Home / รักโบราณ / ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่ / บทที่ 4 หว่านเสน่ห์ล่อลวง 1

Share

บทที่ 4 หว่านเสน่ห์ล่อลวง 1

last update Last Updated: 2025-11-04 18:16:42

บ้านสกุลหลี่ที่ตั้งอยู่ตลาดฝั่งตะวันออกมีขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่กระนั้นก็ยังมีเรือนเล็กใหญ่มากกว่าห้าเรือน เรือนที่ใหญ่ที่สุดเป็นของหลี่จินหมิงอย่างมิต้องสงสัย เรือนที่อยู่ถัดไปนั้นมีไว้สำหรับต้อนรับแขก อีกสองเรือนปิดตายไร้ผู้คนอยู่อาศัย ส่วนเรือนสุดท้ายซึ่งเป็นเรือนหลังเล็กที่สุดนั้นเสวียนหนิงอันคือผู้ครอบครอง

ตวนอ๋องเฉินฟาหยางส่งข้าวของเครื่องใช้ของบุตรสาวมายังบ้านสกุลหลี่หลังจากเกิดเรื่องได้เพียงวันเดียว ในยามนั้นเขาเห็นทุกอย่างที่เกี่ยวกับนางแล้วรู้สึกเกรี้ยวกราด มองอย่างไรก็ไม่สบอารมณ์ จึงสั่งให้สาวใช้นำข้าวของไปให้พ้นตา นึกไม่ถึงว่าหีบห้าใบจะอยู่ในห้องเก็บของ ส่วนอีกสองใบที่สาวใช้นำไปไว้ในเรือนเล็กนั้นล้วนมีแต่ของเก่าที่ใช้การไม่ได้ แต่กระนั้นนางก็ยังไม่ปริปากบ่น หรือพูดให้ถูกต้องคือเขาจงใจหลบหน้านาง กอปรกับต้องเดินทางอย่างกะทันหัน ความลำบากเรื่องเครื่องแต่งกายนั้นจึงถูกแก้ไขช้าไปสักหน่อย

หลี่จินหมิงจำได้ดีว่ารู้สึกปั่นป่วนในท้องมากเพียงใดยามที่นางบอกว่ามิได้สวมบังทรง ยังจำได้อีกด้วยว่าตนตวาดเสียงดังจนนางหนีเตลิดจากห้องหนังสือ แต่หลังจากรวบรวมสติกลับมาสุขุมดังเดิมได้แล้ว เขาก็สั่งให้สาวใช้จัดการปัญหาดังกล่าวให้เรียบร้อย

เย็นวันนั้นนางมาขอพบเพื่อกล่าวคำขอบคุณ บนเรือนร่างสวมอาภรณ์สีกลีบบัว เพิ่มความงามมากขึ้นหลายส่วน ความจริงแล้วงามถึงขั้นที่ทำให้เขาต้องเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากมองให้หัวใจเต้นแรงไปมากกว่าเดิม ทว่าเสียงหวานออดอ้อนเรียกขานว่าท่านอา กลับทำให้เขาต้องยอมสบตากับนางอย่างเสียมิได้

‘ท่านอาโกรธมากเลยหรือเจ้าคะ…’

‘แล้วควรโกรธหรือไม่’

‘หนิงเอ๋อร์ผิดไปแล้ว จากนี้จะพยายามปรับปรุงให้ท่านอาพอใจเจ้าค่ะ’

‘เช่นนั้นก็อยู่เงียบ ๆ อย่าก่อเรื่องกวนใจ ช่วงนี้งานที่ร้านยุ่งนัก ข้าไม่อยากปวดหัวเพิ่มเติมเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง’

