Mag-log in!! ปัง !!
!! ปรึก !!
"เรียบร้อย ขอบคุณค่ะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใด และยกนิ้วโป้งให้กับธีร์ณัฐอย่างชื่นชม จากนั้นไม่นานธีร์ณัฐก็เดินออกไป ข้าวตังและน้อยหน่าทั้งสองได้แต่มองตามธีร์ณัฐที่เดินไปยังร้านและซุ้มขายของต่างๆ พร้อมกับจ่าเข้ม
!! อร้าย...พี่ข้าว เขาหล่อและเท่ห์มาก เล่นเอาซะฉันหยุดมองเขาไม่ได้เลย วันนั้นว่าหล่อแล้ว วันนี้แต่งตัวแบบหล่อตะโกน เท่ห์ไปอีกพี่"
"นั้นนะสิ ฉันนิแทบจะกลั้นกรี๊ดไว้ไม่ไหว ผู้กองบ้าอะไร หน้าคือหล่อมว๊าก" ข้าวตังเอ่ยด้วยสีหน้าสุดฟิน
"หรือว่าเขาจะจีบพี่" น้อยหน่าเอ่ยมา เพราะเซ้นส์ของเธอรู้สึกแบบนั้นจริง
"ถ้าเขาโสดไม่มีใคร พี่ก็ไม่ติดนะ" ข้าวตังเอ่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอจะจีบเขาหรือเขาจะจีบเธอก่อนกันเถอะ
"ดูสิน้ำหอมจากตัวเขากลิ่นยังไม่หลุดออกจากตัวพี่เลย"
"เมื่อกี้ที่เขากอดพี่ข้าวนะ ฉันนิอิจ...พี่สุดๆ เลยพี่ข้าว"
"แค่โอบยะ ...เขาไม่ได้กอดฉัน" ข้าวตังเอ่ยแก้เขิน
"แต่เมื่อวานที่น้ำตกพี่ว่าเขากอดพี่นิ เรื่องจริงเหรอพี่ข้าว ตอนแรกฉันก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกนะ แต่พอเห็นเขาเข้าไปโอบแขนพี่นะ สายตาเขาดูหลงเสน่ห์พี่มาก ฉันนิหยุดมองหน้าพี่ผู้กองหน้าหล่อนั้นไม่ได้เลย หน้าเรียว จมูกโด่งคมสัน นิ้วมือสวยเรียว ผิวขาวราวกับผู้หญิง ฉันว่านะเขาต้องเป็นลูกคนมีฐานะ คุณหนู คุณนายแน่เลยพี่ข้าว" น้อยหน่าพูดมาอย่างไม่หยุดปาก
"ฉันว่านะ ถ้าเขาไม่คิดอะไรกับพี่ จะโอบพี่ถึงสองครั้ง สองวันซ้อนแบบนี้เหรอพี่ข้าว และเมื่อวานพวกเขายังเสียเวลามาส่งเราอีก" ข้าวตังได้แต่คิดตามที่น้อยหน่าพูด ร่างบางที่ได้ยินจากปากของรุ่นน้องคนสนิทนั้น ใบหน้าสวยถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาด้วยท่าทีเขินอาย
"ผู้กองใบหน้าหล่อเหลาทำท่าทีเข้าหาเธอแบบนี้ หัวใจนะไม่ใช่หินที่จะไม่รู้อะไร แบบนี้ก็หวั่นไหวสิคะ" ข้าวตังเอ่ยมาเช่นนั้น กองเชียร์อย่างน้อยหน่าถึงกับฉีกยิ้มกว้างไม่หุบ
"สวยๆ แบบพี่ข้าว รุกเลยนะพี่" แต่นั้นข้าวตังกลับไม่ตอบร่างบางเดินเข้าออกซุ้นร้านโน้นนี้ จนกระทั่งไปหยุดที่ร้านขายลูกชิ้นปิ้งไม้ละ 5 บาท ข้าวตังหยิบไป 10 ไม้
