คุณไซรัส หรือบิ๊กบอสของใบหม่อน เขาเป็นชาวต่างชาติที่สร้างอาณาจักร Astorial ที่อเมริกาจนมีสาขามากมายทั่วโลก ไซรัสเป็นบุคคลสำคัญอีกคนในชีวิตของเขา แม้จะเคยได้พูดคุยกันแค่ครั้งเดียว แต่ที่ใบหม่อนได้เข้ามาทำงานที่นี่ เพราะการชักชวนและผลักดันจากไซรัส ชายผู้ที่ครั้งหนึ่งได้ฉุดเขาขึ้นมาจากความมืดมิดในชีวิต หลังจากเกือบจะตัดสินใจดับชีวิตตัวเองเพราะปัญหาส่วนตัว เขานับถือไซรัสเป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้เขาลุกขึ้นมามั่นหน้ามั่นโหนกได้จนถึงทุกวันนี้
“พี่ก็พูดอะไรก็ไม่รู้ ยุให้ผมถวายตัวให้คุณไซรัส ถ้าผมได้เป็นเมียเจ้านาย สัญญาเลยว่าจะไล่พี่ออกเป็นคนแรก” ใบหม่อนแกล้งทำหน้าขึงขังพลางยักคิ้วให้พีระ
“ไอ้...” พีระเกือบจะหยุมหัวมันแล้ว ถ้าไม่ติดว่าใบหม่อนจัดทรงผมเรียบร้อยแบบนี้ เขาคงได้กระชากสักทีโทษฐานกวนประสาทไม่เลิก
“ไม่ต้องห่วงนะพี่พี ผมไม่มีความคิดจะปีนเตียงเจ้านายหรอก อีกอย่าง ผมรู้สึกได้ว่าคุณนันท์เป็นคนดีจริง ๆ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย ผมไม่เคยคบใครจริงจังมาก่อน แต่ครั้งนี้ผมอยากลองเปิดใจกับเขาดูสักครั้ง”
พีระถอนหายใจเบา ๆ “เออ ขอให้ไม่นกแล้วกันนะ” เขาพูดพร้อมกับส่งสายตาหมั่นไส้ไปให้ “ขอให้ได้เป็นคุณนายวสุธร ได้แด๊ดดี้อย่างที่ใฝ่ฝัน แล้ววันจันทร์ตอนเช้าอย่าลืมส่งเอกสารให้พี่ด้วยล่ะ”
นั่น ยังไม่ลืมอีกนะ
ออฟฟิศของเขามันก็เป็นแบบนี้นี่แหละ
ค่ำคืนนี้ ใบหม่อนนั่งอยู่ในร้านอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลิน 2 ดาว ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมหรูใจกลางเมือง ใบหม่อนนั่งอย่างสุภาพเรียบร้อย ขัดกับภาพลักษณ์ปากดีมั่นหน้าที่คนใกล้ชิดมักคุ้นเคย หากเพื่อนสนิทอย่างมีนและอิงฟ้ามาเห็นเข้าล่ะก็ คงด่าว่าเขาแอ๊บแอ้แน่นอน แต่จะทำยังไงได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณนันท์ ชายหนุ่มแสนดี เขาก็ทำได้แค่เป็นเด็กดีของแด๊ดดี๊เท่านั้นเอง
วันนี้คุณนันท์สวมสูทสีกรมเนื้อดี ท่าทางของเขาดูผ่อนคลาย แต่ก็แฝงด้วยความเป็นผู้ใหญ่ที่น่าดึงดูด ดูเหมือนเขาจะเพิ่งเลิกงานแล้วตรงดิ่งมาที่ร้พร้อมกับมุ่งหมายให้วสุธรได้หลุดพ้นจากข้ การนั่งทานอาหารมื้อแรกด้วยกัน มันกลับไม่ได้ทำให้ใบหม่อนรู้สึกอึดอัดเลยสักนิด คุณนันท์ช่างเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูสบาย ๆ และปลอดโปร่ง
ใบหม่อนในวันนี้ก็แต่งตัวดูดีไม่แพ้กัน เขาเลือกสวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูพาสเทลที่มีดีเทลเล็ก ๆ ที่ปกและกระดุม เพิ่มความน่ารักและขี้เล่น ท่อนล่างเป็นกางเกงสแล็คสีเทาเข้ารูป ลุคโดยรวมไม่ได้ดูเป็นทางการมากจนเหมือนมาดูแลลูกค้า แต่ก็ไม่เรียบง่ายจนเกินไป ให้เหมาะสมกับสถานที่หรูหราและบรรยากาศการเดทครั้งแรกกับคุณนันท์
