หยุนชิงตื่นขึ้นมาในตอนสายของอีกวันด้วยอาการเมาค้าง และปวดเมื่อยตามเนื้อตัว นางจำได้ว่าตนเองหลังจากถูกสามีอุ้มเข้าไปนอนในห้อง นางกลับนึกสนุกอยากแกล้งสามีจากนั้นจำอะไรไม่ได้เลย
“ทำไมขาข้ามันสั่นแบบนี้ แถมเนื้อตัวมีแต่รอยข้าไปโดนอะไรกัดมา” เมื่อลุกขึ้นยืนได้มั่นคงแล้วสำรวจตัวอยู่สักพักกลับพบว่าเนื้อตัวมีแต่รอยเต็มไปหมด แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับตัวนางกันแน่
หลังจากที่หอบร่างที่อ่อนแรงของตนเอง ไปอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จสิ้น หยุนชิงจึงได้เดินออกมาจากห้อง เพราะนี่ก็คงจะยามซื่อแล้ว (09.00-10.59 น.) ทุกคนคงจะออกไปทำงานกันหมดแล้ว
“นายหญิงตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้ากำลังจะเอาน้ำแกงสร่างเมาไปให้ นายท่านสั่งไว้ว่านายหญิงตื่นเมื่อไร ให้เอาไปให้ดื่มเจ้าค่ะ” อาเล่อที่เดินออกมาจากห้องครัว เพื่อไปเอาน้ำแกงสร่างเมามาให้นายหญิงดื่ม เดินออกมานางก็เจอเข้ากับผู้เป็นนายนั่งคลึงขมับอยู่ที่โต๊ะในห้องรับแขกพอดี
“ข้าปวดหัวมากเลยอาเล่อ แล้วท่านพี่ไปไหนหรือ” อดไม่ได้ที่จะถามถึงสามีตัวดี ต้องเป็นเขาแน่ที่ทำให้นางมีสภาพเช่นนี้
“นายท่านออกไปส่งสุราในเมืองเจ้าค่ะ” อาเล่อพูดพร้อมกับส่งถ้วยน้ำแกงให้กับผู้เป็นนายดื่ม
หยุนชิงดื่มน้ำแกงสร่างเมาไปได้สักพักรู้สึกว่า อาการมึนและปวดหัวเริ่มดีขึ้นมา อาการเมาค้างดีขึ้นท้องไส้ก็เริ่มเรียกร้องหาอาหาร นางจึงให้อาเล่อต้มโจ๊กร้อน ๆ หนึ่งถ้วยกินรองท้อง รอหวังอี้หลินกลับมาจากส่งสุราค่อยกินมื้อเที่ยงด้วยกัน
หลังจากที่กินอิ่มท้องหญิงสาวจึงได้ออกมาเดินเล่น เดินไปได้สักพักหยุนชิงสังเกตเห็นกลุ่มบ่าวชายยืนจับกลุ่มกันอยู่แถวลำธาร นางอยากรู้ว่าทำอันใดกันก็ได้เดินเข้าไปดู
“พวกเจ้าทำอันใดกันรึ” เมื่อเดินมาถึงนางเห็นบ่าวหนุ่มสองคนดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำ พร้อมกับเสียงเชียร์ของกลุ่มด้านบนเสียงดัง
“นายหญิงพวกข้ากำลังจะจับปลาไปทำมื้อเที่ยงขอรับ แต่ปลามันตัวใหญ่น้ำยังลึกอีก เลยจับลำบากไปสักหน่อย” บ่าวชายคนหนึ่งในกลุ่มด้านบนกล่าว
“เช่นนั้นหรือ ระวังกันด้วยล่ะ อย่าลงกันไปลึกมากอันตราย”
“ขอรับ” ทุกคนตอบรับนายหญิงอย่างพร้อมเพรียง
หยุนชิงยืนดูการจับปลาอยู่สักพัก นางคิดอะไรบางอย่างออก จึงได้ให้บ่าวชายคนที่พอมีฝีมือเกี่ยวกับช่างไม้ ให้ตามนางไปเพื่อสร้างอะไรบางอย่าง หญิงสาวคิดจะทำหน้าไม้ไว้ยิงปลา เวลาจะจับปลาจะได้ไม่ต้องลงไปจับให้ยุ่งยาก และไม่เสี่ยงลงน้ำลึกอาจทำให้จมน้ำด้วย
