LOGIN!! ปัง !!
!! ปรึก !!
"เรียบร้อย ขอบคุณค่ะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใด และยกนิ้วโป้งให้กับธีร์ณัฐอย่างชื่นชม จากนั้นไม่นานธีร์ณัฐก็เดินออกไป ข้าวตังและน้อยหน่าทั้งสองได้แต่มองตามธีร์ณัฐที่เดินไปยังร้านและซุ้มขายของต่างๆ พร้อมกับจ่าเข้ม
!! อร้าย...พี่ข้าว เขาหล่อและเท่ห์มาก เล่นเอาซะฉันหยุดมองเขาไม่ได้เลย วันนั้นว่าหล่อแล้ว วันนี้แต่งตัวแบบหล่อตะโกน เท่ห์ไปอีกพี่"
"นั้นนะสิ ฉันนิแทบจะกลั้นกรี๊ดไว้ไม่ไหว ผู้กองบ้าอะไร หน้าคือหล่อมว๊าก" ข้าวตังเอ่ยด้วยสีหน้าสุดฟิน
"หรือว่าเขาจะจีบพี่" น้อยหน่าเอ่ยมา เพราะเซ้นส์ของเธอรู้สึกแบบนั้นจริง
"ถ้าเขาโสดไม่มีใคร พี่ก็ไม่ติดนะ" ข้าวตังเอ่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอจะจีบเขาหรือเขาจะจีบเธอก่อนกันเถอะ
"ดูสิน้ำหอมจากตัวเขากลิ่นยังไม่หลุดออกจากตัวพี่เลย"
"เมื่อกี้ที่เขากอดพี่ข้าวนะ ฉันนิอิจ...พี่สุดๆ เลยพี่ข้าว"
"แค่โอบยะ ...เขาไม่ได้กอดฉัน" ข้าวตังเอ่ยแก้เขิน
"แต่เมื่อวานที่น้ำตกพี่ว่าเขากอดพี่นิ เรื่องจริงเหรอพี่ข้าว ตอนแรกฉันก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกนะ แต่พอเห็นเขาเข้าไปโอบแขนพี่นะ สายตาเขาดูหลงเสน่ห์พี่มาก ฉันนิหยุดมองหน้าพี่ผู้กองหน้าหล่อนั้นไม่ได้เลย หน้าเรียว จมูกโด่งคมสัน นิ้วมือสวยเรียว ผิวขาวราวกับผู้หญิง ฉันว่านะเขาต้องเป็นลูกคนมีฐานะ คุณหนู คุณนายแน่เลยพี่ข้าว" น้อยหน่าพูดมาอย่างไม่หยุดปาก
"ฉันว่านะ ถ้าเขาไม่คิดอะไรกับพี่ จะโอบพี่ถึงสองครั้ง สองวันซ้อนแบบนี้เหรอพี่ข้าว และเมื่อวานพวกเขายังเสียเวลามาส่งเราอีก" ข้าวตังได้แต่คิดตามที่น้อยหน่าพูด ร่างบางที่ได้ยินจากปากของรุ่นน้องคนสนิทนั้น ใบหน้าสวยถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาด้วยท่าทีเขินอาย
"ผู้กองใบหน้าหล่อเหลาทำท่าทีเข้าหาเธอแบบนี้ หัวใจนะไม่ใช่หินที่จะไม่รู้อะไร แบบนี้ก็หวั่นไหวสิคะ" ข้าวตังเอ่ยมาเช่นนั้น กองเชียร์อย่างน้อยหน่าถึงกับฉีกยิ้มกว้างไม่หุบ
"สวยๆ แบบพี่ข้าว รุกเลยนะพี่" แต่นั้นข้าวตังกลับไม่ตอบร่างบางเดินเข้าออกซุ้นร้านโน้นนี้ จนกระทั่งไปหยุดที่ร้านขายลูกชิ้นปิ้งไม้ละ 5 บาท ข้าวตังหยิบไป 10 ไม้