"ทั้งหมด 50 บาทจ้าหนู" ฝ่ามือเรียวหยิบธนบัตรออกมา 2 ใบ ร่างบางได้แต่มองไปยังหน้าแม่ค้า ให้ตายเถอะตังฉันไม่พอ
"น้อยหน่ามีอีก 10 บาทปะ"
"ไม่มีอะพี่ข้าว ฉันไม่เหลือตังติดตัวสักบาท" แต่ขณะที่ทั้งสองสาวยืนมองหน้ากันอยู่นั้น ฝ่ามือหนากับยื่นแบงค์ธนบัตรใบสีแดงให้กับแม่ค้า
"ผู้กองธีร์จะรับกี่ไม้คะ หยิบได้เลยนะ" เสียงของแม่ค้าเอ่ยถามเขา ทำให้สองสาวถึงกับมองผู้มาใหม่
"ผมจ่ายให้เธอครับ" ด้านข้าวตังที่เห็นใบหน้าของธีร์ณัฐอีกครั้ง ร่างบางถึงกับชะงัก เขาจ่ายค่าลูกชิ้นให้ฉันงั้นเหรอ ให้ตายเถอะตังไม่พอ น่าอายชะมัด ข้าวตังรู้สึกเขินอายธีร์ณัฐถึงกับทำหน้าไม่ถูก ใบหน้าสวยหลบสายตาคมเข้มอย่างไม่กล้าสบตา ให้ตายเถอะ ฉันในตอนนี้ยิ่งกว่าขอทาน น่าอายชะมัด ข้าวตังได้แต่คิด
แต่นี่ผู้กองหน้าหล่ออย่างธีร์ณัฐกับยื่นถุงลูกชิ้นให้กับเธอ
"...ของเธอไม่ใช่เหรอ รับไปสิ" ข้าวตังสบตาเข้ากับคนตรงหน้า และชั่งใจอยู่สักพัก
"ข้าวตังรับไปสิ ผู้กองอุตส่าห์ใจดีซื้อให้" เมื่อจ่าเข้มเอ่ยมาเช่นนั้น คนตัวเล็กก็ไม่กล้าที่จะเสียมารยาทปฏิเสธเขา
"ขอบคุณค่ะ ถ้าเจอผู้กองอีกครั้ง ฉันจะคืนคุณ" ข้าวตังเอ่ยใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยท่าทีเขินอาย เธอและน้อยหน่าพูดถึงเขาไม่ทันจะขาดคำ ก็เจอกันอีกซะแล้ว
"ถือว่าฉันซื้อให้เด็ก เด็กที่เล่นยิงตุ๊กตาไม่เหลือตังไว้กินลูกชิ้น" ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับหลุดยิ้มให้กับเธอ ด้านข้าวตังที่ถูกร่างสูงเอ่ยมาเช่นนั้น เธอเองก็ไม่คิดจะโต้ตอบ ลึกๆ เธอเองก็รู้สึกดีที่เจอเขาและเขายังไม่กลับ
"ดึกแล้วนะข้าวตัง ไม่กลับบ้านคุณย่าเหรอ เที่ยวดึกแบบนี้จ่าจะฟ้องท่านแล้วนะ" ด้านข้าวตังที่ถูกจ่าเข้มว่ามาเช่นนั้น ถึงกับมองค้อนจ่าเข้มทันที
"ฉันจะกลับแล้ว จ่าเข้มอะเลิกฟ้องพ่อกับแม่ฉันสักที ถ้าไม่เลิก ฉันจะฟ้องอาพี ว่าจ่าเข้มชอบอู้งานเวลาออกตรวจ" ด้านจ่าเข้มที่โดนเด็กแสบอย่างข้าวตังขู่มาเช่นนั้น ถึงกับหน้าเสีย อาพีที่ข้าวตังเอ่ยถึงคือผู้กำกับสภ.ที่จ่าเข้มอยู่ในสังกัดนั้นเอง
"อย่าเชียวนะ..."
