Share

4.ชี้โพรงให้คนชั่ว

last update Last Updated: 2025-10-06 23:12:11

องครักษ์เกราะดำเหลืออดเต็มที  เพราะสหายตนถูกหยามซึ่งหน้า  ต่อจากนั้นเขาก็ลุกพรวดขึ้น  หมายจะไปจัดการกลุ่มคนที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกันเสีย  ทว่ามือเรียวของสหายกลับรั้งไว้

“นั่งลง  ใครอยากกล่าวอันใดก็ปล่อยมัน”  อินหลางเอ่ยเสียงเรียบ  แววตาเขายังคงนิ่งจนคนรอบข้างอ่านไม่ออก

“เจ้าจะปล่อยให้มันเหยียดหยามเช่นนี้หรือ  ดูท่าทางพวกมันเถิด  ไม่มีสะทกสะท้านอันใดเลย”  ตงไห่รีบเตือน  

ทว่าสหายกลับกล่าวในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความต้องการของพวกเขา  “ข้าอยากรู้ความจริง  ในเมื่อบุรุษในที่นี้ต่างก็บอกว่าเคยหลับนอนกับภรรยาข้า  เช่นนั้นพวกเจ้าก็ทำให้ข้ากระจ่างใจทีเถิด  นางชั่วช้าเลวทรามอย่างนั้นจริงหรือ”  อินหลางเปล่งเสียงดังพอให้คนในห้องได้ยินทั่วกัน  และไม่เพียงแต่แขกในห้องนี้เท่านั้นที่สนใจ  ยังมีแขกผู้ใหญ่หลายคนเดินเข้ามาสมทบอีก

“ฮ่าฮ่า  นี่ท่านโหวเป็นคนร้องขอเองนะ  หากพูดไปแล้วอย่ามาว่าพวกข้าทีหลังก็แล้วกัน”  เหวินอี้เอ่ยอย่างกระหยิ่มใจ

“ใช่  ข้าร้องขอเจ้าเอง”  อินหลางยังคงยืนยันคำเดิม

“ดี!  เช่นนั้นข้าก็จะเริ่มแล้วนะ”  เหวินอี้ยังคงเรียบเคียงทำทีหยั่งเชิง  ทว่าบุรุษผู้น่าเกรงขามก็ยังนั่งนิ่งเช่นเคย ‘หึหึ  ข้าจะทำให้เจ้าขายหน้าจนอยากแทรกแผ่นดินหนีเชียวฟู่อินหลาง’  นึกอย่างสาใจ  ก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการเมื่อสามวันก่อนให้เจ้าบ่าวฟัง

“อะ… อะไรกัน  นี่ซื่อจื่อกั๋วกงกับคุณหนูมู่ตันหยงแอบได้เสียกันก่อนจะมาเข้าพิธีมงคลเพียงแค่สามวันหรือเจ้าคะ  น่าอาย  น่าอายเหลือเกิน  ข้าน้อยสงสารท่านโหวยิ่งนัก  ซื่อจื่อกั๋วกงทำเช่นนี้กับท่านโหวได้เยี่ยงไรเจ้าคะ  ไม่สงสารบุรุษด้วยกันเลยหรือ  ท่านช่างใจร้ายนัก”  นางรำคนงามต่อว่าพร้อมกับเดินถอยออกมา

“แม่นางข้าเปล่านะ  ข้าถูกมู่ตันหยงหลอกล่อ  คราแรกนางไม่ยอมบอกว่าเป็นผู้ใด  กระทั่งเราได้เสียกันแล้วข้าถึงได้รู้ว่านางคือบุตรสาวคนรองของโหราจารย์มู่  ต่อมานางก็ขู่ว่าจะนำเรื่องนี้ไปบอกบิดาข้า  ข้าเลยต้องคล้อยตามนาง  ทั้งที่ใจก็ไม่อยากทำ  เหล่าบุรุษเหล่านี้ก็ถูกนางหลอกเช่นกัน  มู่ตันหยงนางเป็นสตรีมักมาก  เอากับบุรุษไปทั่ว”  เหวินอี้รีบเอ่ยแก้ต่างให้ตนเอง  โดยมีชายหนุ่มมากกว่าห้าคนช่วยกล่าวสำทับอีก

