สีหน้าของลิลลี่หม่นลง เมื่อได้ยินสิ่งที่เบรนตันพูด เธอถือถ้วยน้ำชาอย่างสุดแรง และแล้วถ้วยน้ำชาก็ตกลงบนพื้น ก่อนจะกลายเป็นฝุ่นผง เธอยืนขึ้น ก่อนจะพูดออย่างฉุนเฉียวว่า “ยังมีคนอื่นในตระกูลวู๊ดอีกเหรอ? หนุ่มสาวคนอื่น ๆ ในตระกูลเป็นทายาทไม่ได้รึไง? ทุกคนเป็นนายท่านคนต่อไปได้ทั้งนั้นแหละ ยกเว้นเฟนด์ วู๊ด!” เธอมองไปที่เบรนตันหลังจากที่เธอพูดจบ “โอ้ ใช่ แล้วเฟนด์ได้กลับมากับพวกเขารึเปล่า? นายบอกว่าเรามีปัญหานี่ มันหมายความว่า เฟนด์กลับมากับพวกเขาแล้วใช่ไหม? ถ้าเป็นอย่างงั้น ฉันส่งคนไปตั้งมากมาย และไม่มีใครเป็นศัตรูของเบธกับพ่อบ้านนั่นสักคน เวรเอ๊ย ฉันฆ่าพวกเขาระหว่างทางไม่ได้ด้วย!” ตอนนั้นเอง เบรนตันก็ตอบเธอว่า “คนของผมบอกว่า เฟนด์ไม่อยากกลับมา เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้น พ่อบ้านกับเบธกลับมาเพียงลำพังครับ! ผมบอกให้คนของผมเริ่มทำงานแล้วหลังจากที่พวกเขากลับไป!” เบรนตันหยุด ก่อนจะพูดอีกครั้ง “อย่างไรก็ตาม ผมโทรหาพวกเขาตั้งแต่เมื่อวาน และพวกเขาก็ติดต่อไม่ได้ ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะตายไปหมดแล้ว และผมก็ไม่รู่ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่!” “นายจะบอกว่าคนของเราเริ่มทำงานหลังจากที่
"หยุดนะ!" ลิลลี่หนีจากอ้อมกอดของผู้อาวุโสที่สาม ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาเจ้าชู้ “ฉันต้องการให้คุณทำเรื่องสำคัญ คุณต้องเพิ่มคนอีก 200 คนเพื่อตามหาลูกชายของฉันแล้วพาเขากลับมาให้ได้! เข้าใจไหม?" ใบหน้าของผู้อาวุโสที่สามถมึงทึงเล็กน้อย เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ที่รัก คุณคิดว่าผมไม่อยากให้แลนซ์กลับมาเหรอ? เราส่งคนไปหลายต่อหลายร้อยคนไปตามหาเขา ป่าที่ไม่มีใครรู้จักนั้นลึกมาก ภูมิประเทศที่นั่นก็ซับซ้อนมาก คุณรู้ไหมว่าการตามหาคนที่นั่นมันยากขนาดไหน? นอกเหนือจากนั้นแล้ว ยังมีสัตว์ร้ายมากมายข้างในนั้น ถ้าพวกเราไม่ระวัง คนของเราอาจจะตายในนั้นก็ได้!” อย่างไรก็ตาม ลิลลี่ตอบกลับไปด้วยท่าทีที่เย็นชา “ฉันขอให้คุณหาคนแค่คนเดียว แต่เรากำลังหาคนตั้งมากมาย ใช่ แลนซ์ไปกับคนหลายคน ดังนั้นพวกเขาน่าจะต้องทิ้งร่องรอยอะไรไว้บ้างใช่ไหมล่ะ? ในเมื่อคุณบอกว่ามันทั้งใหญ่ และลึกมาก แสดงว่าเรายังส่งคนไปไม่มากพอ ถ้าส่งอีกไปอีก 200 คน อาจจะหาเจอก็ได้! นอกจากนี้แล้ว ยิ่งเราส่งคนไปมากเท่าไหร่ จำนวนคนที่ปลอดภัยก็มากขึ้นด้วย!” ผู้อาวุโสที่สามถอนหายใจ “ที่รัก คุณคิดว่ามีเพียงแค่เรา สมาชิกตระกูลวู๊ดที่กังว
