Share

บทที่ 7

Penulis: เกาะลอยน้ำ
ซิงฟานโหรวแสดงสีหน้าเยาะเย้ย และอ่านถ้อยคำในจดหมายรักทีละตัว

"พี่จือเหยียนคะ หนูเฝ้ามองพี่จากข้างหลังมาตลอด พี่จะหันกลับมามองหนูได้ไหมคะ?"

เมื่อได้ยินเสียงของซิงฟานโหรว กำปั้นของเซิ่นหรูซวงก็กำแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

นี่เป็นสิ่งที่เธอเขียนจริง ๆ ก่อนที่จะเกิดใหม่ ตอนนั้นเธอยังคงมีความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริงกับซิงจือเหยียน

แต่ปกติแล้วเธอซ่อนจดหมายรักไว้เป็นอย่างดี ไม่มีทางที่จะเอาไปใส่ไว้ในห้องของซิงจือเหยียนได้อย่างแน่นอน

มีความเป็นไปได้อย่างเดียว

คือมีคนอื่นขโมยไปและนำไปวางไว้ในห้องของซิงจือเหยียน

อาจจะเป็นซิงฟานโหรว หรือไม่ก็เว่ยอวิ่นลู่

"พอได้แล้ว"

เสียงของซิงจือเหยียนทุ้มและแหบแห้งเล็กน้อย แฝงไปด้วยความโกรธ ดวงตาคมกริบและเย็นชา "ฉันไม่อยากฟังอีกแล้ว"

ซิงฟานโหรวหัวเราะเยาะแล้วหุบปากลง ก่อนจะยัดจดหมายรักใส่อ้อมอกของเซิ่นหรูซวงด้วยความรังเกียจ

แม้ว่าจะเป็นเซิ่นหรูซวงที่เกิดใหม่แล้ว เธอก็ยังไม่อาจเมินเฉยต่อสายตาแบบนี้ของซิงจือเหยียนได้ รู้สึกเหมือนความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่วตัว

“เซิ่นหรูซวง เธอต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉัน”

เว่ยอวิ่นลู่จู่ ๆ ก็ดึงแขนของซิงจือเหยียน และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "คุณเซิ่นยังเป็นเด็กอยู่ จือเหยียนไม่ต้องถือสาหรอกค่ะ อย่าโกรธเลยนะ"

"เพียงแต่" เว่ยอวิ่นลู่มองเธอด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะสงสาร "คงต้องสอนคุณเซิ่นให้ตั้งใจเรียนหน่อย อย่ามัวแต่คิดเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย"

ซิงจือเหยียนมองเธออย่างเย็นชา "เซิ่นหรูซวง ฉันเคยบอกเธอไปแล้ว อย่าเอาความคิดสกปรกของเธอมาใช้กับฉัน อย่าคิดล้ำเส้นกันอีก"

เซิ่นหรูซวงหายใจเข้าลึก ๆ "ฉันไม่ได้เอาจดหมายรักนั่นไปไว้ในห้องคุณ มีคนอื่นทำต่างหาก"

ซิงฟานโหรวหัวเราะเยาะ "คนอื่น? คนอื่นเขาไม่มีใครหน้าด้านพอจะทำเรื่องแบบนี้หรอก เธอแค่อยากแยกพี่ฉันกับพี่ลู่ลู่ก็เท่านั้น"

เซิ่นหรูซวงไม่ได้สนใจคำพูดของซิงฟานโหรว

เธอมองตรงเข้าไปในดวงตาที่เย็นชาของซิงจือเหยียน "ซิงจือเหยียน ที่ผ่านมาฉันผิดเอง ฉันควรจะพูดกับนายให้ชัดตั้งแต่แรก จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดอีก"

สายตาของซิงจือเหยียนยังคงเหมือนเดิม ยังคงเย็นชาตามปกติ

"ตอนนี้ฉันจะบอกคุณให้ชัดเจนว่า ฉันไม่ชอบคุณแล้วจริง ๆ"

นิ้วมือของซิงจือเหยียนที่วางอยู่บนไหล่ของเว่ยอวิ่นลู่ขยับเล็กน้อย

เว่ยอวิ่นลู่ตกใจเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองสีหน้าของซิงจือเหยียน

