แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: เกาะลอยน้ำ
"อย่าคิดหนีนะ"

เซิ่นหรูซวงกัดฟันด้วยความเกลียดชัง

ซิงจือเหยียนคงคิดว่าเธอเป็นเว่ยอวิ่นลู่จริง ๆ ถึงได้ทำเกินขอบเขตแบบนี้

เมื่อซิงจือเหยียนล้วงมือเข้ามาใต้เสื้อของเธอ เซิ่นหรูซวงรู้สึกต่อต้านไปทั้งตัว เธอใช้ข้อศอกกระแทกเข้าที่หน้าอกของเขาอย่างแรง

"อย่าแตะต้องฉัน!"

เซิ่นหรูซวงพูดลอดไรฟัน "น่ารังเกียจจริงๆ"

มือของซิงจือเหยียนหยุดชะงักไปชั่วขณะ เสียงแหบแห้งของเขาดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ

"เธอว่าอะไรนะ?"

เซิ่นหรูซวงกัดฟันกรอด "ซิงจือเหยียน คุณมันน่ารังเกียจ"

ซิงจือเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วใช้มือปิดปากของเธอทันที พลางคำรามด้วยความโกรธ

"หุบปาก!"

ทันใดนั้น ซิงจือเหยียนก็เลิกเสื้อของเธอขึ้น มือที่ร้อนผ่าวของเขาจับที่เอวของเธอ

เซิ่นหรูซวงซบหน้าผากของเธอเข้ากับประตูห้องน้ำด้วยความสิ้นหวัง

ข้างหลังคือซิงจือเหยียนที่ดุร้ายราวกับหมาป่า เธอไม่มีทางหนีรอดได้เลย

หรือว่าเรื่องราวน่าสลดใจในชาติก่อนจะต้องซ้ำรอยอีกครั้ง?

ราวกับสวรรค์กำลังช่วยเหลือเธอ ประตูห้องก็เปิดออกเองโดยอัตโนมัติ

ในวินาทีนั้น เซิ่นหรูซวงใช้แรงทั้งหมดผลักซิงจือเหยียนออกไป แล้วรีบวิ่งออกจากห้อง

หลังจากออกมา เซิ่นหรูซวงก็ปิดประตูลงอย่างแรง

เธอวิ่งไปสองสามก้าวด้วยความสับสน แล้วก็ชนเข้ากับเว่ยอวิ่นลู่และซิงฟานโหรว

เมื่อเว่ยอวิ่นลู่เห็นเธอ เสียงของเธอก็ดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว "คุณเซิ่น ทำไมมาอยู่ที่นี่คะ?"

สีหน้าของเซิ่นหรูซวงเย็นชาลง "ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?"

จู่ ๆ เว่ยอวิ่นลู่ก็จับมือของเธอแน่นขึ้น เล็บของเธอเกือบจะจิกเข้าไปในผิวหนังของเธอ เธอถามอย่างคาดคั้น

"คุณเซิ่น ทำไมปากของคุณถึงได้แดงขนาดนี้? คุณไม่ได้มีอะไรกับอาเหยียนใช่ไหม?"

น้ำเสียงของเซิ่นหรูซวงนิ่งสงบ สายตาเย็นชา "ไม่มีค่ะ คุณวางใจได้ ฉันจะไม่แตะต้องคุณซิงของคุณเด็ดขาด"

ซิงฟานโหรวหัวเราะเยาะ "ใครจะไปรู้ล่ะ? เธอมันคนหน้าไม่อายไม่ใช่เหรอ?"

เซิ่นหรูซวงไม่ได้สนใจคำพูดของซิงฟานโหรว เธอแค่จ้องมองเว่ยอวิ่นลู่แล้วพูดเสียงเบา ๆ ว่า

"ตอนนี้ซิงจือเหยียนกำลังลำบาก คุณไม่อยากเข้าไปอยู่กับเขาเหรอ?"

