“ฟู่หยวนเพ่ยน่ะหรือ? นางแต่งเป็นชายารองของฉู่หวางไปแล้ว มีเรื่องอันใดให้น้องหญิงกังวลหรือ?” เซียวซูเฟยเอ่ย ในขณะที่ที่เหลือลอบถอนใจด้วยระอาใจกับพฤติกรรมเสแสร้งของอีกฝ่าย รู้ทั้งรู้ว่าที่หยวนเพ่ยออกจากวังเพื่อเสกสมรสกับฉู่หวางนั้นเป็นเพราะผู้ใด ยังมาทำท่าทีสงสารเห็นใจอีก...ตบศีรษะจนระบมแล้วค่อยลูบหลั
ณ ตำหนักคุนหนิง ครานี้เงียบสงบ มีเพียงหวงไท่โฮ่วที่พินิจพิจารณาภาพวาดสาวงามหลายสิบภาพที่ทางเจ้ากรมพิธีการจัดหามาให้ จังหวะเดียวกับที่หวงตี้เสด็จมายังตำหนัก“ลูกถวายพระพรเสด็จแม่”“ลุกขึ้นเถอะ” หวงไท่โฮ่วยิ้มบาง “วันนี้ลมอันใดหอบฝ่าบาทมาหาแม่ได้เล่า”“ลูกคิดถึงเสด็จแม่จึงมาเยี่ยมพ่ะย่ะค่ะ” เขายิ้ม พล
“แต่นางก็ไม่ จึงกลั่นแกล้งให้หยวนเพ่ยพลาดงานเลี้ยงของเฉากุ้ยเฟยสินะ” หวงไท่โฮ่วยิ้มแย้ม จากคำบอกเล่า ละครโรงนั้นก็ช่างยิ่งใหญ่อลังการ ชวนให้นึกถึงตอนที่พระนางยังขับเคี่ยวกับบรรดาสนมต่างๆ ในสมัยสาวๆ จริงๆ นั่นละ“นั่นเป็นการเตือนของลูก ลูกอยากให้เสียนเฟยหยุดเพียงแค่นั้น ทว่านางกลับไม่ แม้ลูกจะให้หยวน
เมื่อเข้าสู่เดือนที่สามของการแต่งงานระหว่างฉู่หวางกับหยวนเพ่ย ก็มีเรื่องมงคลเกิดขึ้นในจวน ไป๋ฟูเหรินที่พำนักอยู่ด้วยได้ให้กำเนิดลูกแฝดชายหญิง นับว่าเป็นบุตรหงส์บุตรมังกรอย่างแท้จริง เด็กผู้ชายตั้งชื่อว่าซือเสียน เด็กผู้หญิงตั้งชื่อว่า ซือเซียน เด็กน้อยทั้งสองสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยการดูแลของหมอหลว
งานคัดเลือกชายาให้ฉู่หวาง จื่อหาน จัดขึ้นในลานหน้าตำหนักชุนชิว ที่นั่นนอกจากเสียนเฟยและเหล่าสาวงามที่นางคัดเลือกมาแล้ว ยังมีเฉากุ้ยเฟย หลิวเต๋อเฟย และเซียวซูเฟยร่วมด้วย ทั้งสามอยู่ในชุดประจำฤดูใบไม้ผลิที่ทั้งสีสันสวยงาม เนื้อผ้าค่อนข้างเย็นสบาย ทั้งสามโบกพัดกลมพลางสนทนาอย่างออกรสเมื่อได้เวลาตามนัด
เสียนเฟยคล้ายว่าถูกท่อนไม้หนาหนักทุบหัว สมองอื้ออึงงุนงง ตบแต่งชายาคนเดียวบ้าบออันใด!? ฉู่หวางผู้นี้กล่าววาจาเหลวไหลอันใดออกมา! ไม่มีทาง การเลือกเฟ้นชายาให้แก่เชื้อพระวงศ์ชั้นหวางทำไปเพื่อความมั่นคงและฐานอำนาจในราชบัลลังก์ บุรุษที่เห็นผลประโยชน์บ้านเมืองเช่นฝ่าบาทไม่มีทางยอมสัญญาเช่นนั้นแน่ใช่...นี
“สัญญานี้เริ่มตั้งแต่เมื่อใดเพคะ”หยวนเพ่ยเปิดคำถามทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่จวนหวาง ชายหนุ่มยังไม่ตอบคำถามนางทันที เพียงจูงมือนางไปยังห้องนอน เขาดึงสลักที่เป็นกลไกออกเล็กน้อย เมื่อช่องที่อยู่ตรงหัวนอนเปิดออก ชายหนุ่มจึงหยิบกล่องใบหนึ่งมา หยวนเพ่ยจำได้ว่าเป็นกล่องที่หวงตี้พระราชทานให้เขาในวันเสกสมรส เม
หนึ่งเดือนก่อนออกเดินทาง หยวนเพ่ยรู้สึกตัวเมื่อใกล้ยามเหม่า (05.00 น.- 6.59 น.) นับว่าสายกว่าเวลาที่นางตื่นปกติเกือบชั่วยาม นางลุกขึ้นนั่ง เรือนผมยาวสยายถึงเอว เรือนกายเปลือยเปล่า เนินอกอิ่มมีรอยจูบจางๆ ตีตราความเป็นเจ้าของ อีกทั้งยังรู้สึกมวนมุนในท้องจนต้องเอามือแตะเบาๆนับว่าการเดินทางต
หยวนเพ่ยได้ฟังข้อหาใหม่เช่นนี้ยิ่งงุนงงหนัก “เขาไปล่วงเกินฝ่าบาทตอนไหนหรือเพคะ”“ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้า” เขาชี้มาทางนาง“หม่อมฉัน? ผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันเป็นแค่หรูเหริน เทียบเท่ากับตำแหน่งพระสนมขั้นไฉเหรินลำดับห้า ถ้านับตามยศแล้วหม่อมฉันย่อมต่ำชั้นกว่า หม่อมฉันจะคารวะเขาก่อนย่อมไม่แปลกเพคะ และที่เขาแตะ
