Share

บทที่ 9 ตาลปัตร

last update Last Updated: 2024-11-14 13:03:19

"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ" นับดาวพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในสมองหลังจากก้าวขึ้นมานับบนรถแล้ว อารมณ์หมองมนในทันตา ใบหน้าสวยฉายแววอ่อนล้าออกมาอย่างชัดเจน

เธอรู้สึกเหนื่อยมากจริง ๆ กับการต้องปั้นหน้าเหมือนไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคนทั้งที่ในใจมันไม่ใช่เลย

จนถึงตอนนี้ยังคงมีคำถามมากมายติดค้างอยู่ในใจว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอุงอิงเพื่อสอบถามเหตุการณ์เมื่อคืน ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ

(สวัสดีค่ะคุณนับดาว)

"ค่ะ ฉันจะโทรมาถามเรื่องเมื่อคืนหน่อยค่ะ"

(ค่ะ ฉันก็ว่าจะโทรหาคุณอยู่พอดีเลย)

"เมื่อคืนคุณจำอะไรได้บางไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างมันถึงผิดแผนไปหมด ส่วนฉันจำได้แค่ว่านั่งดื่มกับคุณอยู่จากนั้นภาพก็ตัดไปเลย"

(ฉันก็เหมือนกันค่ะภาพสุดท้ายที่จำได้คือนั่งดื่มอยู่กับคุณ แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็นอนอยู่ในห้องที่บ้านคุณแล้ว ฉันถามออยแม่บ้านของคุณแล้วเธอก็บอกว่าเหมือนกัน เป็นไปได้ไหมคะว่าพวกเราจะเผลอดื่มแก้วที่มียานอนหลับเขาไปด้วย) ปลายสายออกความคิดเห็น

"ก็อาจจะเป็นไปได้ค่ะ ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ส่วนค่าจ้างฉันยกให้ค่ะ"

(ขอบคุณค่ะ)

หลังจากวางสายอุงอิงนับดาวก็ต่อสายหาออยต่อเพื่อสอบถามให้มั่นใจว่าเมื่อคืนมีอะไรผิดพลาดไหมเพราะเธอยังไม่ค่อยเชื่อเต็มร้อยว่าจะเผลอดื่มแก้วที่มียานอนหลับผสมเข้าไป

"พี่ออยเมื่อคืนพี่ออยไม่ได้เสิร์ฟเครื่องดื่มสลับกันใช่ไหมคะ"

(ไม่สลับกันแน่นอนค่ะ พี่แยกกันวางคนละที่ไม่พลาดแน่ ๆ)

"น่าแปลก" เธอพึมพำออกมาเบา ๆ ด้วยความแปลกใจ ก่อนจะวางสายจากออย แล้วขับรถออกจากบ้านตรงไปคลินิกของเพื่อนชายเพื่อตรวจเลือดให้แน่ใจว่าในร่างกายมีสารแปลกปลอมไหม

พอได้ฟังคำยืนยันจากออยมันทำให้เธอสงสัยมากขึ้นไปอีกว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หากตรวจร่างกายแล้วพบว่ามีสารของยานอนหลับจริง ๆ แล้วเมื่อคืนเธอไปนอนห้องเดียวกับติณณภัทรได้ยังไงหากไม่มีคนพาไป

@คลินิกแบงค์

"อ้าว! นับวันนี้ลมอะไรหอบมาถึงนี่" แบงค์ หมอหนุ่มหน้าตาหล่อที่กำลังยืนคุยกับพนักงานหน้าเคาวน์เตอร์เอ่ยทักทายเพื่อนสาวคนสนิทด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังมากนักทันทีที่เห็นเธอเดินหน้าสล่อนเข้ามา

"มาคลินิกก็ต้องมาหาหมอป่ะ ถามแปลก " นับดาวเลิกคิ้วตอบด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท ทว่าแบงค์กลับมีสีหน้าเคร่งขรึมลงรีบถามไถ่พลางเดินเข้าไปวางมือบนหน้าผากเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง

"ไม่สบายเหรอ" ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นแผลบนมุมปากของเพื่อนสาว "แล้วมุมปากไปโดนอะไรมา" เอ่ยถามอย่างคาดคั้น

"สบายดี แค่อยากให้แกตรวจเลือดหาสารแปลกปลอมในร่างกายหน่อย ส่วนแผลมุมปากฉันกัดปากตัวเองเองแหละ" นับดาวเลือกโกหกเพื่อนชายเพราะถ้าบอกว่าโดนตบเขาคงซักไซร้ไม่เลิก

