Home / โรแมนติก / ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย / บทที่ 7 อย่ามาแสดงละคร

Share

บทที่ 7 อย่ามาแสดงละคร

last update Last Updated: 2025-08-05 23:55:58

ร่างสูงอันสง่าผ่าเผยของหมอไป๋ สวมชุดกาวน์สีขาวประจำกายในมือถือชาร์ตคนไข้ ตรวจเช็คอาการหลังผ่าตัดบายพาสหัวใจของท่านวิโรจน์ผ่านพ้นไปด้วยดี

ชายแก่สีผมดอกเลาอายุเจ็ดสิบปี กำลังนั่งรับประทานกับข้าวรสชาติอ่อนของโรงพยาบาล ร่างกายพักฟื้นได้เร็วและดีกว่าที่คิด ตอนนี้นั่งยิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยเป็นปกติดี

“ร่างกายฝืนตัวดีเลยนะครับท่าน..” หมอไป๋ไล่สายตาอ่านชาร์ตในมือ พลางพยักหน้าขึ้นลงกับอาการดีกว่าที่คิดไว้

หลังการผ่าตัดบายพาสหัวใจ หมอไป๋ก็คงจะแนะนำให้ดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการรับประทานกอปรกับการบริหารสภาพจิตใจให้ผ่อนคลายอยู่เสมอ

“ช่วงนี้ให้เลี่ยงการคิดมากหน่อยก็ดีนะครับ ร่างกายจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น... ขอความร่วมมืองดสูบบุหรี่ด้วยครับ”

เมื่อพูดจบหมอไป๋ก็ลดมือที่ถือชาร์ตลงข้างลำตัว สายตาสบมองท่านวิโรจน์ที่มีลูกน้องชุดดำสองคนเฝ้าประจำกาย

“คุณหมอทำได้ดีมาก รับนี่ไปสิเป็นสินน้ำใจจากฉัน”

ท่านวิโรจน์พยักพเยิดหน้าให้ลูกน้องนำกระเช้าที่เตรียมไว้ให้หมอไป๋ แนบซองสีขาวที่เป็นเช็คเงินสดจำนวนหนึ่ง ซึ่งหมอไป๋ก็รีบโบกมือปฏิเสธที่จะรับในทันที

“ไม่เป็นไรครับ ผมรับไว้ไม่ได้หรอก” เขาพูดแล้วค้อมศีรษะอย่างนอบน้อมต่อผู้หลักผู้ใหญ่

“ได้ยังไงล่ะ หมอยื้อชีวิตฉันจากยมโลกเชียวนะ” ชายแก่หัวเราะเสียงแหบกังวานตามอายุที่มากขึ้นในลำคอ

“ผมเป็นหมอก็มีหน้าที่รักษาคนไข้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีสินน้ำใจหรอกครับท่านวิโรจน์”

“เถอะน่า รับไปเถอะคุณหมอ”

“ไม่ได้จริงๆ ครับท่านต้องขอโทษด้วย”

อีกครั้งที่หมอไป๋โคลงลำตัวแสดงเจตจำนงของตน ไม่ได้มีจุดประสงค์จะรับสินบนหรือสินน้ำใจจากคนไข้ เพราะหน้าที่การรักษาล้วนเป็นจรรยาบรรณพื้นฐานของแพทย์อยู่แล้ว

“งั้นถือซะว่านี่เป็นของขวัญจากฉันก็แล้วกัน”

“ผมรับไว้ไม่ได้จริงๆ ยังไงก็ไม่ได้ครับ”

“คุณหมออย่าดื้อด้านนักสิ ช่วยไม้ใกล้ฝั่งอย่างฉันให้มีชีวิตอยู่ถึงทุกวันนี้ จะให้ฉันปล่อยผ่านไปง่ายๆ ได้ยังไง”

ใบหน้าหล่อเหลาที่ก้มมองพื้นค่อยๆ เงยขึ้นสบมองกับท่านวิโรจน์บนเตียง พลางส่งสายตามองชายชุดดำที่ยื่นกระเช้าให้