นางให้คนไปนำไม้เนื้อแข็ง มาขัดเกลาเหลาเป็นแท่งยาวประมาณสามฉื่อ สันบนตรงกลางเซาะเป็นรางตามยาวหนึ่งฉื่อกับอีกสองชุน ใช้สำหรับวางลูกดอกเจาะกลางไม้ด้านบนทะลุลงด้านล่าง ห่างจากโคนปลายราง
เหลาไม้ทำไกสอดลงรูที่เจาะ บากไม้ขวางเป็นร่องสันหลังรูที่เจาะใช้วางเชือก จากปลายไม้ด้านหน้าถัดเข้าเจาะด้านข้างทะลุ เพื่อใช้สอดคันโก่ง คันโก่งทำจากไม้ชนิดเดียวกัน เหลาคล้ายคันธนูหนา และสั้นกว่าเหลาเกลาด้านหน้า ให้โค้งมนแล้วสอบเรียวลงที่ปลายทั้งสองข้าง สอดลงในรูที่เจาะไว้ ปลายคัน โก่งบากริมปลายทั้งสองข้างใช้คล้องเส้นเชือก สายหน้าไม้ทำจากหวายขวั้นเป็นเกลียว ต่อร้อยที่หูทั้งสองข้างไม่ตึงแบบขึงคันธนู
ลูกดอกนางให้ทำจากไม้ไผ่สองแบบคือเสี้ยมปลายแหลม และเหลาให้บางคมหยักเป็นเงี่ยง หญิงสาวให้ทำไว้หนึ่งร้อยดอกเพื่อว่าหากทำหายจะได้ไม่เสียเวลามาทำเพิ่มบ่อยนักเมื่อทำเสร็จนางได้ให้บ่าวชายทดลองยิงดูปรากฏว่าได้ผลดีทีเดียว ทุกคนต่างชอบมาก เพราะไม่เปลืองแรงลงไปจับปลาในน้ำให้เหนื่อยอีกด้วยประจวบเหมาะที่หวังอี้หลินกลับมาจากส่งสุราในเมือง เขาเห็นบ่าวชายกำลังใช้บางสิ่งที่ในมือกำลังยิงลูกดอกลงไปในน้ำ เขาจึงได้เดินเข้าไปดูอย่างสนใจ เขามิเคยเห็นอาวุธเช่นนี้มาก่อน บ่าวชายพวกนั้นไปได้มาจากที่ใดกัน“นั่นพวกเจ้าถือสิ่งใดอยู่”“เรียนนายท่าน สิ่งนี้เรียกว่าหน้าไม้ขอรับ” บ่าวชายคนที่ถือหน้าไม้ในมือได้ตอบ พร้อมทั้งยื่นให้หวังอี้หลินได้สำรวจ“พวกเจ้าได้มาจากที่ใดกัน บอกข้าได้หรือไม่” หากมีเจ้าสิ่งนี้จะดีไม่น้อย“นายหญิงเป็นผู้คิด และสั่งให้พวกข้าทำไว้ใช้จับปลาขอรับ” ยังเป็นบ่าวชายคนเดิม ที่ตอบคำถามของเจ้านายเช่นเดิม“เช่นนั้นข้าขออันหนึ่งได้หรือไม่”“ได้ขอรับ นายหญิงให้ทำไว้ห้าอัน พวกเราเอาไปเก็บไว้ในโรงเก็บอุปกรณ์ทำสวนขอรับ”“อืม เช่นนั้นพวกเจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะข้าจะเข้าเรือนแล้ว” ภรรยาของเขาช่างฉลาดนัก นางช่
หยุนชิงตื่นขึ้นมาในตอนสายของอีกวันด้วยอาการเมาค้าง และปวดเมื่อยตามเนื้อตัว นางจำได้ว่าตนเองหลังจากถูกสามีอุ้มเข้าไปนอนในห้อง นางกลับนึกสนุกอยากแกล้งสามีจากนั้นจำอะไรไม่ได้เลย“ทำไมขาข้ามันสั่นแบบนี้ แถมเนื้อตัวมีแต่รอยข้าไปโดนอะไรกัดมา” เมื่อลุกขึ้นยืนได้มั่นคงแล้วสำรวจตัวอยู่สักพักกลับพบว่าเนื้อตัวมีแต่รอยเต็มไปหมด แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับตัวนางกันแน่หลังจากที่หอบร่างที่อ่อนแรงของตนเอง ไปอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จสิ้น หยุนชิงจึงได้เดินออกมาจากห้อง เพราะนี่ก็คงจะยามซื่อแล้ว (09.00-10.59 น.) ทุกคนคงจะออกไปทำงานกันหมดแล้ว“นายหญิงตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้ากำลังจะเอาน้ำแกงสร่างเมาไปให้ นายท่านสั่งไว้ว่านายหญิงตื่นเมื่อไร ให้เอาไปให้ดื่มเจ้าค่ะ” อาเล่อที่เดินออกมาจากห้องครัว เพื่อไปเอาน้ำแกงสร่างเมามาให้นายหญิงดื่ม เดินออกมานางก็เจอเข้ากับผู้เป็นนายนั่งคลึงขมับอยู่ที่โต๊ะในห้องรับแขกพอดี“ข้าปวดหัวมากเลยอาเล่อ แล้วท่านพี่ไปไหนหรือ” อดไม่ได้ที่จะถามถึงสามีตัวดี ต้องเป็นเขาแน่ที่ทำให้นางมีสภาพเช่นนี้“นายท่านออกไปส่งสุราในเมืองเจ้าค่ะ” อาเล่อพูดพร้อมกับส่งถ้วยน้ำแกงให้กับผู้เป็นนายดื่มหยุนชิงดื่มน้
หญิงสาวมอมเมาสามีจนชายหนุ่มถึงกับครางออกมาไม่หยุด ก่อนที่ร่างหนาจะเสร็จสมอารมณ์ ร่างบางตรงหน้ากลับหยุดการกระทำนั้น ตอนนี้เขาอยากจะรู้ว่านางจะทำสิ่งใดต่อไป ด้วยประกายตาวิบวับเขาหวังว่าจะเป็นอย่างที่คิดแล้วก็เป็นอย่างที่ชายหนุ่มหวัง ร่างบางค่อยๆ เคลื่อนตัวเองมานั่งทับ พร้อมกับจับตัวตนของสามีจ่อเข้าที่กลีบกุหลาบงามที่กำลังฉ่ำน้ำ นางค่อย ๆ สอดใส่เข้าไปจนทั้งสองประสานกัน พร้อมกับขยับโยกขึ้นลงหยุนชิงตอนนี้ก็เริ่มครางออกมาอย่างไม่ได้ศัพท์เช่นกัน จากตอนแรกที่นางขยับขึ้นลงช้า ๆ เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชิน ก็เป็นแรงขึ้นเร็วขึ้นเพียงไม่นานร่างทั้งสองกระตุกสองสามครั้งชายหนุ่มพ่นน้ำขาวขุนใส่ภายในภรรยาจนหมด หยุนชิงเมื่อถึงฝั่งฝันอย่างสุขสม นางหมดแรงหอบหายใจพิงร่างหนาอย่างเหนื่อยอ่อน“ท่านพี่ข้าไม่ไหวแล้วข้านอนเลยได้หรือไม่” เมื่อปรับลมหายใจได้เป็นปกติแล้ว หยุนชิงจึงเอ่ยปากถามสามี นางเหนื่อยมากหากให้ไปอาบน้ำตอนนี้คงไม่ไหวแน่“ได้สิ เจ้านอนไปเลยที่เหลือพี่ทำเอง”จากนั้นร่างหนาจับพลิกตัวภรรยาให้อยู่ในท่าคลานเข่า ทั้งที่ทั้งสองยังไม่แยกจากกันพร้อมกับสองมือจับที่เอวบาง แล้วขยับโยกตามอารมณ์ดิบ ที่ไม่อาจอด