"ตรวจเลือด มีอะไรหรือเปล่า" ได้ยินคำบอกกล่าวเพื่อนสาวแบงค์ก็ยิ่งแปลกใจ แต่ก็เลือกจะไม่ซักไซร้ต่อเพราะรู้นิสัยเพื่อนดี ถ้าเธอไม่อยากบอกต่อให้ง้างปากก็ไร้ผล

"ก็เมื่อคืนน่ะสิ ฉันรู้สึกเหมือนดื่มเครื่องดื่มที่ผสมยานอนหลับเข้าไปเลย" นับดาวตอบแบบปัด ๆ

"แกไปเที่ยวมาอีกแล้วเหรอ โดนยาปลุกเซ็กซ์คืนนั้นยังไม่หลาบจำอีกเหรอ" แบงค์อดบ่นเพื่อนสาวไม่ได้คิดว่าที่เธอโดนยานอนหลับคงไปเที่ยวกลางคืนมาอีกแล้ว เขาล่ะเป็นห่วงเพื่อนสาวจริง ๆ แต่พูดเท่าไรเพื่อนสาวก็ไม่เคยฟัง

คืนนั้นที่เพื่อนสาวโดนยาปลุกเซ็กซ์ส้มก็โทรตามให้เขาไปช่วยครั้งหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายก็เอาไม่อยู่จนเขาต้องฉีดยานอนหลับให้

"แกเลิกบ่นเถอะน่า ตอนนี้ว่างใช่ไหมรีบตรวจเลือดให้ฉันเถอะ" นับดาวรีบเปลี่ยนเรื่องคุยไม่อยากฟังเสียงบ่นของเพื่อนชาย ซึ่งแบงค์รู้ทันเขาเพียงส่ายหน้าถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเดินนำเพื่อนสาวเข้าไปในห้องตรวจ แล้วทำการเจาะเลือดทันที

"อีกสามวันถึงจะรู้ผลนะ" เขาบอกกล่าวหลังจากทำการเก็บเลือดเสร็จแล้ว นับดาวพยักหน้ารับแล้วนิ่งเงียบไปคล้ายกำลังคิดอะไรอยู่ทำให้แบงค์อดสงสัยไม่ได้ "มีอะไรรึเปล่านับ ปกติแกไม่ใช่คนนั่งเหม่อลอยแบบนี้"

"มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ" คนถูกถามตอบโดยไม่ปิดบัง แต่ก็บอกไม่หมด

เธอกำลังคิดไม่ตกเรื่องเมื่อคืนยังไงล่ะเพราะไม่ว่ามองทางไหนมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไปนอนกับติณณภัทรทั้งที่ยังมีสติ และหากหลับก็เดินไปเองไม่ได้เช่นกัน

"เล่าให้เราฟังได้นะ"

"ไม่มีอะไรหรอก งั้นเรากลับก่อนนะรู้ผลแล้วอย่าลืมโทรบอกด้วย" นับดาวฝืนระบายยิ้มให้เพื่อนชายบาง ๆ ก่อนจะขอแยกตัวกลับ

เธอขับรถไปเรื่อย ๆ พลางครุ่นคิดอะไรไปด้วยกระทั่งรถมาจอดยังวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวัดที่ไว้อัฐิมารดา เวลามีอะไรไม่สบายใจเธอมักมาระบายให้ท่านฟังเสมอ

เธอวางดอกทิวลิปสีขาวหน้าที่เก็บอัฐิของมารดาพร้อมกับย่อตัวลงนั่งคุกเข่า ยื่นมือไปแตะรูปท่านด้วยความรัก และคิดถึงสุดหัวใจ ก่อนจะเริ่มระบายความอัดอั้นตันใจให้ท่านฟัง

"แม่คะเมื่อคืนนับทำสิ่งที่พลาดที่สุด แต่นับไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นเลย นับไม่รู้ว่าทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ นับคิดถึงแม่เหลือเกินค่ะ หากแม่ยังอยู่นับเชื่อว่าแม่จะเข้าใจ และปกป้องนับไม่เหมือนพ่อ.."