ลูกน้องของท่านวิโรจน์ก้มหัวรับคำสั่ง ก่อนจะก้าวเท้าถอยหลังกลับไป แม้ตัวเขาจะไม่ได้เอื้อนเอ่ยสักคำเดียว แต่สายตาก็เป็นประกาศิตว่าหมอไป๋ไม่รับสินน้ำใจจากการรักษา

“อย่าทำให้ผมลำบากใจดีกว่าครับ ถือว่าผมขอร้อง” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แววตาเจือรอยจริงจังอันแน่วแน่

“ดื้อด้านซะจริง” ท่านวิโรจน์ยิ้มแล้วส่ายหน้าช้าๆ

หมอไป๋ยิ้มรับที่อีกฝ่ายยอมเคารพการตัดสินใจ อย่างที่บอกไปว่าเขาเป็นหมอและหน้าที่คือการรักษา ไม่ว่าจะชนชั้นวรรณะไหนปลายทางสุดท้ายคือช่วยชีวิตคนไข้ให้ได้

“ได้ข่าวแว่วมาว่าจะแต่งเมียใช่มั้ยล่ะ” ท่านวิโรจน์วางช้อนในมือลง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาขณะพูดคุยกับหมอไป๋

“ครับ ผมหวังว่าท่านจะไปร่วมยินดีด้วย”

“ฉันก็ต้องไปดูหน้าตาเมียของหมออยู่แล้วสิ”

สายตาของชายแก่ดูรู้เชิงของหมอไป๋ดี ผู้ชายบ้างานทั้งเคร่งครัดกับชีวิตจะแต่งภรรยาสายฟ้าแล่บ ถ้าหากไม่ใช่เพราะหน้าที่และผลประโยชน์คงเห็นเขาครองโสดไปจนแก่

“หมดหน้าที่แล้ว... ถ้างั้นผมขอตัวนะครับท่าน” สองแขนเขาแนบข้างลำตัวแล้วก้มศีรษะลาท่านผู้อาวุโส

ท่านวิโรจน์ยิ้มรับอย่างเอ็นดู พลางพเยิดหน้าให้ลูกน้องไปส่งหมอไป๋ที่ประตู แต่เขายกมือปรามแล้วเดินออกไปเอง

ใครก็ร่ำลือว่าซ่งไป๋เป็นหมอมาเฟีย วาจาดุดันประกอบกับสายตาที่น่าเกรงขาม ทำให้ใครต่างก็ให้ความเกรงใจ เวลาเข้าห้องผ่าตัดทีเหมือนเข้าห้องเชือดที่เย็นเยียบราวกับหมอกพิษ

การขนานนามนี้ ไม่ใช่ว่าหมอไป๋ทำงานที่ผิดกฎหมายหรือละเมิดสิทธิ์ใคร แต่เพราะเป็นคนห่ามและจริงจังมากเวลางาน

ฉายาประจำตัวคือกล้ามเนื้อคิ้วของห้องผ่าตัด...

เพราะอาการของเขาเวลาที่ทำการผ่าตัด มักจะขมวดคิ้วเครียดแทบจะมีกล้ามขึ้นที่หว่างคิ้ว คนรอบข้างก็พลอยถูกรังสีอำมหิตนี้ปกคลุมให้เกร็งเครียดไปด้วย

เรื่องอื่นเขายอมลดหย่อนอนุโลมให้ได้ แต่ยกเว้นกับการรักษาผู้ป่วย เวลาอยู่หน้างานต้องไม่มีโอกาสผิดพลาดเลย

การทำงานรักษาชีวิตของผู้ป่วย คือความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของการเป็นหมอ เขารักและศรัทธาในอาชีพนี้ ซึ่งเขาจะไม่เป็นหมอผู้ทำผิดศีลธรรมโดยเด็ดขาด

“ไป๋...”