หวงตี้จูงมือหยวนเพ่ยเข้ามายังสวนด้านใน สร้างความแตกตื่นให้แก่นางกำนัลที่พบเห็นไม่น้อย หยวนเพ่ยเองก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรง หนึ่ง ด้วยนางกำลังครรภ์แก่ใกล้คลอด สอง อีกฝ่ายเป็นถึงหวงตี้ ตอนนี้สถานการณ์ในจวนก็ย่ำแย่พอแล้ว ถ้าเกิดนางเผลอพลั้งมือซัดหวงตี้สลบเหมือนตอนสยบท่านข่านด้วยขากวาง เกรงว่าเรื่องราวจะยิ่
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างไม่มั่นคงและทุกข์ทรมานที่สุดนับตั้งแต่หยวนเพ่ยรู้จักวิธีหายใจ รายงานอาการบาดเจ็บของฉู่หวางที่ถูกส่งมาสัปดาห์ละสองฉบับนั้น แต่ละครั้งล้วนเป็นรายงานที่ไม่อาจนับได้เต็มปากว่าเป็นข่าวดี ถึงแม้เขาจะพ้นขีดอันตราย แต่ร่างกายของเขาก็อ่อนแอเกินกว่าที่จะส่งตัวกลับมายังซีหนิงได้ ทำให้หยวนเ
หยวนเพ่ยได้ยินเช่นนั้นก็แทบทรงตัวไม่อยู่ โชคดีที่มีหยุนรุ่ยกับเมิ่งหลานช่วยประคอง และมีหยวนหลี่ผู้เป็นมารดาบีบมือบุตรสาวไว้แน่น แล้วเอ่ยเบาๆ“ใจเย็นๆ ฟังให้จบก่อน”หญิงสาวได้ยินมารดาเอ่ยเช่นนั้นก็พยักหน้า นางสูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ย“เรื่องเป็นมาอย่างไร”อู่จี๋หอบหายใจครู่หนึ่งจึงกัดฟันเอ่ยต่อ“เมื่อวั
สองเดือนหลังจากนั้น หยวนเพ่ยก็ได้รับข่าวดีว่าทัพของฉู่หวางได้รับชัยชนะ บัดนี้อยู่ในค่ายของซีซย่า คาดว่าอีกสามวันถึงจะเดินทางกลับสู่ซีหนิงหญิงสาวที่ได้ยินข่าวดีเช่นนี้ก็ให้เบาใจ นางในตอนนี้อายุครรภ์เจ็ดเดือน แต่ครรภ์กลับใหญ่โตอุ้ยอ้ายยิ่ง จะนั่งก็ลำบาก จะยืนก็ปวดขา ขนาดหยวนหลี่ผู้เป็นมารดายังอดทักไม
ย้อนกลับมาปัจจุบันฉู่หวางรู้ดีว่าพระเชษฐาของตนเป็นบุรุษที่ไม่เคยทำให้ผู้อื่นสมความปรารถนาได้โดยที่คนผู้นั้นไม่ทำสิ่งใดให้ ดังนั้นสิ่งที่ฉู่หวางต้องตอบแทนคือการปราบปรามความสงบในชายแดนซีหนิงที่มีพวกทั่วป๋าและทังกุสออกอาละวาด ชายแดนซีหนิงสงบเมื่อใด สารแต่งตั้งหยวนเพ่ยเป็นหวังเฟยจะส่งถึงมือเขาทันทีหยว
คืนนั้นหวงตี้มาค้างยังตำหนักของซูเฟย เนื่องจากโปรดองค์หญิงเมี่ยวอวิ๋น ธิดาที่ประสูติจากซูเฟย บัดนี้พระชนมายุเกือบหกเดือน น่ารักน่าชังยิ่งนัก ดังนั้นเมื่อพอมีเวลา พระองค์จะมีรับสั่งให้นำฎีกาส่วนหนึ่งที่ยังสะสางไม่เสร็จจากห้องทรงพระอักษรไปยังตำหนักซูเฟย พระองค์โปรดเล่นหยอกเย้ากับพระธิดาตัวน้อยพร้อมส่ง
ย้อนกลับไปยังพระราชวังต้าหมิงกง ฉางอัน หลายเดือนก่อนหน้าในวังหลวง กระแสแห่งยศศักดิ์ขึ้นลงรุนแรงราวกระแสน้ำหลาก เฉากุ้ยเฟยได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นหวงโฮ่ว แต่งตั้งองค์ชายจื่อหยวนเป็นหวงไท่จื่อ [1]มีกำหนดการสถาปนาในอีกสี่เดือนข้างหน้า บัดนี้ตำแหน่งโซ่วคังของเฉากุ้ยเฟยคึกคักเป็นอย่างยิ่ง ของขวัญแสดงความ
หลังจากกลับมายังซีซย่า ฉู่หวางก็ส่งจดหมายไปยังเมืองหลวง ขอพระบรมราชานุญาตจากหวงตี้ขออยู่ที่ซีหนิงต่ออีกหนึ่งปี จนกว่าหยวนเพ่ยจะคลอดและแข็งแรงพอที่จะกลับไปยังฉางอัน ถ้ามีเอกสารอันใดเร่งด่วน ขอให้ใช้ม้าเร็วส่งเอกสารมาหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ราชโองการอนุญาตก็ส่งมาถึง พร้อมทั้งทองคำและแพรพรรณวิจิ