"ถ้าไม่อยากให้เรื่องถึงหูอาพี ก็อย่าพูดเรื่องฉันกับพ่ออีก เค นะคะจ่าเข้มคนใจดี" ข้าวตังเอ่ยอย่างประชด
"ไอ้ข้าว"
"ตกลงไหมคะจ่าเข้ม" ข้าวตังเอ่ยด้วยสีหน้าที่เหนือกว่าอย่างเห็นๆ
"นี้ดึกแล้วจะกลับกันยังไง" ธีร์ณัฐที่เห็นว่านี้เริ่มดึกแล้วแต่ข้าวตังยังเดินเที่ยวในงาน ปล่อยเด็กกลับแบบนี้คงจะไม่ดีแน่
"ฉันกับน้อยหน่าขับมอไซต์มาค่ะ" ข้าวตังหันไปตอบธีร์ณัฐด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งต่างกับจ่าเข้มอย่างเห็นๆ
"แต่พี่ข้าวขากลับ น้ำมันรถฉันน่าจะไม่ถึงบ้านเรานะพี่ อีกอย่างตังก็ไม่เหลือแล้ว" น้อยหน่าเอ่ยออกมา เธอพึ่งจะนึกได้ขาขับมาลืมเติมน้ำมัน
!! ห๊ะ...!! ข้าวตังเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วเธอจะกลับบ้านยังไงละทีนี้
"นี้อย่าบอกนะ ว่าน้ำมันหมด แล้วทำไมมาบอกเอาป่านนี้เนี้ย" ข้าวตังดุรุ่นน้องคนสนิท
"ก็ฉันลืมเตือนพี่ข้าวเหลือตังไว้เติมน้ำมันรถด้วยนี้น๊า แต่พี่ข้าวเล่นยิงปืนจนตังไม่เหลือ" น้อยหน่าเอ่ยพร้อมกับมือเกาหัว
"เหอะ...นี้ความผิดฉันงั้นเหรอ" ข้าวตังเอ่ยมา
"จ่าเข้มขา ข้าวขอยืมตังหน่อยก่อนได้ไหม พรุ่งนี้จะคืน" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ให้จ่าเข้ม
"เหอะ...ทีอย่างงี้พูดเพราะ เสียงนี่นุ่มเชียว"
"นะคะจ่าเข้ม สัญญาจะรีบคืนเลย" ด้านจ่าเข้มที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับข้าวตังมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ได้แต่ยืนกอดอกเก๊กหล่อให้เด็กแสบ
ด้านธีร์ณัฐที่เห็นข้าวตังอ้อนจ่าเข้มเช่นนั้น ฝ่ามือหนาถึงกับหยิบธนบัตรสีแดงขึ้นมายื่นให้กับข้าวตัง
"ผู้กองให้ฉันยืมเหรอคะ" ใบหน้าสวยถึงกับเผยยิ้มให้กับเขา ธีร์ณัฐได้แต่พยักหน้าเป็นคำตอบให้เด็กสาว
"ขอบคุณนะคะ ไว้จะรีบคืน"
"พวกคุณรีบไปเติมน้ำมันเถอะ เดี๋ยวผมจะให้จ่าเข้มขับตามหลัง ดึกๆ ดื่นๆ เป็นผู้หญิงกลับกันเองมันอันตราย" เสียงเข้มเอ่ยกับคนตัวเล็ก
ด้านข้าวตังผู้ชายใบหน้าหล่อเหลาจะไปส่งที่บ้านแบบนี้ฉันจะปฏิเสธได้ไง ดีซะอีกจะดีมากถ้าเขาจะมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้กับฉัน ข้าวตังได้แต่คิด
หลายนาทีต่อมา
ด้านข้าวตังหลังจากน้อยหน่าไปเติมน้ำมันรถน้องเวสป้าคันสีเขียวคู่ใจแล้วนั้น จ่าเข้มและผู้กองธีร์ก็ขับรถตามมาส่งฉันและยัยน้อยหน่า ขณะที่น้อยหน่าขับรถมอไซค์นำหน้ารถตำรวจมานั้น
"พี่ข้าวพี่เชื่อฉันยังว่าผู้กองธีร์ เขาต้องชอบพี่แน่เลย ไม่งั้นเขาไม่ตามมาส่งเป็นห่วงพี่แบบนี้หรอก" ด้านคนถูกถามอย่างข้าวตัง ถึงกับยิ้มไม่หุบ ที่ตอนนี้เธอเองก็คิดเช่นนั้น
"พี่ข้าว นี่พี่ฟังฉันอยู่ไหม..."