ใบหม่อนกำลังตักอาหารเข้าปากอย่างละเมียดละไม เห็นเขาเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ แต่ขอแอบโม้หน่อยว่า จริง ๆ แล้วใบหม่อนนั้นเป็นถึงอดีตคุณหนูที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งช่วงเข้ามหาวิทยาลัยที่บ้านล้มละลาย เขาจึงต้องพลิกชีวิตมาปากกัดตีนถีบเพื่อเอาชีวิตรอด
แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เขาได้รับมาก็ไม่ได้ไร้ค่า ความสามารถด้านภาษาจากการเรียนพิเศษและไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ทำให้เขาได้งานในปัจจุบันที่ต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติ ภาษาที่พูดได้อย่างคล่องแคล่วไม่แพ้ใคร และทักษะมารยาทบนโต๊ะอาหารที่เขาเคยได้เรียนมา ไม่เสียเปล่า เพราะคืนนี้มันถูกนำมาใช้เพื่อพยายามตกชายคนนี้อีกด้วย
“คุณใบหม่อนชอบอาหารฝรั่งเศสเหรอครับ” นันท์เอ่ยถามอย่างสุภาพ ขณะที่ตักอาหารเข้าปากอย่างเรียบง่าย "ครับ พอดีว่าตอนเด็ก ๆ ได้มีโอกาสทานบ่อย คุณพ่อผมชอบตระเวนชิมอาหาร เคยไปร้านมิชลินสตาร์ที่ฝรั่งเศสหลายร้านด้วยครับ" ใบหม่อนตอบเสียงแผ่วเบา ราวกับเป็นคนละคนกับที่เพิ่งเถียงกับพีระที่ออฟฟิศจนคอเป็นเอ็น เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
แน่นอนว่า อยู่ต่อหน้าผู้ชายที่กำลังหมายตา เขาจะทำตัวป่าเถื่อน
ไม่ได้เด็ดขาด
“ผมดีใจนะครับที่พาคุณมากินข้าวด้วยกันแล้วคุณถูกใจร้านนี้ ถือว่ามื้อนี้เป็นการเลี้ยงขอบคุณที่คุณช่วยดูแลเพนท์เฮ้าส์แห่งใหม่ให้กับผมด้วย” นันท์เอ่ยด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี ก่อนจะตักอาหารเข้าปากอีกครั้ง ในขณะที่อีกฝ่ายที่กำลังฉีกยิ้มหวานปั้นหน้าสวยถึงกับอึ้งไป ได้ยินว่ามื้อนี้คือการเลี้ยงขอบคุณ
ไม่ ไม่จริง นี่มันต้องเป็นเดทสิ คนแก่เขาก็มักจะลีลาเยอะแบบนี้แหละ
"ถึงครอบครัวผมจะทำอสังหาริมทรัพย์เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านเดี่ยว ไอ้แบบนั้นผมเห็นจนเอียนแล้วครับ การเปลี่ยนบรรยากาศมาอยู่ตึกสูง ๆ แบบนี้ก็น่าจะปลอดโปร่งดี เหลือแค่เรื่องตกแต่งอีกไม่นานคงเรียบร้อย ใช่ไหมครับ" นันท์พูดต่ออย่างสบาย ๆ
"ครับ ไม่น่าจะเกินสองเดือนก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย รอพวกหินอ่อนจากอิตาลีและแชนเดอเลียร์จากออสเตรียไม่นานครับ" ใบหม่อนตอบด้วยความคล่องแคล่วแบบมืออาชีพ แต่ภายในกลับรู้สึกเหมือนนั่งคุยงานมากกว่าจะมาเดท
"ปกติผมไม่ค่อยได้ดูแลลูกค้าคนไทยเลยครับ คุณนันท์เป็นคนแรก ผมนึกว่าคุณจะลงทุนเพื่อปล่อยเช่าหรือเก็งกำไรเสียอีก" ใบหม่อนพูดออกไปอย่างลื่นไหล
“โอ๊ย ไม่หรอกครับ ผมว่ามันยุ่งยาก แค่บริหารไอ้ที่มีอยู่ในบริษัทก็ปวดหัวจะตายแล้ว เพนท์เฮ้าส์ห้องนี้รวมตกแต่งแค่ร้อยล้าน ผมขอเอามาพักอาศัยเองดีกว่าครับ”
ใบหม่อนถึงกับสูดหายใจลึกดมกลิ่นความรวยของคนข้างหน้าเข้ามาเต็มปอด เขาเริ่มอยากจะเปลี่ยนใจจากที่อยากเป็นเมียตอนนี้อยากเป็นลูกแล้ว
