีธุระที่จะต้องไปกะทันหันจึงพาภรรยาอย่างนิษฐาไปด้วย เพราะลูกชายคนโตไปต่างจังหวัด พัฒน์พงษ์จึงจัดการงานที่บริษัทแทนไปก่อน และไม่รู้ว่าจะกลับมาวันไหนและหลานชายกลับมาจากโรงเรียนก็ต้องเป็นหน้าที่พิมพาผู้เป็นยายที่ต้องดูแลต่อ โดยมีไม้เอกลูกน้องคนสนิทของเจ้าของบ้าน ทำหน้าที่ขับรถให้แทน ทุกวันนี้พัฒน์พงษ์จะขับรถเองสะส่วนใหญ่ เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนตั้งแต่ที่มีหลานชายเข้ามา“เป็นอะไรของคุณอีกคุณนิษ แ
พี่ข้างบ้านผู้หวังดี Night Club ร่างอรชรของหญิงสาว โยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลงอย่างเมามันส์ ที่มีแสงไฟวาววับสาดส่องลงมา เพราะเธอเป็นจุดเด่นกว่าใครเป็นไหน ๆ“ใครว่ะ หุ่นเด็ดมากเลย” นำทัพ ชายหนุ่มที่มาท่องราตรีในค่ำคืนนี้ ถามคนที่เอานั่งกระดกแก้วเครื่องดื่มอยู่แต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรสักคำตั้งแต่ที่เขาชวนมา“คนไหนของมึงอีกวะ” สิบทิศ ชายหนุ่มวัย 35 ปี ถามขึ้นมาทันที ที่ถูกเพื่อนถาม เพราะไอ้นี่มันเสือผู้หญิงอยู่แล้ว ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนเขามา จะแอบทำแอบเที่ยวคนเดียวตลอด แต่วันนี้กลับมาบังคับเขาให้มาเป็นเพื่อน และเขาก็ไม่ค่อยอยากมาเอาเสียเลย แต่เพราะตวามเป็นเพื่อนกันมาหลายปี เลยต้องยอมมันหน่อย“ชุดแดงนั่นไง แม่งน่าฟัดฉิบหาย” นำทัพใช้สายตาชี้ทางบอกสิบทิศที่นั่งไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่อย่างเซ็ง ๆ“เหี้ยยย...” สิบทิศสบถออกมา เครื่องดื่มสีอำพรางที่กำลังดื่มเข้าไปแทบจะพุ่งออกมา เมื่อรู้ว่าคนที่เพื่อนหมายตานั้นคือใคร“อะไรของมึง หรือว่ามึงเคยล่อมาแล้ว” นำทัพถามกลับไปทันที เมื่อเห็นอาการพิรุธของสิบทิศออก เพราะถามเพื่อความแน่ใจ เพราะพวกเขาจะไม่ใช้ผู้หญิงคนเดียวกันเด็ดขาด ถึงแม้จะถูกตาต้องใจมากขนาดไหน“เ