"อืม"
"อืม พี่นิยังไง พี่คิดเหมือนฉันปะ" น้อยหน่ายังคงถามต่อ ใช่นี้ถือว่าเป็นครั้งที่สองที่เขาตามมาส่งฉัน ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็ได้แค่เผื่อใจ จนกระทั่งรถมาจอดถึงที่หน้าบ้านของคุณย่า
"ขอบคุณผู้กอง และจ่าเข้มนะคะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มให้กับธีร์ณัฐ จากนั้นร่างบางก็เดินเข้าบ้านของเธอ ธีร์ณัฐได้แต่มองตามหลังของคนตัวเล็กที่ปิดประตูเหล็กหน้าบ้าน
"ผู้กองธีร์ กู๊ดไนท์ นะคะ" ข้าวตังเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันสดใสให้กับเขา
ด้านธีร์ณัฐที่ข้าวตังเอ่ยมาเช่นนั้น ผู้กองใบหน้าหล่อเหลาแสนจะเย็นชา ถึงกับหลุดยิ้มออกมาราวกับไม่รู้ตัว ด้านจ่าเข้มที่นั่งรออยู่ในรถนั้น ที่เห็นท่าทีของธีร์ณัฐนั้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดไม่อยากจะคิด นี้ผู้กองธีร์คิดอะไรกับเด็กแสบอย่างไอ้ข้าวงั้นเหรอ จ่าเข้มได้แต่คิด
ข้าวตังที่ถูกคนตัวโตตวัดเรียวลิ้นร้อนขึ้นๆ ลงและวนเล่นขบเข้าที่อวบอวบอิ่มของเธอนานนับหลายนาที ปากบางจิ้มลิ้มอันหน้าจูบถึงกับทนไม่ไหว เสียงเล็กหลุดเสียงออกมาด้วยความเสียวปรนทรมาน ให้ตายเถอะ ฉันไม่คิดว่าผู้กองธีร์ที่แสนเย็นชา เขาจะกล้าทำเช่นนี้กับฉัน ตอนแรกก็อยากจะห้ามอยู่หรอกนะ แต่พอลิ้นร้อนตวัดเข้าที่จุดไวต่อความรู้สึกฉันถึงกับทนความต้องการที่แปลกใหม่นี้ไม่ไหว ร่างบางถึงกับเด้งหน้าอกอันอวบอึ๋มที่ใหญ่เกินตัวของเด็กสิบแปดปลายๆ รับกับลิ้นร้อนของชายตรงหน้า ฝ่ามือเรียวจิกเข้าที่บ่าไหลหน้าของคนตัวโตราวกับหาที่ยืดเกาะ"อ่า...ซี๊ด" ด้านข้างตังฉันพยายามอย่างหนักที่จะไม่ปล่อยเสียงอันน่าเกลียดนี้หลุดออกมา แต่เมื่อคนตรงหน้าลิ้มลองที่หน้าอก ฉันเสียวถึงกับควบคลุมเสียงตัวเองไม่ไหว น่าอายชะมัดเสียงหวานปรนกระเส่าที่หลุดออกจากคนตัวเล็ก ทำใหคนที่ตวัดลิ้นเข้าที่เม็ดยอดอกปทุมถันนั้นได้สติ ริมฝีปากหนาติดคล้ำนิดๆ เน้นกดจูบลงที่เม็ดยอดอกอมชมพูและดูดยืดเล่นราวกับเด็กแรกเกิด ก่อนที่จะปล่อยละใบหน้าออกจากเจ้าสองเต้าอวบอึ๋ม อย่างนึกเสียดาย สายตาคมเหลือบมองต่ำที่หน้าอกของเด็กสาวตรงหน้า ที่เต็มไปด้วยร่องรอยแดงเป็น
ด้านข้าวตังที่เห็นธีร์ณัฐยืนพ้นควันสีขาวลอยฟุ้งอยู่นั้น คนตัวเล็กถึงกับเดินเข้าหาราวกับว่าเธอนั้นฝันไป"ผู้กองดูดบุหรี่ด้วยเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม สายตาคมเหลือบมองคนตัวเล็กเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น จากนั้นก็เบนสายตาไปที่บุหรี่แทนใบหน้าสวยของเธอ"อืม"เสียงเข้มเอ่ยครางในลำคอโดยไม่คิดจะมองร่างบางที่เดินเข้าหาตน ด้านข้าวตังที่เห็นเขาแสดงท่าทีที่แสนจะเย็นชาให้กับตนเช่นนั้น คนตัวเล็กถึงกับชะงัก"ฉันดูดแค่ช่วงที่เครียดหนะ" เขาเอ่ยตอบเธอ แต่ด้วยท่าทีที่แสนจะเย็นชานั้น กับใช่ว่าคนอยากเจอเขานั้นจะถอดใจ ร่างบางกับทำสีหน้าให้ปกติ"ฉันไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีก" เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกดีใจที่เธอนั้นได้เจอกับเขา"ฉันเองก็ไม่ต่างจากเธอ" เสียงเข้มเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่เห็นเขาอีกครั้งคนตัวเล็กจากที่จิตใจห่อเหี่ยวเฉามาหลายวัน กับใจฟูมาอีกครั้ง ที่บังเอิญเธอเจอเขา ในงานเลี้ยงของค่ำคืนนี้คุณพ่อของเธอคงเลี้ยงส่งเขาสินะ คนตัวเล็กได้แต่คิด"ผู้กองจะไปจริงๆ แล้วใช่ไหมคะ" ข้าวตังเอ่ยด้วยความรู้สึกสับสน แม้ก่อนหน้านี้เธอปฏิญาณกับตนไปแล้วจะไม่ร้องห่มร้องไห้เพราะเขาอีก พึ่งจะใจฟูได้ไม่นาน"อืม" คำ
หลายวันต่อมา @ห้องเรียน ม.6/2 ด้านข้าวตัง นี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ตั้งแต่วันที่เธอและเขาจูบกันที่ลำห้วยนั้น ฉันก็ไม่เจอผู้กองธีร์ณัฐอีก คำพูดของเขาในวันนั้นยังดังกึกก้องมาในห่วงความคิดของฉันจนยากเกินที่จะลืม"จูบนี้เป็นจูบสุดท้ายระหว่างเราใช่ไหมคะ" มันคือคำถามที่ฉันถามเขา ผู้กองหนุ่มใบหน้าอันหล่อเหลาสบตาเข้ากับนัยน์ตาคู่เศร้าของเด็กสาวตรงหน้า "เธอจะคิดแบบนั้นก็ได้" ธีร์ณัฐเอ่ยกับคนตรงหน้า ใบหน้าสวยของคนตัวเล็กรู้สึกร้อนพราวๆ ที่ดวงตา พยายามข่มอารมณ์และความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา "ฉันขอกอดผู้กองได้ไหมคะ"ข้าวตังเอ่ยอย่างตรงๆ ไม่คิดจะปิดกลั้นความรู้สึก ไหนๆ อีกไม่กี่วันเขาก็จะไปจากเธอแล้ว ถือซะว่าเราทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ ทั้งสองสบตาเข้าหากัน ด้านธีร์ณัฐเมื่อหญิงสาวเอ่ยขอตนเช่นนี้คนที่ไม่ปฏิเสธ ฝ่ามือหนาของคนตัวโตดึงร่างบางเข้ามากอดด้วยความรู้สึกที่สับสน มันไม่ใช่ความรู้สึกที่พี่ชายกอดน้องสาว "ฉันรู้ว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ข้าวตังฉันต้องขอโทษที่ฉันทำตามที่เธอต้องการไม่ได้" เสียงทุ่มเอ่ยจากปากผู้กองหนุ่ม พร้อมกับโน้มปากหยักหนาเข้าไปจูบที่หน้าผากของคนตัวเล็ก มันเป็นจูบสุดท้ายที่เขาจะมอบให้เธอจ
หลายวันต่อมา ด้านข้าวตังร่างบางในชุดกางเกงขาสั้น และเสื้อยืดพอดีตัว นั่งหันหลังที่ลำห้วยทุ่งทานตะวัน หลายวันมานี้ฉันรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก หลังจากเลิกเรียนตั้งแต่วันที่ฉันขาแพลงในวันนั้น พอฉันหายเป็นปกติ ฉันก็มาที่นี่ทุกวัน เพื่อหวังจะได้เจอกับคนที่อยากเจอ ถึงความหวังของฉันมันจะแสนริบหรี่ แต่ก่อนที่เขาจะย้ายไปที่อื่น ฉันอยากจะเจอหน้าเขาอีกสักครั้ง ใบหน้าสวยที่นั่งหันหลังได้แต่เหลือบมองท้องฟ้าในเวลาค่อนจะค่ำ ซึ่งอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าตะวันก็จะตกดินข้าวตังมานั่งอยู่ตรงนี้นานนับชั่วโมง แต่นั้นก็ไม่มีวี่แววว่าผู้กองธีร์ณัฐนั้นจะมา เธอไม่ได้นัดเขา อย่าว่าแต่นัดเลยช่องทางที่จะติดต่อเธอก็ไม่มี เธอใช้เพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้นที่ทำให้เธอมาที่นี่ในเวลาแบบนี้ แต่นั้นวันนี้ความหวังของเธอมันก็เหมือนจะสูญเปล่าอย่างเช่นเคย"ให้ตายเถอะ แค่อยากเจอ ทำไมฉันต้องมานั่งรออะไรในที่แบบนี้ด้วย ทั้งที่ไปที่ทำงานของเขาก็เจอ แต่ฉันไม่อยากจะทำเช่นนั้น เพราะในตอนนี้ฉันไม่มีสถานะ ฉันรู้สึกข้างเดียว ข้าวตังได้แต่นั่งคิดอยู่เงียบๆ เช่นนั้นนานนับหลายนาทียิ่งคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่บังเอิญเคยกอด เคยจูบ อีกไม่กี