“ใช่ ๆ ข้าก็โดนด้วย  ข้ามีภรรยาอยู่แล้ว  ทว่ามู่ตันหยงกลับใช้มารยาหลอกล่อข้าจนหน้ามืดตามัวเผลอไปกับนาง”

“ส่วนข้าคิดว่านางยังไม่มีคู่หมาย  ข้าจึงหาทางเข้าใกล้นาง  จากนั้นเราก็มีสัมพันธ์กันเมื่อสองเดือนก่อน  ข้าคิดจะแต่งนางเข้าบ้าน  แต่นางไม่ยอม  บอกว่าฐานะข้าไม่คู่ควร  วันนี้ข้าเลยมาเพื่อเปิดโปงนางเสีย”  ชายหนุ่มอีกคนกล่าวขึ้น

“ไร้ยางอาย!  ไร้ยางอายที่สุด”  เสียงก่นด่าจากญาติผู้ใหญ่ในงานดังขึ้น  และมีอีกหลายเสียงที่ตามมา

“อัปมงคลที่สุด  เช่นนี้แล้วพวกท่านก็มาเพื่อชี้ตัวนางหรือเจ้าคะ  ดีจริง… หากมีพยานหลักฐานมากเพียงนี้  นางคงหนีไม่รอดแน่  ว่าแต่หากพวกท่านเห็นหน้านาง  มั่นใจหรือว่าจะจดจำนางได้  หากวันนี้ต้องเผชิญหน้ากัน…”  นางรำคนงามเอ่ยถาม

“จำได้  ข้าจำได้ไม่มีวันลืม  ถึงนางจะงามสู้เจ้าไม่ได้  ทว่าข้าจำหน้านางได้อย่างแม่นยำ”  เหวินอี้เอ่ยขึ้น  อีกหลายคนก็ยืนยันเสียงหนักแน่น  ก่อนที่ทุกคนจะสะดุ้งโหยงเพราะเสียงหนึ่ง

ปึ้ง!!

ฝ่ามือใหญ่ของฟู่อินโหวฟาดกระทบลงบนพื้นโต๊ะเบื้องหน้า  คาดว่ายามนี้มันคงแดงเถือกไปแล้ว  

“หึหึ  รับไม่ได้หรือท่านโหว”  เหวินอี้ส่งเสียงเย้ยหยัน  เมื่อเห็นท่าทางเดือดดาลของอีกฝ่ายดูท่าคงทนไม่ไหวแล้วกระมัง ค่ำคืนนี้ช่างทำให้เขามีความสุขยิ่งนัก  สาแก่ใจดีเหลือเกิน

“ดูเหมือนทุกคนจะมั่นใจว่าจำคุณหนูมู่ตันหยงได้นะเจ้าคะ  ข้าชักอยากเห็นนางเสียแล้วสิ  สตรีที่หลอกล่อบุรุษมากมายให้หลงเชื่อ  ยิ่งไปกว่านั้นนางยังทำเรื่องชั่วช้าก่อนวันแต่งอีก  ช่างไร้ยางอายหาที่ติไม่ได้จริง ๆ”  นางรำคนงามเอ่ยพร้อมกับหันมาหาเจ้าของงาน  ที่ยังคงนั่งนิ่งมองนางด้วยแววตาเรียบเฉย  

“เหตุใดท่านโหวไม่เชิญเจ้าสาวออกมาเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ดูล่ะเจ้าคะ  อย่างน้อยก็เปิดโอกาสให้นางได้แก้ต่างมิใช่หรือ  หากคุณชายเหล่านี้กล่าวหานางฝ่ายเดียว  มันก็ไม่ยุติธรรมกับนางน่ะสิ  แต่ถ้าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง  เช่นนั้นท่านโหวก็ใช้โอกาสนี้หย่าขาดจากนางเสียก็สิ้นเรื่อง  ข้าน้อยว่ามันต้องสำเร็จโดยง่ายแน่เจ้าค่ะ  ท่านโหวคิดว่าอย่างไรเจ้าคะ”  นางรำตัวน้อยยังคงเอ่ยแนะ  ทุกสายตาจึงหันมาที่ฟู่อินโหวเป็นตาเดียว

ทว่าส่วนมากล้วนแต่มองเขาอย่างเย้ยหยัน

ขณะนั้นเอง  เว่ยซาก็เดินเข้ามากระซิบรายงานบางอย่าง  คนในห้องก็พากันเงี่ยหูฟังราวกับตนจะได้ยินด้วย  อินหลางจึงมองไปยังร่างอรชรที่ยืนยิ้มอยู่กลางห้อง

เขายกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย  “เอาเป็นว่า  ข้าจะทำตัวให้เป็นกลาง  ยอมให้นางออกมาเผชิญหน้ากับทุกคนก็แล้วกัน  ค่ำคืนนี้ขอให้พวกเจ้าช่วยยืนยันด้วยว่าสตรีที่เห็นใช่นางหรือไม่”

“ได้  ข้ายินดียิ่งนักท่านโหว”  เหวินอี้รีบเอ่ยก่อนใคร  เขาเผยยิ้มหยันออกมาอย่างกับเป็นผู้ชนะในการศึก  

“เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวไปนั่งพักสักครู่นะเจ้าคะ”  นางรำคนงามเอ่ยก่อนจะเดินเลี่ยงมาที่เก้าอี้ตรงมุม  ซึ่งมันอยู่ข้างกันกับเจ้าของงาน  ทว่าห่างแค่ช่วงแขนเท่านั้น  และคนที่จัดที่นั่งให้ก็คือสาวใช้ที่ยกสุราเข้ามาในคราแรกนั่นเอง

“แม่นาง  ไยเจ้าไม่มานั่งข้างข้า”  เหวินอี้รีบท้วง

“ซื่อจื่อกั๋วกงทายชื่อข้าน้อยไม่ถูกเองนะเจ้าคะ  ข้าน้อยก็ต้องหันมาปรนนิบัติเจ้าของงานสิเจ้าคะ  ใครบอกให้คุณชายไม่รู้จักข้าล่ะเจ้าคะ”  หญิงสาวเอ่ยตัดพ้อราวกับตนน้อยใจนักหนา  

เหวินอี้จึงได้แต่มองอย่างเสียดาย  

อินหลางเห็นเช่นนั้นก็เผยยิ้มชอบใจ เขาจึงเอ่ยสั่งนาง “เช่นนั้นเจ้ารินสุราให้ข้าที”  ทว่าเมื่อนางยื่นจอกให้  เขากลับจับข้อมือเล็กออกแรงดึงจนร่างอรชรนั้นเซถลานั่งลงบนตัก

“อ๊ะ!... ทำบ้าอะไรของท่าน”

“จะเล่นก็เล่นให้สมบทบาทสิ”  เสียงเย็นดังอยู่ข้างหู  ทำเอาคนที่ตั้งท่าจะดิ้นหนีต้องสงบลง  ทว่าแก้มเนียนใสกลับขึ้นสีเรื่อ  มิหนำซ้ำร่างกายนี้ยังสั่นระริกจนอีกฝ่ายสัมผัสได้  “ไม่เห็นจะเก่งเหมือนยามพูดเลยนะ”  ฟู่อินโหวเอ่ยเย้าเสียงเบา

ทว่าคนในอ้อมแขนกลับไม่ตอบ  มากไปกว่านั้นคือนางเอาแต่นั่งก้มหน้า  ไม่ยอมเงยขึ้นสบตาผู้คน  แต่มือก็พยายามบีบเนื้อที่ต้นแขนของอีกฝ่ายอยู่บ่อยครั้ง  