พอพูดมาถึงตรงนี้เธอถึงกับสะอึก ขอบตาร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่ได้ คำพูดทุกคำของบิดาในวันนี้มันยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท สิ่งที่ฝังใจยิ่งกว่าคือรอยตบบนแก้มขวาที่ท่านฝากเอาไว้ วันนี้เธอมั่นใจแล้วว่าบิดาไม่เคยรักเธอเลยสักนิด

"หรือจริง ๆ แล้วนับเป็นลูกที่คุณพ่อเก็บมาเลี้ยงคะ" เธอเค้นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยันพลางแหงนหน้าขึ้นฟ้าเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา

น้ำตาของเธอมีค่าเกินกว่าจะเสียให้คนที่ไม่ได้รัก และไม่เคยเห็นค่าเธอ..

และเธอก็ไม่มีเวลามานั่งดราม่ากับอะไรทั้งนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบิดา หรือเรื่องเสียพรหมจรรย์ให้ติณณภัทรเพราะยังไงเธอก็ไม่สามารถเรียกมันกลับมาได้ สู้เดินหน้าต่อไป แล้วปล่อยให้เรื่องบ้า ๆ นี่เป็นแค่อดีต

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 59 โชคดีที่มีเธอ (จบ)

    นับดาวให้กำเนิดบุตรสาวในวันเกิดของตัวเองพอดิบพอดีเพียงแต่คนละเวลากันเท่านั้น วันเกิดเธอปีนี้จึงกลายเป็นสุขสันต์วันคลอดแทนทุกคนต่างปลื้มปิติ โดยเฉพาะติณณภัทรวินาทีที่ได้เห็นหน้าบุตรสาวถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่"ได้เจอกันสักทีนะลูกสาวพ่อ" ก้มจูบบนฝ่าเท้าน้อย ๆ ของบุตรสาวด้วยความรักใคร่ ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างพินิศ คิ้วเข้มขมวดชนกันเล็กน้อยเพราะทุกส่วนบนใบหน้าบุตรสาวเหมือนผู้เป็นแม่ไม่มีผิด แทบไม่มีส่วนไหนที่ได้เขามาเลยมันน่าน้อยใจชะมัด"นับคุณดูสิลูกลำเอียงชะมัดเลย คิ้วก็เอาของแม่มา ตาก็เอาของแม่มา จมูกก็เอาของแม่มา ปากก็เอาของแม่มาไม่มีส่วนไหนที่เหมือนผมเลย อุตส่าห์ทำแทบตาย" เขาแหงนหน้าขึ้นเอ่ยกับเมียสาวทีเล่นทีจริงทำเอาทุกคนอดยิ้มตามไม่ได้"แสดงว่าลูกรักแม่มากกว่าพ่อไงคะ" นับดาวตอบกลับยิ้ม ๆ อีกคนหาได้ยอมน้อยหน้าไม่เอ่ยประกาศเสียงกร้าว เชิดหน้าขึ้นอย่างมาดหมาย "แบบนี้ยอมไม่ได้นะ ลูกคนต่อไปต้องเหมือนผมแล้วแหละ"คำพูดของชายหนุ่มเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้อีกระลอกหนึ่ง คงจะมีแต่แบงค์ที่ต้องกลำกลืนฝืนทนมองภาพทั้งสองหยอกล้อกันทั้งที่ในใจมันชอกช้ำอย่างหนัก ส้มซึ่งรู้ดีทำได

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 58 สุขสันต์วันคลอด

    แสงแดดสีทองยามสี่โมงเย็นตกกระทบผิวน้ำทะเลสีเขียวมรกตทอประกายระยิบระยับ สายลมเอื่อย ๆ พัดโชยพากลิ่นอายทะเลลอยตลบอบอวลทำให้ผู้ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลาย"อากาศดีจังเลยค่ะ นานแล้วสิที่ไม่ได้พักผ่อนแบบนี้" นับดาวหันบอกกล่าวกับร่างสูงที่เดินเคียงข้าง จับมือพากันเดินเลียบไปตามแนวชายหาดด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้มาเที่ยวทะเล และดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบนี้ต้องขอบคุณผู้ชายข้าง ๆ ที่ทำให้เธอได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งด้วยความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเมื่อก่อนสิ้นเชิงทุกครั้งที่มาเที่ยวทะเลเธอจะมาเพราะต้องการแก้เบื่อแก้เซ็ง มาด้วยอารมณ์โดดเดี่ยว แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความสุขจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้"ใช่ครับ" ติณณภัทรระบายยิ้มตอบเขาเองก็ไม่ได้เที่ยวแบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน ได้มาเที่ยวพักผ่อนแบบนี้กับคนที่รักจึงมีความสุขไม่น้อย "ได้มาพักผ่อนกับคนที่รักมันดีกว่าคนเดียวเป็นไหน ๆ เลยว่าไหม""ใช่ค่ะ นับไม่เคยรู้เลยว่าการมีความรัก มีครอบครัวมันดีขนาดนี้ต้องขอบคุณคุณนะคะที่เข้ามาในชีวิตของนับ" เสียงหวานเอื้อนเอ่ยมาจากก้นบึ้งของหัวใจ"ผมก็ขอบคุณคุณเช่นกันที่เข้ามา