เมื่อเห็นซิงจือเหยียนจ้องมองไปที่เซิ่นหรูซวง หัวใจของเธอก็เต้นแรง

เซิ่นหรูซวงพูดต่อ "เมื่อก่อนฉันผิดเอง ฉันชอบคนผิด ฉันตาบอดเอง ฉันมันหน้าไม่อายที่ไปชอบคุณ"

"ฉันรู้ตัวแล้วว่าผิด และฉันจะแก้ไขมันให้ได้"

"แต่หลังจากนี้ ฉันจะไม่มีความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้อีกต่อไปแล้ว และจะรักษาระยะห่างจากคุณ หลังจากนี้จะไม่ล่วงเกินคุณอีก"

เมื่อได้สารภาพออกมาว่าความรู้สึกของตัวเองน่ารังเกียจเพียงใด เซิ่นหรูซวงกลับรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด เหมือนก้อนหินหนักอึ้งที่กดทับใจถูกยกออกไป

หลังจากมองเข้าไปในดวงตาของซิงจือเหยียนเป็นเวลานาน เซิ่นหรูซวงก็หยิบจดหมายรักที่เธอลืมไปแล้วขึ้นมา

แล้วฉีกมันต่อหน้าซิงจือเหยียนจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ซิงจือเหยียนดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างขึ้นมาเพื่อขัดจังหวะ "เซิ่นหรูซวง"

"ขอพูดประโยคสุดท้าย ซิงจือเหยียน จากนี้ไป ฉันจะขีดเส้นแบ่งระหว่างเราสองคนให้ชัดเจน"

เมื่อพูดจบ เธอก็โน้มตัวลงเล็กน้อยต่อหน้าซิงจือเหยียน

เธอจึงไม่ได้เห็นแววตาที่ตกใจเล็กน้อยของซิงจือเหยียนก่อนที่เขาจะเม้มริมฝีปากและขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ

เมื่อเธอยืนขึ้น เซิ่นหรูซวงก็สังเกตเห็นว่าเว่ยอวิ่นลู่และซิงฟานโหรวหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ในห้องเหลือเพียงแค่เธอกับซิงจือเหยียนสองคน

หัวใจของเธอเต้นแรง

ตอนนี้เอง ที่เธอได้ตระหนักถึงแผนการชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

เซิ่นหรูซวงหันหลังกลับทันที และเห็นประตูห้องปิดลง ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ

เธอไม่มีเวลาที่จะดูปฏิกิริยาของซิงจือเหยียน ก็รีบวิ่งไปที่ประตูห้อง บิดลูกบิดประตูอย่างสุดกำลังเพื่อพยายามเปิดประตู

แต่หลังจากบิดไปหลายครั้ง ลูกบิดประตูก็หลุดออกมาอยู่ในมือของเธอ

ลูกบิดประตูเสียอีกแล้ว

เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในชาติก่อนเลย

หัวใจของเซิ่นหรูซวงเต้นระรัว จนแทบจะกระเด็นออกมาจากอก

ข้างหลังเธอ เสียงหายใจของซิงจือเหยียนเริ่มหอบแรงขึ้นเรื่อย ๆ

ต้องยอมรับว่า เว่ยอวิ่นลู่คำนวณเวลาได้แม่นยำเหลือเกิน

ฤทธิ์ยาในร่างกายของซิงจือเหยียนเริ่มออกฤทธิ์แล้ว

เซิ่นหรูซวงรู้สึกโล่งใจที่เธอได้พูดเคลียร์ทุกอย่างชัดเจน และยังอาเจียนเอาน้ำผลไม้ที่ดื่มเข้าไปออกหมด

เธอหันหลังกลับ แผ่นหลังพิงแนบกับประตูห้อง และมองซิงจือเหยียนด้วยความระมัดระวัง

ซิงจือเหยียนกำลังนั่งพิงขอบเตียง มือทั้งสองข้างกุมศีรษะไว้ ใบหูแดงก่ำ เสียงหายใจเริ่มหอบแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมฤทธิ์ยาในร่างกาย

เซิ่นหรูซวงเม้มปากแน่น ถือลูกบิดประตูไว้ด้วยความระมัดระวัง

เธอคิดว่า ถ้าซิงจือเหยียนพุ่งเข้ามา เธอจะใช้ลูกบิดประตูในมือทุบไปที่ตัวของซิงจือเหยียนอย่างแรง

"ซิงจือเหยียน ประตูเสีย เปิดไม่ออก เดี๋ยวก็มีคนมาเปิดให้ คุณใจเย็นๆ นะ"

ซิงจือเหยียนหอบหายใจอย่างหนัก เงยหน้าขึ้นมองเธอพร้อมกับขมวดคิ้ว ดวงตาสีดำเรียวยาวมีรอยเส้นเลือดขึ้น ริมฝีปากเม้มแน่น เปล่งเสียงแหบแห้งออกมา

"เธอรู้ว่าฉันโดนวางยา?"