หวังอี้หลินอุ้มภรรยาที่เมาหลับไปมาวางบนเตียง จัดท่าทางให้นางนอนสบายที่สุด จากนั้นเขาจึงได้เดินหายเข้าไปที่หลังฉากกั้น เพื่อตักน้ำใส่ถังเล็กพร้อมผ้าหนึ่งผืนหนึ่ง เพื่อมาเช็ดตัวให้ภรรยาก่อนจะได้สบายตัวเวลานอนแต่เมื่อเขาเดินออกมาจากฉากกั้น ชายหนุ่มถึงกับแทบหยุดหายใจ เหตุใดภรรยาเขาช่างยั่วยวนนัก ภาพที่เขาเห็นคือร่างบางของภรรยานอนตะแคงเท้าแขนมองมาที่เขา ด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม เสื้อผ้าหลุดลุ่ยด้านบนเหลือเพียงเอี๊ยมตัวเล็กสีเหลืองอ่อน เปิดเผยเนินอกอวบอิ่ม มืออีกข้างนางวางไว้บนต้นขาที่กระโปรงร่นขึ้น เปิดเผยจนเกือบจะเห็นเนินเนื้อสาวหวังอี้หลินเริ่มลำคอแห้งผาก จนต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก มือที่ถือถังน้ำเริ่มสั่นแทบจะทำร่วงหลุดมือ“ท่านพี่ข้าร้อนจังเลยเจ้าค่ะ” หยุนชิงกัดปากขยิบตาให้สามี พร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกให้ชายหนุ่มเดินเข้ามาหา“พี่ว่าเจ้าเช็ดตัวก่อนดีหรือไม่ จะได้สบายตัว” เขาได้แต่บอกตัวเองว่าให้อดทนไว้ อดทนไว้ นางเมาไม่มีสติเขาไม่อยากฉวยโอกาสตอนนางเมา“ท่านช่วยเช็ดตัวให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ”“ได้สิ เจ้าลุกขึ้นมานั่งดี ๆ พี่จะเช็ดตัวให้” ชายหนุ่มวางถังน้ำไว้บนหัวเตียง แล้ว
งานวันเกิดของอาจูน้อยดำเนินไปอย่างอบอุ่น จัดเพียงงานเล็ก ๆ มีแค่คนในครอบครัวและบ่าวไพร่เท่านั้น หวังอี้หลินอนุญาตให้บ่าวทุกคนดื่มกินได้เต็มที่ อีกทั้งยังให้เหล้าสาโทที่กำลังเป็นที่นิยมกันตอนนี้ ให้พวกเขาไปดื่มกินอย่างไม่หวงของ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามมีเรื่องทะเลาะกัน คนไหนที่เข้าเวรยาม ก็ให้เก็บอาหารไว้กินได้เมื่อตอนสับเปลี่ยนเวรยามแล้วบ่าวทุกคนต่างก็ดีใจเพราะแต่ละคนเป็นเพียงคนเร่ร่อนบ้างเป็นขอทาน หรือแม้แต่คนที่ถูกคนในครอบครัวขับไล่ออกมา การได้มาอยู่ที่นี่ถือว่าโชคดีของพวกเขามาก มีที่อุ่น ๆ ให้หลับนอน อาหารให้อิ่มท้องทั้งสามมื้อ และยังมีเงินค่าแรงให้อีกด้วย ทุกคนที่ได้มาอยู่ที่นี่จึงตอบแทนด้วยการขยันซื่อสัตย์และภักดีงานเลี้ยงก็ได้ดำเนินมาถึงตอนที่จะมอบของขวัญให้กับสาวน้อยของบ้าน โดยมีหยุนชิงมอบกระเป๋าใบเล็กสีชมพูหวานให้กับอาจูน้อย“แม่ขอให้ลูกมีแต่ความสุขเติบโตสมบูรณ์พร้อมด้วยความดี ความงาม และความรัก” หญิงสาวยื่นกระเป๋าให้พร้อมทั้งอวยพรและหอมแก้มยุ้ยของอาจูหนึ่งที“พ่อขอให้เจ้าเป็นที่รักของทุกคน และจงเติบโตอย่างมีความสุข หยกนี้พ่อมอบให้เจ้า จงเก็บรักษามันไว้ให้ดี” หวังอี้หลินถักเชือกเป