“ทำข้าเจ็บมาก ๆ คืนนี้ข้าจะเอาคืนเจ้า”  คำขู่เปล่งมาให้ได้ยิน  มือเล็กจึงหยุดชะงักในทันที  พร้อมกับเงยหน้าสบตาเขา   แต่ไม่ทันไรนางก็เสหลบเมื่อเห็นริมฝีปากอีกฝ่ายยกมุมขึ้น  ทว่ามันก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อได้ยินเสียงขัดจังหวะของศัตรูคู่อาฆาต  ที่แค้นกันมาตั้งแต่รุ่นปู่จนมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สะสาง

“ฟู่อินโหว!  ไหนเจ้าบอกว่าไม่แยแสนาง  คิดจะเปลี่ยนใจกระนั้นหรือ”  เหวินอี้คำรามเสียงดังลั่น

“นางถูกส่งมาเพื่องานมงคลของข้าโดยเฉพาะ  หากข้าไม่เชยชมก็เสียเชิงชายแย่น่ะสิ  อีกอย่างพวกเจ้าก็บอกเองมิใช่หรือว่า  ภรรยาที่ข้าแต่งเข้ามาวันนี้นางมากตัณหาเพียงใด  ขอบคุณที่พวกเจ้าช่วยเตือน  ทำให้ข้าหูตาสว่างขึ้นมาทันที  ข้าเลยคิดว่าคืนนี้จะนอนกอดหญิงงามให้ชื่นใจ  ดีกว่าไปนอนทับร่างสตรีที่ผ่านบุรุษมากหน้าหลายตามิใช่หรือ  เจ้าว่าความคิดข้าดีหรือไม่”  สิ้นคำ  ฟู่อินโหวก็รั้งใบหน้างามให้เงยขึ้น  ก่อนจะแนบริมฝีปากตนลงประกบบดเบียดความนุ่มหยุ่นอย่างเอาแต่ใจ  ทว่าไม่นานเขาก็ปล่อยให้นางเป็นอิสระ  และยังไม่ลืมที่จะกดหัวนางซบไหล่

“นะ… นี่เจ้า”  เหวินอี้ได้แต่ชี้หน้าอย่างแค้นใจ  เขาหรืออุตส่าห์สั่งคนสนิทให้เตรียมตัว  รอให้งานมงคลเลิกลา  เขาจะหาทางพานางออกไปด้วย  ค่ำคืนนี้เขาจะต้องได้เชยชมนาง  ทว่ายามนี้ฟู่อินโหวกลับฉกชิงสตรีงามไปครองซึ่งหน้าเสียได้  

น่าเจ็บใจนัก…

แต่ช่างเถิด  แม้คืนนี้เขาจะเสียนางรำผู้นี้ไป  ทว่ามันยังมีเรื่องให้เขาได้เปรียบฟู่อินหลางอยู่ ‘รอให้มู่ตันหยงมาก่อนเถิด  ข้าจะทำให้เจ้าขายหน้า  ไม่อาจอาศัยอยู่ในเมืองหลวงได้เลย’

 

 

 

#ท่านโหจะมาทำตัวเจ้าชู้ไม่ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   31. นางร้ายมีสุข

    อินหลางไม่ปล่อยโอกาสให้ภรรยารักตนได้เอ่ยปาก เพราะกำหนัดก่อนหน้ามันยังค้างคาอยู่ พอมาเห็นผิวขาวของนาง ความต้องการมันก็ยิ่งเพิ่มพูนร่างอรชรจึงถูกเขาโถมเข้าใส่อย่างไม่รีรอ“อ่า… น้องหญิง ร่องเจ้ารัดแน่นยิ่งนัก” ท่านโหวเอ่ยชมทุกรั้งยามเมื่อเขาสอดใส่แท่งหยกเข้ามา ยิ่งไปกว่านั้นท่วงท่าที่ทั้งคู่ทำ มันก็กระตุ้นกำหนัดดีนัก ยามเมื่อเขาออกแรงน้ำในถังก็กระเพื่อมตาม ดีที่มันกว้างใหญ่จึงรับการกระแทกของเขาได้ตันหยงได้แต่ครางเสียว ไม่อาจตอบโต้เป็นภาษาปกติเพราะร่างแกร่งถาโถมเข้าใส่จนนางต้องหาที่ยึด นั่นคือขอบถังที่อยู่บนศีรษะ ส่วนมืออีกข้างก็โอบรอบคอสามีไว้ ส่วนด้านล่างก็ถูกสะโพกหนาขยับเข้าใส่ไม่หยุดหย่อน ทำเอากำหนัดที่กักเก็บไว้เป็นได้ทะลักออกมาในเวลาอันรวดเร็ว ถึงกระนั้นก็ใช่ว่ามันจะจบ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ในถังอีกแล้ว ตรงนี้มันคับแคบเกินไป“ต่อนะน้องหญิง” สิ้นคำท่านโหวก็สอดลิ้นอุ่นเข้าปากนางทันที ตามด้วยเสียงจูบแลกลิ้นที่ไม่มีใครยอมใครเตียงกว้างที่ถูกปูไว้อย่างเรียบร้อย บัดนี้มันเริ่มย่นเข้าหากันเพราะสงครามของเนื้อกายเริ่มปะทุขึ้นมาอีกหนความสุข