หลี่จินหมิงเกลียดตนเองที่ไม่สามารถดุด่านางได้อย่างที่ตั้งใจ เขาอธิบายอย่างใจเย็นว่าต้องการความเป็นส่วนตัว ก่อนโบกมือไล่นางโดยอ้างว่ามีงานบัญชีต้องสะสาง แต่ความจริงแล้วเขากลับทำเพียงนั่งสงบอารมณ์นานหลายชั่วยาม บอกกับตนเองซ้ำ ๆ ว่าเขาสมควรปฏิบัติตัวต่อนางอย่างไร

ห้ามใจอ่อน… ใจดีด้วยก็มิได้

‘หากเจ้าไม่รักบุตรสาวข้าก็อย่าให้ความหวังนางว่ารักใคร่ ห้ามผูกสัมพันธ์ลึกซึ้งทั้งทางกายและทางใจ’

เดิมทีหลี่จินหมิงขบขันกับคำเตือนของตวนอ๋องอย่างมาก ต่อให้เคยชื่นชมนางในใจว่างดงามเมื่อปีก่อนแล้วอย่างไร เขาจะทนกับเสน่ห์อันเย้ายวนใจของสาวงามมิได้เลยหรือ นางจะมีเสน่ห์ล้นเหลือกว่าเหล่านางคณิกาในหอนางโลมอันดับหนึ่งของเมืองหลวงอยู่อีกหรือ

เขาขบขันจนกระทั่งเห็นใบหน้างดงามชัดเจนในคืนวิวาห์…

“ซุนหยา พวกนางมีเรื่องตื่นเต้นอันใดกัน”

หลี่จินหมิงกลับถึงบ้านในต้นยามโหย่ว[1] เห็นเหล่าสาวใช้วัยไม่เกินสิบห้าปีหัวเราะร่าเริงก็อดสอบถามมิได้ ทั้งหัวใจยังประหวัดคิดไปถึงสาวงามที่มิได้พบหน้านานเจ็ดวันแล้ว

“ฮูหยินน้อยกำลังซื้อพวกนางอยู่เจ้าค่ะ”

“ซื้อ? นางไม่มีเงินติดตัวมาสักตำลึงแล้วจะซื้อผู้ใดได้เล่า”

ตวนอ๋องจริงจังกับการดัดนิสัยของบุตรสาวเป็นอย่างมาก แม้แต่อีแปะเดียวก็ไม่ให้มาเพราะกลัวว่าจะใช้เงินแก้ไขปัญหาอย่างที่เคยทำเป็นประจำ พอคิดแล้วหลี่จินหมิงก็รู้สึกว่านั่นออกจะโหดร้ายมากไปสักหน่อยและในเมื่อตอนนี้นางได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาแล้วก็ควรดูแลตามใจบ้างมิใช่หรือ

ไม่ได้! ใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด!

“ฮูหยินน้อยมอบเสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ได้แล้วให้กับพวกนางเจ้าค่ะ หากนางใดสวมใส่ไม่ได้ก็มอบเครื่องประดับให้แทนเจ้าค่ะ” ซุนหยาพูดได้ไม่เต็มเสียงนัก นางไม่ได้ไปเลือกเสื้อผ้ากับสาวน้อยเจียอี ด้วยทราบดีว่าไม่มีอันใดที่ตนสวมใส่ได้ นึกไม่ถึงว่าฮูหยินน้อยจะนำปิ่นหยกลายดอกเหลียนฮวามามอบให้ถึงในโรงครัว

‘ข้ามีทรัพย์สินติดตัวมาไม่มาก หวังว่าท่านป้าคงไม่รังเกียจ’

แม้ปิ่นหยกลายดอกเหลียนฮวาจะไม่ใช่ของใหม่ แต่มองดูแล้วอย่างไรก็เป็นของราคาแพง ซุนหยาจึงรับมาโดยไม่พูดอันใดอีก นางไม่ได้เห็นแก่ของมีราคา แต่ทนสายตาที่ทอประกายวาววับอย่างมีความหวังของฮูหยินน้อยไม่ได้จริง ๆ

“มอบของเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าลืมกำชับพวกนางว่าห้ามก่อเรื่อง”