ท่อนขายาวของหมอไป๋ที่ก้าวฉับไวชะงักลง เมื่อหญิงสาวร่างระหงเดินมาขวางทางเขาเอาไว้

หัวใจเขาหล่นวูบในฉับพลัน อาการร้อนวูบวาบวิ่งผ่านตั้งแต่ปลายเท้าถึงกลางอก เมื่อสายตาสบประสานกับหญิงคนรักเก่าที่เขาคิดจะลืมมาตลอด

ทั้งรักทั้งแค้นมันจุกอกแบบนี้แหละ...

หมอไป๋ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยนั้นสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัวไว้ ก่อนจะเบนสายตาหนีไปทางอื่น แล้วเดินเบี่ยงหลบเหมยหลินราวกับธาตุอากาศ

“เดี๋ยวก่อนสิไป๋ หลินมีเรื่องอยากปรึกษา”

“มีอะไร”

“หลินอยากปรึกษาเรื่องการมีลูก...”

หญิงสาวใบหน้าสะสวยดูอึดอัดใจ มือประสานไว้ด้านหน้าแล้วมองเขาอย่างเว้าวอน

แต่เธอจะมาปรึกษาเขาทำไมกันล่ะ ในฐานะคนรักเก่าหรือภรรยาของน้องชายต่างมารดากัน

“ไปแผนกสูตินรีเวช ไม่ใช่มาปรึกษาฉัน” หมอไป๋ขบกรามแน่นแล้วเผลอกำหมัดเข้าหากัน

“แต่หลินไว้ใจไป๋ที่สุดนี่คะ”

“หลบไปได้แล้ว”

“เราสองคนลองคุยกันดีๆ ไม่ได้เหรอไป๋ ยังไงเราก็คนในครอบครัวเดียวกันแล้วนะคะ”

เสียงของเหมยหลินกระแทกโสตประสาทเขา แต่หมอไป๋ทำแค่เหยียดสายตามองอีกฝ่าย สีหน้าไร้อารมณ์ใดๆ อย่างสิ้นเชิง

“อย่ามาเล่นละครตรงนี้ ที่นี่ไม่มีกล้องสำหรับนักแสดง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 67 รักเก่ากับภรรยาใหม่

    ชีวิตของหมอไป๋ วนเวียนอยู่กับสองสาวแทบทั้งวัน แต่ส่วนใหญ่เขาจะคอยดูแลเหมยหลินมากกว่า แค่เพราะรู้สึกผิด ที่ไม่สามารถปกป้องเธอไว้ได้จนพลั้งเผลอไปตกหลุมพราง น้องชายสารเลวอย่างเพชรเพทายเหมยหลินเริ่มเบื่อรายการโทรทัศน์ตรงหน้า ยาคลายกังวลที่กินไปก่อนหน้านี้ เริ่มออกฤทธิ์ให้เธอง่วงงุนอยากนอน“ไป๋คะ”“หือ”“คุณชาเขาจะโกรธหลินไหม... หลินมาอยู่แบบนี้”เหมยหลินวางมือบนตักหมอไป๋ เขาหลุบตามองนิ่งๆ ก่อนจับมือบางไปวางไว้ที่ตักเธอแทน พลางลดหนังสือที่อ่านอยู่ลงเล็กน้อยวันนี้เขาไม่มีเคสผ่าตัด เวลาว่างจึงใช้ไปกับการอยู่บ้าน อ่านหนังสือที่อ่านค้างไว้ยังไม่จบ แล้วก็คอยนั่งเป็นเพื่อนเหมยหลิน ตามประกบดูแลอย่างใกล้ชิดตามคำสั่งแพทย์ไม่งั้นเธออาจจะคิดไม่ดีขึ้นมาอีกก็ได้...“อย่าห่วงเลย ภารัชชาไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอะไร”“ผู้หญิงเราก็คิดเล็กคิดน้อยกันทั้งนั้นค่ะไป๋”เขามุ่นคิ้วคิดไม่ตก จะคิดอะไรให้มากมาย ในเมื่อเขาให้เธอมาอยู่ในฐานะเพื่อน ไม่ได้เอามาเป็นเมียเพิ่มสักหน่อย“แต่ภารัชชา...”“ไป๋รู้จักเธอดีจังนะคะ”ใบหน้าขาวระบายยิ้มอ่อนๆ ต่อให้เหมยหลินรู้สึกดีกับซ่งไป๋ แต่เธอเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกันดี ไม่มีหรอ