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 57 ความสุข

    วันต่อมาหลังจากเรื่องร้าย ๆ ผ่านไปวันนี้ติณณภัทรจึงตั้งใจพานับดาวไปทำบุญ และไหว้แม่ของเธอ"จะไปไหนกันฮึสองคนนี้" อรอินเอ่ยทักบุตรชายกับลูกสะใภ้ที่เดินเข้ามานั่งบนโต๊ะอาหารด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มเพราะดูจากการแต่งตัวแล้วเหมือนจะออกไปไหนกัน"ผมกับนับจะไปทำบุญกันครับ" ติณณภัทรตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะหันมองหน้าเมียสาวพร้อมยื่นมือไปกอบกุมมือเรียวไว้หลวม ๆ นับดาวส่งยิ้มหวานให้คนเป็นสามีบาง ๆ "ก็ดีเหมือนกันนะจะได้เป็นมงคลให้กับชีวิต แม่ขอให้ชีวิตคู่หลังจากนี้ของลูกทั้งสองพบแต่ความสุขนะ" อรอินเห็นดีเห็นงามด้วย และก็อวยพรให้เด็กทั้งสองพบเจอแต่ความสุขในชีวิตคู่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มามากมาย"พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขมาก ๆ นะ จะเป็นพ่อแม่คนแล้วทำอะไรก็นึกถึงจิตใจกันและกันให้มาก ๆ อย่าเอาอารมณ์เข้าว่า อย่าละเลยความรู้สึกกัน รักและดูแลกันให้เหมือนวันแรกที่รักกัน ความสม่ำเสมอและเสมอต้นเสมอปลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคู่มาก พ่อหวังว่าลูกทั้งสองคนจะมีชีวิตคู่ที่มีความสุขไปจนแก่จนเฒ่า" พิภพอวยพรเด็กทั้งสองต่อหลังจากภรรยาเอ่ยจบ และไม่ลืมจะให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตคู่กับทั้งสองด้วย"ขอบคุณคุ

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 56 คิดถึง โหยหา

    นับดาวกำแหวนในมือแน่น แล้วเดินกลับไปยังห้องชายหนุ่มอีกครั้ง คาดว่าตอนนี้เขาคงขึ้นมาจากชั้นล่างแล้ว ยืนรวบรวมความกล้าข่มความตื่นเต้นอยู่หน้าห้องนานนับนาที ก่อนค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปเสียงเปิดประตูทำให้ติณณภัทรที่ทำท่าจะตามหาหญิงสาวหลังจากเข้ามาในห้องแล้วไม่พบเธอรีบหันไปมอง ครั้นเห็นคนตัวเล็กก็รีบเดินเข้าไปถามไถ่ "ไปไหนมาฮึ""ฉันมีอะไรจะมอบให้คุณค่ะ" นับดาวไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่ม แต่กลับจับมือข้างซ้ายของเขาขึ้นมา แล้วจัดการเอาแหวนที่กำไว้บรรจงสวมบนนิ้วนางของเขา "คุณมอบแหวนแต่งงานให้ฉันแล้ว ถึงคราวฉันมอบแหวนแต่งงานให้คุณบ้างแล้ว แหวนวงนี้แทนความรักจากฉันนะคะ""นะ..นี่มันอะไรกัน เธอความทรงจำกับมาแล้วเหรอ" ติณณภัทรถึงกับประมวลผลไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกในตอนนี้คือทั้งดีใจ สับสนงุนงง และไม่เข้าใจ ดวงตาคมกริบปริ่มไปด้วยน้ำสีใสจ้องมองใบหน้าสวยเชิงตั้งคำถาม "ฉันรักคุณนะคะ" นับดาวตอบคำถามของเขาแทนด้วยการบอกความรู้สึกออกไปพร้อมกับก้มจูบหลังมือของเขา ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปคล้องลำคอแกร่งเอาไว้หลวม ๆ แล้วเขย่งเท้าขึ้นประทับริมฝีปากจูบริมฝีปากหนาติณณภัทรไม่ได้ปฏิเสธถึงแม้ตอนนี้จะยั