“เจ้าค่ะ… นายท่านเจ้าคะ ฮูหยินน้อยแจ้งว่าต้องการส่งจดหมายให้กับท่านหมอสกุลหวงเจ้าค่ะ นายท่านอนุญาตหรือไม่เจ้าคะ”

“นางไม่สบายเช่นนั้นหรือ! นางปวดหัวหรือปวดท้องเล่า!” หลี่จินหมิงตกใจจนแทบคุมสติมิอยู่

“ฮูหยินน้อยมิได้แจ้งเจ้าค่ะ กล่าวแค่เพียงว่าหากนายท่านไม่อนุญาตก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”

“หึ! เดี๋ยวข้าจัดการเรื่องนี้เอง เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถิด”

เมื่อได้ยินว่านางต้องการพบหมอ หลี่จินหมิงก็รีบรุดไปยังเรือนเล็กทันที ยามนั้นท้องฟ้าใกล้มืดแล้ว แต่เขาไม่ใส่ใจเรื่องความเหมาะสม อย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา คงไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวหาว่าทำเรื่องอันไม่สมควร

หลังจากเดินกึ่งวิ่งอยู่ไม่นาน หลี่จินหมิงก็พบว่าตนเองอยู่หน้าเรือนเล็กที่มีแสงตะเกียงส่องสว่างมาจากด้านในแล้ว เขามองสาวใช้เจียอีที่เดินออกมาพร้อมกับถาดอาหาร ข้าวในถ้วยพร่องไปเพียงครึ่ง ส่วนกับข้าวสองอย่างยังเต็มจาน

เสวียนหนิงอันเลือกกินอย่างมาก เขาลืมเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน

“นางกินเพียงเท่านี้ทุกวันเลยหรือ”

“ไม่ทุกวันเจ้าค่ะ วันไหนอาหารรสจัดฮูหยินน้อยจะกินได้สักหกส่วน แต่วันนี้พ่อครัวทำอาหารจืดชืด…”

เจียอีไม่กล้าพูดต่อ พ่อครัวที่มาใหม่เป็นใบ้ ทำอาหารได้ไม่ถูกปากฮูหยินน้อยนัก นางไม่แน่ใจว่าเหตุใดพ่อครัวเดิมรวมทั้งสาวใช้เกินกว่าครึ่งถึงได้ถูกส่งตัวไปยังจวนของท่านเสนาบดีชรา บิดาของนายท่านสกุลหลี่ แต่ให้เดาคงไม่พ้นเรื่องที่นายท่านแต่งภรรยาอายุน้อยเข้าบ้าน

“นางชอบกินขนม หากวันใดกินข้าวได้น้อยก็จัดหาขนมมาให้เยอะหน่อย ยามค่ำหิวขึ้นมาจะได้ไม่อาละวาด”

“เจ้าค่ะนายท่าน แต่วันนี้ฮูหยินน้อยดื่มน้ำเต้าหู้แล้ว คงไม่หิว…”

“เจ้าว่าอย่างไรนะ!” หลี่จินหมิงจำได้ว่านางแพ้ถั่วเหลือง พอได้ยินเจียอีกล่าวเช่นนั้นก็ผลุนผลันเข้าไปในเรือนเล็กทันที

“หนิงเอ๋อร์!” เขาได้ยินเสียงหวานอุทานอย่างตกใจดังมาจากด้านหลัง จึงรีบวิ่งไปอย่างว่องไว รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตนกำลังจ้องมองสตรีที่ซ่อนเรือนร่างของนางไว้ในถังไม้อย่างสุดความสามารถ แต่ถังไม้เล็กเพียงเท่านั้นย่อมมิอาจปิดบังความงดงามได้ครบทั้งสิบส่วน

