“สรุปว่าเป็นใครกัน ที่กล้ามาหาลูกถึงที่บ้านที่พ่อกับแม่ไม่อยู่” พัฒน์พงษ์เค้นถามเอาความจริงกับลูกสาวขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินสิบทิศเอ่ยเช่นนั้น
พจีกานต์จึงส่งหลานชายที่อุ้มอยู่ในตอนนี้ ให้แก่พิมพาพาออกไปจากตรงนี้ทันที เพราะเห็นว่าพ่อของเธอต้องการที่คุยกับเธอ
“ก็เพื่อนรุ่นเดียวกับพี่เพชร พี่พีลูกป้าณียังไงละพ่อ เขาไม่ได้มาหาแพทสักหน่อย น่าจะมาหาพี่เพชรหรือละมั้งคะ แพทก็ไม่ได้ถาม” เธอจึงบอกพ่อออกไปตามตรง เพราะเธอก็ไม่ได้ที่คิดจะปิดบังพ่อของเธออยู่แล้ว
“อยู่ให้ห่าง ๆ ลูกชายบ้านนั้นเลยน่ะ” พัฒน์พงษ์สั่งห้ามขึ้นมาทันที ที่ทราบว่าคนที่มาบ้านตอนที่เขาไม่อยู่นั้นคือใคร
“อะไรกันค่ะคุณพี่ เด็ก ๆ เขาก็ไปมาหาสู่กันตามประสาคนที่เคยเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ” นิษฐาพูดขัดขึ้นมาทันที ที่พึ่งจะเดินเข้ามาภายในบ้าน
“ก็ตอนนี้ทุกคนไม่ใช่เด็กกันแล้ว คุณก็รู้ว่าลูกชายเพื่อนคุณ เจ้าชู้ยังกับอะไรดี ผมไม่ยอมให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเรา ไปเป็นหนึ่งในคู่นอนหรือตัวเลือกของลูกชายบ้านนั้นหรอกน่ะ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด
“แพทก็ไม่ได้คิดที่สนใจอยู่แล้วนี้ค่ะพ่อ” พจีกานต์จึงพูดขึ้นมา เมื่อเริ่มเห็นว่าพ่อกับแม่จะเริ่มขึ้นเสียงใส่กัน เมื่อพูดถึงชายหนุ่มที่มาบ้านในวันนี้
“แล้วเขาพูดอะไรกับลูกบ้างหรือเปล่าแพท” พัฒน์พงษ์จึงหันมาถามเอาความจริงทางลูกสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กันกับสิบทิศ
“เขาบอกว่า ว่าหลังจะพาพ่อกับแม่มาที่บ้านค่ะ” เธอตอบพ่อออกไปตามตรง เพราะไม่ได้เก็บเอาคำพูดของปฐพีมาใส่ใจอยู่แล้ว
“ดีเหมือนกัน แม่ก็ไม่ได้เจอปราณีมานานมากแล้วด้วย” นิษฐาพูดขึ้นมาอย่างดีใจ
สิบทิศเมื่อเห็นว่าตัวเองหมดหน้าที่ตรงนี้แล้ว และเขาก็รู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นคนนอก จึงจะเดินออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้ เพื่อให้ครอบครัวเขาได้คุยกัน
“สิบทิศ!” พัฒน์พงษ์เอ่ยเรียกเขาเอาไว้เสียก่อน
“ครับคุณพงษ์” สิบทิศจึงหันกลับมาขานรับพัฒน์พงษ์ ที่เรียกเขาเอาไว้
“ฉันมีงานใหม่ให้นายทำ” เสียงเข้มผู้ทรงอำนาจของบ้านหลังนี้เอ่ยขึ้นมาทันที
“ครับ คุณพงษ์ว่ามาได้เลย” เขาน้อมรับทุกคำสั่งของเจ้าของบ้านหลังนี้ทันที โดยที่ไม่ทันได้ทราบว่างานอะไร
“งานต่อไปที่นายต้องทำคือ ให้นายคอยดูแลยัยแพท” พัฒน์พงษ์เอ่ยขึ้นมาทันที
“อะไรน่ะ!!!” ทำเอาทุกคนที่ได้ยินต่างอุทานออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมายทันที และมองหน้ากับสลับไปมา
“ต่อไปนี้ นายสิบทิศจะคอยมาดูแลยัยแพท และทุกที่ที่ยัยแพทไป จะมีนายสิบทิศคอยขับรถรับส่งไปให้ และทุกอย่างที่เกี่ยวกับยัยแพทด้วย จะเป็นหน้าที่ของนายสิบทิศทั้งหมด ส่วนเงินเดือน...” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมาเสียงดังฟังชัดทุกคำ