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งขึ้นมากหลังจากกลับมาจากสนามรบ หรือไม่ก็มีคนช่วยเขา คนของเราได้ยินข่าวลือมาว่าเฟนด์สนิทกับเทพีสงครามจากอานาเขตกลางมาก ฉันสงสัยว่าเทพีสงครามอาจจะมีส่วนเอี่ยวในเรื่องนี้ หรือไม่ ตระกูลเทย์เลอร์ก็คงรวยมากพอ ที่จะจ้างบอดี้การ์ดดี ๆ สักสองสามคนเพื่อปกป้องพวกเขา!” ลิลลี่เดา หลังจากที่เธอคิครุ่นคิดเรื่องนี้ “แล้วตอนนี้ คุณจะเอาไงต่อ?” ผู้อาวุโสที่สามขมวดคิ้ว “จากที่ดู ๆ แล้ว เฟนด์กับโจแอนอยู่ไม่ได้หรอก!” “ฉันส่งผู้พิทักษ์ไปจัดการแล้ว คราวนี้ เขาจะต้องหานักสู้ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมาได้หลายคนแน่!” ลิลลี่ยิ้มเยาะ “ถึงลูกชายของฉันจะตาย ฉันไม่มีทางปล่อยให้เฟนด์ วู๊ดเป็นหัวหน้าตระกูลวู๊ดแน่ ไม่มีวัน!" “อืมมม มันก็น่าจะไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อคุณสั่งคนไปจัดการแล้ว” ผู้อาวุโสสามยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเอาแขนโอบลิลลี่ในไม่ช้า “เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้นานแล้วนะ ที่รัก คืนนี้เรามามีความสุขกันดีกว่า อย่าห่วงไปเลย พรุ่งนี้ผมจะส่งคนอีก 200 คน ไปช่วยตามหาแลนซ์!” “ค่อยน่าฟังหน่อย!” ลิลลี่กรอกตาใส่เขา ขณะที่เขากำลังอุ้มเธอไปที่เตียง “พวกเขาออกไปแ
“ฮะ! นายน้อยของนายนี่รสนิยมดีจังเลยนะ ดูเขาสนใจหลายอย่างจริง ๆ แต่น่าสงสาร ที่เขาไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น!” เฟนด์อ้าปากหวอเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เขาจ้องไปที่คนพวกนั้นอย่างดูถูก “จัดการมันก่อน!” บอดี้การ์ดไม่เสียเวลาพูดอีกต่อไป เขากางแขนออก ก่อนจะใช้มือของเขาจับเฟนด์ไว้ "อ๊า!" วินาทีต่อมา เฟนด์ก็จับแขนของบอดี้การ์ดคนนั้น และเสียงกระดูกหักอันน่าสะอิดสะเอียนก็ดังขึ้น บอดี้การ์ดจากตระกูลควินตันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทันที เขาเจ็บปวดมาก หน้าของเขาซีดเผือด ก่อนที่เขาจะคุกเข่าลงกับพื้น “แกอยากตายรึไง?” บอดี้การ์ดอีกสองคนอึ้งกิมกี่ไปครู่นึง เมื่อเห็นว่าเฟนด์แข็งแกร่งขนาดไหน พวกเขาตั้งสติได้เร็วมาก ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกัน เพื่อจู่โจมเฟนด์จากสองฝั่ง ปัง ปัง! เฟนด์ต่อยออกไปสองหมัดติด ๆ กัน อย่างรวดเร็ว ชายทั้งสองคนกระเด็นไปข้างหลังภายในเสี้ยววินาทีเท่านั้น "ไม่มีทาง!" บอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจกับภาพที่เห็น พวกเขาพุ่งเข้าไปจู่โจมเฟนด์ทันที ปัง ปัง ปัง! บอดี้การ์ดพวกนี้มีทักษะการต่อสู้ที่ค่อนข้างดีเลย ไม่ง่ายเลยที่จะหาบอดี้การ์ดที่มีความสามารถแบบนี้ในอาณาเขตกลาง และพว
“ใช่ครับนายน้อย! ทำไมเหรอครับ?" บอดี้การ์ดรู้สึกสับสน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมนายน้อยถึงจู่ ๆ ก็ถามออกมาแบบนั้น คาเลบแสยะยิ้ม “ไปทางไหนล่ะ? ถ้าพวกเขาไปเดินเล่น ก็ไม่น่าจะไปไหนไกลนะ พวกเขาไม่ควรเดินไปไกลขนาดนั้น ในเมื่อมันยากมากที่จะได้ผู้หญิงคนนั้นมา ดูเหมือนว่าเราต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งปันสินะ!” "แบ่งปันงั้นเหรอครับ?" บอดี้การ์ดที่อยู่ตรงหน้าของเขามองหน้ากัน ทุกคนล้วนสับสน “ไม่ต้องคิดเยอะ บอกฉันมาว่ามันไปทางไหนก็พอ!” คาเลบพูดขึ้นมาอีกครั้ง “พวกเขากำลังเดินไปที่ถนนคอร์นฟลาวเวอร์ ใช่แล้ว ที่นั่นมีถนนดัง ๆ มากมาย ที่ดึงดูดเหล่าคนรวยได้เพียบ มีย่านหรูมากมายแถว ๆ นั้น แถมยังมีคฤหาสน์อีกหลายหลังอีกด้วย!” บอดี้การ์ดคนนั้นตอบกลับไป หลังจากที่เขาครุ่นคิด “ผมว่า มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะไปเดินเล่นที่วอลซ์สตรีท!” "ก็ได้ เข้าใจแล้ว ไปซะ ไปพักผ่อน แล้วดูแลเจคด้วยล่ะ ถอนเงินในบัญชีให้เขาไปสักหนึ่งล้านเหรียญ แล้วแบ่งให้คนที่บาดเจ็บซะ พักผ่อนกันดี ๆ ล่ะ!” คาเลบเอ่ยคำสั่ง ก่อนจะเลือกบอดี้การ์ดสามสี่คน แล้วขับรถออกไป “นายน้อยคาเลบ เราจะไปไหนกันเหรอครับ?” บนรถ บอดี้การ์ดคนหนึ่งถามข
เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มที่เคยอยู่บนหน้าของพีซก็หายไปทันที เขาดูโกรธแทน พีซเคยพบผู้หญิงสวย ๆ มากมายมาก่อน เขาคิดว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามอย่างแท้จริง และไม่มีคนธรรมดาคนไหน ที่จะเข้าตาเขาได้ นางแบบสองคนที่เขาเจอวันนี้ค่อนข้างสวยเลย เขาไม่เคยคิดเลยว่าคาเลบจะพูดออกมาได้ ว่าพวกหล่อนเทียบไม่ได้กับสาวสวยที่เขาเจอ ก่อนที่พีซจะพูดอะไร นางแบบทั้งสองก็ดูไม่มีความสุขเช่นกัน “นายน้อยควินตัน คุณต้องล้อกันเล่นแน่ ๆ ใช่ไหม?” หนึ่งในนางแบบพูดออกมาด้วยท่าทีเย็นชา “เราเป็นนางแบบชั้นนำของงานโชว์รถมากมาย แต่คุณกลับพูดมาได้ว่าเราเทียบอะไรไม่ได้กับผู้หญิงคนอื่นน่ะนะ? คุณพูดเกินจริงไปหน่อยรึเปล่า!” “เหอะ คุณสองคนก็ดูดีนะ แต่คุณขาดคุณสมบัติของผู้หญิงยังไงล่ะ ประกายความอ่อนโยน และความใจดี ตบท้ายด้วยความงามที่ไร้ที่ติ แบบที่ดึงดูดคุณทันทีที่คุณเห็น ยิ่งดูยิ่งน่าหลงไหล!” คาเลบรักษารอยยิ้มของเขาไว้ “ถ้าฉันคาเลบ ควินตัน โกหกแม้แต่คำเดียวนะ” เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา “ขอให้พระเจ้าลงโทษฉัน!” “มีผู้หญิงแบบนั้นจริง ๆ ด้วยเหรอ?” ดวงตาของพีซเป็นประกาย เมื่อคาเลบสาบาน เขารีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะถามด้ว