ความสงสัยในตาของซิงจือเหยียนชัดเจนเกินไป ทำให้เซิ่นหรูซวงรู้สึกขัดตา

"แทนที่จะมาสงสัยฉัน สู้ไปสงสัยเว่ยอวิ่นลู่ที่ให้คุณดื่มน้ำผลไม้ดีกว่าเหรอ"

ซิงจือเหยียนจ้องมองเธอเขม็ง ดวงตาสีแดงก่ำ เส้นเลือดที่หน้าผากปูดขึ้นมา เหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังจะเสียสติ

หัวใจของเซิ่นหรูซวงเต้นระรัว มือก็กำแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

ผ่านไปพักใหญ่ ซิงจือเหยียนก้มหน้าลง มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปในผมของเขา เส้นเลือดที่หลังมือปูดขึ้นมาแสดงถึงความอดทนอดกลั้น

เซิ่นหรูซวงไม่อาจสบายใจได้

เธอรู้ดีว่ายาที่เว่ยอวิ่นลู่ให้นั้นเป็นยารุนแรง แม้แต่คนที่ควบคุมตัวเองได้ดีอย่างซิงจือเหยียนก็ยังต้องเสียสติไปหมดเมื่อฤทธิ์ยาออกฤทธิ์

ตอนนี้เธอทำได้เพียงแค่ภาวนาให้เว่ยอวิ่นลู่นำคนมาให้เร็วที่สุด

เวลาผ่านไปทีละวินาที ซิงจือเหยียนยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

เซิ่นหรูซวงเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะไอออกมาเบา ๆ

เสียงนั้นดังชัดเจนท่ามกลางความเงียบภายในห้อง

วินาทีต่อมา ซิงจือเหยียนก็ลุกขึ้นจากเตียง ปลายตาสีแดงก่ำเหมือนสัตว์ร้ายที่จ้องมองเหยื่อ ก้าวขายาว ๆ เข้ามาใกล้เธอทีละก้าว

เซิ่นหรูซวงเบิกตากว้าง รีบยกมือที่ถือลูกบิดประตูขึ้น

ทันใดนั้น ซิงจือเหยียนคว้าข้อมือของเธอไว้ บีบแรงจนกล้ามเนื้อด้านในเจ็บระบม

ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เธอจำต้องปล่อยมือ ทำให้ลูกบิดประตูล่วงลงสู่พื้น

พริบตาเดียว ซิงจือเหยียนก็ยกเธอขึ้นพาดไหล่

แล้วโยนเธอลงบนเตียงอย่างแรง

เซิ่นหรูซวงรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว คว้าหมอนข้างเหวี่ยงใส่หน้าซิงจือเหยียนที่กำลังจะพุ่งเข้ามา

“ซิงจือเหยียน ใจเย็น ๆ นะ ฉันคือเซิ่นหรูซวงนะ!”

ซิงจือเหยียนพุ่งเข้ามาทันที มือคู่ใหญ่จับข้อมือของเธอไว้ ร่างกายที่หนักและร้อนผ่าวของเขากดทับเธอเอาไว้

ดวงตาที่สับสนและแดงก่ำของซิงจือเหยียนนั้นเด่นชัดอยู่ในความมืด

เขาหอบหายใจอย่างแรง ค่อย ๆ ก้มศีรษะลง ปิดกั้นริมฝีปากของเธอด้วยริมฝีปากของเขา ลิ้นที่ร้อนผ่าวของเขาดันเปิดริมฝีปากของเธอออก

ในขณะนั้น สัญญาณเตือนในสมองของเฉินหรูซวงดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เธอกัดฟันแล้วยกขาขึ้นถีบไปที่ท้องของซิงจือเหยียน

ซิงจือเหยียนเจ็บปวด เซิ่นหรูซวงมุดออกมาจากใต้ร่างของเขาเหมือนปลาไหลและวิ่งไปที่ห้องน้ำ

ขณะที่มือของเธอเพิ่งจะแตะลูกบิดประตู ซิงจือเหยียนก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง กดร่างเธอแนบไปกับประตูห้อง

เมื่อรู้สึกว่ามือของซิงจือเหยียนกำลังคลำหาอยู่ที่เอวของเธอ เธอกัดฟันแน่น “ซิงจือเหยียน ได้สติสักทีเถอะ!”

