Share

บทที่ 1080

Auteur: โมเนโต้
ในขณะเดียวกัน ลิลลี่ก็กำลังโมโหจัดอยู่ในห้องของเธอ รู้สึกเหมือนหัวใจของเธอถูกอะไรบางอย่างกั้นไว้ “ฉันโกรธมาก! ไอ้เด็กเวรนั่นมีความสามารถในการต่อสู้สูงมากและเขายังรู้ทักษะยุทธระดับกลางขั้นสองอีกด้วย โอ้ นั่นยิ่งทำให้ฉันโมโหมาก!”

ลิลลี่เคยคิดจะสั่งให้ฮัดสันและคนอื่น ๆ ฆ่าเฟนด์ในระหว่างการประลอง โดยอาจให้พวกเขาบอกว่าพลั้งมือหรือควบคุมพลังของตัวเองไว้ไม่อยู่

แม้ว่าพวกเขาพลาดในการฆ่าเฟนด์ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะได้หยุดไม่ให้เฟนด์เป็นผู้ชนะและกลายเป็นผู้สืบทอดหัวหน้าตระกูล

ที่ทำให้ทุกคนงงมากกว่าคือหมอนั่นสามารถเอาชนะทุกคนในการประลองได้และได้รับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล แล้วเขายังได้รับสมบัติของตระกูลวู๊ดอย่างไข่มุกน้ำแข็งด้วย

“ใครจะไปรู้ว่าไอ้หมอนั่นจะมีทักษะยุทธแบบนั้น!” ผู้อาวุโสลำดับที่สามที่นั่งอยู่บนโต๊ะในห้องและยกเหล้าขาวดื่มอึกใหญ่ จากนั้นเขาก็คำรามออกมาว่า “ฉันคาดว่าระดับพลังยุทธของหมอนั่นน่าจะอยู่ในระดับกึ่งเทพขั้นสุดยอดสูงแล้ว รวมกับทักษะยุทธระดับกลางขั้นสอง มันจึงง่ายมากสำหรับเขาที่จะได้เป็นผู้ชนะการประลอง”

“ดูเหมือนว่าเทคนิคของเขาจะทรงพลังมากด้วย ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะชนะด้วยทักษะ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1081

    เอเลนพยักหน้ารับที่เฟนด์เตือน และพูดว่า “ใช่ คุณกินมากไม่ได้!”“โอ้ ที่รัก... เนื้อนี่มันหอมมาก แต่เรากินมากไม่ได้” เบ็นบ่นขณะกลืนน้ำลาย“ทุกคน นั่งกันเลย ไม่จำเป็นต้องมีพิธีการอะไร!” เฟนด์ยิ้มและพูดกับผู้เชี่ยวชาญแต่ละตระกูล “เราทุกคนคือสมาชิกของตระกูลวู๊ด และเช่นนั้น ทำให้เราทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ทุกคนต้องสนุกไปด้วยกัน ตกลงไหม?”“ใช่ ใช่! นายน้อยพูดถูก!” ทุกคนยิ้มและเริ่มต้นดื่มกันผ่านไปชั่วครู่ เฟนด์ก็หันไปหาแลนเซล็อตลูดว่า “อืม แลนเซล็อต ตระกูลสาขาเรียบร้อยดีไหม? บอกผมถ้ามันมีอะไรที่ต้องจัดการ ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับสถานการณ์ในตระกูลสาขามากเท่าไหร่”แลนเซล็อตเปิดปากขณะลังเลที่จะพูด เขาเหลือบมองผู้นำของตระกูลสาขาคนอื่น ๆ ตามสัญชาตญาณพวกเขาเหมือนอยากพูดแต่ก็กลัวที่จะพูดเฟนด์ผ่อนคลายพวกเขาทันทีที่เห็นท่าทางเช่นนั้น “ไม่ต้องกังวล พูดออกมาได้หมดเลย ผมจะไม่บอกใคร ฉะนั้นคุณไม่ต้องกังวลขนาดนั้น”แลนเซล็อตเงียบไปหลายวินาทีก่อนจะเริ่มเล่า “นายน้อย ผมจะพูดยังไงดี? ตระกูลสาขาสนับสนุนตระกูลหลักมาตลอด แม้แต่เนื้อสัตว์อสูรที่คุณกำลังกินก็มาจากสัตว์อสูรที่เราล่ามาในป่า เราสละชีวิตทุก ๆ เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1082