สาวสวยสองคนก้มลงไปเก็บเงินทันที "ไปกันเถอะ นายน้อยควินตัน ฉันอยากเห็นจะแย่แล้ว ว่าผู้หญิงที่นายพูดสวยอย่างที่ว่ารึเปล่า!” พีซลูบคางทิพย์ของเขา ก่อนจะออกไปข้างนอก คาเลบสังเกตเห็นบอดี้การ์ดที่มากับพีซ เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะถามว่า “นายน้อยแชฟฟ์แมน บอดี้การ์ดของคุณแข็งแกร่งรึเปล่า? มีน้อยไปไหมเนี่ย? ผมจะบอกอะไรคุณให้นะ คุณจะต้องหาทางอื่นเพื่อให้ได้เธอมาแน่ ๆ หลังจากที่คุณเห็นเธอน่ะ!” “ฮ่ะ! ไม่ต้องห่วง บอดี้การ์ดของฉันแข็งแกร่งใช้ได้เลยล่ะ ไม่งั้นจะจ้างมาทำไม” พีซหัวเราะออกมา เขาพูดเสริมอีกว่า “ไม่ต้องพูดอีกแล้วล่ะ นายน้อยควินตัน ยิ่งพูดฉันยิ่งคิดมาก ฉันล่ะอยากจะเห็นเธอจริง ๆ ถ้าเธอสวยอย่างที่ว่า หวยก็มาออกที่เธอแล้วล่ะ!” คาเลบหัวเราะคิกคัก “ดูคุณสิ ผมรู้ว่าคุณชอบคนสวย ๆ แถมยังมีรสนิยมที่ดีอีก ผมแค่อยากจะแนะนำเธอให้คุณรู้จักน่ะ!” “บอกมาเถอะ นายอยากได้อะไร? เงินเหรอ? หนึ่งล้านเหรียญดูจะน้อยเกินไป ถ้าเธอสวยอย่างที่นายว่า ฉันจะให้นายพันล้านเหรียญ ฟังดูเป็นไง?" พีซอมยิ้มขณะที่เขาพูด หลังจากที่ครุ่นคิด เขารู้ดีว่าคาเลบต้องการอะไรตอบแทนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งแน่นอน จู่ ๆ ก็แนะนำสาวสวย
“ผมไม่ได้โม้นะ ไม่ได้โม้จริง ๆ !" คาเลบตกใจมาก เขาโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “นายน้อยแชฟฟ์แมน คิดดูนะ ผมไม่สนเงินพันล้านเหรียญของคุณด้วยซ้ำ ผมแค่อยากจะได้ผู้หญิงคนนั้น นั่นมันก็หมายความว่าเธอต้องสวยอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?” “ฮ่ะ ล้อเล่นน่า แค่อยากเห็นนายกังวลเฉย ๆ !” พีซระเบิดหัวเราะออกมาทันที แล้วเขาก็โบกมือ “ขึ้นมาสิ เราจะไปดูรอบ ๆ วอลซ์สตรีท แล้วดูว่าเธออยู่นั่นรึเปล่า ถ้าไม่ เราก็จะไปจับตัวเธอที่บ้านเลย!” “คุณนี่เด็ดเดี่ยวจริง ๆ นายน้อยแชฟฟ์แมน ไม่เสียเวลาแม้แต่วิเดียว!” คาเลบชมพีซทันที ไม่นานหลังจากนั้น ออดี้สามคัน ก็ตรงเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าทางเข้าของคฤหาสน์ "โอ้ ใช่ ฉันคิดจริง ๆ ว่าหล่อนน่าจะเป็นเด็กเสี่ย ทำไมเราไม่ลองใช้เงินแก้ปัญหากันก่อนล่ะ!” ในรถ พีซกำลังสูบซิการ์ เขาครุ่นคิด ก่อนจะพูดออกมา “น่าจะยาก เมื่อวันก่อนผมบอกว่าจะเลี้ยงอาหารพวกเธอ อยากกินอะไรก็ได้ แต่ต้องทิ้งเบอร์ไว้ แต่พวกเธอปฏิเสธ!” คาเลบตอบหลังจากครุ่นคิด น่าแปลก ที่ท่าทีของพีซไม่ได้แสดงอาการเหยียดหยามใด ๆ ทั้งนั้น “นายไร้เดียงสาเกินไป นายเลี้ยงอาหารไปเท่าไหร่ได้ล่ะ ล้านเหรียญ? สองล้านเหรียญ? และคิดว