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 66 อย่าให้ภรรยาหมดใจ

    โรงพยาบาลซ่งไป๋เฝ้าอยู่ข้างเตียงเหมยหลิน เธอจมดิ่งสู้ห้วงนิทรา หลังเอาแต่นั่งร้องไห้จนตัวสั่นโยน สุดท้ายก็ผล็อยหลับไป เพราะคุณหมอให้ทานยาจะได้คลายกังวลก่อนหน้านี้ เธอโทรมาหาเสียงสั่นเครือท่าไม่ค่อยดี ดูหวาดระแวงว่าเพชรเพทายจะทำร้าย เพราะสามีเป็นคนโมโหร้ายใช่ย่อย“ไป๋... เหมยหลินกลัว ฮึก คุณเพชรอารมณ์ไม่ดีเลย ฮือ”สามีเธอคงจะคลั่งปนคับแค้บใจ หลังลูกในไส้หลุดไปก่อนกำหนดเหมยหลินผู้เป็นภรรยา ถึงได้โทรหาให้เขาพาออกมา สุดท้ายเธอก็มีอาการวิตกกังวลหนัก เขาเลยอยากให้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดหรือไม่ ทางที่ดีควรจะพบหมอทางใจสักหน่อย เผื่ออาการที่เป็นจะพาลให้บรรเทา ทุเลาทุกความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้บ้าง“ภารัชชา...”อยู่ดีไม่ว่าดี เขากลับนึกถึงภรรยาที่ไม่คิดจะรักขึ้นมา พลางยกข้อมือขึ้นดูเวลาที่นาฬิกา ดึกดื่นจนป่านนี้แล้ว เธอคงเปิดไฟนอนสบายใจเฉิบสิท่า ไม่ต้องมาระแวงว่าเขาจะกลั่นแกล้งปิดไฟใส่“ถ้าฉันไม่ใช่ลูกสาวของภรรยารอง...”“ฮึก ...ฉันจะถูกรักบ้างมั้ยคะ”คืนนั้น ภรรยาฝีปากกล้าร่ำไห้โฮ ตัดพ้อที่ไม่เคยเป็นคนถูกรัก ปกติทีท่าเย่อหยิ่งและถือดีเป็นที่หนึ่ง พอเขาได้เห็นว่าเธอร้องไห้เป็น หัวใ

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 65 อีกหนึ่งชีวิตในท้อง

    ภารัชชาไม่พูดไม่จาสักคำตั้งแต่เข้าห้องมา นอกจากนั่งกอดเข่าร้องไห้ คุดคู้อยู่บนโซฟาปล่อยโฮจนตัวสั่นโยนเจ้าของห้องอย่างสิบทิศ หยิบยื่นกระดาษให้เธอซับน้ำตา นั่งจมจ่อมอยู่ข้างอีกฝ่ายตั้งแต่สิบห้านาทีก่อน ไม่กล้าถามไถ่ถ้าเธอไม่เล่า เขาก็เลยทำได้แค่นั่งรอให้พายุความเศร้าสงบลงเท่านั้น“น้ำ... น้ำไหมน้องชา”“เอาค่ะ ฮึก ขอบคุณค่ะ”เธอพยักหน้าหงึกหงัก แต่ยังหยุดเสียงสะอื้นร้องไห้ไม่ได้เสียน้ำตาไปก็เยอะ ร้องจนเสียงแหบแห้ง ขอเติมน้ำเข้าไปหน่อยจะได้ช่วยหล่อเลี้ยง ไม่ให้น้ำหมดตัวเพราะเสียน้ำตาเท่าโอ่งซะก่อนสิบทิศรอให้ภารัชชาร้องไห้อย่างใจเย็น แม้จะร้อนรุ่มอยากรู้ก็ตามที เขาเดินเข้าไปเอาผ้าผืนเล็ก ถึงไม่รู้อะไรนำพาเธอให้มาหาเขา อีกทั้งยังตากฝนตัวเปียกมาอีกต่างหากแต่เขาจะไม่ถาม รอให้เธอใจเย็นลงกว่านี้อีกหน่อย“พี่ขอเช็ดให้นะ” เขาพูดขึ้นเบาๆ พอเธอไม่ปฏิเสธ เขาก็จัดการใช้ผ้าซับเส้นผมที่เปียกน้ำฝนให้อย่างเบามือความรักไม่เคยง่ายเลย...โดยเฉพาะการเป็นคนไม่ถูกรัก ไม่ง่ายสำหรับเธอเลยสักนิดภารัชชาเพิ่งเข้าใจก็วันนี้ อาการเจ็บชาในหัวใจมันเป็นยังไง เวลานึกถึงภาพของคนที่ไม่รักกัน เหมือนถูกของแหลมคมกรีดซ้ำ