    “เราไม่รู้ว่านายท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่ แล้วเราก็ไม่กล้าถาม เรากลัวไประรานคนอื่นถ้าถามมากเกินไป” ชายชรา หนึ่งในผู้นำของตระกูลสาขาพูดอย่างขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวตระกูลหลักแต่ก็อยากได้ทรัพยากรเพิ่มในการต่อสู้สำหรับตระกูลสาขา“ใครเป็นคนคุมเรื่องนี้?” เฟนด์ถาม“ผู้อาวุโสลำดับแรกเป็นคนดูแล ตอนนั้นพวกเขาอยากได้แค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากนั้นเขาต้องไปทำเรื่องอื่น ผู้อาวุโสลำดับสามจึงมาดูแลแทน” แลนเซล็อตยิ้ม “ไม่นานหลังจากที่เขาได้รับมอบหมายให้มาจัดการกับทรัพยาการเสริมทักษะยุทธ เขาก็บอกเราว่าคนระดับสูงตัดสินใจเพิ่มเป็นหกสิบเปอร์เซ็นต์ หลังจากที่สรุปกันในที่ประชุมแล้ว”“เขาบอกว่าตระกูลหลักมีการพัฒนาที่ดี และเด็ก ๆ หลายคนก็ก้าวหน้ากัน เขาขอให้เรามีน้ำใจและเสียสละให้ตระกูลหลักอีกเล็กน้อย พวกเขายังพูดอีกด้วยว่าจะให้เราเก็บทรัพยากรไว้หลังจากนายท่านของตระกูลดีขึ้น”ชายชราผมขาวหยักหน้า “ใช่ และเราก็เข้าใจความยากลำบากในตระกูลที่นายท่านต้องเจอ สุดท้ายแล้ว มันก็ดีที่จะไปสนใจที่ทรัพยากรและให้กลุ่มคนน้อย ๆ ไปฝ่าฟันแทน และนั่นก็คือสาเหตุที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย อ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1083

    วันนี้ ผู้อาวุโสลำดับสามได้พูดอย่างเปิดเผยในฐานะของลิลลี่ และคู่กับข่าวลือที่ว่าพวกเขาสนิทกันขนาดไหน นี่ทำให้เขาแน่ใจว่าลิลลี่กับผู้อาวุโสลำดับสามทำงานร่วมกัน และมีส่วนในการรับผิดชอบเรื่องวางยาพิษพ่อเฟนด์ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด พวกเขาต้องทำงานร่วมกันเพื่อยักยอกทรัพยากรเสริมพลังยุทธอีกด้วยผู้นำของตระกูลสาขาสองสามคนตกใจเมื่อเห็นว่าเฟนด์นิ่งไปเช่นนั้นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลสาขาเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า "นายน้อยเฟนด์ อย่าเข้าใจเราผิดเลยนะ เราเล่าให้ฟังแบบไม่ได้โกรธแค้นอะไร เราแค่อยากระบาย เรารู้สึกว่าตระกูลสาขาขาดทรัพยากรเสริมพลังยุทธ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น!"นายท่านตระกูลสาขาอีกคนพูดว่า "มาดื่มกันเถอะ นายน้อยเฟนด์ เราไม่เคยสงสัยผู้อาวุโสลำดับสามหรือนายหญิงคนแรกเลย โดยเฉพาะนายหญิง เธอเป็นภรรยาของนายท่าน เพราะงั้นเรามั่นใจว่าเธอจะไม่ทำอะไรแบบนี้!"แลนเซล็อตก็กลัวเช่นกันว่าเฟนด์จะโกรธและคิดว่าทุกอย่างคือความคิดของตระกูลหลัก เขารีบยกแก้วไวน์ขึ้นอย่างรวดเร็ว "ใช่ นายน้อยเฟนด์ เราแค่มาพูดคุยกันและเราไม่กล้าคาดเดาอะไรกันทั้งนั้น นอกจากนี้ ตระกูลหลักก็พัฒนาไปได้อย่างดี เรายินดีที่ตระกูล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1084

    "ถ้าอย่างนั้น นายน้อยเฟนด์ครับ พวกเราขอบคุณมากสำหรับความใส่ใจที่จะช่วยดำเนินการให้ ที่จริง เราก็แค่อยากบ่นและแสดงออก ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านั้น!" ชายแก่อธิบายอย่างระวัง "เหตุผลหลักคือมันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว ที่จริง เราก็มีอัจฉริยะในตระกูลสาขา มีความสามารถทำประโยชน์ เราแต่ขาดทรัพยากร กล้าพูดเลยว่าวัสดุที่เรามีมันหายากมากและทำให้ระดับพลังยุทธของพวกเขาลดลง อนิจจา เราทำได้แค่มองอย่างกังวล"แลนเซล็อตก็พยักหน้าเช่นกัน "เช่นเดียวกับตระกูลสาขาของเรา อัจฉริยะพวกนั้นไม่มั่นใจและร้องเรียนตลอด แต่พวกเขาก็หาสมบัติที่ดีกว่าและหญ้าวิญญาณได้ถ้าระดับพลังยุทธพวกเขาเพิ่มขึ้น เราช่วยพวกเขาไม่ได้ ได้แค่ปลอบใจในตอนที่พวกเขาคลางแคลงใจ"ชายชราผมขาวพยักหน้า "ถูกต้อง ฉันสัญญากับหลานสาวก่อนจะมาที่นี่ไปว่าจะบอกสมาชิกในตระกูลหลักเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันไม่ได้คาดหวังเพราะไม่รู้จะคุยกับใครดี หรือจะเล่าให้ใครฟังดี มันน่ากลัวนะ!"เมื่อพูดเช่นนั้น ชายชราผมขาวก็หยุดและมองเฟนด์ก่อนพูดต่อ "ต้องขอบคุณนายน้อยเฟนด์ที่เชิญเรามา เราได้คุยกันแล้วและตัดสินใจว่าจะบอกความกังวลให้คุณฟัง"แลนเซล็อตยกแก้วไวน์ขึ้นและดื่มให้กับเฟนด์