"ไม่แน่ว่า หลังจากคืนนี้พวกคุณอาจจะกลับมาคืนดีกันก็ได้"

ใบหน้าของเว่ยอวิ่นลู่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างช้า ๆ เธอรีบปล่อยมือของเซิ่นหรูซวงออกแล้ววิ่งไปที่ห้องของซิงจือเหยียนอย่างเร่งรีบ

เซิ่นหรูซวงยืนมองดูเว่ยอวิ่นลู่เดินเข้าไปในห้องนั้นอย่างเงียบ ๆ แล้วปิดประตูลง

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คืนนี้ซิงจือเหยียนจะได้ตัวเว่ยอวิ่นลู่ที่เขาอยากได้มาโดยตลอด

แบบนี้ก็ดี ทุกอย่างจะได้กลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็น

ความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงระหว่างเธอกับซิงจือเหยียนควรจะถูกตัดขาดเสียที

เธอกับซิงจือเหยียน จะต้องตัดขาดกันอย่างเด็ดขาด

เป้าหมายของเธอชัดเจน นั่นคือการทำให้คนที่ทำร้ายกั่วกั่วต้องชดใช้

จากนี้ไป ทุกคนที่ขัดขวางการแก้แค้นของเธอ ล้วนเป็นศัตรูของเธอ

แม้แต่ซิงจือเหยียน

แม้แต่ตระกูลซิง

เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป ซิงฟานโหรวก็คว้าข้อมือของเธอไว้

"เซิ่นหรูซวง เธอวางแผนทำอะไรของเธออยู่กันแน่?"

เซิ่นหรูซวงสะบัดมือของเธอออกอย่างไม่ไว้หน้า "ไม่เกี่ยวกับเธอ"

สีหน้าของซิงฟานโหรวดูไม่สู้ดี

เธอรู้สึกได้ว่าเซิ่นหรูซวงเปลี่ยนไป แตกต่างไปจากเดิมมาก

ไม่ยอมให้ใครควบคุมอีกต่อไป และไม่ใช่ลูกนกตัวน้อยที่ใครจะขยี้ก็ได้เหมือนแต่ก่อน

ในใจของซิงฟานโหรวรู้สึกตื่นตระหนกอย่างไร้สาเหตุ

เซิ่นหรูซวงกลับไปที่ห้องของตัวเอง ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำอยู่สักพัก เธอขัดผิวบริเวณที่ซิงจือเหยียนสัมผัสซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนผิวขาว ๆ ของเธอแดงก่ำจึงหยุด

ชาตินี้ ในที่สุดก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ชาติที่แล้ว เธอนั่งคุกเข่าอยู่ในสวนและมองเงาของคนสองคนบนหน้าต่างของซิงจือเหยียน แต่ตอนนี้เธอนอนอยู่ในผ้าห่มที่นุ่มสบายและรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว

หลังจากนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน เซิ่นหรูซวงก็สะพายกระเป๋านักเรียนเดินลงมาจากชั้นบน

บนโต๊ะอาหารเช้ามีเพียงคุณปู่ซิงและซิงฟานโหรว ส่วนซิงจือเหยียนและเว่ยอวิ่นลู่ไม่อยู่

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะผ่านคืนที่บ้าคลั่งมาและยังไม่ตื่น

เธอเดินเข้าไปอย่างปกติ นั่งลงข้าง ๆ คุณปู่ซิง

"คุณปู่คะ"

คุณปู่ซิงพยักหน้า มองเธอด้วยความรัก "วันนี้โรงเรียนเปิดแล้วใช่ไหม?"

เซิ่นหรูซวงพยักหน้า "ค่ะ"

คุณปู่ซิงพูดว่า "เธอกับฟานโหรวเรียนห้องเดียวกัน อีกไม่นานก็จะถึงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ต้องช่วยเหลือกันและสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ให้ได้"

ซิงฟานโหรวแอบกลอกตาเบา ๆ อย่างหงุดหงิด แต่ก็ไม่กล้าโต้แย้งอะไรต่อหน้าคุณปู่

จู่ ๆ คุณปู่ซิงก็พูดว่า "ถ้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ที่บ้านเรามีกำลังส่งพวกเธอไปเรียนต่อต่างประเทศได้"

เซิ่นหรูซวงพยักหน้ารับโดยไม่ขัดอะไร

แต่น่าเสียดายที่ชาติก่อน หลังจากที่คุณปู่ซิงรู้ว่าเธอตั้งท้องลูกของซิงจือเหยียนแล้ว เขาก็สั่งห้ามไม่ให้เธอไปเรียนต่อ

อย่าว่าแต่ไปเรียนเมืองนอกเลย แม้แต่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยปกติก็ยังทำไม่ได้

เธอกินอาหารเช้าอย่างช้า ๆ จู่ ๆ ก็มีเสียงเปิดประตูจากชั้นบน

ด้วยความอยากรู้เรื่องชาวบ้าน เซิ่นหรูซวงเงยหน้าขึ้นไปมองทันที

ที่หน้าประตูห้อง ซิงจือเหยียนประคองเว่ยอวิ่นลู่ออกมาจากห้องและลงบันไดมา

เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมอยู่ยังคงเป็นชุดเมื่อวาน ไม่ได้เปลี่ยนเลย