ด้านธีร์ณัฐหลังจากที่ร่างสูงพาข้าวตังขับรถกินลมชมวิวไปได้สักพักแล้วนั้น ร่างสูงก็มาส่งเธอที่บ้าน สร้างความตกอกตกใจให้กับคุณย่าและคุณป้า ที่ผู้กองใบหน้าอันหล่อเหลาขับรถมาส่งหลานสาวสุดที่รัก คำตอบที่ได้ข้าวตังลื่นล้มที่ลำห้วย ธีร์ณัฐบังเอิญเจอเข้าพอดี"ขอบคุณผู้กองมากนะคะ ที่มาส่งข้าวตัง" คุณป้าหญิงวัยห้าสิบปลายๆ เอ่ยกับผู้กองธีร์ณัฐ"ไม่เป็นไรครับ พอดีผมบังเอิญเจอเธอลื่นล้ม เลยพามาส่งนะครับ" ธีร์ณัฐเอ่ยกับป้าของข้าวตัง"ข้าวเดินยังไง ถึงได้เจ็บหนักแบบนี้ลูก" เสียงของคุณย่าเอ่ยกับหลานสาว"ก็ทางมันลื่นนี้คะคุณย่าใครจะไปรู้ว่าตรงนั้นมันลื่น" ข้าวตังเอ่ยตอบขณะที่คุณย่านั้นนวดฝ่าเท้าให้กับเธอ"งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ" แต่ขณะที่ธีร์ณัฐจะเดินไปขึ้นรถที่จ่าเข้มมารับนั้น"ผู้กองธีร์ ของคุณนะคะที่มาส่งฉัน" ข้าวตังเอ่ยกับเขา ธีร์ณัฐกับไม่ตอบร่างสูงกับพยักหน้าให้กับเธอด้านข้าวตังที่เห็นเช่นนั้น ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก เชอะ ต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าลูกน้องไม่รู้จะเก๊กไปถึงไหน แค่ตอบฉันมันยากนักหรือไง ข้าวตังที่ธีร์ณัฐไม่ตอบเมินเฉยต่อเธอ จู่ๆ ฉันกับรู้สึกหงุดหงิดที่เขาไม่ตอบทั้งที่ก่อนหน้านี่เขายังต่อปา
ด้านข้าวตังหลังจากที่ขึ้นขี่หลังผู้ของธีร์แล้วนั้น แขนเรียวเล็กโอบเข้าที่ต้นคอของคนตัวโต"ผู้กองให้ฉันขี่หลังแบบนี้ ไม่หนักเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยที่ข้างหูของคนตัวโต ด้านธีร์ณัฐที่ถูกเด็กดื้อใบหน้าสวยถามเช่นนั้นถึงกับหลุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปากหยัก"เมื่อกี้เธอนอนทับตัวฉัน หนักกว่านี้อีก" เสียงเข้มหลุดเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่ถูกแขวะเช่นนั้นใบหน้าสวยที่ยิ้มกริ่มถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน"ถ้าผู้กองหนักก็เดินสิคะจะได้ถึงรถฉันเร็วๆ" แต่นั้นยิ่งเธอเร่งเขา แต่คนขี้แกล้งกับยิ่งเดินช้า ราวกับว่าเขาไม่ได้หนัก แต่กับอยากให้เธอนั้นขี่หลังแบบนี้นานๆ ซะอีก ทั้งที่ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร แต่มันกับเกิดขึ้นกับเธอ ธีร์ณัฐที่จะหันไปตอบ แต่ในจังหวะนั้นคนที่ต่อปากต่อคำกับโน้มใบหน้าลงมาที่บ่าไหล่ ปากบางจิ้มลิ้ม!! จุ๊บ !! สัมผัสเข้าที่แก้มของคนตัวโตเข้าอย่างเต็มๆ!! อุ้ย...!! ทำให้ร่างสูงที่ขาจะก้าวเดินต่อนั้นถึงกับหยุดชะงัก"วันนี้ฉันโดนเด็กดื้อขโมยทั้งจูบทั้งหอม ถึงสองครั้งติด เธอช่วยตอบฉันหน่อยสิข้าวตังว่าฉันควรจัดการกับเด็กดื้อคนนั้นยังไงดี" ธีร์ณัฐหันมาถามใบหน้าสวยที่อยู่บนหลังของตน ด้านข้าวตังที่ถู







