공유

บทที่ 5

작가: โมเนโต้
ชาวน่าพาเฟนด์ไปยังที่ประตูของบ้านหลังเล็กที่ดูเก่าทรุดโทรม

ที่ลานกว้างมีต้นไทรต้นใหญ่ เมื่อมองเข้าไปที่นั่นดูเงียบสงบ ยังไงซะสถานที่นั้นดูทรุดโทรมเกินไป

“เธอกำลังบอกฉันว่าแม่ของฉัน แม่ของเซเลน่าและสะใภ้อยู่กันที่นี่?”

เมื่อเห็นบ้านที่อยู่ตรงหน้าเฟนด์ก็รู้สึกสงสารพวกเขาขึ้นมาทันที

เซเลน่าเป็นลูกสาวของนายท่านเทย์เลอร์ เธอมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำที่หน้าตาดี น่าทึ่งและน่าภาคภูมิใจ มีคนมาติดพันเธอนับไม่ถ้วน

แค่เพียงการที่เธอตัดสินใจที่จะเก็บเด็กไว้ ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกมาจากบ้านเพื่ออยู่ในสถานที่แห่งนี้!”

ชาวน่า ยิ้มอย่างขมขื่น “มีลูกพี่ลูกน้องของเธอด้วย!” เขายังเด็กนัก เมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ตอนนี้เขาอายุ 19 ปีและอยู่ที่นี่ด้วยกัน”

“หลายคนเลยงั้นเหรอ!”

ตาของเฟนด์เปลี่ยนเป็นสีแดง “เซเลน่าคงต้องผ่านปัญหามาเยอะเหลือเกิน!”

อย่างไรก็ตามพวกเขาสังเกตเห็นรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดอยู่ที่ลานข้างในบ้าน

“ทำไมถึงมีรถเบนท์ลีย์อยู่ที่นี่”

เฟนด์นิ่วหน้าอย่างสงสัย

“ฉันก็ไม่ทราบค่ะ หลังจากนั้นฉันแทบจะไม่มาที่นี่เลย เฮ้อ มีหลายอย่างเกิดขึ้นตลอดห้าปี

คุณเซเลน่า เธอรอคุณอยู่ตลอดเวลา!”

“ยังไงซะ พ่อแม่ของเธอก็หมดความอดทนลงเมื่อไม่นานมานี้ แถมพวกเขายังมีอคติกับคุณอย่างมาก…พวกเขาอ้างว่าคุณขืนใจคุณเซลีน่าในคืนแต่งงาน โดยฉวยโอกาสจากความเมามายของเธอ…” ชาวน่าพูดอย่างระมัดระวังพร้อมกับขมวดคิ้ว

“เฮ้อ ฉันเป็นคนทำเรื่องทุกอย่างขึ้น ทำให้กระทบกับพวกเขา ฉันทำให้พ่อและแม่ของเธอ ต้องมาทนทุกข์ไปด้วย

เฟนด์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาอยากอยู่เคียงข้างผู้หญิงของเขาเช่นกัน แต่ก็ดูไร้ประโยชน์

ทันทีที่เขาเข้ามาเฟนด์ก็ทำหน้าบึ้งและยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้ชาวน่าเงียบเสียงเพราะเสียงโกรธที่มาจากภายในบ้าน

เขาได้ยินเสียงแม่ของเซเลน่า “นายน้อยคลาร์กไม่ต้องห่วง ไม่มีข่าวของคนนั้นๆ มาห้าปีแล้ว เขาหายไปนานแล้ว! ฉันกำลังจะวางแผนไปขอใบมรณะบัตร ถึงตอนนั้นคุณก็สามารถแต่งงานกับ

เซเลน่าลูกสาวเราได้!”

“ฮ่าๆ ขอบคุณมาก!”