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 55 แทนความรัก

    หลังจากนับดาวฟื้นขึ้นมาหมอก็ให้นอนดูอาการอีกสองวันจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้เพราะร่างกาย และผลการสแกนสมองปกติดีทุกอย่าง ส่วนเรื่องที่เธอจำอะไรไม่ได้หมอประเมินว่าอาจเป็นอาการความทรงจำหายไปชั่วคราว อีกไม่นานความทรงจำน่าจะกลับมาเหมือนหลาย ๆ เคสที่ผ่านมา"บ้านของเราจำได้ไหม" ติณณภัทรเอ่ยถามคนที่นั่งข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อรถจอดลงหน้าบ้านอัครกุลสิ้นเสียงทุ้มนับดาวก็ทอดสายตามองเข้าบ้านหลังใหญ่โตตรงหน้า คิ้วสวยขมวดเป็นปมคล้ายกับว่าจำอะไรไม่ได้เลย"ฉันจำไม่ได้เลย" เปล่งเสียงตอบด้วยใบหน้าเศร้า แววตาหม่นหมองจนติณณภัทรต้องรีบรั้งเธอมากอดใช้มือลูบศีรษะเล็กทุยปลอบประโลม "จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็จำได้เองไม่ต้องรีบร้อน""ค่ะ""เข้าบ้านกันดีกว่าป่านนี้พ่อกับแม่คงรออยู่ ท่านดีใจมากเลยนะที่รู้ว่าเธอได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว" "ค่ะ" คนที่อิงแอบหน้ากับไหล่กว้างพยักรับ แล้วผละตัวออกจากอ้อมกอดคนตัวโต ซึ่งติณณภัทรก็รีบเปิดประตูลงจากรถเดินอ้อมาเปิดประตูให้เธอ"เชิญครับ" บอกกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางยื่นมือไปให้เธอจับ อีกคนยื่นมือไปวางบนมือหนาแล้วพาตัวลุกจากรถโดยไม่ลืมจะเอ่ยขอบคุณคนตัวโต "ขอบคุณนะคะ

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 54 แหวนแต่งงานของเธอคนเดียว

    วันต่อมาวันนี้ติณณภัทรตั้งใจว่าจะสวมแหวนแต่งงานให้นับดาวถึงแม้เธอจะยังไม่รู้สึกตัวก็ตาม เขาโทรไปยังร้านดอกไม้สั่งให้ทางร้านจัดช่อดอกกุหลาบสีแดงซึ่งเป็นดอกไม้ที่เธอชอบจำนวนหนึ่งร้อยดอก แล้วให้นำมาส่งที่โรงพยาบาลหลังจากได้รับช่อดอกไม้เขาก็นำมันไปวางข้างเตียงหญิงสาว เอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มองใบหน้าสวยอย่างสื่อความหมาย "ฉันเอาดอกไม้ที่เธอชอบมาให้ตื่นมาดูสิสวยมากเลยนะ และวันนี้ฉันก็มีบางอย่างจะให้เธอด้วยนะ"เขาว่าแล้วนิ่งเงียบไป ก่อนล้วงกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋ากางเกงเปิดออกแล้วหยิบแหวนมาถือไว้ "แหวนวงนี้เป็นแหวนที่ฉันตั้งใจสั่งทำเป็นพิเศษเพื่อเป็นแหวนแต่งงานสำหรับเธอเลยนะ หวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมาเห็นเธอจะชอบมันนะ"ว่าจบก็จับมือด้านซ้ายของเธอมาบรรจงสวมแหวนเพชรลงบนนิ้วนาง จากนั้นก็ประทับจูบลงบนหลังมือนิ่มแช่ค้างไว้แบบนั้นและในจังหวะนั้นเองนิ้วเรียวทั้งห้าก็ขยับขึ้นเบา ๆ ทำให้ติณณภัทรต้องรีบผละดูให้แน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง และใช่นิ้วของเธอขยับจริง ๆ เขาค่อย ๆ เลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าสวยด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ๆ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยลุ้น และตื่นเต้นกับอะไรเท่านี้มาก่อนเลย"

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status