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1085

    ผู้นำของตระกูลสาขามาที่ศาลาที่เงียบสงบหลังจากออกจากห้องนั่งเล่นของเฟนด์หนึ่งในนั้นพูดว่า "ทุกคน คิดว่าเราพึ่งพานายน้อยเฟนด์ได้ไหม? มันทำให้ฉันกังวลกับการที่ได้เห็นว่าเขาเพิ่งกลับมาหาตระกูลวู๊ด ฉันว่าคนยังไม่ยอมรับเขาสักเท่าไหร่นัก และลิลลี่ก็อาจจะต่อต้านด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ทุกคนคิดว่าเขาจะช่วยเราได้จริงเหรอ?"ชายชราอีกคนยิ้มตอบ "มันไม่สำคัญสำหรับฉันว่าจะช่วยได้หรือไม่ มันยากที่เขาจะพูดแบบในวันนี้ แต่เขาก็ยังเชิญเรามาทานอาหาร ฉันเก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจนานมามากแล้ว ฉันรู้สึกสบายใจหลังจากได้พูดออกไป""ฮ่า ๆ... ถูกต้อง! ฉันก็สบายใจเหมือนกัน!" แลนเซล็อตหัวเราะ จากนั้นก็พูดว่า "อย่างนี้เป็นไง พรุ่งนี้เราก็ค่อยออกจากตระกูลหลักอย่างช้า ๆ ในตอนเช้า พวกนายรอฉันได้ที่ด้านล่างของภูเขามังกร และรอดูว่าเขาจะว่ายังไง ยังไงซะเขาก็บอกให้ฉันไปพบเขาคนเดียวในตอนเช้าวันพรุ่งนี้"แชดขมวดคิ้วและถาม "มันก็ดึกแล้วนะ เขาจะยังไปถามพ่อเรื่องนี้หรือเปล่าน่ะ?""นั่นฉันก็ไม่รู้ แต่ฉันจะไปยังไงเขาก็พูดไว้อย่างนั้น ฉันแสดงออกมาไม่ได้หรอก!" แลนเซล็อตยิ้มอย่างขมขื่น "กลับไปนอนเร็ว ๆ กันเถ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1086

    โจแอนยิ้มอย่างขมขื่น "ทำไมฉันต้องเกลียดคุณล่ะ?" เธอพูด "ฉันเกลียดคุณตั้งแต่แรกเริ่ม ฉันเกลียดความอ่อนแอของคุณ และที่คุณดูแลเราไม่ได้!"เธอถอนหายใจและลุกขึ้นยืน "แต่ฉันไม่ได้เกลียดคุณแล้ว ฉันรู้ว่าคุณรักฉันจริง ๆ และรู้สึกถึงความจริงใจที่มี" เธอพูด "ฉันเข้าใจความไร้อำนาจของคุณ ยังไงซะคุณก็มาอยู่ในตำแหน่งนี้แล้ว พ่อคุณและครอบครัวคุณจะไม่มีวันยอมรับเราแม้ในตอนนั้นก็ตาม นอกจากนี้ ในฐานะนายท่านของตระกูล คุณต้องนึกถึงตระกูลวู๊ดเสมอ!""ขอบคุณมากโจแอน ขอบคุณที่เข้าใจและให้อภัยกัน!"ดวงตาของแนชเปลี่ยนเป็นสีแดง "หรือนี่อาจจะเป็นการลงโทษจากพระเจ้า ที่ทำให้ผมผู้ซึ่งเป็นนายท่านของตระกูลวู๊ดต้องมานอนตายบนเตียงแทนที่จะเป็นสนามรบ" เขาเสริม "ผมคิดวิธีที่ตัวเองจะตายได้มากมาย แต่ไม่คิดว่าจะตายเพราะโดนวางยา!"โจแอนมองแนชด้วยรอยยิ้ม "อย่ามองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น เฟนด์เชี่ยวชาญด้านการแพทย์มาก ฉันเชื่อว่าเขาจะมีวิธีหายาแก้พิษ ฉันว่าเขาจะหาทางให้อยู่ดี!""ผมว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น มันยากมากที่จะหายาพิษที่ส่งผลกับผู้ฝึกใช้พลังฉีได้ และผู้ฝึกพลังฉีอย่างผมโดนเช่นนี้ แสดงว่าพิษนั้นร้ายกาจมาก!"แนชยิ้มอย่างขมขื