เสียงของซิงจือเหยียนแหบทุ้ม ลมหายใจที่ร้อนผ่าวพ่นรดไปที่ใบหน้าของเธอ มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมเอวของเธอไว้แน่น "จะหนีไปไหน?"

หางตาของเซิ่นหรูซวงสั่นเทิ้ม "ซิงจือเหยียน คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?"

“ฉันไม่ใช่เว่ยอวิ่นลู่ คุณตั้งสติหน่อยสิ!”

ใบหน้าที่ร้อนผ่าวของซิงจือเหยียนแนบไปกับใบหน้าของเธอ พึมพำ "ลู่ลู่?"
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 450

    เซิ่นหรูซวงค่อย ๆ พบว่าแก้วน้ำของเธอไม่เคยว่างเปล่าเลย อุณหภูมิของน้ำในแต่ละครั้งที่ดื่มก็พอดีเป๊ะ ดื่มแล้วรู้สึกชุ่มคอมากเซิ่นหรูซวงเบ้ปากเธอโกรธก็คือโกรธจริง ๆ และก็ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมวันนั้นสือเหยาถึงได้โกรธรุนแรงขนาดนั้น ราวกับว่าซิงจือเหยียนเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเขาอย่างไรก็ตาม ถึงแม้เธอจะโกรธมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะโกรธสือเหยาได้นานสือเหยาช่วยเธอไว้มากมายหลายเรื่อง เธอจดจำไว้ในใจเป็นอย่างดีเพียงชั่วพริบตา ก็ถึงเวลานัดพบกับซิงจือเหยียนแล้วตอนที่เซิ่นหรูซวงขึ้นรถ เธอได้เตือนสือเหยาอีกครั้งว่าอย่าตามมา ให้ติดตามเจียงเสี่ยวชุนอย่างว่านอนสอนง่ายสือเหยายืนพยักหน้าอย่างว่าง่ายอยู่ที่ข้างรถเซิ่นหรูซวงไม่ค่อยเชื่อว่าสือเหยาจะว่าง่ายขนาดนี้ เธอจึงดึงเจียงเสี่ยวชุนมาต่อหน้าเขา พร้อมกับกำชับว่าให้จับตาดูสือเหยาให้ดี อย่าให้เขาตามมาเจียงเสี่ยวชุนเข้าใจเรื่องราวในอดีตของเซิ่นหรูซวงกับซิงจือเหยียนเป็นอย่างดี และเข้าใจเหตุผลที่เซิ่นหรูซวงตัดสินใจทำแบบนั้น เธอจึงพยักหน้าโดยไม่ต้องคิดมาก “ได้ เธอไปจัดการธุระได้เลย ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันนะ”เซิ่นหรูซวงพยักหน้าแล้วให้คนขับขับรถออก

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 449

    รอยที่แก้มแดงก่ำกว่าเดิมหลายเท่าสือเหยาหอบหายใจอย่างหนัก ความรู้สึกที่เสียใจ จนใจ หงุดหงิด หึงหวง และอารมณ์วุ่นวายอื่น ๆ อีกมากมาย หลั่งไหลเข้ามา กระแทกที่หัวใจจนสับสนอลหม่าน ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกายเป็นฝ่ามือของเซิ่นหรูซวงที่เรียกสติของเขากลับคืนมาเขาได้แต่สำนึกผิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อรู้สึกตัวถึงท่าทีและสิ่งที่พูดออกไปใส่เซิ่นหรูซวงแล้ว ตอนนี้สือเหยาแทบอยากจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องทำงาน และยอมให้เซิ่นหรูซวงตบอีกสองสามครั้ง จนกว่าเธอจะหายโกรธเขาพูดคำพูดแบบนั้นกับเซิ่นหรูซวงได้อย่างไรเขาทำไปได้อย่างไร?เมื่อสติกลับคืนมา สือเหยาได้แต่เจ็บแค้นตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมตนเองต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักได้ ทั้งยังขาดความสุภาพ ขาดความยับยั้งชั่งใจ พูดไม่คิดจนทำร้ายจิตใจเซิ่นหรูซวง และทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับเซิ่นหรูซวงไกลออกไปจนเกินเอื้อมอีกแล้วเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นคนเลวทรามที่ไม่น่าให้อภัยสือเหยาคอตก ใช้มือทั้งสองข้างบีบขมับตัวเองแล้วถอนหายใจอย่างหนักเซิ่นหรูซวงคงจะโมโหมากแล้วแน่ ๆเขาไม่เคยเห็นเซิ่นหรูซวงเฉียบขาดและดุดันขนาดนี้ม