หัวไหล่เนียนขาวตรึงสายตาหลี่จินหมิงไว้อย่างง่ายดาย เขาถึงกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ กะพริบตาแทบไม่ได้ แต่สิ่งที่อันตรายกว่าผิวขาวดุจไข่มุกราตรีคือดวงหน้าหวานที่มีหยดน้ำคลอเคลียอยู่ ยังมีพวงแก้มแดงปลั่งชวนหยิกที่ทำให้คันยุบยิบไปทั้งหัวใจ

หลี่จินหมิงเผลอไผลเนิ่นนาน จนกระทั่งสบประสานสายตาที่มองมาอย่างหวาดหวั่น เขาจึงหันหลังให้นางทันที

“อาบน้ำอยู่หรือ” หลี่จินหมิงอยากตบปากตนเอง เห็นชัดอยู่เต็มสองตาไยยังกล้าถามออกไปอีกเล่า

“ท่านอาควรออกไปข้างนอกมิใช่หรือเจ้าคะ”

คำถามกึ่งประชดของสาวงามในวัยสิบหกปีทำให้หลี่จินหมิงก้าวขาได้รวดเร็วดียิ่งนัก!

นับตั้งแต่มีชีวิตผ่านมาได้สิบหกหนาว สถานการณ์เมื่อครู่ที่ผ่านมานับว่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของเสวียนหนิงอันแล้ว นางมิแน่ใจว่าควรกรีดร้องโวยวาย ไล่บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของตนไปให้พ้น หรือขอร้องอย่างมีมารยาทว่าต้องการอาบน้ำตามลำพังดี แต่พอเห็นเขาหันหน้าหนีนางก็พลันรู้สึกขุ่นเคืองใจขึ้นมา

ไม่เคยมีบุรุษใดเบือนหน้าหนีเสวียนหนิงอัน!

ทีแรกนางอยากแกล้งให้รอสักครึ่งชั่วยาม อ้างว่าต้องบำรุงผิวพรรณให้งดงามน่าสัมผัส สุดท้ายกลับมิอาจทำได้ดั่งใจหวัง เพราะความผิดที่ก่อไว้มิอนุญาตให้ทำตามอำเภอใจได้อย่างที่เคย

แต่กระนั้นนางก็ยังอยากเอาคืนสักหน่อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทส่งท้าย 3

    “ไม่จริงจัง? แต่เจ้าก็บอกว่าชอบมิใช่หรือ” หลี่จินหมิงเห็นนางเอียงอายเช่นนั้นก็ไม่รู้สึกว่าอยากดื่มสุราหรือกินกับแกล้มแล้วอยากกินภรรยามากกว่า…“พอถูไถไปได้ แต่ก็ไม่ดีเหมือนแต่ก่อน”“ลืมไปได้อย่างไรว่าภรรยาของพี่ยังสาวและร้อนแรง… วันนี้คงต้องดูแลเจ้าเต็มที่ ให้สมกับที่ละเลยมานานสักหน่อยแล้ว” หลี่จินหมิงมอบจูบวาบหวามให้กับภรรยาที่น่ารักไม่แปรเปลี่ยน มือใหญ่ลูบไล้บั้นท้ายจนนางต้องร้องห้ามเสียงสั่น“ท่านพี่ทำงานหนัก กลับมาบ้านยังช่วยดูแลลูก ๆ จนแทบไม่ได้หยุดพัก บางอย่างบางเรื่องยังไม่ต้องรีบร้อนก็ได้เจ้าค่ะ”“ร้างรามาเป็นปี กำลังวังชาพี่มีอยู่ล้นเหลือ หนิงเอ๋อร์ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะเหนื่อย” หลี่จินหมิงเห็นนางยิ้มเจื่อนราวกับกำลังหาทางหลีกเลี่ยงจึงรีบสอบถามให้เข้าใจ “ยามอยู่เรือนใหญ่เจ้าอ้างว่ากลัวลูกตื่นกลางดึก วันใดที่พี่อยู่บ้านเจ้าก็อ้างว่าไม่ไว้ใจแม่นม ยามนี้ได้คนคุ้นหน้ากันมาช่วยเหลือดูแล หนิงเอ๋อร์คิดอ้างอันใดอีก… หรือว่าเจ้ารังเกียจสามีชราเช่นพี่เสียแล้ว”“มิใช่เช่นนั้นนะเจ้าคะ! ข้าแค่… แค่ไม่มั่นใจ”“ไม่มั่นใจ?” หลี่จินหมิงงุนงงจนกระทั่งนางนำมือเขาไปวางบนท้อง แต่แค่ครู่เดียวก็ไม่ให้