“ผมขอไม่รับเงินเดือนนะครับ เพราะเท่าที่ทุกวันนี้มันก็มากเกินพอแล้ว” สิบทิศรีบปฏิเสธทันควัน และถ่อมตนทันที เพราะทุกวันนี้พัฒน์พงษก็จ่ายเงินให้เขาเยอะมากพอแล้ว มากกว่าคนสวน แม่บ้านหลังนี้เสียอีก
“ลูกสาวฉันดื้อ ต่อไปต้องฝากนายด้วย ผู้ชายคนไหนเข้ามาจีบ นายก็ช่วยคัดกรองตัดสินใจได้เลยว่าผ่านไม่ผ่าน” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมากับเขา และตบที่ไหล่เขาเบา ๆ อีกด้วย
“คุณพี่/คุณพ่อ” สองแม่ลูกพูดขึ้นมาพร้อมกันทันที
“ทุกอย่างตามนี้ นายจะนอนที่บ้านหลังนี้ หรือบ้านนายก็ได้ ส่วนนี้กุญแจรถใช้คันของฉันได้เลย” พัฒน์พงษ์หากได้สนใจคำค้านของภรรยาและลูกสาวไม่ หันมาพูดกับสิบทิศ แถมยื่นกุญแจรถของเขาใหแก่สิบทิศทันที
“ครับ”
“ส่วนแพท ต่อไปก็เชื่อฟังพี่เขา หากว่าหนูดื้อ พ่ออนุญาตให้พี่เขาจัดการได้เลยตามความเหมาะสม” แล้วพัฒน์พงษ์จึงหันพูดกับทางลูกสาวของตนบ้าง
“คุณพ่อ”
“ถ้าภายในหนึ่งปีหลังจากนี้ หนูพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เหมือนทุกวันนี้ พ่อจะคืนอิสรภาพให้แก่หนู และเลิกจ้างนายสิบทิศ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง
“แต่แพทไม่ใช่เด็กแล้วน่ะ” หญิงสาวทำหน้าไม่พอใจพูดกับพ่อของเธอขึ้นมาทันที ด้วยน้ำเสียงที่งอแงเหมือนเด็ก
“แพทยังเป็นเด็กเสมอสำหรับพ่อครับ เชื่อพ่อน่ะ และอย่าดื้อกับพี่เขามากล่ะ” พัฒน์พงษ์เอ่ยปลอบลูกสาว พร้อมกับมือที่ลูบศีรษะเธอเบา ๆ อย่างเอ็นดู
“ถ้าอย่างนั้น แพทขอตัวก่อนนะคะ”
เธอเอ่ยบอกพ่อของเธอ แล้วหันมาทางชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันที ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจมากนัก
“ส่วนพี่ มานี่เลย...” เธอลากแขนเขาออกไปด้วยทันที เพราะอย่างจะทำข้อตกลงกันสองต่อสอง โดยที่ไม่ให้พ่อของเธอรู้
“คุณแพทมีอะไรครับ” เขาถามเธอขึ้นมาทันที เมื่อเธอลากเขาออกมาคุยที่สวนหลังบ้าน ซึ่งเป็นกำแพงที่ทางเข้าออกติดกันกับที่เขาเดินเข้าออกบ้านนี้เป็นประจำ
“ทำไมพี่ไม่ปฏิเสธพ่อฉัน” เธอถามเขาขึ้นมา เพราะว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของพ่อเธอทุกอย่างก็ได้
“คงไม่ทันแล้วครับ เพราะผมรับปากท่านไปแล้วด้วย ผมไม่อยากผิดคำพูดต่อผู้ใหญ่” สิบทิศรีบปฏิเสธทันที
“ถ้าอย่างนั้น เราไปบอกพ่อพร้อมกัน ว่าพี่ไม่เต็มใจรับงานนี้ เดี๋ยวที่เหลือฉันรับผิดชอบเอง” พจีกานต์รีบคว้าแขนของเขา เพื่อที่จะเดินกลับเข้าบ้านไปอีกครั้ง
“เต็มใจครับ” เสียงนุ่มของเขาพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ไอ้พี่ทิศ” เธอจึงตวาดเสียงใส่เขาขึ้นมาทันที
“พูดเพราะ ๆ หน่อยครับ พี่กลับแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน อยากไปไหนก็บอกพี่นะ” สิบทิศกำลังจะกลับออกไป
“ไปคืนนี้เลย” เธอพูดขึ้นมาก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไป
“...” สิบทิศหันกลับมามองเธอ แต่กลับไม่พูดอะไร พร้อมกับทำหน้างงไม่เข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน
“งงทำไม ก็มีพี่ไปด้วย พ่อคงไม่ว่าอะไรหรอก”
“แล้วอยากไปไหน” เขาจึงถามเธอขึ้นมา
“ต่างจังหวัดสักสองสามวัน พักสมองก่อนที่จะไปทำงานที่บริษัทไง แบบนี้ไม่ดีเหรอ” พจีกานต์พูดบอกเขาออกไป
“ดีสิครับ แต่เดินทางพรุ่งนี้เช้าไม่ได้เหรอ”
“เดินทางคืนนี้แหล่ะ ไปถึงโน้นเช้า ก็จะได้ดีเที่ยวเลย”
สิบทิศไม่เอ่ยอะไรตอบ เมื่อเธอพูดขึ้นมาแบบนี้ เพราะถึงเขาจะพูดอย่างไร่ก็ขัดใจเธอไม่ได้อยู่ดี เขาจึงเดินออกจากที่นี่ไปบ้านของตัวเองทันที
หน้าที่ดูแล“ยัยแพท นี่จะหอบกระเป๋าออกไปไหนมันค่ำแล้วน่ะ” นิษฐาถามลูกสาวขึ้น เมื่อเห็นว่าลูกสาวหอบกระเป๋าใบใหญ่ลงมาบันไดมา ในขณะที่ตัวเองกำลังจะพาหลานชายขึ้นไปนอน“แพทขอไปพักสมองที่ต่างจังหวัดสักพักนะคะ” เธอเอ่ยตอบแม่ออกไปตามตรง แล้วลากกระเป่าเดินตรงไปยังพัฒน์พงษ์ที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก“ถูกพ่อควบคุมความประพฤติแค่นี้ ถึงขั้นต้องเก็บกระเป๋าออกจากบ้านเชียวเหรอ” พัฒน์พงษ์เอ่ยแซวขึ้นมาทันที ที่ลูกสาวเดินมานั่งลงข้าง ๆ กับตัว“แพทขอไปพักสักสองสามวันนะคะพ่อ กลับมาแพทจะเป็นแพทคนใหม่ให้พ่อเห็น” เธอเอ่ยบอกพ่อของเธอออกไป เมื่อนั่งลง“แล้วทำไมไม่รอเดินทางพรุ่งนี้เช้า” พัฒน์พงษ์วางทุกอย่างลง แล้วหันมาสนใจถามลูกสาวขึ้นมา เพราะตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วด้วย“แพทอยากมีเวลาเที่ยวเยอะค่ะ เลยอยากเดินทางตอนนี้” พจีกานต์ตอบพ่อออกไป“ผมขับรถไหวครับคุณพงษ์ แค่นี้สบายมาก คุณพงษ์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลคุณแพทเป็นอย่างดีเลย” สิบทิศที่พึ่งจะเดินเข้ามา เอ่ยขึ้นพร้อมกับรับปากกับพัฒน์พงษ์เป็นอย่างดี เพื่อให้ท่านหายเป็นกังวล“แล้วจะพากันไปที่ไหนล่ะ” ผู้เป็นพ่อถามขึ้นมาทันที เพราะเห็นกระเป๋าใบโตของลูกสาว ที่น
หน้าที่ใหม่“สรุปว่าเป็นใครกัน ที่กล้ามาหาลูกถึงที่บ้านที่พ่อกับแม่ไม่อยู่” พัฒน์พงษ์เค้นถามเอาความจริงกับลูกสาวขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินสิบทิศเอ่ยเช่นนั้นพจีกานต์จึงส่งหลานชายที่อุ้มอยู่ในตอนนี้ ให้แก่พิมพาพาออกไปจากตรงนี้ทันที เพราะเห็นว่าพ่อของเธอต้องการที่คุยกับเธอ“ก็เพื่อนรุ่นเดียวกับพี่เพชร พี่พีลูกป้าณียังไงละพ่อ เขาไม่ได้มาหาแพทสักหน่อย น่าจะมาหาพี่เพชรหรือละมั้งคะ แพทก็ไม่ได้ถาม” เธอจึงบอกพ่อออกไปตามตรง เพราะเธอก็ไม่ได้ที่คิดจะปิดบังพ่อของเธออยู่แล้ว“อยู่ให้ห่าง ๆ ลูกชายบ้านนั้นเลยน่ะ” พัฒน์พงษ์สั่งห้ามขึ้นมาทันที ที่ทราบว่าคนที่มาบ้านตอนที่เขาไม่อยู่นั้นคือใคร“อะไรกันค่ะคุณพี่ เด็ก ๆ เขาก็ไปมาหาสู่กันตามประสาคนที่เคยเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ” นิษฐาพูดขัดขึ้นมาทันที ที่พึ่งจะเดินเข้ามาภายในบ้าน“ก็ตอนนี้ทุกคนไม่ใช่เด็กกันแล้ว คุณก็รู้ว่าลูกชายเพื่อนคุณ เจ้าชู้ยังกับอะไรดี ผมไม่ยอมให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเรา ไปเป็นหนึ่งในคู่นอนหรือตัวเลือกของลูกชายบ้านนั้นหรอกน่ะ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด“แพทก็ไม่ได้คิดที่สนใจอยู่แล้วนี้ค่ะพ่อ” พจีกานต์จึงพูดขึ้นมา เมื่อเริ่มเห็นว่าพ