นายน้อยคลาร์กหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “คุณป้าไม่ต้องรีบก็ได้ จริงๆแล้วใบมรณบัตรก็ไม่จำเป็น เพราะทะเบียนสมรสเป็นแค่เพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง ผมเคน คลาร์ก ไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องจัดพิธีแต่งงานที่ใหญ่โตและยิ่งใหญ่! สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เซเลน่า ต้องเห็นด้วยกับการแต่งงานของเรา”

"ตกลง! แน่นอนค่ะเธอต้องเห็นด้วย!”

แม่ของเซเลน่า ตบที่หน้าอกของเธอทันทีและพูดว่า “ไม่ต้องห่วงพ่อของเธอและฉันจะช่วยคุณเกลี้ยกล่อมเธอ!”

"จริงเหรอ? แต่เธอก็ค่อนข้างดื้อรั้นนะครับ!”

“ย้อนกลับไปถ้าไม่ใช่เพราะเธอยืนยันที่จะให้กำเนิดเด็กนอคอกคนนั้น พวกคุณจะไม่ถูกไล่ออกจากตระกูลเทย์เลอร์ เพื่อทนทุกข์อยู่กับเธอที่นี่!”

นายน้อยคลาร์ก พูดอย่างใจเย็น “เฮ้อ ห้าปีที่แล้ว เซลีน่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในอาณาเขตกลาง แล้วดูตอนนี้สิ ดูเธอกลายเป็นอะไรแล้ว?”

ถูกต้อง ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเด็กส่งของนั่นคนเดียว ข้อตกลงเดิมเป็นเพียงแค่การแต่งงานปลอมๆนั่น แต่สุดท้ายเขาก็ทำให้เซเลน่าของเราตั้งท้อง”

นางเทย์เลอร์กล่าวเสริมว่า “เซเลนา เธอช่างดื้อรั้นจริงๆ เธออ้างว่าเด็กคนนั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ เธอสาบานว่าจะดูแลเด็กคนนั้นอย่างดี!”

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับ คุณลุงและคุณป้าครับ ผมรักเซเลน่าอย่างสุดหัวใจ เมื่อเซเลน่ามาอยู่กับผมไม่ต้องห่วงนะชีวิตเธอจะไม่มีปัญหาอีกต่อไป!”

นายน้อยคลาร์ก หยิบข้อมือหยกออกมา “ผมได้ให้คนนำสร้อยข้อมือหยกนี้มาจากเซี่ยงไฮ้ มันมีค่ามากทีเดียว ผมขอมอบให้คุณป้าไว้เป็นของขวัญนะครับ!”

“โอ้…เราจะรับไว้ได้อย่างไรกัน?

ด้านนอกประตูเฟนด์เริ่มแสดงท่าทางน่ากลัว เขากำหมัดไว้แน่น

เขาพยายามอย่างเต็มที่ ระงับไฟที่โหมกระหน่ำเข้ามาในใจ หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เขาก็เคาะประตู

“ใครมาคะ”

เสียงของนางเทย์เลอร์ ฟังดูน่ารำคาญ ขณะที่กำลังเธอเปิดประตูรั้ว

“คุณเป็นใคร”

นางเทย์เลอร์ ฟิโอน่า ลูวิส จ้องมองไปที่เฟนด์อย่างสงสัยจากนั้นมองไปที่ไคลีและถามว่า “ทำไมนายถึงมาอุ้มไคลีของเรา?”

“คุณยายคะ...นี่คุณพ่อค่ะ!”

ไคลีมองไปที่เฟนด์แล้วพูดเบาๆว่า “ตอนนี้คุณพ่ออยู่ด้วยกันกับเราแล้ว จะไม่มีใครกล้ารังแกหนูกับแม่อีกแล้ว!”

ฟิโอน่า รู้สึกมึนงงในจุดนั้น จากนั้นก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “เยี่ยมที่สุด เฟนด์ ไอ้คนไร้ยางอายยังมีชีวิตรอดอยู่ ... นายเห็นความขมขื่นที่มีในตอนนี้ไหม? คุณต้องชดเชยที่พรากความบริสุทธิ์จากลูกสาวของฉันไป ครอบครัวของเราตกที่นั่งลำบากเพราะนาย!”