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทส่งท้าย 2

    เสวียนหนิงอันกอดแขนสามีเดินออกจากเรือนใหญ่ที่ย้ายมาอยู่หลังแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี ตัวเรือนปีกซ้ายถูกขยับขยายกว้างขวาง ส่วนฝั่งห้องเก็บของซึ่งเคยเป็นที่พำนักของจ้าวฮูหยินยังคงอยู่ตามเดิมเพื่อเป็นการให้เกียรติผู้ล่วงลับ โดยมีซุนหยาคอยดูแล“ไม่มีเรื่องอันใดมาก แค่ขันเรื่องที่ผ่านมาก็เท่านั้น” หลี่จินหมิงหอมแก้มภรรยาแผ่วเบา “นึกถึงวันที่เจ้าให้กำเนิดเจ้าก้อนแป้งทั้งสองด้วย”หวงซิงซวี่เก่งอย่างที่อวดอ้างจริง ๆ เขาจำได้ว่าภรรยาร้องเจ็บได้เพียงหนึ่งเค่อ ทารกแฝดก็ออกมาทักทายมารดา ทุกอย่างราบรื่นกว่าที่เขาจินตนาการไว้มากทีเดียว“วันนั้นเจ้าคงเจ็บมาก”“เจ็บจริงเจ้าค่ะ แต่ก็ไม่ได้แย่นัก” เสวียนหนิงอันยิ้มให้กับสามี “สงสารก็แต่พี่ซิงซวี่ เขาถูกท่านพ่อกับท่านพี่ร่วมมือกันกดดันนานกว่าเจ็ดเดือน หน้าตาทนมองไม่ได้ทีเดียว”“ชอบทดลองยากับผู้อื่นก็สมควรโดนแล้ว ว่าแต่ช่วงนี้เขาเป็นอย่างไรบ้างเล่า”“เห็นว่ากำลังจะถูกบังคับให้แต่งงานเจ้าค่ะ”“แต่งกับสตรีที่ฝากรอยข่วนไว้บนหน้าของเขาน่ะหรือ?” หลี่จินหมิงนึกได้ว่าลืมเล่าภรรยาจึงรีบชี้แจงโดยเร็ว“วันที่เราแต่งงานกัน เขาแวะมาแสดงความยินดีแล้วก็รีบกลับ ข้า