“ชิงเอ๋อร์ เจ้าทำอันใดอยู่หรือ” หวังอี้หลินเห็นภรรยานั่งเย็บผ้าอยู่นานสองนาน ตั้งแต่ตอนที่เขาเข้าไปอาบน้ำจนตอนนี้ได้เวลาเข้านอนเขาก็ยังเห็นภรรยานั่งทำไม่เสร็จสักที“ข้ากำลังเย็บกระเป๋าผ้าให้เป็นของขวัญวันเกินอาจูเจ้าค่ะ” หญิงสาวละสายตาจากงานปักตรงหน้ามาคุยกับสามี อีกเพียงเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อยก็จะเสร็จแล้วกระเป๋าที่หยุนชิงกำลังทำอยู่นั้นขนาดไม่ใหญ่เป็นสีชมพูอ่อน ปักเป็นรูปกิ่งดอกเหมยตามกิ่งจะมีดอกไม้น่ารักสีขาว แต่ส่วนที่เป็นดอกไม้หญิงสาวใช้การตัดผ้าเป็นรูปดอกแทนการใช้ปัก นำมาเป็นการเย็บดอกไม้ติดแทน ส่วนปากกระเป๋านางใช้เป็นเชือกสีขาวร้อยเข้าไปไว้สำหรับรูดมัดปากกระเป๋า ส่วนปลายเชือกทำเป็นพู่เล็กน่ารัก ๆ แทนหยุนชิงได้เย็บสายกระเป๋าไว้ด้านข้างเพื่อไว้สำหรับสะพายอีกด้วย เพราะเท่าที่นางเห็นส่วนมาก จะมีเพียงแค่ใช้เชือกมัดดึงตรงปากกระเป๋า แล้วใช้ถือเอามากกว่าสะพายด้านข้างกัน“พี่ไม่เคยเห็นผู้ใดจัดงานวันเกิดและให้ของขวัญ ที่นี่วันเกิดก็เหมือนดังเช่นวันปกติธรรมดา แล้วที่ที่เจ้าจากมาเขาทำเช่นนี้หรือ”“เจ้าค่ะ ทุกปีข้าจะจัดงานเล็ก ๆ มีเพื่อนสนิท ป๊า ม้า ร้องเพลงวันเกิดแล้วก็ให้ของขวัญ” หญิง
“ท่านแม่อาจูอยากดื่มบ้างเจ้าค่ะ” เด็กน้อยอ้วนกลมที่เห็นผู้ใหญ่ดื่มกันอย่างอร่อย ก็แหงนหน้าจนคอตั้งมองคนนั้นทีคนนี้ทีจนอดทนไม่ไหวอยากจะลิ้มลองบ้าง“เอาไว้ให้เจ้าโตเป็นผู้ใหญ่เจ้าถึงจะดื่มได้เข้าใจหรือไม่” หวังอี้หลินเป็นคนที่บอกบุตรสาว“ทำไมต้องโตก่อนเจ้าคะ”“เพราะว่าสุราเป็นของต้องห้ามของเด็ก”“ทำไมถึงห้ามเด็กกินเจ้าคะ”เมื่อโดนถามเช่นนี้ชายหนุ่มได้แต่อึกอักไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี ก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากภรรยา แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือ ทุกคนต่างทำเป็นไม่สนใจเขาสักคน จนคนที่ถูกถามอย่างเขาทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก“เออ พ่อว่าเอาเป็นว่าเด็กห้ามกินเข้าใจหรือไม่” ในเมื่ออธิบายไม่ได้ก็เอาเช่นนี้แล้วกันหลังจากที่ได้ยินคำตอบจากชายหนุ่มทุกคนต่างหัวเราะกันยกใหญ่ ไม่คิดว่าคนหน้านิ่งพอถูกเจ้าเด็กดื้อถามกลับมีสีหน้าที่ดูน่าขันเช่นนี้ได้ตกลงกันได้แล้วว่าจะทำสุราหมักขายสองสามีภรรยาจึงได้นั่งเกวียนเข้าเมือง เพื่อจะหาทำเลสร้างร้านจนไปเจอกับร้านขายซาลาเปาหัวมุมตลาดที่ประกาศขาย เพราะเจ้าของนั้นจะย้ายไปอยู่กับลูกหลานที่ต่างเมือง จึงตกลงซื้อขายกันด้วยจำนวนเงินสองร้อยตำลึงเมื่อได้ร้านตามต้องการ