"ทั้งหมด 50 บาทจ้าหนู" ฝ่ามือเรียวหยิบธนบัตรออกมา 2 ใบ ร่างบางได้แต่มองไปยังหน้าแม่ค้า ให้ตายเถอะตังฉันไม่พอ
"น้อยหน่ามีอีก 10 บาทปะ"
"ไม่มีอะพี่ข้าว ฉันไม่เหลือตังติดตัวสักบาท" แต่ขณะที่ทั้งสองสาวยืนมองหน้ากันอยู่นั้น ฝ่ามือหนากับยื่นแบงค์ธนบัตรใบสีแดงให้กับแม่ค้า
"ผู้กองธีร์จะรับกี่ไม้คะ หยิบได้เลยนะ" เสียงของแม่ค้าเอ่ยถามเขา ทำให้สองสาวถึงกับมองผู้มาใหม่
"ผมจ่ายให้เธอครับ" ด้านข้าวตังที่เห็นใบหน้าของธีร์ณัฐอีกครั้ง ร่างบางถึงกับชะงัก เขาจ่ายค่าลูกชิ้นให้ฉันงั้นเหรอ ให้ตายเถอะตังไม่พอ น่าอายชะมัด ข้าวตังรู้สึกเขินอายธีร์ณัฐถึงกับทำหน้าไม่ถูก ใบหน้าสวยหลบสายตาคมเข้มอย่างไม่กล้าสบตา ให้ตายเถอะ ฉันในตอนนี้ยิ่งกว่าขอทาน น่าอายชะมัด ข้าวตังได้แต่คิด
แต่นี่ผู้กองหน้าหล่ออย่างธีร์ณัฐกับยื่นถุงลูกชิ้นให้กับเธอ
"...ของเธอไม่ใช่เหรอ รับไปสิ" ข้าวตังสบตาเข้ากับคนตรงหน้า และชั่งใจอยู่สักพัก
"ข้าวตังรับไปสิ ผู้กองอุตส่าห์ใจดีซื้อให้" เมื่อจ่าเข้มเอ่ยมาเช่นนั้น คนตัวเล็กก็ไม่กล้าที่จะเสียมารยาทปฏิเสธเขา
"ขอบคุณค่ะ ถ้าเจอผู้กองอีกครั้ง ฉันจะคืนคุณ" ข้าวตังเอ่ยใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยท่าทีเขินอาย เธอและน้อยหน่าพูดถึงเขาไม่ทันจะขาดคำ ก็เจอกันอีกซะแล้ว
"ถือว่าฉันซื้อให้เด็ก เด็กที่เล่นยิงตุ๊กตาไม่เหลือตังไว้กินลูกชิ้น" ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับหลุดยิ้มให้กับเธอ ด้านข้าวตังที่ถูกร่างสูงเอ่ยมาเช่นนั้น เธอเองก็ไม่คิดจะโต้ตอบ ลึกๆ เธอเองก็รู้สึกดีที่เจอเขาและเขายังไม่กลับ
"ดึกแล้วนะข้าวตัง ไม่กลับบ้านคุณย่าเหรอ เที่ยวดึกแบบนี้จ่าจะฟ้องท่านแล้วนะ" ด้านข้าวตังที่ถูกจ่าเข้มว่ามาเช่นนั้น ถึงกับมองค้อนจ่าเข้มทันที
"ฉันจะกลับแล้ว จ่าเข้มอะเลิกฟ้องพ่อกับแม่ฉันสักที ถ้าไม่เลิก ฉันจะฟ้องอาพี ว่าจ่าเข้มชอบอู้งานเวลาออกตรวจ" ด้านจ่าเข้มที่โดนเด็กแสบอย่างข้าวตังขู่มาเช่นนั้น ถึงกับหน้าเสีย อาพีที่ข้าวตังเอ่ยถึงคือผู้กำกับสภ.ที่จ่าเข้มอยู่ในสังกัดนั้นเอง
"อย่าเชียวนะ..."