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   30. ลอบสังหาร

    อินหลางพาภรรยาตัวน้อยของตนกลับมาถึงเรือนก็ไม่ยอมเสียเวลาจัดการกับนาง เพราะวันนี้ฮูหยินเขาแต่งกายได้งดงามเย้ายวนนัก หากไม่ติดว่าอยู่ในงานเลี้ยง เขาเป็นได้แบกนางกลับห้องในยามนั้นแล้ว และเมื่อมาถึงเขาก็ไม่รอช้าที่จะยกนางขึ้นบนโต๊ะกลางห้อง หมายจะรีดน้ำรักตนเสียตรงนี้ ทว่าในขณะที่เขาซุกหน้าบนซอกคอขาว ประตูที่ปิดอยู่กลับถูกเปิดออก ตามมาด้วยชายฉกรรจ์ปิดหน้าตากรูกันเข้ามา “ฆ่าฟู่อินโหว แล้วเอาฮูหยินมันไป” เสียงคำสั่งดังขึ้นทันที จากนั้นพวกมันก็ง้างดาบใส่ หมายเอาชีวิตเจ้าของจวน อินหลางป้องภรรยาตนไว้ข้างหลัง ทั้งเตะทั้งถีบผู้ที่ก้าวเข้าใกล้ เขาพาฮูหยินถอยร่นไปจนถึงมุมเก็บดาบ เมื่อคว้ามันมาได้ก็กลายเป็นกลุ่มคนร้ายที่ต้องหวาดกลัว เพราะฟู่อินโหวสังหารคนเหล่านี้อย่างไม่มีปรานี ถึงกระนั้นพวกมันก็ยังพุ่งเข้ามาไม่หยุด บางคนอ้อมมาด้านหลังหมายจะจัดการกับภรรยาเขา ฟิ้ว! คมธนูจากหน้าประตูแหวกผ่านอากาศปะทะร่างคนร้ายทันที พร้อมกันนั้นเหล่าองครักษ์ของฉินอ๋องก็กรูกันเข้ามา “จัดการมันให้หมด” เขาสั่งการเสียงเข้ม กลุ่มคนร้ายจึงพากันตื่นตระหนก บ้างก็วิ่งออกทางหน้าต่างเพื่อเอาตัวรอด “ข้