เว่ยอวิ่นลู่ดูอ่อนแรงถึงขนาดต้องให้เขาพยุงลงบันได และซิงจือเหยียนก็ประคองอย่างทะนุถนอม

เซิ่นหรูซวงเบือนสายตาไปทางอื่น และสบเข้ากับสายตาที่เยาะเย้ยและเหยียดหยามของซิงฟานโหรว

เธอเลิกคิ้วขึ้น แล้วยิ้มให้ซิงฟานโหรว

สีหน้าของซิงฟานโหรวหยุดชะงักไปทันที

ไม่นาน ซิงจือเหยียนก็ประคองเว่ยอวิ่นลู่มานั่งที่โต๊ะอาหาร ตรงข้ามกับเซิ่นหรูซวง

ซิงฟานโหรวถามอย่างอดใจไม่ไหว สายตามองไปมาระหว่างทั้งสองคนด้วยความหมายแฝง "พี่คะ พี่ลู่ลู่คะ เมื่อคืนพวกพี่ทำอะไรกันเหรอ?"

"พวกพี่คืนดีกันแล้วใช่ไหม? เมื่อคืนหนูไม่เห็นพวกพี่ออกมาเลย"

เหยียนเหวินอินซึ่งอยู่ในบ้านเช่นกัน พอเห็นทั้งสองคนเดินออกจากห้องพร้อมกัน สีหน้าก็ซีดเผือดเหมือนคนสิ้นหวัง

สีหน้าของเว่ยอวิ่นลู่ก็ค่อนข้างซีดเช่นกัน เมื่อได้ยินคำพูดของซิงฟานโหรว ใบหน้าของเธอก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจาง ๆ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง

"ไม่มีอะไร ฟานโหรวอย่าพูดส่งเดชไปสิ"

ซิงฟานโหรวยังไม่พอใจ อยากรู้มากกว่านี้ "พี่คะ บอกมาหน่อยสิคะ ว่าเมื่อคืนพวกพี่ทำอะไรกัน?"

ซิงจือเหยียนเหลือบมองเธออย่างเย็นชา น้ำเสียงของเขาแหบแห้งและเต็มไปด้วยอำนาจ "ถามอะไรไร้สาระ? กินข้าวไปเถอะ"

แม้ซิงจือเหยียนจะพูดแบบนั้น ใบหน้าของซิงฟานโหรวก็ยังคงมีรอยยิ้ม

"แบบนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ ไม่งั้นทำไมถึงไม่ยอมพูดล่ะ"

ใบหน้าของเว่ยอวิ่นลู่ยิ่งแดงก่ำขึ้นไปอีก แทบจะซบหน้าลงกับโต๊ะอยู่แล้ว

คุณปู่ซิงไม่เคยอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนหนุ่มสาว เมื่อถามไปแล้วเขาก็ไม่ถามต่อ

แต่เซิ่นหรูซวงที่กำลังกินข้าวอย่างเงียบ ๆ กลับไม่รู้ว่าไปทำให้ซิงจือเหยียนไม่พอใจตรงไหน

ซิงจือเหยียนวางตะเกียบลงและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า "เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่โรงเรียน"

ซิงฟานโหรวก็ยิ้มออกมาทันที "ดีเลยค่ะ ดีเลย"

"ไม่ได้พูดถึงเธอ ลุงหลิวจะไปส่งเธอ"

ตะเกียบในมือซิงฟานโหรวแทบจะหลุดจากมือ "แล้วพี่จะไปส่งใครที่โรงเรียน?"

เซิ่นหรูซวงจิบโจ๊กเล็กน้อย "ฉันปฏิเสธได้ไหมคะ?"

