LOGINม่านรอบเตียงถูกดึงลงมาพร้อม ๆ กับชุดนอนของทั้งคู่ที่ถูกทอดทิ้งลงพื้นที่เย็นจัด มีเพียงเตียงอุ่นเท่านั้นที่ทั้งคู่ต้องการ ลิ้นขององค์ชายค่อย ๆ ไต่เลียไปที่หน้าท้องแบนราบ ฝ่ามือกอบกุมยอดปทุมที่อวบเต็มมือพร้อมบดขยี้เม็ดไตตรงยอดเรียกเสียงครางรับของพระชายา“อ๊าา ท่านพี่ ได้โปรด อ๊าา…”ลิ้นร้ายค่อย ๆ กระดิกรัวถี่ตรงหน้าปากถ้ำสวรรค์ น้ำหวานที่เริ่มไหลออกมาเพราะแรงกระตุ้นทำให้องค์รัชทายาทได้ใจที่จะดันลิ้นเข้าไปจนสุด นิ้วค่อย ๆ บดเม็ดทับทิมสีสดเร่งให้พระชายาอ้อนวอนขอถวายชีวิต“อ๊าา… ท่านพี่ ทนไม่ไหวแล้ว อ๊าา…อีกนิดเพคะ อ๊าา!!”ที่สุดก็ยังเป็นเขาที่รู้ใจนางมากที่สุด ร่างบางเอนแอ่นเกร็งขึ้นมาพร้อมกับเสียงครางที่ทำให้หัวใจสั่นไหว เขาต้องการนางมากที่สุดและไม่ว่าจะกี่วัน กี่ปีก็ยังคงเป็นเช่นนั้นเมื่อเริ่มครอบครองนาง เขาก็เริ่มปลดปล่อยอารมณ์และความตึงเครียดเมื่อช่วงบ่ายออกมาได้จนหมด“อาา…ซินเอ๋อร์ของข้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก”สะโพกสอบหนาเริ่มบดกระแทกเป็นจังหวะ แข่งกับเสียงร้องครางรับของพระชายา เตียงไม้ที่สั่งทำพิเศษทั้งใหญ่ หรูหราสามารถรับน้ำหนักของทั้งคู่ได้ดีและไม่ลั่นเสียงดังเหมือนเตียงเล็กในห้องท
สองเดือนถัดมา “มานี่เร็วฮ่าวเอ๋อร์คนเก่งของป้า ดูสิว่าวันนี้ป้ามีสิ่งใดมามอบให้เจ้า”“พี่หญิงเพียงแค่มาเยี่ยมข้าก็ดีใจแล้ว เหตุใดยังนำของเล่นมากมายมาอีก ลำบากท่านหอบหิ้วมา อีกอย่างตอนนี้ก็กำลังท้องอ่อน ๆ อยู่ ไม่ควรจะ…”“พอได้แล้วอันลี่ซิน เจ้านี่ไม่เปลี่ยนไปเลยจริง ๆ ยังเคร่งครัดกับอะไรพวกนี้อยู่อีก ข้ามิได้ยกมาเองเสียหน่อยอีกอย่างตั้งแต่ฮ่าวเอ๋อร์คลอด ข้าเองก็พึ่งจะได้มีโอกาสได้มาเห็นหน้าเขาก็ตอนนี้เอง ของเล่นพวกนี้ท่านพี่กับข้าเป็นคนเตรียมเพื่อมามอบให้หลาน เจ้าก็แค่รับไว้เฉย ๆ ก็พออย่าบ่นเลยน่า”“ก็ได้เจ้าค่ะ”สาวใช้ค่อย ๆ พยุงเฟิ่งถงหลินเดินมานั่งที่ศาลา โดยมีอาหรูรินน้ำชาให้นาง“วันนี้ห้องเครื่องทราบว่าฮูหยินจะมาที่ตำหนัก เลยเตรียมผลไม้เชื่อมเอาไว้ เดี๋ยวข้าจะไปยกมาให้ท่านนะเจ้าคะ”“อาหรูเจ้านี่ยอดเยี่ยมไปเลย ขอบใจมากนะ”เพียงแค่คิดถึงผลไม้เชื่อม เฟิ่งถงหลินก็น้ำลายสอขึ้นมาในทันทีตามประสาคนที่ตั้งครรภ์อ่อน ๆ“ว่าแต่เหตุใดข้าไม่เห็นพี่ลู่มากับท่านด้วยเล่าเจ้าคะ”“หึหึ”ถงหลินจิบชาและค่อย ๆ วางลงพลางหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะหันไปตอบนางอีกครั้ง“ศิษย์พี่ของเจ้าน่ะอยู่สำนักหมอหลวง กำลัง