"ใคร? ใครกลับมา นั่นคือเฟนด์เหรอ? ไอสวะ!”

พ่อของ เซเลน่า วิ่งกระเผลกๆออกไปเพื่อคว้าตัวเฟนด์ไว้ “ฉันจะฆ่าแก แกมันเป็นคือไอ้สัตว์ร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะแกทำให้เซเลน่าลูกสาวเราต้องแปดเปื้อน เธอจะต้องมาหาเลี้ยงชีพจากการเก็บขยะไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะแก ขาของฉันก็คงไม่พิการ!”

เฟนด์ตกใจมาก เซเลน่าลงเอยด้วยการเก็บขยะได้อย่างไร? ขาของพ่อเธอกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ความผิดของเขา เซเลน่าเป็นผู้เริ่มในคืนนั้น แต่เขาก็เมาในเวลานั้นและไม่ได้ต่อต้านการยั่วยวนของเธอ

อย่างไรก็ตามยังคงเป็นเพราะเขาที่ทำให้พวกเขาลงเอยเช่นนี้

ไม่น่าแปลกใจที่แอนดรูว์ เทย์เลอร์ และฟิโอน่า เทย์เลอร์ จะเกลียดเขาถึงขนาดนี้

หัวใจของ เฟนด์ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด 'ถูกต้องแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นของเขา ทั้งครอบครัวก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน'

“ชาวน่าพาไคลีออกไปเล่นที่ลานสักพัก”

เฟนด์ส่งไคลีให้กับชาวน่า

“สารเลว! ที่ผ่านมาทำไมเพิ่งจะกลับมาตอนนี้ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่? มันจะดีกว่านี้ถ้าแกตายในสนามรบ!”

ฟิโอน่าน้ำตาคลอ “ฉันคิดว่าแกไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้เซเลน่าของเรามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแม้แต่วันเดียว ไอสารเลว!”

“ฉันจะสอนบทเรียนให้แก!”

แอนดรูว์ตบเฟนด์ทันที

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เฟนด์ ก็จับมือของเขาไว้แน่น “คุณพ่อ ผมขอโทษ เป็นเพราะผมที่ทำให้คุณต้องทนทุกข์ทรมาน ยังไงเซลีน่าก็ได้ให้กำเนิดไคลี แล้วผมเฟนด์ วู๊ด จะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง เธอรอผมมาโดยตลอด ผมจะทำให้เธอมีชีวิตที่สุขสบาย”

“หึ แกกล้าจับมือฉันเหรอ? ไปให้พ้นสายตาของฉัน!”

แอนดรูว์ รู้สึกโกรธ ตามความคาดหมายของทหารที่เกษียณแล้ว ความแข็งแกร่งของเฟนด์นั้นยอดเยี่ยมมาก เพราะทำให้เขาไม่สามารถขยับนิ้วได้

“หยุดอยู่ตรงนั้น!”

โดยไม่คาดคิด ในขณะนั้นนายน้อยคลาร์ก เดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “เด็กคนนี้กลับมาได้ทันเวลาพอดี และเนื่องจากเขายังไม่ตาย เราสามารถจัดการให้เขาหย่ากับเซเลน่าได้เลย ในส่วนของไคลีซึ่งเป็นลูกของเขา เขาเป็นพ่อ ดังนั้นเราก็สามารถยกไคลีให้เขาเป็นคนดูแล จากนี้ไปก็ให้ ไคลีไปอยู่กับเขา!”

เขาพูดเสริมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “ยังไงซะ ฉันไม่เต็มใจที่จะช่วยดูแลภาระของพวกเขา หากไม่มีพวกภาระเหล่านี้ในชีวิตของฉัน และเซเลน่า มันคงจะดีมาก!”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status