"ถ้าไม่อยากให้เรื่องถึงหูอาพี ก็อย่าพูดเรื่องฉันกับพ่ออีก เค นะคะจ่าเข้มคนใจดี" ข้าวตังเอ่ยอย่างประชด
"ไอ้ข้าว"
"ตกลงไหมคะจ่าเข้ม" ข้าวตังเอ่ยด้วยสีหน้าที่เหนือกว่าอย่างเห็นๆ
"นี้ดึกแล้วจะกลับกันยังไง" ธีร์ณัฐที่เห็นว่านี้เริ่มดึกแล้วแต่ข้าวตังยังเดินเที่ยวในงาน ปล่อยเด็กกลับแบบนี้คงจะไม่ดีแน่
"ฉันกับน้อยหน่าขับมอไซต์มาค่ะ" ข้าวตังหันไปตอบธีร์ณัฐด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งต่างกับจ่าเข้มอย่างเห็นๆ
"แต่พี่ข้าวขากลับ น้ำมันรถฉันน่าจะไม่ถึงบ้านเรานะพี่ อีกอย่างตังก็ไม่เหลือแล้ว" น้อยหน่าเอ่ยออกมา เธอพึ่งจะนึกได้ขาขับมาลืมเติมน้ำมัน
!! ห๊ะ...!! ข้าวตังเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วเธอจะกลับบ้านยังไงละทีนี้
"นี้อย่าบอกนะ ว่าน้ำมันหมด แล้วทำไมมาบอกเอาป่านนี้เนี้ย" ข้าวตังดุรุ่นน้องคนสนิท
"ก็ฉันลืมเตือนพี่ข้าวเหลือตังไว้เติมน้ำมันรถด้วยนี้น๊า แต่พี่ข้าวเล่นยิงปืนจนตังไม่เหลือ" น้อยหน่าเอ่ยพร้อมกับมือเกาหัว
"เหอะ...นี้ความผิดฉันงั้นเหรอ" ข้าวตังเอ่ยมา
"จ่าเข้มขา ข้าวขอยืมตังหน่อยก่อนได้ไหม พรุ่งนี้จะคืน" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ให้จ่าเข้ม
"เหอะ...ทีอย่างงี้พูดเพราะ เสียงนี่นุ่มเชียว"
"นะคะจ่าเข้ม สัญญาจะรีบคืนเลย" ด้านจ่าเข้มที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับข้าวตังมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ได้แต่ยืนกอดอกเก๊กหล่อให้เด็กแสบ
ด้านธีร์ณัฐที่เห็นข้าวตังอ้อนจ่าเข้มเช่นนั้น ฝ่ามือหนาถึงกับหยิบธนบัตรสีแดงขึ้นมายื่นให้กับข้าวตัง
"ผู้กองให้ฉันยืมเหรอคะ" ใบหน้าสวยถึงกับเผยยิ้มให้กับเขา ธีร์ณัฐได้แต่พยักหน้าเป็นคำตอบให้เด็กสาว
"ขอบคุณนะคะ ไว้จะรีบคืน"
"พวกคุณรีบไปเติมน้ำมันเถอะ เดี๋ยวผมจะให้จ่าเข้มขับตามหลัง ดึกๆ ดื่นๆ เป็นผู้หญิงกลับกันเองมันอันตราย" เสียงเข้มเอ่ยกับคนตัวเล็ก
ด้านข้าวตังผู้ชายใบหน้าหล่อเหลาจะไปส่งที่บ้านแบบนี้ฉันจะปฏิเสธได้ไง ดีซะอีกจะดีมากถ้าเขาจะมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้กับฉัน ข้าวตังได้แต่คิด
หลายนาทีต่อมา
ด้านข้าวตังหลังจากน้อยหน่าไปเติมน้ำมันรถน้องเวสป้าคันสีเขียวคู่ใจแล้วนั้น จ่าเข้มและผู้กองธีร์ก็ขับรถตามมาส่งฉันและยัยน้อยหน่า ขณะที่น้อยหน่าขับรถมอไซค์นำหน้ารถตำรวจมานั้น
"พี่ข้าวพี่เชื่อฉันยังว่าผู้กองธีร์ เขาต้องชอบพี่แน่เลย ไม่งั้นเขาไม่ตามมาส่งเป็นห่วงพี่แบบนี้หรอก" ด้านคนถูกถามอย่างข้าวตัง ถึงกับยิ้มไม่หุบ ที่ตอนนี้เธอเองก็คิดเช่นนั้น
"พี่ข้าว นี่พี่ฟังฉันอยู่ไหม..."