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   29. ภาพเสมือนจริง

    ผ้าแพรสีแดงถูกลากลงมาอย่างเชื่องช้า เสียงเนื้อผ้าลากผ่านไม้ดังแผ่วเบา ทว่าไม่มีใครใส่ใจตรงนี้เลย เพราะหลังจากผ้าถูกดึงออก พวกเขาก็เอาแต่จ้องฉากไม้กั้นที่สูงเท่าตัวคน แขกเหรื่อในงานรวมถึงเจ้าภาพแทบจะหยุดหายใจ ตรงหน้าพวกเขาคือฉากกั้นบานใหญ่ขนาดหกพับ แต่ละพับมีภาพของชายหญิงคู่หนึ่ง ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวต่าง ๆ พวกเขามีหลากหลายอิริยาบถ บางภาพยืนสบตากันใต้ร่มไม้ บางภาพยิ้มอ่อนขณะช่วยกันชงชาในศาลา บางภาพยืนกุมมือกันท่ามกลางแสงจันทร์ ซึ่งแต่ละภาพล้วนสะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และช่วงเวลาที่ฝังลึกอยู่ในใจ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงไม่แพ้กัน กลับมิใช่ความละเอียดของเส้นพู่กัน และเรื่องราวมากมายบนฉากกั้น ทว่า! มันคือ สีสัน ที่สาดซัดลงบนผืนผ้าอย่างวิจิตรตระการตาต่างหาก บางภาพเผยความงามของท้องฟ้าในยามเย็นเสมือนจริงยิ่งนัก และยังมีแสงสะท้อนสาดส่องลงมา นำพาให้อาภรณ์ของหนุ่มสาวในภาพนี้ทอประกาย ดวงตาของทั้งคู่หรือก็ดูแวววาว…ราวกับมีชีวิต ทุกภาพล้วนแต่เสมือนจริงจนทุกคนได้แต่ยืนนิ่งงัน แม้เสียงดนตรีขาดหายไปก็ยังไม่มีใครใส่ใจ ด้านไท่ฮูหยิน นางกำลังก้าวเข้าไปใกล้ พร้อมกับเอ

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   28. สาวงาม

    เวลาต่อมา ณ ลานไม้หน้าเรือนรับรอง กลุ่มคนงานก็นำโต๊ะยาวมาตั้งขวางทางเดิน ในขณะนั้นแขกผู้ใหญ่อย่างฉินอ๋องก็เดินทางมาถึง ซึ่งเขามักจะมาอวยพรนางทุกปีเพราะไท่ฮูหยินคือน้องสาวของหานสืออวิ้นผู้เป็นตาของเขาเอง หากจะนับให้เข้าใจฉินอ๋องก็คือญาติผู้พี่ของฟู่อินหลางและอายุของทั้งคู่ก็เท่ากัน เพราะเกิดในวันเดียวกัน ต่างก็แค่ คนหนึ่งเกิดกลางวัน อีกคนเกิดยามวิกาล“ท่านพี่ ไยท่านไม่บอกว่าฉินอ๋องจะมาด้วย แค่นี้ข้าก็ต้อนรับไม่ทันแล้วท่านรู้หรือไม่” ตันหยงตำหนิสามีทันที “พี่ก็ไม่รู้ว่าพระองค์จะเสด็จมา ก่อนหน้าทรงรับสั่งว่าจะเดินทางไปตรวจตราภัยแล้งช่วยรัชทายาท ทว่าเหตุใดจู่ ๆ ถึงได้เสด็จมาก็ไม่รู้” อินหลางหันมากระซิบบอกภรรยา ก่อนจะมองไปที่ร่างสูงตัวเท่ากัน ซึ่งยามนี้กำลังประคองท่านย่าตนออกมานั่งที่ตั่ง ทำให้แขกเหรื่อที่มาอวยพรต้องรีบเงียบเสียงลง“ตามสบายเถิด ข้าเองก็มาโดยไม่ได้แจ้งก่อน ต้อนรับตามแต่พวกเจ้าสะดวกเถิด” สุรเสียงของฉินอ๋อง เอ่ยออกมาเล็กน้อยก็ทำให้ภายในงานเงียบลงถนัดตา มีเพียงเสียงดนตรีเท่านั้นที่ยังคงบรรเลงขับกล่อมให้ได้ยิน“ทรงอำนาจดีจังเลยนะเจ้าคะ น่าเกรงขามมาก