จากวันที่หยุนชิงกับเผยอวี้มีเรื่องทะเลาะกันวันนั้น กลายเป็นเรื่องพูดคุยกันของชาวบ้านเป็นอย่างมาก แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นพูดกันถึงเรื่อง ความหึงหวงตามประสาสามีภรรยาที่มีเรื่องหญิงอื่นเข้ามาข้องเกี่ยวแต่หากใครจะไปคาดคิดเพราะหลังจากที่มีเรื่องได้ไม่นาน เถ้าแก่ร้านเขียงหมูผู้ฐานะดีที่อยู่ในเมืองได้มาสู่ขอเผยอวี้ไปเป็นอนุคนที่หกเถ้าแก่ร้านเขียงหมูผู้นี้เป็นที่เล่าลือกันมาก เพราะเป็นคนขึ้นชื่อเรื่องการข่มเหงและทุบตีภรรยาหากไม่ได้ดั่งใจ จนภรรยาเอกถึงกับหนีไปออกบวช อีกทั้งยังมีรูปโฉมอัปลักษณ์ตัวอ้วนฉุ ถึงแม้เผยอวี้จะไม่ยอมและอาละวาด หากแต่ครอบครัวนางได้ตกลงยกนางให้กับเถ้าแก่เขียงหมูไปแล้ว เพราะเห็นแก่เงินทองที่อีกฝ่ายเสนอให้ถึงแม้จะเป็นที่ฮือฮาในหมู่บ้าน แต่บ้านตระกูลหวังกลับใช้ชีวิตปกติไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องของเผยอวี้อีกเลย เพราะด้วยต่างคิดว่าเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีกแต่ก็ยังมีข่าวให้ได้ยินกันอยู่เรื่อย ๆ ว่าหลังจากที่เข้าไปเป็นอนุภรรยาคนที่หก เผยอวี้ก็ไม่ได้มีชีวิตที่สงบสุข อีกทั้งการแก่งแย่งชิงดีของภรรยาทั้งหลาย ยังต้องรองรับกับอารมณ์หื่นกามของเ
“ที่พี่อี้หลินไม่บอกเจ้าเขาก็แค่สงสารเท่านั้นแหละ พี่อี้หลินบอกกับข้าให้ข้ารออีกสักหน่อย จะรับข้าเข้าเรือนจากนั้นก็จะเขี่ยเจ้าออกไปจากชีวิต ที่ตอนนี้ยังไม่ตบแต่งข้าเข้ามา เพราะกลัวจะเป็นที่ครหาว่าพอร่ำรวยก็รับภรรยาเข้าบ้านอีกคน” เผยอวี้ทำหน้าเย้ยหยันหยุนชิงอย่างเป็นต่อ พร้อมกับเดินเข้าไปหาอย่างช้า ๆ เพื่อข่มขวัญอีกฝ่าย“เจ้านี่ช่างฝันกลางวันซะจริง ไม่มีชายคนไหนรับสตรีมีพิษเช่นเจ้าเข้าบ้านหรอกนะ ข้าได้ยินว่าที่เจ้ายังมิได้ออกเรือนทุกวันนี้ก็เพราะชาวบ้านเขาเหม็นเบื่อเจ้า จนไม่มีบ้านใดส่งแม่สื่อสู่ขอเจ้ามิใช่หรือ”เผยอวี้เมื่อได้ฟังอีกฝ่ายตอบกลับได้โมโหจนสติแตก ยกมือขึ้นหมายจะฟาดหน้าอีกฝ่ายให้เต็มแรง แต่มีหรือที่หยุนชิงจะไม่รู้นางตั้งท่ารอรับอยู่แล้ว ก่อนที่ฝ่ามือของเผยอวี้จะฟาดเข้าที่แก้มของหยุนชิง ร่างบางจับมือข้างนั้นไว้ทันท่วงทีก่อนมืออีกข้างจะสวนหมัดเข้าเต็มหน้าของเผยอวี้เข้าเต็มเปา เผยอวี้จึงได้ล้มลงไปกองกับพื้นนั่งกุมจมูกตนเอง มีเลือดสีแดงฉานไหลออกมา“เกิดอะไรขึ้น” หวังอี้หลินที่วิ่งหน้าตาตื่นมาจากในไร่ หลังจากมีคนไปแจ้งเขาว่า เผยอวี้กับภรรยาเขากำลังทะเลาะกันที่ศาลาหน้าบ้าน“ฮือ พ