"อืม"
"อืม พี่นิยังไง พี่คิดเหมือนฉันปะ" น้อยหน่ายังคงถามต่อ ใช่นี้ถือว่าเป็นครั้งที่สองที่เขาตามมาส่งฉัน ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็ได้แค่เผื่อใจ จนกระทั่งรถมาจอดถึงที่หน้าบ้านของคุณย่า
"ขอบคุณผู้กอง และจ่าเข้มนะคะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มให้กับธีร์ณัฐ จากนั้นร่างบางก็เดินเข้าบ้านของเธอ ธีร์ณัฐได้แต่มองตามหลังของคนตัวเล็กที่ปิดประตูเหล็กหน้าบ้าน
"ผู้กองธีร์ กู๊ดไนท์ นะคะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันสดใสให้กับเขา
ด้านธีร์ณัฐที่ข้าวตังเอ่ยมาเช่นนั้น ผู้กองใบหน้าหล่อเหลาแสนจะเย็นชา ถึงกับหลุดยิ้มออกมาราวกับไม่รู้ตัว ด้านจ่าเข้มที่นั่งรออยู่ในรถนั้น ที่เห็นท่าทีของธีร์ณัฐนั้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดไม่อยากจะคิด นี้ผู้กองธีร์คิดอะไรกับเด็กแสบอย่างไอ้ข้าวงั้นเหรอ จ่าเข้มได้แต่คิด
“ไอศครีมด้วยงับ ปะป๊า” ด้านคนน้องที่คุณพ่อสัญญาไว้กับตนเมื่อก่อนหน้านั้นกับไม่ยอมเช่นกัน“เอาสิยอมกันได้ที่ไหน” ข้าวตังหันมองทั้งสามหนุ่ม เมื่อเจอเจ้าสองแสบทวงสัญญาแบบนี้ดูสิว่าปะป๊าธีร์ณัฐของพวกเขาจะทำยังไง คนพี่จะกินเคเอฟซี คนน้องจะกินไอศครีม หม่ามี้คนสวยถึงกับส่ายหัวให้กับเจ้าตัวแสบ และก็เป็นเช่นนี้แทบจะทุกวันที่หลังเลิกเรียนลูกๆ ของเธอจะงอแงทานของอร่อย“หม่ามี้ว่าไงคับ” ธีร์ณัฐหันมาถามความเห็นภรรยา เพราะเย็นนี้ที่คฤหาสน์มีงานเลี้ยงเล็กๆ ปาร์ตี้วันเกิดครบ 63 ปีของคุณปู่ ธีร์ณัฐเกรงว่าตนจะพาลูกๆ และภรรยานั้นถึงบ้านช้า“ข้าวได้หมดแล้วแต่พี่ธีร์เลยค่ะ” ด้านธีร์ณัฐเมื่อภรรยาเอ่ยมาเช่นนั่น คนกลัวผิดสัญญาต่อลูกๆ ถึงกับยอมใจอ่อนแวะร้านโปรดของลูกๆ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงสองหนุ่มน้อยก็ทานพร้อมกับยื่นพุงป่องๆ ให้กับหม่ามี้ดู“พี่คีตะ พี่เควิน ทานเยอะแบบนี้หม่ามี้จะอุ้มไม่ไหวแล้วนะคะ” ข้าวตังเอ่ยขณะที่ลูกๆ นั้นจะให้เธออุ้มโดยเฉพาะแฝดคนเล็ก ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่เห็นหน้าอ้อนๆของลูกก็ยอมใจอ่อนอุ้มอยู่ดี ส่วนอีก คนพอเห็นหม่ามี้อุ้มน้องก็ไม่น้อยหน้ายกแขนให้ปะป๊าอุ้มเช่นกัน แต่ขณะที่ข้าวตังและธีร์ณัฐอุ้