ซิงจือเหยียนตอบเสียงเย็น "เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"

ช่วยไม่ได้ บ้านตระกูลซิงอยู่บนภูเขา ห่างจากป้ายรถเมล์พอสมควร เซิ่นหรูซวงจึงต้องพึ่งคนขับรถของตระกูลซิงเพื่อไปโรงเรียน

เมื่อซิงจือเหยียนจะไปส่งเธอ เธอก็ไม่มีทางปฏิเสธได้อยู่ดี

เมื่อขึ้นไปนั่งในรถของซิงจือเหยียน เซิ่นหรูซวงก็รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว

เธอนั่งข้าง ๆ ซิงจือเหยียน กอดกระเป๋านักเรียนไว้กับตัวเพื่อป้องกันตัว

ซิงจือเหยียนสวมแว่นตากรอบทองและกำลังดูข้อมูลบริษัทในแท็บเล็ต แสงสีฟ้าจากหน้าจอส่องไปที่ใบหน้าของเขา ทำให้ใบหน้าด้านข้างของเขาดูชัดเจนและเฉียบคมยิ่งขึ้น

ซิงจือเหยียนดูข้อมูลอย่างเงียบ ๆ

ถ้าเป็นไปได้ เซิ่นหรูซวงหวังว่าเขาจะไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง

จู่ ๆ ซิงจือเหยียนก็ถอดแว่นกันแดดออก ปิดแท็บเล็ตลง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและเรียบเฉย

"เธอบอกว่าฉันน่าขยะแขยงเหรอ?"
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
สายพิณ พันธุ์เสงี่ยม
ชอบเซินหรูซวยมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 450

    เซิ่นหรูซวงค่อย ๆ พบว่าแก้วน้ำของเธอไม่เคยว่างเปล่าเลย อุณหภูมิของน้ำในแต่ละครั้งที่ดื่มก็พอดีเป๊ะ ดื่มแล้วรู้สึกชุ่มคอมากเซิ่นหรูซวงเบ้ปากเธอโกรธก็คือโกรธจริง ๆ และก็ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมวันนั้นสือเหยาถึงได้โกรธรุนแรงขนาดนั้น ราวกับว่าซิงจือเหยียนเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเขาอย่างไรก็ตาม ถึงแม้เธอจะโกรธมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะโกรธสือเหยาได้นานสือเหยาช่วยเธอไว้มากมายหลายเรื่อง เธอจดจำไว้ในใจเป็นอย่างดีเพียงชั่วพริบตา ก็ถึงเวลานัดพบกับซิงจือเหยียนแล้วตอนที่เซิ่นหรูซวงขึ้นรถ เธอได้เตือนสือเหยาอีกครั้งว่าอย่าตามมา ให้ติดตามเจียงเสี่ยวชุนอย่างว่านอนสอนง่ายสือเหยายืนพยักหน้าอย่างว่าง่ายอยู่ที่ข้างรถเซิ่นหรูซวงไม่ค่อยเชื่อว่าสือเหยาจะว่าง่ายขนาดนี้ เธอจึงดึงเจียงเสี่ยวชุนมาต่อหน้าเขา พร้อมกับกำชับว่าให้จับตาดูสือเหยาให้ดี อย่าให้เขาตามมาเจียงเสี่ยวชุนเข้าใจเรื่องราวในอดีตของเซิ่นหรูซวงกับซิงจือเหยียนเป็นอย่างดี และเข้าใจเหตุผลที่เซิ่นหรูซวงตัดสินใจทำแบบนั้น เธอจึงพยักหน้าโดยไม่ต้องคิดมาก “ได้ เธอไปจัดการธุระได้เลย ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันนะ”เซิ่นหรูซวงพยักหน้าแล้วให้คนขับขับรถออก

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 449

    รอยที่แก้มแดงก่ำกว่าเดิมหลายเท่าสือเหยาหอบหายใจอย่างหนัก ความรู้สึกที่เสียใจ จนใจ หงุดหงิด หึงหวง และอารมณ์วุ่นวายอื่น ๆ อีกมากมาย หลั่งไหลเข้ามา กระแทกที่หัวใจจนสับสนอลหม่าน ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกายเป็นฝ่ามือของเซิ่นหรูซวงที่เรียกสติของเขากลับคืนมาเขาได้แต่สำนึกผิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อรู้สึกตัวถึงท่าทีและสิ่งที่พูดออกไปใส่เซิ่นหรูซวงแล้ว ตอนนี้สือเหยาแทบอยากจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องทำงาน และยอมให้เซิ่นหรูซวงตบอีกสองสามครั้ง จนกว่าเธอจะหายโกรธเขาพูดคำพูดแบบนั้นกับเซิ่นหรูซวงได้อย่างไรเขาทำไปได้อย่างไร?เมื่อสติกลับคืนมา สือเหยาได้แต่เจ็บแค้นตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมตนเองต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักได้ ทั้งยังขาดความสุภาพ ขาดความยับยั้งชั่งใจ พูดไม่คิดจนทำร้ายจิตใจเซิ่นหรูซวง และทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับเซิ่นหรูซวงไกลออกไปจนเกินเอื้อมอีกแล้วเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นคนเลวทรามที่ไม่น่าให้อภัยสือเหยาคอตก ใช้มือทั้งสองข้างบีบขมับตัวเองแล้วถอนหายใจอย่างหนักเซิ่นหรูซวงคงจะโมโหมากแล้วแน่ ๆเขาไม่เคยเห็นเซิ่นหรูซวงเฉียบขาดและดุดันขนาดนี้ม

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 448

    สือเหยายืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ส่วนแขนก็ยังคงจับพยักเก้าอี้ไว้เหมือนเดิมเซิ่นหรูซวงโกรธจัด ยกเท้าขึ้นเตะเข้าที่หน้าท้องของสือเหยาอย่างแรงเธอไม่ได้ยั้งแรง สือเหยาจึงถูกแตะถอยหลังไปหลายก้าวจนชนเข้ากับหน้าต่างบานใหญ่อย่างทุลักทุเลเซิ่นหรูซวงเห็นสภาพของเขาแล้วรู้สึกหงุดหงิด ทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าเธอต่างหากที่ถูกโดนต่อว่าอย่างไร้เหตุผล แต่สือเหยากลับทำท่าทางที่ดูทุลักทุลเและเหมือนน้อยใจแบบนั้นเธอหมุนเก้าอี้อย่างหัวเสีย หันมองคอมพิวเตอร์ด้วยใบหน้าเย็นชา ไม่มองสือเหยาอีก ผ่านไปสักพัก สือเหยาพูดด้วยเสียงแหบพร่า “หรูซวง ขอโทษนะ ความผิดของฉัน…”เซิ่นหรูซวงเคาะแป้นพิมพ์ด้วยสีหน้าเย็นชา “รีบไปให้พ้น”สือเหยาพูดด้วยเสียงแหบพร่า “ฉันไม่ไป ฉันไม่ไปได้ไหม?”เซิ่นหรูซวงไม่ตอบคำถามเขา เคาะแป้นพิมพ์เสียงดังลั่นจนน่าตกใจสือเหยาเงยหน้าขึ้นมองเซิ่นหรูซวงด้วยความลำบากใจแลดูน่าสงสาร“…งั้นฉันไปแล้วนะ?”เซิ่นหรูซวงยังคงไม่ตอบสือเหยาก้มหน้าลง กำหมัดแน่น เดินผ่านด้านข้างของเซิ่นหรูซวงไปอย่างเงียบเชียบ และเดินออกจากห้องทำงานของเธอโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูเซิ่นหรูซวงเงยหน้าขึ้นผลักแป้นพิมพ์ออกด้วยสี

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 447

    เซิ่นหรูซวงเกิดความหงุดหงิดขึ้นมาในใจลึก ๆไม่ใช่ความหงุดหงิดที่เกิดจากสือเหยา แต่เป็นความหงุดหงิดที่เกิดจากการที่จะต้องไปพบซิงจือเหยียนเธอทำหน้าเย็นชาอย่างไม่เคยทำมาก่อน แล้วหันหน้าไปพูด “ฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ และฉันก็บอกไปแล้วว่า ฉันไปเจรจาด้วยตัวเองได้”สือเหยาเห็นใบหน้าเย็นชาของเซิ่นหรูซวง ก็คิดไปอีกอย่างในใจของสือเหยาโกรธ กระวนกระวาย และรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมากเขากัดฟันถามเธออย่างห้ามไม่อยู่ “เธอรังเกียจที่ฉันยุ่งมากเกินไปใช่ไหม?”เซิ่นหรูซวงขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ ฉันแค่บอกว่าฉัน…”สือเหยาหัวเราะเยาะเย็นชาและพูดแทรกขึ้นมาทันที “เธอต้องการไปคนเดียวแน่นอน ถ้าหากให้ฉันไปด้วย ก็เท่ากับว่าไปขัดขวางเธอรื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่า ๆ กับซิงจือเหยียนใช่ไหมล่ะ?”เซิ่นหรูซวงเริ่มงงในตัวเองว่าเธอฟังผิดไปหรือเปล่า “นายพูดอะไรนะ?”สือเหยายกมือกำพนักเก้าอี้ของเซิ่นหรูซวงไว้แน่น แล้วดึงเก้าอี้เข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ทำให้เซิ่นหรูซวงหันหน้าเข้าหาเขา ส่วนเขาโน้มตัวลง โดยที่มือทั้งสองข้างวางอยู่บนที่พนักทั้งสองข้าง ราวกับเป็นการกักขัง เขามองลงมาด้วยแววตาที่ขุ่นเคืองคล้ายกับจะคร