สองเดือนถัดมา / ตำหนักบูรพา“เร็ว ๆ เข้ารีบไปเอาน้ำอุ่นมาเพิ่ม”“เจ้าค่ะ”องค์รัชทายาทเร่งเดินทางกลับจากตำหนักกลาง หลังจากเสร็จสิ้นประชุมราชสำนัก ครั้งนี้ราชครูอันขอติดตามมาที่ตำหนักบูรพาด้วย เนื่องจากจางกงกงได้รีบไปแจ้งว่าพระชายาปวดท้องและเตรียมคลอด เมื่อองค์ชายมาถึงก็จะพุ่งตัวเข้าไปยังห้องทำคลอด เพียงแค่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของพระชายาอยู่ในนั้น“กรี๊ด!!”“ซินเอ๋อร์!”“เดี๋ยวก่อนองค์ชาย อย่าพึ่งพระทัยร้อน นางไม่เป็นอะไรหรอก”“แต่ว่าอาจารย์ เสียงของซินเอ๋อร์… ข้าอยากเข้าไปช่วยนาง”“ไม่ได้ เรื่องการคลอดเป็นเรื่องของสตรี หากพระองค์เสด็จเข้าไปเกรงว่านอกจากจะไม่ช่วยแล้ว จะทำให้ลี่ซินไม่มีสมาธิในการเบ่งด้วย พวกท่านนั่งรออยู่กับข้าตรงนี้แหละ”“องค์ชาย…”“ท่านพ่อข้าเป็นห่วงซินเอ๋อร์ นางไม่เคยร้องเสียงดังเช่นนี้มาก่อน ฟังแล้วเหมือนจะทรมานมาก ปัดโธ่เอ๊ย!”อาจารย์หลินฟู่ได้แต่ลอบยิ้มออกมา และยกชาขึ้นมาดื่มอย่างใจเย็น เขาตรวจร่างกายของลี่ซินและจับยามดูแล้ว นางคงจะคลอดในวันนี้เป็นแน่ เพียงแต่ครั้งนี้เป็นครรภ์แรกจึงตื่นเต้นและยังทำตัวไม่ถูก แต่เขามั่นใจว่าจะคลอดได้อย่างปลอดภัย“กรี๊ด!! ท่านพี่!”“
ทั้งสองคำนับให้กันและหันไปคำนับให้ราชครูอันและฮูหยิน โบสีแดงมงคลถูกนำมาให้ทั้งคู่ถือเดินออกจากจวนสกุลอัน เพื่อรับตัวเจ้าสาวเข้าไปทำพิธีในวังหลวง“ส่งตัวเจ้าสาว" ขบวนเจ้าสาวค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากจวนสกุลอันมุ่งหน้าเข้าวังหลวง เพื่อทำพิธีคำนับฟ้าดินที่ท้องพระโรงใหญ่ในวังหลวง “คำนับที่หนึ่ง กราบไหว้ฟ้าดินผู้ถือกำเนิดทุกสรรพชีวิต”“คำนับที่สอง คำนับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด”“คำนับที่สาม คำนับกันและกัน จากนี้สามีภรรยารักใคร่กลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวกันตลอดไป”เมื่อพิธีการทั้งหมดเสร็จสิ้น องค์รัชทายาทก็พาพระชายาไปยังตำหนักบูรพาในทันที เนื่องจากพระชายาตั้งครรภ์และพึ่งเสร็จศึกแดนประจิม งานเลี้ยงจึงจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายห้องส่งตัวเจ้าสาวลี่ซินค่อย ๆ ลูบปลอกหมอนที่นางบรรจงปักด้วยตัวเองเมื่อหลายเดือนก่อน ทั้งผ้าม่าน รวมไปถึงผ้าห่มนางล้วนตัดเย็บและปักด้วยตัวเอง เดิมทีคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้ใช้งานเสีย แล้วหลังจากเกิดเรื่องต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้นำมาใช้ ตอนนี้อายุครรภ์นางก็เข้าเดือนที่หกแล้ว การที่จะเดินไปที่ใดมักจะมีสาวใช้ล้อมหน้าล้อมหลังเฝ้าระวังเป็นอย่างดีจนรู้สึกอึดอัด มีเพี