~ 1 เดือนต่อมา ~ ด้านข้าวตังและวันนี้ก็มาถึงวันที่เจ้าสองแสบของฉันไปเนอร์สเซอรี่วันแรกเจ้าสองแสบพออยู่ในชุดนักเรียนยูนิฟอร์มตัวน้อยแล้วคือน่ารักสุดๆ เล่นเอาซะก่อนออกจากบ้านสองหนุ่มน้อยของฉันโดนคุณปู่คุณย่าฟัดแก้มป่องๆ ไปกันหลายที ถึงสองหนุ่มฉันจะรับปากคุณปู่คุณย่าว่าจะไม่งอแงร้องไห้เป็นเด็กดีแต่นั้นฉันก็ยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่หรอกให้ถึงเนอร์สเซอรี่ก่อนเป็นอันรู้เรื่อง ส่วนค่าเทอมค่าใช้จ่ายของเด็กๆ ก็เป็นคุณปู่คุณย่าดูแลให้กับหลานๆ ทุกคนร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสวมกางเกงขาสามส่วนสบายๆ วันนี้พี่ธีร์และฉันเราลางานเพื่อมาส่งเด็กๆ เมื่อพี่ธีร์พาพวกเรามาถึงที่หมายแล้วนั้น ข้าวตังได้แต่มองสองหนุ่มน้อยของเธอด้วยสีหน้าลุ้นสุดๆ“พี่คีตะ พี่เควิน สัญญากับปะป๊าหม่ามี้ก่อนนะครับว่าจะไม่งอแงและไม่ร้องโยเย โอเคไหมคะลูก” เสียงหวานเอ่ยกับเด็กๆ ขณะที่สำรวจเจ้าสองแสบที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของเนอร์สเซอรี่นานาชาติ ที่ยิ่งมองสองหนุ่มน้อยของฉัน ยิ่งหล่อเหลาเอาการเหมือน อปป้าเกาหลี“มะร้องงับหม่ามี้ คีจะมะร้อง น้องก็จะมะร้อง” เด็กน้อยคนพี่เอ่ยกับมารดาเป็นคำสัญญาว่าตนจะไม่ร้องไห้“ถ้าน้องร้องคีจะปลอบน้อง
1 ชั่วโมงต่อมาด้านข้างตังเป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดก่อนที่จะออกจากบ้านพาเจ้าสองแสบไปดูโรงเรียนก็ถูกสามีคนหื่นจัดจับกินไปหนึ่งรอบ ทำเอาเช้านี้คุณแม่ลูกสองถึงกับงอนสามี ขณะที่ธีร์ณัฐขับรถพาภรรยาและเด็กๆ ไปยังเนอร์สเซอรี่ที่คุณย่าปาสิตาดูไว้นั่น“พี่ธีร์รู้ตัวไหมคะ ว่าตัวเองนะสาย ข้าวนัดกับคุณครูไว้เก้าโมงครึ่ง นี้เราเรทมาหลายนาทีแล้วนะคะ” ข้าวตังที่นั่งหน้าข้างคนขับถึงกับต่อว่าสามี แต่นั้นคนถูกบ่นกับมีสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนๆ ขับรถผิวปากฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดี และมีเสียงหัวเราะของสองหนุ่มน้อยที่ชอบให้ปะป๊านั่นฮัมเพลงให้ฟัง“คริ คริ” เสียงของเจ้าสองแสบ“ไม่สายหรอกครับ คุณแม่ท่านโทรเลื่อนนัดให้แล้วอีกอย่างเด็กๆ ไม่ได้เข้าเรียนวันนี้ซะหน่อย หม่ามี้อย่าดุปะป๊าเลยนะครับ เจ้าดีเทลก็คงจะยังไม่ถึง” ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับหันมายกยิ้มให้กับภรรยา จากนั้นก็หันไปหาคนร่วม“ใช่ไหมครับ คีตะ เควิน วันนี้เด็กๆ กำลังจะไปไหนกันครับ”“ไปสวนสัตว์ครับ ปะป๊า”“สวนสัตว์” เด็กๆ ตอบคุณพ่อคุณแม่แบบนั้นทำเอา ข้าวตังและธีร์ณัฐถึงกับมองหน้ากัน“ยุนย่า บอกว่ามีสวนสัตว์ และสนามเด็กเล่นด้วยค
~ 3 ปี ต่อมา ~@คฤหาสน์หลังใหญ่ครอบครัวของธีร์ณัฐ ด้านข้าวตังหลังจากที่ฉันแต่งงานกับธีร์ณัฐจากนั้นเพียงหนึ่งเดือนฉันก็เข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ครอบครัวของธีร์ณัฐ เนื่องจากผู้ใหญ่อยากให้ทั้งสองมาใช้ชีวิตกันอยู่ที่นี่ส่วนพี่ดีเทลและพี่สายธารตอนนี้ออกไปมีครอบครัว จะกลับมารวมตัวหรือพาเด็กๆ มาทานข้าวที่บ้านในทุกๆ เดือน นั้นคือความต้องการของคนในครอบครัวที่สามพี่น้องตกลงกัน ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ครอบครัวพี่ธีร์รักและเอ็นดูฉัน หลังจากที่แต่งงานไปไม่กี่เดือนฉันก็ได้ให้กำเนิดลูกชายสองแฝดของฉัน สมใจปะป๊า ปู่ย่าตายาย คุณป้า คุณอา พวกเขานัก เจ้าแฝดของฉันที่ตอนนี้อายุได้ 2 ขวบกว่า แสบและซนสุดๆ คนแรกชื่อพี่ คีตะ คนที่สอง พี่เควิน ชื่อนี้พี่ธีร์ตั้งให้ ตั้งแต่เราช่วยกันทำเขาแล้วแหละ ส่วนใบหน้าก็ยับยู่ยี่ถอดแบบจากพี่ธีร์และฉันไปคนละครึ่งแต่ถ้ามองผิวเผินจะเอนมาฝั่งของฉันมากกว่าคุณพ่อของพวกเขาด้านข้าวตังหลังจากที่ฉันลงไปคุณกับคุณแม่ของพี่ธีร์เรื่อง โรงเรียนของลูกชาย และนี่จะเก้าโมงแล้วที่ก่อนลงไปหาคุณแม่ฉันสั่งพี่ธีร์นักหนาให้อาบน้ำให้สองแสบ แต่นี้ดูสิกลับมาถึงบนห้องทั้งสามหนุ่มของฉันก็ยังอยู่ในสภาพเ
~ 3 เดือนต่อมา ~ @CcT Hotel ร่างบางในชุดราตรีเจ้าสาวทรงยาวมินิมอลสีขาวผมยาวสีน้ำตาลเข้มถูกม้วนเป็นทรงเรียบหรู วันนี้เป็นวันสำคัญที่ฉันและผู้กองธีร์ณัฐเราแต่งงานกัน งานแต่งของเราถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูระดับ 6 ดาวแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดบ้านเกิดของฉัน ขณะที่ข้าวตังอยู่ในห้องแต่งตัวที่พร้อมจะออกไปต้อนรับแขกที่มาในงานแล้วนั้น