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 448

    สือเหยายืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ส่วนแขนก็ยังคงจับพยักเก้าอี้ไว้เหมือนเดิมเซิ่นหรูซวงโกรธจัด ยกเท้าขึ้นเตะเข้าที่หน้าท้องของสือเหยาอย่างแรงเธอไม่ได้ยั้งแรง สือเหยาจึงถูกแตะถอยหลังไปหลายก้าวจนชนเข้ากับหน้าต่างบานใหญ่อย่างทุลักทุเลเซิ่นหรูซวงเห็นสภาพของเขาแล้วรู้สึกหงุดหงิด ทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าเธอต่างหากที่ถูกโดนต่อว่าอย่างไร้เหตุผล แต่สือเหยากลับทำท่าทางที่ดูทุลักทุลเและเหมือนน้อยใจแบบนั้นเธอหมุนเก้าอี้อย่างหัวเสีย หันมองคอมพิวเตอร์ด้วยใบหน้าเย็นชา ไม่มองสือเหยาอีก ผ่านไปสักพัก สือเหยาพูดด้วยเสียงแหบพร่า “หรูซวง ขอโทษนะ ความผิดของฉัน…”เซิ่นหรูซวงเคาะแป้นพิมพ์ด้วยสีหน้าเย็นชา “รีบไปให้พ้น”สือเหยาพูดด้วยเสียงแหบพร่า “ฉันไม่ไป ฉันไม่ไปได้ไหม?”เซิ่นหรูซวงไม่ตอบคำถามเขา เคาะแป้นพิมพ์เสียงดังลั่นจนน่าตกใจสือเหยาเงยหน้าขึ้นมองเซิ่นหรูซวงด้วยความลำบากใจแลดูน่าสงสาร“…งั้นฉันไปแล้วนะ?”เซิ่นหรูซวงยังคงไม่ตอบสือเหยาก้มหน้าลง กำหมัดแน่น เดินผ่านด้านข้างของเซิ่นหรูซวงไปอย่างเงียบเชียบ และเดินออกจากห้องทำงานของเธอโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูเซิ่นหรูซวงเงยหน้าขึ้นผลักแป้นพิมพ์ออกด้วยสี

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 447

    เซิ่นหรูซวงเกิดความหงุดหงิดขึ้นมาในใจลึก ๆไม่ใช่ความหงุดหงิดที่เกิดจากสือเหยา แต่เป็นความหงุดหงิดที่เกิดจากการที่จะต้องไปพบซิงจือเหยียนเธอทำหน้าเย็นชาอย่างไม่เคยทำมาก่อน แล้วหันหน้าไปพูด “ฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ และฉันก็บอกไปแล้วว่า ฉันไปเจรจาด้วยตัวเองได้”สือเหยาเห็นใบหน้าเย็นชาของเซิ่นหรูซวง ก็คิดไปอีกอย่างในใจของสือเหยาโกรธ กระวนกระวาย และรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมากเขากัดฟันถามเธออย่างห้ามไม่อยู่ “เธอรังเกียจที่ฉันยุ่งมากเกินไปใช่ไหม?”เซิ่นหรูซวงขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ ฉันแค่บอกว่าฉัน…”สือเหยาหัวเราะเยาะเย็นชาและพูดแทรกขึ้นมาทันที “เธอต้องการไปคนเดียวแน่นอน ถ้าหากให้ฉันไปด้วย ก็เท่ากับว่าไปขัดขวางเธอรื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่า ๆ กับซิงจือเหยียนใช่ไหมล่ะ?”เซิ่นหรูซวงเริ่มงงในตัวเองว่าเธอฟังผิดไปหรือเปล่า “นายพูดอะไรนะ?”สือเหยายกมือกำพนักเก้าอี้ของเซิ่นหรูซวงไว้แน่น แล้วดึงเก้าอี้เข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ทำให้เซิ่นหรูซวงหันหน้าเข้าหาเขา ส่วนเขาโน้มตัวลง โดยที่มือทั้งสองข้างวางอยู่บนที่พนักทั้งสองข้าง ราวกับเป็นการกักขัง เขามองลงมาด้วยแววตาที่ขุ่นเคืองคล้ายกับจะคร