คนอะไร พูดคำว่า “แค่ร้อยล้าน” ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติขนาดนี้
“เท่าไหร่ล่ะครับ” ใบหม่อนเอ่ยแหย่ สีหน้าแฝงความตื่นเต้นปนขี้เล่น“เท่าที่เธออยากได้” สีหนุตอบด้วยความมั่นใจเยี่ยมมากครับแด๊ดดี๊ มันต้องแบบนี้สิ"มีแค่เงินเหรอครับ" สีหนุมองเขาด้วยสายตาจริงจัง “มีงานแต่งด้วยนะ ฉันจะให้เกียรติเธออย่างเต็มที่ ในฐานะภรรยาของสีหนุ วสุธร เราจะจัดงานแต่งงานกัน”ใบหม่อนหน้าแดงทันที หัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นและจริงจังของสีหนุ เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย หัวเราะอย่างเขิน ๆ ก่อนจะบ่นอุบอิบ“นั่นมันก็ต้องแต่งอยู่แล้วนี่ครับ ถ้าจะต่อสัญญา คุณควงผมไปทั่วจนลงข่าวทุกสำนัก ผมเสียหายหมดแล้วนะครับ”สีหนุยิ้มบาง ๆ ก่อนเอ่ยเสียงนุ่ม “เรื่องนั้นฉันยินดีชดใช้ให้เต็มที่…ฉันไม่ได้มีให้เธอแค่เงินหรอกนะ” เขาพูดจบก็หยิบเอกสารบางอย่างออกมายื่นให้ใบหม่อนใบหม่อนมองลงไปที่เอกสารในมือ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เป็นเอกสารโฉนดที่ดินบ้านหลังเก่าที่เขาเคยฝันอยากได้กลับคืน บ้านที่เป็นแหล่งรวมความทรงจำที่มีทั้งพ่อและแม่ บ้านที่เต็มไปด้วยความรักและอบอุ่นที่เขาโหยหามาตลอดชีวิตเขาจับเอกสารนั้นด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย หัวใจของเขาเต้นแรง พลางลูบโฉนดเบา ๆ อย่างไม่อยากเชื่อสายตา น้ำตาเริ
“สรุปแล้วมันยังไง แกกับคุณนุ จากตอนแรกเหมือนจะจีบกับคนน้อง แล้วสรุปได้มาคบกับคนพี่ ฉันสับสนไปหมด แล้วถามจริง ๆ นะเขาแก่กว่าแกตั้งเยอะ หนุ่ม ๆ อย่างแกไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอ”“พี่พีไม่รู้อะไร คนแก่นี่แหละแซ่บ ผมชอบ” ใบหม่อนเอ่ยอย่างทะเล้นส่ายหัวอย่างระอาพร้อมกับกลอกตามองบนใบหม่อนหัวเราะลั่นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเช็กข้อความ“อุ๊ย ไปก่อนนะครับ ผัวมารับแล้ว บาย” ใบหม่อนโบกมือให้หัวหน้าหนุ่มโสดจอมสอดแล้วหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งพีระไว้ลำพังเออ ให้มันโสดแค่กูนี่แหละใบหม่อนเดินลงมาด้านล่างด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสดใส ทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความสุข ตลอดทางมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขา คนในบริษัทต่างกระซิบกระซาบกันเบา ๆ ถึงเมียเจ้านายที่เดินยิ้มแย้มราวกับมีโลกเป็นของตัวเอง วันนี้ใบหม่อนตั้งใจออกไปเดทกับสามี หลังจากที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกไปเที่ยวด้วยกันเพราะตารางงานแน่นเอี้ยดครั้งสุดท้ายที่ใบหม่อนตื่นเต้นกับการเดทขนาดนี้ คือครั้งนั้นที่เขาเคยไปเดทกับคุณนันท์ อีกฝ่ายอุตส่าห์ให้คนขับรถหรูมารับเพื่อพาไปดินเนอร์ร้านอาหารฝรั่งเศสหรูหรา เหมือนเป็นความฝันที่กลายเป็นการหลอกลวงอันขมขื่น แต่เขาปฏิเสธไม่ได