ดวงตากลมเล็กเหลือบมองใบหน้าอันหล่อเหลาเจ้าบ่าวของเธอ ธีร์ณัฐอยู่ในชุดสีขาวที่มีดาวดวงประทับที่บ่าไหล่ในมือถือกระบี่ฉันมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข เมื่อถึงเวลาไปต้อนรับแขกที่มาในงานแล้วมือหนาจับเข้าที่มือของแฟนสาว"วันนี้ข้าวตังสวยมากเลยนะครับ สวยมากซะพี่ไม่อยากให้เราเดินออกไปเลย" ธีร์ณัฐเอ่ยกับภรรยา ความรักของฉันกับพี่ผู้กองธีร์เป็นไงละหลังจากที่เรากลับมาจากปารีสไม่ถึงสองวัน ผู้กองธีร์เขาก็พาฉันไปจดทะเบียนสมรสเหตุผลเขากลัวฉันจะหนีไปอีกดูเอาเถอะอะไรจะใจร้อนขนาดนั้นสามีของฉัน"ถ้าไม่เดินออกไป แล้วจะเสร็จสิ้นพิธีเหรอคะ พี่ธีร์ก็พูดไปได้" ฉันว่าให้กับเจ้าบ่าวของฉัน นอกจากเป็นงานมงคลสมรสเราแล้วปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของเราซะด้วยสิ คุณพ่อสุดหล่ออย่างพี่
"พี่ธีร์จะดุ จะด่าว่าข้าวเหรอ ใครกันละที่เป็นต้นเหตุให้ฉันมาที่นี่ละ" ข้าวตังเอ่ยเสียงดุขึ้นมาบ้าง ทำเอาผู้กองหนุ่มถึงกับชะงัก จากที่จะดุเมียกับโดนเมียดุมาซะงั้น จากสีหน้าเข้มขรึมถึงกับยอมอ่อนลง"ถ้าข้าวโกรธพี่เรื่องงาน พี่ผิดพี่ขอโทษ ต่อจากนี้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องงานเรื่องส่วนตัวพี่จะไม่ปิดบังเราอีก ให้อภัยด้วยนะครับ" เขาเอ่ยเสียงเรียบ"อย่าหนีพี่ไปไหนอีกเลย เมียหนีมาไกลขนาดนี้พี่ใจจะขาดตาย""สม..." ข้าวตังธีร์ณัฐเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิดต่อเธอร่างบางเอ่ยด้วยสีหน้าสะใจ ไอ้โกรธเธอก็โกรธอยู่หรอกแต่เห็นหน้าหล่อๆ ของว่าที่คุณพ่อแล้วถึงกับโกรธไม่ลง"นะครับ ข้าวหายโกรธพี่นะครับเมีย ดูสิพี่สั่งแต่ของโปรดเรามาทั้งนั้นเลย" ธีร์ณัฐที่เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเมียถึงกับทำหน้าไม่ถูก เขาเอ่ยอย่างเอาใจ ของโปรดฉันงั้นเหรอแต่ทำไมตอนนี้ฉันกับไม่อยากจะทานอะไรเลย สเต็กเนื้อที่แค่ได้กลิ่นน้ำครีมสลัดฉันก็ทนไม่ไหวเหมือนมีอะไรวิ่งมาจุกที่ลำคอ ไม่ไหวแล้วมันไม่ไหวจริงๆ ผุดๆ ลอยขึ้นมาเตะจมูกข้าวตังถึงกับหน้าซีดพะอืดพะอมในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว ร่างบางลุกวิ่งออกไปอ้วกที่ห้องน้ำด้านธีร์ณัฐที่เห็นท่าทีของข้าวตังเช่นน