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 64 โลกทั้งใบพังทลาย

    รถยนต์คันหรูจอดเทียบข้างฟุตบาธ ไม่มีประโยครั้งจากสามี เธอจึงทำได้แค่เดินลงจากรถแล้วมองเขาไกลสายตาออกไปคนเก่าเขาคงสำคัญกว่า...ภารัชชาอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงหมดปาก มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องคิดวกวนให้ซ้ำเติมตัวเองเลยเราทั้งคู่จะกลายเป็นคนรักกันได้ยังไง ในเมื่อคนเป็นสามีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอแพ้กุ้ง ที่ผ่านมามันก็แค่ความอ่อนไหวชั่วครู่ชั่วคราว เวลาเธอเศร้าหรือไม่มีใคร เขาเป็นเพียงแค่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ต่างจากคนที่กำลังจะจมน้ำ ไขว่คว้าทุกอย่างที่เกาะได้นั่นแหละกลับบ้าน...ความหมายคือกลับบ้านที่เคยอยู่ ไม่ใช่เพนส์เฮ้าส์ของซ่งไป๋ ภารัชชานั่งรถมาลงที่บ้านสกุลนาวารีรักษ์ คนแรกที่นึกถึงคือแม่ ถึงแม้ตั้งแต่เกิดมาจะไม่เคยสัมผัสคำว่าความอบอุ่นก็ตามแต่เธอยังหวังว่าแม่จะแบ่งปันมาให้บ้างในสักวัน...ร่างบางเดินลากเท้าเอื่อยเฉื่อยเข้ามาในบ้าน หันไปยกมือไหว้แม่นมที่เคยเลี้ยง แต่กลับไม่พบคนอื่นอยู่ในบ้านแล้ว อาจเป็นเพราะเวลานี้คือทุ่มกว่า ทุกคนคงแยกย้ายกันกลับไปในพื้นที่ของตัวเอง“แม่คะ...” เธอคลี่รอยยิ้มเศร้า เหม่อมองแม่ที่เดินลงมาจากบันไดบ้านชั้นสองพอดีปรางสิตาที่เห็นลูกสาวก็เบิกตาตกใจ พ