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทส่งท้าย 1

    หนึ่งปีผ่านไป...เสียงอ้อแอ้ของทารกน้อยวัยห้าเดือนทำให้หลี่จินหมิงอดหัวเราะไม่ได้ บุตรชายของเขาเลี้ยงง่ายที่สุด แทบไม่เคยร้องไห้ให้บิดาหรือมารดาต้องเหนื่อยปลอบใจ ต่างจากบุตรสาวที่ส่งเสียงร้องบ่อยกว่ามาก แต่อุ้มไม่นานก็หลับไป นิสัยคล้ายคลึงกับมารดาผู้ให้กำเนิดไม่ผิดเพี้ยนหลี่จินหมิงมองภรรยาที่เอนตัวพักหลังในช่วงบ่ายด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก พลางนึกถึงเรื่องเมื่อปีก่อนที่เขาต้องง้อนางอยู่เกือบเดือน พอเข้าใจกันดีกลับมีอีกเรื่องที่ทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ นั่นคือเรื่องที่ภรรยาตั้งครรภ์ แต่กระนั้นนางก็หมั่นปลอบใจเขาจนคลายความวิตก ทั้งยังเปลี่ยนเรื่องได้อย่างฉลาด ว่าคนที่อาการน่ากังวลกว่ามากก็คือตัวเขาที่ปวดศีรษะเป็นประจำยามนั้นหมอหลวงสกุลหวงงานเข้าจนแทบไม่ได้พักผ่อน สามีของเฟยฮวาอาการบาดเจ็บกำเริบจากการฝืนเดินทางจึงต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากทำความสะอาดบาดแผลในช่วงเช้า หวงซิงซวี่ก็ต้องมาตรวจดูเขาอย่างละเอียดว่าป่วยเป็นโรคอันใด ยังมีเรื่องที่ต้องเดินทางตรวจคนไข้ประจำ รวมทั้งต้องเตรียมตัวเดินทางไปยังนอกเมืองเพื่อควบคุมสถานการณ์โรคระบาด เสวียนหนิงอันจึงเสนอแกมบังคับว่าให

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทที่ 43 ยอมให้อภัย 3

    “นานถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?” หลี่จินหมิงพักผ่อนไม่ดีมาหลายวัน ได้หลับสนิทนาน ๆ จึงรู้สึกว่าตนมีกำลังวังชาขึ้นมาก “ยาของหวงซิงซวี่ได้ผลดีเกินคาดจริง ๆ”“อย่าพูดจาเหลวไหลสิเจ้าคะ ยาของเขาอันตรายที่สุด เชื่อถือไม่ได้สักนิด เขาพูดว่าท่านควรได้สติภายในหกชั่วยาม แต่ท่านกลับหลับนานจนข้ากังวล เสียงดังอย่างไรก็ไม่ยอมฟื้น เขย่าอย่างไรก็ไม่รู้สึกตัว ข้าตกใจมากเลยนะเจ้าคะ” เสวียนหนิงอันตัดพ้อพลางเช็ดน้ำตาแรง ๆ“คงเป็นเพราะกินยาเกินกว่าที่เขาสั่งไว้กระมัง”หลี่จินหมิงไม่คิดว่าตัวยาจะมีฤทธิ์แรงจึงกินไปสองเม็ดในคราวเดียว “หนิงเอ๋อร์ พี่ขอโทษที่ทำให้เจ้ากังวล แต่ที่ผ่านมาพี่พยายามดูแลตนเองอย่างที่ให้คำสัญญาไว้กับเจ้า เพื่อที่จะได้อยู่ดูแลเจ้าไปนาน ๆ ใช่อยู่ว่าสามวันแรกที่เข้าใจว่าสูญเสียเจ้านั้นพี่ผิดคำพูดไปบ้าง กินเพียงกับแกล้ม ดื่มแค่สุรา แต่พอตั้งสติได้ก็รีบกลับมารักษาสุขภาพ ไม่เลือกกินอาหาร เดินออกกำลังในบ้านวนไปวนมาทุกวัน เพิ่งจะบังคับตนเองให้นอนไม่ได้ก็ราวเจ็ดวันที่ผ่านมานี้เอง”“เพิ่งจะนอนไม่ได้หรือเจ้าคะ” เสวียนหนิงอันถามอย่างมิเข้าใจนัก“เรื่องการนอนก็ยังเป็นปัญหาอยู่บ้างจริง ๆ พอไม่ได้ฟังคำข