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 446

    “มีปัญหาสิ มีปัญหาแน่นอน ทั้งที่ปล่อยให้ผู้ช่วยจัดการก็ได้ ทำไมต้องให้เธอไปเจรจาด้วยตัวเอง ไม่รู้มีแผนร้ายอะไร เซิ่นหรูซวง เธออย่าโดนเขาหลอกเชียวนะ”เมื่อเขาพูดจบ ก็เพิ่งนึกได้ว่าเซิ่นหรูซวงพูดอะไรไป“เธอพูดว่าอะไรนะ?”เซิ่นหรูซวงพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่ได้พูดอะไร นายพูดอยู่คนเดียวไม่ใช่หรือไง?”สือเหยาจับจ้องดวงตาของเธอ “ไม่ใช่สิ เธอพูดแล้ว เธอพูดว่าสมองของซิงจือเหยียนมีปัญหา”เซิ่นหรูซวงสารภาพตอบ “ใช่น่ะสิ ฉันพูดเอง ทำไมหรือ?”สือเหยาจ้องมองดวงตาของเธออย่างแน่วแน่ ด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา และไม่ได้พูดอะไรออกมาเซิ่นหรูซวงพูด “นายไม่ต้องมองหน้าฉันแล้ว ลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่มีความสำคัญสำหรับเกมใหม่ ฉันต้องได้มันมา ในเมื่อทางอวิ๋นเหยียนเรียกร้องให้ฉันไป ฉันก็ต้องทำตาม ถ้านายไม่ยินยอม งั้นก็ช่วยฉันแย่งลิขสิทธิ์เกมมาสิ”สือเหยาพูดซ้ำด้วยความประหลาดใจว่า “เธอพูดว่าสมองเขามีปัญหา”เซิ่นหรูซวง : ?สือเหยาเน้นเสียงหนัก “เธอพูดว่าสมองเขามีปัญหา”เซิ่นหรูซวง : …เซิ่นหรูซวง “ถ้านายจะพูดซ้ำอีก คนที่สมองมีปัญหาไม่ใช่เขา แต่เป็นนายแล้ว”สือเหยาเดินเข้าไปใกล้อีก คว้าข้อมือของเธอ

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 445

    ในขณะที่พูด ก็เหลือบหางตามองสีหน้าของสือเหยา และก็เห็นสีหน้าบูดบึ้งตามที่คาดไว้จางหลานเอ๋อร์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยโดยเห็นได้จากระหว่างคิ้วที่ขมวดอย่างงดงามนั้น “ประธานเซิ่นคะ ทางฝ่ายอวิ๋นเหยียนได้ตอบกลับเรื่องการขอซื้อลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่มาแล้วค่ะ”เซิ่นหรูซวงเคลื่อนสายตา “ว่ามาได้เลยค่ะ”จางหลานเอ๋อร์พูด “ทางประธานซิงจากอวิ๋นเหยียนเทคโนโลยีมีความประสงค์ว่า ต้องการให้คุณไปเจรจาด้วยตัวเองค่ะ”เซิ่นหรูซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ซิงจือ... ประธานซิงเป็นคนพูดออกมาเองหรือ?”จางหลานเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้พูดคุยกับประธานซิงโดยตรง คำพูดนี้มาจากผู้ช่วยเขาค่ะ แต่ก็สามารถถือเป็นความประสงค์ของประธานซิงโดยตรงค่ะ”ในห้องทำงานเงียบไปชั่วขณะ จางหลานเอ๋อร์พูดเสริมว่า “ความหมายของผู้ช่วยคือ ท่านประธานซิงจะมาทำธุระที่นี่ในวันมะรืน และจะมีเวลาว่างช่วงบ่ายของวันมะรืน คุณสามารถนัดหมายในช่วงเวลานี้ได้เลยค่ะ”เซิ่นหรูซวงพูด “สรุปว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะเต็มใจขายลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่ใช่ไหม?”จางหลานเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างลำบากใจ “ตั้งแต่ได้รับมอบหมายงานมา ฉันก็ติดต่อกับทางอวิ๋นเหยียนมาตล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status