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 63 ของตายที่ยังหายใจ

    คฤหาสน์ตระกูลซ่งข่าวที่เหมยหลินแท้งลูกไม่ได้ถูกแพร่งพรายออกไป จุดสำคัญคือเธอเป็นนักแสดงมีชื่อเสียง และอีกอย่างคือครอบครัวทั้งสองฝ่ายไม่รับรู้ ไม่มีใครได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหมยหลินในคืนนั้นเพชรเพทายก็ไม่อยากให้ใครรู้เช่นกัน ไม่งั้นคงมีผลต่อกองมรดกในอนาคตอย่างแน่นอนเหมยหลินสูญเสียลูกในท้อง ภารัชชาที่รับรู้ก็เห็นใจ อยากจะไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง แต่เธอคงไม่จำเป็นต้องทำหรอกในเมื่อซ่งไป๋... ออกอาการห่วงกว่าเธออีก“ทานทอดมันกุ้งสิครับ เจ้านี้อร่อยมาก” เพชรเพทายตัดทอดมันกุ้งใส่จานภารัชชา เธอหลุบมองนิ่งๆ ในมือเขี่ยข้าวไม่กินสักที“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มรับ แต่ใช้ช้อนเขี่ยไปไว้ขอบจาน“ผัดผักน้ำมันหอยด้วย...”เขายังตักอาหารใส่จานเธอต่อ ในขณะที่ผู้เป็นสามีเธอ คอยหยิบยกจานอาหารที่เหมยหลินเรียกหาส่งให้ เพชรเพทายคงประชดประชัน ที่ได้เห็นว่าหมอไป๋ใส่ใจภรรยาเขาเป็นพิเศษเพราะงั้นเขาก็จะใส่ใจภรรยาพี่ชายบ้าง...หมอไป๋ปรายตามองภารัชชาที่นั่งก้มหน้าไม่พูดไม่จา เธอแทบจะไม่แตะอาหารบนโต๊ะด้วยซ้ำ ข้าวในจานก็พร่องไปแค่นิดเดียวเอง เขาเอื้อมแขนตักกุ้งคั่วพริกเกลือใส่จานเธอสายตาของซ่งหมิงและหลี่จูมองทุกคนบนโต๊ะ

  • ภรรยาของคุณหมอมาเฟีย   บทที่ 62 อุ่นรักเร่าร้อนบนรถ

    “คุณไป๋อย่าเพิ่งค่ะ...”“เธอไม่อยากจูบฉันเหรอ”เธอผงะใบหน้าถอยหนีเขาที่ยื่นหน้าจะโฉบมาจูบ คำอ้อนวอนขอให้เธอจูบมาจากใจจริง หรือเพียงเพราะเขาเมามายจากไวน์ที่ดื่มไปกันแน่ปกติเขาดื่มเวลามีเรื่องให้เครียด หลายวันมานี้ปัญหาถาโถมเข้ามาพร้อมกันไม่หยุด กอปรกับภรรยานอนหันหลังให้ มิหนำซ้ำยังไม่ได้กินมื้อดึกอย่างที่เคยกินอีกมื้อดึกที่ไม่ได้มีอาหารเป็นส่วนประกอบ แต่เป็นการชิมรสหวานจากตัวของภารัชชาต่างหากเครียดจนต้องรีดน้ำออกสักหน่อยไม่ได้ทำหลายวันคงขุ่นข้นจนคลั่กแน่...“คุณดื่มมาเหรอ” เธอถามเขาเมื่อสังเกตเห็นริ้วสีแดงที่ผิวแก้ม“นิดหน่อย” เขาตอบหน้านิ่ง แต่นัยน์ตาทอประกายวาบหวามภารัชชาหรี่ตาแล้วส่ายหน้าไม่เชื่อที่เขาพูด ดื่มนิดหน่อยแต่ตาหวานเยิ้มมาขนาดนี้ คำว่านิดหน่อยที่พูดคือเหลือไวน์แค่ก้นขวดหรือเปล่า“ภรรยาที่ดีไม่ควรหันหลังให้สามี”“สามีที่ดีก็ไม่ควรผิดนัดภรรยาค่ะ”พอเธอยอกย้อนกลับ เขาก็ชะงักตัวไป เถียงไม่ออกสักคำเมื่อถูกเธอตอกหน้าด้วยความจริงที่เขาผิดสัญญาก่อน“คุณอย่าเอาแต่พูดพร่ำอยากได้ภรรยาที่ดี... แต่หน้าที่การเป็นสามีของคุณบกพร่องเลยค่ะคุณไป๋”ภารัชชาย้ำเตือนความจำให้เขาอีกครั้ง สา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status