เมื่อส่งเฟิ่งถงหลินแล้ว ลี่ซินจึงได้กลับเข้ามานั่งตรวจบัญชีต่อในห้องทรงงาน ไม่นานองค์รัชทายาทก็เสด็จกลับมาพร้อมกับบอกแผนการของกองทัพให้นางทราบ“เช่นนั้นก็หายห่วงได้เลย ข้าจะฝากเสบียงส่วนหนึ่งไปพร้อมกับสกุลเฟิ่งเพื่อให้พวกเขาอารักขา ครั้งนี้เสบียงจะได้ทันใช้งานและไม่ต้องรอเวลาส่งตามไป”“หมายความว่าอย่างไร นี่เจ้า…”“วันนี้พี่หญิงเฟิ่งมาพบข้าที่นี่ นางมาขอโทษเรื่องครั้งก่อนที่ใจร้อนมาเข้าเฝ้าทำให้พระองค์ต้องตัดสินใจออกศึกทั้ง ๆ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ นางรู้สึกผิดหม่อมฉันจึงได้ให้สกุลเฟิ่งช่วยเหลือในการศึกครั้งนี้”“นี่พวกเจ้าไม่ได้ทะเลาะกันแล้วหรือ”“เหตุใดข้าจะต้องเสียเวลาไปทะเลาะกับว่าที่พี่สะใภ้ด้วยเล่าเพคะ”“พี่สะใภ้ เจ้าหมายถึงเฉินลู่งั้นหรือ”ลี่ซินรินน้ำชาและยกมาให้องค์รัชทายาทดื่มเพื่อดับกระหาย เมื่อเขายกชาขึ้นมาดื่มเสร็จ ก็ดึงตัวนางมานั่งตักและสูดกลิ่นหอมจากพวงแก้มเข้าไปสุดลมหายใจ“พระชายาของข้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่เจ้ากับเฟิ่งถงหลินร่วมใจกันทำการใหญ่เพื่อแผ่นดิน”“อย่าได้ดูถูกสตรีเช่นพวกหม่อมฉันสิเพคะ อีกอย่างกองทัพสกุลเฟิ่งของนางก็เป็นกำลังสำคัญของต้าซ่ง ใ
“เพราะสาเหตุนี้ พระองค์จึงตัดสินใจมอบหมายการศึกนี้ให้กับองค์ชายห้า ใช่หรือไม่เพคะ”“หลอกเจ้าไม่ได้จริง ๆ สินะ ข้ายอมรับว่าตอนนี้ทำใจให้สงบเพื่อนำทัพออกศึกไม่ได้ อีกอย่างน้องห้าก็ต้องรีบทำผลงานเพื่อให้ขุนนางและแม่ทัพนายกองของดินแดนประจิมเชื่อมั่น เพื่อจะได้ปกครองคนเหล่านั้นได้”“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ ครั้งนี้จะช่วยเหลือพวกพระองค์อย่างเต็มที่ มิให้ขาดตกบกพร่อง”“หากมีสิ่งใดที่จะให้ข้าช่วยเจ้าก็ต้องรีบบอก อย่าได้ทำเหมือนครั้งก่อนที่แอบนำทรัพย์สินส่วนตัวไปขาย ครั้งนี้เป็นศึกของดินแดนประจิม อย่าลืมว่าน้องห้ามีพระชายาเป็นบุตรีคหบดีที่มั่งคั่ง”“เพคะ”อันลี่ซินกลับมาอยู่ที่ตำหนักได้เกือบสิบวันแล้ว ตอนนี้นางเริ่มกลับมาทำหน้าที่ดูแลบัญชี และเริ่มจัดเก็บข้าวของบางอย่างเพื่อเตรียมตัวย้ายเข้าตำหนักบูรพา ซึ่งฝ่าบาทพึ่งประทานให้กับองค์รัชทายาท ช่วงบ่ายเฟิ่งถงหลินเดินมาพร้อมกับของหลายกล่องที่บ่าวไพร่ถือมาให้ เมื่อเห็นนางเดินเข้าประตูหน้าตำหนักมา เสิ่นหมัวมัวจึงรีบเดินมารับหน้าทันที“คุณหนูเฟิ่ง คือว่าวันนี้องค์รัชทายาทเข้าวังไปแล้วเจ้าค่ะ”“ข้ามิได้มาเข้าเฝ้าองค์รัชทายาทของพวกเจ้าสักหน่อย”“เอ่อ