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   27. ชุลมุนวุ่นวาย

    ตันหยงอาบน้ำเสร็จก็ออกมายืนรอสามีที่ระเบียงนอกเรือน เป็นจังหวะที่มีคนมารายงานข่าวกับเว่ยซาพอดี“มีอะไรหรือ” นางรีบถาม“ท่านโหวให้คนมาแจ้งว่าคืนนี้อาจจะกลับดึกขอรับ”“ได้บอกหรือไม่ว่าเพราะเหตุใด” “คงหารือกันเรื่องงานขอรับ ช่วงนี้ทางตะวันออกเกิดภัยแล้งอย่างหนัก ยังมีโรคระบาดตามมาอีก ผู้คนทางนั้นอดอยากและล้มตายกันมาก ท่านโหวและขุนนางคนอื่น ๆ ต่างก็พยายามหาทางแก้กันอยู่ขอรับ” เว่ยซารายงานเท่าที่ตนเคยได้ยินมา“ภัยแล้งเหรอ” ตันหยงนิ่งไป พร้อมกับคิดถึงเนื้อเรื่องที่ตนเคยอ่าน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฟู่อินโหวไม่ค่อยได้กลับจวน จึงทำให้ภรรยาตามไปราวีถึงหอ เป็นเหตุให้เขาอับอายมาก ทว่าคนเขียนไม่ได้ระบุไว้ว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะเนื้อเรื่องหลัก ๆ บรรยายถึงปัญหาชีวิตคู่ของฟู่อินโหวและมู่ตันหยง รวมถึงตัวนางเอกของเรื่องมากกว่าองค์ประกอบส่วนอื่นผู้ประพันธ์ไม่ได้ลงรายละเอียดนักเพราะนี่มันคือนิยายรักดราม่า แนวรักสามเส้าทว่าเมื่อนางเข้ามาอยู่ในนี้และเปลี่ยนบท เนื้อเรื่องมันเลยละเอียดขึ้น ตัวละครยังคงดำเนินชีวิตเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้ตัดไปวันนั้นวันนี้เหมือนในนิยายที่ตนเคยอ่านมา ฉะน

  • ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [นางร้าย]   26. มีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรู

    อินหลางเองก็มึนงงไม่แพ้กัน เขาจึงรีบถามให้แน่ใจ“จะ… จริงหรือ เจ้าไม่ได้ปดพี่นะ”“ข้าจะปดท่านพี่ทำไม เอาล่ะในเมื่อทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นเราก็มาวาดภาพกันต่อดีกว่านะเจ้าคะ ข้าขอใช้ห้องตำราของท่านพี่ได้หรือไม่” ตันหยงยิ้มหวานให้เขา“ได้สิ จวนนี้เจ้าอยากใช้ตรงไหนจัดการได้เลย” ฟู่อินโหวรีบเอ่ย ภรรยาตัวน้อยก็ยิ้มกว้างทันที ด้านไป่ฮวาได้แต่เหลือบตามองอย่างหมั่นไส้ แต่ยังไม่ทันได้เปลี่ยนสีหน้า แขนของนางก็ถูกคว้ามาเกาะ แล้วรั้งให้เดินตามกันออกมา ทิ้งให้คนในห้องมองตามอย่างมึนงง…“ฮะ… ฮูหยินไปสนิทกับแม่นางไป่ฮวาตั้งแต่เมื่อใดกัน” เป็นเกาหยางที่เอ่ยในสิ่งที่ตนสงสัยก่อนใคร“นั่นสิ ข้าไม่เคยเห็นแม่นางไป่มาหาฮูหยินเลยสักครั้ง และฮูหยินก็ไม่เคยไปหานางเลยสักครา แล้วทั้งคู่ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อใด” ครานี้เป็นเว่ยซานที่เอ่ยขึ้นมาอย่างงวยงง“พวกนางไม่เคยไปมาหาสู่กันกระนั้นหรือ”“ไม่ขอรับ ข้าอยู่เฝ้าฮูหยินตามคำสั่งนายท่านตลอดทั้งวัน มีแยกไปบ้างเวลาทำธุระ แต่ก็ไม่นานนะขอรับ เอ๋! หรือสองคนนี้จะนัดพบกันยามค่ำคืน ทว่าแม่นางไป่ก็เพิ่งมาอยู่แค่สามวันมิใช่หรือขอรับ มิหนำซ้ำว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status