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทที่ 43 ยอมให้อภัย 2

    สาวงามที่ถูกเรียกถึงกับส่ายหน้า นับวันเจียอียิ่งโตยิ่งเอาแต่ใจ บางครั้งก็พูดยากจนน่าตี เช่นบอกให้เรียกว่าคุณหนูเสวียนก็ไม่ยอมเรียก ทั้ง ๆ ที่ตักเตือนหลายหนแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่เรือนเล็กในบ้านสกุลหลี่ ควรระมัดระวังกิริยาให้มาก แต่นางก็ยังไม่ยอมรับฟัง ทั้งยังไม่ปรับปรุงตัว มาวันนี้คงต้องดุมากสักหน่อยจะได้รู้ความเสียบ้าง ว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำกันแน่ทว่าเสวียนหนิงอันยังมิทันได้สั่งสอนอย่างที่ตั้งใจไว้ สาวใช้คนโปรดก็รีบรายงานเรื่องสำคัญที่ทำให้นางถึงกับต้องเสียกิริยา“นายท่านหมดสติไปตั้งแต่เมื่อวาน ผ่านมาสิบสองชั่วยามแล้วยังไม่ฟื้นเลยเจ้าค่ะ!”เสวียนหนิงอันวิ่งออกจากจวนของบิดาทันที!เสียงตวาดดังลั่นทำให้หวงซิงซวี่สะดุ้งสุดตัว แต่กระนั้นก็ยังไม่น่ากลัวเท่ายามที่เห็นน้องสาวคนงามถลาร่างเข้ามายืนข้าง ๆ บุรุษที่ยังไม่ได้สติ บนใบหน้างามเผยความเกรี้ยวกราดอย่างไม่ปิดปัง“ท่านพี่เป็นอย่างไรบ้าง!”​ เสวียนหนิงอันเขย่าแขนสามีแรง ๆ ทว่าเขายังคงนอนนิ่งเฉยดังเดิม “ท่านทำอันใดกับเขา บอกข้ามาตามตรงเดี๋ยวนี้!”“หนิงเอ๋อร์ใจเย็นก่อน...”“ท่านจะพูดหรือไม่!” เสวียนหนิงอันเดินเร็ว ๆ ไปยังหวงซิงซวี่ สองตาจ้อง

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทที่ 43 ยอมให้อภัย 1

    ยามพ่อบ้านหวังอู่แจ้งว่ามีแขกขอพบ เสวียนหนิงอันฟังแล้วไม่ใส่ใจ คิดไปว่าเป็นเล่ห์กลของสามีที่ต้องการวางแผนให้นางใจอ่อน แต่พอได้ยินชัด ๆ ว่าคนที่มาคือสตรีตั้งครรภ์นามว่าเฟยฮวากับสามี เสวียนหนิงอันก็พลันนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ เลือดลมในร่างกายแปรปรวน โทสะร้อนพลุ่งพล่านเสียยิ่งกว่าเดิม“นางอายุครรภ์ไม่น้อยแล้ว แต่เขากลับใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้พบข้า! ต่อให้ไม่อยากพบหน้าก็คงต้องพบ พูดคุยให้รู้เรื่องว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ!”เสวียนหนิงอันให้สาวใช้เชิญเฟยฮวาและสามีใจร้ายไปพบกันที่สวน หลายวันมานี้อาการของนางดีขึ้นมากเพราะยอมรับกับตนเองแล้วว่าบางอย่างตัดออกจากชีวิตไปก็ใช่ว่าจะให้ผลดี สวนสวยใกล้เรือนนางในยามนี้จึงมีกลิ่นดอกเหมยกุ้ยหอมเย้ายวน เชิญชวนให้คนที่ผ่านทางไปมาอารมณ์ดีนางเดินเร็ว ๆ ตรงไปยังร่างอวบอ้วนที่ยืนรออยู่ในศาลา ระหว่างนั้นก็เตรียมถ้อยคำเสียดสีเอาไว้มอบให้กับบุรุษที่นั่งอยู่ด้วย แต่พอเดินไปใกล้ ๆ ก็ตระหนักได้ว่าเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นั่งผินหน้าชมดอกไม้โดยรอบ มิใช่บุรุษที่นางคะนึงหาแต่อย่างใดเขาคนนั้นร่างกายผ่ายผอมราวกับคนป่วยหนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นคนงามที่มองแล้วละสายตา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status