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1087

    แนชยิ้ม "ก็ เราให้พวกเขาจ่ายมา 50 เปอร์เซ็นต์ตลอด แต่ไม่กี่ปีมานี้เราได้เพิ่มมา 10 เปอร์เซ็นต์เพื่อพัฒนาตระกูลหลัก พวกเขาจึงจ่าย 60 เปอร์เซ็นต์ ช่วยไม่ได้ที่สมาชิกของตระกูลสาขาต้องเสียสละเพื่อให้พวกเราบางคนเข็มแข็งขึ้นมา"แนชซาบซึ้ง "สมาชิกในตระกูลสาขาดีมาก ผู้อาวุโสลำดับสามพูดเอง พวกเขาเข้าใจเรา และให้ความร่วมมือมาเต็มที่ แถมยังให้หญ้ามีชีวิตมาให้เรา พ่อกำลังคิดที่จะคืนเป็น 50 เปอร์เซ็นต์หลังจากตระกูลหลักมั่นคงขึ้นแล้ว"เป็นไปอย่างที่เฟนด์คิดไว้ ผู้อาวุโสลำดับสามและลิลลี่โกหกทุกคนโดยใช้ทรัพยากรเสริมทักษะการต่อสู้ให้ตัวเอง"ถ้าอย่างนั้น พ่อก็ไม่เคยเพิ่มเปอร์เซ็นต์อีกเลยหลังจากเพิ่มไปแล้ว 60 ใช่ไหม? แม้แต่ครั้งเดียว?"เฟนด์ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ไม่เลย!"แนชไม่คิดเพิ่มเติมก่อนตอบว่า "60 เปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอแล้ว ตระกูลใหญ่อื่น ๆ ขอตระกูลสาขามาแค่ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น บางครั้ง คนจากตระกูลหลักก็ช่วยหาของมาด้วย แต่ที่นี่ เราอยากให้ทุกคนมีสมาธิฝึกซ้อมและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตระกูลสาขาจึงหาทรัพยากรมาให้เรา 60 เปอร์เซ็นต์!"หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้น แนชก็ตระหนักได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1088

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฟนด์รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ "ไม่ต้องห่วง ผมจะรักษาอาการพ่อเอง" เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม "ตอนนี้ผมสงสัยว่าเป็นลิลลี่ที่จัดการเรื่องยาพิษ เธอส่งนักฆ่ามาตามล่าตัวผมที่อาณาเขตกลาง ใครบอกว่าเธอจะไม่ทำอะไรแบบนี้!""อ่า เธอส่งคนไปลอบฆ่าลูก กับผู้พิทักษ์ที่เก้าคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสลำดับสามและคนอื่น ๆ ก็อยากฆ่าลูกตั้งแต่ประตูทางเข้า นอกจากนี้ยังร่วมมือกับผู้อาวุโสลำดับสามเพื่อนำทรัพยากรเสริมพลังยุทธมาใช้เองด้วยการเพิ่มมาหลักสิบ พวกเขาร่วมมือกันต่อหน้าเรา!"แนชถอนหายใจ "พ่อคงจะโง่มากถ้าไม่เชื่อเรื่องนี้หลังจากเกิดเรื่องทั้งหมด!" เขาพูดอย่างเหลืออด"แล้วตอนนี้เราควรทำยังไงกันดีครับพ่อ? ผมว่ามันยาก สุดท้ายผู้อาวุโสลำดับสามก็เป็นผู้ฝึกพลังฉีที่ทรงอำนาจ คนเดียวที่สู้กับเขาได้ตอนนี้คือผู้อาวุโวลำดับแรก! เพราะเหตุนี้เราเลยกำจัดพวกนี้ไม่ได้""และลิลลี่ก็ไม่ใช่พวกเซ่อซ่า ที่สำคัญ เธอเป็นลูกสาวคนแรกของตระกูลลาโกริโออีก เราจะทำลายความสัมพันธ์กับตระกูลนั้นเข้าถ้าเราไปฆ่าเธอ ตระกูลลาโกริโอเสื่อมถอยไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ หากเราต้องมีสงครามกัน ผู้อาวุโสบางคนจากตระกูลนั้นก็อาจจะเ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status