“มึงมาขอโทษเมียกูก่อน” เสียงของสีหนุดังขึ้นก่อนที่อลันจะเปลี่ยนเป้าหมายไปกล่าวขอโทษ แต่ขอโทษเปล่า ๆ ก็เกรงว่าจะไม่ได้คนตัวเล็กที่ทั้งโดนตบ โดนบีบคอ แล้วยังโดนลูกปืนเชิดหน้าขึ้นอย่างเอาแต่ใจ“ผมรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น” เจ็บทั้งตัว แถมยังถูกขังตั้งหลายวัน เรื่องอะไรจะยอมง่าย ๆ อย่างน้อยเขาต้องได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง สุดท้ายใบหม่อนก็ได้รับการชดเชยเป็นคอนโดแถววิทยุเดิมทีริคาร์โดคู่สัญญาต้องการซื้อ กระบวนการผ่านไปได้ด้วยดีด้วยความรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีโบนัสเป็นเงินก้อนจำนวนหนึ่งให้แก่พนักงานที่ดูแล (ใบหม่อน) เงินที่ทำให้คนตัวเล็กแทบลืมความข้องหมองใจไปเสียหมดอย่างไรก็ตาม สำหรับตระกูลวิลาวรรณนั้นก็ยังคงไม่สามารถให้อภัยตระกูลวสุธรได้อย่างสนิทใจ เธอเลือกที่จะเว้นระยะห่างจากคนในตระกูล แม้จะไม่ได้แสดงออกถึงความโกรธแค้นอย่างเดิม แต่ความบาดหมางยังคงค้างคาอยู่ในใจของพวกเขาในส่วนของพิจิตราผู้ที่เป็นคนพบข้อมูลและคลิปที่เก็บซ่อนเอาไว้ของพี่สาวแล้วเอามาเปิดโปง เธอเองก็ยังคงวางเฉยต่อสีหนุ ถึงแม้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ฆ่าพี่สาวของเธอ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุความตายนั้นมาจากคนในครอบครัววสุธร อย่างไรก
หลังจากนั้น พิณธาราถูกจับ และเรื่องราวที่เธอเคยพยายามปกปิดก็ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาจนกลายเป็นข่าวฉาว การกระทำผิดของเธอถูกเปิดเผยมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะนับไม่ถ้วน เรื่องราวของเธอและตระกูลวสุธรกลายเป็นข่าวใหญ่โต สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วทั้งสังคม บ้างก็พูดกันว่า สีหนุ พี่ชายของเธอ ตั้งใจจะมาซ้ำเติมบริษัท ตั้งใจมากระทำเพื่อแก้แค้นให้พ่อแม่ ภรรยา และตัวเองอย่างชัดเจนส่วนคุณนันท์ หลังจากเรื่องนั้นก็ไม่ยอมพบปะใคร หายหน้าหายตาจากสังคมไปช่วงหนึ่ง นอกจากเรื่องงานแล้วเขาก็ไม่ออกมาพบปะกับใคร อาการที่แสดงออกมาดูน่าเป็นห่วงมาก แต่สีหนุจะบอกกับใบหม่อนให้วางใจเพราะข้างกายของนันท์ยังมีวิทย์คอยประกบอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พอจะมองออกได้ว่าสีหนุเองก็ยังกังวลและเป็นห่วงน้องชายของเขาไม่น้อยเลยเรื่องราวยิ่งครึกโครมมากขึ้น จากการสืบสวนย้อนหลังของเรื่องนี้นำไปสู่การเปิดเผยคดีเก่าที่ยังไม่ได้รับการไขปริศนา การเสียชีวิตของบิดาสีหนุและนันท์ถูกขุดขึ้นมาใหม่ เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม ซึ่งเรื่องราวค่อย ๆ แสดงให้เห็นถึงความจริงเบื้องหลังอันโหดเหี้ยมของพิณธาราที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางใจเย็นน่าเชื่อถื