จริงจังบ้านเทพารัตน์“ไปไหนมาล่ะพ่อตัวดี พึ่งจะกลับมาเองน่ะ ก็หัดอยู่ให้ติดบ้านหน่อย” เสียงแม่ของเขาต่อว่าขึ้นมาทันที เมื่อเห็นลูกชายตัวดีพึ่งเดินเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็นของวัน เพราะตั้งแต่ที่ลูกชายกลับมาจากต่างประเทศก็ยังไม่เห็นว่าวันไหนที่ลูกชายจะอยู่ติดบ้านเลยสักวัน วันนี้ก็เช่นกันปราณี ซึ่งเป็นแม่ของ ปฐพี และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันกับนิษฐานั้นเอง แต่ทั้งคู่ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ที่ต่างคนต่างมีครอบครัว ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้า หรือไปมาหาสู่กันเลย เพราะต่างก็ทำธุรกิจเดียวกัน“ไปบ้านเพื่อนแม่มายังไงครับ” ปฐพีตอบแม่ของเขาออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร และทิ้งตัวลงบนโซฟาทันที“เพื่อนแม่...” ปราณีถามลูกชายออกไปทันที เพราะไม่รู้ว่าลูกชายหมายถึงเพื่อนคนไหนกันแน่ เพราะเพื่อนก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว“ครับ”“เพื่อนคนไหน!?” ปราณีถามลูกชายขึ้นมาทันที ว่าลูกชายหมายถึงใคร“ก็...อานิษยังไงละครับ”“นิษฐา!” ปราณีถามย้ำลูกชาย เพราะเพื่อนที่ชื่อนี้ ก็มีอยู่คนเดียวเท่าเดียวเท่านั้นแหล่ะในรุ่น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนิษฐาคนนั้นคนเดียว“ครับ...แต่น่าเสียดาย ที่วันนี้พวกท่านไม่อยู่บ้าน แถมไอ้เพช
คนมาป่วน“ลุกออกไปได้แล้ว...ฉันจะไปอาบน้ำ ร้อนจะตายอยู่แล้ว” เธอดันอกเขาออกจากเธอทันที ที่เสียงหน้าห้องเงียบลงเขาจึงยอมลุกขึ้น แล้วไปทำงานของตัวเองต่อทันที โดยไม่สนใจเจ้าของห้องที่วิ่งเข้าไปในห้องน้ำเลยแม้แต่น้อยไม่นานเธอก็ออกมาจากห้องน้ำ กลับต้องพบกับความเงียบ และมีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่ เขาน่าจะกลับออกไปแล้ว“ทุกคนหายไปไหนกันหมดค่ะป้าพิมพ์” เธอถามขึ้นมาทันที ที่เดินลงมาชั้นล่างของบ้าน ต้องพบกับความเงียบอีกครั้ง“คุณท่านทั้งสองไปงานค่ะ เพราะคุณเพชรไม่อยู่” พิมพาตอบออกมาตามตรง“พี่เพชรไม่อยู่” เธอถามย้ำขึ้นมาทันที“ค่ะ”“ไปไหนหรือค่ะ ปกติคนอย่างพี่เพชรไม่เคยขาดงานเลยแม้สักครั้ง” เธอถามขึ้นมาอย่างสงสัยทันที เพราะปกติคนที่บ้างานอย่างพี่ชายเธอ แทบจะเอางานมานอนด้วยทุกครั้ง ทำไมถึงยอมขาดงานได้“เห็นว่ามีธุระที่ต่างจังหวัดค่ะ น่าจะหลายวันเลย คุณท่านเลยต้องเข้าไปดูงานที่บริษัทแทนคุณเพชรก่อนในช่วงนี้” พิมพาตอบออกมาเท่าที่ทราบ“อ่อคะ ป้าพิมพ์มีอะไรก็ไปทำเถอะคะ เดี๋ยวที่เหลือแพทจัดการเองคะ” เธอเอ่ยบอกแม่บ้านคนเก่าแก่ของบ้านกลับไปเธอจึงทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง เพรา
หาทางปรับเปลี่ยนรุ่งเช้าบ้านเรืองพาณิชยากุล“ป้าพิมพ์ วันนี้ไม่ต้องเตรียมมื้อกลางวันน่ะ พอดีจะออกไปข้างนอกกัน คงจะกลับมาเย็น ๆ เลย” นิษฐา พูดขึ้นมาทันที ที่เดินลงมาถึงชั้นล่างของบ้าน“แล้วคุณแพทละคะ” พิมพาถามออกมา เพราะว่าวันนี้ลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านอยู่ที่บ้าน“อ้าว! ยัยแพทอยู่หรอกหรือ” นิษฐาถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะปกติลูกสาวจะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่วันนี้กลับแปลกกว่าทุกที ที่กลับมาค้างที่บ้าน“คะ กลับมาเมื่อคืนช่วงดึก” พิมพาตอบกลับไป“ถ้าอย่างนั้น ก็เตรียมเฉพาะของยัยแพทก็พอน่ะ เดี๋ยวนิษกับพี่พงษ์จะไปทานกันข้างนอกเอาเลย” นิษฐาจึงเอ่ยบอกแม่บ้านกลับไป แล้วเดินออกมาข้างนอกมันที วันนี้พัฒน์พงษ์มีธุระที่จะต้องไปกะทันหันจึงพาภรรยาอย่างนิษฐาไปด้วย เพราะลูกชายคนโตไปต่างจังหวัด พัฒน์พงษ์จึงจัดการงานที่บริษัทแทนไปก่อน และไม่รู้ว่าจะกลับมาวันไหนและหลานชายกลับมาจากโรงเรียนก็ต้องเป็นหน้าที่พิมพาผู้เป็นยายที่ต้องดูแลต่อ โดยมีไม้เอกลูกน้องคนสนิทของเจ้าของบ้าน ทำหน้าที่ขับรถให้แทน ทุกวันนี้พัฒน์พงษ์จะขับรถเองสะส่วนใหญ่ เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนตั้งแต่ที่มีหลานชายเข้ามา“เป็นอะไรของคุณอีกคุณนิษ แ
พี่ข้างบ้านผู้หวังดี Night Club ร่างอรชรของหญิงสาว โยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลงอย่างเมามันส์ ที่มีแสงไฟวาววับสาดส่องลงมา เพราะเธอเป็นจุดเด่นกว่าใครเป็นไหน ๆ“ใครว่ะ หุ่นเด็ดมากเลย” นำทัพ ชายหนุ่มที่มาท่องราตรีในค่ำคืนนี้ ถามคนที่เอานั่งกระดกแก้วเครื่องดื่มอยู่แต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรสักคำตั้งแต่ที่เขาชวนมา“คนไหนของมึงอีกวะ” สิบทิศ ชายหนุ่มวัย 35 ปี ถามขึ้นมาทันที ที่ถูกเพื่อนถาม เพราะไอ้นี่มันเสือผู้หญิงอยู่แล้ว ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนเขามา จะแอบทำแอบเที่ยวคนเดียวตลอด แต่วันนี้กลับมาบังคับเขาให้มาเป็นเพื่อน และเขาก็ไม่ค่อยอยากมาเอาเสียเลย แต่เพราะตวามเป็นเพื่อนกันมาหลายปี เลยต้องยอมมันหน่อย“ชุดแดงนั่นไง แม่งน่าฟัดฉิบหาย” นำทัพใช้สายตาชี้ทางบอกสิบทิศที่นั่งไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่อย่างเซ็ง ๆ“เหี้ยยย...” สิบทิศสบถออกมา เครื่องดื่มสีอำพรางที่กำลังดื่มเข้าไปแทบจะพุ่งออกมา เมื่อรู้ว่าคนที่เพื่อนหมายตานั้นคือใคร“อะไรของมึง หรือว่ามึงเคยล่อมาแล้ว” นำทัพถามกลับไปทันที เมื่อเห็นอาการพิรุธของสิบทิศออก เพราะถามเพื่อความแน่ใจ เพราะพวกเขาจะไม่ใช้ผู้หญิงคนเดียวกันเด็ดขาด ถึงแม้จะถูกตาต้องใจมากขนาดไหน“เ