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 446

    “มีปัญหาสิ มีปัญหาแน่นอน ทั้งที่ปล่อยให้ผู้ช่วยจัดการก็ได้ ทำไมต้องให้เธอไปเจรจาด้วยตัวเอง ไม่รู้มีแผนร้ายอะไร เซิ่นหรูซวง เธออย่าโดนเขาหลอกเชียวนะ”เมื่อเขาพูดจบ ก็เพิ่งนึกได้ว่าเซิ่นหรูซวงพูดอะไรไป“เธอพูดว่าอะไรนะ?”เซิ่นหรูซวงพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่ได้พูดอะไร นายพูดอยู่คนเดียวไม่ใช่หรือไง?”สือเหยาจับจ้องดวงตาของเธอ “ไม่ใช่สิ เธอพูดแล้ว เธอพูดว่าสมองของซิงจือเหยียนมีปัญหา”เซิ่นหรูซวงสารภาพตอบ “ใช่น่ะสิ ฉันพูดเอง ทำไมหรือ?”สือเหยาจ้องมองดวงตาของเธออย่างแน่วแน่ ด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา และไม่ได้พูดอะไรออกมาเซิ่นหรูซวงพูด “นายไม่ต้องมองหน้าฉันแล้ว ลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่มีความสำคัญสำหรับเกมใหม่ ฉันต้องได้มันมา ในเมื่อทางอวิ๋นเหยียนเรียกร้องให้ฉันไป ฉันก็ต้องทำตาม ถ้านายไม่ยินยอม งั้นก็ช่วยฉันแย่งลิขสิทธิ์เกมมาสิ”สือเหยาพูดซ้ำด้วยความประหลาดใจว่า “เธอพูดว่าสมองเขามีปัญหา”เซิ่นหรูซวง : ?สือเหยาเน้นเสียงหนัก “เธอพูดว่าสมองเขามีปัญหา”เซิ่นหรูซวง : …เซิ่นหรูซวง “ถ้านายจะพูดซ้ำอีก คนที่สมองมีปัญหาไม่ใช่เขา แต่เป็นนายแล้ว”สือเหยาเดินเข้าไปใกล้อีก คว้าข้อมือของเธอ

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 445

    ในขณะที่พูด ก็เหลือบหางตามองสีหน้าของสือเหยา และก็เห็นสีหน้าบูดบึ้งตามที่คาดไว้จางหลานเอ๋อร์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยโดยเห็นได้จากระหว่างคิ้วที่ขมวดอย่างงดงามนั้น “ประธานเซิ่นคะ ทางฝ่ายอวิ๋นเหยียนได้ตอบกลับเรื่องการขอซื้อลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่มาแล้วค่ะ”เซิ่นหรูซวงเคลื่อนสายตา “ว่ามาได้เลยค่ะ”จางหลานเอ๋อร์พูด “ทางประธานซิงจากอวิ๋นเหยียนเทคโนโลยีมีความประสงค์ว่า ต้องการให้คุณไปเจรจาด้วยตัวเองค่ะ”เซิ่นหรูซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ซิงจือ... ประธานซิงเป็นคนพูดออกมาเองหรือ?”จางหลานเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้พูดคุยกับประธานซิงโดยตรง คำพูดนี้มาจากผู้ช่วยเขาค่ะ แต่ก็สามารถถือเป็นความประสงค์ของประธานซิงโดยตรงค่ะ”ในห้องทำงานเงียบไปชั่วขณะ จางหลานเอ๋อร์พูดเสริมว่า “ความหมายของผู้ช่วยคือ ท่านประธานซิงจะมาทำธุระที่นี่ในวันมะรืน และจะมีเวลาว่างช่วงบ่ายของวันมะรืน คุณสามารถนัดหมายในช่วงเวลานี้ได้เลยค่ะ”เซิ่นหรูซวงพูด “สรุปว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะเต็มใจขายลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่ใช่ไหม?”จางหลานเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างลำบากใจ “ตั้งแต่ได้รับมอบหมายงานมา ฉันก็ติดต่อกับทางอวิ๋นเหยียนมาตล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status