ดูเหมือนว่าความปรารถนาของเธอจะไม่สัมฤทธิ์ผล คนร้ายตัวจริงคงรู้อยู่แน่ชัดว่าเธอจะต้องบอกความจริงกับสีหนุเข้าสักวันจึงได้ไปจัดการเธอเสียก่อน“คนที่ฆ่าพ่อแม่ของคุณ คนที่หวังจะฮุบอำนาจของวสุธรไปไว้อยู่ในมือ ก็คือคุณพิณธารา คุณอาของคุณค่ะ”สิ้นเสียงของพลอยคลิปก่อนดับไปพร้อมกับเสียงฮือฮาของผู้คน ตามด้วยเสียงโวยวายของเจ้าของงานอย่างพิณธาราที่อยู่ในภาพช็อกไม่ต่างจากคนอื่น“นี่มันอะไรน่ะ มันไม่จริงเลยนะคะทุกคน ต้องมีใครตั้งใจใส่ร้ายฉันแน่นอน ฉันไม่ได้ทำนะคะ” พิณธาราประกาศกร้าว ทว่าสักพักพิจิตรา น้องสาวของพลอยไพลินก็บุกเข้ามาในงานด้วยท่าทางมาดมั่น“จะไม่จริงได้ยังไง หลักฐานพวกนี้ คลิปนี้ฉันเจอมันถูกเก็บไว้ในห้องของพี่พลอย มันถูกซ่อนในนั้นตั้งแปดปีก่อนพี่พลอยจะตายด้วยซ้ำ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเข้ม เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนมากขึ้นไปอีก นักข่าวในงานนั้นถึงกับยิงแฟลชใส่เธอและพิณธาราไม่หยุด“และไม่ได้มีแค่คลิปนี้นะ ยังมีหลักฐานทุกอย่างที่เป็นลายลักษณ์อักษร พี่พลอยเป็นคนรวบรวมด้วยตัวเองแล้วซ่อนเอาไว้” ทันทีที่สิ้นเสียงของพิจิตรา ตำรวจก็บุกเข้ามาในงานอย่างไม่มีใครคาดฝันเพื่อมาจับกุมตัวเจ้าของงานอย่างพิณธารา
“ดิฉันเชื่อนะคะว่าทุกท่านที่มาที่นี่ก็ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้สังคมของเรานั้นดีขึ้น” พิณธาราเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงจริงใจ ดวงตาของเธอฉายแววมั่นคง“พวกเราเองก็เช่นกัน แม้ว่าสีหนุจะมีกิจการเติบโตแตกแขนงแยกไปจากวสุธร แต่หลานรักของดิฉันก็ยังไม่ลืมรากเหง้า เราต่างทำงานเพื่อความสำเร็จและการเติบโตของตระกูล” เธอยิ้มให้สีหนุและนรภัทรอย่างภาคภูมิใจ“และเพื่อความตั้งใจในการตอบแทนสังคม เราได้จัดงานการกุศลในคืนนี้ขึ้น โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับโครงการช่วยเหลือคนไร้บ้าน”เธอผายมือไปทางหน้าจอขนาดใหญ่ด้านหลัง ขณะที่ผู้ร่วมงานตั้งตารอรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการและความร่วมมือระหว่างสองบริษัทใหญ่ ทว่าภาพที่ปรากฏกลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ เพราะหน้าจอใหญ่กลับเป็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวผู้ล่วงลับพลอยไพลิน วิลาวรรณ อดีตภรรยาของสีหนุพลอยมีท่าทีหวาดระแวงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฉันมีเวลาไม่มากนะคะ หวังว่าคลิปนี้จะส่งถึงมือของคุณนุ ฉันจะเขียนพินัยกรรมไว้แล้ว ถ้าฉันตายจริง ๆ หวังว่าเขาจะยื่นสิ่งนั้นให้คุณกับมือนะคะ เพราะถ้าคุณได้เห็นวิดีโอนี้แสดงว่าฉันคงตายไปแล้ว ฉันทนเก็บความรู้สึกผิดแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวหลั่